Last updated เมษายน 30, 2025 ago by Thebestedu
เนเธอร์แลนด์ ประตูสู่การศึกษาระดับโลกและโอกาสสำหรับนักเรียนไทย
สำหรับน้องๆ นักเรียนไทยที่กำลังมองหาประสบการณ์การศึกษาในต่างประเทศ เนเธอร์แลนด์เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ด้วยความโดดเด่นด้านวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ระบบการศึกษาคุณภาพระดับโลก และคุณภาพชีวิตที่ยอดเยี่ยม ถึงแม้จะเป็นประเทศขนาดเล็กในยุโรปตะวันตก มีพื้นที่เพียง 41,000 ตารางกิโลเมตร แต่ก็เป็นบ้านของประชากรที่น่ารักและพร้อมต้อนรับกว่า 18 ล้านคน มาดูกันว่าทำไมต้องเลือกเรียนต่ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์
ปริญญาที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล (Internationally Recognized Degrees)
มั่นใจได้เลยว่า ปริญญาจากมหาวิทยาลัยดัตช์ได้รับการยอมรับและยกย่องอย่างกว้างขวางทั่วโลกการปรับปรุงมาตรฐานการศึกษาระดับอุดมศึกษาของดัตช์ให้เป็นสากล โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้กระบวนการ Bologna Process ทำให้ปริญญาตรี (Bachelor’s Degrees) และปริญญาโท (Master’s Degrees) ของดัตช์สามารถเทียบโอนและได้รับการยอมรับอย่างง่ายดายทั่วยุโรปและทั่วโลก ซึ่งเปิดโอกาสให้น้องๆ ที่จบการศึกษาจากเนเธอร์แลนด์สามารถศึกษาต่อในระดับสูงขึ้น หรือประกอบอาชีพในระดับนานาชาติได้อย่างราบรื่น ทำให้คุณวุฒิจากเนเธอร์แลนด์เป็นทรัพย์สินที่มีค่าในตลาดงานระดับโลก
มุ่งมั่นสู่หลักสูตรที่สอนเป็นภาษาอังกฤษ (Commitment to English-Taught Programs)
สิ่งที่โดดเด่นอีกอย่างของมหาวิทยาลัยดัตช์คือการเปิดสอนหลักสูตรนานาชาติเป็นภาษาอังกฤษ (English-Taught Programs) จำนวนมาก สถาบันส่วนใหญ่มีหลักสูตรระดับปริญญาตรีและปริญญาโทที่สอนเป็นภาษาอังกฤษมากกว่า 40 หลักสูตร และบางแห่ง เช่น Leiden University มีหลักสูตรที่สอนเป็นภาษาอังกฤษมากกว่า 100 หลักสูตรเลยทีเดียว! ความมุ่งมั่นในการเปิดโอกาสทางการศึกษาที่เท่าเทียมนี้เอง ทำให้เนเธอร์แลนด์กลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ไม่ใช่ประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักที่น่าดึงดูดที่สุดสำหรับนักศึกษาต่างชาติ สร้างสภาพแวดล้อมทางวิชาการที่หลากหลายและครอบคลุม
ความเป็นเลิศด้านการวิจัยและนวัตกรรม (Research Excellence and Innovation)
มหาวิทยาลัยดัตช์ได้รับการยอมรับในระดับโลกในด้านผลงานวิจัย (Research Output), นวัตกรรม (Innovation), และความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรม (Industry Collaboration) วิธีการจัดอันดับของ THE ให้ความสำคัญอย่างมากกับคุณภาพ สภาพแวดล้อม และผลกระทบของการวิจัย สถาบันดัตช์มีความโดดเด่นในการได้รับทุนวิจัย การผลิตสิ่งพิมพ์ที่มีอิทธิพลสูง (High-Impact Publications), และการสร้างความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรม ซึ่งทำให้น้องๆ นักศึกษาได้รับประโยชน์จากความรู้ที่ทันสมัยและการประยุกต์ใช้ในโลกแห่งความเป็นจริง
สังคมนานาชาติที่เปิดกว้างและเป็นมิตร:
เนเธอร์แลนด์ก้าวเข้าสู่สังคมที่เปิดรับโลกมานานนับศตวรรษ เมืองหลักๆ ของเนเธอร์แลนด์ เช่น อัมสเตอร์ดัม รอตเตอร์ดัม และโกรนิงเงิน เป็นศูนย์กลางการค้าระดับโลกมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ทำให้เกิดการผสมผสานของผู้คนจากหลากหลายเชื้อชาติและวัฒนธรรม
ลักษณะนานาชาติที่หยั่งรากลึกนี้เอง ทำให้ชาวดัตช์เป็นที่รู้จักในด้านความอดทนและการเปิดใจให้กับวัฒนธรรมและความเชื่อที่แตกต่าง น้องๆ สามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระและตรงไปตรงมา ชาวดัตช์อาจจะมีความตรงไปตรงมาในการสื่อสาร ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาปรับตัวบ้าง แต่ก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้ใครขุ่นเคือง และน้องๆ จะได้รับการตอบรับด้วยความเข้าใจ
อีกหนึ่งรากฐานสำคัญของสังคมดัตช์คือจิตวิญญาณของการทำงานร่วมกันเพื่อส่วนรวม หรือที่เรียกว่า “poldermodel” ซึ่งหมายถึงการให้ความสำคัญกับทุกความคิดเห็นในการตัดสินใจเรื่องสำคัญ และจะมีการเจรจาต่อรองจนกว่าทุกคนจะพอใจกับข้อตกลงนั้น
ความหลากหลายและความปลอดภัยที่วางใจได้:
เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย ในเมืองใหญ่ๆ น้องๆ จะได้พบกับผู้คนจากทุกสาขาอาชีพ ศาสนา ความเชื่อทางการเมือง และความหลากหลายทางเพศ ประเทศนี้เป็นผู้นำในด้านค่านิยมที่ก้าวหน้า ส่งเสริมความเท่าเทียม และเคารพสิทธิของทุกคนในการเป็นตัวของตัวเองและเลือกที่จะรักใครก็ได้
ถึงแม้ประชากรส่วนใหญ่จะนับถือศาสนาคริสต์ แต่ก็มีชุมชนมุสลิมและชาวยิวที่มีขนาดใหญ่เช่นกัน น้องๆ จะมีอิสระในการประกอบศาสนกิจตามความเชื่อของตน ไม่ว่าจะเป็นโบสถ์ มัสยิด โบสถ์ยิว วัดฮินดู พุทธ หรือซิกข์
นอกจากนี้ เนเธอร์แลนด์ยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลก จากดัชนีสันติภาพโลก ระดับความรุนแรงและอาชญากรรมตามท้องถนนค่อนข้างต่ำ แน่นอนว่าการระมัดระวังทรัพย์สินส่วนตัว เช่น การเก็บโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงด้านหลัง และการล็อครถจักรยานอย่างสม่ำเสมอ ก็เป็นสิ่งที่ควรทำ และหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน น้องๆ สามารถมั่นใจในการขอความช่วยเหลือจากตำรวจได้ พวกเขาพร้อมให้ความช่วยเหลือด้วยความเป็นมิตรและเปิดใจ
ศูนย์กลางการเดินทางสู่ยุโรป
ด้วยที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ เนเธอร์แลนด์จึงเป็นฐานที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสำรวจทวีปยุโรป ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเยอรมนีและเบลเยียมสามารถเดินทางไปได้อย่างง่ายดาย และประเทศนี้ยังมีการเชื่อมต่อที่ดีเยี่ยมกับเมืองหลวงสำคัญๆ ของยุโรป ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางด้วยรถบัสหรือรถไฟไปยังปารีส ลอนดอน หรือโคเปนเฮเกน หรือการขึ้นเครื่องบินไปยังโรมหรือบาร์เซโลนา ก็สะดวกสบายและมีค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงมาก
ทำความรู้จักชื่อประเทศ
ชื่อทางการของประเทศคือ ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ซึ่งมักจะเรียกสั้นๆ ว่า เนเธอร์แลนด์ ชื่อนี้มีความหมายถึงลักษณะภูมิประเทศที่ราบลุ่ม โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล
น้องๆ อาจเคยได้ยินคำว่า “ฮอลแลนด์” ซึ่งในทางเทคนิคแล้วหมายถึงเพียงสองจังหวัดชายฝั่งทางตะวันตก คือ นอร์ทฮอลแลนด์และเซาท์ฮอลแลนด์ ในศตวรรษที่ 17 ภูมิภาคนี้เป็นพื้นที่ที่มีอำนาจมากที่สุดของสาธารณรัฐดัตช์
ที่น่าสนใจคือ ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์มีขนาดใหญ่กว่าที่น้องๆ คิด เพราะยังรวมถึงสามเทศบาลในทะเลแคริบเบียน ได้แก่ อารูบา กูราเซา และซินต์มาร์เทน
ทำความรู้จักระบบการศึกษาดัตช์ คุณภาพระดับโลก โอกาสกว้างไกล
เนเธอร์แลนด์ได้รับการยอมรับในระดับสากลอย่างสูงในด้านคุณภาพการศึกษา วิธีการสอนที่ทันสมัย และความเป็นนานาชาติ วันนี้พี่/น้องจะพาน้องๆ ไปเจาะลึกถึงรายละเอียดต่างๆ ของระบบการศึกษาดัตช์
สถาบันอุดมศึกษาในเนเธอร์แลนด์
- มหาวิทยาลัยวิจัย (Universiteiten) สถาบันเหล่านี้เน้นการวิจัยเชิงวิชาการและเปิดสอนหลักสูตรที่เน้นทฤษฎีในหลากหลายสาขาวิชา ไม่ว่าจะเป็นมนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ วิศวกรรมศาสตร์ และแพทยศาสตร์ โดยทั่วไปจะเปิดสอนในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก มหาวิทยาลัยวิจัยจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะการวิจัยด้วยตนเองและการคิดเชิงวิพากษ์ ตัวอย่างมหาวิทยาลัยวิจัยที่มีชื่อเสียง ได้แก่ University of Amsterdam, Leiden University, Delft University of Technology และ Wageningen University & Research
- มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์ประยุกต์ (Hogescholen) สถาบันเหล่านี้เน้นการสอนที่มุ่งเน้นการประยุกต์ใช้ในทางปฏิบัติและการเตรียมความพร้อมสำหรับอาชีพเฉพาะทาง มักจะมีการทำงานร่วมกับภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจอย่างใกล้ชิด โดยมีการบูรณาการการฝึกงานและโครงการภาคปฏิบัติเข้าในหลักสูตรเป็นจำนวนมาก มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์ประยุกต์ส่วนใหญ่เปิดสอนในระดับปริญญาตรีและปริญญาโท ตัวอย่างมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์ประยุกต์ที่น่าสนใจ ได้แก่ Amsterdam University of Applied Sciences, The Hague University of Applied Sciences และ Fontys University of Applied Sciences
- สถาบันการศึกษานานาชาติ (Institutes for International Education) สถาบันเฉพาะทางเหล่านี้มักจะเปิดสอนหลักสูตรระดับสูงกว่าปริญญาตรี (ปริญญาโทและปริญญาเอก) ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับนักศึกษาต่างชาติ โดยมุ่งเน้นในสาขาเฉพาะทาง เช่น การจัดการน้ำ การพัฒนาศึกษาศาสตร์ หรือศิลปะและวัฒนธรรม สถาบันเหล่านี้มักมีคณาจารย์และนักศึกษาจากหลากหลายชาติ ตัวอย่างสถาบันที่มีชื่อเสียง ได้แก่ Institute for Housing and Urban Development Studies (IHS) และ Maastricht School of Management (MSM)
- วิทยาลัยมหาวิทยาลัย (University Colleges) สถาบันเหล่านี้มักเป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยวิจัย และเปิดสอนหลักสูตรศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์แบบเข้มข้นขนาดเล็กที่สอนเป็นภาษาอังกฤษในระดับปริญญาตรี เน้นการเรียนรู้แบบสหวิทยาการ การคิดเชิงวิพากษ์ และการพัฒนาตนเอง การรับเข้าเรียนมักมีการแข่งขันสูง ตัวอย่างวิทยาลัยมหาวิทยาลัยที่น่าสนใจ ได้แก่ University College Utrecht, Amsterdam University College และ Leiden University College The Hague
- สถาบันอื่นๆ (Other Institutions) ในหมวดหมู่นี้อาจรวมถึงสถาบันเฉพาะทางด้านศิลปะ ดนตรี การละคร หรือการฝึกอบรมอาชีพที่ไม่เข้ากับหมวดหมู่อื่นๆ สถาบันเหล่านี้มักมีข้อกำหนดในการรับเข้าเรียนที่เฉพาะเจาะจงและมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะเชิงปฏิบัติในสาขาที่เกี่ยวข้อง
หลักสูตรการศึกษาที่หลากหลาย
- การฝึกงาน (Doing an Internship) การฝึกงานเป็นส่วนสำคัญของหลักสูตรการศึกษาหลายหลักสูตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์ประยุกต์ ช่วยให้น้องๆ ได้รับประสบการณ์การทำงานจริง ได้นำความรู้ไปประยุกต์ใช้ และสร้างเครือข่ายทางวิชาชีพ การฝึกงานอาจเป็นภาคบังคับหรือไม่ก็ได้ และมีระยะเวลาที่แตกต่างกันไป
- หลักสูตรที่สอนเป็นภาษาดัตช์ (Study Programmes in Dutch) ถึงแม้เนเธอร์แลนด์จะมีหลักสูตรที่สอนเป็นภาษาอังกฤษจำนวนมาก แต่ก็ยังมีหลักสูตรคุณภาพสูงอีกมากมายที่สอนเป็นภาษาดัตช์ หลักสูตรเหล่านี้เหมาะสำหรับน้องๆ ที่วางแผนจะใช้ชีวิตและทำงานในเนเธอร์แลนด์ในระยะยาว หรือมีความสนใจในภาษาและวัฒนธรรมดัตช์เป็นพิเศษ
- หลักสูตรภาคฤดูร้อน (Summer Schools) มหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาหลายแห่งในเนเธอร์แลนด์เปิดสอนหลักสูตรระยะสั้นในช่วงฤดูร้อน หลักสูตรเหล่านี้อาจเน้นในหัวข้อเฉพาะ การสอนภาษาแบบเข้มข้น หรือเป็นการแนะนำสาขาวิชาต่างๆ เป็นโอกาสที่ดีสำหรับน้องๆ ต่างชาติในการสัมผัสประสบการณ์การศึกษาและวัฒนธรรมดัตช์ในระยะเวลาสั้นๆ
ระดับปริญญาที่ได้รับการยอมรับ
- อนุปริญญา (Associate Degree – Ad) เป็นระดับปริญญาใหม่ในระบบการศึกษาดัตช์ ส่วนใหญ่เปิดสอนโดยมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์ประยุกต์ เป็นหลักสูตรสองปีที่เชื่อมโยงระหว่างการศึกษาวิชาชีพระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและปริญญาตรี ให้คุณวุฒิที่เจาะลึกในสาขาอาชีพเฉพาะทาง
- ปริญญาตรี (Bachelor – BA, BSc, LLB, etc.) เป็นปริญญาระดับแรก โดยทั่วไปใช้เวลาศึกษาสามถึงสี่ปี ขึ้นอยู่กับสาขาวิชาและประเภทของสถาบัน (มหาวิทยาลัยวิจัยหรือมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์ประยุกต์) หลักสูตรปริญญาตรีจะให้พื้นฐานความรู้ที่กว้างขวางในสาขาวิชาเฉพาะ
- ปริญญาโท (Master – MA, MSc, LLM, etc.) เป็นปริญญาระดับที่สอง โดยทั่วไปใช้เวลาศึกษาหนึ่งถึงสองปีหลังจากสำเร็จปริญญาตรี หลักสูตรปริญญาโทจะให้ความรู้และทักษะที่เฉพาะเจาะจงและลึกซึ้งยิ่งขึ้นในสาขาวิชา
- PDEng (Professional Doctorate in Engineering) เป็นหลักสูตรสองปีสำหรับผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทที่เน้นการออกแบบทางเทคโนโลยี เปิดสอนโดยมหาวิทยาลัยบางแห่ง มุ่งเน้นการผสมผสานความรู้เชิงทฤษฎีเชิงลึกกับการประยุกต์ใช้ในทางปฏิบัติ และมักเกี่ยวข้องกับโครงการที่ทำงานร่วมกับภาคอุตสาหกรรม
- ปริญญาเอก (PhD – Doctorandus/Promotie) เป็นระดับปริญญาสูงสุด มอบให้หลังจากทำการวิจัยอิสระเป็นเวลาหลายปีจนสำเร็จเป็นวิทยานิพนธ์ ผู้สมัครปริญญาเอกมักจะทำงานภายใต้การดูแลของอาจารย์ และมีส่วนร่วมในการพัฒนาองค์ความรู้ในสาขาวิชาผ่านงานวิจัยของตน
ระบบการศึกษาดัตช์
- วิธีการสอนแบบดัตช์ (The Dutch Way of Teaching): การสอนแบบดัตช์มีลักษณะเด่นคือการเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ส่งเสริมการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขัน การคิดเชิงวิพากษ์ การแก้ปัญหา และการทำงานเป็นทีม น้องๆ จะได้รับการสนับสนุนให้เป็นผู้เรียนรู้ด้วยตนเองและมีความคิดริเริ่ม ความสัมพันธ์ระหว่างนักศึกษาและอาจารย์มักเป็นแบบไม่เป็นทางการและเข้าถึงได้ง่ายกว่าระบบการศึกษาในบางประเทศ
- ระบบการให้คะแนนแบบดัตช์ (Dutch Grading System): ระบบการให้คะแนนของดัตช์โดยทั่วไปใช้สเกล 1 ถึง 10 โดยมีความหมายดังนี้:
- 10 = ยอดเยี่ยม
- 9 = ดีเลิศ
- 8 = ดีมาก
- 7 = ดี
- 6 = น่าพอใจ (มักเป็นคะแนนต่ำสุดที่สอบผ่าน)
- 5 = ไม่เพียงพอ
- 1-4 = ไม่เพียงพออย่างมาก
- ใบรับรองผลการเรียนมักจะอธิบายระบบการให้คะแนนนี้เพื่อการเปรียบเทียบในระดับนานาชาติ
คุณภาพของการศึกษา:
- จรรยาบรรณ (Code of Conduct) สถาบันอุดมศึกษาของดัตช์หลายแห่งยึดมั่นในจรรยาบรรณสำหรับนักศึกษาต่างชาติ ซึ่งระบุถึงความรับผิดชอบของสถาบันและมาตรฐานด้านคุณภาพและการสนับสนุนที่นักศึกษาจะได้รับ จรรยาบรรณนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้มั่นใจถึงการปฏิบัติที่เป็นธรรมและสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่ดีสำหรับนักศึกษาต่างชาติ
สัมผัสประสบการณ์การเรียนรู้ที่ไม่เหมือนใคร วิธีการสอนแบบดัตช์ (The Dutch Way of Teaching)
เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับประสบการณ์การเรียนรู้ที่สดใหม่และน่าตื่นเต้น! วิธีการสอนแบบดัตช์เน้น การมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนและการมีผู้เรียน เป็นศูนย์กลาง ให้อิสระน้องๆ ในการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการเรียนรู้
- ร่วมมือและสร้างความสัมพันธ์ผ่านการทำงานเป็นทีม หนึ่งในเอกลักษณ์ของการศึกษาดัตช์คือการเน้น การทำงานเป็นทีม ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีเยี่ยมในการพบปะและทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมชั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อนๆ จากหลากหลายชาติวัฒนธรรม ตลอดหลักสูตรการศึกษา น้องๆ จะได้ทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มเพื่อวิเคราะห์ปัญหาที่ซับซ้อนและพัฒนานวัตกรรมร่วมกัน ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งเสริมความเข้าใจในเชิงวิชาการเท่านั้น แต่ยังพัฒนาทักษะการสื่อสารระหว่างวัฒนธรรมและสร้างมิตรภาพที่ยั่งยืนอีกด้วย นอกจากนี้ ขึ้นอยู่กับสาขาที่น้องๆ เลือกเรียน น้องๆ จะได้รับประสบการณ์ตรงผ่าน การฝึกงาน หรือ การทดลองในห้องปฏิบัติการ ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงทฤษฎีเข้ากับการประยุกต์ใช้ในโลกแห่งความเป็นจริง
- มีส่วนร่วมและแสดงความคิดเห็นในชั้นเรียน เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขัน! การมีปฏิสัมพันธ์ในชั้นเรียนได้รับการยกย่องและส่งเสริมอย่างเต็มที่ น้องๆ จะไม่ได้เป็นเพียงผู้ฟัง แต่จะได้รับการคาดหวังให้วิเคราะห์ข้อมูลที่นำเสนออย่างมีวิจารณญาณ พัฒนาความคิดเห็นที่เป็นอิสระของตนเอง และแสดงออกอย่างมั่นใจ อย่าลังเลที่จะตั้งคำถาม ท้าทายข้อสมมติฐาน และมีส่วนร่วมในการอภิปรายอย่างรอบคอบกับทั้งอาจารย์และเพื่อนร่วมชั้น น้องๆ จะได้รับการสนับสนุนให้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ของตนเองในการประยุกต์ใช้ความรู้ที่ได้รับมาใหม่ๆ
- รากฐานของความเคารพในความเห็นที่แตกต่าง ปรัชญาการสอนแบบดัตช์มีรากฐานมาจาก ความเคารพในความคิดเห็นและความเชื่อมั่นของทุกคน แนวคิดพื้นฐานนี้ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงในห้องเรียน แต่เป็นลักษณะสำคัญของสังคมดัตช์โดยรวมและเป็นรากฐานของความหลากหลายและความเป็นพหุนิยมของประเทศ
การเริ่มต้นการศึกษาในเนเธอร์แลนด์ไม่ได้หมายถึงเพียงแค่การได้รับความรู้ แต่เป็นการบ่มเพาะจิตใจที่เปิดกว้าง ขยายมุมมองระดับโลก และพัฒนาทักษะที่จำเป็นต่อการเติบโตในโลกที่เชื่อมโยงถึงกัน
เนเธอร์แลนด์: แหล่งการศึกษาคุณภาพระดับโลก และมหาวิทยาลัยชั้นนำ (Top-Ranked Universities)
เนเธอร์แลนด์มีมหาวิทยาลัยระดับ World-Class, มาตรฐานการศึกษาที่เข้มข้น และการยอมรับในระดับ Global Recognition ทำให้เนเธอร์แลนด์เป็นตัวเลือกที่โดดเด่นมากๆ ในการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกประจำปี 2025 โดย Times Higher Education (THE) มีมหาวิทยาลัยจากเนเธอร์แลนด์ถึง 5 แห่งที่ติดอันดับ Top 100 ของโลกเลยทีเดียว! ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาความเป็นเลิศทางวิชาการและ Research Innovation อย่างต่อเนื่องของประเทศนี้
มหาวิทยาลัยดัตช์ได้รับการจัดอันดับในตำแหน่งสูงอย่างสม่ำเสมอในการจัดอันดับระดับโลกที่สำคัญๆ ไม่ว่าจะเป็น THE, QS หรือ ARWU และนี่คือ 5 สถาบันชั้นนำของเนเธอร์แลนด์จากการจัดอันดับของ THE ประจำปี 2025
- Engineering, Technology, และ Applied Sciences Programs เป็นมหาวิทยาลัยวิจัยชั้นนำที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ และมีนักศึกษามากกว่า 20,000 คน
- University of Amsterdam (UvA) ในอันดับที่ 58 UvA โดดเด่นในสาขา Humanities, Social Sciences, Business, และ Law เป็นที่รู้จักจากสภาพแวดล้อมการวิจัยที่เข้มแข็งและวิทยาเขตนานาชาติใจกลางอัมสเตอร์ดัม
- Wageningen University & Research ในอันดับที่ 67 Wageningen เป็นผู้นำระดับโลกในด้าน Agriculture, Environmental Sciences, และ Life Sciences ดึงดูดนักศึกษาและนักวิจัยจากทั่วโลก
- Leiden University ในอันดับที่ 73 Leiden เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป มีชื่อเสียงในด้าน Law, Social Sciences, และ the Arts
- University of Groningen ในอันดับที่ 80 Groningen เปิดสอนหลากหลายสาขาวิชา และได้รับการยอมรับในด้านผลงานวิจัยและมุมมองระดับนานาชาติ
ที่น่าประทับใจคือ มหาวิทยาลัยดัตช์ทั้ง 12 แห่งที่ได้รับการจัดอันดับโดย THE ล้วนอยู่ในกลุ่มมหาวิทยาลัย Top 300 ของโลก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงคุณภาพโดยรวมของระบบการศึกษาระดับอุดมศึกษาของเนเธอร์แลนด์ สถาบันเหล่านี้ตั้งอยู่ในเมืองนักศึกษาที่มีชีวิตชีวา แต่ละแห่งมอบประสบการณ์ทางวิชาการและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ให้น้องๆ ได้สัมผัส
มหาวิทยาลัยวิจัยชั้นนำในเนเธอร์แลนด์ (2025)
|
อันดับในประเทศ |
อันดับโลก |
มหาวิทยาลัย |
เมือง |
|
1 |
56 |
Delft University of Technology |
Delft |
|
2 |
58 |
University of Amsterdam |
Amsterdam |
|
3 |
67 |
Wageningen University & Research |
Wageningen |
|
4 |
73 |
Leiden University |
Leiden |
|
5 |
80 |
University of Groningen |
Groningen |
|
6 |
107 |
Erasmus University Rotterdam |
Rotterdam |
|
7 |
132 |
Maastricht University |
Maastricht |
|
8 |
136 |
Vrije Universiteit Amsterdam |
Amsterdam |
|
9 |
143 |
Radboud University Nijmegen |
Nijmegen |
|
10 |
180 |
University of Twente |
Enschede |
|
11 |
185 |
Eindhoven University of Technology |
Eindhoven |
|
12 |
251–300 |
Tilburg University |
Tilburg |
นอกจากนี้ยังมีมหาวิทยาลัยวิจัยที่มีชื่อเสียงอื่นๆ เช่น Utrecht University และ Nyenrode Business University ที่ได้รับการยอมรับในด้านผลงานทางวิชาการและมุมมองระดับนานาชาติเช่นกัน
มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์ประยุกต์ชั้นนำ (Top Universities of Applied Sciences)
ในขณะที่มหาวิทยาลัยวิจัยเน้นการวิจัยเชิงวิชาการและความรู้เชิงทฤษฎี มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์ประยุกต์ (Hogescholen) ในเนเธอร์แลนด์จะเน้นทักษะเชิงปฏิบัติและการฝึกอบรมวิชาชีพ และนี่คือบางส่วนของสถาบันที่มีชื่อเสียง:
- HU University of Applied Sciences Utrecht (Hogeschool Utrecht)
- HAN University of Applied Sciences (Arnhem and Nijmegen)
- Fontys University of Applied Sciences (Eindhoven, Tilburg, Venlo)
- Hanze University of Applied Sciences, Groningen
- Amsterdam University of Applied Sciences (HvA)
- Rotterdam University of Applied Sciences
- The Hague University of Applied Sciences
- Saxion University of Applied Sciences
- Avans University of Applied Sciences
- Inholland University of Applied Sciences
