เดอะเบสท์ แนะแนวเรียนต่อต่างประเทศครบวงจร

วางแผนเรียนต่อแคนาดา | วีซ่านักเรียน-พาครอบครัวไปอยู่ด้วยได้ไหม | Spousal Open Work Permit การเงิน ลูกเรียนฟรี (อัปเดต 2025)

Last updated ธันวาคม 18, 2025 ago by Thebestedu

วางแผนเรียนต่อแคนาดา | วีซ่านักเรียน-พาครอบครัวไปอยู่ด้วยได้ไหม | Spousal Open Work Permit การเงิน ลูกเรียนฟรี (อัปเดต 2025)


ทำไมแคนาดาจึงเป็นจุดหมายยอดนิยมอันดับต้นๆ สำหรับการศึกษาต่อ?

แคนาดาไม่เพียงแต่เป็นที่ยอมรับในด้านคุณภาพการศึกษาและมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นประเทศที่มีสภาพแวดล้อมที่หลากหลายทางวัฒนธรรม (Multicultural) และปลอดภัย ซึ่งดึงดูดนักเรียนต่างชาติจากทั่วโลก การตัดสินใจมาเรียนที่แคนาดาจึงไม่ใช่แค่การได้รับวุฒิการศึกษา แต่ยังเป็นการลงทุนในอนาคตที่เปิดกว้างและโอกาสในการได้รับประสบการณ์ระดับนานาชาติอีกด้วย

การมาศึกษาต่อในแคนาดาเป็นการตัดสินใจที่มอบสิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่าแก่ทั้งครอบครัว เพราะว่า…

  • สิทธิในการทำงานระหว่างเรียนของนักเรียนหลัก (Work Rights for Principal Student): ผู้ถือ Study Permit สามารถทำงาน นอกวิทยาเขต (Off-campus) ได้สูงสุด 24 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ (Up to 24 hours per week) ในระหว่างภาคเรียน และทำงาน เต็มเวลา (Full-time) ในช่วงวันหยุดตามกำหนด
  • โอกาสในการทำงานของคู่สมรส (Spousal Work Opportunity): คู่สมรสหรือคู่ครองตามกฎหมาย อาจมีสิทธิ์ ยื่นขอ Spousal Open Work Permit (SOWP) เพื่อทำงานเต็มเวลาให้กับนายจ้างใดก็ได้ในแคนาดา
  • สิทธิในการศึกษาของบุตร (Dependent Child Education): บุตรที่อยู่ในความอุปการะสามารถเข้าศึกษาใน โรงเรียนรัฐบาล (Public School) ระดับประถมและมัธยมในแคนาดาได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย (ในส่วนใหญ่ของประเทศ) เพียงแค่มีสถานะผู้พำนักชั่วคราวที่ถูกต้อง
คู่สมรสมีสิทธิ์ยื่นขอ SOWP เพื่อทำงานเต็มเวลาได้ หากนักเรียนหลักเรียนในหลักสูตรที่กำหนด

สิทธิประโยชน์เหล่านี้ทำให้แคนาดาเป็นทางเลือกที่โดดเด่นสำหรับการไปเรียนต่อ และพาครอบครัวไปอยู่ด้วย The Best Education สรุปข้อมูลสำคัญและคำแนะนำล่าสุดสำหรับการพาครอบครัวไปแคนาดาพร้อมสถานะนักเรียนมาให้คุณแล้ว!

(อ้างอิง: Immigration, Refugees and Citizenship Canada – IRCC)
https://www.canada.ca/en/immigration-refugees-citizenship/services/study-canada/work/help-your-spouse-common-law-partner-work-canada.html


1. ทำความรู้จักกับ Spousal Open Work Permit (SOWP)

ความสำเร็จทางการศึกษาที่แคนาดา โดยมีครอบครัวเป็นกำลังใจสำคัญ

SOWP (Spousal Open Work Permit) คือใบอนุญาตทำงานแบบเปิดที่อนุญาตให้คู่สมรส (Spouse) หรือคู่ครองตามกฎหมาย (Common-law partner) ของนักเรียนต่างชาติในแคนาดา สามารถ ทำงานเต็มเวลาให้กับนายจ้างใดก็ได้ โดยไม่ต้องมี Job Offer อย่างไรก็ตามภายใต้กฎเกณฑ์ใหม่ที่มีผลบังคับใช้ คู่สมรสหรือคู่ครองจะมีสิทธิ์ยื่นขอ Open Work Permit ได้ก็ต่อเมื่อนักเรียนหลักกำลังศึกษาอยู่ใน หลักสูตรระดับสูง (High-Value Programs) ที่กำหนดไว้เท่านั้น

หลักสูตรที่มีสิทธิ์ในการขอ SOWP (Eligible Programs for Spouse)

คู่สมรส/คู่ครองจะได้รับสิทธิ์ Open Work Permit ก็ต่อเมื่อนักเรียนหลักกำลังศึกษาใน หลักสูตรระดับสูง (High-Value Programs) ที่กำหนด ณ สถาบันระดับมหาวิทยาลัย (University) หรือ สถาบันโพลีเทคนิค (Polytechnic Institution)

  • หลักสูตรปริญญาโท (Master’s Degree Program): ที่มีระยะเวลา 16 เดือนขึ้นไป
  • หลักสูตรปริญญาเอก (Doctoral Degree Program)
  • หลักสูตรปริญญาและวิชาชีพเฉพาะทาง (Select Professional Degree Programs): ที่เปิดสอนในระดับมหาวิทยาลัยเท่านั้น ได้แก่:
    • Doctor of Medicine (MD)
    • Doctor of Dental Surgery (DDS, DMD)
    • Bachelor of Law or Juris Doctor (LLB, JD, BCL)
    • Doctor of Optometry (OD)
    • Pharmacy (PharmD, BS, BSc, BPharm)
    • Doctor of Veterinary Medicine (DVM)
    • Bachelor of Science in Nursing (BScN, BSN), Bachelor of Nursing Science (BNSc), หรือ Bachelor of Nursing (BN)
    • Bachelor of Education (BEd)
    • Bachelor of Engineering (BEng, BE, BASc)

ใครไม่มีสิทธิ์ยื่นขอ SOWP?

คู่สมรส/คู่ครองของนักเรียนที่กำลังศึกษาในหลักสูตรต่อไปนี้จะ ไม่มีสิทธิ์ยื่นขอ SOWP เพื่อทำงาน ภายใต้กฎเกณฑ์ใหม่:

  • หลักสูตรปริญญาตรี (Bachelor’s Degree) ทั่วไป
  • หลักสูตรประกาศนียบัตร (Certificate) หรือ อนุปริญญา (Diploma) ทุกประเภท (รวมถึงหลักสูตร College ทั่วไป)
  • หลักสูตรภาษา (ESL/FSL) หรือ หลักสูตรเตรียมความพร้อมอื่นๆ

ไม่มีสิทธิยื่นขอ SOWP แต่ยังคงติดตามได้ ด้วยสถานะผู้มาเยือน (Visitor Status) สำหรับคู่สมรสที่ไม่เข้าเกณฑ์ SOWP

สำคัญ: หากคู่สมรส/คู่ครองไม่เข้าเกณฑ์ SOWP พวกเขา ยังคงสามารถเดินทางเข้าและพำนักในแคนาดาได้ ในฐานะ ผู้มาเยือน (Visitor) และต้องรู้รายละเอียดดังต่อไปนี้:

  • ห้ามทำงานเด็ดขาด: สถานะ Visitor ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงาน (No Work Authorization) ไม่ว่าจะเป็นงานเต็มเวลาหรืองานนอกเวลา หากมีการทำงาน ถือเป็นการละเมิดกฎหมายตรวจคนเข้าเมืองอย่างร้ายแรง
  • เอกสารสถานะ: คู่สมรสต้องยื่นขอ Temporary Resident Visa (TRV) หรือ eTA และเมื่อถึงด่านตรวจคนเข้าเมือง (POE) เจ้าหน้าที่จะออก Visitor Record ซึ่งระบุวันหมดอายุที่ผูกกับ Study Permit ของนักเรียนหลัก
  • ความเข้มงวดทางการเงิน (Heightened Financial Scrutiny): เนื่องจากคู่สมรสไม่สามารถสร้างรายได้ได้เลย เจ้าหน้าที่วีซ่าจะตรวจสอบหลักฐานทางการเงินของนักเรียนหลักอย่างเข้มงวดเป็นพิเศษ (ภาระการแสดงเงินทุนที่เพิ่มขึ้น)
  • โอกาสเปลี่ยนสถานะ (In-Canada Status Change): หากนักเรียนหลักมีการเปลี่ยนแปลงสถานะในอนาคต (เช่น ได้ Study Permit ใหม่สำหรับหลักสูตร Master’s) คู่สมรสที่ถือสถานะ Visitor สามารถยื่นขอเปลี่ยนสถานะจาก Visitor เป็น Work Permit Holder ได้จาก ภายในประเทศแคนาดา แต่ต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์:
    • ข้อจำกัด: การยื่นขอ Work Permit ใหม่จากภายในแคนาดา จะทำได้ก็ต่อเมื่อผู้สมัครยังคงมีสถานะผู้พำนักชั่วคราวที่ถูกต้อง (Visitor Record ที่ไม่หมดอายุ) หรืออยู่ในช่วง Implied Status (สถานะรักษาการที่ยื่นขอต่อสถานะเดิมไปแล้ว)

2. การพาบุตรในอุปการะ (Dependent Children) ติดตามไปอยู่ด้วย และสิทธิการเรียนฟรี

บุตรหลานของคุณมีสิทธิ์เข้าเรียนในโรงเรียนรัฐบาลแคนาดาโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

บุตรที่อยู่ในความอุปการะของคุณสามารถติดตามคุณไปแคนาดาได้ โดยส่วนใหญ่คือผู้ที่มีอายุ ต่ำกว่า 22 ปี และเป็นโสด ที่สำคัญคือ บุตรที่ยังเป็นผู้เยาว์ (Minor Children) (อายุต่ำกว่า 18 ปี) สามารถเข้าเรียนในโรงเรียนรัฐบาล (ระดับประถมและมัธยม) ในแคนาดาได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพียงแค่ต้องมั่นใจว่าบุตรมี สถานะผู้พำนักชั่วคราวที่ถูกต้อง (Visitor Record) ตลอดระยะเวลาที่พำนักในแคนาดา โดยมีรายละเอียดที่ต้องทำความเข้าใจ ดังนี้

“บุตรที่อยู่ในความอุปการะ” คืออะไร (Dependent Child Definition and Types)

คำจำกัดความตามกฎเกณฑ์ปัจจุบัน (Current Rule: Applicable to most new applications):

  • Type A (ประเภททั่วไป): บุตรมีอายุ ต่ำกว่า 22 ปี (under 22 years old) และเป็นโสด (Single: ไม่ได้สมรสและไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบ Common-law partner)
  • Type C (ประเภทอายุเกินเกณฑ์ / Over-age Dependants): บุตรมีอายุ 22 ปีหรือมากกว่า แต่ยังคงมีสิทธิ์หาก:
    • ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากผู้ปกครอง ตั้งแต่ก่อนอายุ 22 ปี และ
    • ไม่สามารถเลี้ยงดูตนเองได้ เนื่องจากมี ภาวะความเจ็บป่วยทางสุขภาพ (medical condition)

สถานะการศึกษาและการพำนักของบุตร (Schooling and Status)

  • บุตรที่ยังเป็นผู้เยาว์ (Minor Children): บุตรของผู้ถือ Study Permit หรือ Work Permit ไม่จำเป็นต้องมี Study Permit เพื่อเข้าเรียนในระดับอนุบาล ประถม หรือมัธยมในแคนาดา
  • สถานะที่จำเป็น: ถึงแม้จะไม่ต้องมี Study Permit แต่บุตรจะต้องมี สถานะผู้พำนักชั่วคราวที่ถูกต้อง (Valid Temporary Resident Status) เช่น Visitor Record ตลอดระยะเวลาที่พำนักและศึกษา
  • เอกสารที่ Port of Entry (POE): หากบุตรเดินทางมาพร้อมกัน เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (CBSA Officer) ณ ด่านตรวจคนเข้าเมืองจะทำการประเมินและออกเอกสารสถานะให้ ซึ่งโดยทั่วไปจะออก Visitor Record ที่มีวันหมดอายุตรงกับ Study Permit ของผู้ปกครอง


3. ผู้ติดตามวีซ่านักเรียน สามารถอยู่ได้นานเท่าไหร่

ระยะเวลาที่สมาชิกในครอบครัวสามารถพำนักในแคนาดาได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายจะผูกอยู่กับ ระยะเวลาของใบอนุญาตเรียน (Study Permit) ของนักเรียนหลักเป็นหลัก

1. นักเรียนหลัก (Principal Student)

สถานะ ระยะเวลาที่อยู่ได้ ข้อมูลเพิ่มเติม
Study Permit เท่ากับระยะเวลาของหลักสูตร (Program Duration) บวกด้วยระยะเวลาผ่อนผัน 90 วัน โดยทั่วไปใบอนุญาตเรียนจะออกให้มีอายุเท่ากับระยะเวลาของหลักสูตรที่ลงทะเบียนไว้ (เช่น 2 ปี, 4 ปี)
Post-Graduation Work Permit (PGWP) สูงสุด 3 ปี เมื่อเรียนจบหลักสูตรที่มีสิทธิ์ นักเรียนหลักสามารถยื่นขอ PGWP ซึ่งอนุญาตให้ทำงานได้เต็มเวลา โดยอายุของ PGWP จะขึ้นอยู่กับความยาวของหลักสูตรที่สำเร็จการศึกษา

2. คู่สมรส/คู่ครอง (Spouse/Common-law Partner)

สถานะ ระยะเวลาที่อยู่ได้ ข้อมูลเพิ่มเติม
Spousal Open Work Permit (SOWP) เท่ากับ Study Permit ของนักเรียนหลัก อายุของ SOWP จะผูกตาม Study Permit ที่เหลืออยู่ของนักเรียนหลัก ดังนั้นถ้า Study Permit เหลือ 1 ปี SOWP ก็จะเหลือ 1 ปีด้วย
สถานะ Visitor (ผู้มาเยือน) สูงสุด 6 เดือนต่อครั้ง หากคู่สมรสไม่เข้าเกณฑ์ SOWP หรือไม่ได้ยื่นขอ Work Permit พวกเขาจะถูกจัดสถานะเป็น Visitor ซึ่งปกติจะอยู่ได้สูงสุด 6 เดือน แต่เจ้าหน้าที่อาจออก Visitor Record ที่มีวันหมดอายุเท่ากับ Study Permit ของนักเรียนหลักให้ ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง (POE)
การต่ออายุ สามารถยื่นขอต่ออายุได้ (Extension) สามารถยื่นต่ออายุ SOWP หรือ Visitor Record จาก ภายในแคนาดา ได้ ตราบใดที่นักเรียนหลักยังคงมี Study Permit ที่มีผลบังคับใช้ และยังคงเข้าเกณฑ์ที่กำหนด

3. บุตรที่อยู่ในความอุปการะ (Dependent Children)

สถานะ ระยะเวลาที่อยู่ได้ ข้อมูลเพิ่มเติม
Visitor Record (สถานะผู้มาเยือน) เท่ากับ Study Permit ของนักเรียนหลัก บุตรที่ยังเป็นผู้เยาว์ (Minor Children) มักจะได้รับ Visitor Record เมื่อเข้าประเทศ ซึ่งจะมีวันหมดอายุตรงกับผู้ปกครอง (นักเรียนหลัก) เพื่อให้สามารถเรียนต่อในระดับประถม/มัธยมได้อย่างต่อเนื่อง
Study Permit (ถ้ามี) เท่ากับ Study Permit ที่ออกให้ หากบุตรยื่นขอ Study Permit แยกต่างหาก (กรณีอายุเกินเกณฑ์ หรือเรียนในหลักสูตร Post-Secondary) ใบอนุญาตจะมีอายุตามที่ระบุไว้

4. การแสดงหลักฐานทางการเงิน (Proof of Financial Support)

เมื่อยื่นขอ Study Permit สำหรับนักเรียนหลักและสมาชิกในครอบครัว ผู้สมัครต้องพิสูจน์ว่ามีเงินทุนเพียงพอที่จะครอบคลุมค่าใช้จ่าย ตลอดระยะเวลาที่ศึกษา โดย ไม่ต้อง พึ่งพาการทำงานในแคนาดา เอกสารที่ใช้ต้องแสดงให้เห็นว่ามีเงินทุนสำหรับค่าใช้จ่ายหลัก 3 ส่วน:

  • ค่าเล่าเรียน (Tuition Fees): สำหรับโปรแกรมทั้งหมด (ต้องแสดงหลักฐานการชำระค่าเล่าเรียนปีแรก)
  • ค่าครองชีพ (Living Expenses): สำหรับตัวนักเรียนเองและสมาชิกในครอบครัวที่ติดตามมา
  • ค่าเดินทาง (Transportation): ค่าเดินทางไปและกลับจากแคนาดาสำหรับทุกคนในครอบครัว

(อ้างอิง: Immigration, Refugees and Citizenship Canada – IRCC)
https://www.canada.ca/en/immigration-refugees-citizenship/services/study-canada/study-permit/get-documents/financial-support.html

หลักฐานการเงินที่ยอมรับได้และข้อพิจารณาของผู้สนับสนุน (Acceptable Proof of Funds and Sponsor Considerations)

IRCC ยอมรับเอกสารเพื่อยืนยันแหล่งที่มาของเงินทุน โดยเน้นที่ความมั่นคงและความต่อเนื่องของแหล่งที่มาของเงินทุน:

ความครอบคลุมของเงินทุน (Duration of Funds):

  • คุณต้องแสดงยอดเงินสดที่สามารถใช้ได้จริง ขั้นต่ำ เท่ากับค่าครองชีพสำหรับ ปีแรก (ตามตารางด้านล่าง)
  • สำหรับหลักสูตรที่ยาวนานกว่า 1 ปี (เช่น ปริญญาตรี 4 ปี) คุณ ต้อง แสดง แผนการเงินที่ชัดเจนและน่าเชื่อถือ (Clear Financial Plan) ว่าจะจัดหาเงินทุนสำหรับค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพใน ปีถัดไปทั้งหมด ได้อย่างไร แม้ว่ายอดเงินสดจริงจะไม่จำเป็นต้องแสดง ณ วันที่ยื่นใบสมัครก็ตาม

หลักฐานทั่วไปที่ยอมรับ:

  • หลักฐานการชำระค่าเล่าเรียนและค่าที่พัก (หากชำระแล้ว)
  • ใบรับรองการลงทุนแบบการันตี ( Guaranteed Investment Certificate – GIC ) จากสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ
  • บัญชีธนาคารแคนาดาในชื่อของคุณ หากมีการโอนเงินล่วงหน้า
  • หลักฐานเงินกู้เพื่อการศึกษาจากธนาคาร
  • Statement ของบัญชีธนาคาร (ทั้งในและต่างประเทศ) ย้อนหลัง 4 เดือน
  • Bank Draft ที่สามารถแลกเป็นเงินดอลลาร์แคนาดาได้
  • หลักฐานการได้รับทุนการศึกษา หรือการเข้าร่วมโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากแคนาดา

คุณสมบัติของผู้สนับสนุนทางการเงิน (Financial Sponsor)

หากเงินทุนมาจากบุคคลอื่น (เช่น พ่อ แม่ หรือผู้ปกครอง) นอกเหนือจากตัวนักเรียนเอง (หลักฐานการเงินในส่วน “a letter from the person or institution giving you money” ) ผู้สนับสนุนควรมีคุณสมบัติดังนี้:

  • ความสัมพันธ์ (Relationship): ควรเป็นสมาชิกในครอบครัวสายตรง (พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย) โดยต้องแนบหลักฐานความสัมพันธ์ (เช่น สูติบัตร)
  • ความน่าเชื่อถือทางอาชีพและการเงิน (Credibility): เจ้าหน้าที่พิจารณาจะประเมินความมั่นคงของผู้สนับสนุน
  • อาชีพ: ควรแสดงหลักฐานอาชีพที่มั่นคงและมีรายได้สม่ำเสมอ เช่น หนังสือรับรองการทำงาน, สลิปเงินเดือนย้อนหลัง
  • ทรัพย์สิน: ควรแสดงเอกสารทรัพย์สินอื่นๆ (เช่น โฉนดที่ดิน, สิทธิในธุรกิจ, การลงทุน) เพื่อยืนยันว่าแหล่งเงินทุนที่ให้กับนักเรียนนั้น จะไม่กระทบต่อสถานะทางการเงิน ของครอบครัวผู้สนับสนุนเอง
  • จดหมายสนับสนุน (Letter of Support): ต้องมีจดหมายจากผู้สนับสนุนที่ระบุความตั้งใจอย่างชัดเจนว่าจะให้เงินสนับสนุนนักเรียนหลักตลอดระยะเวลาที่ศึกษา (Full Duration of Study)

การคำนวณจำนวนเงินขั้นต่ำสำหรับค่าครองชีพต่อปี (Minimum Annual Living Expenses Calculation)

การแสดงหลักฐานทางการเงินเป็นองค์ประกอบสำคัญที่สุดในการยื่นขอ Study Permit โดย IRCC ต้องการให้ผู้สมัครแสดงความสามารถในการชำระค่าใช้จ่ายสำหรับ ตลอดระยะเวลาของหลักสูตร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ค่าใช้จ่ายในปีแรก

การแสดงหลักฐานทางการเงิน: ต้องโชว์เงินเท่าไหร่ถึงจะผ่านวีซ่า?

การเตรียม Statement และหลักฐานการเงินที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งครอบครัวคือกุญแจสำคัญ

การยื่นวีซ่านักเรียนที่พาครอบครัวไปอยู่ด้วยนั้นซับซ้อนกว่าปกติ เพราะ IRCC (สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแคนาดา) ต้องการให้คุณพิสูจน์ว่ามีเงินเพียงพอสำหรับ ทุกคนในครอบครัว ตลอดระยะเวลาที่เรียน โดยไม่ต้องพึ่งพารายได้ในแคนาดาเลย ยอดเงินขั้นต่ำนี้กำหนดขึ้นเพื่อครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตสำหรับนักเรียนหลักและสมาชิกในครอบครัวที่ติดตามมา เป็นเวลา 1 ปี โดยไม่รวมค่าเล่าเรียนและค่าเดินทาง ตัวเลขเหล่านี้มีผลบังคับใช้สำหรับใบสมัครที่ยื่น ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2025 เป็นต้นไป

เงินทุนที่ต้องแสดงทั้งหมด (อย่างน้อย 1 ปี) คำนวณจาก
เงินรวมที่ต้องแสดง = ค่าเทอมปีแรก + ค่าเดินทาง (ไป-กลับทั้งครอบครัว) + ค่าครองชีพขั้นต่ำ (ตามตาราง)

จำนวนสมาชิกในครอบครัว (รวมนักเรียนหลัก) ยอดเงินขั้นต่ำต่อปี (CAN$) ยอดเงินขั้นต่ำต่อปี (THB โดยประมาณ)
1 คน (นักเรียนหลัก) $22,895 549,480 บาท
2 คน (คุณ + คู่สมรส/บุตร 1 คน) $28,502 684,048 บาท
3 คน (คุณ + คู่สมรส + บุตร 1 คน) $35,040 840,960 บาท
4 คน $42,543 1,021,032 บาท
5 คน $48,252 1,158,048 บาท
หมายเหตุ: อัตราแลกเปลี่ยนโดยประมาณที่ใช้คือ 1 CAD ≈ 24 บาท

ตัวอย่างการคำนวณยอดเงินสำหรับ นักเรียน 1 คน + คู่สมรส + บุตร

องค์ประกอบค่าใช้จ่าย (สำหรับ 1 ปี) ยอดเงินสมมติฐาน (CAD) ยอดเงินสมมติฐาน (THB โดยประมาณ) หมายเหตุ
1. ค่าครองชีพขั้นต่ำ (3 คน) $35,040 840,960 บาท ยอดขั้นต่ำตามตาราง IRCC (ไม่รวมค่าเผื่อความเสี่ยง)
2. ค่าเล่าเรียนปีที่ 1 (เฉลี่ย) $18,000 432,000 บาท สมมติหลักสูตร Master’s หรือ Diploma/Certificate
3. ค่าเดินทาง (ไป-กลับ) (3 ที่นั่ง) $3,000 72,000 บาท สมมติค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับจากไทย (3 ที่นั่ง x $1,000 CAD)
ยอดเงินทุนรวมขั้นต่ำที่ต้องแสดง $56,040 1,344,960 บาท ยอดรวม 1 + 2 + 3
ยอดเงินที่แนะนำให้มี (มี Buffer 20%) $67,248 1,613,952 บาท ยอดรวมที่แนะนำสำหรับความมั่นใจในการอนุมัติ

คำแนะนำเพิ่มเติม

ยอดเงินในบัญชี ควรแสดงยอดเงินที่สูงกว่าขั้นต่ำตามตารางอย่างน้อย 10-20% เพื่อเป็นเงินสำรอง (Buffer) และสร้างความมั่นใจให้กับเจ้าหน้าที่วีซ่า (เช่น ถ้าขั้นต่ำคือ $35,040 CAD ควรโชว์ประมาณ $40,000 – $42,000 CAD)
ความมั่นคงของเงิน เงินที่แสดงในบัญชีจะต้องมี ความต่อเนื่อง (Continuity) โดยต้องอยู่ในบัญชีมาเป็นเวลาอย่างน้อย 4 เดือน ห้ามเป็นเงินที่เพิ่งโอนเข้ามาก้อนใหญ่ (เพื่อหลีกเลี่ยงข้อสงสัยเรื่อง “Parking of Funds”)
หลักฐานที่ดีที่สุด การใช้ GIC (Guaranteed Investment Certificate) เป็นหลักฐานที่น่าเชื่อถือและรัฐบาลแคนาดาให้การยอมรับสูงสุด
หลักสูตรระยะยาว สำหรับหลักสูตรที่เกิน 1 ปี ต้องมีแผนการเงินที่ชัดเจน สำหรับปีที่เหลือทั้งหมด โดยใช้เอกสารหลักฐานรายได้ที่มั่นคง (สลิปเงินเดือน, ภาระกิจการงาน) ของผู้สนับสนุนมาประกอบ

พร้อมแล้วหรือยัง? ให้ The Best Education นำทางคุณสู่แคนาดาทั้งครอบครัว!

หลังจากที่คุณได้อ่านรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ SOWP 2025, ภาระทางการเงินที่สูงขึ้น, และการจัดการสถานะของบุตรแล้ว คุณอาจจะรู้สึกว่าการวางแผนไปแคนาดาพร้อมครอบครัวนั้นซับซ้อนและต้องวางแผนให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ

การไปเรียนต่อแคนาดาและสร้างโอกาสที่ดีกว่าให้ครอบครัวใช่หรือไม่? คุณต้องการมั่นใจว่าทุกขั้นตอนการสมัคร ตั้งแต่การเลือกหลักสูตร Master’s ที่เข้าเกณฑ์ SOWP ไปจนถึงการจัดเตรียมเอกสารการเงิน อย่าให้ความซับซ้อนเหล่านี้มาหยุดยั้งความฝันของคุณ! ให้ The Best Education เป็นศูนย์บริการครบวงจรที่ดูแลคุณตั้งแต่ต้นจนจบ

เราคือตัวแทนที่ให้บริการแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศครบวงจร ด้วยประสบการณ์มากกว่า 10 ปี เราพร้อมที่จะทำให้ทุกขั้นตอนเป็นเรื่องง่ายและได้มาตรฐานตามสโลแกน “We are Quality” ที่สำคัญ บริการเหล่านี้เราดำเนินการให้ “ฟรี”

บริการครบวงจรของเรา

บริการด้านการศึกษา (Education) บริการด้านเอกสารและวีซ่า (Visa & Documents) บริการหลังบ้าน (Logistics & Support)
ฟรี! ให้คำปรึกษาและเลือกสถาบันที่ดีที่สุด (ประถม-อุดมศึกษา) ฟรี! เตรียมเอกสารสมัครเรียน และดำเนินการสมัครเรียน ฟรี! เป็นตัวแทนรับสมัครสอบ IELTS IDP อย่างเป็นทางการ
ประสานงานกับโรงเรียนและสถาบันทั้งหมด บริการเตรียมเอกสารยื่นวีซ่ากว่า 25 ประเทศทั่วโลก บริการซื้อประกันภัยการเดินทางและประกันสุขภาพนักเรียน
จัดเตรียมเอกสารสมัครเรียนให้ฟรี วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าอย่างตรงจุด และแนะนำการสัมภาษณ์วีซ่า บริการจองตั๋วเครื่องบินและประสานงานรถรับ-ส่ง สนามบิน
  บริการแปลเอกสาร (ไทย-อังกฤษ/ภาษาที่ 3) เริ่มต้นเพียงแผ่นละ 200 บาท บริการจัดหาที่พักทุกประเภท (โฮมสเตย์, อพาร์ทเม้น, หอพัก)

พร้อมที่จะให้ The Best Education ดูแลคุณแล้วหรือยัง?
ติดต่อเราทันทีเพื่อรับคำปรึกษาฟรี!

วางแผนอนาคตอย่างมั่นใจด้วยบริการแนะแนวครบวงจรจาก The Best Education

FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการพาครอบครัวไปเรียนต่อแคนาดา

1. คู่สมรสสามารถทำงานในแคนาดาได้ทุกคนหรือไม่?

ตอบ: ไม่ทุกคน ภายใต้กฎใหม่ปี 2025 คู่สมรสจะมีสิทธิ์ขอใบอนุญาตทำงาน (SOWP) ได้ก็ต่อเมื่อนักเรียนหลักศึกษาใน หลักสูตรระดับสูง (High-Value Programs) เช่น ปริญญาโท ปริญญาเอก หรือหลักสูตรวิชาชีพเฉพาะทางตามที่กำหนดเท่านั้น หากเรียนปริญญาตรีทั่วไปหรือ Diploma คู่สมรสจะไม่สามารถขอวีซ่าทำงานได้ แต่ยังติดตามไปในฐานะ Visitor ได้

2. ถ้าคู่สมรสถือสถานะ Visitor สามารถทำงานพาร์ทไทม์ได้ไหม?

ตอบ: ไม่ได้เด็ดขาด สถานะ Visitor ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงานใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นงานเต็มเวลาหรืองานนอกเวลา หากตรวจพบถือเป็นการละเมิดกฎหมายตรวจคนเข้าเมืองอย่างร้ายแรง

3. ลูกติดตามไปเรียนที่แคนาดา ต้องเสียค่าเทอมไหม?

ตอบ: บุตรที่อยู่ในความอุปการะและเป็นผู้เยาว์ (อายุต่ำกว่า 18 ปี) สามารถเข้าเรียนในโรงเรียนรัฐบาลระดับประถมและมัธยมได้โดย “ไม่มีค่าใช้จ่าย” ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของแคนาดา เพียงแค่มีสถานะผู้พำนักชั่วคราวที่ถูกต้อง

4. ต้องมีเงินในบัญชีเท่าไหร่ สำหรับการไปเรียนต่อ 3 คน (พ่อ แม่ ลูก)?

ตอบ: ตามเกณฑ์ใหม่ปี 2025 ยอดเงินขั้นต่ำสำหรับค่าครองชีพ 1 ปี สำหรับ 3 คน คือประมาณ $35,040 CAD (ราว 840,960 บาท) ทั้งนี้ยังไม่รวมค่าเล่าเรียนปีแรกและค่าเดินทาง ซึ่งแนะนำให้มีเงินสำรอง (Buffer) เพิ่มอีก 10-20% เพื่อความมั่นใจในการอนุมัติวีซ่า

5. เงินในบัญชีต้องเก็บไว้นานแค่ไหนก่อนยื่นวีซ่า?

ตอบ: เงินที่แสดงในบัญชีจะต้องมี ความต่อเนื่อง (Continuity) โดยต้องอยู่ในบัญชีมาอย่างน้อย 4 เดือน เพื่อหลีกเลี่ยงข้อสงสัยเรื่องการแต่งบัญชี (Parking of Funds)


ติดต่อเดอะเบสท์เพื่อสอบถามข้อมูลการเรียนต่อต่างประเทศเพิ่มเติม

เดอะเบสท์ เป็นศูนย์บริการให้คำปรึกษาเรียนต่อต่างประเทศครบวงจร เราเป็นตัวแทนที่ให้บริการแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และ ประเทศอื่นๆ อีก 25 ประเทศทั่วโลก เรายินดีให้ความช่วยเหลือตั้งแต่เริ่มสมัครเรียน จนสำเร็จการศึกษา รวมถึงดูแลนักเรียนระหว่างเรียนจนนักเรียนเรียนจบด้วยทีมผู้เชียวชาญในด้านการเรียนต่อต่างประเทศ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ขั้นตอนเหล่านี้เราดำเนินการให้ฟรี และเราพร้อมที่จะทำตามคุณภาพ และมาตรฐานดังสโลแกนที่ว่า “We are Quality”

 

บริการของเรามีอะไรบ้าง ?

  • ฟรี!! บริการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเรียนต่อต่างประเทศทุกระดับชั้นทั่วโลก ตั้งแต่ โรงเรียนประถม โรงเรียนมัธยม สถาบันวิชาชีพ และสถาบันในระดับอุดมศึกษา รวมถึงหลักสูตรภาษาต่างประเทศ และเลือกสถาบันที่ดีที่สุดให้กับผู้เรียน
  • เราให้ความช่วยเหลือตั้งแต่การประสานงานโรงเรียน เลือกโรงเรียนให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียน เตรียมเอกสารสมัครเรียน และดำเนินเรื่องสมัครเรียนให้ฟรี
  • บริการเตรียมเอกสารยื่นวีซ่าครบวงจร และบริการยื่นวีซ่ากว่า 25 ประเทศทั่วโลก พร้อมวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าอย่างตรงจุด และแนะนำวิธีการเตรียมตัวในการสัมภาษณ์วีซ่า 
  • บริการแปลเอกสาร ภาษาไทย – ภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาอังกฤษ – ภาษาไทย รวมถึงภาษาที่ 3 เริ่มต้นเพียงแผ่นละ 200 บาท
  • เดอะเบสท์ เป็นตัวแทนรับสมัครสอบ IELTS IDP อย่างเป็นทางการ พร้อมให้คำแนะนำ และนัดวันสอบให้โดยน้องๆ ไม่ต้องเสียเวลาสมัครเอง สมัครสอบได้ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ 
    [คลิกเพื่อสมัครสอบ IELTS]
  • บริการซื้อประกันภัยการเดินทางและประกันสุขภาพนักเรียนต่างชาติ จากบริษัทประกันชั้นนำ MSIG, Allianz, Bupa, NIB, Orbit และอื่นๆ  [คลิกเพื่อซื้อประกัน]
  • บริการจองตั๋วเครื่องบิน ทุกสายการบิน และประสานงานกับสถาบันเกี่ยวกับรถรับ – ส่ง สนามบิน
  • บริการจัดหาที่พักทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นโฮมสเตย์ อพาร์ทเม้น หรือหอพักนักศึกษา จัดหาให้ตามความต้องการส่วนบุคคล

 

“เรายินดีที่จะดูแลนักเรียนทุกคน ตั้งแต่เริ่มต้นจนนักเรียนสำเร็จการศึกษา และทำให้การเรียนต่อของคุณเป็นเรื่องง่าย ” สอบถามข้อมูลการบริการเพิ่มเติมติดต่อ
โทร : 090-327 3558088-269 5099
Email :contact@thebest-edu.com
Line : @thebestedu หรือคลิกเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ

 

Scroll to Top

Discover more from เดอะเบสท์ แนะแนวเรียนต่อต่างประเทศครบวงจร

Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

Continue reading