Last updated มิถุนายน 8, 2022 ago by Thebestedu

เรียนต่อออสเตรเลีย เลือกเรียนเมืองไหนดี


ประเทศออสเตรเลีย เป็นประเทศแห่งโอกาสทางการศึกษามากมาย มหาวิทยาลัยหลายแห่งในออสเตรเลียผลิตงานวิจัยระดับนานาชาติ นอกจากนี้ หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพก็เป็นที่นิยมมากที่สุดในโลก และครอบคลุมทุกหลักสูตร และประกาศนียบัตรจากออสเตรเลียก็มีคุณภาพสูง มีมาตรฐาน และสามารถนำไปใช้สมัครงานได้ทั่วโลก จึงเป็นเหตุที่ทำให้ออสเตรเลียดึงดูดนักศึกษาต่างชาติได้เกือบ 300,000 คนในแต่ละปี

แผนที่แสดงที่ตั้งของมหาวิทยาลัยในออสเตรเลีย


10 เมืองในออสเตรเลีย ที่มีขนาดใหญ่และเป็นที่นิยมสำหรับนักศึกษาต่างชาติ สำหรับการเรียนต่อออสเตรเลีย

สำหรับผู้ที่วางแผนเรียนต่อออสเตรเลีย ก็อาจจะมีหลักสูตร สถานบันการศึกษาที่สนใจ หรือจุดหมายปลายทางอยู่แล้ว แต่สำหรับใครที่กำลังลังเล หรือยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกเรียนเมืองไหนดี เนื่องจากทุกเมืองในออสเตรเลียมีความคล้ายคลึงกันอย่างมาก แต่ก็มีความแตกต่างที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวในแต่ละเมือง ดังนั้น ศูนย์ฯ เดอะเบสท์ จึงได้เขียนบทความนี้ เพื่อประกอบการตัดสินใจตามไลฟ์สไตล์และความชอบส่วนตัว ดังนี้

หากมีเมืองที่วางแผนอยู่แล้ว แต่ยังไม่มีข้อมูลเรื่องสถาบันที่เปิดสอนในเมืองนั้น สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากทางศูนย์ฯ เดอะเบสท์ได้เลย“เรายินดีที่จะดูแลนักเรียนทุกคน ตั้งแต่เริ่มต้นจนนักเรียนสำเร็จการศึกษา และทำให้การเรียนต่อของคุณเป็นเรื่อง่าย ”
สอบถามข้อมูลการบริการเพิ่มเติมติดต่อ
โทร: 090-327 3558088-269 5099
Email: contact@thebest-edu.com
Line: @thebestedu หรือคลิกเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ

เพิ่มเพื่อน

1. Sydney ซิดนีย์

ซิดนีย์ Sydney (จำนวนประชากร 5.31 ล้านคน) เป็นเมืองที่ได้รับความนิยมในการเรียนต่ออันดับ 1 และ เป็นเมืองเศรษฐกิจอันดับ 1 ของประเทศออสเตรเลีย เป็นเมืองหลวงของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย มีประชากรมากว่า 5.31 ล้านคน เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในออสเตรเลีย และเป็นจุดหมายปลายทางแรกสำหรับนักเรียนต่างชาติ และนักท่องเที่ยว เมืองนี้ มีทุกอย่างที่ต้องการ ทั้งความบันเทิง ความสงบ ความปลอดภัย งานพาร์ทไทม์ และอัตราการจ้างงานหลังเรียนจบที่สูง

ซิดนีย์มีระบบเศรษฐกิจตลาดขั้นสูงที่มีความแข็งแกร่งในด้านการเงิน การผลิต การท่องเที่ยว มีการรวมกลุ่มของธนาคารต่างประเทศ และบริษัท ข้ามชาติจำนวนมาก จึงได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นเมืองหลวงทางเศรษฐกิจ และการเงินของออสเตรเลีย รวมถึงเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางการเงินชั้นนำของเอเชียแปซิฟิก

ซิดนีย์ติด Top 10 เมืองที่เหมาะสำหรับการศึกษามากที่สุดในโลก มหาวิทยาลัย 5 แห่ง ในเมืองซิดนีย์ ติดอันดับ Top 200 ของมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลก จุดเด่นที่ทำให้คนทั่วโลกเลือกเรียนต่อซิดนีย์คือ ความหลากหลายทางวัฒนธรรม ซิดนีย์ เปรียบเสมือนเมืองนานาชาติ ที่คนทั่วโลกได้เข้ามาพักอาศัย คุณจะได้พบกับ ศิลปะ วัฒนธรรม 

จากรายงานการจัดอันดับเมืองน่าอยู่ของ Economist Intelligence Unit (EIU) ที่สำรวจและเก็บข้อมูลด้านความมั่นคง วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม การเข้าถึงระบบสาธารณสุข ระบบโครงสร้างขั้นพื้นฐาน รวมถึงด้านการศึกษาใน 140 เมืองทุกทวีปทั่วโลก พบว่า เมืองซิดนีย์เป็นเมืองที่น่าอยู่เป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากเมลเบิร์น และกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย (อ้างอิง: อันดับเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลกประจำปี 2019)

ทำไมควรเลือกเรียนต่อเมืองซิดนีย์

  • ปัจจุบัน มีสายการบินหลายสาย ที่สามารถเดินทางมายังเมืองซิดนีย์ได้อย่างสะดวกสบาย มีทั้งบินตรง และต่อเครื่อง
  • ซิดนีย์เป็นเมืองที่น่าอยู่เป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากเมลเบิร์น และกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย (อ้างอิง:อันดับเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลกประจำปี 2019)
  • มีมหาวิทยาลัยรัฐบาลทั้งหมด 5 แห่ง ซึ่งทุกแห่งอยู่ในอันดับ TOP 50 มหาวิทยาลัยโลก จากการจัดอันดับ QS World University Ranking นอกจากนี้ หลักสูตรวิชาชีพก็มีมาตรฐาน และครอบคลุมทุกหลักสูตรที่สนใจ
  • TAFE New South Wales เป็นสถาบันวิชาชีพรัฐบาลออสเตรเลีย ที่ใหญ่ที่สุดในซิดนีย์ เปิดสอนหลักสูตรวิชาชีพที่หลากหลายกว่า 1,200 หลักสูตร ทั้งหลักสูตรระยะสั้น หลักสูตรระยะยาว ประกาศนียบัตรวิชาชีพ Certificate และ Diploma มีหลักสูตรปริญญาด้วย ซึ่งทุกหลักสูตร ได้รับการยอมรับ และเป็นที่ต้องการของอุตสาหกรรม
  • ซิดนีย์ ออสเตรเลีย ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ และการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย และเอเชียแปซิฟิก จุดยุทธศาสตร์การลงทุนที่ดีที่สุดในออสเตรเลีย
  • ที่พักในเมืองซิดนีย์ ทุกพื้นที่ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ระบบขนส่งสาธารณะเข้าถึง และแต่ละพื้นที่ มีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน
  • ซิดนีย์ เป็นหนึ่งในสิบห้าเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุดในโลก หลายคนรู้จักเมืองซิดนีย์เพราะโรงอุปรากร Sydney Opera House  ซึ่งเป็นที่รู้จักทั่วโลก นอกจากนี้ ยังลายล้อมด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ได้แก่ อ่าวซิดนีย์, อุทยานแห่งชาติรอยัล, สวนพฤกษศาสตร์หลวงและสวนสาธารณะไฮด์ปาร์คที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศ

ประมาณค่าใช้จ่าย เฉลี่ยต่อเดือน สำหรับการอยู่อาศัยในเมืองซิดนีย์

รายการ

ประมาณการค่าใช้จ่ายต่อสัปดาห์ ประมาณการค่าใช้จ่ายต่อเดือน

ค่าที่พัก

283 AUD

1,132 AUD

ค่าโดยสารสาธารณะ

48 AUD

192 AUD

ค่าอาหาร

182 AUD

728 AUD

ค่าอำนวยความสะดวกอื่นๆ

18 AUD

70 AUD

รวมค่าใช้จ่าย

531 AUD
(ประมาณ 12,210 บาท)

2,124 AUD
(ประมาณ 48,850 บาท)

