เดอะเบสท์ แนะแนวเรียนต่อต่างประเทศครบวงจร

เรียนต่อนิวซีแลนด์ | วางแผนอนาคตที่ใช่ เลือกหลักสูตรที่ชอบ เรียนสาขาไหนอนาคตไกล ได้วีซ่าทำงานหลังเรียนจบ มีโอกาสขอทางสู่ PR นิวซีแลนด์ บทความนี้มีคำตอบ

สารบัญบทความ

Last updated กรกฎาคม 7, 2025 ago by Thebestedu

วางแผนเรียนต่อต่าประเทศ กำลังมองหาโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิต ก้าวออกจากกรอบเดิมๆ สู่ประสบการณ์ใหม่ๆ ในต่างแดนใช่ไหม? หากความฝันของคุณคือการได้ใช้ชีวิตในประเทศที่สวยงาม รายล้อมด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ พร้อมโอกาสทางอาชีพที่เติบโตไม่หยุดยั้ง และระบบสวัสดิการที่มั่นคง… การไปเรียนต่อที่นิวซีแลนด์อาจคือคำตอบที่คุณกำลังตามหา!

ประเทศนิวซีแลนด์แห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงจุดหมายปลายทางด้านการศึกษาที่ได้รับการยอมรับในระดับโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นประตูสู่การมีถิ่นที่อยู่ถาวร (Permanent Residency หรือ PR) ที่ชัดเจนและเป็นไปได้จริงสำหรับน้องๆ นักเรียนต่างชาติทุกคนที่มุ่งมั่น

บทความนี้จาก The Best Education จะเจาะลึกทุกสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับแนวทางการเรียนต่อที่นิวซีแลนด์ พร้อมพาคุณไปสำรวจทุกแง่มุมของการใช้ “การศึกษา” เป็นกุญแจสำคัญ เพื่อปลดล็อกอนาคตที่มั่นคงและเติมเต็มทุกความฝันในการใช้ชีวิตและทำงานในนิวซีแลนด์ได้อย่างไร้กังวล!

ทำไมต้องนิวซีแลนด์? โอกาสด้านการศึกษาและเส้นทางสู่อนาคตที่คุณเลือกได้!

นอกเหนือจากทัศนียภาพอันงดงาม วัฒนธรรมเมารีอันเป็นเอกลักษณ์ และความเป็นมิตรของผู้คน นิวซีแลนด์ยังโดดเด่นในฐานะจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักเรียนต่างชาติ และผู้ที่มองหาโอกาสในการย้ายถิ่นฐาน การเลือกเรียนต่อที่นิวซีแลนด์จึงไม่ใช่แค่การได้รับวุฒิการศึกษา แต่คือการลงทุนในไลฟ์สไตล์คุณภาพสูง โอกาสทางอาชีพที่เปิดกว้าง และอนาคตที่คุณออกแบบเองได้

  • คุณภาพการศึกษาระดับโลก ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล: สถาบันการศึกษาในนิวซีแลนด์ ตั้งแต่ระดับมหาวิทยาลัยไปจนถึงสถาบันเทคโนโลยี ล้วนได้รับการจัดอันดับและเป็นที่ยอมรับในระดับโลก หลักสูตรต่างๆ มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะแห่งอนาคต ทั้งการคิดเชิงวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และทักษะปฏิบัติที่จำเป็นต่อตลาดแรงงานยุคใหม่ หลายหลักสูตรยังรวมการฝึกงาน (industry placements) เพื่อให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์การทำงานจริงตั้งแต่ยังเรียนอยู่ การเรียนที่นี่จึงเป็นการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในเวทีโลก
  • สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย การใช้ชีวิตที่สมดุล และคุณภาพชีวิตที่เหนือกว่า: นิวซีแลนด์ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลก พร้อมด้วยคุณภาพชีวิตที่ยอดเยี่ยม คุณจะได้สัมผัสกับสังคมพหุวัฒนธรรมที่เปิดกว้างและเป็นมิตร การมีประชากรที่ไม่หนาแน่นเท่าประเทศพัฒนาแล้วอื่นๆ ทำให้คุณได้ใช้ชีวิตที่สงบ มีพื้นที่สีเขียว และใกล้ชิดธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นชายหาด ภูเขา หรือป่าไม้เขียวขจี ระบบสาธารณสุขและบริการภาครัฐมีมาตรฐานสูง มั่นใจได้ถึงคุณภาพชีวิตที่ดีเยี่ยม
  • โอกาสทำงานหลังเรียนจบ เพื่อต่อยอดสู่การตั้งถิ่นฐานระยะยาว: แตกต่างจากหลายประเทศที่อาจมีข้อจำกัดด้านการทำงานหลังเรียนจบ นโยบายด้านการเข้าเมืองของนิวซีแลนด์มุ่งเน้นการสนับสนุนนักศึกษาต่างชาติที่มีทักษะให้สามารถอยู่ต่อและร่วมพัฒนาประเทศ โอกาสในการขอ Post-Study Work Visa ที่ยืดหยุ่น (ระยะเวลา 1-3 ปี ขึ้นอยู่กับวุฒิการศึกษาและสถานที่เรียน) ช่วยให้คุณมีเวลาเพียงพอในการสั่งสมประสบการณ์ทำงานจริงในนิวซีแลนด์ สร้างเครือข่ายมืออาชีพ และแสดงศักยภาพของคุณให้แก่นายจ้างในอนาคต ซึ่งล้วนเป็นบันไดสำคัญสู่การสมัครขอ PR

รายได้และสวัสดิการที่น่าสนใจ พร้อมระบบการทำงานที่ยุติธรรม:

  • รายได้เฉลี่ย (Average Income) สำหรับงานประจำ:
    • จากข้อมูลล่าสุด (ปี 2024) รายได้เฉลี่ยต่อสัปดาห์จากค่าจ้างและเงินเดือน (median weekly earnings from wages and salaries) อยู่ที่ประมาณ NZD $1,343 (หรือคิดเป็นประมาณ NZD $69,836 ต่อปี หากทำงานเต็มเวลา)
    • สำหรับ รายได้เฉลี่ยต่อปี (mean annual earnings) สำหรับบุคคลทั่วไปอยู่ที่ประมาณ NZD $78,731 (ข้อมูล ณ มีนาคม 2024)
    • รายได้เฉลี่ยของครัวเรือน (average household income) อยู่ที่ประมาณ NZD $132,873 ต่อปี (ข้อมูล ณ มีนาคม 2024)
    • ทั้งนี้ รายได้จะแตกต่างกันไปตามอุตสาหกรรม ตำแหน่งงาน ประสบการณ์ และทักษะของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับอาชีพที่อยู่ใน Green List ซึ่งเป็นที่ต้องการสูง มักจะมีรายได้ที่แข่งขันได้และสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด ทำให้คุณมีศักยภาพในการสร้างความมั่นคงทางการเงินที่ดีเยี่ยม
  • สวัสดิการและสิทธิประโยชน์: ระบบสวัสดิการแรงงานในนิวซีแลนด์ให้ความสำคัญกับสิทธิของลูกจ้าง คุณจะได้รับสิทธิ์ในการลาป่วย (sick leave), วันหยุดพักผ่อนประจำปี (annual leave), การคุ้มครองแรงงานตามกฎหมาย และการเข้าถึงระบบประกันสังคมบางส่วน (เช่น ACC – Accident Compensation Corporation สำหรับการบาดเจ็บ) นอกจากนี้ บริษัทส่วนใหญ่ยังมีสวัสดิการเพิ่มเติม เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (KiwiSaver) ซึ่งนายจ้างร่วมสมทบด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยสร้างความมั่นคงในระยะยาว
  • เส้นทางสู่ PR ที่ชัดเจนและเป็นไปได้จริง: รัฐบาลนิวซีแลนด์มีความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทักษะ ด้วยนโยบายการเข้าเมืองที่ออกแบบมาเพื่อดึงดูดและรักษาผู้มีทักษะไว้ในประเทศ นี่หมายความว่า หากคุณเลือกเส้นทางการศึกษาที่เหมาะสมและได้รับประสบการณ์ทำงานที่เกี่ยวข้อง การเดินทางสู่การมีถิ่นที่อยู่ถาวร (PR) ของคุณจะมีโครงสร้างที่ชัดเจน เป็นไปได้จริง และเป็นระบบที่สร้างขึ้นเพื่อประโยชน์ร่วมกันของทั้งคุณและเศรษฐกิจของนิวซีแลนด์

 

รู้หรือไม่? หนังสือเดินทางนิวซีแลนด์ เดินทางได้ 190 ประเทศทั่วโลก โดยไม่ต้องขอวีซ่า (Visa-free) หรือขอวีซ่าเมื่อเดินทางถึง (Visa-on-arrival) !

