สารบัญบทความ
เรียนต่อสถาบัน Crown College International เมลเบิร์น ออสเตรเลีย
Crown College International เป็นส่วนหนึ่งของรีสอร์ทสุดหรู Crown Resorts ที่ดำเนินกิจการในประเทศออสเตรเลียและอังกฤษ อยู่ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการโรงแรมเป็นเวลายาวนานกว่า 23 ปี ได้รับรางวัลมากมายในออสเตรเลีย เป็นหนึ่งในสถาบันสอนการทำอาหารที่ประสบความสำเร็จการที่สุด ทุกหลักสูตรใหม่ล่าสุด รวมถึงอุปกรณ์การเรียนทันสมัย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทันสมัย นับตั้งแต่เปิดทำการในปี 1996 มีนักศึกษาที่ประสบความสำเร็จมากกว่า 8,250 คน ทุกคน เพียบพร้อมในทักษะอาชีพ ดังนั้นเมื่อสำเร็จวุฒิการศึกษาที่ Crown College International จะมั่นใจได้ว่าจะได้รับทักษะและความรู้ที่จำเป็นต่อการทำงาน และเป็นที่ต้องการของนายจ้างในอุตสาหกรรมระดับโลก
ทำไมควรเลือกเรียนที่ Crown College International
- ในปี 2015 Crown College International กลายเป็นองค์กรฝึกอบรมที่จดทะเบียนเพียงแห่งเดียวในรัฐวิกตอเรียที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหอเกียรติยศแห่งการท่องเที่ยววิกตอเรียในหมวดการศึกษาและการฝึกอบรมด้านการท่องเที่ยว
- Crown Resorts เป็นเครือรีสอร์ทเดียวที่ได้รับรางวัล Australian Training Award’s Employer of the Year มากกว่าหนึ่งครั้ง ได้รับรางวัลจากรัฐบาลออสเตรเลีย รางวัลนี้ได้รับรางวัลจาก Crown Melbourne ในปี 2010 และ 2013 และโดย Crown Perth ในปี 2015
- Crown College International เป็นผู้นำที่ได้รับรางวัลในด้านการออกแบบ พัฒนา และเปิดสอนหลักสูตรที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยกำหนดมาตรฐานระดับสูงสำหรับการฝึกอบรมในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการโรงแรม
- มี Job Club เพื่อช่วยให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ ในการหางานทั้งงานนอกเวลา และงานเต็มเวลา โดยแนะนำการเขียน Resume/ CV สำหรับสมัครงาน การเตรียมตัวสัมภาษณ์งาน รวมถึงแนวทางการหางาน
- ผู้ฝึกสอนที่มีคุณสมบัติเหมาะสม มีประสบการณ์หลายปีในการจัดหาการเรียนรู้ที่มีคุณภาพและเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านการท่องเที่ยว การโรงแรม และความเป็นผู้นำ เน้นวิธีการเรียนรู้แนวปฏิบัติที่ดีที่สุดตลอดจนรูปแบบการสอนที่น่าสนใจและยืดหยุ่น
- โซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมและใช้งานได้จริง เราพัฒนาและนำเสนอโปรแกรมการเรียนรู้ที่เป็นนวัตกรรมและใช้งานได้จริงและโซลูชั่นที่เติมเต็มความต้องการของนักเรียนและอุตสาหกรรม
รางวัลการันตีความสำเร็จ
ปี | รางวัล |
Awarded by |
2019 | Best Culinary Student |
AusTAFE competition |
2019 | Best Culinary Student |
VicTAFE competition |
2019 | Hall of Fame Tourism Education and Traning |
Tourism Western Australia |
2017 | Training Magazine Top 125 – Crown Resorts |
Ranked 40th in the Top 125 Organisations in the world for learning and development |
2017 | Moulis Legal Award for Diversity – Crown Resort |
Australian Property Council |
2017 | Training Excellence |
TAA (Vic) Accommodation Awards for Excellence |
2016 | Gold Excellence in Learning Best Strategy for a Corporate Learning University |
Brandon Hall Group Human Capital Management Excellence Awards |
2015 | Hall of Fame Tourism Education and Traning |
Tourism Victoria |
2015 | Best Unique or Innovative Learning and Development Program |
Bradon Hall Group Human Capital Management Excellence Awards |
Crown College International ตั้งอยู่ในโรงแรม Crown Metropol ที่หรูหรา
Crown College International ตั้งอยู่ชั้นที่สามใน Crown Metropol ซึ่งเป็นโรงแรมที่เพิ่งสร้างล่าสุดของ Crown ใน Southbank ริม CBD ของเมลเบิร์น ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงแรมที่ได้รับรางวัลของ Crown Resorts ลงทุนกว่า 10 ล้านดอลลาร์เพื่อสร้าง Crown College (ออกแบบโดยหนึ่งในบริษัทสถาปัตยกรรมชั้นนำของเมลเบิร์น) ติดกับย่านบันเทิงที่เจริญรุ่งเรืองของเมลเบิร์น รวมถึงย่านศิลปะและกีฬาอันตระการตา สถาบันตั้งอยู่ในระยะที่สามารถเดินได้จากสถานีรถไฟหลักสองแห่งของเมลเบิร์น คือสถานี Southern Cross และ Flinders Street และมีป้ายรถรางอยู่ด้านนอกทางเข้าหลักของ Crown นอกจากนี้ ยังรายล้อมด้วยซูเปอร์มาร์เก็ต พิพิธภัณฑ์ แกลเลอรี่ แหล่งช้อปปิ้ง (รวมถึงตลาด South Melbourne Market ที่มีชื่อเสียง) และแม่น้ำยาร์ราอันเป็นสัญลักษณ์
Crown College International เป็นสถานที่ฝึกอบรมที่ทันสมัย สว่างสดใส และมีอุปกรณ์ครบครันใน จัดเตรียมพื้นที่ฝึกอบรมแต่ละแห่งตามวัตถุประสงค์ และทำให้แน่ใจว่าสิ่งอำนวยความสะดวกนั้นตอบสนองความต้องการของนักเรียนและผู้ฝึกสอน ประกอบด้วยห้องครัวของนักเรียนห้องฝึกอบรมทั่วไป 6 ห้อง ห้องเรียนรู้คอมพิวเตอร์ 2 ห้องพร้อมคอมพิวเตอร์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต 28 เครื่อง Culinarium ห้องฝึกประกอบอาหารและบาร์สำหรับฝึกหัด พร้อมห้องครัวที่ทันสมัยที่สุด 2 ห้องพื้นที่ฝึกอบรมผู้เชี่ยวชาญ 3 แห่ง ห้องประชุม 70 ที่นั่ง และห้องประชุมส่วนตัว 4 ห้องสำหรับการฝึกสอนและการประชุมส่วนตัว มีสภาพแวดล้อมที่เป็นกันเองสำหรับทุกคน
Location: 8 Whiteman St, Southbank VIC 3006 ออสเตรเลีย
หลักสูตรคุณภาพสูง นำไปสู่ความสำเร็จในอาชีพ
หลักสูตรของเราได้รับการพัฒนาโดยเผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาและอุตสาหกรรมเพื่อให้แน่ใจว่าคุณมีทักษะและความรู้ที่จำเป็นสำหรับอาชีพในครัว และการโรงแรมและการท่องเที่ยว แต่ละหลักสูตรใช้วิธีการและรูปแบบการเรียนรู้และการประเมินที่แตกต่างกันมาก เช่น การเรียนรู้ในห้องเรียน เวิร์คช็อป การทัศนศึกษา โครงการและกิจกรรมกลุ่มและรายบุคคล แบบทดสอบและฟอรัมบนอินเทอร์เน็ต ประสบการณ์ในการทำงาน การจำลองและการทำงานจริง สิ่งแวดล้อม และการวิจัย และอื่นๆ อีกมากมาย เมื่อสำเร็จการศึกษาจะได้รับวุฒิการศึกษาที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากลและให้เส้นทางสู่การศึกษาต่อ
หลักสูตรที่เปิดสอนที่ Crown College เป็นหลักสูตรระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ หรือที่หลายๆ คนเข้าใจว่าหลักสูตรดิปโพลมา หากยังไม่รู้จักหลักสูตรดิปโพลมาออสเตรเลีย สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บทความ หลักสูตร CERTIFICATE DIPLOMA คืออะไร บทความนี้มีคำตอบ
Commercial Cookery
CERTIFICATE III IN Commercial COOKERY
หลักสูตรนี้ จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับทักษะการประกอบอาหารขั้นพื้นฐานทั้งหมด ตั้งแต่สุขอาณามัยในการทำงาน ความปลอดภัย การใช้อุปกรณ์ การเตรียมวัตถุดิบเนื้อสัตว์ อาหารทะเล การเตรียมน้ำสต็อก ซอส และซุป การเตรียมสลัดผัก ผลไม้ และไข่ การจัดจานและการเสิร์ฟ นอกจากนี้ ยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทำขนมปัง ขนมอบ และเค้ก อีกด้วย
Certificate IV in Commercial Cookery
หลักสูตรนี้จะช่วยให้มีความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับความเป็นผู้นำในห้องครัว การบริหารเงินและวัตถุดิบ การจัดการทีม การจัดการด้านสุขภาพและความปลอดภัยในห้องครัว และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการพัฒนาเมนูอาหารสำหรับจานพิเศษ เพื่อให้มีบทบาทความเป็นผู้นำในห้องครัวของภัตราคาร โดยหลักสูตรนี้ ผู้เรียนจะต้องสำเร็จการศึกษาในหลักสูตร Certificate III in Commercial Cookery ก่อน
Patisserie
Certificate III in Patisserie
หลักสูตรวิชาชีพ การทำขนมหวาน ขนมอบ และขนมปังขั้นพื้นฐาน เรียนรู้การทำเค้กหลากหลายชนิด รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากกลูเตน การทำแป้งโดขนมปังต่างๆ เช่น ขนมปังขาว ขนมปังโฮวีต ขนมหวาน การทำเค้ก การผลิต Gateaux และ Petit Fours โดยใช้เทคนิคและทักษะต่างๆ เพื่อเป็นเส้นทางสู่การทำงานในสายงานขนมอบ ร้านทำขนม ร้านอาหาร โรงแรม การจัดเลี้ยง คลับ ผับ บาร์และคาเฟ่
Certificate IV in Patisserie
หลักสูตรวิชาชีพการทำขนมหวาน ขนมปัง และขนมอบ จะต่อยอดจากหลักสูตร Certificate III in Patisserie หลักสูตรนี้จะเจาะลึกในด้านของการทำขนมหวานขั้นสูง เช่น การสร้างแบบจำลองมาร์ซิปัน การทำชอคโกแลต การตกแต่งขนมหวานโดยใช้น้ำตาล การออกแบบและผลิตไลน์บุฟเฟต์ขนมหวาน การบริหารวัตถุดิบและงบประมาณ รวมถึงการเป็นผู้นำ เหมาะสำหรับผู้ที่อยากเปิดร้านขนมหวาน
Hospitality Management
Diploma of Hospitality Management
หลักสูตรนี้ จะเน้นการบริหารด้านการโรงแรมเป็นหลัก โดยเน้นเชี่ยวชาญด้านอาหาร การจัดเลี้ยง คลับ ผับ คาเฟ่ และร้านกาแฟในโรงแรม หลักสูตรนี้จะต่อยอดจาก Certificate IV in Commercial Cookery หรือ Certificate IV in Patisserie โดยจะยกระดับประสบการณ์การบริการลูกค้า ดำเนินการธุรกิจ พัฒนาและจัดการแนวทางการบริการลูกค้าให้มีคุณภาพ รวมถึงตรวจสอบงบประมาณ และจัดทำแผนการปฏิบัติงาน
Advanced Diploma of Hospitality Management
หลักสูตรประกาศนียบัตริวิชาชีพขั้นสูงด้านการโรงแรม จะต่อยอดจากหลักสูตร Diploma of Hospitality Management หลักสูตรนี้จะเรียนรู้การวางแผนธุรกิจ การจัดการ การเงิน การจัดการทรัพยากรบุคคล การตลาด ติดตามผลการปฏิบัติงานของพนักงาน จัดทำและบำรุงรักษาระบบอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน พัฒนาและดำเนินการตามแผนธุรกิจ และขยายขอบเขตการบริหารให้ลึกซึ้ง และมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อความพร้อมในตำแหน่งผู้จัดการ หรือดำเนินธุรกิจของตนเอง
สมัครเรียนแบบ Package วีซ่ายาว 2.5 ปี พร้อมทุนการศึกษากว่า $7,000 (แบ่งจ่ายค่าเรียนได้)
คุณสมบัติการสมัครเรียน
ในการลงทะเบียนเรียนในหลักสูตรใดหลักสูตรหนึ่ง ต้องมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ทั้งสองข้อต่อไปนี้
ระดับการศึกษาหรือประสบการณ์การทำงาน
- สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6
- สามารถสมัครโดยพิจารณาจากประสบการณ์การทำงานที่เกี่ยวข้องได้
ความสามารถทางภาษาอังกฤษ
- สำหรับการเข้าสู่หลักสูตรทั้งหมด คุณสำเร็จระดับ IELTS 5.5 (หรือสูงกว่า)
วันเปิดเรียน
2022 วันเปิดเรียน
เทอม |
วันเริ่มการเศึกษา | วันสุดท้ายของภาคการศึกษา | ระยะเวลาเรียน |
1 |
17 มกราคม | 27 มีนาคม | 10 สัปดาห์ |
2 |
11 เมษายน | 19 มิถุนายน | 10 สัปดาห์ |
3 |
4 กรกฎาคม | 11 กันยายน | 10 สัปดาห์ |
4 |
26 กันยายน | 4 ธันวาคม | 10 สัปดาห์ |
2023 วันเปิดเรียน
เทอม |
วันเริ่มการเศึกษา | วันสุดท้ายของภาคการศึกษา | ระยะเวลาเรียน |
1 |
23 มกราคม | 2 เมษายน | 10 สัปดาห์ |
2 |
17 เมษายน | 25 มิถุนายน | 10 สัปดาห์ |
3 |
10 กรกฎาคม | 17 กันยายน | 10 สัปดาห์ |
4 |
2 ตุลาคม | 10 ธันวาคม | 10 สัปดาห์ |
วางแผนเรียนต่อออสเตรเลีย เตรียมตัวอย่างไรดี?
- เราสามารถยื่นใบสมัครเรียนล่วงหน้าได้เลย เลือกช่วงเวลาเปิดเรียนตามที่ต้องการ และส่งเอกสารให้กับทางศูนย์ฯ เดอะเบสท์ เพื่อดำเนินการสมัครเรียนได้เลย
- การเตรียมเอกสารยื่นวีซ่า ใช้เวลาประมาณ 2 – 4 สัปดาห์แล้วแต่ความพร้อมของเอกสาร
- เมื่อยื่นวีซ่าแล้วระยะเวลาในการพิจารณาวีซ่า ปกติประมาณ 30 วันทำการ นับถัดจากวันที่ยื่น เร็วสุดที่ 10-20 วันทำการขึ้นอยู่กับสถานทูต
- เราสามารถยื่นวีซ่าก่อนวันเริ่มเรียนได้ 3 เดือน เมื่อวีซ่าผ่านแล้วสามารถเดินทางได้เลย
- ศูนย์ฯ เดอะเบสท์ แนะนำให้ติดต่อล่วงหน้าประมาณ 3 – 4 เดือนก่อน วันที่อยากเริ่มเรียน จะดีที่สุด
เรียนต่อออสเตรเลีย สามารถทำงานพาร์ทไทม์ได้ด้วย
อย่างที่ทราบกันว่า วีซ่านักเรียนประเทศออสเตรเลีย ทางสถานทูต อนุญาต ให้ทำงานพาร์ทไทม์ได้ แต่อย่างไรก็ตาม ควรต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า วีซ่าของคุณอนุญาต ให้ทำงานพาร์ททามระหว่างเรียนได้ นอกจากนี้ การทำงานพาร์ทนอกจากจะช่วยเหลือค่าใช้จ่ายบางส่วนในช่วงที่กำลังศึกษาอยู่ที่ออสเตรเลีย ยังช่วยเติมเต็มประสบการณ์ชีวิตในต่างแดนอีกด้วย
