สารบัญบทความ

Last updated ตุลาคม 24, 2022 ago by Thebestedu

เรียน ทำงาน วิชาชีพ ออสเตรเลีย


นักเรียนไทยหลายคน ที่กำลังวางแผนเรียนต่อออสเตรเลีย ก็อาจกำลังสับสนว่า จะเรียนต่อปริญญาตรี เรียนต่อวิชาชีพ หรือเรียนหลักสูตรไหนดี การเลือกเรียนหลักสูตรวิชาชีพ Vocational Education and Training หรือเรียกสั้นๆ ว่า VET เป็นหลักสูตรหนึ่ง ที่นักเรียนต่างชาติให้ความสนใจอย่างมาก เนื่องจาก หลักสูตรคุณภาพสูง และค่าใช้จ่ายคุ้มค่า เน้นทักษะการปฏิบัติงาน และการฝึกงานในบริษัท อุตสาหกรรมจริง เหมาะสำหรับนักเรียนต่างชาติ ที่ต้องการเรียนด้วย และทำงานพาร์ทไทม์ ขณะเรียนอยู่ที่ออสเตรเลีย นอกจากนี้นายจ้างส่วนใหญ่ มั่นใจในทักษะ และความพร้อมในการทำงานสำหรับผู้ที่จบหลักสูตรวิชาชีพ VET อีกด้วย โดยในบทความนี้ ศูนย์ฯ เดอะเบสท์ จะขอสรุปข้อมูลเกี่ยวกับหลักสูตรวิชาชีพ VET คืออะไร มีสาขาอะไรบ้าง เรียนและทำงานด้วยได้ไหม ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ขอทำงานหลังเรียนจบได้ไหม และสายงานอาชีพอะไรที่มีโอกาสขอ PR สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ในบทความนี้เลยค่ะ

หลักสูตรวิชาชีพ หรือหลักสูตร VET ประเทศออสเตรเลีย คืออะไร?

ประเทศออสเตรเลีย หลักสูตรวิชาชีพ จะเรียนสั้นๆ ว่า VET ย่อมาจาก Vocational Education Training คือหลักสูตรวิชาชีพ ซึ่งนักเรียนไทยส่วนใหญ่จะเรียกว่าเรียนดิปโพลมา ได้รับการรับรองจากรัฐบาลออสเตรเลีย RTOs (Registered Training Organisations) และ ASQA (Australian Skills Quality Authority) เพื่อดูแลและประเมินคุณภาพของสถาบันการศึกษา ซึ่งส่วนใหญ่ จะเข้าใจว่าเป็นหลักสูตรดิปโพลมา Diploma แต่จริงๆ แล้ว มีหลักสูตรแยกย่อยมากกว่านั้น หลักสูตรมุ่งเน้นการเตรียมความพร้อมให้ผู้เรียน มีความรู้ และความสามารถเฉพาะด้านที่จำเป็นต่อการทำงาน เป็นหลักสูตรเตรียมความพร้อมสำหรับการทำงานที่ไม่จำเป็นต้องเรียนในระดับปริญญา เมื่อสำเร็จการศึกษา สามารถทำงานได้ทันที หรือเพื่อเป็นพื้นฐานในการเรียนต่อในอนาคต เช่น อาชีพช่างยนต์ ช่างกล การทำอาหาร การท่องเที่ยว และการโรงแรม เน้นทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงาน การเรียนการสอนควบคู่ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ บางหลักสูตร มีการฝึกงานด้วยเช่นกัน เมื่อสำเร็จการศึกษา สามารถประกอบอาชีพได้ทันที โดยหลักสูตรดิปโพลมามีหลากหลายระดับด้วยกัน เป็นทางเลือกที่คุ้มค่า และประหยัดเวลาอย่างมาก

ประเภทของหลักสูตรวิชาชีพ

  • Certificate I, II, III and IV หลักสูตรที่ออกแบบมาเพื่อเรียนรู้ และเข้าใจเกี่ยวกับสาขาที่เลือกเรียน เช่น Automotive, Community Services หรือ Digital Media ตั้งแต่ระดับพื้นฐาน จนถึงระดับสูง ระยะเวลาของหลักสูตรมีตั้งแต่ 6 เดือน – 1 ปี และหลักสูตรที่เน้นทักษะการปฏิบัติงานจริงๆ เช่น Carpenter ระยะเวลาเรียนอาจเพิ่มขึ้นเป็น 1 – 2 ปี
  • Diploma หลักสูตรดิปโพลมา เป็นหลักสูตรยอดนิยมสำหรับนักเรียนต่างชาติ เนื่องจากสามารถนำไปต่อยอดได้ในหลายๆ ด้านทั้งด้านการทำงาน และเป็นใบเบิกทางสำหรับการเรียนต่อระดับปริญญา โดยส่วนใหญ่ จะเทียบเท่ากับวุฒิปริญญาตรี 1 ปี ซึ่งนักเรียนหลายคน เลือกที่จะเรียน Diploma ก่อน เพื่อค้นหาความสนใจของตัวเอง ถ้าหากชอบหรือสนใจอยากเรียนต่อ สามารถเทียบโอนหน่วยกิต (Pathway) เข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยได้อีกด้วย และในระหว่างเรียนในระดับปริญญา ยังสามารถใช้วุฒิการศึกษาในระดับดิปโพลมา สมัครงานพาร์ทไทม์ได้อีกด้วย ซึ่งก็จะได้มีโอกาสได้รับค่าตอบแทนที่สูงกว่า ระยะเวลาของหลักสูตรโดยทั่วไปคือ 1 – 2 ปี
  • Advanced Diploma หลักสูตรประกาศนียบัตรขั้นสูง การเรียนการสอนเน้นทักษะการปฏิบัติ สำหรับการทำงานที่ต้องใช้ทักษะขั้นสูง เช่น การบัญชี (Accounting) การออกแบบ (Design) วิศวกรรม (Engineering) ระยะเวลาของหลักสูตรมีตั้งแต่ 1 – 3 ปี
  • Graduate Certificate or Diploma หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ ระดับบัณฑิตศึกษา เหมาะสำหรับผู้ที่เรียนจบปริญญาตรี และอยากได้ทักษะการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงานระดับสูง ระยะเวลาหลักสูตรตั้งแต่ 6 เดือน – 1 ปี

ข้อดีของการเรียนหลักสูตรวิชาชีพออสเตรเลีย คืออะไร?

