Last updated ธันวาคม 25, 2025 ago by Thebestedu
เรียนปริญญาตรีปี 1 ปี 2 สามารถย้ายไปเรียนต่อต่างประเทศได้ไหม ต้องทำอย่างไรบ้าง | บทความนี้มีคำตอบ
“เรียนมหาวิทยาลัยในไทยมา 1-2 ปีแล้ว แต่เพิ่งรู้ตัวว่าอยากไปต่างประเทศ… ต้องทิ้งทุกอย่างแล้วไปเริ่มปี 1 ใหม่หรือเปล่า?”
สำหรับนักศึกษาปริญญาตรีหลายคน ความกังวลเรื่อง “เวลา” และ “ความเสียดาย” คือกำแพงใหญ่ที่กั้นระหว่างคุณกับโอกาสระดับโลก แต่ในความเป็นจริง ระบบการศึกษาสากลมีทางออกที่เรียกว่า International Transfer หรือการโอนย้ายหน่วยกิตข้ามประเทศ ซึ่งช่วยให้คุณนำ “ต้นทุน” ที่มีอยู่ไปต่อยอดในมหาวิทยาลัยชั้นนำได้โดยไม่ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่
บทความนี้เดอะเบสท์ฯ จะเจาะลึกทุกแง่มุมของการโอนย้ายไปต่างประเทศ เพื่อให้น้องๆ วางแผนได้อย่างแม่นยำที่สุด
1. เข้าใจหัวใจของการ “Transfer” (Credit Recognition) แบบเจาะลึก

การโอนย้ายหน่วยกิตไม่ใช่แค่การเปลี่ยนที่เรียน แต่คือกระบวนการทางวิชาการที่เรียกว่า Advanced Standing หรือ Recognition of Prior Learning (RPL) ซึ่งเป็นการที่มหาวิทยาลัยปลายทางประเมินความรู้เดิมของคุณเพื่อยกเว้นการเรียนซ้ำในเนื้อหาที่น้อง “รู้แล้ว” และ “ผ่านการทดสอบมาแล้ว”
โดยปกติจะมีการพิจารณาใน 2 รูปแบบหลักที่น้องต้องทำความเข้าใจ:
- Specified Credit (หน่วยกิตวิชาเฉพาะ): คือวิชาที่มีเนื้อหา (Syllabus) ตรงกับวิชาบังคับในหลักสูตรใหม่เกือบ 100% เช่น น้องเรียน Principles of Marketing ในไทย แล้ววิชานี้มีเนื้อหาครอบคลุมตามเกณฑ์ของมหาวิทยาลัยปลายทาง น้องจะได้รับการยกเว้นวิชานี้ทันที และข้ามไปเรียนวิชาการตลาดขั้นสูงได้เลย
- Unspecified Credit (หน่วยกิตวิชาเลือก/ทั่วไป): คือวิชาที่อาจจะไม่ตรงกับวิชาบังคับในหลักสูตรใหม่โดยตรง แต่อยู่ในเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยยอมรับให้นับเป็น “วิชาเลือกเสรี” (Free Electives) หรือ “วิชาศึกษาทั่วไป” (General Education) ซึ่งจุดนี้มีความสำคัญมาก เพราะช่วยลดจำนวนหน่วยกิตรวมที่น้องต้องลงเรียนใหม่เพื่อให้ครบเกณฑ์จบการศึกษา
ย้ายข้ามสาย (Cross-Major Transfer) เป็นไปได้ไหม หรือต้องเริ่มใหม่?
คำถามสำคัญสำหรับน้องๆ ที่อยากเปลี่ยนสายการเรียนคือ “ถ้าคณะที่เรียนอยู่ปัจจุบันไม่ตรงกับคณะที่จะไปต่อ จะยังโอนอะไรได้บ้าง?”
คำตอบคือ: เป็นไปได้ และไม่ต้องเริ่มใหม่จากศูนย์!
