Last updated มิถุนายน 9, 2022 ago by Thebestedu
การทำงานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียนในต่างประเทศ
การไปเรียนต่อต่างประเทศ แน่นอนอยู่แล้วว่ามีค่าใช้จ่ายสูง ทั้งค่าใช้จ่ายด้านการเรียน และค่าครองชีพในการอยู่อาศัย การทำงานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียน อาจจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายได้บางส่วน เช่น ค่าที่พัก หรือค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ ยังได้ประสบการณ์การทำงานในต่างประเทศอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ควรต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า ประเภทวีซ่าที่ถือได้รับการอนุญาตให้ทำงานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียนได้อย่างถูกต้องตามกฏหมาย และไม่ละเมิดเงื่อนไขการทำงานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียนในแต่ละประเทศนั้นๆ ที่สำคัญ การทำงานพาร์ทไทม์จะต้องไม่ขัดต่อการศึกษา
ทำไมนักศึกษาต่างชาติ เลือกทำงานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียน
- ได้รายได้พิเศษ เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการเรียน การศึกษาในต่างประเทศมีค่าใช้จ่ายที่สูง ดังนั้น การทำงานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียนในแต่ละสัปดาห์ จะช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่าย เช่น ค่าครองชีพ ค่าที่พัก หรือสามารถเข้าร่วมกิจกรรมบันเทิงต่างๆ ได้มากขึ้น
- พัฒนาทักษะทางภาษา การทำงานนอกเวลาจะพัฒนาทักษะภาษาให้เร็วขึ้นและครอบคลุมมากขึ้น ได้เรียนรู้คำและวลีที่มีความสำคัญในสถานการณ์ต่างๆ
- สร้างทักษะทางสังคม ได้พบปะผู้คนและวัฒนธรรมใหม่ ได้ฟังและเรียนรู้ภาษาใหม่ เข้าใจวิธีการใหม่ๆ ในการจัดการกับผู้คนในชีวิตประจำวัน เข้าใจผู้คนในประเทศนั้นๆ ดีขึ้น ซึ่งสามารถช่วยให้ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น
- มีโอกาสได้รู้จักผู้คนใหม่ๆ ซึ่งจะมีประโยชน์เมื่อกำลังมองหาคำแนะนำหรืองานอื่นๆ ที่มีความมั่นคง ในภายหลัง
- เข้าใจวัฒนธรรมการทำงาน เมื่อเริ่มงานพาร์ทไทม์ จะมีประสบการณ์ตรงและเข้าใจวัฒนธรรมการทำงานในประเทศนั้นๆ ตั้งแต่วิธีการทำงานจนถึงชั่วโมงทำงาน จรรยาบรรณในการทำงาน และอื่นๆ ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมายที่จะช่วยให้ชีวิตการทำงานในภายหลัง
- ได้รับประสบการณ์ในสายงานที่เกี่ยวข้อง หลายๆ คนเลือกทำงานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียนในสายงานที่เกี่ยวข้อง เช่น หากลงทะเบียนเรียนหลักสูตรการโรงแรม ก็อาจมองหางานพาร์ทไทม์ในสายงานเกี่ยวกับการท่องเที่ยวและการโรงแรม ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากเมื่อสำเร็จการศึกษา และมองหางานประจำในต่างประเทศ
ประเทศไหนบ้าง ที่สามารถทำงานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียนได้
1. ประเทศสหราชอาณาจักร
สำหรับนักเรียนต่างชาติที่ถือวีซ่า Tier 4 (General) Student Visa สามารถทำงานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียนได้ไม่เกิน 20 ชั่วโมง/สัปดาห์ และเต็มเวลาในช่วงวันปิดภาคการศึกษา สำหรับวีซ่านักเรียนระยะสั้นประเภท Student Visitor 6 หรือ 11 เดือน จะไม่สามารถทำงานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียนได้ เมื่อสำเร็จการศึกษา จะได้รับโอกาสในการขอ Graduate Route Visa เพื่อทำงานหลังเรียนจบแบบเต็มเวลาได้สูงสุด 3 ปี
2. ประเทศสหรัฐอเมริกา
นักเรียนต่างชาติที่ถือวีซ่า F-1 อนุญาตให้ทำงานในอเมริกาได้ โดยการทำงานระหว่างเรียนด้วยวีซ่านักเรียน F-1 แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
- On-Campus คือการทำงานในเขตสถาบันการศึกษา เช่น มหาวิทยาลัย เป็นงานที่สนับสนุนกิจการภายในมหาวิทยาลัย สามารถทำได้เลยเพียงขออนุญาตจาก DSO และงานที่ทำไม่จำเป็นต้องตรงสายก็ได้ อาจได้รับค่าตอบแทน หรือไม่ได้รับค่าตอบแทนก็ได้
- Off-Campus คือการทำงานนอกเขตสถาบันการศึกษา แบ่งออกเป็น
- CTP คือการทำงานนอกวิทยาเขตในสายงานที่เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา หรือการฝึกงาน ช่วงระยะเวลาที่ทำ CPT จะถูกหักจาก OPT และผู้ที่ขอ CPT ครบ 12 เดือน จะไม่มีสิทธิ์ขอ OPT
- OPT คือการทำงานนอกวิทยาเขตในสายงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับหลักสูตร แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ Pre-Completion OPT อนุญาตให้นักศึกษาสามารถทำงานระหว่างเรียน นอกวิทยาเขต Off-Campus ได้ และ Post-Completion OPT อนุญาตให้นักศึกษา ทำงานหลังเรียนจบได้ ในระยะเวลา 12 เดือน โดยช่วงเวลาที่ขอ Pre-Completion OPT จะถูกหักจาก Post-Completion OPT (เช่นเดียวกับ CPT)
- STEM OPT Extension หรือผู้ที่เรียนหลักสูตร STEM สามารถขอขยายระยะเวลา OPT ได้เพิ่มสูงสุด 24 เดือน รวมเป็น 36 เดือน โดยสามารถขอได้ 2 ครั้ง และการขอครั้งที่ 2 จะต้องลงทะเบียนเรียนในระดับการศึกษาที่สูงกว่าระดับแรก
3. ประเทศแคนาดา
วีซ่านักเรียนแคนาดาตั้งแต่หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพขึ้นไปสามารถทำงานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียนได้ 20 ชั่วโมง/สัปดาห์ และยังมีหลักสูตร Co-Op ที่สามารถทำงานแบบเต็มเวลาได้ด้วย นอกจากนี้ บางรัฐของแคนาดา เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วสามารถขอ Post Graduate Work Permit ได้สูงสุด 3 ปี เพื่อทำงานต่อในแคนาดา ส่วนนักเรียนที่ลงเรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษ หรือภาษาฝรั่งเศส ไม่สามารถทำงานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียนได้
4. ประเทศออสเตรเลีย
สำหรับผู้ถือวีซ่านักเรียนออสเตรเลีย (Student Visa) ทุกคน สามารถทำงานพา์ทไทม์ระหว่างเรียนได้อย่างถูกกฏหมาย 40 ชั่วโมง/ 2 สัปดาห์ และเต็มเวลาในช่วงปิดภาคการศึกษา โดยสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ ไม่จำกัดเฉพาะในสถาบันการศึกษาเท่านั้น นอกจากนี้ วีซ่านักเรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษ สามารถทำงานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียนได้ด้วย เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วสามารถขอ Temporary Graduate Visa ได้สูงสุด 3 ปี เพื่อทำงานหลังเรียนจบในออสเตรเลีย
5. ประเทศนิวซีแลนด์
ผู้ที่ถือวีซ่านักเรียนนิวซีแลนด์ สามารถทำงานพาร์ทไทม์ได้ 20 ชั่วโมง/สัปดาห์ และเต็มเวลาในช่วงวันหยุด แต่มีข้อกำหนดบางข้อที่ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด และต้องตรวจสอบเงื่อนไขของวีซ่าของตัวเองด้วยว่า ได้รับอนุญาตให้ทำงานพาร์ทไทม์ได้หรือไม่ เช่น นักเรียนที่ลงทะเบียนเรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษ กับสถาบัน Category 2 จะต้องลงเรียน 24 สัปดาห์ขึ้นไป และต้องมี IELTS 5.5 เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วสามารถขอ Post Graduate Work Visa ได้สูงสุด 3 ปี เพื่อทำงานหลังเรียนจบในนิวซีแลนด์
6. ประเทศญี่ปุ่น
วีซ่านักเรียนประเทศญี่ปุ่น สามารถทำงานได้ไม่เกิน 28 ชั่วโมง/สัปดาห์ โดยจะต้องยื่นขออนุญาตทำกิจกรรมนอกเหนือจากที่ได้รับอนุญาตตามสภาพ (ขออนุญาตทำงาน) ได้จากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบินและท่าเรือก่อนเดินทางเข้าประเทศด้วยตนเอง หากทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต
7. ประเทศในโซนยุโรป
สำหรับประเทศอื่นๆ ในโซนยุโรป ต้องตรวจเช็คเงื่อนไขของแต่ละประเทศอย่างรอบคอบ เนื่องจากบางประเทศอนุญาตให้ทำงานพาร์ทไทม์ได้ แต่บางประเทศก็มีเงื่อนไขอื่นๆ ที่ต้องขออนุญาตก่อน หรือบางประเทศจะจำกัดชั่วโมงการทำงานตลอดทั้งปี เช่น ประเทศเยอรมนี จำกัดวีซ่านักเรียนระดับปริญญาตรีขึ้นไป สามารถทำงานระหว่างเรียน 120 วันเต็ม (Full Day) หรือ 240 ครึ่งวัน (Half Day) ต่อปี ดังนั้น แนะนำให้สอบถามข้อมูลรายประเทศกับทางศูนย์ฯ เดอะเบสท์ ก่อนวางแผนเรียนต่อ
ติดต่อโทร : 090-327 3558, 088-269 5099
Email : contact@thebest-edu.com
Line : @thebestedu หรือคลิกเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ
ประเภทของการทำงานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียน
การทำงานระหว่างเรียนโดยส่วนใหญ่แล้วแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1. การทำงานในสถาบันการศึกษา On-Campus เช่น มหาวิทยาลัย เป็นงานที่สนับสนุนกิจการภายในมหาวิทยาลัย และ 2. การทำงานนอกสถาบันการศึกษา Off-Campus เช่น การทำงานในร้านอาหาร การทำงานในโรงแรม การทำงานในซุปเปอร์มาร์เก็ต
1. การทำงานในสถาบันการศึกษา (On-Campus)
การทำงานในสถาบันการศึกษา (On-Campus) เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับนักเรียนต่างชาติ ในบางประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกาารทำงาน On-Campus เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด และ เป็นทางเลือกเดียวสำหรับวีซ่านักเรียน F-1 ในช่วงปีการศึกษาแรกในอเมริกา โดยสามารถทำงานได้ 20 ชั่วโมง ต่อสัปดาห์ ในช่วงเปิดภาคการศึกษา และมากกว่า 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ในช่วงปิดภาคการศึกษา มีตั้งแต่งานในโรงอาหาร ร้านค้า ร้านกาแฟ งานธุรการ งานประชาสัมพันธ์ บรรณารักษ์ พนักงานร้านขายหนังสือ พนักงานร้านซุปเปอร์มาร์เก็ต เทรนเนอร์ในฟิตเนสเซ็นเตอร์ จนถึงศูนย์บริการนักศึกษานานาชาติ บางมหาวิทยาลัยที่มีวิทยาเขต ใหญ่ๆ อาจมีทั้งโรงพยาบาล สถานีตำรวจ โรงเรียนประถม โรงเรียนมัธยมรวมอยู่ใน Campus ด้วย ซึ่งโอกาสการหางานทำก็จะเพิ่มมากขึ้นไปด้วย
- ข้อดี: ในฐานะนักศึกษานานาชาติ การทำงานในมหาวิทยาลัย จะช่วยให้ได้พบปะผู้คนใหม่ๆ ช่วยให้พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ งานบางตำแหน่งยังเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนอีกด้วย เช่น งานผู้ช่วยในห้องปฏิบัติการ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมาก สำหรับผู้ที่วางแผนเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น เช่น ปริญญาโท หรือ ปริญญาเอก
- ข้อเสีย: ในการทำงานในมหาวิทยาลัยคือ มีนักศึกษาจำนวนมาก ที่เลือกที่จะทำงานในมหาวิทยาลัยเช่นเดียวกัน ดังนั้น จะต้องมีการแข่งขันที่สูง เป็นเรื่องที่จะต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการสัมภาษณ์งาน
2. การทำงานนอกสถาบันการศึกษา (OFF-CAMPUS)
การทำงานนอกสถาบันการศึกษา (Off-Campus) เป็นตัวเลือกที่นักศึกษาต่างชาติเลือกทำมากที่สุด เนื่องจากมีตำแหน่งงานรองรับมากมาย ซึ่งงานพาร์ทไทม์ส่วนใหญ่แล้วมักจะมีพนักงานวนเวียนเข้าออกตลอด ยกตัวอย่างดังนี้
ตำแหน่งงาน |
ข้อดี – ข้อเสีย | ทักษะจำเป็น |
พนักงานเสิร์ฟ พนักงานเสิร์ฟ ทำหน้าที่คอยเสิร์ฟอาหารให้กับลูกค้าที่เข้ามารับประทานอาหารในร้านอาหาร ซึ่งบางครั้ง อาจต้องแนะนำอาหาร หรือพูดคุยแก้ปัญหากับลูกค้า ดังนั้น ผู้ที่เลือกทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟ จะต้องมีทักษะการสื่อสารในชีวิตประจำวันได้ และสามารถจัดการกับลูกค้าที่มีปัญหา นอกจากนี้ จะต้องรักษาความสะอาดด้วย |
ข้อดี:
ข้อเสีย:
|
|
ผู้ช่วยในครัว งานผู้ช่วยในครัวเป็นงานที่ต้องการมากที่สุด และเป็นงานที่มีคนสับเปลี่ยนหมุนเวียนมากที่สุดด้วยเช่นกัน เนื่องจาก การทำงานต้องทำเป็นทุกอย่างในครัว เริ่มจากการล้างจาน ขยับมาเป็นคนจัดจาน การเตรียมวัตถุดิบอย่างง่าย เช่น การหั่นผัก จนถึงขั้นการประกอบอาหาร และสุดท้ายคือการทำความสะอาดห้องครัว ซึ่งทำให้ผู้ที่ทำงานในครัวอาจเลิกงานช้ากว่าพนักงานคนอื่นๆ ในร้านอาหาร แต่บางร้านอาหารอาจให้พนักงานตำแหน่งอื่นเข้ามาช่วยทำความสะอาดด้วย |
ข้อดี:
ข้อเสีย:
|
|
บาร์เทนเดอร์ เหมาะสำหรับคนที่ชอบพูดคุยกับคนแปลกหน้า โดยลักษณะงานจะเป็นการทำค็อกเทลตามที่ลูกค้าสั่ง การเอนเตอร์เทน การโชว์ความสามารถแปลกๆ ในการมิกซ์ค็อกเทลให้มีสีสัน เป็นอีกงานหนึ่งที่สามารถทำให้คุณโด่งดังได้ ถ้าหากคุณมีทักษะการทำค็อกเทลที่แปลกใหม่ |
ข้อดี:
ข้อเสีย:
|
|
บาริสต้า ลักษณะงานจะคล้ายคลึงกับบาร์เทนเดอร์ แต่งานบาริสต้าส่วนใหญ่จะเริ่มงานช่วงกลางวัน ดังนั้น ต้องเช็คเวลากับตารางเรียนให้ดีก่อนเริ่มตกลงทำงาน |
ข้อดี:
ข้อเสีย:
|
|
พนักงานส่งอาหาร – สินค้า Delivery พนักงานขนส่งอาหาร – สินค้า เป็นงานที่นักศึกษาต่างชาติหลายอยากทำ เนื่องจากไม่ต้องอยู่กับที่ และได้ออกไปใช้ชีวิต ขับรถไปส่งสินค้าในที่ต่างๆ แต่งานนี้จำเป็นต้องมีใบขับขี่สากล หรือใบอนุญาตขับขี่ที่ถูกต้องตามกฏหมายของประเทศนั้นๆ ด้วย |
ข้อดี:
ข้อเสีย:
|
|
พนักงานรับโทรสัพท์ Call Center อาจจะเป็นเรื่องยากที่นักเรียนต่างชาติจะทำงานเป็นพนักงานรับโทรศัพท์ Call Center แต่ก็มีนักศึกษาบางคนที่เลือกทำงานนี้ ซึ่งเป็นงานที่ดีที่สุดสำหรับการฝึกการสื่อสาร นอกจากนั้นยังได้ทำงานในองค์กร บริษัท ขนาดใหญ่ มีระบบการทำงานเป็นทีม นอกจากนี้ การแข่งขันไม่สูง เพราะส่วนน้อยที่เลือกทำงานตำแหน่งนี้ |
ข้อดี:
ข้อเสีย:
|
|
พนักงานทำความสะอาด Cleaner งานทำความสะอาดเป็นงานที่มีเวลาที่ยืดหยุ่นขึ้นอยู่กับสถานที่ที่ทำ เช่น ถ้าหากทำงานในองค์กร บริษัท มักจะได้ทำงานในเวลาตอนเช้า ถ้าหากทำงานในร้านอาหาร ผับ บาร์ มักจะได้ทำงานในตอนเย็น งานทำความสะอาดเป็นงานที่ไม่ต้องใช้ทักษะอะไรมากมายเพียงแค่ต้องมีความอดทนต่อสิ่งสกปรกที่พบเจอในทุกๆ วัน |
ข้อดี:
ข้อเสีย:
|
|
พนักงานแคชเชียร์ พนักงานแคชเชียร์ ส่วนใหญ่แล้วมักจะทำในห้างสรรพสินค้า หรือซุปเปอร์มาร์เก็ต ลักษณะงานคือคิดเงินสินค้าทั่วไป เคลียร์ใบเสร็จและสรุปยอดในแต่ละวัน ซึ่งอาจใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารไม่เยอะมาก |
ข้อดี:
ข้อเสีย:
|
|
พนักงานต้อนรับ พนักงานต้อนรับ ส่วนใหญ่แล้วจะทำงานในโรงแรม เช่น ฟร้อนต์ออฟฟิศ การเตรียมห้องประชุม การเตรียมห้องสำหรับจัดงานอีเว้นท์ นอกจากต้องมีทักษะภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่วแล้ว ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนที่เข้ามาพักในโรงแรมหรือเจ้าของงานประชุมด้วย |
ข้อดี:
ข้อเสีย:
|
|
พนักงานขาย หรือตัวแทนจำหน่าย เป็นงานที่ทำเงินได้ดีและเวลาที่ยืดหยุ่น คุณจะพบเจอผู้คนที่แปลกหน้าแปลกตา บางครั้งอาจจะต้องออกนอกสถานที่เป็นงานที่ไม่น่าเบื่อ และบางบริษัทไม่บังคับเวลาเข้าออกงาน และเป็นงานที่สามารถฝึกภาษาอังกฤษได้อย่างยอดเยี่ยม |
ข้อดี:
ข้อเสีย:
|
|
พี่เลี้ยงเด็ก พี่เลี้ยงเด็ก มักจะทำงานในศูนย์รับเลี้ยงเด็ก เช่น Nursery การทำงานก็จะต้องดูแลเด็ก ตั้งแต่ดูแลด้านพัฒนาการ อารมณ์ สุขอาณามัย และความปลอดภัยของเด็ก |
ข้อดี:
ข้อเสีย:
|
|
ผู้ดูแลผู้สูงอายุ ผู้ดูแลผู้สูงอายุ มักจะทำงานในศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ เช่น Aged Care Centre ลักษณะงานจะใกล้เคียงกับการดูแลเด็ก แต่จะเป็นการดูแลสวัสดิการ สุขภาพร่างกาย และจิตใจของผู้สูงอายุเป็นหลัก |
ข้อดี:
ข้อเสีย:
|
|
อาสาสมัคร งานอาสาสมัคร เป็นงานที่ได้รับประสบการณ์และพบปะผู้คนใหม่ๆ เป็นหนึ่งในงานที่ดีที่สุดในการเขียนลง CV เนื่องจาก งานอาสาสมัครในต่างประเทศเป็นที่ชื่นชมจากประชาชนส่วนใหญ่ นอกจากนี้อาจได้รับสวัสดิการจากรัฐด้วย แต่ปัญหาหลักในการทำงานอาสาสมัครคือ ไม่ได้รับค่าตอบแทน แต่อาจมีกองทุนที่ได้รับจากการบริจาก |
ข้อดี:
ข้อเสีย:
|
|
แนวทางหางานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียนในต่างประเทศ
สถานที่ทำงานพาร์ทไทม์ที่ดีที่สุด ที่คุณจะต้องพิจารณาอันดับแรกคือระยะทางที่สามารถเดินทางได้สะดวกจากมหาวิทยาลัย และที่พัก เนื่องจากจะต้องทำงานหลังเลิกเรียน หากทำงานไกลจากสถานที่เรียน อาจต้องเสียระยะเวลาในการเดินทาง และเมื่อเลิกงานเสร็จก็ควรเดินทางกลับที่พักได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย
สิ่งที่ควรทำก่อนเริ่มงาน
- เพื่อให้การทำงานของคุณง่ายขึ้นควรเปิดบัญชีธนาคารของประเทศที่ตนเองได้ศึกษาอยู่ เพื่อนายจ้างจะได้โอนเงินรายได้ผ่านบัญชีธนาคารนี้ นอกจากนี้บางประเทศจะต้องมีการเสียภาษีการจ้างงานด้วย ดังนั้น ควรเช็คเงื่อนไขการทำงานพาร์ทไทม์ของประเทศนั้นๆ ให้ชัดเจน
- ควรมีประวัติหรือที่เรียกว่า CV ซึ่งสถาบันการศึกษาหรือมหาวิทยาลัยหลายแห่งมีบริการแนะแนวการเขียน CV ให้กับนักเรียน นักศึกษา รวมถึงเตรียมความพร้อมในการสัมภาษณ์งานให้กับนักเรียน นักศึกษาอีกด้วย
- ความสามารถทางภาษาอังกฤษ ถ้าหากอยากได้งานที่ได้รับค่าตอบแทนที่สูงคุณจะต้องมีทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษเพื่อที่จะได้ทำงานกับชาวต่างชาติ นอกจากนี้ถ้าหากคุณสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ คุณจะสามารถต่อรองกับนายจ้างที่เอาเปรียบเราได้
จะหางานได้จากที่ไหน
- ห้างสรรพสินค้า หรือ ซุปเปอร์มาเก็ต ตั้งแต่ร้านมินิมาร์ทขนาดเล็ก จนถึงร้านเสื้อผ้า ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ โดยสามารถไปที่ศูนย์การค้าหรือแหล่งช้อปปิ้งในท้องถิ่นแล้วส่งเรซูเม่ไปที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล HR. ได้เลย ข้อดีของงานในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่คือ มีตำแหน่งงานหลากหลายตำแหน่งรองรับ ตั้งแต่แคชเชียร์ บริการลูกค้าสัมพันธ์ พนักงานคลังสินค้า บัญชี การเงิน การตลาด และอื่นๆ มากมาย
- ร้านอาหาร ร้านอาหาร บาร์ เป็นตัวเลือกที่นักศึกษาต่างชาติโดยเฉพาะนักเรียนไทยเลือกทำมากที่สุด เนื่องจากมีร้านอาหารมากมายในเมืองใหญ่ และสามารถหางานที่ใกล้กับที่พักและมหาวิทยาลัยได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ เมืองใหญ่ๆ เช่น ซิดนีย์ เมลเบิร์น ลอนดอน แคลิฟอร์เนีย ก็มีร้านอาหารไทยมากมาย ซึ่งเหมาะอย่างมากสำหรับผู้ที่ยังไม่ชำนาญภาษาอังกฤษและสามารถเดินเข้าไปพูดคุย สอบถามเกี่ยวกับตำแหน่งว่างงานได้
- โดยปกติ สถาบันการศึกษาจะมีนิทรรศการจัดหางาน Job Fair ซึ่งรวมบริษัทชั้นนำ มาไว้ในงานเพื่อที่นักเรียน นักศึกษาจะสามารถพบปะ พูดคุย และสมัครงานกับบริษัทนั้นได้เลย ข้อดีก็คือ บริษัทที่เข้าร่วมงานมีวัตถุประสงค์คือหาคนทำงาน ซึ่งเราจะทราบได้เลยว่าตำแหน่งไหนที่เหมาะสำหรับเรา และกำลังเปิดรับสมัครอยู่
- เว็บไซต์จัดหางาน เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่สะดวก และให้การตอบรับอย่างดี โดยผู้สมัครงานสามารถอัพโหลด CV และส่งใบสมัครผ่านเว็บไซต์ได้เลย และสามารถทราบได้เลยว่า บริษัทไหนที่กำลังรับสมัครพนักงานอยู่ และตำแหน่งงานตรงกับคุณสมบัติที่ผู้สมัครงานมีหรือเปล่า
- บริษัทจัดหางาน ส่วนใหญ่มักจะเป็นงานประเภททำความสะอาด Cleaner งานช่างซ่อมอุปกรณ์ เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ หรือพนักงานรักษาความปลอดภัย โดยส่วนใหญ่แล้ว มักจะได้รับเงินเดือนผ่านบริษัทจัดหางาน และจะได้รับสวัสดิการการทำงานจากบริษัทจัดหางานทั้งหมด
การทำงานควรจะได้รับค่าจ้างที่ยุติธรรมเหมาะสมกับงานที่ทำ มีหลักสลิปเงินเดือนที่มีรายละเอียดชัดเจน และเสียภาษีอย่างถูกต้อง ดังนั้นจงระมัดระวังนายจ้างที่จ่ายเงินเป็นเงินสด เนื่องจากไม่มีหลักฐาน หรือรายละเอียดที่ชัดเจน จึงนำไปสู่การกดค่าแรงขั้นต่ำ หรือหลีกเลี่ยงการเสียภาษีซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดกฏหมาย ดังนั้นทางที่ปลอดภัยที่สุด ควรให้นายจ้างโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารของเพื่อความโปร่งใส
ติดต่อเดอะเบสท์เพื่อสอบถามข้อมูลการเรียนต่อต่างประเทศเพิ่มเติม
เดอะเบสท์ เป็นศูนย์บริการให้คำปรึกษาเรียนต่อต่างประเทศครบวงจร เราเป็นตัวแทนที่ให้บริการแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และ ประเทศอื่นๆ อีก 25 ประเทศทั่วโลก เรายินดีให้ความช่วยเหลือตั้งแต่เริ่มสมัครเรียน จนสำเร็จการศึกษา รวมถึงดูแลนักเรียนระหว่างเรียนจนนักเรียนเรียนจบด้วยทีมผู้เชียวชาญในด้านการเรียนต่อต่างประเทศ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ขั้นตอนเหล่านี้เราดำเนินการให้ฟรี และเราพร้อมที่จะทำตามคุณภาพ และมาตรฐานดังสโลแกนที่ว่า “We are Quality”
บริการของเรามีอะไรบ้าง ?
- ฟรี!! บริการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเรียนต่อต่างประเทศทุกระดับชั้นทั่วโลก ตั้งแต่ โรงเรียนประถม โรงเรียนมัธยม สถาบันวิชาชีพ และสถาบันในระดับอุดมศึกษา รวมถึงหลักสูตรภาษาต่างประเทศ และเลือกสถาบันที่ดีที่สุดให้กับผู้เรียน
- เราให้ความช่วยเหลือตั้งแต่การประสานงานโรงเรียน เลือกโรงเรียนให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียน เตรียมเอกสารสมัครเรียน และดำเนินเรื่องสมัครเรียนให้ฟรี
- บริการเตรียมเอกสารยื่นวีซ่าครบวงจร และบริการยื่นวีซ่ากว่า 25 ประเทศทั่วโลก พร้อมวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าอย่างตรงจุด และแนะนำวิธีการเตรียมตัวในการสัมภาษณ์วีซ่า
- บริการแปลเอกสาร ภาษาไทย – ภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาอังกฤษ – ภาษาไทย รวมถึงภาษาที่ 3 เริ่มต้นเพียงแผ่นละ 200 บาท
- เดอะเบสท์ เป็นตัวแทนรับสมัครสอบ IELTS IDP อย่างเป็นทางการ พร้อมให้คำแนะนำ และนัดวันสอบให้โดยน้องๆ ไม่ต้องเสียเวลาสมัครเอง สมัครสอบได้ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
- บริการซื้อประกันภัยการเดินทางและประกันสุขภาพนักเรียนต่างชาติ จากบริษัทประกันชั้นนำ MSIG, NIB, Allianz, Orbit และอื่นๆ
- บริการจองตั๋วเครื่องบิน ทุกสายการบิน และประสานงานกับสถาบันเกี่ยวกับรถรับ – ส่ง สนามบิน
- บริการจัดหาที่พักทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นโฮมสเตย์ อพาร์ทเม้น หรือหอพักนักศึกษา จัดหาให้ตามความต้องการส่วนบุคคล
“เรายินดีที่จะดูแลนักเรียนทุกคน ตั้งแต่เริ่มต้นจนนักเรียนสำเร็จการศึกษา และทำให้การเรียนต่อของคุณเป็นเรื่องง่าย ” สอบถามข้อมูลการบริการเพิ่มเติมติดต่อ
โทร : 090-327 3558, 088-269 5099
Email :contact@thebest-edu.com
Line : @thebestedu หรือคลิกเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ
แหล่งที่มา:
- Study Link. Top Part-Time Jobs for International Students. Retrieved 8 October 2018
- Insider Guide. Top 10 Jobs for International Students. Retrieved 8 October 2018
- Study in Australia. How to find part-time work in Australia. Retrieved 8 October 2018
3 ความเห็น