  • เป็นหลักสูตรที่เน้นการฝึกปฏิบัติ จุดเด่นหลักของหลักสูตร VET คือ การเน้นทักษะการปฏิบัติ ซึ่งหมายความว่า เน้นการลงมือทำ ซึ่งแตกต่างจากการเรียนในระดับอุดมศึกษา ที่จะเน้นทฤษฎีมากกว่า ดังนั้น หากต้องการเรียนหลักสูตรที่ไม่ใช่แค่อ่านทฤษฎีในหนังสือเรียน เช่น หลักสูตรการทำอาหาร การทำขนม การลงมือทำ จะช่วยให้เข้าใจกระบวนการ และประสบความสำเร็จมากกว่า 
  • เรียนกับอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน อาจารย์ผู้สอนทุกคน ที่สอนหลักสูตร VET เป็นผู้มีความรู้ และประสบการณ์ในการปฏิบัติงานในอุตสาหกรรมจริง 
  • คุณสมบัติการรับเข้ายืดหยุ่น โดยปกติแล้ว หลักสูตร VET จะรับนักเรียนตั้งแต่อายุ 16 ปี ขึ้นไป หรือจบ ม.3 ในหลักสูตรการศึกษาประเทศไทย ก็สามารถสมัครเรียนได้ นอกจากนี้ การศึกษานอกหลักสูตร (กศน.) หรือวุฒิ GED Diploma ก็สามารถสมัครเรียนได้เช่นเดียวกัน แต่ผู้สมัคร จะต้องมีคะแนนภาษาอังกฤษ IELTS 5.5 โดยทุกแบนด์ไม่ต่ำกว่า 5.0 หรือหากไม่มีคะแนนภาษาอังกฤษ ก็สามารถลงเรียนภาษาก่อนได้
  • การฝึกงานเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตร การเรียนหลักสูตร VET ไม่เพียงแต่เรียนรู้ทฤษฎีในห้องเรียนเท่านั้น แต่จะได้เข้าร่วมฝึกงานในอุตสาหกรรม และทำงานในสถานการณ์จริง ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่า และเป็นคุณสมบัติที่พร้อมสำหรับการจ้างงานในอนาคต
  • การันตีคุณภาพจากรัฐบาลออสเตรเลีย หลักสูตร VET ได้รับการกำกับดูแลโดย Australian Skills Quality Authority (ASQA) และหน่วยงานอื่นๆ กี่เกี่ยวข้องมากมาย สามารถมั่นใจได้เลยว่ามีคุณภาพ มีมาตรฐานและหลักสูตรได้รับการคุ้มครองตามกฏหมาย ภายใต้พระราชบัญญัติบริการการศึกษาสำหรับนักเรียนต่างชาติ Education Services for Overseas Students (ESOS)
  • ระยะเวลาเรียนสั้นกว่า โดยแต่ละหลักสูตร จะมีระยะเวลาเรียนเพียง 1 – 2 ปี เรียนจบ สามารถทำงานเริ่มทำงานได้ทันที และบางสายงาน มีโอกาสได้วีซ่าทำงานหลังเรียนจบ และมีโอกาสขอ PR ได้ในอนาคต
  • เป็นสะพานสู่หลักสูตรในระดับอุดมศึกษา เมื่อสำเร็จการศึกษาในหลักสูตร Diploma สามารถเทียบโอนหน่วยกิต (Pathway) เข้าเรียนต่อชั้นปีที่ 2 ในระดับอุดมศึกษา ในมหาวิทยาลัยได้ด้วย ซึ่งได้รับการรับรองโดย Australian Qualification Framework (AQF) ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายลงอย่างมาก นอกจากนี้ ยังเป็นข้อดีหากไม่แน่ใจว่าสาขาวิชาที่เลือกเรียนนั้น เหมาะสมสำหรับตัวเองหรือไม่หากจะเลือกเรียนต่อในระดับปริญญาตรี
  • ประหยัดค่าใช้จ่าย หลักสูตร VET เริ่มต้นเพียง 4,000 AUD เท่านั้น (ประมาณ 90,000 บาท) และยังสามารถแบ่งชำระได้อีกด้วย เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด อยากประหยัดค่าใช้จ่าย และได้เรียนหลักสูตรที่มีคุณภาพ
  • เรียนเพียง 2 – 3 วัน / สัปดาห์เท่านั้น ผู้เรียนจึงสามารถใช้เวลาว่างที่เหลือในการหางานพาร์ทไทม์ เพื่อฝึกประสบการณ์จากที่เรียนมา และแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายได้อย่างไม่ต้องกังวล เหมาะสำหรับผู้ที่อยากเรียนด้วยและทำงานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียนด้วย
  • ช่วยปรับตัวในการเรียนต่อต่างประเทศ การเรียนต่อต่างประเทศ เป็นเรื่องใหม่สำหรับใครหลายคน ยิ่งไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศ อาจต้องปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ การเข้าเรียนหลักสูตร VET จะช่วยปรับความคุ้นเคยกับวิธีการสอนในระบบการศึกษาต่างประเทศ เนื่องจากห้องเรียนขนาดเล็ก และนักศึกษาส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาต่างชาติ มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม จึงทำให้ปรับตัว และหาเพื่อนง่ายกว่า
  • มีโอกาสขอเป็นผู้อยู่อาศัยถาวร PR ได้ในอนาคต หลังจากสำเร็จการศึกษาหลักสูตรวิชาชีพ ที่มีความขาดแคลนในตลาดแรงงานออสเตรเลียอย่างมาก เช่น หลักสูตร Cookery, Engineering, Information Technology

เรียนหลักสูตรวิชาชีพออสเตรเลีย มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่?

ค่าธรรมเนียมหลักสูตร VET มีหลากหลายราคา ขึ้นอยู่กับคุณภาพ และมาตรฐานของทางสถาบัน เริ่มต้น 4,000 AUD ถึง 22,000 AUD ต่อปี ขึ้นอยู่กับสถาบัน และหลักสูตรที่ผู้เรียนสนใจ และยิ่งหลักสูตรที่มีระดับสูงขึ้น จะมีค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ หากเรียนหลักสูตรที่ต้องใช้อุปกรณ์การเรียนเพิ่มเติม เช่น หลักสูตรเกี่ยวกับการทำอาหาร Cookery อาจจะต้องเสียค่าอุปกรณ์การเรียนเพิ่มเติม แต่ข้อดีของประเทศออสเตรเลียคือ ค่าธรรมเนียมสามารถแบ่งชำระได้ และสามารถลงเรียนเป็นแพ็กเกจ หรือหลักสูตรยาวได้ เช่น 

  1. Certificate III in Business เรียน 48 สัปดาห์
  2. Certificate IV in Business เรียน 24 สัปดาห์
  3. Diploma of International Business เรียน 48 สัปดาห์
  4. รวมระยะเวลาเรียน 120 สัปดาห์ หรือ 2 ปี 6 เดือน (มีพักเบรกระหว่างหลักสูตรด้วย)

นอกจากนี้ หากวางแผนเรียนต่อปริญญาตรีด้วย การเลือกเรียนดิปโพลมาก่อน จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายลงอย่างมาก เนื่องจาก เมื่อสำเร็จการศึกษา หลักสูตรดิปโพลมาแล้ว สามารถเทียบโอนหน่วยกิต Pathway เข้าเรียนชั้นปีที่ 2 ได้เลย หรือถ้าหากไม่ต้องการที่จะเรียนต่อในระดับปริญญาตรี ก็สามารถใช้วุฒิดิปโพลมา สมัครงานได้เลย

เรียนต่อออสเตรเลีย สามารถแบ่งชำระค่าเรียนได้

หลักสูตร VET สามารถแบ่งชำระเป็นรายเทอมได้ โดย 1 เทอมจะมีระยะเวลาเรียน 3 – 4 เดือน ค่าใช้จ่ายประมาณ $1,250 – $1,700 ต่อเทอม (ประมาณ 28,750 – 39,100 บาท) นอกจากนี้ บางสถาบัน ยังอนุโลมให้นักศึกษาที่มีปัญหาด้านการเงิน สามารถแบ่งจ่ายเป็นรายเดือนได้เป็นกรณีพิเศษอีกด้วย

คุณสมบัติในการเข้าเรียนหลักสูตรวิชาชีพออสเตรเลีย มีอะไรบ้าง?

เพื่อมีคุณสมบัติในการเข้าเรียนต่อในหลักสูตร VET ผู้สมัครจะต้องมีคุณสมบัติเบื้องต้น เช่น อายุ 16 ปี ขึ้นไป บางหลักสูตร อาจต้องผ่านเกณฑ์การทดสอบของทางสถาบันด้วย ดังนั้น จะต้องตรวจสอบเงื่อนไขการรับเข้าเรียนให้ชัดเจน หรือสอบถามข้อมูล รายละเอียด พร้อมรับประมาณการณ์ค่าใช้จ่ายกับทาง ศูนย์ฯ เดอะเบสท์ได้

ตัวอย่างเกณฑ์การรับสมัครเบื้องต้น

  • คุณสมบัติด้านวิชาการ
    • สำเร็จการศึกษาขั้นต่ำเทียบเท่าวุฒิการศึกษาระดับ Year 10 – 12 (ม.4 – 6)
    • หรือ สำเร็จการศึกษานอกหลักสูตร (กศน.)
    • หรือ สามารถใช้วุฒิ GED Diploma ได้
  • ผู้สมัครจะต้องมีคุณสมบัติทางภาษาอังกฤษ IELTS 5.5 โดยทุกแบนด์ไม่ต่ำกว่า 5.0 (หรือเทียบเท่า) ไม่มีคะแนนภาษาอังกฤษ สามารถลงเรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษเพิ่มเติมก่อนได้ โดยระยะเวลาเรียน ขึ้นอยู่กับพื้นฐานภาษาอังกฤษของผู้เรียน
  • อายุ 16 หรือ 18 ปี ขึ้นไป (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของทางสถาบันที่กำหนด)
  • หากคุณสำเร็จการศึกษาหลักสูตรนานาชาติ หรือมีวุฒิการศึกษาที่ตรงตามข้อกำหนดความสามารถด้านภาษาอังกฤษ ไม่ต้องมีคะแนนภาษาอังกฤษ (ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแต่ละสถาบัน) เช่น
    • International Second Language Proficiency Rating (ISLPR® (IIAA accredited))
    • Cambridge English: Advanced (CAE) / Cambridge English: Proficiency (CPE) / Cambridge English: First (FCE)
    • International Baccalaureate Diploma / Certificate
    • Cambridge IGCSE / A Level
    • สำเร็จการศึกษา Year 10 ในโรงเรียน High School ออสเตรเลีย

หลักสูตรวิชาชีพออสเตรเลีย สามารถเทียบโอนหน่วยกิต (Pathway) เข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยได้ด้วย

หากวางแผนเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา แต่มีคุณสมบัติไม่ตรงตามเงื่อนไข หลักสูตร VET ในระดับ ดิปโพลมา Diploma และ Advanced Diploma สามารถช่วยให้มีคุณสมบัติ ตรงตามเงื่อนไขการรับเข้าเรียนในระดับปริญญาตรี นอกจากนี้ หลักสูตร VET บางหลักสูตร ยังสามารถเทียบโอนหน่วยกิต (Credit Transfer) ได้ด้วย ซึ่งจะช่วยลดจำนวนวิชาที่เรียนลง และประหยัดเวลาได้ 1 – 2 ปี ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถาบันการศึกษา ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายในการเรียนปี 1 ในมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ จากสถิติ พบว่า นักศึกษาต่างชาติ ที่เข้าเรียนมหาวิทยาลัยโดยการ Pathway มีอัตราประสบความสำเร็จสูงกว่านักศึกษาต่างชาติ ที่เข้าเรียนมหาวิทยาลัยโดยตรงอีกด้วย

ตัวอย่าง : ตารางเปรียบเทียบ ทางเลือกในการเรียนปริญญาตรี ระหว่าง เข้าเรียนในระดับปริญญาตรีโดยตรง และ เข้าเรียนในระดับดิปโพลมา ก่อนแล้ว PATHWAY เข้าเรียนในระดับปริญญาตรี

สามารถขอวีซ่าทำงานหลังเรียนจบได้สูงสุด 4 ปี

นักศึกษาในระดับปริญญากว่า 80% มีวัตถุประสงค์เพื่อทำงานแบบเต็มเวลา (Full-Time) ในออสเตรเลีย ซึ่งทางรัฐบาลออสเตรเลีย ก็ให้การสนับสนุนแก่นักศึกษาต่างชาติ โดยเปิดโอกาสให้ขอวีซ่า Temporary Graduate Visa (Subclass 485) ซึ่งวีซ่าประเภทนี้ เป็นวีซ่าเพื่อหางานทำหลังเรียนจบ สามารถทำงานได้แบบเต็มเวลา Full-Time หรือสามารถเรียนต่อ เพื่อฝึกประสบการณ์ หรือทักษะอื่นๆ ในออสเตรเลีย โดยจะได้ระยะเวลา 2 – 4 ปีขึ้นอยู่กับว่าคุณเรียนปริญญาตรีอยู่ที่เมืองไหนในออสเตรเลีย นอกจากนี้ สามารถพาแฟน หรือคู่สมรสไปด้วยได้ ซึ่งก็ได้รับสิทธิ์ ทำงานแบบเต็มเวลาได้ด้วยเช่นกัน 

วีซ่า TEMPORARY GRADUATE VISA (SUBCLASS 485) แบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้

  1. Graduate Work Stream เป็นวีซ่าที่อนุญาตให้ทำงานหลังเรียนจบในประเทศออสเตรเลีย สำหรับหลักสูตรต่ำกว่าปริญญา เช่น หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ Certificate หรือ Diploma ระยะเวลาหลักสูตรรวมกันไม่ต่ำกว่า 2 ปี และต้องจบในสาขาวิชาชีพที่ขาดแคลน (Skilled Occupation List) ระยะเวลาวีซ่า สูงสุด 18 เดือน
  2. Post-Study Work Stream วีซ่าทำงานหลังเรียนจบสำหรับคนที่เรียนหลักสูตรปริญญาขึ้นไป Degree เช่น ปริญญาตรี, ปริญญาโท, ปริญญาโทวิจัย และ ปริญญาเอก วีซ่าประเภทนี้ จะของ่ายกว่า Graduate Work Stream(สาขาที่วิชาที่เรียนไม่จำเป็นต้องอยู่ใน Skilled Occupation List) และมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนด ก็สามารถขอวีซ่าได้ ระยะเวลาวีซ่า 2 – 4 ปี

คลิก เพื่อศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ Temporary Graduate Visa หรือ วีซ่าทำงานหลังเรียนจบออสเตรเลีย

หลักสูตรที่มีความต้องการในตลาดแรงงานออสเตรเลีย (Trade Courses) และมีโอกาสขอเป็นผู้อยู่อาศัยถาวร Permanent Residency

หลักสูตร Trade Courses เป็นหลักสูตรที่เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานในออสเตรเลีย และเป็นส่วนของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศออสเตรเลีย นักศึกษาต่างชาติ ที่ลงเรียนหลักสูตร Trade Courses ไม่จำเป็นต้องเรียนจบในระดับปริญญาตรี ไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐาน หรือมีประสบการณ์มาก่อน ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าธรรมเนียมในการเรียน และระยะเวลาหลักสูตรก็สั้นกว่า (ประมาณ 2 ปี) ทุกหลักสูตรจะเน้นการปฏิบัติงานจริง เมื่อสำเร็จการศึกษาสามารถขอวีซ่าทำงานหลังเรียนจบ Temporary Graduate Visa และวีซ่าย้ายถิ่นฐานสำหรับผู้มีทักษะ General Skilled Migration ได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งมีโอกาสในการขอเป็นผู้อยู่อาศัยถาวร Permanent Residency (PR) ที่เป็นไปได้มากที่สุด

คลิก เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักสูตร Trade Courses เรียนจบมีสิทธิ์ขอ PR ได้ มีหลักสูตรอะไรบ้าง ต้องเตรียมตัวอย่างไร ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ บทความนี้มีคำตอบ

หลักสูตรวิชาชีพออสเตรเลีย มีสาขาอะไรให้เรียนบ้าง?