แม้ว่าวิชาเฉพาะทางของคณะเดิมอาจจะนำไปใช้กับคณะใหม่ไม่ได้โดยตรง แต่น้องยังมีส่วนที่โอนไปเป็น “ฐาน” ในหลักสูตรใหม่ได้ดังนี้:
- General Education (Gen-Ed): วิชาพื้นฐานหรือวิชาบูรณาการ (เช่น คณิตศาสตร์พื้นฐาน, ภาษาอังกฤษ, สังคมศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์พื้นฐาน) มักจะเป็นวิชาบังคับที่ทุกคณะทั่วโลกกำหนดให้เรียน น้องจึงสามารถโอนวิชาเหล่านี้ข้ามคณะได้เกือบทั้งหมด
- Electives (วิชาเลือกเสรี): หลักสูตรปริญญาตรีส่วนใหญ่จะเปิดช่องว่างให้เรียนวิชาเลือกได้ตามใจชอบ น้องสามารถนำวิชาเฉพาะจากคณะเดิมมาลงในส่วนนี้ได้ทันที ทำให้ไม่ต้องลงเรียนวิชาเลือกใหม่ในคณะปลายทาง
ผลลัพธ์โดยรวม: การย้ายข้ามสายส่วนใหญ่จะช่วยย่นระยะเวลาเรียนไปได้ประมาณ 1-2 เทอม (0.5 – 1 ปี) ขึ้นอยู่กับจำนวนวิชาพื้นฐานที่น้องสะสมมา ซึ่งยังคงคุ้มค่ากว่าการกลับไปสมัครใหม่ในฐานะนักศึกษาปี 1 ครับ
💡 กฎเหล็ก 5 ข้อที่น้องต้องรู้ก่อนขอโอนหน่วยกิต
- เกรดขั้นต่ำ (Minimum Grade): ส่วนใหญ่สถาบันต่างประเทศจะรับโอนเฉพาะวิชาที่น้องได้เกรด “C” ขึ้นไป (หรือ GPA 2.0+) เท่านั้น วิชาที่ได้ D หรือ D+ มักจะโอนไม่ได้และต้องลงเรียนใหม่
- เพดานการโอน (Credit Ceiling): แทบทุกมหาวิทยาลัยจะมีกฎที่เรียกว่า Residency Requirement คือน้องต้องมานั่งเรียนที่สถาบันเขาอย่างน้อย 50% ของหลักสูตร (หรือประมาณ 1.5 – 2 ปี) ดังนั้นน้องจึงไม่สามารถโอนหน่วยกิตทั้งหมด 3 ปีจากไทยไปเพื่อเรียนแค่เทอมเดียวแล้วเอาปริญญาเขาได้
- ความสดใหม่ของวิชา (Recency): สำหรับสายงานที่เปลี่ยนเร็ว เช่น IT หรือ Computer Science วิชาที่น้องเรียนมานานเกิน 5-10 ปี มักจะโอนไม่ได้เพราะเนื้อหาล้าสมัยไปแล้ว
- ลำดับวิชา (Prerequisites): บางครั้งแม้จะโอนวิชาได้เยอะ แต่ถ้าวิชาที่เหลือต้องเรียนตามลำดับ (เช่น ต้องเรียน A ก่อน B และ B ก่อน C) อาจทำให้น้องไม่สามารถจบได้เร็วกว่ากำหนดมากนัก พี่เอเจนท์จะช่วยวางแผน Roadmap ตรงนี้ให้ครับ
- ความต่างของระบบ Credit: จำนวน “หน่วยกิต” ของไทยกับต่างประเทศคำนวณไม่เท่ากัน (เช่น 3 หน่วยกิตไทย อาจเทียบเท่า 7.5 หรือ 10 Credits ในระบบยุโรป/ออสเตรเลีย) การประเมินจึงต้องดูที่ชั่วโมงเรียนจริงเป็นหลัก
2. เจาะลึก 4 ปลายทางยอดฮิต: ระบบไหนที่ใช่สำหรับคุณ?

การโอนย้ายไม่ได้เป็นแค่การเปลี่ยนห้องเรียน แต่คือการเปลี่ยน “เวที” ในการใช้ชีวิต พี่เดอะเบสท์ฯ รวบรวมข้อมูลเชิงลึกเพื่อให้คุณเตรียมตัวได้ทันรอบการศึกษาดังนี้ครับ:
🇺🇸 สหรัฐอเมริกา (USA)
- เหตุผลที่ต้องไป: ศูนย์กลางนวัตกรรม บรรยากาศการเรียนเน้นการถกเถียง (Discussion) และคอนเนกชันระดับโลก
- ระบบการศึกษา: ปริญญาตรี 4 ปี ช่วง 2 ปีแรกเป็น General Education เปิดกว้างสำหรับการโอนย้ายข้ามคณะที่สุด
- เส้นทางพิเศษ: มีระบบ 2+2 (Community College) เรียนปี 2 ในวิทยาลัยชุมชน (ค่าเทอมถูก) แล้วการันตีโอนเข้ามหาวิทยาลัยดัง (เช่น UC) ได้ง่ายกว่าสมัครตรง
- การทำงาน: ทำงาน On-campus ได้ 20 ชม./สัปดาห์ มีสิทธิ์ฝึกงาน CPT (ระหว่างเรียน) และ OPT (หลังจบ) นาน 1-3 ปี
- คำแนะนำ: ควรติดต่อล่วงหน้า 8-10 เดือน เพราะขั้นตอนตรวจสอบประวัติและการเงินละเอียดมาก
🇨🇦 แคนาดา (Canada)
- เหตุผลที่ต้องไป: คุณภาพชีวิตดีที่สุดในโลก ปลอดภัย และเน้น Multiculturalism
- ระบบการศึกษา: มาตรฐานสูง จุดเด่นคือระบบ Co-op Programs เรียนสลับฝึกงานจริงแบบได้รับค่าจ้าง (Paid Work Experience)
- การทำงาน: ทำงานนอกแคมปัสได้ถึง 24 ชม./สัปดาห์ และมีสิทธิ์ PGWP สูงสุด 3 ปี หลังจบ (เส้นทางสู่ PR)
- คำแนะนำ: ติดต่อล่วงหน้าอย่างน้อย 10-12 เดือน ปัจจุบันการขอใบรับรองจากรัฐ (PAL) มีโควตาจำกัด
🇦🇺 ออสเตรเลีย (Australia)
- เหตุผลที่ต้องไป: ใกล้ไทย อากาศดี มหาวิทยาลัย Group of Eight (Go8) ติด Top 100 โลก
- ระบบการศึกษา: ปริญญาตรีส่วนใหญ่ 3 ปี ระบบโอนหน่วยกิต (CPL) ยืดหยุ่นสูงและทราบผลเร็ว
- การทำงาน: ทำงานได้ 48 ชม./ปักษ์ ค่าจ้างขั้นต่ำสูง หลังจบมีวีซ่า Subclass 485 อยู่ต่อได้ 2-4 ปี
- คำแนะนำ: ติดต่อล่วงหน้า 6-8 เดือน ต้องวางแผน Course Mapping ให้ดีเพื่อไม่ให้กระทบสิทธิ์วีซ่าหลังจบ
🇬🇧 สหราชอาณาจักร (UK)
- เหตุผลที่ต้องไป: ประวัติศาสตร์การศึกษายาวนาน ปริญญาเป็นที่ยอมรับทั่วโลก
- ระบบการศึกษา: ปริญญาตรี 3 ปี เน้นวิชาเฉพาะทาง (Module-based) การโอนเข้าปี 2 ต้องผ่าน UCAS และวิชาต้องตรง 80-90%
- การทำงาน: ทำงานได้ 20 ชม./สัปดาห์ หลังจบมี Graduate Route อยู่ต่อได้ 2 ปี แบบไม่ต้องมีสปอนเซอร์
- คำแนะนำ: ติดต่อล่วงหน้า 9-12 เดือน เพราะ UCAS มี Deadline เคร่งครัดและต้องเจรจาวิชาการเข้มข้น
3. ปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา (เรื่องเงินและวีซ่า)

การได้รับตอบรับเข้าเรียน (Letter of Offer) เป็นเพียงด่านแรกเท่านั้น ความสำเร็จที่แท้จริงคือการเตรียมความพร้อมด้านวีซ่าและการเงินอย่างรัดกุม
เรื่องการเงิน
- Bank Statement: ต้องแสดงเงินครอบคลุมค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพขั้นต่ำ 1 ปีเต็ม มียอดเงินคงเหลือตามระยะเวลาที่กำหนด (28 วัน สำหรับ UK หรือ 3-6 เดือน สำหรับ USA/AUS)
- Source of Funds: ที่มาของรายได้ผู้สนับสนุนต้องชัดเจน มีความต่อเนื่อง สอดคล้องกับหลักฐานภาษีหรือทะเบียนการค้า
- Indirect Costs: เตรียมค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ประกันสุขภาพ (OSHC/IHS), ค่าธรรมเนียมวีซ่า, ค่าตรวจสุขภาพ
เจตจำนงในการศึกษา
- GTE/GS (ความสมเหตุสมผล): ต้องเขียน SOP อธิบายเหตุผลที่ย้ายที่เรียนในช่วงปี 1-2 ให้สถานทูตเข้าใจ
- Post-Study Work Rights: ระวังการโอนหน่วยกิตเยอะเกินไปจนเวลาเรียนจริงสั้นกว่าเกณฑ์ ซึ่งอาจกระทบสิทธิ์วีซ่าทำงานหลังจบ
4. เอกสารสำคัญในการขอโอนหน่วยกิต (ที่น้องมักพลาด)
น้องๆ หลายคนเข้าใจผิดว่ามีเพียง Transcript ก็สามารถสมัครโอนย้ายได้แล้ว แต่เอกสารที่จะตัดสินว่าน้องต้อง “เรียนซ้ำ” หรือ “ได้ข้าม” คือ Detailed Course Outline (Syllabus) ที่ต้องระบุรายละเอียดดังนี้:
- Learning Outcomes: วัตถุประสงค์และทักษะที่ได้รับหลังเรียนจบวิชานั้น
- Weekly Topics: ตารางเนื้อหาที่เรียนในแต่ละสัปดาห์อย่างละเอียด
- Assessment Methods: รูปแบบการวัดผล (เช่น สอบกี่ %, งานเขียนยาวเท่าไหร่)
- Credit/Contact Hours: จำนวนชั่วโมงที่เข้าเรียนจริงต่อสัปดาห์
*เคล็ดลับ: หากมหาวิทยาลัยเดิมไม่มีเอกสารภาษาอังกฤษ พี่เดอะเบสท์ฯ มีบริการแปลเอกสารที่ได้รับการรับรองครับ
5. Timeline และ Checklist การเตรียมตัว (Step-by-Step)
การโอนย้ายมีขั้นตอนละเอียดอ่อน แนะนำให้เริ่มดำเนินการล่วงหน้า 6-12 เดือน ตามขั้นตอนดังนี้:
Stage 1: Self-Audit & Academic Preparation (10-12 เดือนก่อนเดินทาง)
- ตรวจสอบ GPA ปัจจุบัน (ควรมี 2.50+ ขึ้นไป)
- สำรวจรายวิชาว่ามีความสดใหม่ และเกรดไม่ต่ำกว่า C
- เริ่มติวภาษาอังกฤษ (IELTS/TOEFL) ให้ได้ตามเกณฑ์ (6.0 – 6.5)
