เดอะเบสท์ แนะแนวเรียนต่อต่างประเทศครบวงจร

เรียนต่อออสเตรเลีย | เปิดรับสมัครแล้ว โครงการเรียนภาษาอังกฤษระยะสั้น JUNIOR HOLIDAY PROGRAM 2025 สำหรับน้องๆ ที่ต้องการเน้นพัฒนาทักษะภาษา สนุกสนานกับการท่องเที่ยว สำหรับน้องๆ อายุ 11-17 ปี | ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย

สารบัญบทความ

Last updated สิงหาคม 29, 2024 ago by Thebestedu

สำหรับน้องๆ หรือผู้ปกครองท่านใด ที่กำลังมองหาโครงการที่ไปเรียนแบบระยะสั้น หลาย ๆ สถาบันก็ได้จัดโครงการ Summer Camp ออกมาอย่างมากมาย แต่หลายๆ โครงการ ก็มีช่วงเวลาเดินทางที่ต่างจากเวลาปิดเทอมของนักเรียนไทย และไม่ได้เน้นการเรียนภาษาเท่าที่ควร และนักเรียนไม่ได้พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษอย่างเต็มที่ เดอะเบสท์ได้เห็นความสำคัญของการเรียนภาษาอังกฤษ ของนักเรียนต่างชาติ ซึ่งน้องๆ ควรได้รับการเรียนอย่างเต็มที่ พร้อมท่องเที่ยวและเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ และมีความยืดหยุ่น จึงได้จัดทำโครงการ JUNIOR HOLIDAY PROGRAM ซึ่งเป็นโครงการที่เน้นการเรียนภาษาอังกฤษเป็นหลัก สามารถเดินทางช่วงเวลาไหนก็ได้ สามารถเดินทางคนเดียวก็ได้ และมีกิจกรรม ท่องเที่ยวเสริมด้วย ซึ่งเป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ปกครองที่ต้องการส่งบุตรหลานไปพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษที่ต่างประเทศ

โครงการ JUNIOR HOLIDAY PROGRAM กับสถาบัน Browns English Language School


โครงการ JUNIOR HOLIDAY PROGRAM คืออะไร ?

Junior Holiday Program เป็นโครงการเรียนภาษาอังกฤษ ที่ออกแบบมาสำหรับน้องๆ อายุ 11 – 17 ปี ในระยะเวลา 1 – 6 สัปดาห์ เป็นโปรแกรมภาษาอังกฤษสำหรับเด็กช่วงวัยประถมศึกษาที่จัดขึ้นในช่วงปิดเทอม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของเด็กๆ ผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ที่สนุกสนานและหลากหลาย รวมไปถึงการทัศนศึกษาและกิจกรรมทางวัฒนธรรม ตอบโจทย์ความต้องการ พัฒนาขีดความสามารถในการเรียนรู้ของผู้เรียนได้อย่างเต็มที่ เน้นเรียนภาษาอังกฤษ ทักษะภาษาอังกฤษทั้ง 4 ด้าน ฟัง พูด อ่าน เขียน ฝึกฝนการใช้ภาษาอังกฤษในสถานการณ์จริง ได้พบปะเพื่อนใหม่จากทั่วโลก สนุกสนาน ปลอดภัย ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากเจ้าหน้าที่ มีกิจกรรมหลังเลิกเรียน เช่น ทัศนศึกษา กีฬา เกม และงานฝีมือ นอกจากนี้ยังมีทริปท่องเที่ยว เช่น สวนสัตว์ พิพิธภัณฑ์ สวนสนุก ชายหาด และ กิจกรรมทางวัฒนธรรม เช่น เรียนรู้วัฒนธรรมออสเตรเลีย ทำอาหาร พบปะผู้คนท้องถิ่นที่มอบทั้งความรู้ และประสบการณ์อย่างเต็มเปี่ยม

ทำไมต้องเข้าร่วมโครงการ JUNIOR HOLIDAY PROGRAM ที่สถาบัน BROWN ENGLISH LANGUAGE SCHOOL ?

BROWNS English Language School สถาบันสอนภาษาอังกฤษชั้นนำในออสเตรเลีย มุ่งมั่นมอบประสบการณ์การเรียนภาษาอังกฤษอันทรงคุณค่าแก่ผู้เรียน ด้วยหลักสูตรที่หลากหลายและเข้มข้น เหมาะกับทุกระดับความสามารถ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบริสเบน, โกลด์โคสต์ และเมลเบิร์น  สถาบันขอเสนอโครงการ Junior Holiday Program โปรแกรมสุดพิเศษสำหรับน้อง ๆ ที่ อายุ 12-17 ปี ที่จะพาน้องๆ ไปเรียนภาษาอังกฤษแบบเต็มอิ่ม ผสมผสานกับกิจกรรมสนุกสนาน และโอกาสท่องเที่ยวสุดประทับใจในประเทศออสเตรเลีย

จุดเด่นของสถาบัน Brown English Language School

  • หลักสูตรออกแบบมาเฉพาะสำหรับผู้เรียนอายุระหว่าง 11 – 17 ปี 
  • เรียนกับอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการรับรอง เน้นการสอนแบบ Active Learning เน้นทักษะการพูด ฟัง อ่าน เขียน ได้ฝึกฝนภาษาอังกฤษในสถานการณ์จริง
  • สนุกกับกิจกรรมหลากหลาย เช่น กิจกรรมกลุ่ม กีฬา งานอดิเรก ทัวร์ชมเมือง เที่ยวชายหาด และอื่นๆ อีกมากมาย ได้เรียนรู้วัฒนธรรมออสเตรเลีย ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ
  • ระยะเวลาเรียนตั้งแต่ 1 ถึง 6 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความต้องการของนักเรียน
  • บริการรับส่งสนามบิน พนักงานขับรถรับส่งสนามบินของ BROWNS จะคอยต้อนรับกลุ่มเยาวชนที่สนามบินและพาไปยังที่พักโฮมสเตย์แต่ละคน
  • ครอบครัวโฮมสเตย์ที่อบอุ่น ของ BROWNS ล้วนเป็นมิตร เอาใจใส่ และมีประสบการณ์ในการดูแลนักเรียนต่างชาติ มีอาหารทุกมื้อ ทั้งอาหารเช้า อาหารกลางวัน และอาหารเย็น นอกจากนี้ยังมีบริการเสริมรถรับส่งระหว่างโฮมสเตย์กับโรงเรียน
  • เจ้าหน้าที่ดูแลโฮมสเตย์ พร้อมให้ความช่วยเหลือแก่นักเรียนในการปรับตัวเข้ากับชีวิตโฮมสเตย์
  • บริการสนับสนุนนักเรียน ทีมงานฝ่ายบริการนักเรียนของ BROWNS ให้การสนับสนุนและดูแลเป็นอย่างดี
  • อาจารย์ของ BROWNS เป็นผู้สอนที่มีคุณภาพ ผ่านการอบรมตามระบบการสอนภาษาอังกฤษ BROWNS
  • บทเรียนสนุกสนานและท้าทาย เน้นการสื่อสารภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน นักเรียนมีโอกาสฝึกพูดภาษาอังกฤษนอกห้องเรียนเป็นประจำ
  • นักเรียนจะได้เข้าร่วมพิธีสำเร็จการศึกษาและได้รับใบรับรองจาก BROWNS

หลักสูตรเรียนภาษาอังกฤษระยะสั้น ได้เรียนอะไรบ้าง ?

หลักสูตรเรียนภาษาอังกฤษระยะสั้น มีให้เลือกเรียน 2 แผนการเรียน ซึ่งส่วนใหญ่ จะพัฒนา 4 ทักษะทางภาษาอังกฤษ คือ ฟัง พูด อ่าน เขียน พร้อมไวยกรณ์ คำศัพท์ และการสื่อสารให้ชัดและเป็นธรรมชาติ พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของน้องๆ ตั้งแต่ระดับเริ่มต้น Elementary (A2) ถึงระดับ Upper Intermediate (B2) มีการวัดผลทุกสัปดาห์ เพื่อดูพัฒนาการของเด็ก สอดแทรกด้วยกิจกรรมสุดตื่นเต้นทุกๆ วัน เพื่อผ่อนคลายความเครียดหลังจากการเรียน เช่น ปาร์ตี้บาร์บีคิว เดินชมชายหาด ท่องเที่ยวในตัวเมืองซิดนีย์ และพิพิธภัณฑ์ที่มอบทั้งความรู้ และประสบการณ์อย่างเต็มเปี่ยม  โดยน้องๆ สามารถเลือกแผนการเรียนให้ตรงกับความต้องการมากที่สุด

หลักสูตรนี้ได้เรียนอะไรบ้าง?