สถานทูตออสเตรเลียอนุญาตให้ผู้ที่ถือวีซ่านักเรียน ทำงานพาร์ทไทม์ ได้ 40 ชั่วโมงต่อสองสัปดาห์ (40 Hours / Fortnights) และสามารถทำงานเต็มเวลา ในช่วงปิดภาคการศึกษา คลิก เพื่อศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานพาร์ทไทม์ ประเทศออสเตเรลีย
ทำความรู้จักกับเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย MELBOURNE, Austrlaia
เมลเบิร์น Melbourne เป็นเมืองที่ได้รับเลือกให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก 7 ปีซ้อน (จากการจัดอันดับของ The Economist Intelligence Unit ตั้งแต่ปี 2011 – 2017 และในปี 2018 – 2019 อยู่ในอันดับ 2 รองจากกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย) เป็นเมืองหลวงของรัฐวิกตอเรีย และเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศออสเตรเลีย รองจากซิดนีย์ ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ มีประชากรประมาณ 3,806,092 คน
เมลเบิร์นเป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม เรียกได้ว่า เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมของออสเตรเลีย ในอดีต เมืองเมลเบิร์นเคยเป็นเมืองหลวงของออสเตรเลีย ประชากรเป็นมิตร ให้การต้อนรับชาวต่างชาติอย่างดี นอกจากนี้ เมืองเมลเบิร์น ยังเป็นแหล่งรวมแฟชั่นชั้นนำจากทั่วโลกอีกด้วย
ทำไมต้องมาเรียนที่เมืองเมลเบิร์น
- เมลเบิร์นได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองน่าอยู่อันดับ 1 ของโลก อย่างต่อเนื่อง 7 ปีซ้อน ในปี 2012 – 2018 และในปี 2019 เมลเบิร์นได้คะแนนความน่าอยู่จาก Economist Intelligence Unit 98.4 คะแนน สำหรับการดูแลสุขภาพ การศึกษา โครงสร้างพื้นฐาน และความมั่นคง อยู่ที่ 95 คะแนน และวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมอยู่ที่ 98.6 คะแนน จาก 100 คะแนน ซึ่งแสดงถึงความปลอดภัย อัตราการเกิดอาชญากรรมต่ำ ภัยคุกคามที่ลดลง และความมั่นคงของเมือง
- มหาวิทยาลัยทุกแห่งในเมลเบิร์นทุกแห่ง อยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น University of Melbourne เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของออสเตรเลีย อยู่ในอันดับ 3 ในเอเชียแปซิฟิก และอยู่อันดับที่ 38 ของโลก (จากการจัดอันดับของ QS Global World Ranking 2020) ครอบคลุมทุกหลักสูตร ทุกสาขาวิชา นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยทุกแห่งในเมลเบิร์นได้รับการจัดอันดับให้อยู่ “เหนือมาตรฐานโลก” จาก 96 สาขาวิชาในการจัดอันดับ Excellence in Research Australia (ERA)
- เมลเบิร์น เป็นหนึ่งในศูนย์การศึกษาและการวิจัยชั้นนำระดับโลก ให้การศึกษา การวิจัย และการฝึกอบรมที่หลากหลาย รวมถึงสร้างพื้นฐานการวิจัยที่ล้ำสมัย ด้วยระบบเทคโนโลยี และนวัตกรรมชั้นสูง จึงทำให้ผลงานวิจัยอยู่ในอันดับที่สูงกว่ามาตรฐานโลกในหลายๆ ด้าน
- เมลเบิร์นเป็นศูนย์กลางการวิจัยและพัฒนาระดับโลก สำหรับการทดลองทางเทคโนโลยีชีวภาพ และการวิจัยทางการแพทย์ เป็นหนึ่งในกลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพชั้นนำของโลก ที่ผลิตงานวิจัยชั้นนำระดับโลก โดยมีมหาวิทยาลัย สถาบัน โรงพยาบาลและนักวิจัยอุตสาหกรรม ที่ทำงานร่วมกัน และสนับสนุนโดยแพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่มีชื่อเสียงระดับโลก อุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ของวิคตอเรีย ความเป็นเลิศด้านการวิจัยและพัฒนา โดยได้รับการสนับสนุนจากการลงทุนของรัฐบาลวิคตอเรีย
- เมลเบิร์น รวมถึงเมืองในรัฐวิคตอเรีย ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในเมืองที่มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมากที่สุดในออสเตรเลีย อยู่ในอันดับที่สูงกว่ากรุงโซล และเซินเจิ้น ที่เป็นเมืองหลวงด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีของประเทศเกาหลีใต้ และประเทศจีน
- เมลเบิร์นมีกลุ่มวิจัยและพัฒนาด้าน ICT ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของซีกโลกใต้ ผลิตงานวิจัยชั้นนำระดับโลก และเป็นเมืองหลวงของเทคโนโลยี มีบริษัท ICT กว่า 8,000 บริษัท ตั้งอยู่ในเมืองเมลเบิร์นและรัฐวิคตอเรีย เช่น IBM, Microsoft, HP, Motorola, NEC, Ericsson, EMC, Cisco, Intel, Thales, Fujitsu, Hitachi และ Bosch รวมถึงสถาบันวิจัยเทคโนโลยีระดับโลก
ค่าครองชีพในเมลเบิร์น
รายการ |
ประมาณการค่าใช้จ่ายต่อสัปดาห์ | ประมาณการค่าใช้จ่ายต่อเดือน |
ค่าที่พัก |
243 AUD |
972 AUD |
ค่าโดยสารสาธารณะ |
38 AUD |
184 AUD |
ค่าอาหาร |
182 AUD |
728 AUD |
ค่าอำนวยความสะดวกอื่นๆ |
18 AUD |
70 AUD |
รวมค่าใช้จ่าย |
481 AUD |
1,954 AUD (ประมาณ 44,940 บาท) |
ประมาณค่าครองชีพข้างต้น เป็นเพียงการคำนวณจากเฉลี่ยของค่าใช้จ่ายของประชากรในเมืองเมลเบิร์นเท่านั้น ซึ่งในความเป็นจริง ค่าใช้จ่ายอาจจะน้อยกว่า หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับไลฟสไตล์ส่วนตัว คลิก เพื่อคำนวณค่าครองชีพตามไลฟสไตล์ส่วนตัว
ที่พักในเมลเบิร์น
หากกำลังเลือกที่พักในเมืองเมลเบิร์น สิ่งที่ควรพิจารณาอันดับแรกคือ ตำแหน่งที่ตั้ง หลายๆ คนเลือกที่พักที่อยู่ใจกลางเมืองเนื่องจากเดินทางสะดวก และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน หรือนักเรียน นักศึกษามักจะเลือกที่พักใกล้กับสถานที่เรียน หรือเลือกที่พักแบบหอพักของมหาวิทยาลัย แต่ถ้าหากต้องการที่พักที่ราคาถูกลง อาจจะลองมองหาที่พักนอกตัวเมือง โดยให้เลือกที่พักใกล้กับสถานีรถไฟที่สามารถเดินทางเข้าเมืองได้สะดวก กรณีที่ไม่มีรถส่วนตัว
ข้อพิจารณาอื่นๆ ในการเลือกที่พัก
- การเดินทาง เมืองเมลเบิร์น เป็นเมืองที่มีระบบขนส่งสาธารณะที่ล้ำสมัยที่สุดในออสเตรเลีย ไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทางเข้าในเมือง ย่านธุรกิจ หรือย่านชานเมือง
- ความปลอดภัย เมืองเมลเบิร์น ติดอันดับเมืองที่ปลอดภัยที่สุดในโลก กฏหมายในรัฐวิคตอเรียปกป้องสิทธิและเสรีภาพ ดังนั้น มั่นใจได้เลยว่า ทุกพื้นที่ของเมลเบิร์นมีความปลอดภัย แต่อย่างไรก็ตาม ควรระวังตัวอยู่ตลอดเวลา และมองหาสถานีตำรวจทุกครั้งเมื่อไปในพื้นที่ ที่ไม่คุ้นเคย
ประเภทที่พักที่ควรพิจารณา
- หอพักของมหาวิทยาลัย หากเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัย โดยปกติ มหาวิทยาลัยทุกแห่งของเมลเบิร์น มีหอพักสำหรับนักศึกษาอยู่แล้ว แต่ค่าใช้จ่ายอาจจะสูงกว่าที่พักประเภทอื่นๆ เนื่องจาก ผู้เข้าพัก จะได้ใช้สิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างของมหาวิทยาลัยด้วย เช่น สนามกีฬา โรงยิม สระว่ายน้ำ เป็นต้น
- ที่พักแบบแชร์ หากมีเพื่อนหรือครอบครัวที่อาศัยอยู่ในเมลเบิร์น การเลือกแชร์ที่พักจะช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายเกือบครึ่งหนึ่งของค่าครองชีพเลยทีเดียว
- พักกับโฮมสเตย์ ที่พักประเภทนี้ เหมาะสำหรับนักเรียนที่ต้องการคนท้องถิ่นช่วยดูแล หรือผู้ที่อยากฝึกทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ โดยการพักแบบโฮมสเตย์มีความเพียบพร้อมทั้งเฟอร์นิเจอร์ อาหาร 2 – 3 มื้อต่อวัน และไม่ต้องกังวลเรื่องบิลค่าสาธารณูปโภค แต่ข้อเสียคืออยู่ไกลจากตัวเมืองมากกว่าที่พักประเภทอื่นๆ
- Regional Centres หากเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยที่มีวิทยาเขตในชนบท บางแห่ง สนับสนุนที่พักให้นักศึกษาฟรี ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายลงอย่างมาก
โซนที่พักที่แนะนำ ในเมลเบิร์น
- Melbourne CBD ย่านธุรกิจใจกลางเมืองเมลเบิร์น เป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุด เหมาะสำหรับการท่องเที่ยว หรือนักเรียนที่เคยมาเมลเบิร์นครั้งแรก
- ST KILDA หากใครที่ชื่นชอบทะเล ย่าน ST Kilda เหมาะอย่างมาก ย่านนี้ มีชื่อเสียงด้วยทิวทัศน์พระอาทิตย์ตกที่สวยงาม เหมาะสำหรับไปพักผ่อนหย่อนใจ
- FITZROY ย่านที่ทันสมัยที่สุดในเมลเบิร์น มีการผสมผสานระหว่างร้านกาแฟ ร้านเสื้อผ้าแนววินเทจ ร้านอาหาร และราคาไม่แพง
- HAWTHORN ย่านชานเมือง ที่ห่างจากตัวเมือง 6 กิโลเมตร เป็นย่านที่เรียงรายด้วยร้านอาหาร และภัตราคารคุณภาพสูง เป็นอีกย่านหนึ่งที่นักศึกษานิยมพักอาศัย
- PRAHRAN AND WINDSOR เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของเหล้าองุ่นคุณภาพสูง รวมถึงร้านอาหาร และร้านกาแฟที่คัดสรรมาอย่างดี
- BRUNSWICK ย่านสุดอินดี้ เป็นที่ชื่นชอบทั้งคนในเมลเบิร์น และนักท่องเที่ยว เป็นย่านที่อาหารมีราคาถูก ผู้คนยิ้มแย้มแจ่มใส ทักทายกันเหมือนเป็นเพื่อนกันทั้งหมด
- COLLINGWOOD ย่านชานเมืองอีกแห่งหนึ่ง ที่อยู่ไม่ไกลจากย่านธุรกิจ เป็นย่านที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงาม
เมลเบิร์น เป็นเมืองหลวงของรัฐวิคตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัย และสถาบันวิจัยระดับโลก เหมาะสำหรับการเรียนในระดับปริญญาตรี และวิชาชีพ รวมถึงเรียนภาษาด้วย ผู้คนในเมลเบิร์น เป็นมิตร ให้การต้อนรับนักเรียน นักศึกษาต่างชาติเป็นอย่างดี ความปลอดภัยสูง ค่าครองชีพที่สมเหตุสมผล จนได้รับการขนานนามให้เป็น เมืองที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในออสเตรเลีย หากต้องการทำความรู้จักกับเมืองเมลเบิร์นเพิ่มเติม สามารถอ่านต่อได้ที่บทความ เรียนต่อออสเตรเลีย | ทำความรู้จักกับ เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย เมืองที่ได้รับเลือกให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก 7 ปีซ้อน
ติดต่อเดอะเบสท์เพื่อสอบถามข้อมูลการเรียนต่อต่างประเทศเพิ่มเติม
เดอะเบสท์ เป็นศูนย์บริการให้คำปรึกษาเรียนต่อต่างประเทศครบวงจร เราเป็นตัวแทนที่ให้บริการแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และ ประเทศอื่นๆ อีก 25 ประเทศทั่วโลก เรายินดีให้ความช่วยเหลือตั้งแต่เริ่มสมัครเรียน จนสำเร็จการศึกษา รวมถึงดูแลนักเรียนระหว่างเรียนจนนักเรียนเรียนจบด้วยทีมผู้เชียวชาญในด้านการเรียนต่อต่างประเทศ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ขั้นตอนเหล่านี้เราดำเนินการให้ฟรี และเราพร้อมที่จะทำตามคุณภาพ และมาตรฐานดังสโลแกนที่ว่า “We are Quality”
บริการของเรามีอะไรบ้าง ?
- ฟรี!! บริการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเรียนต่อต่างประเทศทุกระดับชั้นทั่วโลก ตั้งแต่ โรงเรียนประถม โรงเรียนมัธยม สถาบันวิชาชีพ และสถาบันในระดับอุดมศึกษา รวมถึงหลักสูตรภาษาต่างประเทศ และเลือกสถาบันที่ดีที่สุดให้กับผู้เรียน
- เราให้ความช่วยเหลือตั้งแต่การประสานงานโรงเรียน เลือกโรงเรียนให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียน เตรียมเอกสารสมัครเรียน และดำเนินเรื่องสมัครเรียนให้ฟรี
- บริการเตรียมเอกสารยื่นวีซ่าครบวงจร และบริการยื่นวีซ่ากว่า 25 ประเทศทั่วโลก พร้อมวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าอย่างตรงจุด และแนะนำวิธีการเตรียมตัวในการสัมภาษณ์วีซ่า
- บริการแปลเอกสาร ภาษาไทย – ภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาอังกฤษ – ภาษาไทย รวมถึงภาษาที่ 3 เริ่มต้นเพียงแผ่นละ 200 บาท
- เดอะเบสท์ เป็นตัวแทนรับสมัครสอบ IELTS IDP อย่างเป็นทางการ พร้อมให้คำแนะนำ และนัดวันสอบให้โดยน้องๆ ไม่ต้องเสียเวลาสมัครเอง สมัครสอบได้ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
- บริการซื้อประกันภัยการเดินทางและประกันสุขภาพนักเรียนต่างชาติ จากบริษัทประกันชั้นนำ MSIG, NIB, Allianz, Orbit และอื่นๆ
- บริการจองตั๋วเครื่องบิน ทุกสายการบิน และประสานงานกับสถาบันเกี่ยวกับรถรับ – ส่ง สนามบิน
- บริการจัดหาที่พักทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นโฮมสเตย์ อพาร์ทเม้น หรือหอพักนักศึกษา จัดหาให้ตามความต้องการส่วนบุคคล
“เรายินดีที่จะดูแลนักเรียนทุกคน ตั้งแต่เริ่มต้นจนนักเรียนสำเร็จการศึกษา และทำให้การเรียนต่อของคุณเป็นเรื่องง่าย ” สอบถามข้อมูลการบริการเพิ่มเติมติดต่อ
โทร : 090-327 3558, 088-269 5099
Email :contact@thebest-edu.com
Line : @thebestedu หรือคลิกเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.