Stage 2: Expert Consultation & Mapping (8-10 เดือนก่อนเดินทาง)
- ติดต่อพี่เดอะเบสท์ฯ เพื่อวิเคราะห์เป้าหมายและหน่วยกิตเบื้องต้น
- รวบรวม Syllabus ฉบับสมบูรณ์และแปลเอกสาร
- คัดเลือกสถาบันยุทธศาสตร์ที่รับโอนหน่วยกิตได้มากที่สุด
Stage 3: Application & Credit Assessment (6-8 เดือนก่อนเดินทาง)
- ยื่นใบสมัครอย่างเป็นทางการ (ผ่าน UCAS หรือระบบมหาวิทยาลัย)
- ติดตามผลการโอนย้าย พี่เดอะเบสท์ฯ จะช่วยเจรจากับ Admissions Office
- ชำระค่ามัดจำและรับ CoE/Offer
Stage 4: Visa, Logistics & Pre-Departure (3-4 เดือนก่อนเดินทาง)
- ยื่นวีซ่าและจัดเตรียมประกันสุขภาพนักเรียน
- จัดหาที่พัก (Homestay, Dorm, Apartment)
- Pre-Departure Briefing เตรียมความพร้อมก่อนบิน
ทำไมต้องให้ “เดอะเบสท์” (The Best) วางแผนให้คุณ?
การสมัครเรียนต่อแบบโอนย้าย (Transfer) มีความซับซ้อนกว่าปกติ เดอะเบสท์ (The Best) คือศูนย์บริการแนะแนวการศึกษาต่อต่างประเทศครบวงจร “We are Quality” ที่พร้อมดูแลคุณฟรี:
- Strategic School Matching: ช่วยเลือกสถาบันที่เหมาะสมกับหน่วยกิตเดิมของคุณ
- Visa Expert: เชี่ยวชาญการยื่นวีซ่ากว่า 25 ประเทศ วิเคราะห์เคสตรงจุด
- Official IELTS Test Center: ตัวแทนรับสมัครสอบ IELTS IDP อย่างเป็นทางการ
- Translation Service: บริการแปลเอกสาร Syllabus ไทย-อังกฤษ เริ่มต้นแผ่นละ 200 บาท
- Total Lifestyle Support: จองตั๋ว หาที่พัก และรถรับส่งสนามบิน
FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการโอนย้ายหน่วยกิต
Q: ถ้าเกรดเฉลี่ย (GPA) น้อยกว่า 2.00 สามารถโอนย้ายได้ไหม?
ตอบ: ค่อนข้างยากครับ มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ต้องการ GPA ขั้นต่ำ 2.00 – 2.50 ขึ้นไป แต่บางสถาบันอาจพิจารณาจากประสบการณ์ทำงานประกอบด้วย แนะนำให้ปรึกษาพี่เดอะเบสท์ฯ เป็นรายกรณีครับ
Q: สามารถโอนหน่วยกิตวิชาที่ได้เกรด D ได้หรือไม่?
ตอบ: โดยทั่วไป ไม่ได้ ครับ สถาบันต่างประเทศมักรับโอนเฉพาะวิชาที่ได้เกรด C ขึ้นไปเท่านั้น
Q: ใช้เวลาดำเนินการนานเท่าไหร่ถึงจะรู้ผลว่าเทียบโอนได้กี่วิชา?
ตอบ: ขึ้นอยู่กับประเทศและมหาวิทยาลัยครับ ออสเตรเลียมักใช้เวลา 2-4 สัปดาห์ ส่วนอเมริกาและแคนาดาอาจใช้เวลา 1-3 เดือน เพราะต้องตรวจสอบ Syllabus อย่างละเอียด
Q: ถ้าโอนไปแล้ว เรียนจบภายใน 1 ปีได้ไหม?
ตอบ: เป็นไปได้ยากครับ เนื่องจากกฎ Residency Requirement ที่บังคับให้เรียนที่สถาบันปลายทางอย่างน้อย 50% ของหลักสูตร ดังนั้นส่วนใหญ่จะต้องเรียนอย่างน้อย 1.5 – 2 ปีครับ
ติดต่อเดอะเบสท์เพื่อสอบถามข้อมูลการเรียนต่อต่างประเทศเพิ่มเติม
เดอะเบสท์ เป็นศูนย์บริการให้คำปรึกษาเรียนต่อต่างประเทศครบวงจร เราเป็นตัวแทนที่ให้บริการแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และ ประเทศอื่นๆ อีก 25 ประเทศทั่วโลก เรายินดีให้ความช่วยเหลือตั้งแต่เริ่มสมัครเรียน จนสำเร็จการศึกษา รวมถึงดูแลนักเรียนระหว่างเรียนจนนักเรียนเรียนจบด้วยทีมผู้เชียวชาญในด้านการเรียนต่อต่างประเทศ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ขั้นตอนเหล่านี้เราดำเนินการให้ฟรี และเราพร้อมที่จะทำตามคุณภาพ และมาตรฐานดังสโลแกนที่ว่า “We are Quality”
บริการของเรามีอะไรบ้าง ?
- ฟรี!! บริการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเรียนต่อต่างประเทศทุกระดับชั้นทั่วโลก ตั้งแต่ โรงเรียนประถม โรงเรียนมัธยม สถาบันวิชาชีพ และสถาบันในระดับอุดมศึกษา รวมถึงหลักสูตรภาษาต่างประเทศ และเลือกสถาบันที่ดีที่สุดให้กับผู้เรียน
- เราให้ความช่วยเหลือตั้งแต่การประสานงานโรงเรียน เลือกโรงเรียนให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียน เตรียมเอกสารสมัครเรียน และดำเนินเรื่องสมัครเรียนให้ฟรี
- บริการเตรียมเอกสารยื่นวีซ่าครบวงจร และบริการยื่นวีซ่ากว่า 25 ประเทศทั่วโลก พร้อมวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าอย่างตรงจุด และแนะนำวิธีการเตรียมตัวในการสัมภาษณ์วีซ่า
- บริการแปลเอกสาร ภาษาไทย – ภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาอังกฤษ – ภาษาไทย รวมถึงภาษาที่ 3 เริ่มต้นเพียงแผ่นละ 200 บาท
- เดอะเบสท์ เป็นตัวแทนรับสมัครสอบ IELTS IDP อย่างเป็นทางการ พร้อมให้คำแนะนำ และนัดวันสอบให้โดยน้องๆ ไม่ต้องเสียเวลาสมัครเอง สมัครสอบได้ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
[คลิกเพื่อสมัครสอบ IELTS] - บริการซื้อประกันภัยการเดินทางและประกันสุขภาพนักเรียนต่างชาติ จากบริษัทประกันชั้นนำ MSIG, Allianz, Bupa, NIB, Orbit และอื่นๆ [คลิกเพื่อซื้อประกัน]
- บริการจองตั๋วเครื่องบิน ทุกสายการบิน และประสานงานกับสถาบันเกี่ยวกับรถรับ – ส่ง สนามบิน
- บริการจัดหาที่พักทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นโฮมสเตย์ อพาร์ทเม้น หรือหอพักนักศึกษา จัดหาให้ตามความต้องการส่วนบุคคล
“เรายินดีที่จะดูแลนักเรียนทุกคน ตั้งแต่เริ่มต้นจนนักเรียนสำเร็จการศึกษา และทำให้การเรียนต่อของคุณเป็นเรื่องง่าย ” สอบถามข้อมูลการบริการเพิ่มเติมติดต่อ
โทร : 090-327 3558, 088-269 5099
Email :contact@thebest-edu.com
Line : @thebestedu หรือคลิกเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ
