Last updated มิถุนายน 9, 2022 ago by Thebestedu

การทำงานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียนในต่างประเทศ


การไปเรียนต่อต่างประเทศ แน่นอนอยู่แล้วว่ามีค่าใช้จ่ายสูง ทั้งค่าใช้จ่ายด้านการเรียน และค่าครองชีพในการอยู่อาศัย การทำงานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียน อาจจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายได้บางส่วน เช่น ค่าที่พัก หรือค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ ยังได้ประสบการณ์การทำงานในต่างประเทศอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ควรต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า ประเภทวีซ่าที่ถือได้รับการอนุญาตให้ทำงานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียนได้อย่างถูกต้องตามกฏหมาย และไม่ละเมิดเงื่อนไขการทำงานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียนในแต่ละประเทศนั้นๆ ที่สำคัญ การทำงานพาร์ทไทม์จะต้องไม่ขัดต่อการศึกษา

ทำไมนักศึกษาต่างชาติ เลือกทำงานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียน

  • ได้รายได้พิเศษ เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการเรียน การศึกษาในต่างประเทศมีค่าใช้จ่ายที่สูง ดังนั้น การทำงานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียนในแต่ละสัปดาห์ จะช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่าย เช่น ค่าครองชีพ ค่าที่พัก หรือสามารถเข้าร่วมกิจกรรมบันเทิงต่างๆ ได้มากขึ้น
  • พัฒนาทักษะทางภาษา  การทำงานนอกเวลาจะพัฒนาทักษะภาษาให้เร็วขึ้นและครอบคลุมมากขึ้น ได้เรียนรู้คำและวลีที่มีความสำคัญในสถานการณ์ต่างๆ 
  • สร้างทักษะทางสังคม ได้พบปะผู้คนและวัฒนธรรมใหม่ ได้ฟังและเรียนรู้ภาษาใหม่ เข้าใจวิธีการใหม่ๆ ในการจัดการกับผู้คนในชีวิตประจำวัน เข้าใจผู้คนในประเทศนั้นๆ ดีขึ้น ซึ่งสามารถช่วยให้ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น
  • มีโอกาสได้รู้จักผู้คนใหม่ๆ ซึ่งจะมีประโยชน์เมื่อกำลังมองหาคำแนะนำหรืองานอื่นๆ ที่มีความมั่นคง ในภายหลัง
  • เข้าใจวัฒนธรรมการทำงาน เมื่อเริ่มงานพาร์ทไทม์ จะมีประสบการณ์ตรงและเข้าใจวัฒนธรรมการทำงานในประเทศนั้นๆ ตั้งแต่วิธีการทำงานจนถึงชั่วโมงทำงาน จรรยาบรรณในการทำงาน และอื่นๆ ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมายที่จะช่วยให้ชีวิตการทำงานในภายหลัง
  • ได้รับประสบการณ์ในสายงานที่เกี่ยวข้อง หลายๆ คนเลือกทำงานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียนในสายงานที่เกี่ยวข้อง เช่น หากลงทะเบียนเรียนหลักสูตรการโรงแรม ก็อาจมองหางานพาร์ทไทม์ในสายงานเกี่ยวกับการท่องเที่ยวและการโรงแรม ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากเมื่อสำเร็จการศึกษา และมองหางานประจำในต่างประเทศ

ประเทศไหนบ้าง ที่สามารถทำงานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียนได้

1. ประเทศสหราชอาณาจักร

สำหรับนักเรียนต่างชาติที่ถือวีซ่า Tier 4 (General) Student Visa สามารถทำงานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียนได้ไม่เกิน 20 ชั่วโมง/สัปดาห์ และเต็มเวลาในช่วงวันปิดภาคการศึกษา สำหรับวีซ่านักเรียนระยะสั้นประเภท Student Visitor 6 หรือ 11 เดือน จะไม่สามารถทำงานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียนได้ เมื่อสำเร็จการศึกษา จะได้รับโอกาสในการขอ Graduate Route Visa เพื่อทำงานหลังเรียนจบแบบเต็มเวลาได้สูงสุด 3 ปี

2. ประเทศสหรัฐอเมริกา

นักเรียนต่างชาติที่ถือวีซ่า F-1 อนุญาตให้ทำงานในอเมริกาได้ โดยการทำงานระหว่างเรียนด้วยวีซ่านักเรียน F-1 แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

  1. On-Campus คือการทำงานในเขตสถาบันการศึกษา เช่น มหาวิทยาลัย เป็นงานที่สนับสนุนกิจการภายในมหาวิทยาลัย สามารถทำได้เลยเพียงขออนุญาตจาก DSO และงานที่ทำไม่จำเป็นต้องตรงสายก็ได้ อาจได้รับค่าตอบแทน หรือไม่ได้รับค่าตอบแทนก็ได้
  2. Off-Campus คือการทำงานนอกเขตสถาบันการศึกษา แบ่งออกเป็น
    • CTP คือการทำงานนอกวิทยาเขตในสายงานที่เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา หรือการฝึกงาน ช่วงระยะเวลาที่ทำ CPT จะถูกหักจาก OPT และผู้ที่ขอ CPT ครบ 12 เดือน จะไม่มีสิทธิ์ขอ OPT
    • OPT คือการทำงานนอกวิทยาเขตในสายงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับหลักสูตร แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ Pre-Completion OPT อนุญาตให้นักศึกษาสามารถทำงานระหว่างเรียน นอกวิทยาเขต Off-Campus ได้ และ Post-Completion OPT อนุญาตให้นักศึกษา ทำงานหลังเรียนจบได้ ในระยะเวลา 12 เดือน โดยช่วงเวลาที่ขอ Pre-Completion OPT จะถูกหักจาก Post-Completion OPT (เช่นเดียวกับ CPT) 
    • STEM OPT Extension หรือผู้ที่เรียนหลักสูตร STEM สามารถขอขยายระยะเวลา OPT ได้เพิ่มสูงสุด 24 เดือน รวมเป็น 36 เดือน โดยสามารถขอได้ 2 ครั้ง และการขอครั้งที่ 2 จะต้องลงทะเบียนเรียนในระดับการศึกษาที่สูงกว่าระดับแรก

3. ประเทศแคนาดา

วีซ่านักเรียนแคนาดาตั้งแต่หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพขึ้นไปสามารถทำงานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียนได้ 20 ชั่วโมง/สัปดาห์ และยังมีหลักสูตร Co-Op ที่สามารถทำงานแบบเต็มเวลาได้ด้วย นอกจากนี้ บางรัฐของแคนาดา เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วสามารถขอ Post Graduate Work Permit ได้สูงสุด 3 ปี เพื่อทำงานต่อในแคนาดา ส่วนนักเรียนที่ลงเรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษ หรือภาษาฝรั่งเศส ไม่สามารถทำงานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียนได้

4. ประเทศออสเตรเลีย

สำหรับผู้ถือวีซ่านักเรียนออสเตรเลีย (Student Visa) ทุกคน  สามารถทำงานพา์ทไทม์ระหว่างเรียนได้อย่างถูกกฏหมาย 40 ชั่วโมง/ 2 สัปดาห์ และเต็มเวลาในช่วงปิดภาคการศึกษา โดยสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ ไม่จำกัดเฉพาะในสถาบันการศึกษาเท่านั้น นอกจากนี้ วีซ่านักเรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษ สามารถทำงานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียนได้ด้วย เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วสามารถขอ Temporary Graduate Visa ได้สูงสุด 3 ปี เพื่อทำงานหลังเรียนจบในออสเตรเลีย

5. ประเทศนิวซีแลนด์

ผู้ที่ถือวีซ่านักเรียนนิวซีแลนด์ สามารถทำงานพาร์ทไทม์ได้ 20 ชั่วโมง/สัปดาห์ และเต็มเวลาในช่วงวันหยุด แต่มีข้อกำหนดบางข้อที่ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด และต้องตรวจสอบเงื่อนไขของวีซ่าของตัวเองด้วยว่า ได้รับอนุญาตให้ทำงานพาร์ทไทม์ได้หรือไม่ เช่น นักเรียนที่ลงทะเบียนเรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษ กับสถาบัน Category 2 จะต้องลงเรียน 24 สัปดาห์ขึ้นไป และต้องมี IELTS 5.5 เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วสามารถขอ Post Graduate Work Visa ได้สูงสุด 3 ปี เพื่อทำงานหลังเรียนจบในนิวซีแลนด์

6. ประเทศญี่ปุ่น

วีซ่านักเรียนประเทศญี่ปุ่น สามารถทำงานได้ไม่เกิน 28 ชั่วโมง/สัปดาห์ โดยจะต้องยื่นขออนุญาตทำกิจกรรมนอกเหนือจากที่ได้รับอนุญาตตามสภาพ (ขออนุญาตทำงาน) ได้จากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบินและท่าเรือก่อนเดินทางเข้าประเทศด้วยตนเอง หากทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือทำงานเกินชั่วโมงหรือเกินกว่ากิจกรรมที่ได้รับอนุญาตจะมีบทลงโทษอาจขั้นสูงสุดอาจถูกเนรเทศออกจากประเทศญี่ปุ่น

7. ประเทศในโซนยุโรป

สำหรับประเทศอื่นๆ ในโซนยุโรป ต้องตรวจเช็คเงื่อนไขของแต่ละประเทศอย่างรอบคอบ เนื่องจากบางประเทศอนุญาตให้ทำงานพาร์ทไทม์ได้ แต่บางประเทศก็มีเงื่อนไขอื่นๆ ที่ต้องขออนุญาตก่อน หรือบางประเทศจะจำกัดชั่วโมงการทำงานตลอดทั้งปี เช่น ประเทศเยอรมนี จำกัดวีซ่านักเรียนระดับปริญญาตรีขึ้นไป สามารถทำงานระหว่างเรียน 120 วันเต็ม (Full Day) หรือ 240 ครึ่งวัน (Half Day) ต่อปี ดังนั้น แนะนำให้สอบถามข้อมูลรายประเทศกับทางศูนย์ฯ เดอะเบสท์ ก่อนวางแผนเรียนต่อ

ติดต่อโทร : 090-327 3558088-269 5099
Email : contact@thebest-edu.com
Line : @thebestedu หรือคลิกเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ

เพิ่มเพื่อน


ประเภทของการทำงานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียน

การทำงานระหว่างเรียนโดยส่วนใหญ่แล้วแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1. การทำงานในสถาบันการศึกษา On-Campus เช่น มหาวิทยาลัย เป็นงานที่สนับสนุนกิจการภายในมหาวิทยาลัย และ 2. การทำงานนอกสถาบันการศึกษา Off-Campus เช่น การทำงานในร้านอาหาร การทำงานในโรงแรม การทำงานในซุปเปอร์มาร์เก็ต

1. การทำงานในสถาบันการศึกษา (On-Campus)

การทำงานในสถาบันการศึกษา (On-Campus) เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับนักเรียนต่างชาติ ในบางประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกาารทำงาน On-Campus เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด และ เป็นทางเลือกเดียวสำหรับวีซ่านักเรียน F-1 ในช่วงปีการศึกษาแรกในอเมริกา โดยสามารถทำงานได้ 20 ชั่วโมง ต่อสัปดาห์ ในช่วงเปิดภาคการศึกษา และมากกว่า 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ในช่วงปิดภาคการศึกษา มีตั้งแต่งานในโรงอาหาร ร้านค้า ร้านกาแฟ งานธุรการ งานประชาสัมพันธ์ บรรณารักษ์ พนักงานร้านขายหนังสือ พนักงานร้านซุปเปอร์มาร์เก็ต เทรนเนอร์ในฟิตเนสเซ็นเตอร์ จนถึงศูนย์บริการนักศึกษานานาชาติ บางมหาวิทยาลัยที่มีวิทยาเขต ใหญ่ๆ อาจมีทั้งโรงพยาบาล สถานีตำรวจ โรงเรียนประถม โรงเรียนมัธยมรวมอยู่ใน Campus ด้วย ซึ่งโอกาสการหางานทำก็จะเพิ่มมากขึ้นไปด้วย

  • ข้อดี: ในฐานะนักศึกษานานาชาติ การทำงานในมหาวิทยาลัย จะช่วยให้ได้พบปะผู้คนใหม่ๆ ช่วยให้พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ งานบางตำแหน่งยังเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนอีกด้วย เช่น งานผู้ช่วยในห้องปฏิบัติการ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมาก สำหรับผู้ที่วางแผนเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น เช่น ปริญญาโท หรือ ปริญญาเอก
  • ข้อเสีย: ในการทำงานในมหาวิทยาลัยคือ มีนักศึกษาจำนวนมาก ที่เลือกที่จะทำงานในมหาวิทยาลัยเช่นเดียวกัน ดังนั้น จะต้องมีการแข่งขันที่สูง  เป็นเรื่องที่จะต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการสัมภาษณ์งาน

2. การทำงานนอกสถาบันการศึกษา (OFF-CAMPUS)

การทำงานนอกสถาบันการศึกษา (Off-Campus) เป็นตัวเลือกที่นักศึกษาต่างชาติเลือกทำมากที่สุด เนื่องจากมีตำแหน่งงานรองรับมากมาย ซึ่งงานพาร์ทไทม์ส่วนใหญ่แล้วมักจะมีพนักงานวนเวียนเข้าออกตลอด ยกตัวอย่างดังนี้

ตำแหน่งงาน

ข้อดี – ข้อเสีย ทักษะจำเป็น

พนักงานเสิร์ฟ

พนักงานเสิร์ฟ ทำหน้าที่คอยเสิร์ฟอาหารให้กับลูกค้าที่เข้ามารับประทานอาหารในร้านอาหาร ซึ่งบางครั้ง อาจต้องแนะนำอาหาร หรือพูดคุยแก้ปัญหากับลูกค้า ดังนั้น ผู้ที่เลือกทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟ จะต้องมีทักษะการสื่อสารในชีวิตประจำวันได้ และสามารถจัดการกับลูกค้าที่มีปัญหา นอกจากนี้ จะต้องรักษาความสะอาดด้วย

ข้อดี:

  • ค่าตอบแทนการจ้างงานเหมาะสม
  • ได้มีโอกาสฝึกภาษาอังกฤษโดยการสนทนากับลูกค้า
  • เป็นงานที่ไม่น่าเบื่อจนเกินไป
  • เหมาะกับผู้ที่มีความคล่องตัวสูง ชอบทำงานที่ไม่ต้องอยู่กับที่

ข้อเสีย:

  • ต้องเดินบ่อย
  • ต้องรับมือกับลูกค้าที่มีปัญหา ดังนั้น หากขาดทักษะการบริการหรือการแก้ปัญหา
  • อาจมีความกดดันและเกิดความเครียดได้
  • ทักษะภาษาอังกฤษ: สามารถใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารในชีวิตประจำวันได้
  • ทักษะการปฏิบัติงาน: ไม่จำเป็นต้องมีทักษะการปฏิบัติงาน

ผู้ช่วยในครัว

งานผู้ช่วยในครัวเป็นงานที่ต้องการมากที่สุด และเป็นงานที่มีคนสับเปลี่ยนหมุนเวียนมากที่สุดด้วยเช่นกัน เนื่องจาก การทำงานต้องทำเป็นทุกอย่างในครัว เริ่มจากการล้างจาน ขยับมาเป็นคนจัดจาน การเตรียมวัตถุดิบอย่างง่าย เช่น การหั่นผัก จนถึงขั้นการประกอบอาหาร และสุดท้ายคือการทำความสะอาดห้องครัว ซึ่งทำให้ผู้ที่ทำงานในครัวอาจเลิกงานช้ากว่าพนักงานคนอื่นๆ ในร้านอาหาร แต่บางร้านอาหารอาจให้พนักงานตำแหน่งอื่นเข้ามาช่วยทำความสะอาดด้วย

ข้อดี:

  • ค่าตอบแทนการจ้างงานเหมาะสม
  • เป็นงานที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้หากมีความจำเป็น 
  • หากทำงานในร้านอาหารไทย ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษในการทำงาน
  • บางร้านอาหารมีอาหารเลี้ยงพนักงานด้วย ทำให้สามารถประหยัดค่าอาหารไปได้เยอะเลยทีเดียว

ข้อเสีย:

  • ชั่วโมงทำงานยาวนาน อาจกระทบช่วงเวลาพักผ่อน และนำไปสู่ความเครียด
  • บางงานต้องอาศัยความรวดเร็ว และอาจต้องใช้พลังงานในการยกของหนักด้วย ทำให้เกิดความเมื่อยล้าได้
  • ต้องมีความระวังในการใช้เครื่องมือต่างๆ เนื่องจากมีราคาสูง
  • ทักษะภาษาอังกฤษ: ไม่จำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษหากทำงานในร้านอาหารไทย และเชฟเป็นคนไทย
  • ทักษะการปฏิบัติงาน: ไม่จำเป็นต้องมีทักษะการปฏิบัติงาน

บาร์เทนเดอร์

เหมาะสำหรับคนที่ชอบพูดคุยกับคนแปลกหน้า โดยลักษณะงานจะเป็นการทำค็อกเทลตามที่ลูกค้าสั่ง การเอนเตอร์เทน การโชว์ความสามารถแปลกๆ ในการมิกซ์ค็อกเทลให้มีสีสัน เป็นอีกงานหนึ่งที่สามารถทำให้คุณโด่งดังได้ ถ้าหากคุณมีทักษะการทำค็อกเทลที่แปลกใหม่

ข้อดี:

  • ค่าตอบแทนสูง และได้ทิปส์ด้วย
  • บรรยากาศสนุกสนาน และไม่น่าเบื่อ มีช่วงเวลาพักผ่อน และสนทนากับลูกค้า
  • เป็นวิธีที่ดีในการฝึกฝนภาษาอังกฤษ ไม่ต้องใช้คำศัพท์ทางการมาก ได้คำศัพท์สำนวนใหม่ๆ ช่วยให้การพูดภาษาอังกฤษเป็นไปอย่างธรรมชาติมากขึ้น

ข้อเสีย:

  • จะต้องควบคุมลูกค้าในร้านให้ได้ หากมีลูกค้าเมาและโวยวายในร้าน
  • ต้องมีความระมัดระวัง เนื่องจากเครื่องดื่ม และอุปกรณ์แต่ละชิ้น มีราคาแพงมาก
  • ทักษะภาษาอังกฤษ: สามารถใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารในชีวิตประจำวันได้
  • ทักษะการปฏิบัติงาน: เคยมีประสบการณ์เป็นบาร์เทนเดอร์อาจได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ

บาริสต้า 

ลักษณะงานจะคล้ายคลึงกับบาร์เทนเดอร์ แต่งานบาริสต้าส่วนใหญ่จะเริ่มงานช่วงกลางวัน ดังนั้น ต้องเช็คเวลากับตารางเรียนให้ดีก่อนเริ่มตกลงทำงาน 

ข้อดี:

  • ค่าตอบแทนการจ้างงานเหมาะสม
  • บรรยากาศผ่อนคลายตามรูปแบบร้านกาแฟ

ข้อเสีย: 

  • พนักงานในร้านกาแฟส่วนใหญ่แล้วมักมีไม่เยอะมาก ดังนั้น อาจต้องรับผิดชอบหลายๆ เรื่องด้วยกัน เช่น การรักษาความสะอาดภายในร้าน
  • บางครั้งค่าตอบแทนอาจไม่สัมพันธ์กับงาน
  • ทักษะภาษาอังกฤษ: สามารถใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารในชีวิตประจำวันได้
  • ทักษะการปฏิบัติงาน: เคยมีประสบการณ์เป็นบาริสต้าอาจได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ

พนักงานส่งอาหาร – สินค้า Delivery

พนักงานขนส่งอาหาร – สินค้า เป็นงานที่นักศึกษาต่างชาติหลายอยากทำ เนื่องจากไม่ต้องอยู่กับที่ และได้ออกไปใช้ชีวิต ขับรถไปส่งสินค้าในที่ต่างๆ แต่งานนี้จำเป็นต้องมีใบขับขี่สากล หรือใบอนุญาตขับขี่ที่ถูกต้องตามกฏหมายของประเทศนั้นๆ ด้วย

ข้อดี:

  • ค่าตอบแทนการจ้างงานสูง
  • ช่วงเวลาการทำงานยืดหยุ่น สามารถสลับเวลาการทำงานได้
  • ได้ออกไปพบเจอกับสถานที่ใหม่ๆ เป็นความตื่นเต้นในแต่ละวัน

ข้อเสีย:

  • อาจมีความเสี่ยงในการทำงานสูง เนื่องจากต้องขับยานพาหนะขนส่งสินค้า ดังนั้น ต้องมีความชำนานเส้นทาง และมีความชำนานในการขับขี่ รู้กฏจารจรของประเทศนั้นเป็นอย่างดี
  • ต้องจัดการกับปัญหาลูกค้า กรณีที่สินค้ามีปัญหา หรือจัดส่งล่าช้า
  • สภาพอากาศที่ร้อนจัด หรือหนาวจัด อาจเป็นปัจจัยลบในการทำงาน
  • ทักษะภาษาอังกฤษ: สามารถใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารในชีวิตประจำวันได้
  • ทักษะการปฏิบัติงาน: สามารถขับขี่ยานพาหนะที่ใช้ในการขนส่งสินค้า หรืออาหารได้
  • ทักษะอื่นๆ: ผู้ที่ทำงานนี้ จำเป็นต้องมีใบขับขี่สากล หรือใบอนุญาตขับขี่ที่ถูกต้องตามกฏหมาย

พนักงานรับโทรสัพท์ Call Center

อาจจะเป็นเรื่องยากที่นักเรียนต่างชาติจะทำงานเป็นพนักงานรับโทรศัพท์ Call Center แต่ก็มีนักศึกษาบางคนที่เลือกทำงานนี้ ซึ่งเป็นงานที่ดีที่สุดสำหรับการฝึกการสื่อสาร นอกจากนั้นยังได้ทำงานในองค์กร บริษัท ขนาดใหญ่ มีระบบการทำงานเป็นทีม นอกจากนี้ การแข่งขันไม่สูง เพราะส่วนน้อยที่เลือกทำงานตำแหน่งนี้

ข้อดี:

  • ค่าตอบแทนการจ้างงานสูง
  • สภาพแวดล้อมการทำงานที่ยอดเยี่ยม
  • เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับการฝึกภาษาอังกฤษ

ข้อเสีย:

  • คุณจะต้องสนทนาในเรื่องเดียวกันหลายร้อยครั้งต่อวัน อาจเกิดความเบื่อหน่ายได้
  • คู่สายสามารถร้องเรียนได้ ดังนั้นต้องมีทักษะการสื่อสารที่ยอดเยี่ยม และมีทักษะด้านภาษาที่เหนือกว่า
  • ต้องมีความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีเยี่ยม รวมถึงต้องมีความรู้เกี่ยวกับบริษัทที่คุณทำงานด้วย
  • ทักษะภาษาอังกฤษ: สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วในการพูดคุยสื่อสาร และปิดการขายกับลูกค้าชาวต่างชาติ
  • ทักษะการปฏิบัติงาน: ทักษะการสื่อสารเชิงธุรกิจ

พนักงานทำความสะอาด Cleaner

งานทำความสะอาดเป็นงานที่มีเวลาที่ยืดหยุ่นขึ้นอยู่กับสถานที่ที่ทำ เช่น ถ้าหากทำงานในองค์กร บริษัท มักจะได้ทำงานในเวลาตอนเช้า ถ้าหากทำงานในร้านอาหาร ผับ บาร์ มักจะได้ทำงานในตอนเย็น งานทำความสะอาดเป็นงานที่ไม่ต้องใช้ทักษะอะไรมากมายเพียงแค่ต้องมีความอดทนต่อสิ่งสกปรกที่พบเจอในทุกๆ วัน

ข้อดี:

  • ค่าตอบแทนการจ้างงานสูง
  • ส่วนใหญ่แล้ว มักไม่ค่อยได้ใช้ภาษาอังกฤษในที่ทำงาน

ข้อเสีย:

  • ต้องมีความระมัดระวงในการทำความสะอาดในบ้านหรือองค์กรใหญ่ๆ เป็นเรื่องที่เสี่ยงมากที่จะทำของที่มีมูลค่าราคาแพงเสียหาย
  • อาจจะโดนกดค่าจ้าง ถ้าหากไม่มีทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ 
  • ทักษะภาษาอังกฤษ: ไม่จำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษ 
  • ทักษะการปฏิบัติงาน: ไม่จำเป็นต้องมีทักษะการปฏิบัติงาน

พนักงานแคชเชียร์

พนักงานแคชเชียร์ ส่วนใหญ่แล้วมักจะทำในห้างสรรพสินค้า หรือซุปเปอร์มาร์เก็ต ลักษณะงานคือคิดเงินสินค้าทั่วไป เคลียร์ใบเสร็จและสรุปยอดในแต่ละวัน ซึ่งอาจใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารไม่เยอะมาก

ข้อดี:

  • ค่าตอบแทนการจ้างงานเหมาะสม
  • เป็นงานที่มีแบบแผนตายตัว ราคาสินค้าไม่สามารถต่อรองได้
  • มีปัญหาน้อย หากมีปัญหาก็มีฝ่ายบริการลูกค้าคอยให้ความช่วยเหลือ

ข้อเสีย:

  • ต้องยืนที่เดิม และตำแหน่งเดิมเป็นระยะเวลานาน
  • อาจมีปัญหาในการคิดเงินผิด หรือเงินขาดในการสรุปยอดสุดท้าย แต่หลายๆ ประเทศ มีกฏหมายคุ้มครองแรงงาน และไม่ต้องกลัวว่าจะโดนหักเงิน
  • การทำงานในซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดเล็กตอนกลางคืน อาจต้องระวังมิจฉาชีพเข้ามาขโมยของหรือเงิน ในร้านด้วย


  • ทักษะภาษาอังกฤษ: สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วในการพูดคุยสื่อสารกับลูกค้าชาวต่างชาติ
  • ทักษะการปฏิบัติงาน: ทักษะการสื่อสาร ทักษะการแก้ปัญหาและรับมือกับลูกค้าได้ดี

พนักงานต้อนรับ

พนักงานต้อนรับ ส่วนใหญ่แล้วจะทำงานในโรงแรม เช่น ฟร้อนต์ออฟฟิศ การเตรียมห้องประชุม การเตรียมห้องสำหรับจัดงานอีเว้นท์ นอกจากต้องมีทักษะภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่วแล้ว ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนที่เข้ามาพักในโรงแรมหรือเจ้าของงานประชุมด้วย

ข้อดี:

  • ค่าตอบแทนการจ้างงานสูง
  • มีโอกาสพบปะผู้คนหลากหลาย บางครั้งอาจจะได้พบเจอผู้บริหาร หรือ นักการเมืองตำแหน่งสูงๆ
  • มีโอกาสต่อยอดในการทำงานเต็มเวลาหากปฏิบัติงานดีและเป็นที่น่าพึงพอใจของนายจ้าง

ข้อเสีย:

  • ต้องพบเจอแขกที่มีปัญหาในแต่ละวัน และต้องจัดการกับปัญหาได้อย่างดีเยี่ยม
  • ทักษะภาษาอังกฤษ: สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วในการพูดคุยสื่อสารกับลูกค้าชาวต่างชาติ
  • ทักษะการปฏิบัติงาน: ทักษะการสื่อสาร ทักษะการแก้ปัญหาและรับมือกับลูกค้าได้ดี
  • ทักษะอื่นๆ: หากลงทะเบียนเรียนในหลักสูตรเกี่ยวกับ Hetel Management, Hospitality, Service Management อาจได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ

พนักงานขาย หรือตัวแทนจำหน่าย

เป็นงานที่ทำเงินได้ดีและเวลาที่ยืดหยุ่น คุณจะพบเจอผู้คนที่แปลกหน้าแปลกตา บางครั้งอาจจะต้องออกนอกสถานที่เป็นงานที่ไม่น่าเบื่อ และบางบริษัทไม่บังคับเวลาเข้าออกงาน และเป็นงานที่สามารถฝึกภาษาอังกฤษได้อย่างยอดเยี่ยม

ข้อดี:

  • ค่าตอบแทนการจ้างงานสูงมาก และยังได้ค่าคอมมิชชั่นอีกด้วย
  • เป็นวิธีการเรียนภาษาอังกฤษที่ดีที่สุด
  • ได้ทักษะการสื่อสาร การเจรจาต่อรองด้วย

ข้อเสีย:

  • ต้องยอมรับการถูกปฏิเสธ และคุณจะต้องทนกับความกดดันให้ได้
  • บางองค์กรอาจไม่ได้รับการจ้างงาน หากปิดการขายไม่ได้
  • ทักษะภาษาอังกฤษ: สามารถใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารในชีวิตประจำวันได้
  • ทักษะการปฏิบัติงาน: ไม่จำเป็นต้องมีทักษะการปฏิบัติงาน

พี่เลี้ยงเด็ก

พี่เลี้ยงเด็ก มักจะทำงานในศูนย์รับเลี้ยงเด็ก เช่น Nursery การทำงานก็จะต้องดูแลเด็ก ตั้งแต่ดูแลด้านพัฒนาการ อารมณ์ สุขอาณามัย และความปลอดภัยของเด็ก

ข้อดี:

  • ค่าตอบแทนการจ้างงานสูง
  • ได้ทักษะการสื่อสารด้วย
  • ได้ทักษะการเป็นพี่เลี้ยงเด็ก ซึ่งสามารถนำไปยื่นเพื่อเรียนต่อในหลักสูตรเกี่ยวกับ Early Childhood and Care หรือใช้เป็นประสบการณ์การทำงานในอนาคตได้

ข้อเสีย:

  • ต้องรับมือกับเด็กที่มีพฤติกรรมที่แตกต่างกัน บางครั้งอาจทำให้เกิดความเครียดได้
  • ต้องดูแลสุขอาณามัยและอภิบาลเด็กด้วย
  • ทักษะภาษาอังกฤษ: สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วในการพูดคุยสื่อสารกับลูกค้าชาวต่างชาติ
  • ทักษะการปฏิบัติงาน: 
  • ทักษะอื่นๆ: หากลงทะเบียนเรียนในหลักสูตรเกี่ยวกับ Child Care, Early Childhood อาจได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ


ผู้ดูแลผู้สูงอายุ

ผู้ดูแลผู้สูงอายุ มักจะทำงานในศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ เช่น Aged Care Centre ลักษณะงานจะใกล้เคียงกับการดูแลเด็ก แต่จะเป็นการดูแลสวัสดิการ สุขภาพร่างกาย และจิตใจของผู้สูงอายุเป็นหลัก

ข้อดี:

  • ค่าตอบแทนการจ้างงานสูง
  • ได้ทักษะการสื่อสารด้วย
  • ได้ทักษะการเป็นพี่เลี้ยงเด็ก ซึ่งสามารถนำไปยื่นเพื่อเรียนต่อในหลักสูตรเกี่ยวกับ Early Childhood and Care หรือใช้เป็นประสบการณ์การทำงานในอนาคตได้

ข้อเสีย:

  • ต้องดูแล
  • ต้องดูแลสุขอาณามัยและอภิบาลเด็กด้วย
  • ทักษะภาษาอังกฤษ: สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วในการพูดคุยสื่อสารกับลูกค้าชาวต่างชาติ
  • ทักษะการปฏิบัติงาน: 
  • ทักษะอื่นๆ: หากลงทะเบียนเรียนในหลักสูตรเกี่ยวกับ Aged Care อาจได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ

อาสาสมัคร

งานอาสาสมัคร เป็นงานที่ได้รับประสบการณ์และพบปะผู้คนใหม่ๆ เป็นหนึ่งในงานที่ดีที่สุดในการเขียนลง CV เนื่องจาก งานอาสาสมัครในต่างประเทศเป็นที่ชื่นชมจากประชาชนส่วนใหญ่ นอกจากนี้อาจได้รับสวัสดิการจากรัฐด้วย แต่ปัญหาหลักในการทำงานอาสาสมัครคือ ไม่ได้รับค่าตอบแทน แต่อาจมีกองทุนที่ได้รับจากการบริจาก

ข้อดี:

  • เป็นงานที่ได้รับประสบการณ์ทำงานที่ดีที่สุด การเขียนว่าตนเองเคยมีประสบการณ์ทำงานอาสาสมัคร ลงบน CV เป็นสิ่งที่วิเศษที่สุด 
  • ได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ 
  • ได้ช่วยเหลือผู้คน 

ข้อเสีย:

  • เป็นงานที่ไม่ได้รับค่าตอบแทน 
  • บางครั้งเป็นงานที่เสี่ยงถึงขั้นชีวิต เช่น การกู้ภัย หากต้องการหลักเลี่ยงความเสี่ยงตรงนี้ มีงานในองค์กรการกุสลด้วย
  • ทักษะภาษาอังกฤษ: สามารถใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารในชีวิตประจำวันได้
  • ทักษะการปฏิบัติงาน: ไม่จำเป็นต้องมีทักษะการปฏิบัติงาน

แนวทางหางานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียนในต่างประเทศ

สถานที่ทำงานพาร์ทไทม์ที่ดีที่สุด ที่คุณจะต้องพิจารณาอันดับแรกคือระยะทางที่สามารถเดินทางได้สะดวกจากมหาวิทยาลัย และที่พัก เนื่องจากจะต้องทำงานหลังเลิกเรียน หากทำงานไกลจากสถานที่เรียน อาจต้องเสียระยะเวลาในการเดินทาง และเมื่อเลิกงานเสร็จก็ควรเดินทางกลับที่พักได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย

สิ่งที่ควรทำก่อนเริ่มงาน

  • เพื่อให้การทำงานของคุณง่ายขึ้นควรเปิดบัญชีธนาคารของประเทศที่ตนเองได้ศึกษาอยู่ เพื่อนายจ้างจะได้โอนเงินรายได้ผ่านบัญชีธนาคารนี้ นอกจากนี้บางประเทศจะต้องมีการเสียภาษีการจ้างงานด้วย ดังนั้น ควรเช็คเงื่อนไขการทำงานพาร์ทไทม์ของประเทศนั้นๆ ให้ชัดเจน
  • ควรมีประวัติหรือที่เรียกว่า CV ซึ่งสถาบันการศึกษาหรือมหาวิทยาลัยหลายแห่งมีบริการแนะแนวการเขียน CV ให้กับนักเรียน นักศึกษา รวมถึงเตรียมความพร้อมในการสัมภาษณ์งานให้กับนักเรียน นักศึกษาอีกด้วย 
  • ความสามารถทางภาษาอังกฤษ ถ้าหากอยากได้งานที่ได้รับค่าตอบแทนที่สูงคุณจะต้องมีทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษเพื่อที่จะได้ทำงานกับชาวต่างชาติ นอกจากนี้ถ้าหากคุณสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ คุณจะสามารถต่อรองกับนายจ้างที่เอาเปรียบเราได้

จะหางานได้จากที่ไหน

  • ห้างสรรพสินค้า หรือ ซุปเปอร์มาเก็ต ตั้งแต่ร้านมินิมาร์ทขนาดเล็ก จนถึงร้านเสื้อผ้า ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ โดยสามารถไปที่ศูนย์การค้าหรือแหล่งช้อปปิ้งในท้องถิ่นแล้วส่งเรซูเม่ไปที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล HR. ได้เลย ข้อดีของงานในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่คือ มีตำแหน่งงานหลากหลายตำแหน่งรองรับ ตั้งแต่แคชเชียร์ บริการลูกค้าสัมพันธ์ พนักงานคลังสินค้า บัญชี การเงิน การตลาด และอื่นๆ มากมาย
  • ร้านอาหาร ร้านอาหาร บาร์ เป็นตัวเลือกที่นักศึกษาต่างชาติโดยเฉพาะนักเรียนไทยเลือกทำมากที่สุด เนื่องจากมีร้านอาหารมากมายในเมืองใหญ่ และสามารถหางานที่ใกล้กับที่พักและมหาวิทยาลัยได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ เมืองใหญ่ๆ เช่น ซิดนีย์ เมลเบิร์น ลอนดอน แคลิฟอร์เนีย ก็มีร้านอาหารไทยมากมาย ซึ่งเหมาะอย่างมากสำหรับผู้ที่ยังไม่ชำนาญภาษาอังกฤษและสามารถเดินเข้าไปพูดคุย สอบถามเกี่ยวกับตำแหน่งว่างงานได้
  • โดยปกติ สถาบันการศึกษาจะมีนิทรรศการจัดหางาน Job Fair ซึ่งรวมบริษัทชั้นนำ มาไว้ในงานเพื่อที่นักเรียน นักศึกษาจะสามารถพบปะ พูดคุย และสมัครงานกับบริษัทนั้นได้เลย ข้อดีก็คือ บริษัทที่เข้าร่วมงานมีวัตถุประสงค์คือหาคนทำงาน ซึ่งเราจะทราบได้เลยว่าตำแหน่งไหนที่เหมาะสำหรับเรา และกำลังเปิดรับสมัครอยู่ 
  • เว็บไซต์จัดหางาน เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่สะดวก และให้การตอบรับอย่างดี โดยผู้สมัครงานสามารถอัพโหลด CV และส่งใบสมัครผ่านเว็บไซต์ได้เลย และสามารถทราบได้เลยว่า บริษัทไหนที่กำลังรับสมัครพนักงานอยู่ และตำแหน่งงานตรงกับคุณสมบัติที่ผู้สมัครงานมีหรือเปล่า 
  • บริษัทจัดหางาน ส่วนใหญ่มักจะเป็นงานประเภททำความสะอาด Cleaner งานช่างซ่อมอุปกรณ์ เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ หรือพนักงานรักษาความปลอดภัย โดยส่วนใหญ่แล้ว มักจะได้รับเงินเดือนผ่านบริษัทจัดหางาน และจะได้รับสวัสดิการการทำงานจากบริษัทจัดหางานทั้งหมด

การทำงานควรจะได้รับค่าจ้างที่ยุติธรรมเหมาะสมกับงานที่ทำ มีหลักสลิปเงินเดือนที่มีรายละเอียดชัดเจน และเสียภาษีอย่างถูกต้อง ดังนั้นจงระมัดระวังนายจ้างที่จ่ายเงินเป็นเงินสด เนื่องจากไม่มีหลักฐาน หรือรายละเอียดที่ชัดเจน จึงนำไปสู่การกดค่าแรงขั้นต่ำ หรือหลีกเลี่ยงการเสียภาษีซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดกฏหมาย ดังนั้นทางที่ปลอดภัยที่สุด ควรให้นายจ้างโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารของเพื่อความโปร่งใส 


ติดต่อเดอะเบสท์เพื่อสอบถามข้อมูลการเรียนต่อต่างประเทศเพิ่มเติม

เดอะเบสท์ เป็นศูนย์บริการให้คำปรึกษาเรียนต่อต่างประเทศครบวงจร เราเป็นตัวแทนที่ให้บริการแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และ ประเทศอื่นๆ อีก 25 ประเทศทั่วโลก เรายินดีให้ความช่วยเหลือตั้งแต่เริ่มสมัครเรียน จนสำเร็จการศึกษา รวมถึงดูแลนักเรียนระหว่างเรียนจนนักเรียนเรียนจบด้วยทีมผู้เชียวชาญในด้านการเรียนต่อต่างประเทศ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ขั้นตอนเหล่านี้เราดำเนินการให้ฟรี และเราพร้อมที่จะทำตามคุณภาพ และมาตรฐานดังสโลแกนที่ว่า “We are Quality”

บริการของเรามีอะไรบ้าง ?

  • ฟรี!! บริการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเรียนต่อต่างประเทศทุกระดับชั้นทั่วโลก ตั้งแต่ โรงเรียนประถม โรงเรียนมัธยม สถาบันวิชาชีพ และสถาบันในระดับอุดมศึกษา รวมถึงหลักสูตรภาษาต่างประเทศ และเลือกสถาบันที่ดีที่สุดให้กับผู้เรียน
  • เราให้ความช่วยเหลือตั้งแต่การประสานงานโรงเรียน เลือกโรงเรียนให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียน เตรียมเอกสารสมัครเรียน และดำเนินเรื่องสมัครเรียนให้ฟรี
  • บริการเตรียมเอกสารยื่นวีซ่าครบวงจร และบริการยื่นวีซ่ากว่า 25 ประเทศทั่วโลก พร้อมวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าอย่างตรงจุด และแนะนำวิธีการเตรียมตัวในการสัมภาษณ์วีซ่า 
  • บริการแปลเอกสาร ภาษาไทย – ภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาอังกฤษ – ภาษาไทย รวมถึงภาษาที่ 3 เริ่มต้นเพียงแผ่นละ 200 บาท
  • เดอะเบสท์ เป็นตัวแทนรับสมัครสอบ IELTS IDP อย่างเป็นทางการ พร้อมให้คำแนะนำ และนัดวันสอบให้โดยน้องๆ ไม่ต้องเสียเวลาสมัครเอง สมัครสอบได้ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
  • บริการซื้อประกันภัยการเดินทางและประกันสุขภาพนักเรียนต่างชาติ จากบริษัทประกันชั้นนำ MSIG, NIB, Allianz, Orbit และอื่นๆ
  • บริการจองตั๋วเครื่องบิน ทุกสายการบิน และประสานงานกับสถาบันเกี่ยวกับรถรับ – ส่ง สนามบิน
  • บริการจัดหาที่พักทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นโฮมสเตย์ อพาร์ทเม้น หรือหอพักนักศึกษา จัดหาให้ตามความต้องการส่วนบุคคล

 

 

“เรายินดีที่จะดูแลนักเรียนทุกคน ตั้งแต่เริ่มต้นจนนักเรียนสำเร็จการศึกษา และทำให้การเรียนต่อของคุณเป็นเรื่องง่าย ” สอบถามข้อมูลการบริการเพิ่มเติมติดต่อ
โทร : 090-327 3558088-269 5099
Email :contact@thebest-edu.com
Line : @thebestedu หรือคลิกเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ

เพิ่มเพื่อน

[/su_column]
[contact-form-7 id=”18674″ title=”เรียนต่อต่างประเทศ-Blog”]
[/su_row]

แหล่งที่มา:

ใส่ความเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.