หลักสูตร VET เปิดสอนหลักสูตรหลากหลาย คล้ายคลึงกับในระดับปริญญาตรี แต่อาจมีหลักสูตรปฏิบัติอื่นๆ เพิ่มเข้ามาให้เลือกเรียน ครอบคลุมทุกสาขาอาชีพที่จำเป็นต่อการทำงาน ศูนย์ฯ เดอะเบสท์ จึงขอยกตัวอย่างหลักสูตรยอดนิยมสำหรับนักเรียนไทย มีโอกาสในการทำงาน และโอกาสในการขอเป็นผู้อยู่อาศัยถาวรในอนาคต โดย ศูนย์ฯ เดอะเบสท์ ขอสรุปให้เลือกเรียนหลักสูตรยอดนิยมสำหรับนักเรียนไทย 12 สาขา ให้เลือกเรียนได้ดังนี้

หากต้องการข้อมูลหลักสูตรอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับทาง ศูนย์ฯ เดอะเบสท์ ได้เลยค่ะ
โทร : 090-327 3558088-269 5099
Email : contact@thebest-edu.com
Line : @thebesteduหรือคลิ๊กเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ

เพิ่มเพื่อน


1. Beauty & Natural therapy (ความงาม และ ธรรมชาติบำบัด)

หลักสูตรด้านความงามและธรรมชาติบำบัด เรียนรู้ทักษะการเป็นช่างเสริมสวย ช่างทำผม หรือนักธรรมชาติบำบัด แต่จะช่วยคุณในการขยายทักษะการสื่อสารและเสริมสร้างทักษะทางธุรกิจที่จำเป็น เพื่อนำไปประกอบอาชีพ เพิ่มพูนทักษะการปฏิบัติ เรียนรู้การประกอบอาชีพร้านเสริมสวย รวมถึงการเป็นผู้ประกอบการ หลักสูตร Beauty & Natural Therapy เป็นหลักสูตรที่ต้องใช้ทักษะ และความรู้เฉพาะทาง และคาดว่าจะเปิดรับสมัครงาน 29,000 ตำแหน่ง ในปี 2022

หลักสูตรที่เปิดสอน

หลักสูตรที่เปิดสอน

  • Certificate III in Massage Therapy
  • Certificate IV in Massage Therapy
  • Diploma of Remedial Massage
  • Certificate III in Barbering
  • Certificate III in Make-up
  • Certificate IV in Beauty Therapy
  • Diploma of Beauty Therapy
  • Certificate III in Hairdressing
  • Certificate IV in Hairdressing
  • Certificate III in Dental Technology
ตัวอย่างอาชีพหลังเรียนจบ

ตัวอย่างอาชีพหลังเรียนจบ


2. Building & Construction (การก่อสร้าง)

หลักสูตรเกี่ยวกับการก่อสร้าง เรียนรู้วิธีการทำงานภายในสถานที่ก่อสร้างโดยปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัย จัดระเบียบและวางแผนการดำเนินการก่อสร้าง ฝึกงานเข้ากับหลักสูตรและฝึกฝนทักษะที่จำเป็นในการทำงานในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย เมื่อสำเร็จการศึกษา จะได้รับทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงานในสาขาการก่อสร้าง และเป็นสายงานอาชีพที่สามารถต่อยอดในการเป็นผู้อยู่อาศัยถาวร PR ในออสเตรเลียได้

หลักสูตรที่เปิดสอน

หลักสูตรที่เปิดสอน

  • Certificate III in Bricklaying
  • Certificate III in Carpentry
  • Certificate III in Wall and Floor Tiling
  • Diploma of Building and Construction
  • Advanced Diploma of Building and Construction
ตัวอย่างอาชีพหลังเรียนจบ

ตัวอย่างอาชีพหลังเรียนจบ


3. Business (บริหารธุรกิจ)

หลักสูตรการบริหารธุรกิจ เหมาะสำหรับผู้ที่มุ่งมั่นใจการเป็นผู้บริหารหรือผู้ประกอบการ การบริหารธุรกิจ การตลาด สามารถศึกษาและทำความเข้าใจ กระบวนการธุรกิจทั้งหมดให้ประสบความสำเร็จ ตั้งแต่การบริหาร การจัดการ รวมถึงเทคนิคการตลาด พัฒนาความรู้ในการทำงานของระบบและเทคโนโลยี เพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่อาชีพสายงานด้านธุรกิจ 

หลักสูตรที่เปิดสอน

หลักสูตรที่เปิดสอน

  • Certificate III in Business
  • Certificate IV in Business
  • Diploma of Business
  • Diploma of International Business
  • Advanced Diploma of International Business
ตัวอย่างอาชีพหลังเรียนจบ

4. Engineering (วิศวกรรม)

หลักสูตรด้านวิศวกรรม เป็นหลักสูตรที่ครอบคลุมทักษะการปฏิบัติทั้งหมดทั้งด้านการคำนวณ การวิเคราะห์ทางเทคนิค รวมถึงการสื่อสาร และการแก้ปัญหาในการทำงาน หลังสำเร็จการศึกษา สามารถประกอบอาชีพเป็นวิศวกรในตำแหน่งวิศวกรด้านเทคนิค การปฏิบัติ หรือเรียนต่อในระดับปริญญาตรีสาขาวิชาวิศวกรได้เพื่อตำแหน่งหัวหน้างานด้านวิศวกร

หลักสูตรที่เปิดสอน

หลักสูตรที่เปิดสอน

  • Certificate III in Engineering Fabrication Trade
  • Certificate III in Engineering Mechanical Trade
  • Certificate III in Engineering – Technical
  • Certificate IV in Engineering
  • Diploma of Aircraft Maintenance Engineering
  • Diploma of Civil and Structural Engineering
  • Diploma of Engineering
  • Diploma Of Engineering Technology
  • Diploma of Electronics and Communications Engineering
  • Diploma of Medical Engineering
  • Diploma of Network Engineering
  • Diploma of Network and Software Engineering
  • Diploma of Software Engineering
  • Diploma of Telecommunications Engineering

5. Food & Culinary Art (ศิลปะการทำอาหาร)

หลักสูตรเกี่ยวกับการทำอาหาร การใช้ศิลปะในการรังสรรค์อาหารให้ดูสวยงาม และน่ารับประทาน เมื่อสำเร็จการศึกษา สามารถทำงานในสายงานด้านเชฟ ซึ่งเป็นที่ต้องการอย่างมากในออสเตรเลียและทั่วโลก นอกจากนี้ ยังสามารถทำงานเป็นเชฟในโรงแรม เชฟในงานอีเว้นท์ เชฟในเรือสำราญ เรียนรู้ตั้งแต่ทฤษฎี เคล็ดลับในการทำอาหาร และการเตรียมอาหาร ความปลอดภัยและสุขอาณามัยในครัว รวมถึงการเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพ เป็นหลักสูตรที่สามารถต่อยอดเป็นผู้อยู่อาศัยถาวร PR ในอนาคตได้

หลักสูตรที่เปิดสอน

หลักสูตรที่เปิดสอน

  • Certificate III in Commercial Cookery
  • Certificate IV in Commercial Cookery 
  • Certificate III in Patisserie
  • Certificate IV in Patisserie
ตัวอย่างอาชีพหลังเรียนจบ

ตัวอย่างอาชีพหลังเรียนจบ


6. Hospitality (การบริการ)

หลักสูตรการบริการ การโรงแรม เรียนรู้วิธีการจัดการ และการทำงานร่วมกันในอุตสาหกรรมการโรงแรม อุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุด และมีความหลากหลายมากที่สุดทั่วโลก เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนรู้การเรียนรู้วิธีแก้ปัญหาที่ซับซ้อนของระบบการจองโรงแรม การใช้งบประมาณในการโฆษณา กลไกการแข่งขัน การลดราคา รวมถึงการบริหารพนักงานในโรงแรม พนักงานในภัตราคาร พัฒนาภาวะผู้นำ และทักษะอื่นๆ ที่จำเป็นต่อตำแหน่งงานผู้จัดการโรงแรม

หลักสูตรที่เปิดสอน

หลักสูตรที่เปิดสอน

  • Certificate III in Hospitality
  • Certificate IV in Hospitality
  • Diploma of Hospitality
  • Diploma of Event Management
ตัวอย่างอาชีพหลังเรียนจบ

7. IT Computing (เทคโนโลยีสารสนเทศ และคอมพิวเตอร์)

หลักสูตร IT Computing เป็นหลักสูตรที่เรียนเกี่ยวกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เพื่อนำมาใช้ในการทำงาน และการแก้ปัญหาในโลกยุคปัจจุบัน ออกแบบ และสร้างเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่อำนวยความสะดวกต่ออุตสาหกรรม การแพทย์ และอิเล็กทรอนิก เป็นหลักสูตรที่มีความต้องการอย่างมาก และมีความต้องการสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากโลกยุคปัจจุบัน ได้มีการพัฒนาของเทคโนโลยีอยู่ตลอดเวลา และเป็นหลักสูตรที่สามารถต่อยอดเป็นผู้อยู่อาศัยถาวร PR ในอนาคตได้

หลักสูตรที่เปิดสอน

หลักสูตรที่เปิดสอน

  • Certificate IV in Web-Based Technologies
  • Certificate IV in Computer Systems Technology
  • Certificate IV in Information Technology Networking
  • Diploma of Computing
  • Diploma of Website Development
  • Diploma of Digital Media Technologies
  • Diploma of Information and Communication Technology
  • Diploma of Information Technology Networking
  • Advanced Diploma of Information Technology
ตัวอย่างอาชีพหลังเรียนจบ

8. Leadership & Management (ความเป็นผู้นำและการจัดการ)

หลักสูตรความเป็นผู้นำ ออกแบบมาสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้การทำงานในตำแหน่งผู้นำอย่างมืออาชีพ ภายในบริษัทต่างๆ พัฒนาทักษะด้านต่างๆ เช่น การบริการลูกค้า การสื่อสารภายใน และภายนอกองค์กร การบริหารการเงิน และการพัฒนาด้านการตลาดโดยใช้กลยุทธ์ใหม่ๆ เพื่อยกระดับธุรกิจเดิมให้ก้าวไปอีกขั้น

หลักสูตรที่เปิดสอน

หลักสูตรที่เปิดสอน

  • Certificate IV in Leadership and Management
  • Diploma of Leadership and Management
  • Advanced Diploma of Leadership and Management
ตัวอย่างอาชีพหลังเรียนจบ

ตัวอย่างอาชีพหลังเรียนจบ


9. Marketing & Communication (การตลาดและการสื่อสาร)

หลักสูตรการตลาดและการสื่อสาร เรียนรู้การทำการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ศึกษากลยุทธ์ เปรียบเทียบคู่แข่ง การวิเคราะห์ และการนำหลักการตลาดไปใช้ในธุรกิจ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์และสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้อย่างมหาศาล หลักสูตรนี้จะต้องมีทุกหน่วยงาน ทุกธุรกิจ และทุกอุตสาหกรรม และมีความจำเป็นอย่างมากในตลาดแรงงาน

หลักสูตรที่เปิดสอน

หลักสูตรที่เปิดสอน

  • Certificate IV in Marketing and Communication
  • Diploma of Marketing and Communication
  • Diploma of Social Media Marketing
ตัวอย่างอาชีพหลังเรียนจบ

10. Nursing (พยาบาล)

หลักสูตรวิชาชีพพยาบาล เป็นหลักสูตรที่เป็นที่ต้องการอย่างมากในออสเตรเลีย และทุกประเทศทั่วโลก โดยผลสำรวจรายงานว่า 80% ได้รับการจ้างงานภายใน 3 เดือน หลังสำเร็จการศึกษา โดย หลักสูตรวิชาชีพพยาบาลจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับทฤษฎี และการปฏิบัติ รวมถึงการวิจัยที่จำเป็นในการเป็นพยาบาลที่มีความสามารถและมีประสิทธิภาพ มีการฝึกงานระหว่างเทอม หรือบางสถาบันมีการฝึกงานในศูนย์บริการสุขภาพทุกเทอม เพื่อเรียนรู้การทำงานกับพยาบาลมืออาชีพ แพทย์ และผู้ป่วยจริง

หลักสูตรที่เปิดสอน

หลักสูตรที่เปิดสอน

  • Certificate III in Health Services Assistance (Assisting in Nursing Work in Acute Care)
  • Certificate IV in Preparation for Health and Nursing Studies
  • Certificate IV in Veterinary Nursing
  • Diploma of Nursing
  • Diploma in Health Science
  • Diploma of Veterinary Nursing
ตัวอย่างอาชีพหลังเรียนจบ

11. Social Services (การบริการทางสังคม)

หลักสูตรการบริการทางสังคม เรียนรู้ทักษะในการช่วยเหลือผู้คนในทุกช่วงของชีวิต เป็นหลักสูตรที่ทำงานในภาคสังคม เช่น เป็นนักจิตวิทยาบำบัด ผู้ดูแลผู้สูงอายุ เด็ก และผู้พิการ หลักสูตรนี้ เป็นที่ต้องการอย่างมากในออสเตรเลีย เนื่องจากจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เปิดรับสมัครงานมากถึง 36,000 ตำแหน่งต่อปี เป็นหลักสูตรที่สามารถต่อยอดการทำงานแบบเต็มเวลา และมีโอกาสขอเป็นผู้อยู่อาศัยถาวรในออสเตรเลีย

หลักสูตรที่เปิดสอน

หลักสูตรที่เปิดสอน

  • Certificate III in Individual Support (Ageing)
  • Certificate III in Early Childhood Education and Care
  • Diploma of Early Childhood Education and Care
  • Diploma of Community Services
ตัวอย่างอาชีพหลังเรียนจบ

12. Sport & Fitness (กีฬา และการออกกำลังกาย)

หลักสูตรเกี่ยวกับการกีฬา และการออกกำลังกาย เรียนรู้การออกกำลังกายที่ถูกต้อง การป้องกัน และการจัดการอาการบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย รวมถึงกายวิภาค และสรีรวิทยา หลักสูตรนี้ สามารถทำงานในโรงยิมในฐานะผู้ฝึกสอนส่วนตัว หรือเป็นโค้ชนักกีฬาในสโมสรต่างๆ ทั้งในออสเตรเลีย และทั่วโลก

หลักสูตรที่เปิดสอน

หลักสูตรที่เปิดสอน

  • Certificate III in Fitness
  • Certificate III in Sports Turf Management
  • Certificate III in Sport and Recreation
  • Certificate III in Sport Coaching
  • Certificate IV in Fitness
  • Certificate IV in Sport Coaching
  • Certificate IV in Sport Development
  • Diploma in Sport and Fitness
  • Diploma of Sports Therapy Kinesiology
  • Diploma of Exercise and Sport Science
  • Diploma of Sport Development
  • Diploma of Sport and Recreation Management
ตัวอย่างอาชีพหลังเรียนจบ

13. Travel & Tourism (การท่องเที่ยว)

หลักสูตรการท่องเที่ยว เรียนรู้เกี่ยวกับการทำงานอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เรียนรู้เครื่องมือ กลยุทธ์ เทคนิค และวิธีการที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวระดับท้องถิ่น และระดับนานาชาติ ครอบคลุมตั้งแต่การท่องเที่ยว การเดินทาง ที่พัก รวมถึงกิจกรรมบันเทิงและสันทนาการ ได้รับทักษะในการเจรจาต่อรองโรงและ เที่ยวบิน และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว นอกจากนี้ หลักสูตรการท่องเที่ยว ยังครอบคลุมถึงการบริการบนเครื่องบิน เช่น Cabin Crew หรือ Flight Attendance ด้วย

หลักสูตรที่เปิดสอน

หลักสูตรที่เปิดสอน

  • Certificate III in Travel
  • Diploma of Travel and Tourism Management
  • Advanced Diploma of Travel and Tourism
ตัวอย่างอาชีพหลังเรียนจบ

ตัวอย่างอาชีพหลังเรียนจบ


14. Visual Arts (ทัศนศิลป์)

หลักสูตรศิลปะและการออกแบบผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เช่น โปรแกรม 3D Ma, Maya เรียนรู้วิธีการสร้างกราฟิก และแอนิเมชั่น ที่ใช้ในภาพยนตร์ สื่อโฆษณา และงานอีเว้นท์ต่างๆ หลักสูตรนี้มีโอกาสในการทำงานมากมาย ทั้งในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ และบริษัทออกแบบต่างๆ

หลักสูตรที่เปิดสอน

หลักสูตรที่เปิดสอน

  • Certificate IV in Design 
  • Diploma of Digital Media Technologies
  • Diploma of Graphic Design
  • Diploma of Digital Design
ตัวอย่างอาชีพหลังเรียนจบ

หลักสูตรวิชาชีพออสเตรเลีย เปิดสอนที่ไหนบ้าง?

สถาบันวิชาชีพของรัฐบาล TAFE

TAFE ย่อมาจาก Technical and Further Education หรือ สถาบันวิชาชีพเทคนิค และสการฝึกอบรมที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลีย บริหารโดยรัฐบาล มีวิทยาเขตทั่วออสเตรเลีย โดยจะแบ่งชื่อตามรัฐ เช่น TAFE New South Wales, TAFE Queensland, TAFE Western Australia, TAFE South Australia, Tas TAFE (สำหรับเมืองเมลเบิร์น จะให้บริการในชื่ออื่น แต่จัดประเภทเป็นสถาบัน TAFE และบริหารโดยรัฐบาลเช่นเดียวกัน เช่น Kangan Institute, Holmesglen Institute และ Melbourne Polytechnic เป็นต้น) 

การเรียนการสอนของสถาบัน TAFE เน้นหลักสูตรวิชาชีพ VET แต่มีบางสถาบัน ที่เปิดสอนหลักสูตรปริญญาตรี และสูงกว่า เช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยด้วย ในแต่ละปีมีนักศึกษาต่างชาติหลายพันคน ที่เลือกเรียนสถาบัน TAFE เพื่อโอกาสในการทำงาน และการเรียนต่อในอนาคต

ข้อดีของสถาบัน TAFE?

  • เน้นทักษะการปฏิบัติหมาะสำหรับการทำงานในสายงานเกี่ยวกับอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อุตสาหกรรมการผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร อุตสาหกรรมการเงิน อุตสาหกรรมบันเทิงและภาพยนตร์ ในขณะที่หลักสูตรของมหาวิทยาลัยมักจะเน้นด้านวิชาการ แต่โดยทั่วไปแล้วหลักสูตรของ TAFE จะเน้นไปที่การให้นักศึกษามีทักษะในการทำงานและการฝึกอบรมที่นายจ้างต้องการ
  • สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อุปกรณ์การเรียนมาตรฐานระดับอุตสาหกรรม มีการฝึกอบรมตลอดหลักสูตร และมีโอกาสมากมายในการฝึกอบรมนอกสถานที่ผ่านหลักสูตรการฝึกงาน Internship
  • มีหลักสูตรที่หลากหลาย สถาบัน TAFE มีชื่อเสียงอย่างมากในหลักสูตร VET แต่บางแห่ง ก็เปิดสอนระดับปริญญาตรี Bachelor Degree และสูงกกว่าด้วย เช่นเดียวกันกับมหาวิทยาลัยที่เปิดสอน นอกจากนี้ ยังมีหลักสูตรปรับพื้นฐานภาษาอังกฤษ สำหรับนักศึกษาต่างชาติ ที่ต้องการปรับพื้นฐานภาษาอังกฤษ ก่อนเข้าเรียนด้วย
  • ชั้นเรียนขนาดเล็ก เหมาะสำหรับนักศึกษาต่างชาติ การเรียนในสถาบัน TAFE จะมีอัตราส่วนนักศึกษาต่ออาจารย์ผู้สอนอยู่ที่ประมาณ 20 – 30 คนต่อชั้นเรียน ทำให้อาจารย์ได้มีโอกาสโฟกัสผู้เรียน และให้คำแนะนำได้อย่างตรงจุด หากผู้เรียนมีคำถาม
  • อาจารย์ผู้สอนมีประสบการณ์ในภาคอุตสาหกรรมอย่างยาวนาน พัฒนาและคิดถ้นเทคนิค วิธีการใหม่ๆ และมอบเทคนิคให้กับผู้เรียน เพื่อให้นักเรียนประสบความสำเร็จในสายงานที่เรียน
  •  
  • เส้นทางเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยง่ายขึ้น เมื่อสำเร็จการศึกษาประกาศนียบัตรขั้นสูง Diploma กับทางสถาบันแล้ว สามารถเทียบโอนหน่วยกิตเข้ามหาวิทยาลัยที่เป็นพาร์ทเนอร์กับทางสถาบันได้
  • นายจ้างส่วนใหญ่ ต้องการนักศึกษาที่จบจาก TAFE เนื่องจากสถาบัน มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง จึงเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานอย่างมาก ทั้งนายจ้างในอุตสาหกรรมชั้นนำระดับท้องถิ่น จนถึงระดับโลก

ตัวอย่างสถาบัน TAFE ออสเตรเลีย

สถาบันวิชาชีพของเอกชน Private Provider

สถาบันวิชาชีพของเอกชน Private Provider เปิดสอนในหลักสูตรวิชาชีพและการฝึกอบรม Vocational Education and Training (VET) เช่นเดียวกับสถาบัน TAFE เพียงแต่จะบริหารงานโดยภาคเอกชน อาจรวมถึงหน่วยงานอุตสาหกรรม ของบริษัทเอกชนด้วย จะมีหลักสูตรให้เลือกไม่เยอะเมื่อเทียบกับสถาบัน TAFE แต่จะมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านมากกว่า เช่น สถาบันที่สอนธุรกิจโดยตรง สถาบันที่สอนการบริการ การท่องเที่ยว และการโรงแรมโดยตรง สถาบันที่สอนเกี่ยวกับการออกแบบโดยตรง 

ข้อดีของสถาบันเอกชน Private Provider

  • อาจารย์ผู้สอนมีความชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และมีประสบการณ์ในการปฏิบัติงานจริง
  • คุณสมบัติการสมัครยืดหยุ่น แม้ว่าจะมีข้อกำหนดที่ชัดเจน แต่สถาบันวิชาชีพเอกชนจะมีความยืดหยุ่นกว่า มีหลักสูตรปรับพื้นฐานภาษาอังกฤษให้กับผู้ที่ไม่มีคะแนนภาษาอังกฤษ และอาจไม่จำเป็นต้องใช้ Portfolio ในการสมัครเรียน
  • ค่าธรรมเนียมถูกกว่าสถาบันวิชาชีพรัฐบาล สถาบันวิชาชีพเอกชนหลายๆ แห่ง มีค่าธรรมเนียมที่ถูกกว่าสถาบันวิชาชีพรัฐบาล TAFE และสามารถผ่อนชำระเป็นรายเดือนได้อีกด้วย
  • เน้นหลักสูตรเฉพาะด้าน สถาบันวิชาชีพของเอกชน ส่วนใหญ่แล้ว จะเป็นวิทยาเขตเล็กๆ แต่จะเน้นหลักสูตรเฉพาะด้าน และเชี่ยวชาญสาขาใดสาขาหนึ่ง เช่น Business, Creative arts, Natural health หรือ hospitality
  • อุปกรณ์การเรียนคุณภาพระดับพรีเมียม สถาบันการศึกษาเฉพาะทาง เช่น สถาบันสอนทำอาหาร จะใช้อุปกรณ์ทำครัวคุณภาพระดับพรีเมียม และวัตถุดิบเกรดที่สามารถใช้ประกอบอาหารในโรงแรม 5 ดาว จริงๆ เช่น พาร์ม่าแฮม เนื้อวากิว 5 A ซึ่งนำเข้าจากต่างประเทศโดยตรง หรือหลักสูตรเกี่ยวกับการผลิตภาพยนตร์ กล้อง และอุปกรณ์ต่างๆ ก็เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์จริงๆ 

ตัวอย่างสถาบันเอกชน Private Provider

Le Cordon Bleu Australia LCI Melbourne
Sarina Russo Institute
   

วีซ่านักเรียนออสเตรเลีย สามารถทำงานพาร์ทไทม์ได้ด้วย

สถานทูตออสเตรเลียอนุญาติให้ผู้ที่ถือวีซ่านักเรียน ทำงานพาร์ทไทม์ ได้ 40 ชั่วโมงต่อสองสัปดาห์ (40 Hours / Fortnights) และสามารถทำงานเต็มเวลา ในช่วงปิดภาคการศึกษา โดยค่าจ้างขั้นต่ำของประเทศอยู่ที่ 19.49 เหรียญต่อชั่วโมง (Update : 1 July 2019)

เงินจากการทำงานพาร์ทไทม์ สามารถนำไปจ่ายค่าเทอมได้หรือไม่?

การเรียนในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ Certificate หรือ Diploma ตอบโจทย์งบประมาณมากกว่าสำหรับนักศึกษาที่ต้องการเรียนด้วย และทำงานด้วยในออสเตรเลีย เพราะค่าเทอมที่ถูกกว่าการเรียนในระดับปริญญาตรี และสามารถแบ่งจ่ายเป็นรายเทอมย่อยๆ ได้ เริ่มต้นเทอมละ $1,200 หรือปีละ $6,000 เท่านั้น โดยถ้าหากได้รับค่าแรง $25 ต่อชั่วโมง จะมีรายได้ดังนี้

  • ใน 2 สัปดาห์ สามารถเก็บเงินได้ประมาณ 1,000 AUD หรือประมาณ 21,500 บาท
  • ใน 1 เดือน สามารถเก็บเงินได้ประมาณ 2,000 AUD หรือประมาณ 43,000 บาท
  • ใน 1 ปี สามารถเก็บเงินได้ประมาณ 24,000 AUD หรือประมาณ 516,000 บาท
  • หมายเหตุ: การประมาณดังกล่าว ยังไม่รวมช่วงปิดเทอม ที่สามารถทำงานได้แบบเต็มเวลา

บางหลักสูตร มีโปรแกรมฝึกงานด้วย

การทำงานพาร์ทไทม์ทั่วไปอาจจะไม่สามารถนำไปจ่ายค่าเทอมได้ 100% แต่การเรียนปริญญาตรี บางหลักสูตร จะมีโปรแกรมฝึกงานให้ด้วย  ซึ่งหมายความว่า น้องๆ มีสิทธิได้รับค่าตอบแทนจากการฝึกงานด้วย หากเลือกเรียนหลักสูตรปริญญาตรี ที่มีฝึกงานแบบได้ค่าตอบแทน (Paid Internship)

  • หลักสูตรฝึกงาน จะฝึกอย่างน้อยอย่างน้อย 600 ชั่วโมง (หรือ 1 เทอม) ค่าตอบแทนที่ได้รับ เฉลี่ยประมาณ $25 ต่อชั่วโมง ดังนั้น คุณจะสามารถได้รับค่าตอบแทนประมาณ $15,000 ต่อ 1 เทอม ซึ่งสามารถนำค่าตอบแทนส่วนนี้ ไปหักลบกับค่าเทอมได้

โดยทางสถาบันจะเป็นผู้จัดหาที่ฝึกงานให้ และผู้เรียนยังมีโอกาสได้รับค่าตอบแทนอีกด้วย นอกจากนี้ ในเทอมที่ฝึกงาน ไม่ต้องจ่ายค่าเทอม และรายได้ในการฝึกงาน สามารถนำไปจ่ายค่าเทอมได้ด้วย และชั่วโมงฝึกงานไม่รวมกับการทำงานพาร์ทไทม์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากทาง ศูนย์ฯ เดอะเบสท์ เพื่อขอคำแนะนำได้เลย

ยกตัวอย่างเช่น

  • สถาบัน Le Cordon Bleu สถาบันสอนศิลปะการทำอาหารแบบฝรั่งเศสแบบพรีเมียม มีโปรแกรมฝึกงานในโรงแรม หรือภัตรคารระดับ 5 ดาว วัตถุประสงเพื่อมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะการทำอาหาร เพิ่มความมั่นใจ และประสบการณ์ การทำงานในโรงแรม หรือภัตรคารระดับ 5 ดาว
  • สถาบัน Blue Mountain สถาบันที่โดดเด่นด้านการโรงแรมที่ได้รับการยอมรับในอุตสาหกรรมการบริการ ผู้เรียนจะมีโอกาสได้รับการฝึกงานในอุตสาหกรรมโรงแรมชั้นนำทั่วโลก เพื่อเพิ่มศักยภาพ และประสบการณ์การทำงาน และพร้อมเข้าสู่การเป็นผู้จัดการโรงแรมหลังสำเร็จการศึกษา

เรียน ทำงาน ออสเตรเลีย เมืองไหนดี?