สถาบันเหล่านี้เป็นที่รู้จักในด้านความเชื่อมโยงที่แข็งแกร่งกับภาคอุตสาหกรรม โครงการฝึกงาน (Internships), และหลักสูตรที่สอนเป็นภาษาอังกฤษ (English-Taught Programs), ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักศึกษาต่างชาติที่ต้องการการศึกษาที่มุ่งเน้นด้านอาชีพ
ชีวิตนักศึกษาที่เนเธอร์แลนด์ สนุกไปกับสังคมและกิจกรรมนอกมหาวิทยาลัย
ชีวิตนักศึกษาในเนเธอร์แลนด์นั้นเต็มไปด้วยสีสัน น้องๆ จะได้ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่มากมายผ่านชมรม สมาคม และกิจกรรมต่างๆ ทั้งในและนอกมหาวิทยาลัย ที่สำคัญคือมีโอกาสในการมีส่วนร่วมในการบริหารมหาวิทยาลัย และมีแหล่งท่องเที่ยวและกิจกรรมยามว่างให้เลือกมากมาย รับรองว่าน้องๆ จะมีประสบการณ์การศึกษาที่สนุกและน่าจดจำอย่างแน่นอน
ถึงแม้ว่าอาคารเรียนของมหาวิทยาลัยในเนเธอร์แลนด์จะกระจายตัวอยู่ในเมือง และมีเพียงบางสถาบันเท่านั้นที่มีวิทยาเขตแบบรวมศูนย์ แต่น้องๆ จะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมนักศึกษาที่มีชีวิตชีวาอย่างแน่นอน แล้วน้องๆ จะไปพบเพื่อนใหม่และทำกิจกรรมสนุกๆ ได้ที่ไหนบ้าง? มาดูกันเลย
- สังคมนอกมหาวิทยาลัย: แหล่งพบปะเพื่อนใหม่หลากหลายสไตล์
- ชมรมและสมาคมนักศึกษา (Student Associations) มหาวิทยาลัยทุกแห่งจะมีเครือข่ายชมรมและสมาคมนักศึกษามากมาย ที่รวมน้องๆ ที่มีความสนใจเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมทางวิชาการ กีฬา หรือสันทนาการ ที่สำคัญคือชมรมเหล่านี้บริหารจัดการโดยนักศึกษาเอง และหลายชมรมก็มีกิจกรรมที่เน้นนักศึกษาต่างชาติโดยเฉพาะด้วย สองสมาคมนักศึกษานานาชาติขนาดใหญ่ที่น้องๆ ควรรู้จักคือ AIESEC และ Erasmus Student Network (ESN) ซึ่งมีกิจกรรมสนุกๆ และเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างเพื่อนใหม่จากทั่วโลก
- สมาคมนักศึกษาอิสระ (Independent Student Associations) ในหลายๆ เมืองก็มีสมาคมนักศึกษาที่ไม่สังกัดมหาวิทยาลัยใดมหาวิทยาลัยหนึ่งโดยตรง ทำให้น้องๆ ได้พบปะเพื่อนใหม่จากหลากหลายสถาบันมากขึ้นไปอีก
- แหล่งแฮงค์เอาท์ยอดนิยม (Student Hangouts) แน่นอนว่าตามเมืองต่างๆ จะมีผับ ร้านอาหาร และสถานที่รวมตัวอื่นๆ ที่เป็นที่นิยมของนักศึกษา น้องๆ ลองไปสำรวจดูะ อาจจะเจอเพื่อนใหม่ที่นั่นก็ได้!
- สังคมที่ไม่โดดเดี่ยว โดยทั่วไปแล้ว ชุมชนการศึกษาระดับอุดมศึกษาของดัตช์นั้นเปิดกว้างและเป็นส่วนหนึ่งของสังคม น้องๆ จะไม่รู้สึกว่าถูกตัดขาดจากโลกภายนอกแน่นอน
- มีส่วนร่วมในการบริหารมหาวิทยาลัย (Participate in Student Representative Bodies):
น้องๆ รู้ไหมว่าน้องๆ สามารถมีส่วนร่วมในการตัดสินใจภายในสถาบันการศึกษาของน้องๆ ได้ด้วย? ลองสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนการมีส่วนร่วมได้จากสำนักงานนักศึกษาต่างชาติของมหาวิทยาลัย นักศึกษาทุกคน ทั้งชาวดัตช์และนักศึกษาต่างชาติ มีสิทธิ์ได้รับการเลือกตั้งเป็นคณะกรรมการนักศึกษา และตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 นักศึกษาต่างชาติจากประเทศนอก EU ที่มีใบอนุญาตพำนักเพื่อการศึกษา ไม่จำเป็นต้องมีใบอนุญาตทำงานเพื่อเข้าร่วมสภานักศึกษาแล้วนะ เป็นโอกาสที่ดีที่น้องๆ จะได้แสดงความคิดเห็นและสร้างความเปลี่ยนแปลงในมหาวิทยาลัยของน้องๆ
- สนุกกับกิจกรรมยามว่าง (Leisure)
นอกเหนือจากการเรียนแล้ว เนเธอร์แลนด์ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมยามว่างมากมายให้น้องๆ ได้สนุกสนาน ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นในเมือง การนั่งเรือชมคลองหรือทะเลสาบ การพักผ่อนบนชายหาด หรือการเดินป่าในป่าและเนินทราย
นอกจากนี้ เนเธอร์แลนด์ยังเป็นจุดหมายปลายทางที่ศิลปินเพลงระดับโลกมักจะมาเปิดการแสดง และละครเวทีก็ได้รับความนิยมอย่างมาก ที่สำคัญคือมีพิพิธภัณฑ์มากกว่า 1,000 แห่งให้น้องๆ ได้ค้นพบและเรียนรู้
และอย่าแปลกใจถ้าน้องๆ เห็นผู้คนแต่งกายด้วยสีส้มและออกมาเฉลิมฉลองกันตามท้องถนนในวัน King’s Day หรือในช่วงการแข่งขันฟุตบอลระดับนานาชาติ นั่นเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมดัตช์ที่สนุกสนานและน่าประทับใจ
ค่าใช่จ่ายในการเรียนต่อเนเธอร์แลนด์
เรื่องเงินๆ ทองๆ วางแผนค่าใช้จ่ายในการเรียนและใช้ชีวิตในเนเธอร์แลนด์
การทำความเข้าใจเรื่องค่าใช้จ่ายในการศึกษาต่อต่างประเทศเป็นสิ่งสำคัญมากๆ มาดูกันว่าเราจะต้องเตรียมงบประมาณสำหรับอะไรบ้างในการไปเรียนและใช้ชีวิตที่เนเธอร์แลนด์ พร้อมทั้งแนวทางการจัดการเรื่องเงินๆ ทองๆ ค่าใช้จ่ายหลักๆ ที่ต้องรู้:
- ค่าเล่าเรียน (Tuition Fees)
- สำหรับนักศึกษาที่มาจากประเทศนอก EU/EEA/สวิตเซอร์แลนด์ ค่าเล่าเรียนจะสูงกว่านักเรียนจากกลุ่มประเทศในโซนยุโรป โดยเฉลี่ยต่อปี:
- หลักสูตรปริญญาตรี (Bachelor’s Programs): ประมาณ € 9,000 – € 20,000
- หลักสูตรปริญญาโท (Master’s Programs): ประมาณ € 12,000 – € 30,000
- สำหรับนักศึกษาที่มาจากประเทศนอก EU/EEA/สวิตเซอร์แลนด์ ค่าเล่าเรียนจะสูงกว่านักเรียนจากกลุ่มประเทศในโซนยุโรป โดยเฉลี่ยต่อปี:
- ค่าสมัคร (Application Fees) สถาบันการศึกษาบางแห่งอาจมีค่าสมัคร หรือค่าดำเนินการ ประมาณ € 75 – € 100 สำหรับน้องๆ ที่มาจากนอก EU/EEA หรือไม่มีพื้นฐานการศึกษาจากเนเธอร์แลนด์ อย่าลืมตรวจสอบกับมหาวิทยาลัยที่น้องๆ สนใจโดยตรงนะ
- ค่าใช้จ่ายรายวันและค่าครองชีพ (Daily Student Expenses and Cost of Living):
- โดยเฉลี่ยแล้ว นักเรียนจะใช้จ่ายประมาณ € 800 – € 1,100 ต่อเดือน ค่าใช้จ่ายจริงจะขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ เมืองที่น้องๆ อยู่ และประเภทที่พัก
- ค่าที่พัก (Housing): ถือเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงที่สุด ประมาณ € 450 – € 1000 ต่อเดือน ราคาก็จะแตกต่างกันไปตามเมือง (อัมสเตอร์ดัมจะแพงกว่าเมืองเล็กๆ อย่างเอนสเคเด) ประเภทที่พัก (หอพักนักศึกษา อพาร์ตเมนต์ส่วนตัว หรือห้องเช่ารวม) และรวมค่าสาธารณูปโภคหรือไม่ อย่าลืมดูข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนของที่พักด้วย
- ค่าอาหาร (Food): ถ้าน้องๆ ทำอาหารเองเป็นส่วนใหญ่ จะประหยัดได้มาก โดยเฉลี่ยประมาณ € 138 ต่อเดือน มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ก็มีโรงอาหารราคาไม่แพง และในเมืองก็มีร้านอาหารราคาสมเหตุสมผลให้เลือกเยอะ
- ราคาโดยเฉลี่ย:
- กาแฟ/ชา ที่คาเฟ่: € 3.00
- แซนวิชชีส: € 4.00
- อาหารเย็นที่ร้านอาหารนักศึกษา: € 12.50
- ราคาโดยเฉลี่ย:
- ค่าเดินทาง (Transportation): การปั่นจักรยานเป็นที่นิยมและประหยัดมากในเนเธอร์แลนด์ ค่าตั๋วรถบัสในเมืองประมาณ € 2 ต่อเที่ยว ถ้าน้องๆ วางแผนเดินทางด้วยรถไฟนอกเวลาเร่งด่วน ลองดูบัตรส่วนลด 40% นะดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของการรถไฟดัตช์
- ค่าหนังสือและอุปกรณ์การเรียน (Study Books and Materials): เตรียมงบประมาณไว้ประมาณ € 53 ต่อเดือนสำหรับส่วนนี้ ซึ่งอาจจะแตกต่างกันไปตามสาขาที่เรียน
- ค่าสันทนาการ (Leisure): เผื่อค่าใช้จ่ายสำหรับกิจกรรมทางสังคม ความบันเทิง และงานอดิเรกไว้ประมาณ € 228 ต่อเดือน
- ค่าประกันสุขภาพ (Health Insurance): ถ้าน้องๆ ทำงาน (แม้จะเป็นงานพาร์ทไทม์) จะต้องมีประกันสุขภาพขั้นพื้นฐานของดัตช์ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายประมาณ € 134 ต่อเดือน (ข้อมูลปี 2024) ถ้าน้องๆ ไม่ได้ทำงาน ก็อาจจะต้องมีประกันสุขภาพเช่นกัน ลองสอบถามข้อมูลจากมหาวิทยาลัย
โอกาสการทำงานหลังเรียนจบจากเนเธอร์แลนด์
“Orientation Year”: กุญแจสำคัญสู่อาชีพในเนเธอร์แลนด์สำหรับน้องๆ
สำหรับน้องๆ ที่ไม่ได้มีสัญชาติอยู่ในกลุ่มประเทศ EU, EEA หรือสวิตเซอร์แลนด์ และกำลังจะเรียนจบ หรือเพิ่งเรียนจบจากสถาบันอุดมศึกษาที่ได้รับการรับรองในเนเธอร์แลนด์ภายใน 3 ปีที่ผ่านมา น้องๆ มีสิทธิ์พิเศษในการสมัครขอใบอนุญาตพำนัก ‘Orientation Year’ Residency Permit
สิทธิพิเศษที่ จะได้รับ
- โอกาสในการหางาน: ใบอนุญาตนี้มีอายุถึง 1 ปีเต็มๆ ให้ มีเวลาเพียงพอในการค้นหาตำแหน่งงานที่ตรงกับความสามารถและเป้าหมายของน้องๆ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ (Highly Skilled Migrant) ในบริษัทต่างๆ ในเนเธอร์แลนด์
- โอกาสในการเริ่มต้นธุรกิจ: หากน้องๆ มีความฝันที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจเอง ใบอนุญาตนี้ก็เปิดโอกาสให้น้องๆ สามารถเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวในเนเธอร์แลนด์ได้เช่นกัน
- เข้าสู่ตลาดแรงงานได้อย่างอิสระ: ที่สำคัญที่สุดคือ ใบอนุญาต ‘Orientation Year’ นี้ ให้น้องๆ สามารถเข้าสู่ตลาดแรงงานของเนเธอร์แลนด์ได้อย่างเต็มที่ (Unrestricted Access to the Dutch Labor Market) โดยไม่ต้องมีข้อจำกัดเหมือนกับตอนที่น้องๆ ยังเป็นนักศึกษา
สิ่งที่น้องๆ ควรรู้เกี่ยวกับ “Orientation Year”:
- ระยะเวลาการสมัคร: น้องๆ สามารถยื่นขอใบอนุญาตนี้ได้ในช่วง 1 ปีก่อนสำเร็จการศึกษา หรือภายใน 3 ปีหลังจากสำเร็จการศึกษาแล้ว
- คุณสมบัติ: น้องๆ จะต้องสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีขึ้นไป จากสถาบันอุดมศึกษาที่ได้รับการรับรองในเนเธอร์แลนด์
- ค่าใช้จ่าย: จะมีค่าธรรมเนียมในการสมัครขอใบอนุญาตนี้ น้องๆ สามารถตรวจสอบค่าธรรมเนียมล่าสุดได้จากเว็บไซต์ของ Immigration and Naturalisation Service (IND)
- การเตรียมตัวด้านการเงิน: ในช่วงเริ่มต้นของ Orientation Year น้องๆ ควรมีเงินสำรองเพียงพอสำหรับค่าครองชีพ ค่าที่พัก และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในระหว่างที่กำลังหางาน เนื่องจากกระบวนการนี้อาจต้องใช้เวลาและความพยายาม
คำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับ
- เริ่มวางแผนอนาคตตั้งแต่เนิ่นๆ: มองหาโอกาสในการฝึกงาน หรือสร้างเครือข่ายกับผู้คนในสายงานที่น้องๆ สนใจตั้งแต่ยังเรียนอยู่
- ใช้ประโยชน์จาก Career Services ของมหาวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่มีหน่วยงานที่ให้คำปรึกษาด้านอาชีพ ซึ่งสามารถช่วยน้องๆ ในการเตรียมตัวสมัครงานและให้ข้อมูลเกี่ยวกับตลาดแรงงาน
- เรียนรู้ภาษาดัตช์ ถึงแม้จะไม่จำเป็นสำหรับทุกตำแหน่ง แต่การมีความรู้ภาษาดัตช์จะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้งานของน้องๆ อย่างแน่นอน
ติดต่อเดอะเบสท์เพื่อสอบถามข้อมูลการเรียนต่อต่างประเทศเพิ่มเติม
เดอะเบสท์ เป็นศูนย์บริการให้คำปรึกษาเรียนต่อต่างประเทศครบวงจร เราเป็นตัวแทนที่ให้บริการแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และ ประเทศอื่นๆ อีก 25 ประเทศทั่วโลก เรายินดีให้ความช่วยเหลือตั้งแต่เริ่มสมัครเรียน จนสำเร็จการศึกษา รวมถึงดูแลนักเรียนระหว่างเรียนจนนักเรียนเรียนจบด้วยทีมผู้เชียวชาญในด้านการเรียนต่อต่างประเทศ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ขั้นตอนเหล่านี้เราดำเนินการให้ฟรี และเราพร้อมที่จะทำตามคุณภาพ และมาตรฐานดังสโลแกนที่ว่า “We are Quality”
บริการของเรามีอะไรบ้าง ?
- ฟรี!! บริการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเรียนต่อต่างประเทศทุกระดับชั้นทั่วโลก ตั้งแต่ โรงเรียนประถม โรงเรียนมัธยม สถาบันวิชาชีพ และสถาบันในระดับอุดมศึกษา รวมถึงหลักสูตรภาษาต่างประเทศ และเลือกสถาบันที่ดีที่สุดให้กับผู้เรียน
- เราให้ความช่วยเหลือตั้งแต่การประสานงานโรงเรียน เลือกโรงเรียนให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียน เตรียมเอกสารสมัครเรียน และดำเนินเรื่องสมัครเรียนให้ฟรี
- บริการเตรียมเอกสารยื่นวีซ่าครบวงจร และบริการยื่นวีซ่ากว่า 25 ประเทศทั่วโลก พร้อมวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าอย่างตรงจุด และแนะนำวิธีการเตรียมตัวในการสัมภาษณ์วีซ่า
- บริการแปลเอกสาร ภาษาไทย – ภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาอังกฤษ – ภาษาไทย รวมถึงภาษาที่ 3 เริ่มต้นเพียงแผ่นละ 200 บาท
- เดอะเบสท์ เป็นตัวแทนรับสมัครสอบ IELTS IDP อย่างเป็นทางการ พร้อมให้คำแนะนำ และนัดวันสอบให้โดยน้องๆ ไม่ต้องเสียเวลาสมัครเอง สมัครสอบได้ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
[คลิกเพื่อสมัครสอบ IELTS] - บริการซื้อประกันภัยการเดินทางและประกันสุขภาพนักเรียนต่างชาติ จากบริษัทประกันชั้นนำ MSIG, Allianz, Bupa, NIB, Orbit และอื่นๆ [คลิกเพื่อซื้อประกัน]
- บริการจองตั๋วเครื่องบิน ทุกสายการบิน และประสานงานกับสถาบันเกี่ยวกับรถรับ – ส่ง สนามบิน
- บริการจัดหาที่พักทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นโฮมสเตย์ อพาร์ทเม้น หรือหอพักนักศึกษา จัดหาให้ตามความต้องการส่วนบุคคล
“เรายินดีที่จะดูแลนักเรียนทุกคน ตั้งแต่เริ่มต้นจนนักเรียนสำเร็จการศึกษา และทำให้การเรียนต่อของคุณเป็นเรื่องง่าย ” สอบถามข้อมูลการบริการเพิ่มเติมติดต่อ
โทร : 090-327 3558, 088-269 5099
Email :contact@thebest-edu.com
Line : @thebestedu หรือคลิกเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ



