Last updated มิถุนายน 9, 2022 ago by Thebestedu

รู้หรือไม่? นักเรียนไทยสามารถเรียนจบปริญญาตรีในก่อนอายุ 20 ปีที่ประเทศอเมริกาได้นะ หากเข้าร่วมโครงการ International High School Completion ที่เป็นทางลัดสำหรับนักเรียนไทยได้เรียนต่อระดับอุดมศึกษาและเรียนจบปริญญาตรีในอเมริกาได้อย่างรวดเร็ว ประหยัดทั้งเวลา และค่าใช้จ่าย สามารถเริ่มต้นทำงานได้ทันทีเมื่อเรียนจบ รายละเอียดโครงการนี้เป็นอย่างไร ศึกษาต่อได้ในบทความเลยค่ะ

International High School Completion

---

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า การเข้าเรียนต่อระดับปริญญาตรีในอเมริกา จะต้องผ่านสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาก่อน และผ่านการทดสอบภาษาอังกฤษ เช่น TOEFL หรือ IELTS และผ่านการสอบ SAT ACT แต่นักเรียนไทยส่วนใหญ่ ไม่ผ่านคุณสมบัติ หรือเกณฑ์ที่ทางมหาวิทยาลัยได้กำหนด ทำให้พลาดโอกาสในการเรียนต่อมหาวิทยาลัยในฝัน เช่น ผลการเรียน GPA หรือคะแนนภาษาอังกฤษไม่ถึงเกณฑ์ตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด

ดังนั้น จึงมีเส้นทางอื่นๆ ที่สามารถเข้าเรียนต่อระดับปริญญาตรีได้ ซึ่งง่ายกกว่านั้นก็คือ โปรแกรม International High School Completion เป็นโปรแกรมที่มีมานานแล้ว และเป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับนักศึกษาชาวยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลี และจีน แต่นักเรียนไทยส่วนใหญ่ยังไม่รู้จักกันมากเท่าไหร่ ศูนย์ฯ เดอะเบสท์ จึงขออธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรม High School Completion ในบทความนี้ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับน้อง ๆ ที่อยากจะเรียนจบปริญญาตรีที่อเมริกาเร็วขึ้น และประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายในการเรียน สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการนี้ได้เลยค่ะ

โครงการ International High School Completion คืออะไร?

โครงการนี้ออกแบบมาเพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้เรียนต่อในระดับอุดมศึกษาในอเมริการวดเร็วขึ้น โดยระบบการศึกษาในรัฐวอชิงตัน นักเรียนมัธยมปลายที่มีคุณสมบัติ และมีความรับผิดชอบ สามารถข้ามการเรียนในระดับมัธยมปลาย 2 ปีสุดท้ายใน Grade 10 – 11 (หรือนักเรียนไทยต้องเรียนจบ ม.3 ขึ้นไป) เมื่อเข้าเรียนโปรแกรมนี้ ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้เรียนต่อในวุฒิอนุปริญญา หรือที่เรียกว่า Associate Degree (หรือหลักสูตร 2+2 Transfer Program) ในสาขาที่ตนเองต้องการเรียนต่อ โดยในขณะที่เรียนวิชาของ Associate Degree ก็จะได้รับหน่วยกิตของหลักสูตรมัธยมปลายของรัฐวอชิงตันด้วย หรือทำความเข้าใจง่ายๆ คือ เรียน 1 วิชา แต่ได้รับเครดิต 2 วิชา ทำให้เมื่อสำเร็จการศึกษา ผู้เรียนจะได้รับวุฒิการศึกษา 2 วุฒิการศึกษา คือ อนุปริญญา (Associate Degree) ควบคู่ไปกับหลักสูตรมัธยมปลาย (High School Program) ที่ออกให้โดยออกให้โดยรัฐ Washington State ประเทศสหรัฐอเมริกา และสามารถโอนหน่วยกิตเพื่อเรียนต่อสมัครเรียนต่อปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยในอเมริกาอีกแค่ 2 ปี ในปีที่ 3 – 4 ปี ซึ่งจะช่วยให้เรียนจบปริญญาตรีได้ในอายุ 20 ปี

VDO สรุปข้อมูลเกี่ยวกับหลักสูตร International High School Completion

 ASSOCIATE DEGREE คืออะไร?

Associate Degree คือวุฒิการศึกษาระดับอนุปริญญาตรี ส่วนใหญ่แล้ว เปิดสอนใน Community College, Technical College และ Private College เป็นวุฒิการศึกษาเพื่อเสริมทักษะ ความรู้ และเตรียมพร้อมสำหรับเรียนต่อ หรือทำงานในอนาคต นอกจากนี้ สามารถเทียบโอนเข้าเรียนมหาวิทยาลัยในประเทศอื่นๆ เช่น ประเทศแคนาดา ประเทศออสเตรเลีย เป็นต้น 

โดยทั้งหลักสูตร Associate Degree หรืออนุปริญญาตรี และหลักสูตร Degree ปริญญาตรี จัดเป็นวุฒิ “Undergraduate” เหมือนกัน (หลักสูตร Associate Degree  ไม่ใช่หลักสูตร Foundation) การเรียนการสอนเหมือนกัน เพียงแต่ หลักสูตร Associate Degree มีข้อกำหนดการรับเข้าเรียนที่ยืดหยุ่นกว่า และค่าธรรมเนียมต่ำกว่า ส่วนใหญ่ ไม่ต้องสอบ SAT, GMAT หรือ GRE ในการเข้าเรียน ซึ่งถือว่าเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับนักศึกษาต่างชาติอย่างมาก

คลิก เพื่อทำความรู้จักหลักสูตร Associate Degree และ Community College เพิ่มเติม

ใช้ระยะเวลาเรียนเพียง 2 ปี

เมื่อสำเร็จการศึกษา จะได้รับวุฒิการศึกษาระดับมัธยมปลาย (High School Diploma) และวุฒิการศึกษาระดับอนุปริญญา (Associate Degree) ด้วย นอกจากนี้ยังสามารถนำหน่วยกิตในรายวิชาของอนุปริญญา (Associate Degree) เทียบโอนเข้าเรียนในระดับปริญญาตรีชั้นปีที่ 3 – 4  ได้ด้วย หากรายวิชานั้นเป็นรายวิชาที่มีข้อกำหนดเดียวกัน ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายอย่างมาก

ทำไมนักเรียนไทยควรเลือกเรียนโครงการนี้?

• ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย เมื่อสำเร็จการศึกษา จะได้รับประกาศนียบัตร High School Diploma และ Associate Degree ในเวลาเดียวกัน และสามารถใช้วุฒิการศึกษา Associate Degree เทียบโอนหน่วยกิตเข้าเรียนในระดับปริญญาตรีปีที่ 3 ได้เลย ซึ่งหมายความว่า ผู้เข้าร่วมโครงการ International High School Completion จะได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัย และเรียนจบเร็วกว่าปกติอ 1 – 2 ปี และประกาศนียบัตรได้รับการรับรองจากรัฐวอชิงตัน
• มีหลักสูตร STEM หรือ Science, Technology, Engineering and Mathematics เช่นเดียวกับโรงเรียนมัธยมปลาย เพื่อเพิ่มโอกาสในการเรียนต่อ และทำงานหลังเรียนจบ
• เมื่อสำเร็จการศึกษา สามารถเทียบโอนเข้าเรียนมหาวิทยาลัยชั้นนำปี 3 ได้เลย สถาบัน Community College จะมีข้อตกลงอย่างเป็นทางการกับมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา ซึ่งผู้สำเร็จการศึกษาหลักสูตร International High School Completion สามารถเทียบโอนหน่วยกิตเข้าเรียนในชั้นปีที่ 3 ได้เลย ซึ่งใช้เวลาสำเร็จการศึกษาในปริญญาตรีอีกเพียง 2 ปี เท่านั้น
• บริการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน แต่ละสถาบัน จะมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำปรึกษา และช่วยเหลือรายบุคคล เพื่อวางแผนการเรียนตั้งแต่เริ่มเรียน จนถึงเรียนจบ และวางแผนเกี่ยวกับหลักสูตร การเทียบโอนหน่วยกิต และมหาวิทยาลัยที่จะเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีด้วย
• วีซ่าไม่ยาก นักเรียนที่สมัครโครงการนี้ ไม่ต้องกังวลว่าวีซ่าจะยาก เนื่องจาก และทางศูนย์ฯ เดอะเบสท์ จะช่วยเหลือด้านการยื่นวีซ่า และให้ความช่วยเหลือตั้งแต่สมัครเรียน และยื่นวีซ่า รวมถึงช่วยเตรียมตัวการสัมภาษณ์วีซ่ากับทางสถานทูต
• ปรับตัวง่ายกว่า นักศึกษา ส่วนใหญ่แล้ว เป็นนักศึกษาต่างชาติ ที่มีพื้นฐานเดียวกัน ระดับภาษาอังกฤษใกล้เคียงกัน และมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ซึ่งจะช่วยพัฒนาทักษะการสื่อสาร และช่วยเหลือกันและกัน ทำให้นักศึกษาต่างชาติปรับตัวได้ง่ายกว่า หาเพื่อนง่ายกว่าการเรียนในมหาวิทยาลัยโดยตรง
• เหมาะสำหรับนักศึกษาต่างชาติ ชั้นเรียนมีนักศึกษาเพียง 15 – 30 คน ต่อชั้นเรียน ทำให้ผู้เรียนไม่ประหม่า ลดความตื่นตระหนก เวลาทำงานกลุ่ม หรือพรีเซนท์งาน ซึ่งแตกต่างจากการเรียนในห้องเลกเชอร์ในมหาวิทยาลัย ที่มีนักศึกษาหลักร้อย ถึงหลักพันคนต่ออาจารย์หนึ่งห้อง  นอกจากนี้หากพื้นฐานภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง มีหลักสูตรปรับพื้นฐานภาษาอังกฤษสำหรับเรียนต่อมหาวิทยาลัยโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับนักศึกษาต่างชาติอย่างมาก
• เมื่อเรียนจบ สามารถทำงานต่อในอเมริกาได้เลย การทำงานในอเมริกาส่วนใหญ่ มีวุฒิ Associate Degree ก็สามารถทำงานหลังเรียนจบได้เลย นอกจากนี้ยังได้รับโอกาสขยายเวลา STEM OPT Extension หากเรียนสาขาวิชาเกี่ยวกับ STEM (Science, Technology, Engineering and Mathematics) โดยสามารถทำงานหลังเรียนจบได้สูงสุด 36 เดือน (3 ปี)

โครงการนี้ เหมาะกับใคร?

• นักเรียนที่อยากประหยัดค่าใช้จ่าย เนื่องจาก เมื่อสำเร็จหลักสูตร International High School Completion นักเรียนสามารถเทียบโอนหน่วยกิตเข้าเรียนชั้นปีที่ 3 – 4 ในมหาวิทยาลัยได้เลย เท่ากับว่า ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเรียนมัธยมปลาย และประหยัดค่าใช้จ่ายในการเรียนชั้นปีที่ 1 – 2 ในมหาวิทยาลัยได้ถึง 50% – 80%
• นักเรียนที่ต้องการเรียนจบเร็วขึ้น 2 ปี นักเรียนหลายๆ คนอยากที่จะเรียนจบเร็วขึ้น และต้องการก้าวเข้าสู่การทำงานที่เร็วขึ้น การเข้าเรียน International High School Completion จะช่วยให้เรียนจบเร็วขึ้น 2 ปี
• นักเรียนที่เรียนไม่จบมัธยมปลาย หรือไม่มีวุฒิการศึกษาระดับมัธยมปลาย ที่ต้องการเรียนต่ออเมริกา นักเรียนหลายคนที่ติดปัญหาส่วนตัว จึงทำให้เรียนไม่จบมัธยมปลายในประเทศไทย หลักสูตรนี้ สามารถช่วยให้นักเรียนได้เรียนจบมัธยมปลายควบคู่ไปกับเรียนในระดับอนุปริญญาตรีได้
• นักเรียนที่เคยเดินทางมาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่อเมริกา Student Exchange Program หรือประเทศอื่นๆ เนื่องจาก นักเรียนแลกเปลี่ยนส่วนใหญ่ เมื่อกลับไปเรียนโรงเรียนในไทยแล้ว หากโรงเรียนไม่ได้รับรองวุฒิการศึกษาระบบการศึกษาอเมริกัน  นักเรียนจะต้องเรียนซ้ำชั้นเดิม ซึ่งเท่ากับว่าเสียเวลาไปอีก 1 ปี ดังนั้นการเลือกเรียน International International High School Completion จึงสามารถเรียนต่อเนื่องไปได้เลย และเรียนจบมัธยมปลายพร้อมกับเพื่อนๆ ที่เรียนโรงเรียนในประเทศไทย พร้อมทั้งได้รับวุฒิอนุปริญญา Associate Degree
• ไม่อยากเรียนในระบบการศึกษาดั้งเดิม อยากสัมผัสประสบการณ์การเรียนในระดับวิทยาลัย โครงการนี้เหมาะมาก เนื่องจากเป็นการเรียนหลักสูตรในระดับชั้นปีที่ 1 – 2 ของวิทยาลัยโดยตรง

โครงการนี้ มีสาขาอะไรให้เลือกเรียนบ้าง?

โครงการนี้คือการเรียนการสอนเหมือนกับหลักสูตร Associate Degree ดังนั้น สาขาที่มีให้เลือกเรียนส่วนใหญ่ ก็เป็นสาขาเดียวกันกับหลักสูตร Associate Degree ตัวอย่างสาขาวิชายอดนิยมสำหรับนักเรียนไทยดังนี้

โครงการนี้ รับสมัครอายุเท่าไหร่?

โดยปกติแล้ว หลักสูตร International High School Completion จะรับนักเรียนเข้าเรียนเมื่ออายุ 16 ปี หรือ Grade 10 สำหรับนักเรียนไทย สามารถสมัครเรียนได้ตั้งแต่เรียนจบ ม.3 (หากอายุยังไม่ถึง สามารถสมัครเรียนก่อนได้ แต่วันเริ่มเรียนต้องมีอายุ 16 ปีบริบูรณ์) นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่อายุ 18 ปี หรือมากกว่า ที่ยังเรียนไม่จบมัธยมปลาย หรือผู้ที่มีวุฒิการศึกษา GED และอยากได้วุฒิการศึกษา High School Diploma เพิ่ม ก็สามารถเข้าร่วมโครงการได้เช่นเดียวกัน

เปรียบเทียบแผนการเรียนปกติ และแผนการเรียน International High School Completion

เมื่อเรียนจบโครงการ International High School Completion สามารถเทียบโอนหน่วยกิตเข้าเรียนปริญญาตรี ปี 3-4 ในมหาวิทยาลัยทั่วอเมริกา และประเทศอื่นๆ ได้เลย

สามารถทำได้ ตามที่ได้อธิบายข้างต้น รายวิชาของหลักสูตร International High School Completion เป็นรายวิชาเดียวกันกับหลักสูตร Associate Degree หรือที่รู้จักกันในหลักสูตร 2+2 Transfer Program ดังนั้น สามารถเทียบโอนหน่วยกิตเข้าเรียนในระดับปริญญาตรี Bachelor Degree ในปี 3 ได้เลย โดยสามารถเทียบโอนเข้าเรียนมหาวิทยาลัยไหนก็ได้ รวมถึงมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับ Top ของอเมริกา เช่น Ivy League

วุฒิการศึกษาที่ได้รับ

1. ประกาศนีย์บัตรมัธยมปลาย (High School Diploma) – ออกให้โดยรัฐ Washington State ประเทศสหรัฐอเมริกา
2. อนุปริญญา (Associate Degree)
3. ปริญญาตรี (Bachelor Degree)

ตัวอย่างวุฒิการศึกษา High School Diploma ของสถาบัน Tacoma Community College

ทางสถาบันได้สนับสนุนการจัดงานสัมมนาแนะแนวเรียนต่อ เพื่อให้การเข้าเรียนมหาวิทยาลัยง่ายขึ้น

หลายๆ สถาบัน จะมีการจัดงานสัมมนาแนะแนวเรียนต่อทุกปี โดยมีมหาวิทยาลัยจากสหรัฐอเมริกาหลายแห่งที่เข้าร่วมพร้อมแนว สมัคร และยื่นใบสมัครภายในงานได้เลย พร้อมคำแนะนำอย่างใกล้ชิด กับเจ้าหน้าที่สถาบัน และเจ้าหน้าที่จากมหาวิทยาลัยโดยตรง ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับนักเรียนไม่ต้องเดินทางไปสมัครเรียนที่มหาวิทยาลัย และมั่นใจว่าได้รับคำแนะนำที่ถูกต้อง

รีวิวประสบการณ์ คุณ Marsha จากประเทศอินโดนีเซีย ที่เข้าเรียนต่อ Shoreline Community College และเทียบโอนหน่วยกิตเข้าเรียนต่อที่ New York University

รีวิวประสบการณ์ คุณ Naya จากประเทศอินโดนีเซีย ที่เข้าเรียนต่อ Shoreline Community College และเทียบโอนหน่วยกิตเข้าเรียนต่อที่ University of Rochester

สมัครโครงการ International High School Completion เตรียมตัวอย่างไร?

ขั้นตอนการรสมัครร่วมโครงการ International High School Completion ยืดหยุ่น ไม่จำเป็นต้องสอบ SAT ACT หรือ GMAT GRE ก็สามารถสมัครเรียนได้ เพียงแค่มีผลคะแนนภาษาอังกฤษ TOEFL หรือ IELTS ตามที่แต่ละสถาบันได้กำหนด ยกตัวอย่างดังนี้

คุณสมบัติในการเรียนหลักสูตร International High School Completion

• วันเปิดเรียนต้องมีอายุ 16 ปีบริบูรณ์ (สามารถสมัครได้ตั้งแต่ อายุ 15 ปี) 
• สำเร็จการศึกษาอย่างน้อย Grade 9 – 11 (ม.3 – ม.5) เกนดเฉลี่ยอย่างน้อย GPA 2.0+
• มีความมุ่งมั่นตั้งใจอยากเรียนต่ออเมริกา และมีความรับผิดชอบ เปิดรับสิ่งใหม่
• คะแนนภาษาอังกฤษอย่างใดอย่างหนึ่ง
  • TOEFL iBT 61 หรือ pBT 500
  • หรือ IELTS Academic 5.5 ทุกแบนด์ไม่ต่ำกว่า 5.0
  • หรือ Duolingo  85 ขึ้นไป
• คุณสมบัติอื่นๆ ตามที่ทางสถาบันได้กำหนด (ถ้ามี)
• นักเรียนที่มี GED หรือไปแลกเปลี่ยนจากต่างประเทศมาสามารถสมัครได้เลย

หมายเหุต: ไม่จำเป็นต้องมีคะแนนภาษาอังกฤษก็ได้ Community College หลายๆ แห่งในรัฐวอชิงตัน มีหลักสูตรปรับพื้นฐานภาษาอังกฤษเพื่อการเรียนต่อ สำหรับนักเรียนต่างชาติ ที่ยังไม่มีคะแนนภาษาอังกฤษ 1 – 3 เทอม ก่อนที่จะเข้าเรียนหลักสูตร International High School Completion โดยผู้สมัครสามารถขอทำแบบทดสอบออนไลน์ Placement Test เพื่อวัดระดับภาษาอังกฤษของผู้เรียนก่อนได้

เรียนจบ ม.6 แล้ว สามารถเรียนได้ไหม?

โครงการนี้ ออกแบบมาให้สำหรับนักเรียนที่ยังเรียนไม่จบระดับมัธยมปลายเท่านั้น หากผู้สมัครเรียนจบ ม.6 แล้ว ไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมโครงการ High School Completion แต่อย่างได นักเรียนที่เรียนจบมัธยมปลายแล้ว สามารถเรียนหลักสูตร Associate Degree กับทาง Community College ได้เลย ซึ่งใช้ระยะเวลาเรียน 2 ปีเช่นเดียวกัน เปิดสอนใน Community College ทุกแห่งทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา

หากน้องๆ ที่เรียนจบ ม.6 แล้ว ทางศูนย์ฯ เดอะเบสท์ขอแนะนำโครงการ American Honors Program เรียน 2 Year College + 2 Year Top University 

โครงการนี้ เปิดรับสมัครเมื่อไหร่?

Intake	วันหมดเขตรับสมัคร	วันเปิดเรียน
Spring	กุมภาพันธ์ 2565	เมษายน 2565
Summer	พฤษภาคม 2565	มิถุนายน 2565
Fall	สิงหาคม 2565	กันยายน 2565
Winter	พฤศจิกายน 2565	มกราคม 2566

หมายเหตุ:  ควรปรึกษาศูนย์ฯ เดอะเบสท์ และวางแผนล่วงหน้าก่อนวันสุดท้ายของการรับสมัครเรียนอย่างน้อย 3 – 6 เดือน เนื่องจาก จะต้องเผื่อระยะเวลาการเตรียมเอกสาร การยื่นวีซ่า และรอผลวีซ่า

โครงการ International High School Completion พักที่ไหน?

ที่พักอาศัยสะดวกสบาย มีตัวเลือกที่พักให้ผู้เข้าร่วมโครงการทั้งแบบหอพักนักศึกษา และโฮมสเตย์ ที่พักกับครอบครัวชาวอเมริกัน สำหรับนักเรียนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี จะต้องพักกับโฮมสตย์หรือผู้ปกครองเท่านั้น

• ที่พักแบบหอพักนักศึกษา จะอยู่ภายในสถาบัน ซึ่งผู้เรียนสามารถเดินไปเรียนได้ โดยหอพักทุกหลัง จะมีอาจารย์ประจำหอพัก และมียามคอยเฝ้าตรวจตราตลอด 24 ชั่วโมง
• ที่พักแบบโฮมสเตย์ จะอยู่ห่างจากสถาบันเพียง 45 นาที สามารถเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะได้ และโฮมสเตย์ทุกหลัง ได้รับการตรวจสอบ และรับรองโดยสถาบันและรัฐบาลรัฐวอชิงตัน ว่ามีคุณภาพ และประสบการณ์ดูแลนักเรียนต่างชาติอย่างดี ไม่มีประวัติอาชญากรรม หรือคดีอาญา ผู้ปกครองสามารถมั่นใจได้ในความปลอดภัยและสุขอาณามัย

สิ่งอำนวยความสะดวก

ทุกสถาบันมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เพียบพร้อมและทั่วถึงสำหรับนักศึกษาทุกคน เช่น ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ ห้องมัลติมีเดีย ห้องสมุด มีชมรม และกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย มุ่งเน้นไปที่ความหลากหลายทางวัฒนธรรม นอกจากนี้ Community College บางแห่ง ยังมีห้องดนตรี ห้องสตูดิโอออกแบบกราฟฟิก และการผลิตสื่อมัลติมีเดียที่ทันสมัย

ความปลอดภัย

Community College ทุกแห่ง ปฏิบัติตามกฏของ Department of Campus Safety and Security’s เพื่อส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตร และปลอดภัย รวมถึงมีมาตรการรับมื้อกับภัยพิบัติต่างๆ ให้การสนับสนุนสำหรับผู้มีความหลากหลายทางเพศ และความหลากหลายทางวัฒนธรรม เพื่อความเสมอภาค 

การสนับสนุนนักศึกษาต่างชาติ

• สนับสนุนด้านวิชาการและการเรียน ทางสถาบันพร้อมให้คำปรึกษานักศึกษาต่างชาติแบบตัวต่อตัว พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเรียนและการใช้ชีวิตในอเมริกา
• ให้คำปรึกษาด้านการศึกษาต่อ มีการจัดสัมมนาแนะแนวศึกษาต่อเป็นประจำทุกปี ซึ่งผู้เรียนมีโอกาสได้พบปะพูดคุยกับเจ้าหน้าที่จากสถาบันที่สนใจโดยตรง
• บริการให้คำปรึกษาด้านการทำงานระหว่างเรียน ทั้งการทำงานในวิทยาเขต On-Campus นอกวิทยาเขต Off-Campus รวมถึงให้คำปรึกษาด้านการขอ OPT และ CPT
• ให้ความช่วยเหลือด้านการเงิน สำหรับนักศึกษาที่ต้องการช่วยเหลือด้านค่าเล่าเรียน ค่าหนังสือ ค่าอาหาร และค่าเดินทางยามจำเป็น
• บริการให้ความช่วยเหลือผู้พิการ หรือผู้ที่มีความบกพร่อง และอำนวยความสะดวกเต็มรูปแบบ
• ให้คำปรึกษาด้านการหางาน เมื่อสำเร็จการศึกษา มีนักศึกษาหลายคนที่ตัดสินใจทำงานเพื่อหาประสบการณ์ ก่อนเข้าเรียนปริญญาตรี โดยหลายๆ สถาบันได้มีการจัดงาน Job Fair เพื่อรวบรวมนายจ้าง จากองค์กร บริษัทชั้นนำหลายแห่ง ทั้งในรัฐวอชิงตัน และทั่วสหรัฐอเมริกา โดยสามารถสมัครงานกับบริษัทที่เข้าร่วมงานได้โดยตรง

โครงการนี้ มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่?

ค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมโครงการ International High School Completion มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า 50% – 80% เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายในการเรียนในหลักสูตรดั้งเดิม ทางศูนย์ฯ เดอะเบสท์ ขอเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายกับสถาบัน Shoreline Community College ดังนี้

ค่าใช้จ่ายโครงการ International High School Completion ของสถาบัน Shoreline Community College
ค่าใช้จ่ายในการเรียน	ค่าใช้จ่ายต่อปี (3 เทอม)
ค่าเทอม	$9,654
ค่าธรรมเนียมการลงทะเบียนเรียน	$675
ค่าหนังสือ (โดยประมาณ)	$360
รวมค่าใช้จ่ายในการเรียน	$10,689 (ประมาณ 331,359 บาท)
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ
ค่าที่พักแบบโฮมสเตย์	$7,650-$9,225
ค่าประกันสุขภาพนักเรียนต่างชาติ	$1,011
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ (โดยประมาณ)	$1,350
รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ	$10,011 (ประมาณ 310,341 บาท)
รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดสำหรับการเรียน 1 ปีการศึกษา	$20,700 (ประมาณ 641,700 บาท)

โครงการนี้ มีทุนการศึกษาเต็มจำนวนไหม?

โครงการนี้ ไม่มีทุนการศึกษาเต็มจำนวน อาจจะมีทุนส่วนลดค่าเรียนสำหรับทางสถาบันเล็กน้อย แต่หากผู้เรียน มีผลการเรียนดี ที่มีความสามารถโดดเด่น ก็มีโอกาสขอทุนการศึกษาได้ในหลักสูตรปริญญาตรีในอนาคต

โครงการนี้ เรียนที่ไหน?

หลักสูตร International High School Completion เปิดสอนเฉพาะรัฐวอชิงตัน โดยทางศูนย์ฯ เดอะเบสท์ ขอยกตัวอย่างสถาบัน 4 แห่ง ที่เปิดสอน และรับนักเรียนไทย หากน้องๆ คนไหน ที่สนใจเรียนต่อ Community College นอกเหนือจากที่ทาง ศูนย์ฯ เดอะเบสท์ ยกตัวอย่างมา สามารถสอบถามรายละเอียด และข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย

โทร : 090-327 3558, 088-269 5099
Email :contact@thebest-edu.com
Line : @thebesteduหรือคลิกเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ

	Community College of Spokane Community College of Spokane วิทยาลัยชุมชนที่ประกอบด้วย 2 วิทยาเขต คือ Spokane Community College และ Spokane Fall Community College ตั้งอยู่ในเมืองวอชิงตัน สามารถเทียบโอนหน่วยกิตเข้าเรียนมหาวิทยาลัยชั้นนำ เช่น Brigham Young University, University of Idaho, University of Washington และอื่นๆ  คลิก เพื่อดูเว็บไซต์	ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ ค่าธรรมเนียมการเรียน $9,117.72 ต่อปีการศึกษา ค่าหนังสือ ค่าประกันสุขภาพ ค่าโดยสารสาธารณะ ค่าใช้จ่ายส่วนตัว $3,063.70 ค่าที่พักอาศัยพร้อมอาหาร 3 มื้อ $6,300 รวม $18,481.42 ต่อปี (ประมาณ 573,000 บาท)
	Lake Washington Institute of Technology (LWTech) เป็นสถาบันเทคโนโลยีรัฐบาลในเคิร์กแลนด์ รัฐวอชิงตัน เป็นสมาชิกของ Washington State Board for Community and Technical Colleges เปิดสอนหลักสูตรตั้งแต่ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ อนุปริญญา และปริญญาตรีที่ครอบคลุมเกือบทุกหลักสูตร คลิก เพื่อดูเว็บไซต์	ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ ค่าธรรมเนียมการเรียน $10,635 ต่อปีการศึกษา ค่าหนังสือ ค่าประกันสุขภาพ ค่าโดยสารสาธารณะ ค่าใช้จ่ายส่วนตัว $2,525 ค่าที่พักอาศัยพร้อมอาหาร 3 มื้อ $8,300 ค่าใช้จ่ายส่วนตัว $2,500 รวม $23,960 (ประมาณ 766,720 บาท)
	Pierce College สถาบันติดอันดับ 1 ใน 10 ของ Community College  อเมริกา ได้รับการยอมรับในระดับประเทศในด้านความเป็นเลิศทางวิชาการและความสำเร็จของนักเรียน มีวิทยาเขตที่สวยงามสองแห่งซึ่งอยู่ห่างกัน 30 นาที แต่ละวิทยาเขตสภาพแวดล้อมปลอดภัยและเป็นมิตร มีสโมสรนักศึกษา ชมรมดนตรี และการแข่งขันกีฬา มากมาย Pierce College มีข้อตกลงที่ชัดเจนกับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยทั่วรัฐวอชิงตันรวมถึงมหาวิทยาลัย University of Washington และ Washington State University  คลิก เพื่อดูเว็บไซต์	ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ ค่าธรรมเนียมการเรียน $9,976.35 ต่อปีการศึกษา ค่าหนังสือและค่าอุปกรณ์การเรียน $900 ค่าประกันสุขภาพ $1,023 ค่าที่พักอาศัยพร้อมอาหาร 3 มื้อ $5,850 ค่าใช้จ่ายส่วนตัว $2,250 รวม $19,999.35 ต่อปี (ประมาณ 620,000 บาท)
	Seattle Central College สถาบันติดอันดับ 1 ใน 10 ของ Community College อเมริกา เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการย้ายไปเรียนในวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัย เน้นการเรียนการสอนที่เข้มข้น และช่วยให้นักเรียนประสบความสำเร็จ เมื่อสำเร็จการศึกษา สามารถเทียบโอนหน่วยกิตเเข้าหาวิทยาลัยชั้นนำ เช่น University of Washington, Seattle University, Columbia University และอื่นๆ คลิก เพื่อดูเว็บไซต์	ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ ค่าธรรมเนียมการเรียน $9,687 ต่อปีการศึกษา ค่าฝึกงาน (ประมาณ) $555 ค่าหนังสือและค่าอุปกรณ์การเรียน $1,050 ค่าประกันสุขภาพ $1,205 ค่าที่พักอาศัยพร้อมอาหาร 3 มื้อ $9,384  ค่าระบบขนส่งสาธารณะ $375 ค่าใช้จ่ายอื่นๆ $1,800 รวม $24,055.38 ต่อปี (ประมาณ 745,700 บาท)
	Shoreline Community College วิทยาลัยชุมชนสาธารณะใน Shoreline รัฐวอชิงตัน ตั้งอยู่ในเขตที่อยู่อาศัยทางตะวันออกของ Shoreview Park วิทยาลัยแห่งนี้มีพื้นที่มากกว่า 80 เอเคอร์ มีมหาวิทยาลัยที่เป็นพาร์ทเนอร์ การันตีการเทียบโอนหน่วยกิตหลายแห่ง เช่น Arizona State University, Kent State University, San Francisco State University, Seattle University, University of Kentucky, University of Missouri, University of Oregon และอื่นๆ คลิก เพื่อดูเว็บไซต์	ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ ค่าธรรมเนียมการเรียน $9,654 ต่อปีการศึกษา ค่าธรรมเนียมการลงทะเบียนเรียน $675 ค่าหนังสือและค่าอุปกรณ์การเรียน $360 ค่าประกันสุขภาพ $1,011 ค่าที่พักอาศัยพร้อมอาหาร 3 มื้อ $7,650 – $9,225 ค่าใช้จ่ายอื่นๆ 1,350 รวม $20,700 – 22,275 ต่อปี (ประมาณ 641,700 – 690,500 บาท)
	Tacoma Community College วิทยาลัยชุมชนในเมืองทาโคมา เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสอง รองจาก Seattle รัฐวอชิงตัน ได้รับการรับรองโดย Northwest Commission on Colleges and Universities (NWCCU) เปิดสอนหลักสูตร Associate Degree และ Certificate ที่ได้รับการยอมรับกว่า 43 หลักสูตร เกณฑ์การรับสมัครเรียนยืดหยุ่น ค่าใช้จ่ายในการเรียนก็ไม่สูง คลิก เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม	ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ ค่าธรรมเนียมการเรียน $9,690 ต่อปีการศึกษา ค่าธรรมเนียมการลงทะเบียนเรียน $300 ค่าหนังสือและค่าอุปกรณ์การเรียน $1,500 ค่าประกันสุขภาพ $1,296 ค่าที่พักอาศัยพร้อมอาหาร $6,075 รวม $18,861 ต่อปี (ประมาณ 591,100 บาท)

ขั้นตอนการสมัครเรียนต่อ International High School Completion

1. เลือกสถาบันที่เปิดสอนหลักสูตร International High School Completion สามารถสอบถามข้อมูล และขอรับใบสมัครเข้าร่วมโครงการจากทาง ศูนย์ฯ เดอะเบสท์ได้ 
2. เมื่อเลือกสถาบันแล้ว ทางศูนย์ฯ เดอะเบสท์ จะดำเนินการสมัครเรียน ให้ทางผู้สมัคร ส่งเอกสารการสมัครเรียนดังนี้
   • ใบรับรองผลการเรียนระดับมัธยมศึกษาล่าสุด ที่แปลเป็นภาษาอังกฤษ 
   • คะแนนความสามารถทางภาษาอังกฤษ (TOEFL, IELTS, Duolingo English Test ฯลฯ)
3. ชำระค่ามัดจำโครงการ $1,000 (ประมาณ 30,000 บาท) โดยค่ามัดจำ จะนำไปหักจากค่าใช้จ่ายหลังจากที่ทางสถาบันส่งหนังสือตอบรับ *หากยกเลิก ไม่มีการคืนเงินค่ามัดจำโครงการทุกกรณี
4. หลังจากที่ทางวิทยาลัยตอบรับเข้าเรียนแล้ว ทาง ศูนย์ฯ เดอะเบสท์ จะชี้แจงค่าใช้จ่ายทั้งหมด คำนวณอัตราแลกเปลี่ยน ณ วัน เวลา ที่ผู้สมัครต้องการชำระเงิน 
5. เมื่อชำระค่าธรรมเนียมเรียบร้อยแล้ว ทางทางวิทยาลัยจะส่งใบตอบรับเข้าร่วมโครงการ ทางศูนย์ฯ เดอะเบสท์ จะเตรียมเอกสาร และทำการนัดหมายการยื่นวีซ่าในขั้นตอนต่อไป
6. ดำเนินการยื่นวีซ่าในขั้นตอนถัดไป ซึ่งทางศูนย์ฯ เดอะเบสท์ จะช่วยดูแลและเตรียมเอกสารให้ พร้อมช่วยเตรียมตัวการสัมภาษณ์วีซ่านักเรียน

หากเข้าร่วมโครงการ International High School Completion ผู้ปกครองจะต้องแสดงหลักฐานทางการเงินเท่าไหร่?

1. แบงค์การันตี (Bank Guarantee Letter) โดยผู้ปกครองจะต้องขอเป็นภาษาอังกฤษ ระบุเป็นยอดเงินสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกา และชื่อและนาสมสกุลของผู้เรียน จะต้องตรงตามหน้า Passport
2. แบงค์สเตทเม้น (Bank Statement) ย้อนหลัง 6 เดือน โดยผู้ปกครองจะต้องขอเอกสารเป็นภาษาอังกฤษเช่นกัน และยอดเงินใน Statement จะต้องตรงกันกับ Bank Guarantee
3. หลักฐานการเงินของผู้ปกครองที่จะต้องแสดงให้กับสถานทูต เดอะเบสท์ แนะนำควรมีประมาณ $25,000 – $30,000 ขึ้นไป (ประมาณ 775,000 – 930,000 บาท 

นักศึกษาต่างชาติที่ถือวีซ่านักเรียนอเมริกา F-1 จะได้สิทธิ์ทำงานระหว่างเรียนด้วยเช่นเดียวกัน โดยในปีแรก นักศึกษาจะต้องทำงานเฉพาะ On-Campus เท่านั้น ส่วนปีที่ 2 นักศึกษาสามารถขอฝึกประสบการณ์ Off-Campus นอกจากนี้ ยังสามารถขยาย OPT ได้อีก 24 เดือนทำให้ระยะเวลา OPT รวม 36 เดือน 

คลิก เพื่อศึกษาเงื่อนไขการทำงานระหว่างเรียนของวีซ่านักเรียนอเมริกา F-1 อย่างละเอียด

ทำไมต้องเรียนต่อที่อเมริกา?

• สหรัฐอเมริกามีมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลกมากมาย เช่น MIT, Stanford University, Harvard University และ Caltech University ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัย TOP 10 ของโลก
• หลักสูตร STEM พร้อมโอกาสที่เปิดกว้าง หลักสูตร STEM หรือ Science, Technology, Engineering, Math เป็นหลักสูตรที่เปิดโอกาสให้ทำงานหลังเรียนจบ OPT ที่มากกว่า เพื่อฝึกปฏิบัติ และสามารถก้าวสู่การทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ระบบการศึกษาที่ยืดหยุ่น ระบบโอนหน่วยกิต Credit Transfer ช่วยให้การเรียนต่อปริญญาตรีที่อเมริกาง่ายขึ้น ผู้เรียนไม่จำเป็นต้องเรียนจบ High School ที่อเมริกา ก็สามารถเรียนต่อ 2-Year College และโอนหน่วยกิตเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยได้ ไม่ต้องสอบ SAT, GMAT, GRE
• มีหลักสูตรที่หลากหลาย มหาวิทยาลัยในอเมริกา เปิดสอนหลักสูตรมากกว่า 2 ล้านหลักสูตร ผ่านมหาวิทยาลัยกว่า 4 พันแห่ง ทั้งระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญเอก รวมถึงหลักสูตรอนุปริญญา Associate Degree และประกาศนียบัตร Certificate
• เป็นศูนย์วิจัยระดับโลก สหรัฐอเมริกามีชื่อเสียงโด่งดังด้านงานวิจัย และเป็นแนวหน้าในการพัฒนาของโลก ตั้งแต่งานวิจัยวิทยาศาสตร์ อุตสาหกรรม สังคม วัฒนธรรม โดยจากข้อมูลของ NSF ประเทศสหรัฐอเมริกาใช้งานในการวิจัยและนวัตกรรมอยู่ที่ 22 พันล้านดอลลาร์ในปี 2015
• โอกาสในการจ้างงานที่มากกว่า หลังจากสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี นักศึกษากว่า 70% ได้งานทำหลังเรียนจบ โดยอัตราค่าตอบแทนอยู่ที่ $61,000 – $120,700 หรือประมาณ 1.89 – 3.74 ล้านบาทต่อปี

ทำไมต้องมาเรียนที่รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา?

รัฐวอชิงตัน Washington เป็นรัฐที่ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา ติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก เป็นรัฐที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 18 และเป็นรัฐที่มีประชากรมากเป็นอันดับที่ 13 ของอเมริกา ชาววอชิงตัน 60% อาศัยอยู่ที่เมืองซีแอตเทิล ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการค้า คมนาคม ธุรกิจ ขนส่ง ในวอชิงตันมีธุรกิจชั้นนำของโลกหลายบริษัทได้แก่ Microsoft Amazon และเศรษฐกิจอื่นได้แก่ การท่องเที่ยว อิเล็กทรอนิกส์ การทำเหมืองแร่ ป่าไม้ และผลิตภัณฑ์จากไม้ อุตสาหกรรมการผลิตในวอชิงตัน ได้แก่ เครื่องบิน การต่อเรือและอุปกรณ์การขนส่งอื่นๆ การแปรรูปอาหาร โลหะ เคมีภัณฑ์ และเครื่องจักร

วอชิงตันเป็นหนึ่งในรัฐที่มั่งคั่งและมีสังคมเสรีที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกา อยู่ในอันดับที่ดีที่สุดสำหรับอายุขัยและการว่างงานที่ต่ำอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากโคโลราโดวอชิงตันยังเป็นหนึ่งในรัฐแรกๆ ที่ออกกฎหมายกัญชาเพื่อการรักษาโรค และเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ เป็น 1 ใน 36 รัฐแรกที่รับรองการแต่งงานของเพศเดียวกันในปี 2555 เป็น 1 ใน 4 รัฐของสหรัฐอเมริกาที่ให้การทำแท้งถูกกฎหมาย ในปี 2008 ได้มีการลงประชามติเกี่ยวกับการทำการุณยฆาต 

---

ติดต่อเดอะเบสท์เพื่อสอบถามข้อมูลการเรียนต่อต่างประเทศเพิ่มเติม

เดอะเบสท์ เป็นศูนย์บริการให้คำปรึกษาเรียนต่อต่างประเทศครบวงจร เราเป็นตัวแทนที่ให้บริการแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และ ประเทศอื่นๆ อีก 25 ประเทศทั่วโลก เรายินดีให้ความช่วยเหลือตั้งแต่เริ่มสมัครเรียน จนสำเร็จการศึกษา รวมถึงดูแลนักเรียนระหว่างเรียนจนนักเรียนเรียนจบด้วยทีมผู้เชียวชาญในด้านการเรียนต่อต่างประเทศ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ขั้นตอนเหล่านี้เราดำเนินการให้ฟรี และเราพร้อมที่จะทำตามคุณภาพ และมาตรฐานดังสโลแกนที่ว่า “We are Quality”

“เรายินดีที่จะดูแลนักเรียนทุกคน ตั้งแต่เริ่มต้นจนนักเรียนสำเร็จการศึกษา และทำให้การเรียนต่อของคุณเป็นเรื่องง่าย ” สอบถามข้อมูลการบริการเพิ่มเติมติดต่อ
โทร : 090-327 3558, 088-269 5099
Email :contact@thebest-edu.com
Line : @thebestedu หรือคลิกเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