  • เมืองซิดนีย์ Sydney เป็นเมืองที่ได้รับความนิยมในการเรียนต่ออันดับ 1 และ เป็นเมืองเศรษฐกิจอันดับ 1 ของประเทศออสเตรเลีย เป็นเมืองหลวงของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย มีประชากรมากว่า 5.23 ล้านคน เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในออสเตรเลีย และเป็นจุดหมายปลายทางแรกสำหรับนักเรียนต่างชาติ และนักท่องเที่ยว เมืองนี้ มีทุกอย่างที่ต้องการ ทั้งความบันเทิง ความสงบ ความปลอดภัย งานพาร์ทไทม์ และอัตราการจ้างงานหลังเรียนจบที่สูง คลิก เพื่อทำความรู้จักเมืองซิดนีย์
  • เมืองเมลเบิร์น Melbourne เป็นเมืองที่ได้รับเลือกให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก 7 ปีซ้อน (จากการจัดอันดับของ The Economist Intelligence Unit ตั้งแต่ปี 2011 – 2017 และในปี 2018 – 2019 อยู่ในอันดับ 2 รองจากกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย) เป็นเมืองหลวงของรัฐวิกตอเรีย และเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศออสเตรเลีย รองจากซิดนีย์ ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ มีประชากรประมาณ 3,806,092 คน  คลิก เพื่อทำความรู้จักเมืองเมลเบิร์น
  • เมืองบริสเบน Brisbane เป็นเมืองหลวงของรัฐควีนส์แลนด์ เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 รองจากซิดนีย์ และเมลเบิร์น ตั้งอยู่บนสองฝั่งของแม่น้ำบริสเบน ที่ไหลลงสู่อ่าวมอร์ตัน เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของออสเตรเลีย (รองจากซิดนีย์และเมลเบิร์น) และเป็นเมืองที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว เมืองบริสเบน ค่อนข้างเงียบสงบ ผ่อนคลาย แต่ก็แฝงด้วยชีวิตชีวา คลิก เพื่อทำความรู้จักเมืองบริสเบน
  • เมืองโกลดโคสต์ Gold Coast เป็นเมืองขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ในรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย และเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 6 ของออสเตรเลีย โดดเด่นด้วยสภาพอากาศที่สดใจ และทะเลที่สวยงาม นอกจากนี้ เมืองโกลด์โคสต์ ยังเป็นเมืองที่พัฒนาเร็วที่สุดในออสเตรเลียอีกด้วย คลิก เพื่อทำความรู้จักเมืองโกลด์โคสต์
  • เมืองเพิร์ท Perth เป็นเมืองหลวงของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ซึ่งเป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลีย กินพื้นที่ 1 ใน 3 ของทวีป  มีประชากรกว่า 2 ล้านคน เป็นเมืองหลวงที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับสี่ ในออสเตรเลีย ล้อมรอบด้วยสันเขาที่เรียกว่า Darling Scarp เป็นพื้นที่ราบลุ่ม มีแม่น้ำที่สำคัญสองสายได้แก่ แม่น้ำ Swan และ Canning สภาพภูมิอากาศส่วนใหญ่ จะเป็นภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน ได้รับสมญาณามให้เป็นเมืองที่สวยงามที่สุดในคาบมหาสมุทรอินเดีย มีชื่อเสียงในด้านอันยาวนานของแสงแดดท้องฟ้าสีครามและชายหาดสีขาวสดใส คลิก เพื่อทำความรู้จักเมืองเพิร์ท
  • เมืองแอดิเลด Adelaide แอดิเลดตั้งอยู่ในรัฐเซาท์ออสเตรเลีย เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของออสเตรเลีย และเป็นเมืองหลวงของรัฐเซาท์ออสเตรเลีย South Australia โดดเด่นในด้านวัฒนธรรม ความบันเทิง ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางตอนใต้ ใกล้กับชายหาดและเกาะที่สวยงาม เมืองนี้ยังอยู่ไม่ไกลจากเนิน Adelaide Hills ซึ่งเหมาะสำหรับการเดินป่า การขี่จักรยานชมสัตว์ป่า หรือใกล้กับไร่องุ่นที่ผลิตไวน์ชั้นยอด คลิก เพื่อทำความรู้จักเมืองแอดิเลด
  • เมืองดาร์วิน Darwin เป็นเมืองหลวงของรัฐนอร์ทเทอร์นเทริทอรี Northern Territory ได้รับสมญาณามว่าเป็นเมืองที่อยู่ ทางตอนเหนือสุด ของประเทศออสเตรเลีย ติดกับทะเลติมอร์ ทำให้เห็นวิวมหาสมุทรที่งดงาม สภาพภูมิประเทศของเมืองนี้มีหลากหลาย ตั้งแต่ ชายหาดที่สวยงาม หรือป่าดิบชื้น รวมถึงทุ่งหญ้าแบบทะเลทราย ที่นี่จึงมีพืชพรรณแปลกใหม่มากกว่า 4,300 สายพันธุ์ และสัตว์ท้องถิ่นแปลกๆ อีก 400 ชนิด คลิก เพื่อทำความรู้จักเมืองดาร์วิน

ติดต่อเดอะเบสท์เพื่อสอบถามข้อมูลการเรียนต่อต่างประเทศเพิ่มเติม

เดอะเบสท์ เป็นศูนย์บริการให้คำปรึกษาเรียนต่อต่างประเทศครบวงจร เราเป็นตัวแทนที่ให้บริการแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และ ประเทศอื่นๆ อีก 25 ประเทศทั่วโลก เรายินดีให้ความช่วยเหลือตั้งแต่เริ่มสมัครเรียน จนสำเร็จการศึกษา รวมถึงดูแลนักเรียนระหว่างเรียนจนนักเรียนเรียนจบด้วยทีมผู้เชียวชาญในด้านการเรียนต่อต่างประเทศ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ขั้นตอนเหล่านี้เราดำเนินการให้ฟรี และเราพร้อมที่จะทำตามคุณภาพ และมาตรฐานดังสโลแกนที่ว่า “We are Quality”

บริการของเรามีอะไรบ้าง ?

  • ฟรี!! บริการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเรียนต่อต่างประเทศทุกระดับชั้นทั่วโลก ตั้งแต่ โรงเรียนประถม โรงเรียนมัธยม สถาบันวิชาชีพ และสถาบันในระดับอุดมศึกษา รวมถึงหลักสูตรภาษาต่างประเทศ และเลือกสถาบันที่ดีที่สุดให้กับผู้เรียน
  • เราให้ความช่วยเหลือตั้งแต่การประสานงานโรงเรียน เลือกโรงเรียนให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียน เตรียมเอกสารสมัครเรียน และดำเนินเรื่องสมัครเรียนให้ฟรี
  • บริการเตรียมเอกสารยื่นวีซ่าครบวงจร และบริการยื่นวีซ่ากว่า 25 ประเทศทั่วโลก พร้อมวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าอย่างตรงจุด และแนะนำวิธีการเตรียมตัวในการสัมภาษณ์วีซ่า 
  • บริการแปลเอกสาร ภาษาไทย – ภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาอังกฤษ – ภาษาไทย รวมถึงภาษาที่ 3 เริ่มต้นเพียงแผ่นละ 200 บาท
  • เดอะเบสท์ เป็นตัวแทนรับสมัครสอบ IELTS IDP อย่างเป็นทางการ พร้อมให้คำแนะนำ และนัดวันสอบให้โดยน้องๆ ไม่ต้องเสียเวลาสมัครเอง สมัครสอบได้ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
  • บริการซื้อประกันภัยการเดินทางและประกันสุขภาพนักเรียนต่างชาติ จากบริษัทประกันชั้นนำ MSIG, NIB, Allianz, Orbit และอื่นๆ
  • บริการจองตั๋วเครื่องบิน ทุกสายการบิน และประสานงานกับสถาบันเกี่ยวกับรถรับ – ส่ง สนามบิน
  • บริการจัดหาที่พักทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นโฮมสเตย์ อพาร์ทเม้น หรือหอพักนักศึกษา จัดหาให้ตามความต้องการส่วนบุคคล

 

 

“เรายินดีที่จะดูแลนักเรียนทุกคน ตั้งแต่เริ่มต้นจนนักเรียนสำเร็จการศึกษา และทำให้การเรียนต่อของคุณเป็นเรื่องง่าย ” สอบถามข้อมูลการบริการเพิ่มเติมติดต่อ
โทร : 090-327 3558088-269 5099
Email :contact@thebest-edu.com
Line : @thebestedu หรือคลิกเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ

เพิ่มเพื่อน

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.