ข้อมูลอ้างอิง: ณ เดือนมิถุนายน 2568 (June 2025) ตามดัชนี Passport Index พาสปอร์ตนิวซีแลนด์ยังคงอยู่ในกลุ่มที่แข็งแกร่งมาก สามารถเดินทางไปได้ประมาณ 190+ ประเทศ/ปลายทางโดยไม่ต้องขอวีซ่าหรือขอ Visa-on-arrival/eTA 

ข้อควรทราบสำคัญ:

บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นเพียงแนวทางเบื้องต้นสำหรับเส้นทางการขอถิ่นที่อยู่ถาวร (PR) ในนิวซีแลนด์ผ่านการศึกษาในภาพรวม ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ท่านสามารถค้นหาได้โดยทั่วไป ทาง The Best Education ได้สรุปและนำเสนอข้อมูลเพื่อให้เป็นประโยชน์กับผู้สนใจศึกษาต่อในประเทศนิวซีแลนด์เท่านั้น

ในส่วนของบริการของ The Best Education เรามุ่งเน้นและมีหน้าที่หลักในการให้คำปรึกษาและคำแนะนำเกี่ยวกับวีซ่านักเรียน (Student Visa) และการวางแผนการศึกษาในประเทศนิวซีแลนด์โดยเฉพาะ

หากท่านต้องการข้อมูลที่ละเอียด ชัดเจน และคำแนะนำเฉพาะบุคคลเกี่ยวกับวีซ่าทำงาน (Work Visa) หรือวีซ่าผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวร (Resident Visa) ซึ่งเป็นประเด็นที่มีความซับซ้อนและนโยบายอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ท่านควรติดต่อ Immigration New Zealand โดยตรง หรือปรึกษา Licensed Immigration Adviser (LIA) ที่ได้รับการรับรองจากนิวซีแลนด์ เพื่อให้มั่นใจว่าได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันที่สุด

ก้าวสำคัญสู่อนาคตที่มั่นคง ทำไมต้องเริ่มต้นที่วีซ่านักเรียน? 

คุณอาจสงสัยว่าทำไมการเริ่มต้นด้วย Student Visa จึงเป็นเส้นทางที่แนะนำและมีประสิทธิภาพที่สุดสำหรับการย้ายถิ่นฐานระยะยาวในนิวซีแลนด์ แม้ว่าจะมีวีซ่าประเภทอื่นๆ ที่นำไปสู่การทำงานและ PR ได้ แต่สำหรับนักเรียนต่างชาติ การเริ่มต้นที่นี่มีข้อได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญดังนี้:

  • สร้างรากฐานที่แข็งแกร่งในระบบของนิวซีแลนด์: การศึกษาในนิวซีแลนด์ไม่เพียงแต่ให้คุณวุฒิที่ได้รับการยอมรับระดับโลก แต่ยังช่วยให้คุณคุ้นเคยกับวัฒนธรรมการทำงาน กฎระเบียบ และการใช้ชีวิตในท้องถิ่น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการปรับตัวและประสบความสำเร็จในระยะยาว ระบบการศึกษาที่นี่ออกแบบมาเพื่อเตรียมความพร้อมให้คุณก้าวเข้าสู่ตลาดแรงงานได้อย่างราบรื่น
  • โอกาสในการได้รับ Post-Study Work Visa: หลังจากสำเร็จการศึกษาจากสถาบันในนิวซีแลนด์ คุณจะมีสิทธิ์สมัคร Post-Study Work Visa ซึ่งเป็นวีซ่าทำงานที่สำคัญมาก วีซ่านี้อนุญาตให้คุณทำงานในนิวซีแลนด์ได้ระยะหนึ่ง (สูงสุด 3 ปี) เพื่อสั่งสมประสบการณ์ในสาขาที่คุณเรียนมา ประสบการณ์ทำงานในนิวซีแลนด์นี้เองที่เป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งในการสมัครขอ Resident Visa ในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากงานของคุณอยู่ใน Green List
  • เพิ่มคะแนนสำหรับการสมัคร PR (Skilled Migrant Category – SMC): การมีคุณวุฒิที่ได้จากนิวซีแลนด์ และประสบการณ์ทำงานในประเทศ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่เพิ่มคะแนนของคุณในการยื่นขอ Resident Visa ภายใต้ Skilled Migrant Category (SMC) การเรียนที่นิวซีแลนด์แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของคุณต่อประเทศนี้ และทำให้โปรไฟล์ของคุณน่าสนใจยิ่งขึ้นสำหรับ Immigration New Zealand
  • เปิดประตูสู่เครือข่ายมืออาชีพและการหางาน: ในฐานะนักเรียน คุณจะมีโอกาสสร้างเครือข่ายกับเพื่อนร่วมชั้น อาจารย์ และผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมผ่านการฝึกงาน โครงการ และกิจกรรมต่างๆ เครือข่ายเหล่านี้มีค่าอย่างยิ่งเมื่อถึงเวลาที่คุณต้องหางานประจำหลังเรียนจบ ซึ่งเป็นก้าวสำคัญถัดไปในการขอ PR
  • โอกาสในการทำงานระหว่างเรียน: Student Visa อนุญาตให้คุณทำงานนอกเวลาได้ (ปกติ 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ระหว่างเรียน และเต็มเวลาในช่วงวันหยุด) ซึ่งไม่เพียงช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย แต่ยังมอบประสบการณ์การทำงานในสภาพแวดล้อมจริง และช่วยให้คุณเข้าใจตลาดแรงงานของนิวซีแลนด์ได้ดีขึ้น

กล่าวโดยสรุป การเริ่มต้นด้วย Student Visa จึงไม่ใช่แค่การขออนุญาตเรียน แต่เป็นการวางแผนกลยุทธ์ที่รอบคอบ เพื่อให้คุณมีคุณสมบัติ ประสบการณ์ และเครือข่ายที่จำเป็นสำหรับการสร้างอนาคตระยะยาวในนิวซีแลนด์อย่างแท้จริง

[แนะนำ: แทรกรูปภาพนักเรียนที่กำลังเรียนในห้องเรียน, หรือทำกิจกรรมในมหาวิทยาลัย]

ประเภทวีซ่านักเรียนนิวซีแลนด์: เลือกให้เหมาะกับเป้าหมายของคุณ

เพื่อการวางแผนที่ชัดเจน การทำความเข้าใจประเภทของวีซ่านักเรียนนิวซีแลนด์เป็นสิ่งสำคัญ โดยหลักแล้ว วีซ่านักเรียนจะแบ่งตามระยะเวลาและวัตถุประสงค์ของการศึกษา โดยเราจะเน้นที่สองประเภทหลักที่เกี่ยวข้องกับการเรียนระยะยาวและเส้นทางสู่ PR เป็นสำคัญ สำหรับผู้ที่ตั้งใจจะเรียนต่อเพื่อสร้างเส้นทางสู่ PR ในนิวซีแลนด์ Fee-Paying Student Visa และ Pathway Student Visa คือตัวเลือกหลักที่คุณควรศึกษาและพิจารณา โดย Pathway Student Visa มักจะเป็นตัวเลือกที่ได้เปรียบกว่า หากคุณวางแผนการศึกษาและอาชีพในระยะยาวและต้องการความยืดหยุ่นสูงสุด เนื่องจากอนุญาตให้คุณเรียนในหลักสูตรที่ยาวนานและมีสิทธิ์ทำงานได้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสะสมคุณสมบัติ ประสบการณ์ และเครือข่ายเพื่อขอวีซ่าทำงานและ PR ในอนาคตครับ

  1. Fee-Paying Student Visa (วีซ่านักเรียนแบบชำระค่าเรียนเอง):

    • วัตถุประสงค์: นี่คือวีซ่าที่พบบ่อยที่สุดสำหรับนักเรียนต่างชาติที่ต้องการศึกษาแบบเต็มเวลาในนิวซีแลนด์เป็นระยะเวลานานกว่า 3 เดือน (เช่น หลักสูตรภาษาอังกฤษระยะยาว, Diploma, Bachelor Degree, Master Degree, PhD) เหมาะสำหรับผู้ที่ทราบหลักสูตรและสถาบันที่ต้องการเรียนอย่างชัดเจน
    • ระยะเวลา: ปกติจะออกให้ตามระยะเวลาของหลักสูตรที่คุณชำระค่าเรียนไป (สูงสุด 4 ปี หรือตามระยะเวลาของหลักสูตร)
    • สิทธิ์การทำงาน: โดยทั่วไปอนุญาตให้ทำงานนอกเวลาได้สูงสุด 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในระหว่างเรียน และเต็มเวลาในช่วงวันหยุดตามกำหนดของสถาบัน ซึ่งช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายและมอบประสบการณ์ทำงาน
    • เงื่อนไขสำคัญ: คุณต้องมี Offer of Place (จดหมายตอบรับ) จากสถาบันที่ได้รับการอนุมัติ และแสดงหลักฐานทางการเงินที่เพียงพอสำหรับค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพตลอดระยะเวลาที่ยื่นขอวีซ่า
    • ข้อดี:
      • ตรงไปตรงมา: เป็นวีซ่ามาตรฐานที่เข้าใจง่ายและใช้กันแพร่หลาย
      • ทางเลือกสถาบันหลากหลาย: สามารถเลือกเรียนกับสถาบันที่ได้รับการอนุมัติเกือบทั้งหมดในนิวซีแลนด์ (ตราบเท่าที่หลักสูตรตรงตามคุณสมบัติ)
      • เหมาะกับแผนการศึกษาที่ชัดเจน: หากคุณวางแผนเรียนเพียง 1 หลักสูตรหรือ 1 ระดับการศึกษาอย่างชัดเจน วีซ่านี้ก็เพียงพอแล้ว
    • ข้อเสีย:
      • ต้องยื่นวีซ่าใหม่หากเปลี่ยนหลักสูตร/สถาบัน: หากคุณต้องการเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น หรือเปลี่ยนสถาบัน/หลักสูตร (ที่ไม่ได้อยู่ใน Pathway) คุณอาจต้องยื่นขอวีซ่าใหม่ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายและใช้เวลาดำเนินการเพิ่มเติม
      • ความยืดหยุ่นน้อยกว่า: หากแผนการศึกษาของคุณอาจเปลี่ยนแปลงในอนาคต วีซ่านี้อาจไม่เอื้อต่อการปรับเปลี่ยนมากนัก

 

Pathway Student Visa (วีซ่านักเรียนแบบ Pathway):

    • วัตถุประสงค์: นี่คือวีซ่าที่เป็นนวัตกรรมและน่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับนักเรียนที่ต้องการเรียนหลายหลักสูตรต่อเนื่องกัน (สูงสุด 3 หลักสูตร) กับผู้ให้บริการด้านการศึกษาที่ได้รับการอนุมัติ ภายใต้วีซ่าเพียงใบเดียว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการวางแผนการศึกษาและอาชีพในระยะยาว
    • ระยะเวลา: สามารถพำนักได้สูงสุด 5 ปี
    • สิทธิ์การทำงาน: เช่นเดียวกับ Fee-Paying Student Visa คือสามารถทำงานนอกเวลาได้ 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ระหว่างเรียน และเต็มเวลาช่วงวันหยุดตามกำหนด
    • เงื่อนไขสำคัญ: คุณต้องได้รับการตอบรับจากสถาบันที่เข้าร่วมโครงการ Pathway และแผนการเรียนของคุณต้องได้รับการอนุมัติเป็น “เส้นทาง” ที่ต่อเนื่องกัน
    • ข้อดี:
      • ความยืดหยุ่นสูง: สามารถเปลี่ยนหลักสูตรหรือสถาบัน (ภายในกลุ่ม Pathway ที่ตกลงไว้) ได้ง่ายกว่า โดยไม่ต้องยื่นวีซ่าใหม่ ทำให้การวางแผนอนาคตสะดวกขึ้นมาก
      • ความแน่นอนระยะยาว: ได้รับวีซ่าที่มีระยะเวลายาวนานกว่า ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการต่อวีซ่าบ่อยๆ
      • วางแผนสู่ PR ได้ดีกว่า: เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่วางแผนเรียนเพื่อต่อยอดสู่การทำงานและขอ PR เพราะสามารถวางแผนหลักสูตรระยะยาวได้ตั้งแต่ต้น
      • ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย: ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมวีซ่าและเสียเวลาดำเนินการหลายครั้ง
    • ข้อเสีย:
      • จำกัดสถาบันและหลักสูตร: คุณต้องเลือกเรียนกับสถาบันที่ได้รับการรับรองและเข้าร่วมโครงการ Pathway Student Visa เท่านั้น และแผนการเรียนของคุณต้องเป็นไปตามที่ตกลงไว้ใน Pathway
      • ต้องมีแผนที่ชัดเจนในระดับหนึ่ง: แม้จะยืดหยุ่น แต่ก็ยังต้องมีแผนการเรียนต่อเนื่องที่ชัดเจนตั้งแต่แรก

เรียนต่อสาขาอะไรดี เลือกหลักสูตรที่ใช่ และต้องพิจารณาจาก Green List – เพื่อผลลัพธ์สูงสุด

การวางแผนการเรียนที่สำคัญที่สุดที่คุณจะทำในการเดินทางสู่ PR การเรียนคุณวุฒิที่นำไปสู่อาชีพใน Green List ของนิวซีแลนด์ไม่ได้เป็นเพียงการได้งานทำเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนที่ตรงเป้าหมายในอนาคตของคุณ และการปรับตัวเองให้เข้ากับการขาดแคลนทักษะระดับประเทศของนิวซีแลนด์โดยตรง ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการหางานที่มีทักษะ และตามมาด้วยโอกาสการมีถิ่นที่อยู่ถาวร

Green List คืออะไร? เจาะลึกยิ่งขึ้น:

Green List เป็นทะเบียนอาชีพซึ่งเป็นที่ต้องการอย่างมากและกำลังขาดแคลนผู้มีทักษะในนิวซีแลนด์ อาชีพเหล่านี้แบ่งออกเป็นสองระดับ ซึ่งแต่ละระดับเสนอเส้นทางเร่งด่วนที่แตกต่างกันไปสู่การมีถิ่นที่อยู่:

  • Teir 1 (ระดับ 1): Straight to Residence (ยื่นขอ PR ได้โดยตรง): เป็นตำแหน่งเฉพาะทางสูงที่นิวซีแลนด์ต้องการบุคลากรทักษะอย่างเร่งด่วน หากคุณได้รับข้อเสนองานในอาชีพ Tier 1 Green List และตรงตามเกณฑ์ทั้งหมด คุณอาจมีสิทธิ์ยื่นขอถิ่นที่อยู่ได้โดยตรงจากต่างประเทศ หรือหลังจากมาถึงนิวซีแลนด์ไม่นาน
  • Teir 2 (ระดับ 2): Work to Residence (ทำงานไประยะหนึ่งก่อนขอ PR): อาชีพเหล่านี้ก็เป็นที่ต้องการสูงเช่นกัน แต่โดยทั่วไปต้องมีประสบการณ์ทำงานที่มีทักษะในนิวซีแลนด์เป็นระยะเวลาหนึ่ง (เช่น สองปี) ก่อนที่คุณจะมีสิทธิ์ยื่นขอถิ่นที่อยู่ ช่วงเวลานี้ช่วยให้คุณพิสูจน์ความสามารถและผลงานของคุณต่อเศรษฐกิจของนิวซีแลนด์

การเลือกหลักสูตรเชิงกลยุทธ์: ตัวอย่างและข้อควรพิจารณา:

เมื่อเลือกโปรแกรมของคุณ ให้พิจารณาภาคส่วนที่มีความต้องการสูงและบทบาทเฉพาะที่มักปรากฏใน Green List:

  • การดูแลสุขภาพ (Healthcare): (เช่น พยาบาลวิชาชีพ, แพทย์, ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้อง, พยาบาลผดุงครรภ์) นิวซีแลนด์มีความต้องการบุคลากรทางการแพทย์อย่างต่อเนื่องในทุกสาขาเฉพาะทาง
  • วิศวกรรม (Engineering): (เช่น วิศวกรโยธา, วิศวกรโครงสร้าง, วิศวกรไฟฟ้า, วิศวกรเคมี, วิศวกรสิ่งแวดล้อม) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการริเริ่มด้านความยั่งยืนผลักดันความต้องการที่แข็งแกร่ง
  • เทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัล (Information Technology & Digital): (เช่น นักพัฒนาซอฟต์แวร์, นักวิเคราะห์ความปลอดภัยทางไซเบอร์, นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล, สถาปนิก ICT) เศรษฐกิจดิจิทัลกำลังเฟื่องฟู และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีที่มีทักษะเป็นที่ต้องการอย่างมาก
  • การก่อสร้าง (Construction): (เช่น ผู้จัดการโครงการก่อสร้าง, Quantity Surveyors, สถาปนิก, Surveyors) การพัฒนาเมืองอย่างรวดเร็วและโครงการโครงสร้างพื้นฐานรับประกันความต้องการอย่างต่อเนื่อง
  • การศึกษา (Education): (เช่น ครูปฐมวัย, ครูมัธยมศึกษา) บทบาทเหล่านี้เป็นที่ต้องการอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ
  • สายอาชีพช่าง (Trades): (เช่น ช่างไฟฟ้าในรถยนต์, ช่างประปา, ช่างไม้, ช่างไฟฟ้า) ช่างฝีมือที่มีทักษะเป็นที่ต้องการสูงและมักมีเส้นทางที่ชัดเจน

ข้อควรจำที่สำคัญ: ควรตรวจสอบ Green List อย่างเป็นทางการของ Immigration New Zealand เสมอเพื่อรับข้อมูลที่ทันสมัยและแม่นยำที่สุด เนื่องจากอาจมีการอัปเดต การเลือกคุณวุฒิที่นำไปสู่อาชีพเหล่านี้โดยตรงเป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทนอันคุ้มค่าต่อความปรารถนาในการขอ PR ของคุณ

[แนะนำ: แทรกรูปภาพของมหาวิทยาลัย/สถาบันเทคโนโลยีชั้นนำในนิวซีแลนด์ หรือภาพกิจกรรมในมหาวิทยาลัย]

เลือกสาขาที่เรียนได้แล้ว เรียนต่อกับสถาบันการศึกษาอะไรดี?

เมื่อคุณตัดสินใจเลือกสาขาหรืออาชีพเป้าหมายที่สอดคล้องกับ Green List ได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกสถาบันการศึกษาที่เหมาะสม ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพการเรียนรู้และโอกาสในอนาคตของคุณ

ในการเลือกสถาบันในนิวซีแลนด์ สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจประเภทของสถาบันการศึกษาที่มี เพื่อให้คุณสามารถเลือกได้อย่างตรงกับเป้าหมายและรูปแบบการเรียนที่ต้องการ:

  • มหาวิทยาลัย (Universities):

    • ลักษณะ: มหาวิทยาลัยในนิวซีแลนด์เน้นการศึกษาเชิงวิชาการ การวิจัย และการคิดเชิงวิพากษ์ มีชื่อเสียงระดับโลกและได้รับการจัดอันดับสูง
    • หลักสูตร: เปิดสอนตั้งแต่ระดับปริญญาตรี (Bachelor’s Degree), ปริญญาโท (Master’s Degree) ไปจนถึงปริญญาเอก (PhD) ในหลากหลายสาขาวิชา ทั้งสายวิทยาศาสตร์ ศิลปศาสตร์ พาณิชยศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และการแพทย์
    • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการศึกษาต่อในระดับสูง เน้นงานวิจัย ต้องการความเชี่ยวชาญเชิงลึก และสร้างพื้นฐานทางวิชาการที่แข็งแกร่ง ซึ่งมักจะเป็นคุณวุฒิที่เพิ่มคะแนนสำหรับ Skilled Migrant Category (SMC) และบางสาขาอยู่ใน Green List Tier 1
    • ตัวอย่าง: University of Auckland, University of Otago, Victoria University of Wellington, University of Canterbury
  • สถาบันเทคโนโลยีและโพลีเทคนิค (Institutes of Technology and Polytechnics – ITPs หรือ Te Pūkenga):

    • ลักษณะ: ITPs เน้นการศึกษาเชิงปฏิบัติและอาชีวศึกษา (Vocational Education) โดยหลักสูตรได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมโดยตรง
    • หลักสูตร: เปิดสอนตั้งแต่ประกาศนียบัตร (Certificates), อนุปริญญา (Diplomas) ไปจนถึงปริญญาตรีและปริญญาโทในบางสาขา
    • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการทักษะที่นำไปใช้ได้จริงในการทำงานโดยตรง ต้องการเรียนรู้ผ่านการลงมือปฏิบัติ และมองหาเส้นทางอาชีพในสายงานช่าง เทคโนโลยี การค้า บริการ หรือสาขาเฉพาะทางอื่นๆ หลายหลักสูตรของ ITPs สามารถนำไปสู่อาชีพใน Green List Tier 2 หรือใช้เป็นเส้นทางสู่ Accredited Employer Work Visa (AEWV) ก่อนขอ PR ได้
    • ตัวอย่าง: Unitec Institute of Technology, Ara Institute of Canterbury, Otago Polytechnic, Southern Institute of Technology (SIT)
  • สถาบันฝึกอบรมวิชาชีพเอกชน (Private Training Establishments – PTEs):

    • ลักษณะ: เป็นสถาบันเอกชนที่เปิดสอนหลักสูตรเฉพาะทางที่หลากหลาย มักจะมีความยืดหยุ่นในเรื่องระยะเวลาและรูปแบบการเรียน
    • หลักสูตร: มีตั้งแต่หลักสูตรภาษาอังกฤษ หลักสูตรวิชาชีพเฉพาะทาง ไปจนถึงอนุปริญญาหรือปริญญาในบางสาขา
    • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการเรียนหลักสูตรเฉพาะทางในระยะเวลาสั้นลง ต้องการความยืดหยุ่น หรือหลักสูตรที่อาจไม่เปิดสอนในมหาวิทยาลัยหรือ ITPs สิ่งสำคัญคือต้องตรวจสอบการรับรองจาก NZQA อย่างละเอียด และพิจารณาว่าหลักสูตรนั้นๆ นำไปสู่อาชีพใน Green List หรือโอกาสในการทำงานที่มีทักษะได้หรือไม่
    • ตัวอย่าง: UP Education, New Zealand School of Tourism, Le Cordon Bleu New Zealand

ไม่แน่ใจว่าจะเรียนต่อสาขาอะไร หรือเลือกสถาบันแบบไหนดี? ต้องการข้อมูลทุนการศึกษา หรือวางแผนงบประมาณ? ปรึกษาได้เลย!

การตัดสินใจเลือกเส้นทางการศึกษาในต่างประเทศนับเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบและรอบด้าน ไม่ว่าท่านจะกำลังมีข้อสงสัยในประเด็นเหล่านี้:

  • “ยังไม่แน่ใจว่าควรเรียนต่อสาขาใด ที่จะเหมาะสมกับความสามารถ และเพิ่มโอกาสในการทำงานในประเทศนิวซีแลนด์?”
  • “ควรพิจารณาเลือกสถาบันการศึกษาประเภทใด (มหาวิทยาลัย, ITPs, หรือ PTEs) เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายระยะยาว?”
  • “มีข้อมูลเกี่ยวกับทุนการศึกษา (Scholarships) สำหรับนักเรียนต่างชาติ หรือแนวทางการค้นหาทุนที่เหมาะสมอย่างไรบ้าง?”
  • “งบประมาณที่จำเป็นสำหรับการศึกษาและค่าครองชีพในนิวซีแลนด์โดยประมาณอยู่ที่เท่าไร และควรวางแผนการเงินอย่างไรเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด?”

หากท่านมีข้อสงสัยเหล่านี้ หรือมีความประสงค์ที่จะขอรับข้อมูลเชิงลึกที่สามารถปรับให้เข้ากับสถานการณ์เฉพาะของท่านได้ โปรดติดต่อ The Best Education เพื่อขอรับคำปรึกษาได้ทันที! เราพร้อมให้คำแนะนำอย่างมืออาชีพ เพื่อสนับสนุนให้ท่านสามารถวางแผนการศึกษาในประเทศนิวซีแลนด์ได้อย่างมั่นใจและบรรลุผลสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้

 

การเดินทางสู่ PR หลังเรียนจบ: เส้นทางทีละขั้นตอนของคุณ

การสำเร็จการศึกษาเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญ และมันจะเปิดเส้นทางที่ชัดเจนไปสู่การมีถิ่นที่อยู่ถาวร นี่คือรายละเอียดเพิ่มเติมของขั้นตอนและข้อควรพิจารณาที่สำคัญ:

  1. The Essential Post-Study Work Visa: นี่มักจะเป็นขั้นตอนต่อไปของคุณทันที หลังจากสำเร็จการศึกษาจากโปรแกรมที่มีคุณสมบัติในนิวซีแลนด์ คุณสามารถยื่นขอ Post-Study Work Visa ได้

    • คุณสมบัติ: โดยทั่วไป คุณต้องสำเร็จการศึกษาในระดับ 7 (ปริญญาตรี) ขึ้นไป หรือคุณวุฒิระดับ 4-6 (อนุปริญญา/ประกาศนียบัตร) หากนำไปสู่อาชีพใน Green List
    • ระยะเวลา: ระยะเวลาของวีซ่าจะแตกต่างกันไป (ตั้งแต่ 1 ถึง 3 ปี) ขึ้นอยู่กับระดับคุณวุฒิของคุณและสถานที่ที่คุณศึกษา (เช่น การศึกษาในเมืองนอกโอ๊คแลนด์อาจให้วีซ่าที่ยาวนานกว่า)
    • วัตถุประสงค์: วีซ่านี้ช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์การทำงานที่มีทักษะในนิวซีแลนด์ ประสบการณ์นี้สำคัญอย่างยิ่งสำหรับการสร้างโปรไฟล์ของคุณเพื่อยื่นขอ PR และสร้างเครือข่ายในตลาดงานท้องถิ่น
  2. The Primary Pathway: Skilled Migrant Category (SMC) Resident Visa: สำหรับผู้สำเร็จการศึกษาที่มีทักษะจำนวนมาก SMC เป็นเส้นทางหลักสู่การมีถิ่นที่อยู่ถาวร เป็นระบบคะแนนที่โปร่งใส ซึ่งออกแบบมาเพื่อดึงดูดและรักษาผู้ย้ายถิ่นฐานที่มีทักษะซึ่งจะนำไปสู่เศรษฐกิจของนิวซีแลนด์

    • Expression of Interest (EOI): คุณส่ง EOI โดยละเอียดเกี่ยวกับคะแนนของคุณ (คำนวณตามอายุ คุณวุฒิ ประสบการณ์ทำงานที่มีทักษะในนิวซีแลนด์ และปัจจัยอื่นๆ)
    • Invitation to Apply (ITA): หาก EOI ของคุณตรงตามเกณฑ์การคัดเลือก คุณจะได้รับ ITA เพื่อยื่นขอ Resident Visa
    • การยื่นใบสมัคร: จากนั้นคุณจะยื่นใบสมัครอย่างเป็นทางการพร้อมเอกสารประกอบทั้งหมด
    • คะแนนสำคัญที่ต้องเพิ่มให้สูงสุด:
      • การจ้างงานที่มีทักษะในนิวซีแลนด์: นี่คือปัจจัยที่สำคัญที่สุด การได้รับข้อเสนองาน โดยเฉพาะในบทบาท Green List กับนายจ้างในนิวซีแลนด์ เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
      • คุณวุฒิของนิวซีแลนด์: คุณวุฒิที่ได้รับในนิวซีแลนด์มีคุณค่าสูงและมีส่วนสำคัญต่อคะแนนของคุณ
      • ประสบการณ์ทำงานที่เกี่ยวข้อง: ประสบการณ์ที่ได้รับในนิวซีแลนด์ โดยเฉพาะหลังเรียนจบ มีประโยชน์อย่างมาก
      • ความสามารถทางภาษาอังกฤษ: คะแนนสูงในการทดสอบภาษาอังกฤษที่เป็นที่ยอมรับ (IELTS Academic/General, PTE Academic ฯลฯ) เป็นข้อบังคับ 
        • อายุ: ผู้สมัครที่อายุน้อยกว่ามักจะได้รับคะแนนมากกว่า แต่ผู้ที่มีทักษะจนถึงอายุ 55 ปีก็มีสิทธิ์
  3. เส้นทางเร่งด่วน: Green List Straight to Residence / Work to Residence: ดังที่กล่าวไปแล้ว หากอาชีพของคุณอยู่ใน Green List เส้นทางเหล่านี้เสนอเส้นทางที่ตรงกว่าไปสู่ PR

    • Straight to Residence: หากคุณได้งานในตำแหน่ง Tier 1 Green List คุณสามารถยื่นขอถิ่นที่อยู่ได้โดยตรง โดยมีเงื่อนไขว่าคุณต้องมีคุณสมบัติอื่นๆ ครบถ้วน นี่คือเส้นทางที่เร็วที่สุดสำหรับผู้ย้ายถิ่นฐานที่มีทักษะที่เข้าเกณฑ์
    • Work to Residence: หากคุณอยู่ในตำแหน่ง Tier 2 Green List คุณจะต้องทำงานในบทบาทนั้นเป็นระยะเวลาที่กำหนด (เช่น สองปี) ในวีซ่าทำงานจากนายจ้างที่ได้รับการรับรองก่อนที่คุณจะสามารถยื่นขอถิ่นที่อยู่ได้

ข้อกำหนดทั่วไปสำหรับ PR ที่บังคับใช้ในทุกเส้นทาง: นอกเหนือจากเกณฑ์เฉพาะของแต่ละประเภท ผู้สมัคร PR ทุกคนต้องแสดงให้เห็นถึง:

  • สุขภาพที่ดี: ผ่านการตรวจสุขภาพ
  • อุปนิสัยที่ดี: ผ่านใบรับรองประวัติอาชญากรรมจากประเทศที่เกี่ยวข้อง
  • ความสามารถทางภาษาอังกฤษ: ตรงตามข้อกำหนดความเชี่ยวชาญขั้นต่ำ
  • ความมุ่งมั่นต่อนิวซีแลนด์: แสดงเจตนาที่แท้จริงที่จะพำนักในนิวซีแลนด์ในระยะยาว

 

ตัวอย่างกรณีศึกษาแต่ละอาชีพ

กรณีศึกษา 1: พยาบาล (Nursing) – อาชีพใน Green List Tier 1 (ซ่อนเนื้อหาด้านล่าง)

นิวซีแลนด์มีความต้องการบุคลากรพยาบาลที่มีคุณสมบัติอย่างต่อเนื่องและมีนัยสำคัญทั่วประเทศ หากท่านเป็นผู้ใฝ่ฝันอยากเป็นพยาบาล หรือเป็นพยาบาลที่มีประสบการณ์ที่ต้องการย้ายถิ่นฐาน นี่คือเส้นทางทั่วไปที่น่าสนใจ:

  1. การประเมินและการขึ้นทะเบียนเบื้องต้น:
    • สำหรับพยาบาลต่างชาติที่มีวุฒิ: ท่านจะต้องให้ Nursing Council of New Zealand (NCNZ) ประเมินคุณวุฒิและทักษะภาษาอังกฤษ (เช่น IELTS 7.0 ทุกทักษะ หรือ OET B) หากจำเป็นอาจต้องเข้ารับหลักสูตร Competency Assessment Programme (CAP) ในนิวซีแลนด์ (ใช้ Pathway Student Visa หรือ Fee-Paying Student Visa) เพื่อให้มีคุณสมบัติตามเกณฑ์การขึ้นทะเบียน
    • สำหรับนักเรียนใหม่: ลงทะเบียนเรียนหลักสูตร Bachelor of Nursing (ระดับ 7) หรือ Postgraduate Diploma in Nursing (ระดับ 8) ที่ได้รับการรับรองจาก NCNZ โดยใช้ Pathway Student Visa หรือ Fee-Paying Student Visa
  2. การขึ้นทะเบียนชั่วคราวและการหางาน: เมื่อสำเร็จ CAP หรือหลักสูตรพยาบาล ท่านสามารถยื่นขอใบอนุญาตขึ้นทะเบียนชั่วคราวกับ NCNZ เพื่อเริ่มหางานในตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพ
  3. การได้งานและการขึ้นทะเบียนเต็มรูปแบบ: ได้รับข้อเสนองานในตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพ (Registered Nurse) ซึ่งจัดเป็นอาชีพใน Green List Tier 1 เมื่อมีข้อเสนองานและเริ่มทำงาน ท่านจะสามารถยื่นขอขึ้นทะเบียนเต็มรูปแบบกับ NCNZ ได้
  4. เส้นทางสู่ถิ่นที่อยู่ถาวร (PR): ในฐานะพยาบาลวิชาชีพ ซึ่งอยู่ใน Green List Tier 1 ท่านมีสิทธิ์ยื่นขอ Straight to Residence Visa ได้โดยตรง ซึ่งเป็นเส้นทางที่รวดเร็วที่สุดสู่ PR ในนิวซีแลนด์ โดยสามารถทำได้แม้จะอยู่ต่างประเทศเมื่อมีคุณสมบัติครบถ้วนและข้อเสนองาน

กรณีศึกษา 2: วิศวกรรม (Engineering – เช่น วิศวกรโยธา) – อาชีพใน Green List Tier 1 (ซ่อนเนื้อหาด้านล่าง)

ภาคการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการเติบโตของนิวซีแลนด์ ส่งผลให้มีความต้องการวิศวกรอย่างต่อเนื่องในหลากหลายสาขา เช่น วิศวกรโยธา ซึ่งเป็นอาชีพใน Green List Tier 1

  1. เส้นทางการศึกษาที่แนะนำ: สมัคร Pathway Student Visa หรือ Fee-Paying Student Visa เพื่อลงทะเบียนเรียนในหลักสูตรที่ได้รับการยอมรับ เช่น Bachelor of Engineering (Honours) (ระดับ 7 หรือ 8) หรือ Master of Engineering (ระดับ 9) ที่ได้รับการรับรองจาก Engineering New Zealand หรือรับรองภายใต้ข้อตกลงระหว่างประเทศ (เช่น Washington Accord)
  2. Post-Study Work Visa: เมื่อสำเร็จการศึกษาจากสถาบันในนิวซีแลนด์ ท่านมีสิทธิ์ยื่นขอ Post-Study Work Visa (โดยทั่วไป 3 ปีสำหรับผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี/โท) เพื่อใช้สะสมประสบการณ์ทำงาน
  3. การได้งานที่มีทักษะ: ในช่วงที่ถือ Post-Study Work Visa ให้มองหางานในตำแหน่งวิศวกรโยธา (Civil Engineer) หรือสาขาอื่น ๆ ที่อยู่ใน Green List Tier 1 การสร้างเครือข่ายมืออาชีพและการเข้าร่วมกิจกรรมในอุตสาหกรรมจะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้งาน
  4. เส้นทางสู่ถิ่นที่อยู่ถาวร (PR): เมื่อได้รับข้อเสนองานในตำแหน่งวิศวกรโยธา (หรือตำแหน่ง Tier 1 อื่นๆ ใน Green List) และเริ่มทำงานในบทบาทนั้น ท่านสามารถยื่นขอ Straight to Residence Visa ได้โดยตรง ซึ่งจะช่วยเร่งการเดินทางสู่ PR ของท่านได้อย่างมาก
  5. การขึ้นทะเบียนวิชาชีพ (แนะนำ): แม้จะไม่ใช่ข้อบังคับสำหรับการขอ PR แต่การทำงานเพื่อขอขึ้นทะเบียนเป็นวิศวกรวิชาชีพ (CPEng) กับ Engineering New Zealand จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและโอกาสความก้าวหน้าในอาชีพ

กรณีศึกษา 3: การก่อสร้าง (Construction – เช่น ผู้จัดการโครงการก่อสร้าง) – อาชีพใน Green List Tier 2 (ซ่อนเนื้อหาด้านล่าง)

ภาคการก่อสร้างในนิวซีแลนด์มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง มีความต้องการผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะในการจัดการโครงการหลากหลายประเภท ตำแหน่งผู้จัดการโครงการก่อสร้างอยู่ใน Green List Tier 2

  1. เส้นทางการศึกษาที่แนะนำ: สมัคร Pathway Student Visa หรือ Fee-Paying Student Visa เพื่อลงทะเบียนเรียนในหลักสูตรที่เกี่ยวข้อง เช่น Bachelor of Construction (ระดับ 7), Graduate Diploma in Construction Management (ระดับ 7) หรือ Master of Construction (ระดับ 9) ที่จะพัฒนาทักษะเฉพาะทางที่จำเป็นในภาคการก่อสร้างของนิวซีแลนด์
  2. Post-Study Work Visa: หลังจากสำเร็จการศึกษา ท่านมีสิทธิ์ยื่นขอ Post-Study Work Visa (โดยทั่วไป 3 ปีสำหรับผู้สำเร็จการศึกษาระดับ 7+ ขึ้นไป) เพื่อใช้ในการหางานและสั่งสมประสบการณ์
  3. การได้งานที่มีทักษะ: ในช่วงที่ถือ Post-Study Work Visa ให้มองหางานในตำแหน่งผู้จัดการโครงการก่อสร้าง (Construction Project Manager) หรือบทบาทอื่น ๆ ที่อยู่ใน Green List Tier 2 การได้รับประสบการณ์ในท้องถิ่นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
  4. เส้นทางสู่ถิ่นที่อยู่ถาวร (PR): เมื่อท่านได้รับและทำงานในบทบาทผู้จัดการโครงการก่อสร้างที่มีทักษะเป็นระยะเวลาที่กำหนด (เช่น สองปี) ภายใต้วีซ่าทำงานจากนายจ้างที่ได้รับการรับรอง (Accredited Employer Work Visa – AEWV) ท่านจะมีสิทธิ์ยื่นขอ Work to Residence Visa เส้นทางนี้ออกแบบมาสำหรับผู้ที่อยู่ในบทบาทที่มีความต้องการสูงที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและผลงานในนิวซีแลนด์
  5. การพัฒนาวิชาชีพ: การเข้าร่วมองค์กรวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง เช่น New Zealand Institute of Quantity Surveyors หรือ New Zealand Certified Builders Association จะช่วยในการสร้างเครือข่ายและพัฒนาวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเสริมสร้างโอกาสทางอาชีพของท่าน

กรณีศึกษา 4: เชฟ (Chef) – อาชีพที่มีความต้องการในบางเงื่อนไข (ซ่อนเนื้อหาด้านล่าง)

อาหารไทยเป็นที่นิยมทั่วโลก และเชฟไทยมีฝีมือเป็นที่ยอมรับ นิวซีแลนด์มีร้านอาหารไทยและร้านอาหารนานาชาติจำนวนมาก ซึ่งมีความต้องการเชฟที่มีทักษะ แม้ว่าอาชีพเชฟจะไม่ได้อยู่ใน Green List Tier 1 หรือ Tier 2 โดยตรงในทุกกรณี แต่ก็ยังมีเส้นทางที่เป็นไปได้สู่ PR หากเป็นไปตามเงื่อนไขเฉพาะ

  1. เส้นทางการศึกษาที่แนะนำ: สมัคร Pathway Student Visa หรือ Fee-Paying Student Visa เพื่อลงทะเบียนเรียนหลักสูตรด้าน Culinary Arts / Commercial Cookery (ประกาศนียบัตรหรืออนุปริญญาระดับ 4 หรือ 5) ที่เน้นทักษะการทำอาหารเชิงพาณิชย์
  2. Post-Study Work Visa: หลังจากสำเร็จการศึกษา ท่านมีสิทธิ์สมัคร Post-Study Work Visa เพื่อหางานในตำแหน่งเชฟในนิวซีแลนด์
  3. การได้งานกับนายจ้างที่ได้รับการรับรอง (AEWV): หางานในตำแหน่งเชฟกับนายจ้างที่ได้รับการรับรอง (Accredited Employer) และยื่นขอ Accredited Employer Work Visa (AEWV) โดยต้องตรวจสอบว่าตำแหน่งและรายได้ตรงตามเกณฑ์ที่กำหนดสำหรับวีซ่าทำงานที่มีทักษะ
  4. เส้นทางสู่ถิ่นที่อยู่ถาวร (PR): หลังจากทำงานในตำแหน่งที่มีทักษะและตรงตามเงื่อนไขรายได้ที่กำหนดเป็นระยะเวลาหนึ่ง (เช่น 2-3 ปี) ท่านอาจมีสิทธิ์ยื่นขอ PR ผ่าน Skilled Migrant Category (SMC) หรือเส้นทางอื่น ๆ ที่อาจเปิดขึ้นสำหรับกลุ่ม Hospitality ในอนาคต (สิ่งสำคัญคือต้องติดตามนโยบายล่าสุดของ Immigration New Zealand อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเงื่อนไขสำหรับอาชีพในกลุ่ม Hospitality อาจมีการเปลี่ยนแปลง)

กรณีศึกษา 5: IT / Tech (เช่น ผู้ดูแลระบบ, นักพัฒนาซอฟต์แวร์) – อาชีพใน Green List Tier 1 & Tier 2 (ซ่อนเนื้อหาด้านล่าง)

ภาคเทคโนโลยีของนิวซีแลนด์กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และมีความต้องการบุคลากรด้าน IT และ Tech อย่างมหาศาล หลายตำแหน่งอยู่ใน Green List Tier 1 หรือ Tier 2 ทำให้เป็นเส้นทางที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มีทักษะด้านนี้

  1. เส้นทางการศึกษาที่แนะนำ: สมัคร Pathway Student Visa หรือ Fee-Paying Student Visa เพื่อลงทะเบียนเรียนหลักสูตรด้าน Bachelor of Information Technology (ระดับ 7), Master of Information Technology (ระดับ 9) หรือสาขาเฉพาะทางด้าน IT ที่เกี่ยวข้อง
  2. Post-Study Work Visa: หลังจากสำเร็จการศึกษา ท่านมีสิทธิ์สมัคร Post-Study Work Visa (มักจะ 3 ปีสำหรับวุฒิระดับสูง) เพื่อใช้ในการหางานและสั่งสมประสบการณ์
  3. การได้งานที่มีทักษะ: ในช่วงที่ถือ Post-Study Work Visa ให้มองหางานในตำแหน่งที่เป็นที่ต้องการ เช่น Software Developer, IT Systems Administrator, Cybersecurity Analyst หรือ Data Scientist ซึ่งล้วนเป็นอาชีพที่อยู่ใน Green List
  4. เส้นทางสู่ถิ่นที่อยู่ถาวร (PR):
    • หากเป็น Tier 1 (เช่น Software Engineer, Solutions Architect): เมื่อได้รับข้อเสนองานและเริ่มทำงาน ท่านสามารถยื่นขอ Straight to Residence Visa ได้เลย
    • หากเป็น Tier 2 (เช่น Database Administrator, IT Support Engineer): ท่านจะต้องทำงานในบทบาทนั้นเป็นระยะเวลาหนึ่ง (เช่น สองปี) ก่อนยื่นขอ Work to Residence Visa
  5. การพัฒนาวิชาชีพ: การได้รับการรับรองเฉพาะทาง (Certifications) เพิ่มเติมจากแพลตฟอร์มต่างๆ (เช่น Microsoft, AWS, Cisco) จะช่วยเสริมโปรไฟล์และเพิ่มโอกาสในตลาดงานอย่างมาก

กรณีศึกษา 6: ครูปฐมวัย (Early Childhood Education) – อาชีพใน Green List Tier 1 (ซ่อนเนื้อหาด้านล่าง)

นิวซีแลนด์ให้ความสำคัญกับการศึกษาปฐมวัยอย่างมาก และมีความต้องการครูผู้สอนที่มีคุณสมบัติอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ อาชีพครูปฐมวัยเป็นอาชีพใน Green List Tier 1

  1. เส้นทางการศึกษาที่แนะนำ: สมัคร Pathway Student Visa หรือ Fee-Paying Student Visa เพื่อลงทะเบียนเรียนหลักสูตรที่ได้รับการรับรอง เช่น Bachelor of Education (Early Childhood Teaching) (ระดับ 7) หรือ Graduate Diploma in Teaching (Early Childhood Education) (ระดับ 7) ที่จะนำไปสู่การขึ้นทะเบียนเป็นครูในนิวซีแลนด์
  2. การขึ้นทะเบียนชั่วคราวและการหางาน: หลังจากเรียนจบหลักสูตรที่นำไปสู่การขึ้นทะเบียน ท่านจะต้องยื่นขอใบอนุญาตสอนชั่วคราว (Provisional Teacher Registration) กับ Teaching Council of Aotearoa New Zealand
  3. การได้งานและการขึ้นทะเบียนเต็มรูปแบบ: เมื่อได้งานในตำแหน่งครูปฐมวัย (Early Childhood Teacher) ซึ่งอยู่ใน Green List Tier 1 ท่านสามารถยื่นขอขึ้นทะเบียนเต็มรูปแบบกับ Teaching Council ได้
  4. เส้นทางสู่ถิ่นที่อยู่ถาวร (PR): ด้วยตำแหน่งครูปฐมวัย ซึ่งอยู่ใน Green List Tier 1 ท่านมีสิทธิ์ยื่นขอ Straight to Residence Visa ได้โดยตรง ซึ่งเป็นเส้นทางที่รวดเร็วมากสู่ PR ในนิวซีแลนด์

ศึกษาข้อมูลและเตรียมตัวให้พร้อมคือกุญแจสำคัญ

  • การหาข้อมูลและการวางแผนอย่างละเอียดเป็นกุญแจสำคัญ:

    • ข้อกำหนดด้านวีซ่า: ควรตรวจสอบเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Immigration New Zealand (INZ) (www.immigration.govt.nz) เสมอสำหรับนโยบายวีซ่า ค่าธรรมเนียม และระยะเวลาดำเนินการล่าสุด กฎระเบียบด้านการเข้าเมืองสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้นการติดตามข้อมูลให้ทันสมัยจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง
    • การเลือกหลักสูตร: นอกเหนือจากวิชาที่สนใจแล้ว ให้ศึกษาชื่อเสียงของสถาบัน อัตราการจ้างงานของผู้สำเร็จการศึกษาสำหรับแต่ละหลักสูตร และความสอดคล้องของหลักสูตรกับ Green List
    • การวางแผนทางการเงิน: นอกจากค่าเล่าเรียนแล้ว ให้จัดงบประมาณสำหรับค่าครองชีพ (ที่พัก อาหาร การเดินทาง ประกันภัย ความบันเทิง) การมีแผนการเงินที่สมจริงจะช่วยลดความเครียดได้มาก
  • เก่งภาษาอังกฤษ – เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้:

    • ทักษะภาษาอังกฤษที่แข็งแกร่งเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับความสำเร็จทางวิชาการ การได้งานที่มีทักษะ และการปรับตัวเข้ากับสังคมนิวซีแลนด์
    • ตั้งเป้าหมายให้ได้คะแนนสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำในการทดสอบที่เป็นที่ยอมรับ เช่น IELTS Academic/General, PTE Academic หรือ TOEFL iBT คะแนนที่สูงขึ้นไม่เพียงแต่เพิ่มคะแนน PR ของคุณเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการได้งานและชีวิตประจำวันของคุณอีกด้วย ลองพิจารณาเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติมก่อนหรือระหว่างการเรียนช่วงแรกหากจำเป็น
  • การสร้างเครือข่ายเชิงรุกและการหางาน:

    • ทรัพยากรของมหาวิทยาลัย: ใช้ประโยชน์จากบริการด้านอาชีพ เครือข่ายศิษย์เก่า และการเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมของมหาวิทยาลัย พวกเขามักจะมีทีมงานเฉพาะที่คอยช่วยเหลือ นักเรียนต่างชาติด้วยกลยุทธ์การหางาน การเขียนเรซูเม่ และการเตรียมตัวสัมภาษณ์
    • สมาคมวิชาชีพ: เข้าร่วมสมาคมวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับสาขาของคุณ สิ่งเหล่านี้เสนอโอกาสในการสร้างเครือข่าย กิจกรรมให้คำปรึกษา และการเข้าถึงกระดานประกาศงานเฉพาะอุตสาหกรรม
    • แพลตฟอร์มออนไลน์: ใช้แพลตฟอร์มเช่น LinkedIn, Seek.co.nz และ Trademe Jobs เพื่อค้นหางาน ปรับแต่งเรซูเม่และจดหมายปะหน้าของคุณให้เข้ากับตลาดงานของนิวซีแลนด์
    • การสัมภาษณ์เชิงข้อมูล (Informational Interviews): ติดต่อนักวิชาชีพในสาขาที่คุณต้องการเพื่อทำการสัมภาษณ์เชิงข้อมูล นี่เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการรับข้อมูลเชิงลึก ขยายเครือข่าย และอาจค้นพบโอกาสในการทำงานที่ซ่อนอยู่
  • เปิดรับไลฟ์สไตล์แบบนิวซีแลนด์:

    • นอกเหนือจากการเรียนและการทำงานแล้ว จงเข้าร่วมในชีวิตท้องถิ่นอย่างกระตือรือร้น เข้าร่วมชมรม อาสาสมัคร สำรวจธรรมชาติ และมีส่วนร่วมกับชุมชน สิ่งนี้จะช่วยเพิ่มพูนประสบการณ์ของคุณ ช่วยให้ปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรม และอาจนำไปสู่โอกาสที่ไม่คาดฝันได้

วางแผนเรียนต่อนิวซีแลนด์: ควรเตรียมตัวล่วงหน้านานแค่ไหน?

การสมัครเรียนต่อในระดับปริญญาตรีหรือปริญญาโทที่นิวซีแลนด์นั้นจำเป็นต้องมีการวางแผนและเตรียมตัวอย่างรอบคอบ เพื่อให้กระบวนการเป็นไปอย่างราบรื่นและเพิ่มโอกาสในการได้รับการตอบรับจากสถาบันการศึกษาที่คุณต้องการ โดยทั่วไปแล้ว เราแนะนำให้เริ่มศึกษาและเตรียมตัวล่วงหน้าอย่างน้อย 12-18 เดือน ก่อนวันเปิดภาคเรียนที่ตั้งใจไว้ นี่คือภาพรวมของไทม์ไลน์ที่คุณสามารถใช้เป็นแนวทางได้:

12-18 เดือนล่วงหน้า (ช่วงเริ่มต้นศึกษา):

  • ค้นคว้าข้อมูล: เริ่มต้นศึกษาหลักสูตร, สถาบันการศึกษา (มหาวิทยาลัย, ITPs/Te Pūkenga, PTEs), และเมืองที่คุณสนใจ รวมถึงข้อกำหนดการรับสมัครของแต่ละหลักสูตรและสถาบันในนิวซีแลนด์ (เช่น คุณสมบัติสำหรับ Post-Study Work Visa, การเลือกสาขาที่สอดคล้องกับ Green List เพื่อโอกาส PR ในอนาคต)
  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: ติดต่อ The Best Education เพื่อรับคำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกหลักสูตรที่เหมาะสมกับคุณสมบัติและเป้าหมายในอนาคตของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีเป้าหมายที่จะอยู่ต่อเพื่อขอ PR
  • เตรียมภาษาอังกฤษ: หากยังไม่มีผลสอบภาษาอังกฤษ (IELTS/PTE Academic/TOEFL) ที่ตรงตามเกณฑ์ของสถาบันและวีซ่า ควรเริ่มเตรียมตัวสอบหรือเข้าคอร์สเรียนภาษาอังกฤษเพื่อให้ได้คะแนนที่สูงพอสำหรับการเพิ่มโอกาสขอ PR ในอนาคต
  • เตรียมเอกสารเบื้องต้น: รวบรวมเอกสารสำคัญ เช่น ใบแสดงผลการเรียน (Transcript), ใบรับรองการจบการศึกษา, พอร์ตโฟลิโอ (ถ้าจำเป็นสำหรับบางสาขา)

9-12 เดือนล่วงหน้า (ช่วงเตรียมเอกสารและสมัคร):

  • สมัครสอบภาษาอังกฤษ: ลงทะเบียนสอบ IELTS, PTE Academic หรือ TOEFL ให้ได้คะแนนตามเกณฑ์ที่สถาบันและเงื่อนไขวีซ่ากำหนด (ควรตั้งเป้าคะแนนให้สูงกว่าขั้นต่ำเพื่อประโยชน์ด้าน PR และการได้งาน)
  • เตรียมเอกสารให้พร้อม: จัดทำเอกสารทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการสมัครให้ครบถ้วน เช่น Statement of Purpose (SOP), Letters of Recommendation (LOR), Resume/CV
  • ยื่นใบสมัคร: ส่งใบสมัครเรียนไปยังสถาบันการศึกษาที่คุณสนใจ โดยมี The Best Education เป็นผู้ช่วยดูแลและตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร รวมถึงให้คำแนะนำเรื่อง Genuine Temporary Entrant (GTE) Equivalent หรือหลักฐานเจตนาในการเป็นนักเรียนที่แท้จริง

6-9 เดือนล่วงหน้า (รอผลและตอบรับ):

  • รอผลการตอบรับ: สถาบันการศึกษาจะพิจารณาใบสมัครและแจ้งผลการตอบรับ
  • ตอบรับข้อเสนอ: หากได้รับการตอบรับ ให้ทำการตอบรับและชำระค่าเรียนงวดแรกตามกำหนด (เพื่อรับ Confirmation of Enrolment – CoE หรือ Offer of Place with Conditions Met)
  • เริ่มเตรียมเอกสารวีซ่า: เริ่มต้นรวบรวมเอกสารที่จำเป็นสำหรับการยื่นขอวีซ่านักเรียน (Student Visa – Subclass 500 หรือ Pathway Student Visa) โดยเฉพาะเอกสารด้านการเงินและหลักฐานการเป็นนักเรียนที่แท้จริง

3-6 เดือนล่วงหน้า (ยื่นวีซ่าและเตรียมตัวเดินทาง):

  • ยื่นขอวีซ่านักเรียน: ยื่นเอกสารขอ Student Visa ตามขั้นตอนที่กำหนด โดย The Best Education สามารถให้คำแนะนำและช่วยเหลือในขั้นตอนนี้ได้
  • เตรียมตัวเดินทาง: จองตั๋วเครื่องบิน หาที่พัก (หอพักในสถาบัน หรือที่พักนอกวิทยาเขต) จัดการเรื่องประกันสุขภาพนักเรียนต่างชาติ (Overseas Student Health Cover – OSHC) ซึ่งในนิวซีแลนด์จะเรียกว่า Student Visa Insurance
  • ศึกษาข้อมูลการใช้ชีวิต: ทำความเข้าใจวัฒนธรรม สภาพอากาศ การเดินทาง ค่าครองชีพ และข้อมูลสำคัญอื่นๆ ในนิวซีแลนด์

1-3 เดือนล่วงหน้า (เดินทาง):

  • รับวีซ่านักเรียน: เมื่อ Student Visa ได้รับการอนุมัติ เตรียมเอกสารทั้งหมดสำหรับเดินทาง
  • ออกเดินทาง: เริ่มต้นประสบการณ์การเรียนต่อในนิวซีแลนด์!

การวางแผนอย่างละเอียดและการเริ่มต้นเตรียมตัวแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่ากระบวนการสมัครเรียนต่อที่นิวซีแลนด์จะเป็นไปอย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จตามที่คาดหวัง

 

พร้อมที่จะเปลี่ยนความฝันในนิวซีแลนด์ของคุณให้เป็นจริงแล้วหรือยัง?

การเดินทางสู่การมีถิ่นที่อยู่ถาวรในนิวซีแลนด์ผ่านการศึกษานั้น เป็นการเดินทางที่คุ้มค่า มอบการเติบโตส่วนบุคคลและวิชาชีพที่น่าทึ่ง ด้วยการวางแผนอย่างรอบคอบ การเลือกหลักสูตรเชิงกลยุทธ์ และความพยายามของคุณเอง ความปรารถนาของคุณสามารถกลายเป็นความจริงที่จับต้องได้อย่าให้ความไม่แน่นอนมาฉุดรั้งคุณไว้ เริ่มต้นก้าวแรกวันนี้กับ The Best Education!


ติดต่อเดอะเบสท์เพื่อสอบถามข้อมูลการเรียนต่อต่างประเทศเพิ่มเติม

เดอะเบสท์ เป็นศูนย์บริการให้คำปรึกษาเรียนต่อต่างประเทศครบวงจร เราเป็นตัวแทนที่ให้บริการแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และ ประเทศอื่นๆ อีก 25 ประเทศทั่วโลก เรายินดีให้ความช่วยเหลือตั้งแต่เริ่มสมัครเรียน จนสำเร็จการศึกษา รวมถึงดูแลนักเรียนระหว่างเรียนจนนักเรียนเรียนจบด้วยทีมผู้เชียวชาญในด้านการเรียนต่อต่างประเทศ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ขั้นตอนเหล่านี้เราดำเนินการให้ฟรี และเราพร้อมที่จะทำตามคุณภาพ และมาตรฐานดังสโลแกนที่ว่า “We are Quality”

 

บริการของเรามีอะไรบ้าง ?

  • ฟรี!! บริการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเรียนต่อต่างประเทศทุกระดับชั้นทั่วโลก ตั้งแต่ โรงเรียนประถม โรงเรียนมัธยม สถาบันวิชาชีพ และสถาบันในระดับอุดมศึกษา รวมถึงหลักสูตรภาษาต่างประเทศ และเลือกสถาบันที่ดีที่สุดให้กับผู้เรียน
  • เราให้ความช่วยเหลือตั้งแต่การประสานงานโรงเรียน เลือกโรงเรียนให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียน เตรียมเอกสารสมัครเรียน และดำเนินเรื่องสมัครเรียนให้ฟรี
  • บริการเตรียมเอกสารยื่นวีซ่าครบวงจร และบริการยื่นวีซ่ากว่า 25 ประเทศทั่วโลก พร้อมวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าอย่างตรงจุด และแนะนำวิธีการเตรียมตัวในการสัมภาษณ์วีซ่า 
  • บริการแปลเอกสาร ภาษาไทย – ภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาอังกฤษ – ภาษาไทย รวมถึงภาษาที่ 3 เริ่มต้นเพียงแผ่นละ 200 บาท
  • เดอะเบสท์ เป็นตัวแทนรับสมัครสอบ IELTS IDP อย่างเป็นทางการ พร้อมให้คำแนะนำ และนัดวันสอบให้โดยน้องๆ ไม่ต้องเสียเวลาสมัครเอง สมัครสอบได้ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ 
    [คลิกเพื่อสมัครสอบ IELTS]
  • บริการซื้อประกันภัยการเดินทางและประกันสุขภาพนักเรียนต่างชาติ จากบริษัทประกันชั้นนำ MSIG, Allianz, Bupa, NIB, Orbit และอื่นๆ  [คลิกเพื่อซื้อประกัน]
  • บริการจองตั๋วเครื่องบิน ทุกสายการบิน และประสานงานกับสถาบันเกี่ยวกับรถรับ – ส่ง สนามบิน
  • บริการจัดหาที่พักทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นโฮมสเตย์ อพาร์ทเม้น หรือหอพักนักศึกษา จัดหาให้ตามความต้องการส่วนบุคคล

 

“เรายินดีที่จะดูแลนักเรียนทุกคน ตั้งแต่เริ่มต้นจนนักเรียนสำเร็จการศึกษา และทำให้การเรียนต่อของคุณเป็นเรื่องง่าย ” สอบถามข้อมูลการบริการเพิ่มเติมติดต่อ
โทร : 090-327 3558088-269 5099
Email :contact@thebest-edu.com
Line : @thebestedu หรือคลิกเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ

Scroll to Top

Discover more from เดอะเบสท์ แนะแนวเรียนต่อต่างประเทศครบวงจร

Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

Continue reading