Last updated มิถุนายน 9, 2025 ago by Thebestedu
การเดินทางไปต่างประเทศ สำหรับเด็กอายุ 5 – 17 ปี
ผู้ปกครองหลายๆ ท่าน อาจจะเป็นห่วงเกี่ยวกับการเดินทางของผู้โดยสารที่เป็นเด็ก ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว สายการบินจะอนุญาติให้เด็กอายุตั้งแต่ 5 – 17 ปี สามารถเดินทางคนเดียวได้ โดยบริการพิเศษจากสายการบิน Unaccompanied Minor ซึ่งจะดูแลเด็กนักเรียนตั้งแต่ รับส่งจากสนามบิน คอย บริการตอนอยู่บนเครื่องบิน และ รับส่งถึงมือญาติหรือ Host ที่รอรับที่ต่างประเทศ
เรียนต่อต่างประเทศ | วิธีการขอหนังสือเดินทาง (PASSPORT) สำหรับเด็กอายุไม่ถึง 20 ปี คลิกอ่านเพิ่มเติม
Unaccompanied Minor คืออะไร ?
Unaccompanied Minor หมายถึงผู้โดยสารของสายการบินที่มีอายุระหว่าง 5 – 17 ปี (บางสายการบินอาจจะกำหนดตั้งแต่อายุ 5 – 14) ที่เดินทางคนเดียวโดยไม่มีผู้ปกครองผู้ปกครองหรือผู้ใหญ่ที่รับผิดชอบ แต่ทั้งนี้ บางสายการบิน ก็ไม่อนุญาตให้ผู้เยาว์เดินทางโดยไม่มีผู้ปกครองเดินทางด้วย ดังนั้น ผู้ปกครองควรติดต่อกับสายการบิน เพื่อสอบถามการบริการของ Unaccompanied Minor ข้อกำหนด และเงื่อนไขต่างๆ

ขั้นตอนการขอรับบริการ Unaccompanied Minor
การจองตั๋วเครื่องบิน
บางสายการบินสามารถขอรับบริการ Unaccompanied Minor ได้เลยเมื่อทำการจอง แต่บางสายการบิน อาจจะต้องโทรขอรับบริการเพิ่มเติมภายหลัง ซึ่งแต่ละสายการบิน จะมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน ดังนั้นผู้ปกครองควรตรวจสอบเงื่อนไขของสายการบินที่เลือกก่อนว่ามีบริการ Unaccompanied Minor หรือไม่ ส่วนในกรณีที่ผู้ปกครองซื้อตั๋วเครื่องบินผ่าน Call Centre สามารถสอบถามและขอรับบริการ Unaccompanied Minor ได้เลย
การขอรับบริการ Unaccompanied Minor
ผู้ปกครองจะต้องกรอกแบบฟอร์ม และลงนามในแบบฟอร์มการจองการบริการ Unaccompanied Minor ของสายการบินที่ผู้ปกครองได้เลือก โดยจะต้องระบุชื่อผู้ปกครองปลายทางที่รับผิดชอบเมื่อเด็กเดินทางไปถึง และจะต้องแนบเอกสารยืนยันตัวตน เช่น สำเนาบัตรประชาชน หรือ สำเนาหนังสือเดินทาง เพื่อเป็นทางการเพื่อแสดงพนักงานสายการบิน
เอกสารที่ต้องเตรียม
- หนังสือเดินทางของเด็กผู้เดินทาง ที่มีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน
- หนังสือยินยอมให้ผู้เยาว์ออกนอกประเทศ
- บัตรประชาชนผู้เดินทาง
- ถ้าเดินทางไปในประเทศที่ต้องใช้วีซ่า จะต้องมีวีซ่าที่ถูกต้อง และต้องมีเอกสารวีซ่าด้วย
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง ทั้งผู้ที่ไปรับ และผู้ที่ไปส่ง
- รายละเอียดชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทร ทั้งผู้ที่ไปรับ และผู้ที่ไปส่ง
- มีการฉีดวัคซีน และตรวจสุขภาพตามเงื่อนไขของสายการบินที่ทำการจองเรียบร้อยแล้ว
- เอกสารอื่นๆ ที่จำเป็น เช่น เอกสารทางการแพทย์ หรือใบสั่งยา กรณีที่เด็กมีโรคประจำตัว
หมายเหตุ: ผู้ปกครองจะต้องเตรียมเอกสารทั้งหมดนี้ให้พร้อม ถ้าเกิดขาดเอกสารข้างต้นอย่างใดอย่างหนึ่ง จะไม่สามารถขอรับบริการ Unaccompanied Minor ได้
การออกเดินทาง เมื่อเดินทางมาถึงสนามบิน ให้ผู้ปกครองทำการเช็คอินสายการบินให้เรียบร้อย และจะมีเจ้าหน้าที่จากสายการบินมารับผู้เดินทาง คอยให้ความช่วยเหลือ ตั้งแต่จุดเช็คอิน พาผู้เดินทางผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง และ ด่านศุลกากร ไปที่ประตูทางขึ้นเครื่อง และพาผู้เยาว์ไปนั่งประจำที่นั่งของตัวเอง พร้อมดูแล อย่างปลอดภัย
กรณีที่มีการเปลี่ยนเครื่อง หากเที่ยวบินมีการเปลี่ยนเครื่อง เจ้าหน้าที่สายการบินจะพาผู้เดินทางไปเปลี่ยนเครื่องอย่างปลอดภัย และตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้เดินทางขึ้นเครื่องบินและนั่งประจำที่นั่งของตนเองเรียบร้อยแล้ว แต่บางสายการบินจะไม่อนุญาตให้จองเที่ยวบินที่มีการเปลี่ยนเครื่องสำหรับผู้เดินทางที่ใช้บริการ Unaccompanied Minor ทั้งนี้ ผู้ปกครองจะต้องตรวจเช็คกับสายการบินโดยตรง
เมื่อถึงประเทศปลายทาง เมื่อผู้เดินทางมาถึงสนามบินปลายทาง ผู้ปกครองที่ไปรับเด็ก ซึ่งจะต้องเป็นผู้ปกครองคนเดียวกันกับชื่อที่ปรากฏอยู่ในแบบฟอร์มการจอง Unaccompanied Minor โดย ผู้ปกครองจะต้องแสดงหลักฐานที่ระบุตัวตน เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง เพื่อพิสูจน์ว่า เป็นคนที่ตรงกันกับคนที่ระบุในการจอง Unaccompanied Minor ในกรณีที่ผู้ปกครองคนอื่นมารับ ที่ไม่มีชื่อระบุใน Unaccompanied Minor จะไม่สามารถนำตัวผู้เยาว์ออกจากสนามบินได้ ถึงแม้จะมีสำเนาบัตรประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง หรือหลักฐานการเป็นตัวแทน
ค่าบริการของ Unaccompanied Minor
แต่ละสายการบินมีอัตราค่าบริการของ Unaccompanied Minor ที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ ดังนั้น ผู้ปกครองควรตรวจสอบเรื่องค่าใช้จ่ายกับสายการบินโดยตรงเมื่อทำการจอง โดยส่วนใหญ่ จะมีค่าบริการประมาณ $50 – $70 ต่อเที่ยวบิน
ข้อควรรู้สำหรับการจองตั๋วเครื่องบินสำหรับเด็ก
- การเตรียมตัวก่อนขึ้นเครื่องบินสำหรับเด็ก เมื่อทำการจองตั๋วเครื่องบินสำหรับเด็ก ต้องแจ้งข้อมูลส่วนตัวของเด็กแก่เจ้าหน้าที่เพื่อให้สายการบินเตรียมการอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารที่เป็นเด็ก
- ควรพาเด็กไปตรวจสุขภาพก่อนขึ้นเครื่องบิน (บางสายการบิน จะมีเงื่อนไขการตรวจสุขภาพ ควรตรวจเช็คกับสายการบินที่ท่านได้ทำการจอง)
- ในเที่ยวบินต่างประเทศต้องทำพาสปอร์ตให้กับเด็กก่อนเดินทาง
- เตรียมเอกสารสำคัญทางราชการของเด็กในการเช็คอิน ได้แก่ ใบสูติบัตรฉบับจริง หรือ พาสปอร์ต หรือ บัตรประชาชนเด็ก
- ควรเลือกที่นั่งให้มีพื้นที่ว่างให้เด็กนั่งเล่นได้อย่างแถวหน้าสุดหรือใกล้ประตูทางออก
- หาของเล่นสำหรับเด็กให้เด็กเล่นเพื่อป้องกันไม่ให้เด็กไปรบกวนผู้อื่น
- เตรียมกระเป๋าติดตัวสำหรับขึ้นเครื่องที่มีของใช้จำเป็นสำหรับเด็ก เช่น เสื้อผ้า ยา ของเล่น เป็นต้น
- เมื่อขึ้นเครื่องแล้วเด็กเกิดการปวดหู ให้ดื่มน้ำหรือทานขนม และสามารถขอยาหยอดหูที่แอร์โฮสเตสได้
ตัวอย่าง การบริการพิเศษของการบินไทยสำหรับผู้โดยสารเด็กเดินทางเพียงลำพังด้วยเครื่องบิน (Unaccompanied Minors)
ผู้โดยสารที่เป็นเด็กอายุ 5 – 17 ปี ที่เดินทางลำพัง ผู้ปกครองจะจะต้องติดต่อสำนักงานขายการบินไทย เพื่อสำรองบัตรโดยสารและแจ้งข้อมูล Special Assistance & Handling Form ซึ่ง Handling Form จะระบุอายุ วันเกิดของเด็ก และเบอร์โทรศัพท์ของผู้ปกครองที่พาเด็กมาส่งสถานีต้นทางและมารับสถานีปลายทาง เพื่อที่จะได้สามารถติดต่อกับเด็กได้ตลอดทั้งทางเข้า – ออกของสนามบิน อัตราค่าธรรมเนียมสำหรับการบริการจะระบุไว้ และต้องชำระในเที่ยวบินที่เด็กเดินทาง
เงื่อนไข
- การบินไทย ไม่อนุญาตให้เด็กเดินทางคนเดียวในทุกๆ เส้นทาง รวมทั้งการเคลื่อนย้ายระหว่างสุวรรณภูมิ และ ดอนเมือง
- การบินไทย ไม่อนุญาตให้เด็กเดินทางคนเดียวในทุกๆ เส้นทาง ซึ่งเป็นเส้นทางที่มีจุดแวะพักข้ามคืน หรือจุดแวะพักที่นานกว่า 6 ชั่วโมง ยกเว้นผู้โดยสารได้ติดต่อบริการเลี้ยงเด็ก ณ จุดที่แวะพัก
- หากเดินทางด้วยสายการบินชาติอื่นอาจมีกฎระเบียบเพิ่มเติม โดยจำกัดอายุเด็ก บริษัทฯ จึงขอแนะนำผู้โดยสารให้ติดต่อสายการบินนั้นๆ
- เด็กที่ไม่มีผู้ปกครองไม่อนุญาตให้เดินทางกับสัตว์เลี้ยง
- กรุณาตรวจเช็ควีซ่าและระเบียบการเดินทางให้เรียบร้อย
- ในบางประเทศอาจมีเอกสารเพิ่มเติม เช่น เอกสารสำหรับคนต่างด้าวที่จะเดินทางเข้าประเทศฟิลิปปินส์ จะต้องได้รับใบ Waiver of Exclusion จากสถานทูตฟิลิปปินส์
อัตราค่าบริการ
เส้นทางต่างประเทศ เด็กที่ใช้บริการที่มีอายุระหว่าง 5-17 ปี จะคิดในราคาผู้ใหญ่ โดยอัตราค่าบริการคิดเป็น 60 ดอลล่าร์สหรัฐต่อเที่ยวบิน เส้นทางในประเทศไทย เสียค่าบริการ 75% สำหรับอายุระหว่าง 5-11 ปี หากต้องการใช้บริการ
หมายเหตุ : ไม่มีบริการสำหรับเที่ยวบินร่วม (TG 4 digits) กรุณาติดต่อเพื่อซื้อบัตรโดยสารกับสายการบินที่ทำการบินโดยตรง
เมื่อเดินทางถึงสนามบิน
หากผู้โดยสารอยู่ที่สนามบินกับเด็กจนกระทั่งเครื่องออก ผู้โดยสารต้อง check-in ให้เรียบร้อย เพื่อยืนยันการเดินทางของเด็ก พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่ตรงทางออกจะพาเด็กไปยังบนเครื่อง ซึ่งก็จะมีพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินดูแลเด็กเป็นอย่างดี
เมื่อมาถึงจุดหมายปลายทาง พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินจะดูแลเด็กของท่านตั้งแต่อยู่บนเครื่องจนกระทั่ง ได้พบกับผู้ปกครองของเด็ก ซึ่งผู้ปกครองของเด็กต้องมีบัตรประชาชนที่ถูกต้องมารับเด็ก เพื่อการยืนยันความปลอดภัยในตัวเด็ก และการบินไทยจะรับรองความปลอดภัยจนกระทั่งผู้โดยสารเดินทางมาถึง ถ้าหากผู้ปกครองท่านใด ยังไม่เห็นภาพ สามารถชมวิดีโออธิบายเพิ่มเติมได้ด้านล่างเลยค่ะ

บทความที่เเนะนำ

ทำความรู้จักกับโครงการ YOUNG LEARNERS PROGRAM
โครงการ Young Learners Program ของสถาบัน NZLC เป็นโครงการที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนอความต้องการในด้านการเรียนภาษาอังกฤษ สำหรับน้องๆ ที่มีอายุระหว่าง 14 – 17 ปี หลักสูตรมีความยืดหยุ่นสูง สามารถเรียนได้ตั้งแต่ 2 – 52 สัปดาห์ ไม่กำหนดวันเวลา เดินทาง สามารถเดินทางคนเดียวได้
การเรียนการสอน จะเน้นพื้นฐานภาษาอังกฤษ ให้แข็งแรง พัฒนา 4 ทักษะสำคัญ คือ ทักษะการฟัง ทักษะการพูด ทักษะการอ่าน และทักษะการเขียน ผสมผสานไปกับบทเรียนที่เหมาะสำหรับวัย ในห้องเรียนที่ทันสมัย ที่มีนักเรียนเพียง 12 – 16 คน ต่อห้องเรียน จึงทำให้การเรียนมีประสิทธิภาพ และครูผู้สอน สามารถแก้ไขปัญหาของนักเรียนได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ ยังสอดแทรกกิจกรรมนอกหลักสูตรอีกมากมายให้น้องๆ ได้ทำร่วมกันทุกวัน ซึ่งจะช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของน้องๆ ได้พัฒนาอย่างรวดเร็ว
โครงการ Young Learners Program ได้รับการรับรองโดย NZQA และ The Code of Practice for the Pastoral Care of International Students ซึ่งเป็นหลักข้อปฎิบัติในการดูแลนักเรียนนานาชาติ เพื่อที่จะได้สนับสนุนให้นักเรียนในด้านการศึกษา และสภาพแวดล้อความปลอดภัย โดยผู้ปกครองสามารถมั่นใจได้ว่า นักเรียนทุกคนมีความปลอดภัย และมีความสุขตลอดระหว่างการศึกษาที่ NZLC นิวซีแลนด์
นักเรียนจะได้พักกับครอบครัวชาวนิวซีแลนด์ (Homestay) ซึ่งครอบครัวทุกหลัง ได้รับการตรวจสอบจากรัฐบาลนิวซีแลนด์ NZQA เรียบร้อยแล้ว ผู้ปกครองสามารถมั่นใจได้ว่า มีความปลอดภัย และนักเรียนจะได้รับการดูแล เอาใจใส่ ให้ความรู้สึกสะดวกสบายอย่างแน่นอน
ทำไมต้องเลือกเข้าร่วมโครงการ YOUNG LEARNERS PROGRAM ที่สถาบัน NZLC นิวซีแลนด์ ?
- การเรียนการสอนที่ทันสมัย ตอบโจทย์กับการเรียนในยุค 20
- หลักสูตรออกแบบมาให้เหมาะสมกับตัวผู้เรียนที่มีอายุระหว่าง 14 – 17 ปี
- ได้รับการรับรองจากรัฐบาลนิวซีแลนด์ NZQA การันตีถึงคุณภาพและมาตรฐานการสอน
- ปลอดภัยอย่างเข้มงวด และเป็นมิตร ตั้งแต่ก้าวลงจากสนามบิน มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด รับส่งถึงมือโฮสต์ และพร้อมดูแลตลอดระยะเวลาการศึกษา
- มีการทดสอบความก้าวหน้าทางภาษาอังกฤษ และรายงานผลกับผู้ปกครองอย่างสม่ำเสมอ
- ได้รับใบประกาศนียบัตรเมื่อเสร็จสิ้นโครงการ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจในพอร์ทการศึกษาเมื่อไปสมัครเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย
- มีโรงเรียนและมหาวิทยาลัยคุณภาพสูง ที่รองรับการเรียนต่อ ถ้าหากน้องๆ สนใจอยากเรียนต่อที่ประเทศนิวซีแลนด์

ทำความรู้จักกับโครงการ High School International Program
โครงการ High School International Program เป็นโครงการที่ทาง ศูนย์ฯ เดอะเบสท์ ร่วมกับโรงเรียนในนิวซีแลนด์ จัดขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของนักเรียน ที่ต้องการสัมผัสการเรียนในโรงเรียนอินเตอร์ ที่นิวซีแลนด์ อยากทดลองเรียน และใช้ชีวิต พร้อมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับชาวต่างชาติ ในนิวซีแลนด์ระยะสั้นๆ 4 – 10 สัปดาห์ ในช่วงปิดเทอม เพื่อพัฒนาทักษะ และกระบวนการคิด แบบนักเรียนต่างชาติ สร้างความมั่นใจ ฝึกความเป็นผู้นำ และความรับผิดชอบ ช่วยให้นักเรียนกล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก กล้าตัดสินใจ รวมถึงได้เรียนภาษาอังกฤษแบบ ESOL เพื่อฝึกภาษาอังกฤษให้ได้เทียบกับเจ้าของภาษาอีกด้วย
วัตถุประสงค์ของโครงการ High School International Program เพื่อให้นักเรียนได้เรียน และใช้ชีวิตในโรงเรียนมัธยมปลายที่นิวซีแลนด์ในช่วงปิดเทอม และได้ฝึกทักษะทางภาษาอังกฤษ เนื่องจาก ประเทศนิวซีแลนด์ เป็นประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาราชการ นักเรียนจะได้ใช้ภาษาอังกฤษตลอดเวลา ทั้งในห้องเรียน และนอกห้องเรียน นอกจากนี้ โครงการนี้ยังเปิดโอกาสให้นองๆ ทดลองเรียน และใช้ชีวิตเพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าเรียนระยะยาวในอนาคต
โดยในโครงการนี้ ทางเดอะเบสท์ ได้รวบรวมโรงเรียนอินเตอร์ประจำเมืองไครสต์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์ จำนวน 3 โรงเรียนด้วยกัน ซึ่ง ทั้ง 3 โรงเรียนนี้ ผู้ปกครองสามารถมั่นใจได้เลยว่า มีคุณภาพ และปลอดภัย นักเรียนจะได้รับความเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดจากครูอาจารย์ ด้วยบรรยากาศที่เป็นมิตร ปลอดภัย ผ่านมาตรฐานทางด้านการศึกษาจาก NZQA และหลักเกณฑ์การปฏิบัติเพื่อการดูแลความปลอดภัยและสวัสดิภาพของนักเรียนนานาชาติ ค.ศ. 2016 (Code of Practice for the Pastoral Care of International Students 2016)
สิ่งที่นักเรียนจะได้รับ เมื่อเข้าร่วมโครงการนี้
- ได้รับการพัฒนารอบด้าน ผ่านการเรียนรู้ทั้งในห้องเรียน และนอกห้องเรียน – นักเรียนที่เข้าร่วมโครงการ High School International Program New Zealand จะได้เรียนในห้องเรียนแบบเข้มข้น ตามหลักสูตรการเรียนการสอนของระบบการศึกษานิวซีแลนด์ นอกจากนี้ ยังได้เรียนรู้วัฒนธรรมต่างชาติ รวมถึงสนุกไปกับการท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดพักผ่อน
- ได้เรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษ ESOL ด้วย – โครงการนี้ มีหลักสูตรภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนต่างชาติ ESOL รวมอยู่ด้วย นอกจากนี้ยังได้ฝึกภาษาอังกฤษกับคนในพื้นที่ ซึ่งจะช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของนักเรียนให้เก่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
- ได้ใช้เวลาว่างในช่วงปิดเทอมให้เกิดประโยชน์ – โครงการนี้ มีเวลาเดินทางที่ยืดหยุ่น นักเรียนสามารถเดินทางได้ตลอดช่วงเวลา ให้เหมาะสมกับวันปิดภาคการศึกษา โดย สามารถเดินทางคนเดียว หรือจับกลุ่มกับเพื่อนได้ ซึ่งข้อดีคือ นักเรียนจะได้เจอเพื่อนชาวต่างชาติได้มีโอกาสทำความรู้จักผู้คนที่หลากหลายเชื้อชาติ
- ได้รับประสบการณ์การเรียนต่อต่างประเทศ – โครงการ High School International Program นิวซีแลนด์ เปิดโอกาสให้นักเรียนได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ทั้งด้านการเรียนการสอน และการใช้ชีวิต
- ได้ใช้ชีวิตกับครอบครัวชาวต่างชาติ หรือ โฮมสเตย์ – นักเรียนที่เข้าร่วมโครงการนี้ จะต้องพักกับโฮมสเตย์ หรือครอบครัวชาวนิวซีแลนด์ ซึ่งจะให้ความช่วยเหลือ ตั้งแต่รับสนามบิน บางครอบครัวอาจจะไปรับ – ไปส่ง นักเรียนที่โรงเรียน ในช่วงสัปดาห์แรก และในวันหยุดสุดสัปดาห์ นักเรียนยังมีโอกาสได้ท่องเที่ยว หรือทำกิจกรรมกับครอบครัวชาวนิวซีแลนด์ ซึ่งถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม โฮมสเตย์ทุกหลัง ได้รับการรับรองจากรัฐบาลนิวซีแลนด์ มั่นใจได้ถึงคุณภาพ และความปลอดภัย นักเรียนต่างชาติทุกคน เป็นหนึ่งเดียวกันกับโรงเรียน โดยโรงเรียนจะประสานงานกับทางเจ้าของโฮมสเตย์และผู้ปกครองตลอดเวลา รวมถึงรายงานผลการเรียนและความประพฤติของนักเรียนด้วย
- ได้รับประกาศนียบัตรจากโรงเรียน – เมื่อเรียนจบตามแผนการเรียน นักเรียนจะได้รับประกาศนียบัตรจากทางโรงเรียน ซึ่งอาจจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับ Portfolio และเป็นประโยชน์สำหรับการเรียนต่อในอนาคต

ทำความรู้จักกับโครงการ Summer Camp
โครงการ Summer Camp ประเทศออสเตรเลีย เปิดโอกาสให้น้องๆ นักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาอายุตั้งแต่ 12 – 16+ ปี ได้ใช้เวลาว่างช่วงปิดเทอมให้เป็นประโยชน์ได้พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ และท่องเที่ยวต่างประเทศ พบปะเพื่อนต่างชาติใหม่ๆ อีกทั้งยังมีโอกาสได้เข้าเรียนต่อมัธยมปลายที่ประเทศออสเตรเลียอีกด้วย
ข้อดีเมื่อมาเรียนภาษาอังกฤษที่ออสเตรเลีย
- มีหลักสูตรที่หลากหลาย ตรงตามความต้องการของผู้เรียน
- เป็นหลักสูตรภาษาอังกฤษสำหรับน้องๆ อายุ 12 – 16+ ปี
- มีการผสมผสานของสัญชาติกันอย่างลงตัว พบปะเพื่อนใหม่
- ครูผู้สอนมีคุณวุฒิ และมีประสบการณ์การสอนเด็กมาอย่างยาวนาน
- สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ผู้คนเป็นมิตร เงียบสงบ เหมาะสมสำหรับการเรียน
- มีโอกาสเข้าเรียนต่อมัธยม ที่ประเทศออสเตรเลีย
- ได้เข้าเรียนตามช่วงชั้นอายุและทำกิจกรรมในชั้นเรียน
- มีกิจกรรม ท่องเที่ยวตลอดทั้งโครงการ
- ที่พักเป็นแบบ Host Family ซึ่งจะได้พักกับคนในท้องถิ่น
หลักสูตรเรียนภาษาอังกฤษระยะสั้น ได้เรียนอะไรบ้าง ?
หลักสูตรเรียนภาษาอังกฤษระยะสั้น มีให้เลือกเรียน 2 แผนการเรียน ซึ่งส่วนใหญ่ จะพัฒนา 4 ทักษะทางภาษาอังกฤษ คือ ฟัง พูด อ่าน เขียน พร้อมไวยกรณ์ คำศัพท์ และการสื่อสารให้ชัดและเป็นธรรมชาติ พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของน้องๆ ตั้งแต่ระดับเริ่มต้น Elementary (A2) ถึงระดับ Upper Intermediate (B2) มีการวัดผลทุกสัปดาห์ เพื่อดูพัฒนาการของเด็ก สอดแทรกด้วยกิจกรรมสุดตื่นเต้นทุกๆ วัน เพื่อผ่อนคลายความเครียดหลังจากการเรียน เช่น ปาร์ตี้บาร์บีคิว เดินชมชายหาด ท่องเที่ยวในตัวเมืองซิดนีย์ และพิพิธภัณฑ์ที่มอบทั้งความรู้ และประสบการณ์อย่างเต็มเปี่ยม โดยน้องๆ สามารถเลือกแผนการเรียนให้ตรงกับความต้องการมากที่สุด
ทำความรู้จักกับโครงการ INTERNATIONAL HIGH SCHOOL COMPLETION
โครงการนี้ออกแบบมาเพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้เรียนต่อในระดับอุดมศึกษาในอเมริการวดเร็วขึ้น โดยระบบการศึกษาในรัฐวอชิงตัน นักเรียนมัธยมปลายที่มีคุณสมบัติ และมีความรับผิดชอบ สามารถข้ามการเรียนในระดับมัธยมปลาย 2 ปีสุดท้ายใน Grade 10 – 11 (หรือนักเรียนไทยต้องเรียนจบ ม.3 ขึ้นไป) เมื่อเข้าเรียนโปรแกรมนี้ ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้เรียนต่อในวุฒิอนุปริญญา หรือที่เรียกว่า Associate Degree (หรือหลักสูตร 2+2 Transfer Program) ในสาขาที่ตนเองต้องการเรียนต่อ โดยในขณะที่เรียนวิชาของ Associate Degree ก็จะได้รับหน่วยกิตของหลักสูตรมัธยมปลายของรัฐวอชิงตันด้วย หรือทำความเข้าใจง่ายๆ คือ เรียน 1 วิชา แต่ได้รับเครดิต 2 วิชา ทำให้เมื่อสำเร็จการศึกษา ผู้เรียนจะได้รับวุฒิการศึกษา 2 วุฒิการศึกษา คือ อนุปริญญา (Associate Degree) ควบคู่ไปกับหลักสูตรมัธยมปลาย (High School Program) ที่ออกให้โดยออกให้โดยรัฐ Washington State ประเทศสหรัฐอเมริกา และสามารถโอนหน่วยกิตเพื่อเรียนต่อสมัครเรียนต่อปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยในอเมริกาอีกแค่ 2 ปี ในปีที่ 3 – 4 ปี ซึ่งจะช่วยให้เรียนจบปริญญาตรีได้ในอายุ 20 ปี
โครงการนี้ เหมาะกับใคร?
- นักเรียนที่อยากประหยัดค่าใช้จ่าย เนื่องจาก เมื่อสำเร็จหลักสูตร International High School Completion นักเรียนสามารถเทียบโอนหน่วยกิตเข้าเรียนชั้นปีที่ 3 – 4 ในมหาวิทยาลัยได้เลย เท่ากับว่า ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเรียนมัธยมปลาย และประหยัดค่าใช้จ่ายในการเรียนชั้นปีที่ 1 – 2 ในมหาวิทยาลัยได้ถึง 50% – 80%
- นักเรียนที่ต้องการเรียนจบเร็วขึ้น 2 ปี นักเรียนหลายๆ คนอยากที่จะเรียนจบเร็วขึ้น และต้องการก้าวเข้าสู่การทำงานที่เร็วขึ้น การเข้าเรียน International High School Completion จะช่วยให้เรียนจบเร็วขึ้น 2 ปี
- นักเรียนที่เรียนไม่จบมัธยมปลาย หรือไม่มีวุฒิการศึกษาระดับมัธยมปลาย ที่ต้องการเรียนต่ออเมริกา นักเรียนหลายคนที่ติดปัญหาส่วนตัว จึงทำให้เรียนไม่จบมัธยมปลายในประเทศไทย หลักสูตรนี้ สามารถช่วยให้นักเรียนได้เรียนจบมัธยมปลายควบคู่ไปกับเรียนในระดับอนุปริญญาตรีได้
- นักเรียนที่เคยเดินทางมาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่อเมริกา Student Exchange Program หรือประเทศอื่นๆ เนื่องจาก นักเรียนแลกเปลี่ยนส่วนใหญ่ เมื่อกลับไปเรียนโรงเรียนในไทยแล้ว หากโรงเรียนไม่ได้รับรองวุฒิการศึกษาระบบการศึกษาอเมริกัน นักเรียนจะต้องเรียนซ้ำชั้นเดิม ซึ่งเท่ากับว่าเสียเวลาไปอีก 1 ปี ดังนั้นการเลือกเรียน International International High School Completion จึงสามารถเรียนต่อเนื่องไปได้เลย และเรียนจบมัธยมปลายพร้อมกับเพื่อนๆ ที่เรียนโรงเรียนในประเทศไทย พร้อมทั้งได้รับวุฒิอนุปริญญา Associate Degree
- ไม่อยากเรียนในระบบการศึกษาดั้งเดิม อยากสัมผัสประสบการณ์การเรียนในระดับวิทยาลัย โครงการนี้เหมาะมาก เนื่องจากเป็นการเรียนหลักสูตรในระดับชั้นปีที่ 1 – 2 ของวิทยาลัยโดยตรง

ทำความรู้จักกับโรงเรียนในนิวซีแลนด์
นิวซีแลนด์ แบ่งประเภทของโรงเรียนออกเป็น 3 ประเภท คล้ายๆ กับประเทศอื่นๆ ก็คือ โรงเรียนรัฐบาล โรงเรียนกึ่งรัฐบาล และโรงเรียนเอกชน
- โรงเรียนรัฐบาล (State School) – โดยปกติแล้ว นักเรียนที่ถือสัญชาตินิวซีแลนด์ จะเลือกเรียนโรงเรียนรัฐบาล เนื่องจากรัฐบาลให้การสนับสนุนและมอบการศึกษาฟรี ให้กับนักเรียนในประเทศที่อายุไม่เกิน 19 ปี แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองยังต้องจ่ายค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าอุปกรณ์การศึกษา ค่าอาหารกลางวัน และค่ากิจกรรมนอกหลักสูตร
- โรงเรียนกึ่งรัฐบาล (State Integrated School) – โดยส่วนใหญ่จะดำเนินการโดยองค์กรทางศาสนา เช่น โรงเรียนคาทอลิก โดยโรงเรียนกึ่งรัฐบาล จะได้รับเงินสนับสนุนของรัฐด้วยเช่นกัน แต่ทางโรงเรียนจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมด้วย ส่วนใหญ่แล้ว นักเรียนต่างชาติ จะเลือกเรียนโรงเรียนกึ่งรัฐบาล เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่ไม่สูง
- โรงเรียนเอกชน (Private School) – นักเรียนนิวซีแลนด์เพียง 5% เท่านั้นที่เลือกเรียนโรงเรียนเอกชน และบางโรงเรียนอาจจะแบ่งแยกชาย หญิงแบบชัดเจน โดยส่วนใหญ่แล้ว โรงเรียนเอกชนจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันมากที่สุด แต่ก็จะมีค่าธรรมเนียมที่สูงที่สุดด้วยเช่นกัน
นักเรียนนานาชาติเข้าเรียนได้เมื่อไหร่ ?
สำหรับนักเรียนนานาชาติ มีระยะเวลาเรียนที่ยืนหยุ่น สามารถเข้าเรียนในภาคเรียนไหนไหนก็ได้ และสามารถเลือกได้ด้วยว่าต้องการเรียนระยะสั้น หรือระยะยาว สำหรับน้องๆ ที่อยากใช้เวลาว่างในช่วงปิดภาคการศึกษา สามารถไปเรียนที่นิวซีแลนด์ได้ตั้งแต่ 2 – 10 สัปดาห์
เรียนไม่เก่ง หรือ ไม่ได้ภาษาอังกฤษ เข้าเรียนได้หรือไม่ ?
ทางโรงเรียนยินดีต้อนรับนักเรียนทุกคน ขึ้นอยู่กับว่าห้องเรียนว่างพร้อมรับนักเรียนเข้าเรียนได้หรือไม่ ส่วนถ้าไม่เก่งภาษาอังกฤษ ทางโรงเรียนมีหลักสูตร ESL ไว้รองรับนักเรียนต่างชาติ ถ้าหากไม่ได้จริงๆ ทางโรงเรียนจะช่วยเหลือเป็นพิเศษแบบตัวต่อตัว

ทำไมต้องมาเรียนหลักสูตร CAMBRIDGE ที่นิวซีแลนด์ ?
ที่นิวซีแลนด์ เป็นสถานที่ที่ปลอดภัย สำหรับเด็กมัธยมปลาย เนื่องจาก เป็นประเทศที่มีความปลอดภัยอันดับ 1 ในบรรดาประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ นอกจากนี้ คุณภาพชีวิตที่นิวซีแลนด์สูงกว่าอังกฤษ เนื่องจากมีการเรียนหรือทำงาน และการใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว (Work Life Balance)
รัฐบาลนิวซีแลนด์ ส่งเสริมให้นักเรียนต่างชาติ เดินทางมาเรียนที่นิวซีแลนด์ จึงเปิดสอนหลักสูตรนานาชาติทุกรูปแบบ ทั้งหลักสูตรนานาชาติที่ทางนิวซีแลนด์ได้พัฒนาและปรับปรุงหลักสูตรเอง NCEA หลักสูตรนานาชาติ Cambridge IGCSE AS/A Level และหลักสูตร IB โดยทุกโรงเรียนให้ความสำคัญกับนักเรียนทุกคน เพื่อจุดมุ่งหมายเดียวคือ ให้นักเรียนทุกคนประสบความสำเร็จและก้าวเข้าสู่มหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก
ซึ่งจากผลการดำเนินงาน ทำให้นักเรียนต่างชาติที่มาเรียนที่โรงเรียนนานาชาตินิวซีแลนด์ ประสบความสำเร็จในการเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยระดับโลก เช่น มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ มหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และมหาวิทยาลัยอื่นๆ ทั่วโลก
นอกจากนี้ นิวซีแลนด์ยังมีชื่อเสียงด้านทัศนียภาพอันงดงาม ไม่ว่าจะเป็นชายหาด เทือกเขา ฟยอร์ด ทะเลสาบ ไม่ถูกครอบด้วยตึกสูงและผู้คนแออัด ที่พักที่นิวซีแลนด์ มีให้เลือกหลากหลาย และปลอดภัย และเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย เหมาะกับนักเรียนที่ชอบใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย แต่สมบูรณ์แบบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ไม่แออัดวุ่นวายเหมือนสหรัฐอเมริกา และอังกฤษ
ทำไมต้องเลือกเรียนต่อมัธยมปลายที่นิวซีแลนด์ ?
- โรงเรียนในนิวซีแลนด์ ให้ความสำคัญ กับความสนใจส่วนบุคคล สนับสนุนให้เกิดไอเดียอย่างสร้างสรรค์ อย่างอิสระ ผนวกกับบทเรียนเชิงทฤษฎี และเชิงปฏิบัติ ได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ ยังได้มีโอกาสไปทัศนศึกษา สำรวจสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ เรียนรู้เกี่ยวกับพืชและสัตว์ของนิวซีแลนด์ ซึ่งอาจจะไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนอีกด้วย
- การศึกษาในนิวซีแลนด์ ยังเป็นโอกาสในการเติบโต และการพัฒนาตนเอง รวมถึงการปลูกฝังทักษะต่างๆ เช่น ความตรงต่อเวลา การบริหารเวลา และความมั่นใจในตนเอง จะช่วยให้นักเรียนกลายเป็นผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จและพึ่งพาตนเองได้ บุตรหลานของท่านจะได้เรียนรู้วัฒนธรรมอื่นๆ ได้สัมผัสกับการผจญภัยใหม่ๆ และสร้างมิตรภาพที่จะคงอยู่ไปตราบชั่วชีวิตท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่บริสุทธิ์ที่สุดและมีธรรมชาติสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
- ระบบการศึกษาของนิวซีแลนด์ถือว่าอยู่ในระดับแนวหน้าของโลก องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) เปรียบเทียบผลงานด้านการศึกษาของเด็กวัยรุ่นจากมากกว่า 70 ประเทศ ผ่าน โครงการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ (PISA) พบว่านักเรียนนิวซีแลนด์คะแนนสูงกว่าค่าเฉลี่ย ของ OECD ในประเทศอื่นๆ อย่างต่อเนื่องใน วิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และการอ่าน เป้าหมายหลักของทุกโรงเรียนคือ สร้างความมั่นใจในการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้กับผู้เรียน ทั้งด้านทฤษฎี และปฏิบัติ กระตุ้นให้เกิดการตั้งคำถาม เพื่อค้นหาสิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา

ทำความรู้จักกับโรงเรียนในนิวซีแลนด์
นิวซีแลนด์ แบ่งประเภทของโรงเรียนออกเป็น 3 ประเภท คล้ายๆ กับประเทศอื่นๆ ก็คือ โรงเรียนรัฐบาล โรงเรียนกึ่งรัฐบาล และโรงเรียนเอกชน
- โรงเรียนรัฐบาล (State School) – โดยปกติแล้ว นักเรียนที่ถือสัญชาตินิวซีแลนด์ จะเลือกเรียนโรงเรียนรัฐบาล เนื่องจากรัฐบาลให้การสนับสนุนและมอบการศึกษาฟรี ให้กับนักเรียนในประเทศที่อายุไม่เกิน 19 ปี แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองยังต้องจ่ายค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าอุปกรณ์การศึกษา ค่าอาหารกลางวัน และค่ากิจกรรมนอกหลักสูตร
- ค่าเทอมโรงเรียนรัฐบาล ประมาณ 12,000 – 17,000 NZD ต่อปี (ประมาณ 204,000 – 340,000 บาท)
- โรงเรียนกึ่งรัฐบาล (State Integrated School) – โดยส่วนใหญ่จะดำเนินการโดยองค์กรทางศาสนา เช่น โรงเรียนคาทอลิก โดยโรงเรียนกึ่งรัฐบาล จะได้รับเงินสนับสนุนของรัฐด้วยเช่นกัน แต่ทางโรงเรียนจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมด้วย ส่วนใหญ่แล้ว นักเรียนต่างชาติ จะเลือกเรียนโรงเรียนกึ่งรัฐบาล เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่ไม่สูง
- ค่าเทอมโรงเรียนกึ่งรัฐบาล ประมาณ 14,500 – 18,000 NZD ต่อปี (ประมาณ 290,000 – 360,000 บาท)
- โรงเรียนเอกชน (Private School) – นักเรียนนิวซีแลนด์เพียง 5% เท่านั้นที่เลือกเรียนโรงเรียนเอกชน และบางโรงเรียนอาจจะแบ่งแยกชาย หญิงแบบชัดเจน โดยส่วนใหญ่แล้ว โรงเรียนเอกชนจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันมากที่สุด ส่วนใหญ่จะมีหอพักนักเรียน (Boarding) อุปกรณ์การเรียน และอุปกรร์การกีฬาทันสมัย ครบครัน ค่าธรรมเนียมจึงสูงกว่าโรงเรียนประเภทอื่น
- ค่าเทอมโรงเรียนเอกชน 24,000 – 35,000 NZD ต่อปี (ประมาณ 480,000 – 700,000 บาท)
ทำความรู้จักกับระบบการศึกษา NCEA ประกาศนียบัตรที่การันตีถึงความสำเร็จในการศึกษา
NCEA (National Certificate of Education Achievement) เป็นใบประกาศสำหรับนักเรียนที่เรียนจบมัธยมปลายที่นิวซีแลนด์ (High School) ซึ่งจะได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ ผ่านการตรวจสอบจาก NZQA สอดคล้องกับการเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย หรือสถาบันการศึกษาระดับสูงอื่นๆ ในนิวซีแลนด์และในประเทศอื่นๆ ทั่วโลก โดยใบประกาศ NCEA จะแบ่งเป็น 3 ระดับ ดังนี้
- NCEA Level 1 (Year 11)
- NCEA Level 2 (Year 12) นักเรียนที่เรียนจบในระดับนี้ สามารถนำวุฒิการศึกษามายื่นเข้าเรียนต่อในระดับปริญญาตรี ของมหาวิทยาลัยในประเทศไทยได้เลย
- NCEA Level 3 (Year 13) นักเรียนที่เรียนจบในระดับนี้ สามารถนำวุฒิการศึกษายื่นเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยในต่างประเทศทั่วโลกได้ เช่น Oxford University, Stanford University, Harvard University และมหาวิทยาลัยชั้นนำอื่นๆ ทั่วโลก
ทางเว็บไซด์ Insight The New Zealand Herald ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับอัตราการสอบผ่าน NCEA แต่ละระดับ และอัตราการสประสบความสำเร็จในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ของแต่ละโรงเรียนในนิวซีแลนด์มาแล้ว โรงเรียนไหนที่ได้เปอร์เซ็นต์ในการเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยมาก หรือ ระดับ NCEA สูง แสดงว่า โรงเรียนนั้น เน้นวิชาการ การเรียนการสอนเข้มข้น และจัดเต็ม มีการแข่งขันสูง เหมาะสำหรับน้องๆ ที่เน้นผลลัพธ์ทางวิชาการ Academic Performance และต้องการเข้าเรียนต่อในสาขาวิชาที่ต้องการผลการเรียนสูง ในการเรียนต่อ เช่น คณะแพทย์ คณะพยาบาลศาสตณ์ คณะวิศกรรมศาสตร์ และคณะวิทยาศาสตร์
ส่วนโรงเรียนอื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ใน 10 อันดับนี้ หรือ ระดับ NCEA ต่ำไม่ได้หมายความว่าโรงเรียนไม่ได้เน้นวิชาการ (Academic Performance) แต่นักเรียนอาจจะเลือกเรียนวิทยาลัยโพลิเทคนิค หรือสายอาชีพมากกว่า โดยโรงเรียนเหล่านี้จะเน้นความถนัดส่วนบุคคล และผลักดันให้นักเรียนประสบความสำเร็จตามความสามารถที่นักเรียนชื่นชอบ เหมาะสำหรับน้องๆ ที่เน้นไม่ได้เน้นวิชาการมาก และต้องการเปิดโอกาสในการค้นหาความชอบด้วยตนเอง เช่น ดนตรี กีฬา หรือการทำอาหาร โดยได้รับการสนับสนุนกับครูผู้สอนอย่างเต็มที่
การบริการของ เดอะเบสท์ ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ
ทาง ศูนย์ เดอะเบสท์ ก็มีน้องๆ นักเรียนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี เดินทางคนเดียวเช่นกันค่ะ ซึ่งโดยปกติแล้ว ถ้าหากมีนักเรียนที่อายุไม่ถึง 18 ปี เราจะทำงานติดต่อกับ บริการ Unaccompanied Minors ของสายการบินที่ผู้ปกครองได้ทำการจองไว้ หรือกรณีที่ให้ทาง ศูนย์ฯ เดอะเบสท์ จองตั๋วเครื่องบิน ทางเราก็จะประสานงานให้ทันที รวมถึงประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยบริการฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่ะ
สอบถามข้อมูลการบริการเพิ่มเติมติดต่อ
โทร : 090-327 3558, 088-269 5099
Email : contact@thebest-edu.com
Line : @thebestedu หรือคลิ๊กเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ
ติดต่อเดอะเบสท์เพื่อสอบถามข้อมูลการเรียนต่อต่างประเทศเพิ่มเติม
เดอะเบสท์ เป็นศูนย์บริการให้คำปรึกษาเรียนต่อต่างประเทศครบวงจร เราเป็นตัวแทนที่ให้บริการแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และ ประเทศอื่นๆ อีก 25 ประเทศทั่วโลก เรายินดีให้ความช่วยเหลือตั้งแต่เริ่มสมัครเรียน จนสำเร็จการศึกษา รวมถึงดูแลนักเรียนระหว่างเรียนจนนักเรียนเรียนจบด้วยทีมผู้เชียวชาญในด้านการเรียนต่อต่างประเทศ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ขั้นตอนเหล่านี้เราดำเนินการให้ฟรี และเราพร้อมที่จะทำตามคุณภาพ และมาตรฐานดังสโลแกนที่ว่า “We are Quality”
บริการของเรามีอะไรบ้าง ?
- ฟรี!! บริการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเรียนต่อต่างประเทศทุกระดับชั้นทั่วโลก ตั้งแต่ โรงเรียนประถม โรงเรียนมัธยม สถาบันวิชาชีพ และสถาบันในระดับอุดมศึกษา รวมถึงหลักสูตรภาษาต่างประเทศ และเลือกสถาบันที่ดีที่สุดให้กับผู้เรียน
- เราให้ความช่วยเหลือตั้งแต่การประสานงานโรงเรียน เลือกโรงเรียนให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียน เตรียมเอกสารสมัครเรียน และดำเนินเรื่องสมัครเรียนให้ฟรี
- บริการเตรียมเอกสารยื่นวีซ่าครบวงจร และบริการยื่นวีซ่ากว่า 25 ประเทศทั่วโลก พร้อมวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าอย่างตรงจุด และแนะนำวิธีการเตรียมตัวในการสัมภาษณ์วีซ่า
- บริการแปลเอกสาร ภาษาไทย – ภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาอังกฤษ – ภาษาไทย รวมถึงภาษาที่ 3 เริ่มต้นเพียงแผ่นละ 200 บาท
- เดอะเบสท์ เป็นตัวแทนรับสมัครสอบ IELTS IDP อย่างเป็นทางการ พร้อมให้คำแนะนำ และนัดวันสอบให้โดยน้องๆ ไม่ต้องเสียเวลาสมัครเอง สมัครสอบได้ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
- บริการซื้อประกันภัยการเดินทางและประกันสุขภาพนักเรียนต่างชาติ จากบริษัทประกันชั้นนำ MSIG, NIB, Allianz, Orbit และอื่นๆ
- บริการจองตั๋วเครื่องบิน ทุกสายการบิน และประสานงานกับสถาบันเกี่ยวกับรถรับ – ส่ง สนามบิน
- บริการจัดหาที่พักทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นโฮมสเตย์ อพาร์ทเม้น หรือหอพักนักศึกษา จัดหาให้ตามความต้องการส่วนบุคคล
“เรายินดีที่จะดูแลนักเรียนทุกคน ตั้งแต่เริ่มต้นจนนักเรียนสำเร็จการศึกษา และทำให้การเรียนต่อของคุณเป็นเรื่องง่าย ” สอบถามข้อมูลการบริการเพิ่มเติมติดต่อ
โทร : 090-327 3558, 088-269 5099
Email :contact@thebest-edu.com
Line : @thebestedu หรือคลิกเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ
Reference
- Singapore airlines. Unaccompanied Minors. Retrieved 23 May 2019.
- ETIHAD AIRWAYS. Unaccompanied Minors. Retrieved 23 May 2019.
- Expedia. Travel Tips Inspiration. Retrieved 23 May 2019.
- StudyLink. What is Unaccompanied Minors Service. Retrieved 23 May 2019.
- Thai Airways. Unaccompanied Minors. Retrieved 23 May 2019.


[…] อ่านบทความเกี่ยว: กับการเดินทางไปต่างประเทศ สำหรับเด… […]
[…] Unaccompanied Minor (ดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิก) […]
[…] […]
[…] คลิ๊ก เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี… […]
[…] คลิ๊ก เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี… […]