คลิก เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “เมืองซิดนีย์”


2. Melbourne เมลเบิร์น

เมลเบิร์น Melbourne (จำนวนประชากร: 5.07 ล้านคน) เป็นเมืองที่ได้รับเลือกให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก 7 ปีซ้อน (จากการจัดอันดับของ The Economist Intelligence Unit ตั้งแต่ปี 2011 – 2017 และในปี 2018 – 2019 อยู่ในอันดับ 2 รองจากกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย) เป็นเมืองหลวงของรัฐวิกตอเรีย และเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศออสเตรเลีย รองจากซิดนีย์ ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ 

เมลเบิร์นเป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม เรียกได้ว่า เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมของออสเตรเลีย ในอดีต เมืองเมลเบิร์นเคยเป็นเมืองหลวงของออสเตรเลีย ประชากรเป็นมิตร ให้การต้อนรับชาวต่างชาติอย่างดี นอกจากนี้ เมืองเมลเบิร์น ยังเป็นแหล่งรวมแฟชั่นชั้นนำจากทั่วโลกอีกด้วย

ทำไมควรเลือกเรียนต่อเมลเบิร์น

  • เมลเบิร์นเป็นหนึ่งในเมืองที่มีระบบการดูแลสุขภาพที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก มีทั้งระบบของรัฐและเอกชนที่มีคุณภาพสูง ได้รับการสนับสนุนโดยสถาบันวิจัยและพัฒนาระดับโลก
  • เมลเบิร์นมีสถาบันการศึกษาคุณภาพสูงให้เลือกหลากหลาย ที่เชื่อมโยงกับอุตสาหกรรม ตัวอย่างสำคัญคือมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น The University of Melbourne ซึ่งได้รับการยอมรับทั่วโลกว่าเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำอันดับหนึ่ง ของออสเตรเลียและเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยชั้นนำแนวหน้าของโลก
  • เมลเบิร์นมีระบบขนส่งสาธารณะที่ล้ำสมัยที่สุดในออสเตรเลีย ทั้งรถไฟ รงราง ที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ และใช้งานง่าย เอื้อต่อคุณภาพชีวิตของผู้คน 
  • ความปลอดภัยสูง อัตราการเกิดอาชญากรรมต่ำมาก ทุกพื้นที่ในเมลเบิร์นและรัฐวิคตอเรีย มีความปลอดภัยสูงติดอันดับโลก 
  • มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น University of Melbourne เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของออสเตรเลีย อยู่ในอันดับ 3 ในเอเชียแปซิฟิก และอยู่อันดับที่ 38 ของโลก (จากการจัดอันดับของ QS Global World Ranking 2020) 
  • เมลเบิร์น เป็นหนึ่งในศูนย์การศึกษาและการวิจัยชั้นนำระดับโลก ให้การศึกษา การวิจัย และการฝึกอบรมที่หลากหลาย รวมถึงสร้างพื้นฐานการวิจัยที่ล้ำสมัย ด้วยระบบเทคโนโลยี และนวัตกรรมชั้นสูง จึงทำให้ผลงานวิจัยอยู่ในอันดับที่สูงกว่ามาตรฐานโลกในหลายๆ ด้าน 
  • เมลเบิร์นเป็นศูนย์กลางการวิจัยและพัฒนาระดับโลก สำหรับการทดลองทางเทคโนโลยีชีวภาพ และการวิจัยทางการแพทย์ เป็นหนึ่งในกลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพชั้นนำของโลก ที่ผลิตงานวิจัยชั้นนำระดับโลก
  • เมลเบิร์น รวมถึงเมืองในรัฐวิคตอเรีย ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในเมืองที่มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมากที่สุดในออสเตรเลีย มีกลุ่มวิจัยและพัฒนาด้าน ICT ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของซีกโลกใต้ ผลิตงานวิจัยชั้นนำระดับโลก และเป็นเมืองหลวงของเทคโนโลยี มีบริษัท ICT กว่า 8,000 บริษัท ตั้งอยู่ในเมืองเมลเบิร์นและรัฐวิคตอเรีย
  • เมลเบิร์น ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งวัยรุ่น อินดี้ มีวัฒนธรรมการดื่มชา กาแฟ มีร้านอาหารที่เลิศรส และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย มีดนตรีตลาด งานเทศกาล หรือนิทรรศการให้เข้าร่วมเสมอ และหลายกิจกรรมฟรี ด้วยความบันเทิงที่มีให้ทั้งหมดจึงไม่แปลกใจที่เมลเบิร์นจะได้รับการโหวตให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก

ประมาณค่าใช้จ่าย เฉลี่ยต่อเดือน สำหรับการอยู่อาศัยในเมืองเมลเบิร์น

รายการ

ประมาณการค่าใช้จ่ายต่อสัปดาห์ ประมาณการค่าใช้จ่ายต่อเดือน

ค่าที่พัก

243 AUD

972 AUD

ค่าโดยสารสาธารณะ

38 AUD

184 AUD

ค่าอาหาร

182 AUD

728 AUD

ค่าอำนวยความสะดวกอื่นๆ

18 AUD

70 AUD

รวมค่าใช้จ่าย

481 AUD
(ประมาณ 11,060 บาท)

1,954 AUD
(ประมาณ 44,940 บาท)

คลิก เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “เมืองเมลเบิร์น”


3. Brisbane บริสเบน

บริสเบน Brisbane (จำนวนประชากร 2.28 ล้านคน) เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 รองจากซิดนีย์ และเมลเบิร์น ตั้งอยู่บนสองฝั่งของแม่น้ำบริสเบน ที่ไหลลงสู่อ่าวมอร์ตัน เป็นเมืองที่มีการพัฒนาเร็วที่สุด และเป็นหนึ่งในศูนย์กลางธุรกิจที่สำคัญของประเทศออสเตรเลีย ค่าครองชีพเมืองบริสเบนไม่แพง และคุ้มค่า เหมาะสำหรับนักเรียนต่างชาติ ที่กำลังมองหาเมืองที่ประหยัดค่าใช้จ่าย ราคาที่สมเหตุสมผล เหมาะสำหรับการเรียนภาษาอังกฤษ ปริญญาตรี วิชาชีพ ที่อยู่อาศัยกว้างขวาง ไม่แออัด เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก งานพาร์ทไทม์มีให้ทำหลากหลาย และการแข่งขันไม่สูง ที่สำคัญ เมืองบริสเบน คนไทยไม่เยอะเท่าซิดนีย์ และเมลเบิร์น

นอกจากนี้ เมืองบริสเบน ค่อนข้างเงียบสงบ ผ่อนคลาย แต่ก็แฝงด้วยชีวิตชีวา ปลอดภัย และผู้คนเป็นมิตร มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ และวัฒนธรรม หากเลือกเรียนที่เมืองบริสเบน ก็จะได้พบปะกับผู้คนจากทั่วทุกมุมโลก นอกจากนี้ เมืองบริสเบน ยังเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อว่า มีแสงแดดยาวนานมากที่สุดในออสเตรเลีย สภาพอากาศอบอุ่น มีชายหาดที่สามารถเล่นเซิร์ฟ หรือพักผ่อนหย่อนใจได้ตลอดเวลา จึงไม่แปลกใจว่าเมืองบริสเบน เป็นที่นิยมอย่างมากจากนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศ และต่างประเทศ และการเลือกเรียนต่อที่บริสเบนถือได้ว่าเป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ เลยค่ะ

Brisbane บริสเบน เป็นหนึ่งในย่านธุรกิจที่สำคัญของบริษัท ทั้งในและต่างประเทศ เข้ามาก่อตั้งในเมืองบริสเบนหลายแห่ง อุตสาหกรรมของเมืองบริสเบนจะเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นส่วนใหญ่ รองลงมาคือการศึกษา ซึ่งจะอยู่ในเขต CBD ส่วนทางชานเมือง จะมีโรงงานกลั่นปิโตรเลียม อุตสาหกรรมการทำวัสดุโลหะเป็นต้น

ทำไมควรเลือกเรียนต่อบริสเบน

  • การศึกษาของเมืองบริสเบนมีคุณภาพสูง มาตรฐานระดับนานาชาติ โดดเด่นระดับแนวหน้าของโลก มีศูนย์วิจัยมากมายกว่า 40 แห่ง และมีระบบการดูแลนักเรียนนานาชาติที่ดีมาก พร้อมโอกาสทุนการศึกษาที่หลากหลาย
  • บริสเบน มีมหาวิทยาลัยคุณภาพสูงหลายแห่ง เช่น University of Queensland (UQ) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่อยู่ใน Group of 8 ของออสเตรเลีย , Queensland University of Technology (QUT) และ Griffith University ซึ่งทั้ง 3 แห่งนี้ เป็นมหาวิทยาลัยที่มี Ranking สูงในออสเตรเลีย
  • มีสถาบันวิชาชีพ TAFE Queensland Brisbane ซึ่งเป็นสถาบันวิชาชีพรัฐบาลที่มีชื่อเสียงโด่งดังในประเทศออสเตรเลีย สามารถ Pathway เข้าเรียนมหาวิทยาลัยชื่อดังหลายแห่งได้อีกด้วย
  • เมืองบริสเบน ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งโลกอนาคต “New World City” เป็นเจ้าภาพในการประชุมสุดยอดผู้นำ G20 ซึ่งเป็นเวทีชั้นนำสำหรับความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ มีสภาพแวดล้อมการแข่งขันทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง มีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ทำให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนจำนวนมาก และพึงพอใจกับผลตอบแทนที่สมเหตุสมผล ท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางการเมืองที่มั่นคง แนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจจึงแข็งแกร่ง และเติบโตเร็วที่สุดของออสเตรเลีย
  • กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และเติบโตเร็วที่สุดในบริสเบนคือ อุตสาหกรรมวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี รองลงมาคือกลุ่มอุตสาหกรรมการศึกษา และอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ ตามลำดัง
  • อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของเมืองบริสเบนและเป็น Event Hub ในเอเชียแปซิฟิก มีงาน และกิจกรรมมากมาย จัดขึ้นทุกปีที่เมืองบริสเบน ทั้งเทศกาลศิลปะ เทศกาลดนตรี ที่จัดเป็นประจำทุกเดือน รวมถึงทัวร์คอนเสิร์ตของศิลปินชื่อดังระดับโลก และอีเวนท์อื่นๆ อีกมากมาย ในแต่ละปีดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกประมาณ 6 ล้านคนต่อปี

ประมาณค่าใช้จ่าย เฉลี่ยต่อเดือน สำหรับการอยู่อาศัยในเมืองบริสเบน

รายการ

ประมาณการค่าใช้จ่ายต่อสัปดาห์ ประมาณการค่าใช้จ่ายต่อเดือน

ค่าที่พัก

233 AUD

932 AUD

ค่าโดยสารสาธารณะ

38 AUD

152 AUD

ค่าอาหาร

182 AUD

728 AUD

ค่าอำนวยความสะดวกอื่นๆ

18 AUD

70 AUD

รวมค่าใช้จ่าย

471 AUD
(ประมาณ 10,830 บาท)

1,882 AUD
(ประมาณ 43,280 บาท)

คลิก เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “เมืองบริสเบน”


4. Perth เพิร์ท

เพิร์ท Perth (จำนวนประชากร 1.98 ล้านคน) เป็นเมืองหลวงของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย Western Australia ซึ่งเป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลีย กินพื้นที่ 1 ใน 3 ของทวีป ล้อมรอบด้วยสันเขาที่เรียกว่า Darling Scarp เป็นพื้นที่ราบลุ่ม มีแม่น้ำที่สำคัญสองสายได้แก่ แม่น้ำ Swan และ Canning สภาพภูมิอากาศส่วนใหญ่ จะเป็นภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน ได้รับสมญาณามให้เป็นเมืองที่สวยงามที่สุดในคาบมหาสมุทรอินเดีย มีชื่อเสียงในด้านอันยาวนานของแสงแดดท้องฟ้าสีครามและชายหาดสีขาวสดใส

นอกจากนี้ เมืองเพิร์ทยังได้รับการยกย่องให้เป็น เมืองแห่งการศึกษาอีกด้วย มีนักเรียน นักศึกษานานาชาติ เดินทางมาเรียนที่เมืองเพิร์ทกว่า 49,000 คนต่อปี จาก 140 ประเทศทั่วโลก และได้รับการยอมรับในด้านเศรษฐกิจที่ก้าวกระโดด อัตราการว่างงานต่ำ เมืองเพิร์ทจึงเป็นจุดหมายปลายทางการเรียนต่อ ทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็น เรียนภาษาอังกฤษ มัธยมศึกษา เรียนต่อปริญญาตรี โท และได้รับโอกาสทำงานหลังเรียนจบที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก โดยทางตอนใต้ของเมืองเพิร์ท เป็นเขตอุตสาหกรรมหนักทั้งหมด เช่น โรงกลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของประเทศออสเตรเลีย โรงงานถึงอุตสาหกรรมเหมืองแร่ ที่ผลิตเหล็กอะลูมิเนียม และนิกเกิล อุตสาหกรรมการต่อเรือ อุตสาหกรรมผลิตปูนซีเมน อุตสาหกรรมการผลิตตัวถึงรถยนต์

ทำไมควรเลือกเรียนต่อเพิร์ท

  • รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียมีชื่อเสียงในด้านเศรษฐกิจที่เติบโตเร็วที่สุด ด้วยประชากรเพียง 10% รัฐสร้างรายได้จากการส่งออกของประเทศ 30% อุตสาหกรรมอันดับต้นๆ ของเพิร์ท คือการส่งออกแร่เหล็ก ทองคำ และก๊าซธรรมชาติ
  • รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียมีชื่อเสียงในด้านเศรษฐกิจที่เติบโตเร็วที่สุดในออสเตเรลีย ด้วยประชากรเพียง 10% รัฐสร้างรายได้จากการส่งออกของประเทศ 30% อุตสาหกรรมอันดับต้นๆ ของเพิร์ท คือการส่งออกแร่เหล็ก ทองคำ และก๊าซธรรมชาติ และเศรษฐกิจของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลออสเตรเลียมากกว่ารัฐอื่นๆ ทั้งหมด
  • ผลิตภัณฑ์มวลรวมรัฐต่อคน สูงกว่ารัฐอื่นและสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ ในปี 2011 รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียส่งออกถึง 46% ของออสเตรเลีย GDP 14.6% ผลผลิตมวลรวมอยู่ที่ 193 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ทำให้รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย เป็นรัฐที่มีผลผลิตมากที่สุดของประเทศออสเตรเลีย
  • เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงโด่งดัง 4 แห่งด้วยกันคือ University of Western Australia ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่อยู่ใน Group of 8 ของออสเตรเลีย Curtin University, Murdoch University, Edith Cowan University และ University of Notre Dame นอกจากนี้ยังมีสถาบันวิชาชีพรัฐบาล TAFE Western Australia ซึ่งเปิดสอนหลักสูตรที่หลากหลาย
  • เพิร์ทมีสภาพอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน อากาศอบอุ่นตลอดทั้งปี และเป็นเมืองหลวงที่มีแสงแดดยาวนาน ท้องฟ้าสีครามตลอดทั้งปี ปริมาณน้ำฝนน้อย ชาวเมืองเพิร์ทจึงมีโอกาสได้ใช้ชีวิตกลางแจ้ง ได้แทบตลอดทั้งปี
  • เมืองเพิร์ท ถึงแม้จะเป็นเมืองเล็กๆ ไม่ใหญ่มาก แต่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวให้ชม และกิจกรรมให้ทำมากมาย เช่น Cathedral Square  ย่านชุมชนเมืองที่มีชีวิตชีวาในใจกลางเมืองเพิร์ท เป็นจัตุรัสขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับการนัดพบ หรือเดินเล่นพักผ่อนหลังเลิกเรียน หรือชายหาดยอดนิยมต่างๆ เช่น City Beach, Cottesloe Beach, Leighton Beach, Scarborough Beach, South Beach และ Trigg Island Beach
  • เพิร์ท มีงานเทศกาลตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงเดือนที่มีอากาศอบอุ่น จะมีโรงภาพยนตร์กลางแจ้ง และเทศกาลดนตรี เทศกาลอาหารมากมาย นอกจากนี้ เมืองเพิร์ทยังเป็นเจ้าภาพจัดงานภาพยนตร์นานาชาติ และจัดทัวร์คอนเสิร์ตระดับโลกตลอดทั้งปี
  • นอกจากนี้เพิร์ทยังอยู่ในรายชื่อเมืองในเขต Regional Incentives ซึ่งทางรัฐบาลสนับสนุน และส่งเสริมให้นักเรียนนักศึกษาต่างชาติที่มีทักษะอาชีพระดับภูมิภาค Regional Occupations List (ROL) จะได้รับสิทธิ์ขยายระยะเวลาของ Temporary Graduate Work Visa (Subclass 485) เพิ่มอีก 1 ปี 

ประมาณค่าใช้จ่าย เฉลี่ยต่อเดือน สำหรับการอยู่อาศัยในเมืองเพิร์ท

รายการ

ประมาณการค่าใช้จ่ายต่อสัปดาห์ ประมาณการค่าใช้จ่ายต่อเดือน

ค่าที่พัก

205 AUD

820 AUD

ค่าโดยสารสาธารณะ

35 AUD

140 AUD

ค่าอาหาร

182 AUD

728 AUD

ค่าอำนวยความสะดวกอื่นๆ

18 AUD

72 AUD

รวมค่าใช้จ่าย

440 AUD
(ประมาณ 10,120 บาท)

1,760 AUD
(ประมาณ 40,480 บาท)

คลิก เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “เมืองเพิร์ท”


5. Adelaide แอดิเลด

แอดิเลด Adelaide (จำนวนประชากร 1.30 ล้านคน) เป็นเมืองหลวงของรัฐเซาท์ออสเตรเลีย South Australia และเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของออสเตรเลีย โดดเด่นในด้านวัฒนธรรม ความบันเทิง ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางตอนใต้ ใกล้กับชายหาดและเกาะที่สวยงาม เมืองนี้ยังอยู่ไม่ไกลจากเนิน Adelaide Hills ซึ่งเหมาะสำหรับการเดินป่า การขี่จักรยานชมสัตว์ป่า หรือใกล้กับไร่องุ่นที่ผลิตไวน์ชั้นยอด

แอดิเลดมีประชากรประมาณ 1.30 ล้านคน มีพื้นที่รวม 3,258 ตารางกิโลเมตร พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบสูง และบริเวณราบลุ่มชายฝั่ง ผังเมืองถูกออกแบบโดยพันเอกวิลเลียมไลท์ ลักษณะเป็นสี่เหลี่ยม มีความโดดเด่น และเหมือนกับเมืองในยุโรป ข้อดีคือสามารถใช้เวลาเดินทางน้อยลงและมีเวลาสนุกกับชีวิตมากขึ้น ใจกลางเมืองเป็นสวนสาธารณะ Adelaide Parkland มีสภาพภูมิอากาศแบบเมดิเตอเรียน ฤดูร้อนแห้งแล้ง และฤดูหนาวอากาศหนาวจัด มีฝนตกในฤดูหนาว มีหิมะปกคลุมตามพื้นที่ชนบท

การศึกษาเป็นส่วนสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเมืองแอดิเลด โดยรัฐบาลกับสถาบันการศึกษา ได้พยายามทำให้แอดิเลด เป็นศูนย์กลางของการศึกษา ของออสเตรเลีย หรือ Australia Education Hub และจำนวนนักศึกษาต่างชาติ ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงปีที่ผ่านมา มหาวิทยาลัย และสถาบันต่างๆ ได้พัฒนาเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับการศึกษา 

มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองแอดิเลด มีอยู่ 4 แห่งด้วยกันคือ Flinders University of South Australia, University of Adelaide, University of South Australia และ Torrens University Australia โดยมหาวิทยาลัยแอดิเลด เป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุด และเป็นมหาวิทยาลัยที่อยู่ Group of 8 นอกจากนี้ ยังมีสถาบันวิชาชีพรัฐบาลออสเตรเลีย TAFE South Australia ด้วยเช่นกัน

ทำไมควรเลือกเรียนต่อแอดิเลด

  • แอดิเลด เป็นเมืองแห่งโอกาส และกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว จึงขาดแคลนแรงงานจำนวนมาก ทางการรัฐบาลออสเตรเลีย พยายามส่งเสริมให้นักศึกษาต่างชาติ ที่มีฝีมือ มีโอกาสได้มาทำงาน และใช้ชีวิตอยู่ที่แอดิเลด
  • การศึกษาเป็นส่วนสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเมืองแอดิเลด โดยรัฐบาลกับสถาบันการศึกษา ได้พยายามทำให้แอดิเลด เป็นศูนย์กลางของการศึกษา ของออสเตรเลีย หรือ Australia Education Hub และจำนวนนักศึกษาต่างชาติ ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงปีที่ผ่านมา มหาวิทยาลัย และสถาบันต่างๆ ได้พัฒนาเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับการศึกษา 
  • มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองแอดิเลด มีอยู่ 4 แห่งด้วยกันคือ Flinders University of South Australia, University of South Australia, Torrens University Australia และ University of Adelaide ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุด และเป็นมหาวิทยาลัยที่อยู่ Group of 8 นอกจากนี้ ยังมีสถาบันวิชาชีพรัฐบาลออสเตรเลีย TAFE South Australia ด้วยเช่นกัน 
  • ที่พักในแอดิเลด มีตัวเลือกมากมาย ไม่แออัด เนื่องจากประชากรน้อย และพื้นที่กว้างขวาง ที่สำคัญ ราคาถูกกว่าเมืองอื่นๆ ในออสเตรเลียอีกด้วย
  • สามารถเดินทางไปและกลับจากชั้นเรียนของคุณได้อย่างง่ายดาย ด้วยการเดินขี่จักรยานหรือนั่งรถรางหรือรถบัสในเมืองฟรี
  • แอดิเลดยังมีค่าครองชีพต่ำกว่าเมืองอื่นๆ ในออสเตรเลียโดยเฉลี่ย 14% เมื่อเทียบกับเมืองหลวงอื่นๆ ในออสเตรเลีย
  • ไวน์เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตในแอดิเลด ด้วยสภาพอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียนฤดูร้อนที่แห้งแล้ง และฤดูหนาวที่อบอุ่น รัฐเซาท์ออสเตรเลียจึงมีผู้ปลูกองุ่นมากกว่า 3,400 ไร่ โรงบ่มไวน์กว่า 700 แห่ง และไร่องุ่นประมาณ 76,000 เฮกเตอร์ 18 ภูมิภาค
  • ปัจจุบัน มีสายการบินหลายสาย ที่สามารถเดินทางมายังเมืองแอดิเลดได้อย่างสะดวกสบาย แต่ยังไม่มีสายการบิน ที่บินตรงจากประเทศไทยไปยังเมืองแอดิเลด ดังนั้น จะต้องต่อเครื่องที่ ซิดนีย์ หรือสิงคโปร์
  • แอดิเลดยังอยู่ในรายชื่อเมืองในเขต Regional Incentives ซึ่งทางรัฐบาลสนับสนุน และส่งเสริมให้นักเรียนนักศึกษาต่างชาติที่มีทักษะอาชีพระดับภูมิภาค Regional Occupations List (ROL) จะได้รับสิทธิ์ขยายระยะเวลาของ Temporary Graduate Work Visa (Subclass 485) เพิ่มอีก 1 ปี

ประมาณค่าใช้จ่าย เฉลี่ยต่อเดือน สำหรับการอยู่อาศัยในเมืองแอดิเลด

รายการ

ประมาณการค่าใช้จ่ายต่อสัปดาห์ ประมาณการค่าใช้จ่ายต่อเดือน

ค่าที่พัก

218 AUD

872 AUD

ค่าโดยสารสาธารณะ

30 AUD

120 AUD

ค่าอาหาร

182 AUD

728 AUD

ค่าอำนวยความสะดวกอื่นๆ

17 AUD

68 AUD

รวมค่าใช้จ่าย

447 AUD
(ประมาณ 10,280 บาท)

1,788 AUD
(ประมาณ 41,120 บาท)

คลิก เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “เมืองแอดิเลด”


6. Gold Coast โกลด์โคสต์

โกลด์โคสต์ Gold Cost (จำนวนประชากร 540,500 คน) เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 6 ของออสเตรเลีย และเป็นหนึ่งในเมืองที่เติบโตเร็วมากที่สุด ประชากรประมาณ 630,000 คน ในจำนวนนี้ มีนักเรียนต่างชาติกว่า 35,000 คน มาจาก 130 ประเทศทั่วโลก

ข้อดีของการเรียนต่อโกลด์โคสต์ คือ เมืองโกลด์โคสต์ ได้รับการจัดอันดับให้เป็นจุดหมายปลายทางด้านการศึกษาระดับภูมิภาคอันดันหนึ่งในออสเตรเลีย (Regional City) มีความพร้อมทางด้านสิ่งอำนวยความสะดวก และสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการศึกษา มีหน่วยงาน Gold Coast Student Hub ที่คอยบริการช่วยเหลือนักศึกษาต่างชาติ ทั้งชีวิตความเป็นอยู่ การหางานพาร์ทไทม์ การเข้าสังคม นอกจากนี้รัฐบาลยังได้สนับสนุนนักเรียน นักศึกษาต่างชาติ ให้เข้ามาเรียน และทำงานแบบเต็มเวลา วีซ่าจึงง่ายกว่าหากเปรียบเทียบกับซิดนีย์ และเมลเบิร์น นอกจากนี้ ยังได้รับโอกาสในการขอวีซ่าทำงานหลังเรียนจบเพิ่มอีก 1 ปี

โกลด์โคสต์ มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยว มีสถานที่ท่องเที่ยวทุกรูปแบบ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนหย่อนใจ หรือทำกิจกรรมแอดเวนเจอร์ มีที่พักให้เลือกทุกรูปแบบ และไม่แออัด ความปลอดภัยสูง คนไทยน้อย งานพาร์ทไทม์เพียบ และการแข่งขันไม่สูง นอกจากนี้ เมืองโกลด์โคสต์ ยังเป็นเมืองที่มีแสงแดดมากที่สุดในออสเตรเลีย เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบอากาศอบอุ่น และกิจกรรมกลางแจ้ง

โกลด์โคสต์เป็นที่ตั้งของ 3 มหาวิทยาลัยคุณภาพสูง Bond University มหาวิทยาลัย Griffith University และมหาวิทยาลัย Southern Cross University และสถาบันวิชาชีพ TAFE Queensland ซึ่งมีถึง 5 แห่งด้วยกันคือ Southport, Ridgeway, Benowa, Coomera และ Coolangatte นอกจากนี้ ยังมีโรงเรียนประถม และมัธยมศึกษากว่า 100 แห่ง รวมถึงสถาบันสอนภาษาที่มีคุณภาพสูงอีกมากมายให้เลือกเรียนครอบคลุมทุกหลักสูตรตามความต้องการ

ทำไมควรเลือกเรียนต่อเมืองโกลด์โคสต์

  • ค่าครองชีพเมืองโกลด์โคสต์ก็มีความสมเหตุสมผลด้วยเช่นกันโดยค่าครองชีพที่เมืองโกลด์โคสต์ถูกกว่าเมืองซิดนีย์ ประมาณ 40% 
  • โกลด์โคสต์ ได้เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงเวลา 50 ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมหลักของเมืองโกลด์โคสต์ได้แก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความต้องการของแรงงานในอนาคตเมื่อสำเร็จการศึกษา
  • มหาวิทยาลัยในโกลด์โคสต์ มีทั้งหมด 3 แห่ง คือ Griffith University, Bond University และ Southern Cross University มีคุณภาพสูง ทุกแห่ง ติด Top มหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก เน้นการสร้างผลงานวิจัยที่เป็นประโยชน์
  • ศูนย์วิจัย Gold Coast Health and Knowledge Precinct (GCHKP) เป็นศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์ชั้นนำระดับโลก เน้นวิจัยด้านสุขภาพ และพัฒนาอุตสาหกรรมไฮเทค
  • โกลด์โคสต์มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนเส้นทางอาชีพของผู้สำเร็จการศึกษา ด้วยเป้าหมายการเป็นเมืองแห่งการจ้างงานมากที่สุดในออสเตรเลีย หน่วยงานการศึกษาเมืองโกลด์โคสต์จึงได้ริเริ่มโครงการ Talent For Business Growth เพื่อช่วยให้ผู้สำเร็จการศึกษาที่มีความสามารถ ได้พบปะกับผู้นำอุตสาหกรรมที่มีชื่อเสียงระดับโลก
  • นอกจากนี้โกลด์โคสต์ยังอยู่ในรายชื่อเมืองในเขต Regional Incentives ซึ่งทางรัฐบาลสนับสนุน และส่งเสริมให้นักเรียนนักศึกษาต่างชาติที่มีทักษะอาชีพระดับภูมิภาค Regional Occupations List (ROL) จะได้รับสิทธิ์ขยายระยะเวลาของ Temporary Graduate Work Visa (Subclass 485) เพิ่มอีก 1 ปี
  • เมืองโกลด์โคสต์เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งตลอดทั้งปี  มีพื้นที่กว่าครึ่ง ที่ปกคลุมไปด้วยป่าหลากหลายประเภท มีชายฝั่งกว่า 50 กม. รวมทั้งชายหาดโต้คลื่นและรีสอร์ทสำหรับวันหยุด ชายหาดที่โดดเด่ง และมีชื่อเสียงโด่งดังคือ Southport และ Surfers Paradise เป็นสวรรค์ของนักโต้คลื่น
  • เมืองโกลด์โคสต์ ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากในการจัดงาน อีเว้นท์เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว มีเทศกาลมากมายเป็นประจำทุกเดือนในเมืองโกลด์โคสต์ รวมถึงอีเว้นท์ การแข่งขันโต้คลื่น การวิ่งมารธอนการกุศล ทัวร์คอนเสิร์ตของศิลปินระดับโลก และนิทรรศการศิลปะและการแสดง จนก้าวเข้าสู่เมืองแห่งเทศกาล Global Events Destination ในไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ประมาณค่าใช้จ่าย เฉลี่ยต่อเดือน สำหรับการอยู่อาศัยในเมืองโกลด์โคสต์

รายการ

ประมาณการค่าใช้จ่ายต่อสัปดาห์

ประมาณการค่าใช้จ่ายต่อเดือน
ค่าที่พัก

218 AUD

872 AUD
ค่าโดยสารสาธารณะ

22 AUD

88 AUD
ค่าอาหาร

182 AUD

728 AUD
ค่าอำนวยความสะดวกอื่นๆ

16 AUD

65 AUD
รวมค่าใช้จ่าย

438 AUD
(ประมาณ 10,500 บาท)

1,753 AUD
(ประมาณ 42,000 บาท)

คลิก เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “เมืองโกลด์โคสต์”


7. Canberra แคนเบอร์ร่า

แคนเบอร์ร่า Canberra (จำนวนประชากร: 395,700 คน) เป็นเมืองหลวงของรัฐออสเตรเลียนแคพิทอลเทร์ริทอรี่ และเป็นเมืองหลวงของประเทศออสเตรเลีย อยู่ห่างจากชายฝั่งทางใต้ของรัฐนิวเซาท์เวลส์ 150 กม. อยู่ห่างจากซิดนีย์ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ 280 กม. และทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมลเบิร์น 660 กม. เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีคุณภาพอีกแห่งหนึ่งสำหรับการอยู่อาศัยและเรียนต่อ มีมหาวิทยาลัย 2 แห่ง คือ University of Canberra และ Australia National University ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลียและมีชื่อเสียงด้านการวิจัยที่โดดเด่น

ด้วยความที่เมืองแคนเบอร์ร่าเป็นเมืองหลวง จึงมีสำนักงานรัฐบาล รัฐสภา และทำเนียบรัฐบาลตั้งอยู่รายล้อมเมืองนี้ หลักสูตรที่น่าสนใจคือหลักสูตรที่สำเร็จการศึกษาออกมาแล้ว เข้าทำงานในตำแหน่งในหน่วยงานราชการของออสเตรเลีย แต่หลักสูตรอื่นๆ ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเรียนจำนวนมาก

ประมาณค่าใช้จ่าย เฉลี่ยต่อเดือน สำหรับการอยู่อาศัยในเมืองแคนเบอร์ร่า

รายการ

ประมาณการค่าใช้จ่ายต่อสัปดาห์

ประมาณการค่าใช้จ่ายต่อเดือน
ค่าที่พัก

298 AUD

1,192 AUD
ค่าโดยสารสาธารณะ

30 AUD

120 AUD
ค่าอาหาร

182 AUD

728 AUD
ค่าอำนวยความสะดวกอื่นๆ

16 AUD

62 AUD
รวมค่าใช้จ่าย

526 AUD
(ประมาณ 12,090 บาท)

2,102 AUD
(ประมาณ 48,340 บาท)


8. Wollongong วูลองกอง

วูลองกอง Wollongong (จำนวนประชากร: 295,600 คน) เป็นเมืองชายทะเลในแคว้นอิลลาวาร์รา ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย อยู่ห่างจากทางตอนใต้ของเมืองซิดนีย์ประมาณ 80 กิโลเมตร ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลที่ยาวและแคบและมีชายหาดมากมาย เมืองนี้เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัย University of Wollongong มีสภาพแวดล้อมที่ดีเยี่ยมสำหรับการเรียนและการใช้ชีวิต อากาศอบอุ่น และประชากรไม่หนาแน่น ทำให้เป็นสถานที่ที่ง่ายต่อการอยู่อาศัย ในขณะเดียวกันก็สามารถเดินทางไปเมืองใหญ่ได้ดีอย่างรวดเร็ว

ชีวิตในวูลองกองค่อนข้างผ่อนคลายในตอนกลางวัน และมีความคึกคักในตอนกลางคืน หากเลือกที่พักอาศัย แนะนำให้พักโซนใจกลางเมืองเรื่องจากร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้าหลายๆ แห่งจะกระจุกตัวอยู่ใจกลางย่านธุรกิจ และสะดวกสบายต่อการเดินทางสำหรับนักเรียน นักศึกษา ที่เดินทางมาศึกษาต่อที่เมืองวูลองกอง

ประมาณค่าใช้จ่าย เฉลี่ยต่อเดือน สำหรับการอยู่อาศัยในเมืองวูลองกอง

รายการ

ประมาณการค่าใช้จ่ายต่อสัปดาห์

ประมาณการค่าใช้จ่ายต่อเดือน
ค่าที่พัก

205 AUD

820 AUD
ค่าโดยสารสาธารณะ

31 AUD

124 AUD
ค่าอาหาร

80 AUD

320 AUD
ค่าอำนวยความสะดวกอื่นๆ

30 AUD

120 AUD
รวมค่าใช้จ่าย

346 AUD
(ประมาณ 7,950 บาท)

1,384 AUD
(ประมาณ 31,830 บาท)


9. Hobart โฮบาร์ต

โฮบาร์ต Hobart (จำนวนประชากร: 206,000 คน) เป็นเมืองหลวงของรัฐแทสเมเนีย Tasmania ประเทศออสเตรเลีย และเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดลำดับที่ 2 รองลงมาจากซิดนีย์ เป็นสถานที่สร้างแรงบันดาลใจในการอยู่อาศัย บ้านส่วนใหญ่สร้างขึ้นบนเนินเขา ทำให้มองเห็นทัศนียภาพอันงดงามของท่าเรือ

โฮบาร์ตเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยเดียวคือมหาวิทยาลัยแทสเมเนีย University of Tasmania (UTAS) เปิดสอนหลักสูตรที่หลากหลาย ทั้งทั่วไปและเฉพาะทาง มีวิทยาเขตกระจายอยู่ทั่วรัฐ นักเรียนมากกว่า 1 ใน 5 เป็นนักเรียนต่างชาติ มักอาศัยอยู่ใกล้กับวิทยาเขตหลักในแซนดี้เบย์ ซึ่งเป็นย่านสำคัญของโฮบาร์ตมีบาร์ คลับและร้านอาหารมากมายและอยู่ห่างจากใจกลางเมืองโดยการขับรถเพียงไม่กี่นาที

ประมาณค่าใช้จ่าย เฉลี่ยต่อเดือน สำหรับการอยู่อาศัยในเมืองโฮบาร์ต

รายการ

ประมาณการค่าใช้จ่ายต่อสัปดาห์

ประมาณการค่าใช้จ่ายต่อเดือน
ค่าที่พัก

201 AUD

805 AUD
ค่าโดยสารสาธารณะ

13 AUD

52 AUD
ค่าอาหาร

126 AUD

504 AUD
ค่าอำนวยความสะดวกอื่นๆ

41 AUD

164 AUD
รวมค่าใช้จ่าย

381 AUD
(ประมาณ 8,760 บาท)

1,525 AUD
(ประมาณ 35,000 บาท)


10. Darwin ดาร์วิน

ดาร์วิน Darwin (จำนวนประชากรประมาณ: 132,000 คน) เป็นเมืองหลวงของรัฐนอร์ทเทอร์นเทริทอรี Northern Territory ประเทศออสเตรเลีย ได้รับสมญาณามว่าเป็นเมืองที่อยู่ ทางตอนเหนือสุด ของประเทศออสเตรเลีย ติดกับทะเลติมอร์ ทำให้เห็นวิวมหาสมุทรที่งดงาม สภาพภูมิประเทศของเมืองนี้มีหลากหลาย ตั้งแต่ ชายหาดที่สวยงาม หรือป่าดิบชื้น รวมถึงทุ่งหญ้าแบบทะเลทราย ที่นี่จึงมีพืชพรรณแปลกใหม่มากกว่า 4,300 สายพันธุ์ และสัตว์ท้องถิ่นแปลกๆ อีก 400 ชนิด

เมืองดาร์วิน เป็นเมืองที่มีความก้าวหน้ารวดเร็ว แต่ยังคงรักษาความเป็นธรรมชาติ ความเป็นกันเองสำหรับนักท่องเที่ยว ที่เดินทางมาเยือน นอกจากนี้ ยังเป็นเมืองหลวงที่มีประชากรน้อยที่สุดในออสเตรเลีย ในบรรดาทุกรัฐในออสเตรเลีย ซึ่งมีประชากรประมาณ 132,000 คน ที่อาศัย และทำงานอยู่ในเมืองนี้

ทำไมควรเลือกเรียนต่อดาร์วิน

  • ระบบการศึกษาที่มีคุณภาพสูงระดับ TOP-TIER มีหลักสูตรที่ครบทุกสาขาวิชา ตั้งแต่โรงเรียนมัธยม สถาบันวิชาชีพ มหาวิทยาลัย รวมถึงโรงเรียนภาษาหลายแห่ง ทุกสถาบันการศึกษา ได้รับการรับรองจากรัฐบาลออสเตรเลีย วุฒิการศึกษามีคุณภาพสูง
  • มีทุนช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในทุกปี เช่น ทุน Study in Australia NT Scholarship, CDU Scholarship for International และทุนสนับสนุนจากรัฐบาลอีกมากมาย
  • เมืองดาร์วิน ถึงแม้จะเป็นเมืองขนาดเล็ก แต่ก็มีการเติบโตของเศรษฐกิจสูง เนื่องจาก เมืองดาร์วินมีทรัพยากรที่มากมาย อุตสาหกรรมต่างๆ จึงเกิดขึ้นโดยเฉพาะอุตสาหกรรมเหมือนแร่ และอุตสาหกรรมพลังงาน  จึงเป็นข้อดี สำหรับผู้ที่เดินทางมาเรียนหลักสูตรทางด้าน วิศวกรรม อุตสาหกรรม ไอที การท่องเที่ยว การโรงแรม รวมถึงสุขภาพ และ การบริการสาธารณะ 
  • ดาร์วินมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของออสเตรเลีย จากประมาณการห้าปีของอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมต่างๆ อัตราการเจริญเติบโตด้านการดูแลสุขภาพ และความช่วยเหลือทางสังคม อาจจะเติมโตขึ้น (Health Care) 15% 
  • เมืองดาร์วิน ค่าครองชีพต่ำที่สุดในบรรดาเมืองหลวงของทุกรัฐในออสเตรเลีย
  • ดาร์วิน มีกิจกรรมน่าสนใจมากมายให้ได้ทำในขณะที่กำลังศึกษา ตั้งแต่การเดินผ่อนคลายในเมืองที่เป็นอารยธรรมของชนพื้นเมืองออสเตรเลีย ธรรมชาติไปจนถึงการเดินและผ่อนคลายในพื้นที่โล่งกว้าง
  • ดาร์วินอยู่ในรายชื่อเมืองในเขต Outer Regional ซึ่งทางรัฐบาลสนับสนุน และส่งเสริมให้นักเรียนนักศึกษาต่างชาติที่มีทักษะอาชีพระดับภูมิภาค Regional Occupations List (ROL) จะได้รับสิทธิ์ขยายระยะเวลาของ Temporary Graduate Work Visa (Subclass 485) เพิ่มอีก 2 ปี 
  • นอกจากนี้ ยังได้คะแนนเพิ่ม 5 คะแนน สำหรับยื่นขอวีซ่าย้ายถิ่นฐาน และ/หรือ วีซ่าทำงาน หรือ Subclass 491 Skilled Work Regional) และ/หรือ Subclass 190 Skilled Nominated visa ดังนั้น โอกาสในการขอเป็น PR จึงมีสูงกว่าเมืองอื่นๆ

ประมาณค่าใช้จ่าย เฉลี่ยต่อเดือน สำหรับการอยู่อาศัยในเมืองดาร์วิน

รายการ

ประมาณการค่าใช้จ่ายต่อสัปดาห์

ประมาณการค่าใช้จ่ายต่อเดือน
ค่าที่พัก

210 AUD

840 AUD
ค่าโดยสารสาธารณะ

7 AUD

28 AUD
ค่าอาหาร

110 AUD

440 AUD
ค่าอำนวยความสะดวกอื่นๆ

35 AUD

140 AUD
รวมค่าใช้จ่าย

362 AUD
(ประมาณ 8,320 บาท)

1,448 AUD
(ประมาณ 33,300 บาท)

คลิก เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “เมืองดาร์วิน”


แนวทางการเลือกเมืองสำหรับเรียนต่อออสเตรเลีย

เมืองที่มีค่าครองชีพถูกที่สุด

หากพิจารณาจากค่าครองชีพ จะเห็นได้ว่า เมืองวูลองกอง Wollongong เป็นเมืองที่มีค่าครองชีพถูกที่สุด รองลงมาคือเมืองดาร์วิน Darwin และโฮบาร์ต Hobart ตามลำดับ แต่ในทางตรงกันข้าม 3 เมืองข้างต้นอาจมีสิ่งอำนวยความสะดวกน้อยกว่าเมืองใหญ่ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้ามีให้เลือกเดินน้อยกว่า หรือการเดินทางอาจไม่สะดวกสบายเมื่อเทียบกับเมืองใหญ่ ถ้าหากชื่นชอบวิถีชีวิตแบบเรียบง่าย ไม่ชอบความวุ่นวายในเมืองใหญ่ ก็อาจจะเหมาะกับ 3 เมืองข้างต้น แต่ถ้าหากลองพิจารณาเมืองที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เช่นเพิร์ท Perth แอดิเลด Adelaide และโกลด์โคสต์ Gold Coast ถึงแม้ค่าครองชีพจะสูงขึ้นมาหน่อย แต่ก็ได้มาซึ่งความสะดวกสบายในเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ 

เมืองที่มีคนไทยมากที่สุด

หลายๆ คนอาจรู้สึกอบอุ่นเมื่อมีคนไทยอาศัยอยู่ด้วย จากสถิติของ Austrade วันที่ 19 เดือนมิถุนายน 2019 ได้ทำสถิตินักเรียนไทยที่ลงทะเบียนเรียนในออสเตรเลีย รัฐที่ได้รับใบสมัครเรียนจากนักเรียนไทยมากที่สุดคือรัฐนิวเซาท์เวลส์ New South Wales รองลงมาคือรัฐวิคตอเรีย Victoria และรัฐควีนส์แลนด์ Queensland ซึ่งอนุมานได้ว่าเมืองที่นักเรียนไทยมาเรียนมากที่สุดคือ ซิดนีย์ Sydney เมลเบิร์น Melbourne บริสเบน Brisbane และโกลด์โคสต์ Gold Coast ตามลำดับ

เมืองที่มีคนไทยน้อยที่สุด

ในทางตรงกันข้าม หากในเมืองนั้นมีคนไทยอาศัยอยู่เยอะมากๆ อาจทำให้ไม่มีโอกาสในการฝึกทักษะภาษาอังกฤษ หลายๆ คนจึงเลือกมองหาเมืองทางเลือกอื่นๆ ที่มีคนไทยน้อย เพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษอย่างเต็มศักยภาพ จากสถิติของ Austrade วันที่ 19 เดือนมิถุนายน 2019 ได้ทำสถิตินักเรียนไทยที่ลงทะเบียนเรียนในออสเตรเลีย รัฐที่ได้รับใบสมัครเรียนจากนักเรียนไทยน้อยที่สุดคือรัฐนอร์ทเทิร์นเทอร์ริทอรี่ Northern Territory รองลงมาคือรัฐแทสมาเนีย Tasmania และรัฐเซาท์ออสเตรเลีย South Australia ซึ่งอนุมานได้ว่าเมืองที่นักเรียนไทยมาเรียนน้อยที่สุดคือ ดาร์วิน Darwin โฮบาร์ต Hobart และแอดิเลด Adelaide ตามลำดับ

เมืองที่น่าอยู่ที่สุด และคุณภาพชีวิตดีที่สุดในออสเตรเลีย

Economist Intelligence Unit (EIU) ได้จัดอันดับคุณภาพชีวิตของเมือง 140 เมืองทั่วโลก ประเทศออสเตรเลียมี 4 เมือง ที่ติด 1 ใน 10 เมืองที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในโลก คือ เมืองแอดิเลด Adelaide ติดอันดับ 3 เพิร์ท Perth ติดอันดับ 6 เมลเบิร์น Melbourne ติดอันดับ 8 และบริสเบน Brisbane ติดอันดับ 10 โดยคุณภาพชีวิตที่ทาง EIU ได้จัดอันดับ วัดจากความมั่นคงของประเทศ ระบบสาธารณสุขที่ครอบคลุมและทั่วถีง การศึกษาและโครงสร้างพื้นฐานดีเยี่ยม จึงทำให้ประชากรในเมืองดังกล่าวมีความสุข และมีคุณภาพชีวิตที่ดี

เมืองที่คุ้มค่า น่าไปเรียนต่อที่สุดในออสเตรเลีย

เมื่อพิจารณาจากหลายๆ ด้านจากข้างต้น ทางศูนย์ฯ เดอะเบสท์ สรุปได้ว่า เมืองที่คุ้มค่าน่าไปเรียนต่อมากที่สุดในออสเตรเลียคือเมืองแอดิเลด Adelaide เนื่องจากค่าครองชีพไม่สูง คนไทยน้อย และความเงียบสงบไม่วุ่นวาย อาจเหมาะกับการเรียนต่อมากที่สุด ประกอบกับเมืองแอดิเลด ยังเป็นเมืองที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในออสเตรเลีย (จากการจัดอันดับของ EIC ปี 2021)

ส่วนอีกเมืองหนึ่งที่ทางศูนย์ฯ เดอะเบสท์อยากแนะนำคือเมืองบริสเบน Brisbane หรือ โกลด์โคสต์ Gold Coast ถึงแม้ค่าครองชีพไม่ได้ถูกมาก แต่แลกมาด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพียบพร้อม ที่สำคัญสภาพอากาศที่โกลด์โคสต์ค่อนข้างอบอุ่น เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง ชอบทะเล แสงแดด ไม่อยากรู้สึกว่าห่างไกลบ้านเกิดมาก

เมืองที่สามที่อยากจะแนะนำเพิ่มเติมเพื่อเป็นตัวเลือกคือเมืองเพิร์ท Perth เมืองนี้มีจุดเด่นคือ เวลา (Time Zone) เร็วกว่าประเทศไทยเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น จึงเหมาะมากกับนักเรียนมัธยมปลาย ที่ต้องติดต่อกับที่บ้านเป็นประจำ นอกจากนี้ เมืองเพิร์ทยังได้รับการยกย่องให้เป็น เมืองแห่งการศึกษาอีกด้วย

ทั้ง 4 เมืองที่ทางศูนย์ฯ เดอะเบสท์แนะนำ มีความคุ้มค่า น่าไปเรียนต่ออย่างมาก ทั้งเรียนต่อระดับอุดมศึกษา ประกาศนียบัตรวิชาชีพ เรียนภาษา ครอบคลุมทุกหลักสูตรและมีคุณภาพระดับโลก ที่สำคัญคือคนไทยน้อย ถึงแม้เมืองบริสเบนจะมีคนไทยเยอะกว่าเมืองอื่นๆ ที่กล่าวมา แต่เมื่อเทียบกับเมืองซิดนีย์ กับเมลเบิร์นก็ถือว่าคนไทยน้อยมาก และเมื่อเลือกเรียนเมืองที่คนไทยน้อย โอกาสวีซ่าผ่านก็จะเพิ่มขึ้นด้วย เนื่องจากสถานทูตเห็นถึงความตั้งใจในการเรียนต่อ และทางรัฐบาลก็สนับสนุนให้นักเรียน นักศึกษาต่างชาติเข้ามาเรียนต่อเมืองดังกล่าวด้วย

บทความแนะนำให้ศึกษาต่อเพิ่มเติม


เป็นอย่างไรบ้างคะ ทางศูนย์ฯ เดอะเบสท์หวังว่าบทความนี้อาจประกอบการตัดสินใจเลือกเรียนต่อออสเตรเลียง่ายขึ้น และสำหรับน้องๆ คนไหนที่เลือกเมืองได้แล้ว สามารถขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถาบัน โปรโมชั่น ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมได้จากทาง ศูนย์ฯ เดอะเบสท์ ได้เลยค่ะ


ติดต่อเดอะเบสท์เพื่อสอบถามข้อมูลการเรียนต่อต่างประเทศเพิ่มเติม

เดอะเบสท์ เป็นศูนย์บริการให้คำปรึกษาเรียนต่อต่างประเทศครบวงจร เราเป็นตัวแทนที่ให้บริการแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และ ประเทศอื่นๆ อีก 25 ประเทศทั่วโลก เรายินดีให้ความช่วยเหลือตั้งแต่เริ่มสมัครเรียน จนสำเร็จการศึกษา รวมถึงดูแลนักเรียนระหว่างเรียนจนนักเรียนเรียนจบด้วยทีมผู้เชียวชาญในด้านการเรียนต่อต่างประเทศ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ขั้นตอนเหล่านี้เราดำเนินการให้ฟรี และเราพร้อมที่จะทำตามคุณภาพ และมาตรฐานดังสโลแกนที่ว่า “We are Quality”

บริการของเรามีอะไรบ้าง ?

  • ฟรี!! บริการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเรียนต่อต่างประเทศทุกระดับชั้นทั่วโลก ตั้งแต่ โรงเรียนประถม โรงเรียนมัธยม สถาบันวิชาชีพ และสถาบันในระดับอุดมศึกษา รวมถึงหลักสูตรภาษาต่างประเทศ และเลือกสถาบันที่ดีที่สุดให้กับผู้เรียน
  • เราให้ความช่วยเหลือตั้งแต่การประสานงานโรงเรียน เลือกโรงเรียนให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียน เตรียมเอกสารสมัครเรียน และดำเนินเรื่องสมัครเรียนให้ฟรี
  • บริการเตรียมเอกสารยื่นวีซ่าครบวงจร และบริการยื่นวีซ่ากว่า 25 ประเทศทั่วโลก พร้อมวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าอย่างตรงจุด และแนะนำวิธีการเตรียมตัวในการสัมภาษณ์วีซ่า 
  • บริการแปลเอกสาร ภาษาไทย – ภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาอังกฤษ – ภาษาไทย รวมถึงภาษาที่ 3 เริ่มต้นเพียงแผ่นละ 200 บาท
  • เดอะเบสท์ เป็นตัวแทนรับสมัครสอบ IELTS IDP อย่างเป็นทางการ พร้อมให้คำแนะนำ และนัดวันสอบให้โดยน้องๆ ไม่ต้องเสียเวลาสมัครเอง สมัครสอบได้ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
  • บริการซื้อประกันภัยการเดินทางและประกันสุขภาพนักเรียนต่างชาติ จากบริษัทประกันชั้นนำ MSIG, NIB, Allianz, Orbit และอื่นๆ
  • บริการจองตั๋วเครื่องบิน ทุกสายการบิน และประสานงานกับสถาบันเกี่ยวกับรถรับ – ส่ง สนามบิน
  • บริการจัดหาที่พักทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นโฮมสเตย์ อพาร์ทเม้น หรือหอพักนักศึกษา จัดหาให้ตามความต้องการส่วนบุคคล

 

 

“เรายินดีที่จะดูแลนักเรียนทุกคน ตั้งแต่เริ่มต้นจนนักเรียนสำเร็จการศึกษา และทำให้การเรียนต่อของคุณเป็นเรื่องง่าย ” สอบถามข้อมูลการบริการเพิ่มเติมติดต่อ
โทร : 090-327 3558088-269 5099
Email :contact@thebest-edu.com
Line : @thebestedu หรือคลิกเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ

เพิ่มเพื่อน

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.