Last updated กรกฎาคม 8, 2025 ago by Thebestedu
การขอวีซ่าเรียนต่อแคนาดาต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?
ปัจจุบันแคนาดาเปิดรับชาวต่างชาติเข้าประเทศมากขึ้น เนื่องจากแคนาดากำลังประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก มีงานว่างเป็นล้านตำแหน่งทั่วประเทศ โดยเมื่อ พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา รัฐบาลกลางแคนาดาได้ออกมาประกาศแผนระดับการอพยพ ปี 2023-2025 ฉบับใหม่ (2023-2025 Immigration Levels Plan) ตั้งเป้ารับชาวต่างชาติให้เข้าไปตั้งถิ่นฐานถาวร 4-5 แสนคนต่อปี ตั้งแต่ปี 2023 ถึงปี 2025 โดยตั้งเป้าให้มีผู้อาศัยถาวร (Permanent Residents) ที่ย้ายเข้าใหม่ 465,000 คนในปี 2023, 485,000 คนในปี 2024 และ 500,000 คนในปี 2025 และจะพยายามกระจายคนไปในพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศ รวมถึงเมืองเล็กในชนบทด้วย มีหลายช่องทางที่ชาวต่างชาติสามารถสมัครขอสิทธิในการอยู่อาศัยที่ประเทศแคนาดา เช่น ในรูปแบบของวีซ่านักเรียน ซึ่งชาวต่างชาติที่เรียนในสถาบันการศึกษาของรัฐในแคนาดาสามารถทำงานพาร์ทไทม์ได้ และเมื่อเรียบจบมีโอกาสที่จะสมัครเข้าทำงานในสถานประกอบการต่าง ๆ ในแคนาดา
แคนาดาให้โอกาสทางการศึกษาหรือวิชาการที่หลากหลายสำหรับชาวต่างชาติ จึงไม่แปลกใจเลยที่ชาวต่างชาติจำนวนมากต้องการไปแคนาดาเพื่อไปเรียนต่ออย่างมากมาย ชาวไทยเป็นหนึ่งในชาวต่างชาติที่แห่กันไปศึกษาต่อที่แคนาดา เช่นเดียวกับนักเรียนต่างชาติจากประเทศอื่น ซึ่งชาวไทยจะต้องมีใบอนุญาตนักเรียนหากต้องการเรียนที่แคนาดามากกว่า 6 เดือน จะต้องได้รับใบอนุญาตหรือวีซ่าก่อนออกเดินทาง สำหรับบทความนี้จะมาเล่าว่า Study Permit คืออะไร แตกต่างจากวีซ่าทั่วไปอย่างไร ตามไปดูในบทความนี้กันได้เลย
เอกสารประกอบการยื่นวีซ่าแคนาดา
ในแต่ละปีจะมีนักเรียนต่างชาติกว่า 130,000 คน ที่เดินทางเข้าไปเรียนในระดับมหาวิทยาลัยที่ประเทศแคนาดา เพราะว่าประเทศแคนาดามีระบบการศึกษาที่มีคุณภาพสูง ประเทศแคนาดาเป็นประเทศแห่งวัฒนธรรมที่สดใสและการให้โอกาส สิ่งที่ประเทศแคนาดาและสถาบันการศึกษาให้ความสำคัญที่สุดคือ การวิจัย (Research) สิ่งพิมพ์ทางวิทยาศาสตร์ (Scientific Publications) และความร่วมมือระหว่างประเทศ (International Collaborations) ผู้ที่สนใจเรียนต่อประเทศแคนาดาจะต้องมี Canadian Study Permit หรือวีซ่านักเรียนของประเทศแคนาดาด้วย
STUDY PERMIT คืออะไร?
Study Permit คือเอกสารที่ออกโดยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของประเทศแคนาดาที่มีอำนาจในการให้สิทธิ์ชาวต่างชาติในการศึกษาในประเทศแคนาดา นักศึกษาต่างชาติจะไม่สามารถเรียนในประเทศแคนาดาได้หากไม่มี Study Permit ที่ยังไม่หมดอายุ และนักศึกษาที่มี Study Permit จะสามารถสมัครเรียนกับสถาบันที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาลแคนาดาหรือที่เรียกว่า “Designed Learning Institutions” เท่านั้น ก่อนจะได้ Study Permit นักศึกษาจะต้องได้รับ Offer Letter จากสถาบันการศึกษาที่สมัครก่อนและระยะเวลาของ Study Permit จะครอบคลุมถึงแค่ระยะเวลาเรียนของการศึกษาเท่านั้น
และที่สำคัญ Study Permit ไม่ใช่วีซ่า Study Permit เป็นเพียงเอกสารที่ให้อนุญาติชาวต่างชาติเข้าเรียนในแคนาดาได้ ถ้าผู้เรียนไม่มีวีซ่าพำนักในแคนาดาก็ไม่อนุญาตให้คุณเข้าประเทศแคนาดา คุณอาจต้องใช้วีซ่านักท่องเที่ยวหรือใบอนุญาตการเดินทางทางอิเล็กทรอนิกส์ (eTA) เพื่ออยู่อาศัยในแคนาดา และเมื่อใดที่จะต้องสมัคร Study Permit เราจำเป็นต้องมีวีซ่าด้วยเช่นกัน

Student Visa – เป็นใบอนุญาติสำหรับการเข้าประเทศแคนาดา

Study Permit – เป็นในอนุญาติสำหรับการเรียนและอาศัยในแคนาดา
ขั้นตอนในการยื่นคำร้องขอวีซ่านักเรียนแคนาดา (STUDY PERMIT)
1. สมัครเรียนในมหาวิทยาลัยที่แคนาดาที่เป็น Designated Learning Institute และได้รับเอกสารตอบรับ (Acceptance Letter) โดยต้องมีหัวจดหมายอย่างเป็นทางการ ระบุค่าธรรมเนียมการศึกษาที่แท้จริง วันคาดการณ์เริ่มเรียนและวันเรียนจบและวันที่ต้องลงทะเบียน
2. ตรวจสอบว่าต้องสมัครวีซ่านักเรียนเพื่อเรียนต่อในประเทศแคนาดาหรือไม่
ผู้สมัครสามารถตรวจสอบได้ที่นี่ ว่าตนเองต้องสมัครวีซ่านักเรียนสำหรับเรียนต่อประเทศแคนาดาหรือไม่
บุคคลต่อไปนี้ได้รับการยกเว้นไม่ต้องยื่นคำร้องขอวีซ่านักเรียนประเทศแคนาดา
- บุคคลที่เป็นสมาชิกในครอบครัวหรือสมาชิกของเจ้าหน้าที่ที่เป็นตัวแทนต่างประเทศในประเทศแคนาดา ซึ่งได้รับการรับรองจากกระทรวงการต่างประเทศ การค้าและการพัฒนาของแคนาดา (Department of Foreign Affairs, Trade and Development Canada)
- บุคคลที่ลงทะเบียนเรียนหลักสูตรที่เรียนน้อยกว่า 6 เดือน
- บุคคลที่เป็นสมาชิกของกองกำลังต่างชาติ (Foreign Armed Forces) จากพระราชบัญญัติกองกำลังการเยี่ยมดูงาน (Visiting Force Act.)
- บุคคลที่เป็นประชากรของประเทศอื่น แต่ลงทะเบียนสถานะบุคคลอินเดียในประเทศแคนาดา
วีซ่านักเรียนแคนาดาหรือที่รู้จักในนาม Study Permit/Visa ไม่ได้มีสถานะเหมือนวีซ่าทั่วไปที่อนุญาตให้ผู้ถือวีซ่าเดินทางเข้าประเทศแคนาดาได้ ผู้ถือจะต้องสมัครวีซ่าเดินทางหรือ an Electronic Travel Authorization (eTA)
3. เริ่มการสมัครเพื่อขอวีซ่านักเรียนแคนาดา
เมื่อได้รับเอกสารตอบรับ Acceptance Letter จากมหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษาแล้ว จะต้องทำการสมัครวีซ่านักเรียนหรือที่รู้จักกันในนาม Study Permit ต่อ
ขั้นตอนแรกสำหรับการสมัครวีซ่านักเรียน คือ
- สมัครออนไลน์ผ่านหน้าเว็บไซต์ของ Citizenship and Immigration Canada (CIC)
- หากไม่สามารถส่งเอกสารทางออนไลน์ได้ ผู้สมัครสามารถส่งเอกสารทางไปรษณีย์ไปยังสถานทูตได้
- ยื่นเอกสารตอบรับ Acceptance Letter ที่ได้จากสถาบันการศึกษาที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาลของแคนาดา หรือ Designated Learning Institution
- ยื่นหลักฐานรับรองว่าผู้สมัครไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมมาก่อน ขอได้จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (Police Certificate for Security Checks)
- ยื่นหลักฐานบันทึกทางการแพทย์ที่แสดงว่าผู้สมัครมีสุขภาพที่ดี หรืออาจต้องแนบเอกสารการตรวจสุขภาพด้วย (Immigration Medical Examination)
จากระเบียบการขอวีซ่าล่าสุด ถ้าผู้สมัครมีสมาชิกในครอบครัวที่กำลังทำงานหรือสมัครใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) ในประเทศแคนาดา ใบสมัครของผู้สมัครสำหรับ Study Permit จะได้รับการดำเนินการในสองสัปดาห์ ผู้สมัครอาจจะต่อหรือขยาย Study Permit ได้ ถ้า
- ผู้สมัครต้องการเรียนต่อ
- โปรแกรมเรียนของผู้สมัครได้รับการขยาย
- ผู้สมัครเปลี่ยนมหาวิทยาลัย
Study Permit จะหมดอายุใน 90 วันหลังจากเรียนจบแล้ว (หลังจากได้รับแจ้งเรียนจบหลักสูตร) ผู้ถือวีซ่าจะสามารถพำนักอยู่ในประเทศแคนาดาเพื่อเดินทาง สำรวจ หรือสมัคร Work Permit ซึ่งอนุญาตให้ทำงานเต็มเวลา งานพาร์ทไทม์ หรือแม้แต่ประกอบอาชีพอิสระ (Self-employed) ได้
4. เตรียมเอกสารที่ใช้ในการสมัครวีซ่านักเรียนประเทศแคนาดา
- กรอกฟอร์มยื่นคำร้องขอวีซ่านักเรียน (Student Permit Application Form)
- ฟอร์ม IMM 1294 – Application for Study Permit made Outside of Canada
- ฟอร์ม IMM 5707 – Family Information Form กรอกแบบฟอร์มข้อมูลสมาชิกทุกคนในครอบครัวให้ครบถ้วน ลงลายมือชื่อและวันที่
- ฟอร์ม IMM 5483 – Document Checklist รายการเช็คลิสต์ของเอกสารที่ใช้ในการยื่นคำร้อง
- ฟอร์ม IMM 5409 – Statutory Declaration of Common-law Union หากผู้สมัครมีบุคคลที่อยู่ร่วมกันฉันสามีภรรยานานเกินกว่าหนึ่งปีแต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสตามกฎหมาย และได้แจ้งสถานภาพของตนเองว่า Common-law ในแบบฟอร์มยื่นคำร้องขอวีซ่า ผู้สมัครจะต้องกรอกเอกสารนี้เพิ่มและแนบหลักฐานสนับสนุน เช่น สมุดบัญชีร่วมกัน เพื่อยืนยันความสัมพันธ์นั้น
- ฟอร์ม IMM 5476 – Use of a Representative ผู้สมัครจะกรอกฟอร์มนี้ก็ต่อเมื่อมีการใช้บริการตัวแทนในการดำเนินการขอวีซ่าแทนตนเอง
- ฟอร์ม IMM 5475 – Authority to Release Personal Information to a Designated Individual ผู้สมัครจะกรอกฟอร์มนี้ก็ต่อเมื่อได้มอบอำนาจให้หน่วยงาน Citizenship and Immigration Canada (CIC) กับ Canada Border Services Agency (CBSA) ได้แบ่งปันหรือโอนข้อมูลของตนเองไปให้ผู้อื่นนอกเหนือจากตนเองรับรู้
- ฟอร์ม IMM 5646 – Custodianship Declaration – Custodian for Minors Studying in Canada ฟอร์มนี้สำหรับผู้เรียนที่มีอายุต่ำกว่า 17 ปีจะต้องกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน
- เอกสารตอบรับตัวจริงจากมหาวิทยาลัย (Original Acceptance Letter)
- สำเนาหนังสือเดินทางเล่มปัจจุบันที่ยังมีอายุการใช้งานอย่างน้อย 6 เดือน
- หลักฐานการสนับสนุนทางการเงินของผู้สมัครระหว่างเรียนในประเทศแคนาดา
โดยผู้เรียนจะต้องสามารถพิสูจน์ได้ว่าตนเองจะได้รับการสนับสนุนทางการเงินที่เพียงพอตลอดช่วงระยะเวลาที่อยู่ในประเทศแคนาดา และหลักฐานทางการเงินนั้นจะต้องครอบคลุมค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับประเทศไทยและแคนาดาสำหรับตนเองและสมาชิกครอบครัวที่ติดตามและค่าครองชีพของตนเองและสมาชิกในครอบครัว จากไกด์ไลน์ของหน่วยงาน Citizenship and Immigration Canada ได้ประมาณการค่าครองชีพต่อปีของผู้สมัครไว้ที่ $10,000 CAD สถานทูตแคนาดาร้องขอเอกสารเพื่อสนับสนุนทางการเงินดังต่อไปนี้
- สมุดบัญชีธนาคารหรือรายการเดินบัญชีทางการเงินของสปอนเซอร์ ย้อนหลัง 6 เดือน
- จดหมายชี้แจงที่มาทางการเงินของสปอนเซอร์
- เอกสารเพื่อสนับสนุนหลักฐานที่มาทางการเงินของสปอนเซอร์ เช่น จดหมายรับรองการทำงานที่ระบุระยะเวลาการจ้างงาน ตำแหน่ง และเงินเดือนรวมถึงสวัสดิการหรือผลประโยชน์อื่นๆที่ได้รับจากบริษัท จดหมายรับรองการจดทะเบียนธุรกิจ เอกสารการเสียภาษี เป็นต้น
- จดหมายยืนยันการสนับสนุนทางการเงินจากสปอนเซอร์ ชี้แจงเจตนาในการสนับสนุนนักเรียนตลอดช่วงระยะเวลาที่ศึกษาในประเทศแคนาดา
- หลักฐานยืนยันความสัมพันธ์กับสปอนเซอร์ เช่น สูติบัตร ทะเบียนสมรส
- เอกสารอื่นที่เกี่ยวกับทรัพย์สินของสปอนเซอร์ เช่น บัญชีตลาดหุ้น เอกสารธุรกรรมทางธุรกิจหรืออสังหาริมทรัพย์ เอกสารเหล่านี้จะต้องไม่ถูกแทนที่เอกสารที่ร้องขออื่นๆก่อนหน้า ในกรณีที่ไดรับทุนการศึกษาจะต้องยื่นเอกสารฉบับจริงจากหน่วนงานที่ให้ทุนการศึกษาพร้อมระบุจำนวนเงินที่จะสนับสนุนผู้เรียนในแต่ละปีการศึกษาที่ผู้เรียนจะได้รับด้วย
การมียอดเงินฝากก้อนใหญ่ที่เข้ามาในบัญชีจะต้องอธิบายแหล่งที่มาของเงินก้อนนั้นด้วย ไม่เช่นนั้นจะถือว่าการเงินไม่มีความน่าเชื่อถือ และผู้สมัครหรือครอบครัวของผู้สมัครจะต้องแสดงความพร้อมในการมีทุนทรัพย์ที่ครอบคลุมค่าการศึกษาและค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการศึกษาต่อต่างประเทศ หลักฐานทางการเงินที่เพียงพอชำระแค่ค่าธรรมเนียมการศึกษาเท่านั้นอาจทำให้วีซ่าของผู้สมัครถูกปฏิเสธได้
- จดหมายชี้แจงเจตนา (A letter of intent/Statement of Purpose) หรือแผนการเรียน (Study Plan)
ผู้สมัครจะต้องทำการเขียน Study Plan ขึ้นมาด้วยตนเองและมีความยาวไม่เกิน 1 หน้ากระดาษและต้องชี้แจงถึงหัวข้อดังต่อไปนี้ ได้แก่
-
- เหตุผลในการเรียนต่อที่ประเทศแคนาดาในหลักสูตรหรือโปรแกรมที่ผู้สมัครได้รับการตอบรับเข้าเรียน
- เป้าหมายในการเรียน
- เหตุผลว่า Diploma หรือ Degree ที่ได้รับจากประเทศแคนาดาจะสร้างโอกาสในการทำงานให้ผู้สมัครได้อย่างไร
- หลักฐานทางการเรียนปัจจุบันและที่ผ่านมา
หากผู้สมัครสำเร็จการศึกษาแล้วต้องแนบเอกสารทรานคริปต์ล่าสุด และใบเกียรติบัตร วุฒิบัตรสำเร็จการศึกษา (Diploma หรือ Certificate) จากโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย
หากผู้สมัครยังไม่สำเร็จการศึกษาให้ใช้เอกสารทรานคริปต์ที่ล่าสุด พร้อมกับเอกสารคาดว่าจะจบและเอกสารรับรองการเป็นนักเรียน/นักศึกษาจากโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย
- หากผู้สมัครวางแผนเรียนต่อที่เมือง Quebec จะต้องแสดงเอกสาร Certificat d’acceptation du Québec และแปลเอกสารเป็นภาษาอังกฤษกับฝรั่งเศส โดยต้องรับรองจากนักแปลและแนบสำเนาเอกสารที่ได้รับการรับรอง
- หลักฐานรับรองว่าผู้สมัครไม่เคยมีประวัติอาชญากรรม (Police Certificate) มาก่อน ขอได้จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หากผู้สมัครหรือสมาชิกในครอบครัวที่ติดตามเคยถูกตัดสินว่ากระทำความผิดทางอาญา จะต้องยื่นเอกสารรับรองตัวจริงจากทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติและเขียนอธิบายเหตุผลส่วนตัวว่าทำไมถึงเคยถูกตัดสินว่ากระทำความผิดทางอาญานั้น
- หลักฐานแสดงการชำระค่าธรรมเนียม Study Permit Fee (150 CAD) โดยผู้สมัครสามารถชำระค่าธรรมเนียมผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตได้
หมายเหตุ: เอกสารทั้งหมดที่ไม่ได้ออกเป็นภาษาอังกฤษหรือฝรั่งเศสจะต้องได้รับการแปลและรับรองให้ถูกต้องจาก Certified Translator และต้องรับรองสำเนาถูกต้องของเอกสารต้นฉบับทุกเอกสารด้วย และเอกสารที่รับรองทุกฉบับจะต้องระบุข้อความต่อไปนี้
- I certify that this is a true copy pf the original document
- ชื่อของเอกสารต้นฉบับ
- วันที่รับรอง
- ชื่อผู้รับรอง ตำแหน่งผู้รับรองและลายเซ็นต์ของผู้รับรอง
5. ข้อกำหนดทางด้านภาษาที่ใช้ในการศึกษาต่อประเทศแคนาดา
ผู้สมัครจะต้องมีหลักฐานแสดงทักษะภาษาอังกฤษอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้
- IELTS Academic; Bachelor’s/Diploma/Certificate require IELTS 6.0/6.5 with no band less than 5.5และ Post-graduate/Master require IELTS 6.5 overall with no bands less than 6.0
- TOEFL iBT
- PTE Academic
- C1 Advanced
6. การนัดทำไบโอเมตริกซ์และสัมภาษณ์
การนัดทำไบโอเมตริกซ์
ผู้สมัครจะต้องทำนัดกับ Visa Application Centre ในประเทศของตนเองเพื่อเก็บข้อมูลไบโอเมตริกซ์ ค่าธรรมเนียมการเก็บข้อมูลไบโอเมตริกซ์ต่อคนอยู่ที่ $CA85 หรือประมาณ 2,040 บาท โดยข้อมูลนี้จะถูกเก็บทุก 10 ปีและเมื่อได้รับจดหมายแจ้งให้ไปทำไบโอเมตริกซ์ จะต้องรีบดำเนินการให้เสร็จภายใน 30 วัน
การสัมภาษณ์
ผู้สมัครจะเข้าสัมภาษณ์ก็ต่อเมื่อได้รับจดหมายแจ้งจากสถานทูตซึ่งในจดหมายจะระบุวันเวลาและสถานที่สำหรับสัมภาษณ์ และในระหว่างการสัมภาษณ์ผู้สมัครอาจได้รับการร้องขอเอกสารเพิ่มเติมจากผู้สัมภาษณ์ เอกสารที่ขออาจเป็นเอกสารที่ยืนยันคุณสมบัติในการเรียนหรือทางการเงินของผู้สมัคร เช่น
- ทรานคริปต์ ประกาศนียบัตร วุฒิบัตรการศึกษาที่ผ่านมา
- ผลทดสอบทักษะภาษาอังกฤษ เช่น TOEFL, SAT, GRE หรือ GMAT
- เจตนาหรือความตั้งใจที่จะเดินทางออกจากประเทศแคนาดาหลังจากเรียนจบ
- การวางแผนการชำระค่าเรียนทั้งหมด ค่าครองชีพและค่าเดินทาง
7. ระยะเวลารอผลตัดสิน Canadian Study Permit
หลังจากสมัคร Canadian Study Permit แล้วระยะเวลาในการรอวีซ่าอาจนานสูงสุดถึง 90 วัน
หากผลการพิจารณาคือผู้สมัครได้รับการอนุมัติตอบรับคำร้อง เอกสารแสดงเอกลักษณ์และหนังสือเดินทางของผู่สมัครจะได้รับการส่งคืนจากเจ้าหน้าที่พร้อมกับจดหมายแนะนำ (Letter of Introduction) เพื่อยืนยันการอนุญาต
หากผลการพิจารณาคือผู้สมัครถูกปฏิเสธการยื่นคำร้อง หลักฐานตัวจริงทั้งหมดรวมทั้งหนังสือเดินทางจะได้รับการส่งคืนจากเจ้าหน้าที่รวมถึงเหตุผลที่ถูกปฏิเสธ ในกรณีที่เจ้าหน้าที่สงสัยว่าผู้สมัครส่งเอกสารที่เป็นเท็จจะไม่คืนเอกสารนั้นให้กับผู้สมัคร
การได้รับ STUDY PERMIT
หากการสมัครวีซ่าได้รับผลตัดสินวีซ่าผ่านแล้ว ผู้ถือวีซ่าจะได้รับจดหมายแนะนำ (Letter of Introduction) ซึ่งไม่ใช่ Study Permit และจะต้องพกเอกสารนี้ติดตัวตอนเดินทางเข้าประเทศแคนาดา
การมี Letter of Introduction ไม่สามารถทำให้ผู้สมัครสามารถเดินทางเข้าไปประเทศแคนาดาทันทีได้ ผู้สมัครที่มาจากประเทศไทยจะต้องมี Visitor Visa หรือ Temporary Resident Visa (TRV) ในการเดินทางเข้าประเทศแคนาดาด้วย ทางสถานทูตจะออกวีซ่า TRV นี้ให้อัตโนมัติเมื่อตอนยื่นคำร้องขอ Study Permit โดยไม่ต้องยื่นคำร้องขอแยกอีกครั้ง
เมื่อเดินทางถึงประเทศแคนาดาแล้ว ผู้สมัครจะได้รับการสัมภาษณ์จากเจ้าหน้าที่ของ Canada Border Services Agency ซึ่งจะเป็นผู้ตรวจสอบและรับรองเอกสารต่อไปนี้
- จดหมายแนะนำจากเจ้าหน้าที่วีซ่า (Letter of Introduction from the Visa Office)
- วีซ่าพำนักชั่วคราว (Temporary Resident Visa)
- หนังสือเดินทางหนังสือเดินทางเล่มปัจจุบันที่ยังมีอายุการใช้งานอย่างน้อย 6 เดือน
- จดหมายตอบรับจากสถาบันการศึกษา (Letter of Acceptance from the education institute)
- หลักฐานทางการเงิน
เมื่อเอกสารได้รับการรับรองแล้ว เจ้าหน้าที่จะมอบ Study Permit ให้ การที่มี Letter of Introduction ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นการการันตีการได้รับ Study Permit เจ้าหน้าที่เป็นผู้มีสิทธิ์ขาดสามารถตัดสินในขั้นสุดท้ายได้ว่าจะให้หรือปฏิเสธ Study Permit และจะเป็นผู้กำหนดระยะเวลาที่ผู้ถือวีซ่าสามารถอยู่ในประเทศแคนาดาได้
หากมีการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลวันเรียนที่ระบุในจดหมายที่ยื่นคำร้องขอ Study Permit และวันที่ผู้สมัครเดินทางเข้าถึงประเทศแคนาดาหรือมีข้อมูลที่ไม่ตรงกับเอกสารตัวจริงที่เจ้าหน้าที่วีซ่ามี ผู้สมัครอาจถูกปฏิเสธการเข้าประเทศแคนาดา
ในกรณีที่ผู้สมัครได้ทำการเก็บข้อมูล Biometric ของตนเองตอนยื่นคำร้อง เจ้าหน้าที่ที่ด่านตรวจอาจตรวจเอกสารการเดินทางของผู้สมัครและเปรียบเทียบกับรูปถ่ายที่ถ่ายตอนสมัครและอาจขอให้ผู้สมัครทำการสแกนลายนิ้วมือเพื่อเทียบกับลายนิ้วมือที่เก็บจากตอนยื่นคำร้อง
เงื่อนไขของ STUDY PERMIT ที่ควรทราบ
- ผู้ถือ Study Permit สามารถทำงานขณะที่เรียนได้ โดยไม่ต้องมี Work Permit และสามารถทำได้ทั้งใน (On-Campus) และนอก (Off-Campus) รั้วสถาบันการศึกษาของตนเอง
- ผู้ถือ Study Permit จะต้องรักษาสถานภาพการเรียนของตนเองอย่างต่อเนื่อง
- หากผู้ถือ Study Permit ไม่รักษาสถานภาพการเป็นนักเรียน/นักศึกษาของตนเองอาจถูกยกเลิกวีซ่าและต้องออกจากประเทศแคนาดา
- Citizenship and Immigration Canada (CIC) จะขอรายงานจากสถาบันการศึกษาของคุณอย่างต่อเนื่องเพื่อติดตามความก้าวหน้าในการเรียนของผู้ถือวีซ่า
สำหรับนักเรียนที่โรงเรียนหลักสูตร Post-Secondary Study หรือระดับอุดมศึกษาขึ้นไป หน่วยงาน Designated Learning Institution จะเป็นผู้รายงานการลงทะเบียนเรียนและสถานะการเรียนของนักเรียนให้ Immigration ทราบ และเจ้าหน้าที่อาจจะกำหนด เปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกเงื่อนไขของ Study Permit ของผู้ถือวีซ่าได้ เงื่อนไขเหล่านั้นได้แก่
- ประเภทของหลักสูตรที่ผู้เรียนลงทะเบียนเรียน
- ชื่อสถาบันการศึกษาที่ผู้เรียนเข้าเรียน
- สถานที่ที่ตั้งของสถาบันการศึกษา
- เวลาและระยะเวลาการเรียน
- เวลาและสถานที่ที่ผู้ถือวีซ่าต้องไปตรวจสุขภาพ
- เวลาและสถานที่ที่ผู้ถือวีซ่าควรรายงานหลักฐานที่เป็นปัจจุบันของการปฏิบัติตามเงื่อนไขที่เหมาะสม
- เงื่อนไขการทำงานที่แจ้งมาพร้อมกับ Study Permit
- ข้อห้ามในการเข้าร่วมการทำงาน
- ระยะเวลาในการพำนักในประเทศแคนาดา
ระยะเวลาของ STUDY PERMIT
Study Permit จะหมดอายุอัตโนมัติภายใน 90 วันหลังจากสิ้นสุดระยะเวลาการเรียนของผู้ถือวีซ่า ถ้าผู้ถือวีซ่าย้ายไปเรียนในหลักสูตรที่มีระยะเวลาสั้นกว่าหรือเรียนจบเร็วขึ้น ระยะเวลาของ Study Permit ก็จะหมดอายุภายใน 90 วันหลังจากหลักสูตรเรียนสิ้นสุดด้วย หลักสูตรจะถือว่าสิ้นสุดแล้วเมื่อสถาบันการศึกษาได้ออกจดหมายหรือมอบประกาศนียบัตรให้กับผู้เรียน นอกจากนั้นเรายังสามารถขยายระยะเวลา Study Permit ได้อีกเช่นกัน ซึ่งเงื่อนไขจะเป็นไปตามที่ทางการกำหนด
หลักฐานทางการเงินสำหรับยื่นวีซ่านักเรียน
หลักฐานทางการเงินคือหลักฐานที่ใช้ยืนยันว่าผู้สมัครมีทุนทรัพย์ที่เพียงพอที่จะครอบคลุมค่าใช้จ่ายของตนหรือสมาชิกในครอบครัวที่ติดตามตนไปเมื่ออยู่ในประเทศแคนาดา สำหรับจำนวนเงินที่ต้องแสดงกับทางสถานทูตนั้น หากผู้สมัครลงทะเบียนเรียนในหลักสูตรที่มีระยะเวลารวมกันนานกว่า 1 ปี สถานทูตจะพิจารณาเฉพาะค่าใช้จ่ายในปีแรกเท่านั้น และหากลงเรียนในหลักสูตรที่ต่ำกว่า 1 ปีก็จะพิจารณาตามจำนวนเดือนที่ผู้สมัครหรือผู้ติดตามจะอยู่ในประเทศแคนาดาเท่านั้น
โดยหลักฐานทางการเงินและจำนวนเงินนั้นจะต้องครอบคลุมค่าธรรมเนียมการศึกษาที่ค้างชำระในปีแรก ค่าครองชีพ ค่าที่พัก และค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับประเทศต้นทางและประเทศแคนาดา
ค่าครองชีพปัจจุบันกำหนดต่อปี (รวมผู้สมัคร)
ค่าครองชีพนอกเมือง QUEBEC (ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2568)
|
จำนวนสมาชิกในครอบครัว (รวมผู้สมัคร) |
จำนวนเงินที่ต้องแสดงต่อปี (CAD) |
|
1 (ผู้สมัครเดี่ยว) |
CAD$22,895 |
|
2 |
CAD$28,502 |
|
3 |
CAD$35,040 |
|
4 |
CAD$42,543 |
|
5 |
CAD$48,252 |
|
6 |
CAD$54,420 |
|
7 |
CAD$60,589 |
|
สมาชิกเพิ่มเติมถ้ามากกว่า 7 คน |
CAD$6,170 |
ค่าครองชีพในเมือง QUEBEC (อัปเดตสำหรับปี 2568)
|
จำนวนสมาชิกในครอบครัว (รวมผู้สมัคร) |
อายุของสมาชิก |
จำนวนเงินที่ต้องแสดงต่อปี (CAD) |
|
1 |
อายุน้อยกว่า 18 ปี |
CAD$7,756 |
|
1 |
อายุ 18 ปีขึ้นไป |
CAD$15,508 |
|
2 |
อายุ 18 ปีขึ้นไป ทั้งคู่ |
CAD$22,745 |
|
2 (ผู้ใหญ่) และ 1 (เด็ก) |
– |
CAD$25,479 |
|
2 (ผู้ใหญ่) และ 2 (เด็ก) |
– |
CAD$27,499 |
|
สมาชิกเพิ่มเติมแต่ละคน |
โปรดตรวจสอบกับ MIFI โดยตรง |
โปรดตรวจสอบกับ MIFI โดยตรง |
สำหรับค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับประเทศแคนาดาและประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ CAD$3,000 ต่อคน
ตัวอย่างการคำนวณยอดเงินขั้นต่ำที่ต้องแจ้งสถานทูต (สำหรับผู้สมัครเดี่ยว นอกเมือง QUEBEC)
จำนวนเงินที่แสดงนั้นจะต้องครอบคลุมค่าธรรมเนียมการศึกษา, ค่าที่พักและค่าครองชีพ, และค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับประเทศไทยและประเทศแคนาดาด้วย
|
ระยะเวลาเรียน |
ค่าครองชีพและที่พัก (CAD) |
ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ TH-CAD (CAD) |
ยอดเงินขั้นต่ำที่ควรแสดงให้สถานทูต (CAD) |
ยอดเงินขั้นต่ำที่ควรแสดงให้สถานทูต (THB โดยประมาณ) |
|
3 เดือน |
CAD$5,724 |
CAD$3,000 |
CAD$8,724 |
ประมาณ 207,621 บาท |
|
6 เดือน |
CAD$11,448 |
CAD$3,000 |
CAD$14,448 |
ประมาณ 343,962 บาท |
|
9 เดือน |
CAD$17,171 |
CAD$3,000 |
CAD$20,171 |
ประมาณ 479,999 บาท |
|
12 เดือน |
CAD$22,895 |
CAD$3,000 |
CAD$25,895 |
ประมาณ 616,301 บาท |
อัตราแลกเปลี่ยนโดยประมาณ: 1 CAD = 23.80 THB (อาจมีการเปลี่ยนแปลง)
คำแนะนำจากเดอะเบสท์
ยอดเงินข้างต้นเป็นยอดเงินขั้นต่ำที่ทางสถานทูตได้กำหนดให้แสดง ศูนย์ฯ เดอะเบสท์ แนะนำให้แสดงหลักฐานทางการเงินให้มากกว่ายอดเงินขั้นต่ำที่ควรแสดง 1.5 – 2 เท่า เพื่อแสดงถึงเสถียรภาพทางการเงินของผู้สนับสนุน เช่น
|
ระยะเวลาเรียน |
ยอดเงินขั้นต่ำที่ควรแสดง (CAD) |
ยอดเงินขั้นต่ำที่ควรแสดง (THB โดยประมาณ) |
กรณีแสดงมากกว่าที่กำหนด 1.5 เท่า (CAD) |
กรณีแสดงมากกว่าที่กำหนด 1.5 เท่า (THB โดยประมาณ) |
กรณีแสดงมากกว่าที่กำหนด 2 เท่า (CAD) |
กรณีแสดงมากกว่าที่กำหนด 2 เท่า (THB โดยประมาณ) |
|
3 เดือน |
CAD$8,724 |
ประมาณ 207,621 บาท |
CAD$13,086 |
ประมาณ 311,447 บาท |
CAD$17,448 |
ประมาณ 415,282 บาท |
|
6 เดือน |
CAD$14,448 |
ประมาณ 343,962 บาท |
CAD$21,672 |
ประมาณ 515,890 บาท |
CAD$28,896 |
ประมาณ 687,925 บาท |
|
9 เดือน |
CAD$20,171 |
ประมาณ 479,999 บาท |
CAD$30,256.5 |
ประมาณ 719,905 บาท |
CAD$40,342 |
ประมาณ 960,000 บาท |
|
12 เดือน |
CAD$25,895 |
ประมาณ 616,301 บาท |
CAD$38,842.5 |
ประมาณ 924,452 บาท |
CAD$51,790 |
ประมาณ 1,232,602 บาท |
หากต้องการคำแนะนำอย่างละเอียด เกี่ยวกับกิจกรรมเสริม ที่พัก และการเดินทาง กรุณาสอบถามข้อมูลกับศูนย์ฯ เดอะเบสท์ เพิ่มเติม เรายินดีให้คำปรึกษาฟรี ไม่มีค่าบริการ สอบถามข้อมูลการบริการเพิ่มเติมติดต่อ
โทร: 090-327 3558, 088-269 5099
Email: contact@thebest-edu.com
Line: @thebestedu หรือคลิกเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ![]()
ข้อควรรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวีซ่านักเรียนแคนาดา
SPOUSE และ COMMON-LAW PARTNER แตกต่างกันอย่างไร?
Spouse คือ คู่ครอง คู่แต่งงานหรือคู่สมรส ตามกฎหมายของประเทศแคนาดาให้คำนิยามว่าคือบุคคลสองบุคคล ไม่ว่าจะเป็นเพศตรงข้ามหรือเพศเดียวกันที่ได้ทำการสมรสตามกฎหมายของประเทศใดประเทศหนึ่ง
Common-law Partner คือ บุคคลหนึ่งที่มีความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยากับอีกบุคคลหนึ่งไม่ว่าจะเป็นเพศตรงข้ามหรือเพศเดียวกัน และได้มีการคบหากันมานานกว่า 1 ปี ความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยานั้นปรากฎเมื่อมีข้อตกลงร่วมกันที่สำคัญระหว่างสองบุคคลเกิดขึ้น หลักฐานที่สนับสนุนความสัมพันธ์นี้ได้แก่ หลักฐานการพักอาศัยร่วมกัน หลักฐานการสนับสนุนทางการเงินหรือทางอารมณ์ หลักฐานการมีบุตรร่วมกัน หรือหลักฐานการไปปรากฎตัวในที่สาธารณะในฐานะคู่ครองร่วมกัน
สำหรับคู่ครองแบบ Common-law ที่มีความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยามาอย่างน้อย 1 ปีแต่ไม่สามารถอาศัยอยู่ร่วมกันได้หรือไม่สามารถปรากฎตัวในที่สาธารณะด้วยกันได้จากเหตุผลด้านข้อกำหนดทางกฎหมายในประเทศของตนหรืออาจถูกแยกจากกันด้วยเหตุผลที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น สงครามกลางเมืองหรือความขัดแย้งทางกองทัพหรือทหารสามารถสมัครวีซ่าได้
หากสมาชิกในครอบครัวต้องการสมัครวีซ่าและติดตามนักเรียนต้องยื่นคำร้องขอวีซ่าแยกหรือไม่?
สมาชิกในครอบครัวจะต้องกรอกข้อมูลคำร้องของตนเองให้ครบถ้วน แต่สามารถยื่นคำร้องพร้อมกับผู้สมัครวีซ่านักเรียนผ่านทางออนไลน์หรือ Visa Application Centre (VAC) และชำระเงินพร้อมกันได้ในหนึ่งใบเสร็จรับเงิน โดยมีเงื่อนไขว่าสมาชิกในครอบครัวนั้นจะต้องมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ในการยื่นคำร้องขอ Temporary Residence ของประเทศแคนาดา
หากบุตรของผู้สมัครต้องการเรียนต่อในประเทศแคนาดาจะต้องทำอย่างไร?
บุตรของผู้สมัครที่ต้องการเรียนต่อในประเทศแคนาดาจะต้องยื่นคำร้องขอ Study Permit ของตนเองพร้อมกับผู้สมัคร หรือหากบุตรต้องการมาเรียนที่แคนาดาหลังจากที่ผู้สมัครได้รับวีซ่าและอยู่ในประเทศแคนาดาแล้ว บุตรจะต้องยื่นคำร้องขอ Study Permit ของตนเองก่อนเข้าประเทศแคนาดา
CUSTODIANS คือใคร?
เด็กที่มีอายุ 17 ปีหรือต่ำกว่า 17 ปีและต้องการเรียนต่อในประเทศแคนาดาโดยไม่มีพ่อแม่หรือผู้ปกครองตามกฎหมายติดตาม จะต้องมีผู้ใหญ่ที่ดูแลเด็กนักเรียนนั้นในประเทศแคนาดาด้วย โดยจะเรียกบุคคลที่ดูแลเด็กว่า Custodian พ่อแม่หรือผู้ปกครองตามกฎหมายในประเทศที่เด็กเป็นพลเมืองและ Custodian ของเด็กในประเทศแคนาดาจะต้องรับรองและกรอกฟอร์ม IMM 5646 – Custodianship Declaration พร้อมยื่นฟอร์มตอนสมัครวีซ่าด้วย
Custodian จะต้องพำนักอยู่ที่ประเทศแคนาดาและเป็นพลเมืองแคนาดาหรือผู้มีถิ่นพำนักถาวรในแคนาดา (Permanent Resident) บุคคลที่เป็น Custodian จะต้องมีอายุตั้งแต่ 19 ปีขึ้นไป
การที่นักเรียนที่มีอายุ 17 ปีหรือต่ำกว่าเดินทางกับผู้ปกครองคนเดียวสามารถเดินทางได้ โดยไม่จำเป็นต้องกรอกแบบฟอร์ม Custodianship อย่างไรก็ตามควรมีการเซ็นต์ยินยอมจากผู้ปกครองอีกท่านที่ไม่ได้เดินทางไปด้วย เช่น เดินทางกับคุณแม่ คุณพ่อควรเซ็นต์ยินยอมให้บุตรเดินทางพร้อมกับคุณแม่ด้วย
หากนักเรียนอายุ 17 ปีหรือต่ำกว่าต้องเดินทางคนเดียวจะทำอย่างไร?
- ต้องแจ้งข้อมูลในการติดต่อผู้ดูแล (Custodian) ในประเทศแคนาดา เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล
- ต้องแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับโรงเรียนที่นักเรียนจะเดินทางเข้าไปเรียน
- จดหมายอนุญาตจากพ่อแม่คนใดคนหนึ่งหรือทั้งสองคน หรือจดหมายรับรองการดูแลจาก Custodian
บทความที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนต่อแคนาดา

คลิกเพื่อทำความรู้จักกับเมืองแวนคูเวอร์ จุดหมายปลายทางด้านการศึกษาอันดับ 1 ประเทศแคนาดา
ติดต่อเดอะเบสท์เพื่อสอบถามข้อมูลการเรียนต่อต่างประเทศเพิ่มเติม
เดอะเบสท์ เป็นศูนย์บริการให้คำปรึกษาเรียนต่อต่างประเทศครบวงจร เราเป็นตัวแทนที่ให้บริการแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และ ประเทศอื่นๆ อีก 25 ประเทศทั่วโลก เรายินดีให้ความช่วยเหลือตั้งแต่เริ่มสมัครเรียน จนสำเร็จการศึกษา รวมถึงดูแลนักเรียนระหว่างเรียนจนนักเรียนเรียนจบด้วยทีมผู้เชียวชาญในด้านการเรียนต่อต่างประเทศ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ขั้นตอนเหล่านี้เราดำเนินการให้ฟรี และเราพร้อมที่จะทำตามคุณภาพ และมาตรฐานดังสโลแกนที่ว่า “We are Quality”
บริการของเรามีอะไรบ้าง ?
- ฟรี!! บริการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเรียนต่อต่างประเทศทุกระดับชั้นทั่วโลก ตั้งแต่ โรงเรียนประถม โรงเรียนมัธยม สถาบันวิชาชีพ และสถาบันในระดับอุดมศึกษา รวมถึงหลักสูตรภาษาต่างประเทศ และเลือกสถาบันที่ดีที่สุดให้กับผู้เรียน
- เราให้ความช่วยเหลือตั้งแต่การประสานงานโรงเรียน เลือกโรงเรียนให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียน เตรียมเอกสารสมัครเรียน และดำเนินเรื่องสมัครเรียนให้ฟรี
- บริการเตรียมเอกสารยื่นวีซ่าครบวงจร และบริการยื่นวีซ่ากว่า 25 ประเทศทั่วโลก พร้อมวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าอย่างตรงจุด และแนะนำวิธีการเตรียมตัวในการสัมภาษณ์วีซ่า
- บริการแปลเอกสาร ภาษาไทย – ภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาอังกฤษ – ภาษาไทย รวมถึงภาษาที่ 3 เริ่มต้นเพียงแผ่นละ 200 บาท
- เดอะเบสท์ เป็นตัวแทนรับสมัครสอบ IELTS IDP อย่างเป็นทางการ พร้อมให้คำแนะนำ และนัดวันสอบให้โดยน้องๆ ไม่ต้องเสียเวลาสมัครเอง สมัครสอบได้ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
- บริการซื้อประกันภัยการเดินทางและประกันสุขภาพนักเรียนต่างชาติ จากบริษัทประกันชั้นนำ MSIG, NIB, Allianz, Orbit และอื่นๆ
- บริการจองตั๋วเครื่องบิน ทุกสายการบิน และประสานงานกับสถาบันเกี่ยวกับรถรับ – ส่ง สนามบิน
- บริการจัดหาที่พักทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นโฮมสเตย์ อพาร์ทเม้น หรือหอพักนักศึกษา จัดหาให้ตามความต้องการส่วนบุคคล
“เรายินดีที่จะดูแลนักเรียนทุกคน ตั้งแต่เริ่มต้นจนนักเรียนสำเร็จการศึกษา และทำให้การเรียนต่อของคุณเป็นเรื่องง่าย ” สอบถามข้อมูลการบริการเพิ่มเติมติดต่อ
โทร: 090-327 3558, 088-269 5099
Email: contact@thebest-edu.com
Line: @thebestedu หรือคลิกเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ
