Last updated ธันวาคม 19, 2025 ago by Thebestedu
เรียนภาษาระยะสั้นต่างประเทศ | เลือกได้ 4 หมวด 4 สไตล์ เลือกยังไงให้ “คุ้มค่า” และ “ปลอดภัย” ที่สุด
ปิดเทอมปี 2026 ที่จะถึงนี้ ไม่ใช่แค่ช่วงเวลาว่างเว้นจากการเรียน แต่เป็น “โอกาสทอง” ที่คุณพ่อคุณแม่จะช่วยเติมเต็มทักษะชีวิต (Life Skills) ให้ลูกรัก การส่งลูกไป เรียนภาษาระยะสั้นต่างประเทศ 2026 กำลังเป็นเทรนด์ที่เติบโตสูงมาก เพราะโลกยุค AI ต้องการเด็กที่ “ปรับตัวเก่ง” “มีความยืดหยุ่น” และ “สื่อสารได้จริงในบริบทที่หลากหลาย”
แต่เมื่อต้องเลือกจริงๆ ผู้ปกครองมักเกิดคำถามมากมาย: แบบไหนคุ้มสุด? ลูกจะกินอยู่ยังไง? ปิดเทอมอินเตอร์ไปไหนดี? วันนี้ The Best Education Centre ขออาสาเจาะลึกข้อมูลทั้ง 4 หมวดหมู่แบบละเอียด (Deep Dive) ในมุมที่ผู้ปกครองอยากรู้ที่สุด เพื่อให้การลงทุนครั้งนี้คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ครับ
ลงทุนกับ “ประสบการณ์” อย่างไรให้คุ้มค่าที่สุดในปี 2026
การเรียนภาษาระยะสั้น (Short-term Study Abroad) ไม่ใช่แค่การไปท่องศัพท์ในห้องสี่เหลี่ยมต่างแดน แต่มันคือ “การจำลองการใช้ชีวิต” เด็กๆ จะได้ฝึกแก้ปัญหาเฉพาะหน้า บริหารจัดการเงิน และเรียนรู้วัฒนธรรมผ่านประสบการณ์จริง ซึ่งสิ่งเหล่านี้โรงเรียนในไทยอาจให้ไม่ได้ครบถ้วน
ในปี 2026 เทรนด์การเลือกคอร์สเรียนเปลี่ยนไปสู่ “Outcome-Based” หรือการเน้นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้น เราจึงแบ่งรูปแบบโครงการออกเป็น 4 ประเภทหลัก ตามวัตถุประสงค์และลักษณะนิสัยของน้องๆ ดังนี้ครับ
หมวดที่ 1: ซัมเมอร์ภาษาอังกฤษ + ท่องเที่ยว (General English & Tour)
ประเทศยอดนิยม: อังกฤษ (UK), อเมริกา (USA), แคนาดา, ออสเตรเลีย
รูปแบบนี้คือ “Classic Choice” ที่ได้รับความนิยมสูงสุดตลอดกาล เหมาะสำหรับน้องๆ มือใหม่ (First Timer) หรือคนที่ต้องการพัฒนาภาษาพร้อมกับเปิดหูเปิดตา สร้างแรงบันดาลใจในการเรียนต่อระยะยาว
รายละเอียด: เรียนเช้า เที่ยวบ่าย ได้ภาษาและโลกกว้าง
- Morning Class (15-20 ชม./สัปดาห์): เรียนภาษาอังกฤษ (ESL) ในโรงเรียนภาษาเอกชนมาตรฐานสูง หรือศูนย์ภาษาในมหาวิทยาลัย การเรียนจะมีการสอบวัดระดับ (Placement Test) ตั้งแต่วันแรกเพื่อแยกห้องตามความสามารถ เน้นการสื่อสาร ฟัง-พูด และ Project-based Learning
- Afternoon Activity: ช่วงบ่ายคือกำไรชีวิต! น้องๆ จะได้ทัศนศึกษาตามสถานที่สำคัญ เช่น ลอนดอนอาย, พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์, สวนสนุกดิสนีย์ หรือกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์กีฬาสี เพื่อละลายพฤติกรรม
- Weekend Trip: เที่ยวเต็มวัน (Full Day Excursion) ไปเมืองข้างเคียง หรือสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลก เช่น Stonehenge, Oxford, Bath หรือ Universal Studios
💡 Insight พ่อแม่ต้องรู้: เรื่องปากท้องและการดูแล
- ที่พัก (Accommodation): ส่วนใหญ่เป็น Homestay (ผ่านการคัดกรองประวัติอาชญากรรม/DBS Check แล้ว) ข้อดีคือลูกได้ฝึกภาษาจริงจัง แต่ต้อง “เคารพกฎบ้านเขา” เช่น เวลาอาบน้ำ การปิดไฟ หรือบางโครงการเป็น Boarding School (หอพัก) ซึ่งจะอยู่รวมกับเพื่อนๆ มีความอิสระมากกว่า
- อาหาร (Food Challenge): จุดปราบเซียนเด็กไทย!