  • ไวยากรณ์หลักประจำสัปดาห์
  • คำศัพท์ทางวิชาการหลักสำหรับคณิตศาสตร์
  • งานการพูดอย่างคล่องแคล่ว การออกเสียง
  • การเขียนเพื่อวิทยาศาสตร์
  • การฟังและการพูด
  • ทักษะการอ่านในหัวข้อรายสัปดาห์ เรียนรู้กลยุทธ์การอ่าน เรียนรู้กลยุทธ์การฟังใหม่ๆ
  • การเขียน – เรียงความการวิเคราะห์เชิงวิพากษ์ในหัวข้อรายสัปดาห์
  • การทดสอบการสะกดคำ
  • เรียนรู้วิธีเตรียม Power point
  • การโต้วาทีหัวข้อต่างๆ เช่น การศึกษา
  • เรียนรู้เกี่ยวกับศิลปะนามธรรมและการสร้างจิตรกรรมฝาผนังในชั้นเรียน
  • การเรียนรู้ด้วยตนเอง-คอมพิวเตอร์

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก

ตัวอย่างตารางเวลาเรียน

เมืองบริสเบน

 

เมืองโกลด์โคสต์

เมืองเมลเบิร์น

กำหนดการเริ่มเรียน

  • อาทิตย์ ที่ 12 มกราคม 2568
  • จันทร์ ที่ 24 มีนาคม 2568

เมืองที่เปิดสอน

  • เมลเบิร์น, บริสเบน, โกลด์โคสต์

สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ

เมืองบริสเบน

  • BRISBANE CITY ใจกลางเมืองบริสเบน สามารถเดินเที่ยวได้ตลอดทั้งวัน มีร้านอาหาร ร้านกาแฟที่บรรยากาศแบบ Tropical มากมายให้เลือกนั่งชิล และถ่ายรูป รวมถึงมีร้านค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ตให้เลือกช้อปปิ้งมากมาย ตอนกลางคืน มีภัตราคาร ผับ บาร์มากมายให้ผ่อนคลาย
  • SOUTH BANK อ่าวขนาดใหญ่ในใจกลางเมืองบริสเบน เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจในวันหยุดสัปดาห์ ที่นี่ สามารถว่ายน้ำได้ฟรี และมีกิจกรรมทางน้ำมากมาย
  • FORTITUDE VALLEY ย่านชานเมืองที่น่าสนใจ มีประวัติศาสตร์นาวนาน เป็นแหล่งสำหรับชาวอินดี้ มีสินค้าวินเทจมากมายขาย บางอย่างเป็นของหายาก ช่วงเย็น ที่นี่เป็นสวรรค์ของนักดื่ม มีร้านบันเทิงยามค่ำคืนมากมายให้ลิ้มลอง
  • NEW FARM สวนสาธารณะที่เงียบสงบของชานเมืองบริสเบน ที่นี่ยังเป็นแหล่งรวมร้านอาหารสตรีทฟู้ดที่อร่อย และราคาไม่แพงมากมาย เหมาะสำหรับนั่งปิกนิก หรือเล่นคริกเก็ตในวันหยุดสุดสัปดาห์
  • JAMES STREET ถนนที่เต็มไปด้วยร้านค้าบูติก สินค้าแบรนด์เนม หรูหราสุดตระการตา ขึ้นชื่อให้เป็นถนนแห่งแฟชั่น Fashion Street นอกจากนี้ยังมีภัตรคารที่ได้รับรางวัลมากมาย
  • NEWSTEAD & TENERIFFE ย่านชานเมืองที่เงียบสงบ เก่าแก่ วินเทจ และเป็นที่ผลิตเบียร์ชื่อดังของเมืองบริสเบน
  • ASCOT & HAMILTON เป็นที่ตั้งของตลาดขนาดใหญ่ Eat Street Markets มีเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์ ตลาดแห่งนี้ เต็มไปด้วยอาหารแบบสตรีทฟูดที่แสนอร่อย และมีเกือบทุกสัญชาติ
  • WOOLLOONGABBA ย่านชานเมืองที่เต็มไปด้วยสินค้าวินเทจ และร้านเสื้อผ้าบูติกเก๋ไก๋มากมาย ที่สามารถเลือกซื้อได้ รวมถึงของมือสองหายาก
  • SPRING HILL & ROMA STREET PARKLAND อุทยานที่ครอบคลุมพื้นที่กว่า 16 เฮกเตอร์ เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ อ่านหนังสือ หรือออกกำลังกายเบาๆ ริมแม่น้ำ
  • CAXTON STREET & THE BARRACKS เป็นถนนสายบันเทิงที่ดีที่สุดในเมืองบริสเบน มีวงดนตรีสด การแข่งขัดฟุตบอล ร้านอาหาร ผับ บาร์ 
  • สำรวจวัฒนธรรมท้องถิ่น – พิพิธภัณฑ์ควีนส์แลนด์ ศูนย์วัฒนธรรม หอศิลป์ประจำรัฐควีนส์แลนด์ และแกลเลอรีศิลปะสมัยใหม่  ตั้งอยู่ในเซาท์แบงค์ เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับศิลปะ ประวัติศาสตร์ ของเมืองควีนส์แลนด์
 