- มื้อเช้า: ทานง่ายๆ (Cereal/Toast/Milk)
- มื้อเที่ยง: ส่วนใหญ่เป็น Packed Lunch (แซนด์วิชเย็น/ผลไม้/น้ำ/Crisps) น้องๆ ต้องปรับตัวกับการทานของเย็น
- มื้อเย็น: ทานร้อนกับโฮสต์ (สเต็ก/มันฝรั่ง/พาสต้า/สลัด)
- คำแนะนำ: เตรียมมาม่า/น้ำพริก/ขนมขบเคี้ยวติดไปบ้าง ช่วยแก้เลี่ยนได้ดีมากครับ
- การดูแลความปลอดภัย: มี Group Leader (พี่เลี้ยงคนไทย) บินประกบตั้งแต่สุวรรณภูมิ และดูแลใน Line กลุ่มผู้ปกครอง รายงานสถานการณ์ทุกวันด้วยภาพและวิดีโอ เพื่อความอุ่นใจสูงสุด
หมวดที่ 2: ซัมเมอร์ High School (School Immersion)
ประเทศยอดนิยม: นิวซีแลนด์ (ดังที่สุด), ออสเตรเลีย, อังกฤษ (บางโรงเรียน)
หากลูกของคุณฝันอยากเป็น “นักเรียนแลกเปลี่ยน” แต่ยังไม่กล้าไปเป็นปีๆ หรือพ่อแม่ยังไม่แน่ใจว่าจะอยู่ได้ไหม นี่คือ “The Best Trial” (การทดลองเรียน) ที่ดีที่สุด เพื่อดูความพร้อมก่อนตัดสินใจส่งไปเรียนต่อระยะยาว
รายละเอียด: ใช้ชีวิตเป็น “นักเรียนนอก” เต็มตัว
- Real School Life: น้องๆ จะไม่ได้เรียนแค่ภาษาอังกฤษ แต่จะได้เข้าไป “Join Class” เรียนวิชาการ เช่น คณิตศาสตร์, วิทยาศาสตร์, พละ, ศิลปะ, ดนตรี, Food Tech ร่วมกับนักเรียนเจ้าถิ่นในห้องเรียนจริง
- Uniform Experience: หลายโครงการให้น้องๆ ได้ตัดและใส่ชุดนักเรียนของโรงเรียนนั้นๆ จริงๆ ทำให้รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งและภาคภูมิใจ
- Buddy System: กุญแจสำคัญของความสำเร็จ! โรงเรียนจะจัดหา “Buddy” (นักเรียนเจ้าถิ่นที่คัดเลือกมาแล้ว) มาคอยประกบ ดูแล พาไปกินข้าว พาเดินเปลี่ยนคาบเรียน ช่วยให้ลูกไม่เหงาและได้เพื่อนต่างชาติเร็วขึ้น
💡 Insight พ่อแม่ต้องรู้: การปรับตัวและช่วงเวลา
- ภาษาต้องพอได้: น้องควรมีพื้นฐานการฟัง-พูดในระดับหนึ่ง (Basic-Intermediate) เพราะต้องเรียนวิชาการเป็นภาษาอังกฤษ หากไม่ได้เลยอาจจะรู้สึกกดดัน
- สังคม (Social Mix): ลูกจะได้เพื่อนฝรั่งจริงๆ (Kiwi/Aussie) ไม่ใช่แค่เพื่อนต่างชาติที่มาเรียนภาษาเหมือนหมวดแรก เป็นโอกาสดีในการแลกเปลี่ยน IG/Snapchat ไว้คุยต่อ
- ช่วงเวลา (Timing): ต้องเช็ควันเปิดเทอมของประเทศปลายทางให้ดี โดยเฉพาะนิวซีแลนด์/ออสเตรเลีย เทอมมักตรงกับปิดเทอมใหญ่มีนาคม-เมษายนของไทยพอดี ทำให้เป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุด
หมวดที่ 3: ซัมเมอร์โซนเอเชีย (Asia Pacific: Cebu / Singapore / Malaysia)
ประเทศยอดนิยม: ฟิลิปปินส์ (เมืองเซบู), สิงคโปร์, มาเลเซีย (กัวลาลัมเปอร์/ปีนัง)
ทางเลือกของความ “คุ้มค่า”, “ใกล้บ้าน” และ “วิชาการเข้มข้น” เหมาะสำหรับผู้ปกครองที่ห่วงเรื่องระยะทาง หรือน้องๆ ที่ต้องการผลลัพธ์ทางภาษาแบบก้าวกระโดดในระยะสั้น
รายละเอียด: ใกล้บ้าน ปลอดภัย เรียนหนักเห็นผลไว
- ฟิลิปปินส์ (Cebu – The Sparta Choice): เรียนหนักและเข้มข้นที่สุด! ด้วยระบบ Man-to-Man (เรียนตัวต่อตัว) วันละ 4-8 คาบ ครูสามารถแก้จุดอ่อนรายคนได้ทันที (เช่น การออกเสียง, แกรมม่า) พัฒนาไวกว่าเรียนกลุ่ม 3-4 เท่า แถมวันหยุดได้เที่ยวทะเลสวยระดับโลก (Island Hopping)
- สิงคโปร์ (Future Skills Hub): เน้นทักษะแห่งอนาคต เช่น วิทยาศาสตร์, เทคโนโลยี, Coding, STEM ผสมผสานกับการใช้ภาษาอังกฤษในเมืองที่ทันสมัยและปลอดภัยที่สุดในโลก ได้ทัศนศึกษาที่ Universal Studios Singapore และ Science Centre
- มาเลเซีย (Hidden Gem): “จ่ายถูกกว่าแต่ได้บรรยากาศอินเตอร์” มาเลเซียขึ้นชื่อเรื่อง โรงเรียนนานาชาติ (British Curriculum) ที่มีคุณภาพสูงและ Campus กว้างขวาง ในราคาที่จับต้องได้ สังคมมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม (Multicultural) ทำให้น้องๆ ได้ฝึกใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตจริง ทั้งกับเพื่อนจีน แขก และฝรั่ง
💡 Insight พ่อแม่ต้องรู้: อาหารและความปลอดภัย
- อาหารการกิน: “ถูกปากเด็กไทยที่สุด”
- ฟิลิปปินส์: โรงเรียนมักจัดบุฟเฟต์นานาชาติ 3 มื้อ ครบ 5 หมู่ (สไตล์เกาหลี/ญี่ปุ่น)
- สิงคโปร์/มาเลเซีย: สวรรค์ของนักกิน! มีอาหารหลากหลายทั้งไก่ทอด ข้าวมันไก่ เมนูเส้น และอาหาร Halal สำหรับน้องมุสลิมก็หาทานง่ายมาก
- ที่พัก (Campus Life):
- Cebu: สไตล์ Resort Campus มีสระว่ายน้ำ ยิม ในตัวตึก
- Malaysia: มักพักในหอพักนักเรียน (Boarding) ของโรงเรียนนานาชาติ ซึ่งมีความปลอดภัยและ Facilities ครบครัน
- ความปลอดภัยสูงสุด: สถาบันในเอเชียมักมีระบบรักษาความปลอดภัยเข้มงวด รปภ. 24 ชม. และการออกไปข้างนอกต้องมีพี่เลี้ยงหรือครูไปด้วยเสมอ
หมวดที่ 4: ซัมเมอร์สำหรับ “เด็กอินเตอร์” (มิ.ย. – ส.ค.)
ประเทศยอดนิยม: UK, USA, Canada, Europe (Switzerland)
กลุ่มเป้าหมายพิเศษสำหรับน้องๆ โรงเรียนนานาชาติ (International School) ที่ปิดเทอมไม่ตรงกับเด็กไทย (ปิดช่วง มิ.ย.-ส.ค.) และมีภาษาอังกฤษที่แข็งแรงอยู่แล้ว เป้าหมายคือการ “เตรียม Profile เข้ามหาวิทยาลัย”
รายละเอียด: Global Summer, Academic Prep, Pre-University
- Global Summer Camp: ช่วงเวลานี้ตรงกับปิดเทอมฤดูร้อนของเด็กยุโรปและอเมริกา ทำให้น้องๆ ได้เจอเพื่อนจากทั่วโลก (International Mix) อย่างแท้จริง ไม่ใช่เจอแต่เด็กไทย เป็นการสร้าง Connection ระดับนานาชาติ
- Specialty / Academic Camp: หลักสูตรจะ Advance กว่าปกติเพื่อค้นหาตัวตน เช่น
- Pre-University: เข้าค่ายใน Oxford/Cambridge/Ivy League ลองใช้ชีวิตนักศึกษาและเรียนวิชาพื้นฐาน
- Skill-Based: ค่ายฟุตบอล, ค่ายผู้นำ (Leadership), ค่ายแพทย์ (Medicine Prep), ค่ายศิลปะ/สถาปัตย์ (Portfolio Prep)
💡 Insight พ่อแม่ต้องรู้: การแข่งขันและราคา
- การเตรียมตัว: คอร์สเหล่านี้มักต้องสมัครล่วงหน้านาน (เริ่มสมัครตั้งแต่ ม.ค.-ก.พ. 2026) เพราะที่นั่งเต็มเร็วมากเนื่องจากต้องแย่งกับเด็กเก่งๆ จากทั่วโลก
- ราคา (Premium Investment): อาจสูงกว่าซัมเมอร์ทั่วไป 20-40% เพราะเป็นหลักสูตรเฉพาะทาง ใช้อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ และใช้ Facility ระดับมหาวิทยาลัย แต่คุ้มค่ามากสำหรับการทำ Portfolio ยื่นเข้ามหาลัยชั้นนำ (Top U)
เปรียบเทียบงบประมาณ & สิ่งที่ต้องเตรียมตัว (Estimates for 2026)
| หมวดหมู่ | งบประมาณโดยประมาณ (2-4 สัปดาห์) |
ค่าใช้จ่ายแฝงที่ต้องระวัง | เหมาะกับใคร? |
|---|---|---|---|
| 1. ซัมเมอร์ทั่วไป (UK/USA/AUS) |
150,000 – 250,000++ บาท | ค่าช้อปปิ้ง, ค่าทริปพิเศษ (Optional Trip), ค่าซิมการ์ด | เด็กไทยทั่วไป / เน้นสนุก+เรียน / เปิดโลกกว้าง |
| 2. High School Immersion (NZ/AUS) |
160,000 – 200,000++ บาท | ค่าชุดนักเรียน (บางที่), ค่าขนมมื้อเที่ยงที่โรงเรียน | เด็กอยากลองเรียนต่อ / อยากมีเพื่อนฝรั่งเจ้าถิ่น / ชอบธรรมชาติ |
| 3. โซนเอเชีย (Cebu/SG/Malaysia) |
45,000 – 90,000 บาท | แทบไม่มี (ส่วนใหญ่รวมค่าซักรีด/อาหารครบแล้ว) | เด็กเล็ก / เน้นผลลัพธ์ภาษา / งบจำกัด / พ่อแม่ห่วงเรื่องไกล |
| 4. เด็กอินเตอร์ (Academic/Pre-U) |
180,000 – 300,000++ บาท | ค่าอุปกรณ์เฉพาะทาง, ค่าเดินทางส่วนตัวหากไม่ไปกับกรุ๊ป | เด็กอินเตอร์ / เตรียมเข้า U / ภาษาเก่งแล้ว / หา Passion |
บทสรุป: เลือกแบบไหนให้ “โดนใจ” ลูกที่สุด?
การเลือกรูปแบบ เรียนภาษาระยะสั้นต่างประเทศ 2026 ไม่มีคำว่า “ดีที่สุด” มีแต่คำว่า “เหมาะกับลูกเราที่สุด” ครับ
- ถ้าลูกเป็นเด็กกิจกรรม ชอบเที่ยว เข้ากับคนง่าย ➝ ไป หมวด 1 (UK/USA)
- ถ้าลูกมีความคิดอยากไปเรียนต่อนอก อยากรู้ว่าการเรียนเมืองนอกเป็นไง ➝ ไป หมวด 2 (High School)
- ถ้าลูกพื้นฐานอ่อน อยากเร่งรัดภาษา หรือพ่อแม่ห่วงเรื่องกินอยู่/ความปลอดภัย ➝ ไป หมวด 3 (Asia: Cebu/SG/Malaysia)
- ถ้าลูกเรียนอินเตอร์ อยากทำ Profile เข้ามหาลัย หรือค้นหาคณะที่ใช่ ➝ ไป หมวด 4 (Academic)
หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการเห็นตารางกิจกรรม (Itinerary) ของจริง หรือราคาโปรโมชั่น Early Bird ปี 2026 สามารถติดต่อพี่ๆ ทีมงานมืออาชีพที่ The Best Education Centre ได้เลยครับ เราพร้อมช่วยสแกนหาคอร์สที่ “ตรงใจ” และ “ปลอดภัย” ที่สุดให้ลูกหลานของคุณครับ
FAQ: คำถามที่พบบ่อยจากผู้ปกครอง
Q: ลูก 7-10 ขวบ ไปซัมเมอร์โซนเอเชีย (สิงคโปร์/มาเลเซีย) คนเดียวได้ไหม?
A: ได้ครับ ทั้งสิงคโปร์และมาเลเซียเป็นประเทศที่ปลอดภัยและเหมาะกับการเริ่มต้นที่สุด แต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่เป็นห่วง แนะนำเลือกโปรแกรมที่มี ครูพี่เลี้ยงคนไทย (Group Leader) บินประกบตลอดทริป หรือเลือกแบบ Family Camp ที่ผู้ปกครองสามารถติดตามไปพักด้วยได้ครับ
Q: การเรียนแบบ “Buddy” ในนิวซีแลนด์ น้องจะเข้าใจที่เพื่อนพูดไหม?
A: แรกๆ อาจจะงงบ้างเป็นเรื่องปกติครับ แต่เด็กจะปรับตัวไวมาก Buddy จะถูกคัดเลือกมาให้เป็นเด็กจิตใจดีและพร้อมช่วยเหลือ ภาษากายและรอยยิ้มช่วยได้เยอะ และโรงเรียนมักมีครูแผนก ESOL คอยช่วยเหลือเด็กต่างชาติโดยเฉพาะครับ
Q: ทำไมซัมเมอร์เด็กอินเตอร์ (มิ.ย.-ส.ค.) ถึงราคาค่อนข้างสูง?
A: 1. เป็นช่วง Peak Season ของการท่องเที่ยวโลก (ตั๋วเครื่องบิน/ที่พักแพง)
2. เป็นช่วงซัมเมอร์ของเด็กฝรั่ง ทำให้ความต้องการเรียนสูง
3. หลักสูตรมักมีความเข้มข้นทางวิชาการ หรือใช้สถานที่ระดับมหาวิทยาลัยระดับโลก ซึ่งมีต้นทุนสูงกว่าคอร์สภาษาทั่วไปครับ
Q: อาหารที่โฮสต์แฟมิลี่ (ยุโรป) จัดให้ กินไม่อิ่มขอเพิ่มได้ไหม?
A: ได้แน่นอนครับ! แต่เด็กไทยส่วนใหญ่มัก “ขี้เกรงใจ” หรือ “ไม่กล้าพูด” ผู้ปกครองควรสอนลูกว่าให้กล้าพูดสื่อสารอย่างสุภาพ เช่น “Can I have some more, please?” หรือบอกโฮสต์ตรงๆ ว่าไม่ทานเนื้อวัว/แพ้ถั่ว โฮสต์ยินดีดูแลเต็มที่ครับ
Q: ควรสมัครช่วงไหนถึงทันปี 2026?
A: แนะนำให้เริ่มดูข้อมูลตั้งแต่ ปลายปี 2025 (ต.ค.-ธ.ค.) และยื่นใบสมัครภายใน ม.ค.-ก.พ. 2026 ครับ เพื่อให้ทันการขอวีซ่า (โดยเฉพาะ UK/USA/AUS ที่คิววีซ่าอาจยาว) และได้รับโปรโมชั่น Early Bird ราคาดีที่สุดครับ
-
ติดต่อเดอะเบสท์เพื่อสอบถามข้อมูลการเรียนต่อต่างประเทศเพิ่มเติม
เดอะเบสท์ เป็นศูนย์บริการให้คำปรึกษาเรียนต่อต่างประเทศครบวงจร เราเป็นตัวแทนที่ให้บริการแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และ ประเทศอื่นๆ อีก 25 ประเทศทั่วโลก เรายินดีให้ความช่วยเหลือตั้งแต่เริ่มสมัครเรียน จนสำเร็จการศึกษา รวมถึงดูแลนักเรียนระหว่างเรียนจนนักเรียนเรียนจบด้วยทีมผู้เชียวชาญในด้านการเรียนต่อต่างประเทศ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ขั้นตอนเหล่านี้เราดำเนินการให้ฟรี และเราพร้อมที่จะทำตามคุณภาพ และมาตรฐานดังสโลแกนที่ว่า “We are Quality”
บริการของเรามีอะไรบ้าง ?
- ฟรี!! บริการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเรียนต่อต่างประเทศทุกระดับชั้นทั่วโลก ตั้งแต่ โรงเรียนประถม โรงเรียนมัธยม สถาบันวิชาชีพ และสถาบันในระดับอุดมศึกษา รวมถึงหลักสูตรภาษาต่างประเทศ และเลือกสถาบันที่ดีที่สุดให้กับผู้เรียน
- เราให้ความช่วยเหลือตั้งแต่การประสานงานโรงเรียน เลือกโรงเรียนให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียน เตรียมเอกสารสมัครเรียน และดำเนินเรื่องสมัครเรียนให้ฟรี
- บริการเตรียมเอกสารยื่นวีซ่าครบวงจร และบริการยื่นวีซ่ากว่า 25 ประเทศทั่วโลก พร้อมวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าอย่างตรงจุด และแนะนำวิธีการเตรียมตัวในการสัมภาษณ์วีซ่า
- บริการแปลเอกสาร ภาษาไทย – ภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาอังกฤษ – ภาษาไทย รวมถึงภาษาที่ 3 เริ่มต้นเพียงแผ่นละ 200 บาท
- เดอะเบสท์ เป็นตัวแทนรับสมัครสอบ IELTS IDP อย่างเป็นทางการ พร้อมให้คำแนะนำ และนัดวันสอบให้โดยน้องๆ ไม่ต้องเสียเวลาสมัครเอง สมัครสอบได้ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
[คลิกเพื่อสมัครสอบ IELTS] - บริการซื้อประกันภัยการเดินทางและประกันสุขภาพนักเรียนต่างชาติ จากบริษัทประกันชั้นนำ MSIG, Allianz, Bupa, NIB, Orbit และอื่นๆ [คลิกเพื่อซื้อประกัน]
- บริการจองตั๋วเครื่องบิน ทุกสายการบิน และประสานงานกับสถาบันเกี่ยวกับรถรับ – ส่ง สนามบิน
- บริการจัดหาที่พักทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นโฮมสเตย์ อพาร์ทเม้น หรือหอพักนักศึกษา จัดหาให้ตามความต้องการส่วนบุคคล
“เรายินดีที่จะดูแลนักเรียนทุกคน ตั้งแต่เริ่มต้นจนนักเรียนสำเร็จการศึกษา และทำให้การเรียนต่อของคุณเป็นเรื่องง่าย ” สอบถามข้อมูลการบริการเพิ่มเติมติดต่อ
โทร : 090-327 3558, 088-269 5099
Email :contact@thebest-edu.com
Line : @thebestedu หรือคลิกเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