เมืองเมลเบิร์น

  • The Ian Potter Centre: NGV Australia –  หอศิลป์แห่งชาติของรัฐวิกตอเรียในออสเตรเลีย ตั้งอยู่ที่จัตุรัส Federation ในเมลเบิร์นรัฐวิกตอเรีย
  • City laneways – ย่านธุรกิจของเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย เป็นถนนเส้นเก่าแก่ตั้งแต่สมัยวิคตอเรียและเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมยอดนิยม รวมถึงเป็นที่ตั้งของร้านกาแฟชั้นเยี่ยมของเมลเบิร์นด้วย
  • Royal Botanic Gardens Victoria – เป็นสวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่ของเมลเบิร์น เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ และออกกำลังกาย
  • Werribee Open Range Zoo – สวนสัตว์เปิดแนวแอฟริกันใน Werribee ห่างจากเมลเบิร์นวิกตอเรียประมาณ 32 กิโลเมตรทางตะวันตกเฉียงใต้ เป็นส่วนหนึ่งของ Zoological Parks and Gardens Board หรือ ‘Zoos Victoria’ ซึ่งรวมถึงสวนสัตว์เมลเบิร์นและ Healesville
  • Federation Square – จุดนัดพบของชาวเมือง อยู่ตรงข้ามกับสถานีรถไฟ Flinders street และมหาวิหารเซนต์พอล สามารถนั่งพักเพื่อชมกิจกรรมต่างๆ หรือเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ในอาคารโดยรอบ
  • Koorie Heritage Trust –  เป็นองค์กรทางวัฒนธรรมตั้งอยู่ในเมลเบิร์น เพื่อความมุ่งมั่นในการปกป้องรักษาและส่งเสริมวัฒนธรรมที่มีชีวิตของชนพื้นเมืองดั้งเดิมของออสเตรเลียตะวันออกเฉียงใต้ มีคอลเล็กชันภาพเขียน สิ่งประดิษฐ์ หนังสือ ภาพถ่าย และ วิดีโอ กว่า 60,000 ชนิด 
  • Australian Sports Museum – พิพิธภัณฑ์กีฬาออสเตรเลีย มีการจัดการแข่งขันกีฬา เช่น คริกเก็ต ฟุตบอล เทนนิส รักบี้ บาสเก็ตบอล มวย และเน็ตบอล รวมถึงเป็นสถานที่จัดโอลิมปิกด้วย
  • Scienceworks – พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ในเมลเบิร์นประเทศออสเตรเลีย ตั้งอยู่ในย่านชานเมือง Spotswood
  • Luna Park Melbourne – สวนสนุกเก่าแก่ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ตั้งอยู่ริมฝั่งอ่าวพอร์ตฟิลิปในเซนต์คิลดาเมลเบิร์นรัฐวิกตอเรีย เปิดทำการมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม 1912 
  • Queen Victoria Market – ตลาดที่มีพื้นที่ประมาณ 7 เฮกตาร์ เป็นตลาดกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในซีกโลกใต้
  • Immigration Museum – พิพิธภัณฑ์ที่แสดงประวัติการก่อตั้งประเทศออสเตรเลีย ตั้งอยู่บนถนน Flinders ในเมลเบิร์น รัฐวิกตอเรีย ในอาคาร Old Customs House ที่สร้างขึ้นในปี 1835 โดย John Pascoe Fawkner หนึ่งในผู้ก่อตั้งของเมลเบิร์น
  • Melbourne Museum – พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติและวัฒนธรรมที่ตั้งอยู่ใน Carlton Gardens ในเมลเบิร์นประเทศออสเตรเลีย ตั้งอยู่ติดกับ Royal Exhibition Building เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในซีกโลกใต้
  • Eureka Skydeck 88 – ตึกระฟ้าที่มีความสูง 297.3 เมตร ตั้งอยู่ในเขต Southbank ของเมืองเมลเบิร์น รัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย
  • Brighton Bathing Boxes – กระท่อมขนาดเล็กบนชายหาด มีสีสันสดใสทอดยาวไปบนชายหาด Brighton
  • St Kilda Pier – ชายหาดที่ตั้งอยู่ใน St Kilda, Port Phillip, Victoria, Australia ห่างจากใจกลางเมืองเมลเบิร์นไปทางใต้ 6 กิโลเมตร เป็นหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมลเบิร์น 
  • Melbourne Zoo – สวนสัตว์ในเมลเบิร์นประเทศออสเตรเลีย ตั้งอยู่ภายใน Royal Park อยู่ห่างจากใจกลางเมลเบิร์นประมาณ 4 กิโลเมตร มีสัตว์มากกว่า 320 ชนิด จากออสเตรเลียและทั่วโลก
  • Old Melbourne Gaol – คุกสมัยอดีตที้ใช้ในปี  1842 และปี 1929 บนถนน Russell Street ในเมลเบิร์น รัฐวิกตอเรีย ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์
  • Shrine of Remembrance – ศาลระลึกถึงเป็นอนุสรณ์สถานสงครามในเมลเบิร์นรัฐวิกตอเรียประเทศออสเตรเลียตั้งอยู่ที่ Kings Domain บนถนนเซนต์กิลดา มันถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารที่ทำหน้าที่ในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ปัจจุบันเป็นอนุสรณ์แก่ชาวออสเตรเลียทุกคนที่ได้ทำหน้าที่ในสงครามใดๆ และเป็นสถานที่จัดงาน ANZAC Day ด้วย
  • State Library Victoria – ห้องสมุดกลางของรัฐวิกตอเรียออสเตรเลียตั้งอยู่ในเมลเบิร์น ก่อตั้งขึ้นในปี 1854 เป็นห้องสมุดสาธารณะเมลเบิร์นทำให้เป็นห้องสมุดสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดของออสเตรเลีย

 

ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ

เมืองบริสเบน

รายการ 2 สัปดาห์ 4 สัปดาห์ 6 สัปดาห์

ค่าธรรมเนียมการสมัคร

(Application Fee)

270 AUD

ค่าเรียน

(Tuition Fee)

1,560 AUD 3,120 AUD 4,680 AUD

ค่าธรรมเนียมทรัพยากร

(Resource Fee)

36 AUD 72 AUD 108 AUD

ค่าธรรมเนียมการจัดหาที่พัก

(Placement Fee)

275 AUD

ค่าโฮมสเตย์

(Single Homestay – Full Board)

880 AUD 1,760 AUD 2,640 AUD

ค่ารับส่งสนานบินไปกลับ

(from Brisbane Airport)

330 AUD

ประมาณค่าใช้จ่ายโครงการ

3,351 AUD
(ประมาณ 82,700 บาท)
5,827 AUD
(ประมาณ 143,800 บาท)
8,303 AUD
(ประมาณ 204,000 บาท)

 

เมืองโกลด์โคสต์

รายการ 2 สัปดาห์ 4 สัปดาห์ 6 สัปดาห์

ค่าธรรมเนียมการสมัคร

(Application Fee)

270 AUD

ค่าเรียน

(Tuition Fee)

1,560 AUD 3,120 AUD 4,680 AUD

ค่าธรรมเนียมทรัพยากร

(Resource Fee)

36 AUD 72 AUD 108 AUD

ค่าธรรมเนียมการจัดหาที่พัก

(Placement Fee)

275 AUD

ค่าโฮมสเตย์

(Single Homestay – Full Board)

910 AUD 1,820 AUD 2,730 AUD

ค่ารับส่งสนานบินไปกลับ

(from Brisbane Airport)

330 AUD

ประมาณค่าใช้จ่ายโครงการ

3,381 AUD
(ประมาณ 83,400 บาท)
5,887 AUD
(ประมาณ 145,200 บาท)
8,393 AUD
(ประมาณ 207,000 บาท)

 

เมืองเมลเบิร์น

รายการ 2 สัปดาห์ 4 สัปดาห์ 6 สัปดาห์

ค่าธรรมเนียมการสมัคร

(Application Fee)

270 AUD

ค่าเรียน

(Tuition Fee)

1,560 AUD 3,120 AUD 4,680 AUD

ค่าธรรมเนียมทรัพยากร

(Resource Fee)

36 AUD 72 AUD 108 AUD

ค่าธรรมเนียมการจัดหาที่พัก

(Placement Fee)

340 AUD

ค่าโฮมสเตย์

(Single Homestay – Full Board)

930 AUD 1,860 AUD 2,790 AUD

ค่ารับส่งสนานบินไปกลับ

(from Brisbane Airport)

430 AUD

ประมาณค่าใช้จ่ายโครงการ

3,566 AUD
(ประมาณ 88,000 บาท)
6,092 AUD
(ประมาณ 150,300 บาท)
8,618 AUD
(ประมาณ 212,600 บาท)

สามารถเดินทางได้เมื่อไหร่ ?

โครงการนี้ ไม่จำกัดช่วงเวลาเดินทาง น้องๆ สามารถเดินทางช่วงไหนก็ได้ หรือเดินทางช่วงปิดเทอมเล็ก หรือปิดเทอมใหญ่ก็ได้ ตามความสะดวกและเหมาะสม เหมาะสำหรับนักเรียนที่ต้องการใช้เวลาว่างในช่วงปิดเทอม และต้องการไปแบบส่วนตัว ไม่ต้องรอให้ครบกลุ่ม แต่นักเรียนสามารถจับกลุ่มกับเพื่อน 2 – 3 คน และเดินทางไปพร้อมกันได้

เริ่มเรียนได้เมื่อไหร่ ?

โครงการนี้ สามารถเริ่มเรียนได้ทุกวันวันจันทร์ โดยน้องๆ อาจจะเดินทางล่วงหน้าก่อนวันเริ่มเรียนประมาณ 1 – 3 วัน เช่น เดินทางวันศุกร์ และเริ่มเรียนวันจันทร์ ดังนั้น ผู้ปกครองควรเช็คช่วงระยะเวลาปิดเทอมของน้องๆ ให้ชัดเจน เพื่อจะได้วางแผนว่า น้องๆ สามารถเรียนได้สูงสุดกี่สัปดาห์ และควรเดินทางช่วงไหน

ไม่เก่งภาษาอังกฤษสามารถไปเรียนได้ไหม ?

โปรแกรมนี้จะออกแบบมาเพื่อช่วยให้นักเรียนพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ แต่ทางโรงเรียนก็เข้าใจดีว่านักเรียนแต่ละคนมีความสามารถและความต้องการที่แตกต่างกัน ทางโรงเรียนจึงมีการแบ่งชั้นเรียนตามระดับภาษา เพื่อให้นักเรียนได้เรียนในระดับที่เหมาะสมกับตัวเอง นอกจากนี้ ทางโรงเรียนยังมีทีมครูผู้เชี่ยวชาญและมากประสบการณ์ที่จะคอยดูแลและให้คำแนะนำนักเรียนอย่างใกล้ชิดดังนั้น ไม่ว่าคุณจะมีพื้นฐานภาษาอังกฤษมากหรือน้อย โปรแกรม JUNIOR HOLIDAY PROGRAM ของสถาบัน BROWN ENGLISH LANGUAGE SCHOOL ก็สามารถช่วยคุณพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษได้อย่างแน่นอน

พักกับใคร เป็นอย่างไรบ้าง ?

ทางโรงเรียนจะให้พักโฮมสเตย์กับครอบครัวชาวออสเตรเลีย (Homestay) สะดวก สบาย ปลอดภัย ได้รับการรับรองจากรัฐบาลออสเตรเลีย (หรือพักกับผู้ปกครองของนักเรียนโดยตรงกรณีที่ผู้ปกครองเดินทางไปด้วย) โดยโฮมสเตย์ทุกหลัง ได้รับการตรวจสอบจากรัฐบาลออสเตรเลีย เพื่อให้แน่ใจว่า ทุกครอบครัวปฏิบัติตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการดูแล และอภิบาลนักเรียนต่างชาติ อย่างดี โดยครอบครัวที่นักเรียนเข้าพัก จะดูแลนักเรียน และยังได้ลิ้มรองรสชาติอาหารแบบดั้งเดิมของชาวออสซี่อีกด้วย โดยที่พักแบบโฮสต์แฟมิลี่รวมอาหาร 2 มื้อ ในวัน จันทร์ – ศุกร์ และ 3 มื้อ ในวันหยุด เสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

ข้อดีเมื่อพักกับโฮมสเตย์

  • ได้ฝึกภาษา กับเจ้าของภาษาทุกวัน ซึ่งจะทำให้เราเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้อย่างรวดเร็วค่ะ
  • มีอาหารเตรียมให้เสมอ ส่วนใหญ่จะเป็นมื้อเช้า และมื้อเย็นในวันธรรมดา และสามมื้อในวันหยุด ซึ่งค่าอาหารจะถูกรวมกับค่าเช่าแล้ว 
  • มีโอกาสได้สัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่นของคนชาตินั้น ไม่ว่าจะเป็นวิธีการใช้ชีวิต อาหารท้องถิ่นที่ทำกินทั่วไป รวมถึงวัฒนธรรมใหม่ๆ
  • Host Family ส่วนใหญ่ จะมีบริการซักอบรีดให้ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง
  • ได้ฝึกความรับผิดชอบต่อส่วนรวม และส่วนตัว เพราะเวลาจะทำอะไรก็ต้องคิดถึงโฮสต์ก่อนเสมอ
  • วันหยุดบางครั้ง อาจจะมีโอกาศได้ไปเที่ยวกับ Host ซึ่งจะถือเป็นประสบการณ์ที่หาได้ยาก จะทำให้เราได้ค้นหาสถานที่ใหม่ๆ ที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่รู้จัก
  • บางครอบครัว จะมีบริการไปรับส่งนักเรียนด้วย และอาจจะช่วยสอนการบ้านให้ทุกเย็นด้วย 

แนะนำ | อายุน้อยกว่า 18 ปี เรียนต่อต่างประเทศ ทำไมต้องพักกับโฮสแฟมิลี่ โฮสแฟมิลี่คืออะไร บทความนี้มีคำตอบ

คุณสมบัติของผู้ที่สมัคร

  1. เป็นนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 (อายุตั้งแต่ 11 – 17 ปี)
  2. สำหรับนักเรียนอายุต่ำกว่า 11 ปี ผู้ปกครองจะต้องเดินทางไปด้วยอย่างน้อย 1 คน

ขั้นตอนการสมัครโครงการ

  1. ผู้ปกครองและนักเรียนเลือกสถาบันที่เข้าร่วมโครงการ โดยสามารถปรึกษาเดอะเบสท์ได้เต็มที่ว่ามีความต้องการแบบไหน เมื่อเลือกโรงเรียนได้แล้ว ทางเดอะเบสท์จะเรียกเอกสารการสมัครเรียนให้
  2. เมื่อเลือกโรงเรียนแล้ว ทางเดอะเบสท์จะเรียกเอกสารการสมัครเรียนให้ โดยนักเรียนจะต้องเตรียมเอกสารให้พร้อมตาม Checklist ที่ทางเดอะเบสท์ส่งให้
  3. ชำระค่าค่ามัดจำโครงการ 15,000 บาท (ค่ามัดจำโครงการคืนให้เมื่อวีซ่าอนุมัติ และผู้เรียนได้เริ่มเรียนเรียนตามที่กำหนด)
  4. หลังจากที่ชำระเงินค่ามัดจำโครงการแล้ว ทางเดอะเบสท์ จะเตรียมเอกสารยื่นวีซ่าให้ทันที 
  5. เมื่อได้รับเอกสารจากทางโรงเรียนแล้ว เดอะเบสท์จะชี้แจงค่าใช้จ่ายโดยละเอียด และส่งให้ทางผู้ปกครองชำระเงินในส่วนที่เหลือ โดยเงินค่ามัดจำโครงการ 15,000 บาท จะนำไปหักจากค่าใช้จ่ายที่ได้จ่ายจริง
  6. เมื่อผู้ปกครองชำระค่าธรรมเนียมโครงการทั้งหมดแล้ว หลังจากได้ใบตอบรับจากทางโรงเรียน (ใบเสร็จจากการจ่ายเงินจากทางโรงเรียน) เดอะเบสท์ จะดำเนินการยื่นวีซ่าให้ทันทีภายใน 1 สัปดาห์
  7. เมื่อวีซ่าผ่านแล้ว สามารถเดินทางได้เลย ตามวัน และเวลา ที่กำหนด

หลักฐานการเงินของผู้ปกครองที่ต้องแสดงให้กับสถานทูต

  1. แบงค์การันตี (Bank Guarantee Letter) โดยผู้ปกครองจะต้องขอเป็นภาษาอังกฤษ ระบุเป็นยอดเงินสกุลเงิน Australian Dollar และชื่อและนาสมสกุลของผู้เรียน จะต้องตรงตามหน้า Passport
  2. แบงค์สเตทเม้น (Bank Statement) ย้อนหลัง 6 เดือน โดยผู้ปกครองจะต้องขอเอกสารเป็นภาษาอังกฤษเช่นกัน และยอดเงินใน Statement จะต้องตรงกันกับ Bank Guarantee 
  3. หลักฐานการเงินของผู้ปกครองที่จะต้องแสดงให้กับสถานทูต เดอะเบสท์ แนะนำควรมีประมาณ AUD 15,000 หรือ ประมาณ 300,000 บาท ขึ้นไป 

การเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศ สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี

ผู้ปกครองหลายๆ ท่าน อาจจะเป็นห่วงเกี่ยวกับการเดินทางของผู้โดยสารที่เป็นเด็ก ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว สายการบินจะอนุญาติให้เด็กอายุตั้งแต่ 5 – 17 ปี  สามารถเดินทางคนเดียวได้ โดยบริการพิเศษจากสายการบิน  Unaccompanied Minor ซึ่งจะดูแลเด็กนักเรียนตั้งแต่ รับส่งจากสนามบิน คอย บริการตอนอยู่บนเครื่องบิน และ รับส่งถึงมือญาติหรือ Host ที่รอรับที่ต่างประเทศ

คลิก เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการพิเศษ Unaccompanied Minor


การขอหนังสือเดินทาง (PASSPORT) สำหรับเด็กอายุไม่ถึง 20 ปี

สำหรับการขอหนังสือเดินทางสำหรับผู้เยาว์ ที่มีอายุไม่ถึง 20 ปี มีอยู่ 2 แบบ คือ การขอหนังสือเดินทางสำหรับผู้เยาว์ที่อายุต่ำกว่า 15 ปี และ การขอหนังสือเดินทางที่อายุระหว่าง 15 – 20 ปี ซึ่งขั้นตอน และเอกสาร จะแตกต่างกัน ดังนี้

คลิก เพื่อศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการขอหนังสือเดินทาง (Passport) สำหรับเด็กอายุไม่ถึง 20 ปี


ติดต่อเดอะเบสท์ ศูนย์บริการให้คำปรึกษาแนะแนวเรียนต่อต่างประเทศแบบครบวงจร เพื่อสอบถามข้อมูลการเรียนต่อออสเตรเลียเพิ่มเติม

  • บริการให้คำปรึกษาฟรี ทั้งเรื่อง การเรียน
  • เรื่องการทำวีซ่า การเตรียมเอกสาร
  • ทำให้การเรียนต่อต่างประเทศเป็นเรื่องง่าย
  • ดูแลจนกว่านักเรียนจะเรียนจบ
  • ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนอกเหนือจากค่าใช้จ่ายที่ทางโรงเรียนเรียกเก็บ

แนะนำให้สอบถามก่อนล่วงหน้า 3 เดือนก่อนจะเดินทาง ช้าสุดไม่ควรน้อยกว่า 2 เดือน เพื่อทางเดอะเบสท์จะได้ทำการจองที่นั่ง เนื่องจากจำนวนนักเรียนที่รับเข้าเรียนได้มีจำนวนจำกัด

ติดต่อเดอะเบสท์เพื่อสอบถามข้อมูลการเรียนต่อต่างประเทศเพิ่มเติม

เดอะเบสท์ เป็นศูนย์บริการให้คำปรึกษาเรียนต่อต่างประเทศครบวงจร เราเป็นตัวแทนที่ให้บริการแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และ ประเทศอื่นๆ อีก 25 ประเทศทั่วโลก เรายินดีให้ความช่วยเหลือตั้งแต่เริ่มสมัครเรียน จนสำเร็จการศึกษา รวมถึงดูแลนักเรียนระหว่างเรียนจนนักเรียนเรียนจบด้วยทีมผู้เชียวชาญในด้านการเรียนต่อต่างประเทศ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ขั้นตอนเหล่านี้เราดำเนินการให้ฟรี และเราพร้อมที่จะทำตามคุณภาพ และมาตรฐานดังสโลแกนที่ว่า “We are Quality”

บริการของเรามีอะไรบ้าง ?

  • ฟรี!! บริการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเรียนต่อต่างประเทศทุกระดับชั้นทั่วโลก ตั้งแต่ โรงเรียนประถม โรงเรียนมัธยม สถาบันวิชาชีพ และสถาบันในระดับอุดมศึกษา รวมถึงหลักสูตรภาษาต่างประเทศ และเลือกสถาบันที่ดีที่สุดให้กับผู้เรียน
  • เราให้ความช่วยเหลือตั้งแต่การประสานงานโรงเรียน เลือกโรงเรียนให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียน เตรียมเอกสารสมัครเรียน และดำเนินเรื่องสมัครเรียนให้ฟรี
  • บริการเตรียมเอกสารยื่นวีซ่าครบวงจร และบริการยื่นวีซ่ากว่า 25 ประเทศทั่วโลก พร้อมวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าอย่างตรงจุด และแนะนำวิธีการเตรียมตัวในการสัมภาษณ์วีซ่า 
  • บริการแปลเอกสาร ภาษาไทย – ภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาอังกฤษ – ภาษาไทย รวมถึงภาษาที่ 3 เริ่มต้นเพียงแผ่นละ 200 บาท
  • เดอะเบสท์ เป็นตัวแทนรับสมัครสอบ IELTS IDP อย่างเป็นทางการ พร้อมให้คำแนะนำ และนัดวันสอบให้โดยน้องๆ ไม่ต้องเสียเวลาสมัครเอง สมัครสอบได้ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
  • บริการซื้อประกันภัยการเดินทางและประกันสุขภาพนักเรียนต่างชาติ จากบริษัทประกันชั้นนำ MSIG, NIB, Allianz, Orbit และอื่นๆ
  • บริการจองตั๋วเครื่องบิน ทุกสายการบิน และประสานงานกับสถาบันเกี่ยวกับรถรับ – ส่ง สนามบิน
  • บริการจัดหาที่พักทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นโฮมสเตย์ อพาร์ทเม้น หรือหอพักนักศึกษา จัดหาให้ตามความต้องการส่วนบุคคล

 

 

“เรายินดีที่จะดูแลนักเรียนทุกคน ตั้งแต่เริ่มต้นจนนักเรียนสำเร็จการศึกษา และทำให้การเรียนต่อของคุณเป็นเรื่องง่าย ” สอบถามข้อมูลการบริการเพิ่มเติมติดต่อ
โทร : 090-327 3558088-269 5099
Email :contact@thebest-edu.com
Line : @thebestedu หรือคลิกเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ

เพิ่มเพื่อน

Scroll to Top

Discover more from เดอะเบสท์ แนะแนวเรียนต่อต่างประเทศครบวงจร

Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

Continue reading