เดอะเบสท์ แนะแนวเรียนต่อต่างประเทศครบวงจร

เรียนต่อไอร์แลนด์ | ทำงานระหว่างเรียนได้ไหม กี่ชั่วโมง รายได้เท่าไหร่ โอกาสหลังจบ สรุปข้อมูลจัดเต็ม 

Last updated สิงหาคม 29, 2025 ago by Thebestedu

เรียนต่อไอร์แลนด์ | ทำงานระหว่างเรียนได้ไหม กี่ชั่วโมง รายได้เท่าไหร่ โอกาสหลังจบ สรุปข้อมูลจัดเต็ม 

การตัดสินใจเรียนต่อต่างประเทศคือการลงทุนครั้งสำคัญในชีวิต และสำหรับนักเรียนไทยหลายๆ คน ไอร์แลนด์ คือจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมที่อบอุ่น ระบบการศึกษาที่ได้มาตรฐานระดับโลก หรือบรรยากาศที่เป็นมิตร บทความนี้จะเจาะลึกทุกแง่มุมเกี่ยวกับการเรียน การทำงานพาร์ทไทม์ และโอกาสสดใสหลังเรียนจบในไอร์แลนด์ เพื่อช่วยให้คุณวางแผนอนาคตได้อย่างมั่นใจและประสบความสำเร็จ 

ทำไมต้องไอร์แลนด์? มากกว่าแค่การเรียนรู้ คือประสบการณ์อันล้ำค่า

การเลือกไอร์แลนด์เป็นจุดหมายปลายทางการศึกษา ไม่ได้เป็นแค่การลงทุนในความรู้ทางวิชาการเท่านั้น แต่ยังเป็นการเปิดโลกทัศน์สู่โอกาสใหม่ๆ ทั้งในชีวิตส่วนตัวและสายอาชีพอีกด้วย:

  • คุณภาพการศึกษาระดับโลก ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก: ไอร์แลนด์ภูมิใจนำเสนอหนึ่งในระบบการศึกษาที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านคุณภาพทางวิชาการ สถาบันอุดมศึกษา 34 แห่งในไอร์แลนด์มีหลักสูตรให้เลือกเรียนมากถึงกว่า 5,000 หลักสูตร ซึ่งล้วนได้รับการรับรองคุณภาพและเป็นที่ยอมรับทั่วโลก การจบการศึกษาจากไอร์แลนด์จึงเป็นการ “ลงทุนเพื่อชีวิต” ที่คุ้มค่า
  • ประตูสู่โลกเทคโนโลยีและนวัตกรรม: ไอร์แลนด์ได้ก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางสำคัญของบริษัทข้ามชาติชั้นนำกว่า 1,000 แห่งในยุโรป ลองนึกภาพบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Google, Apple, Meta (Facebook), Microsoft, Amazon หรือแม้แต่บริษัทยาชั้นนำ (8 ใน 10 อันดับแรกของโลก) ต่างก็มีสำนักงานใหญ่ประจำยุโรป หรือสำนักงานหลักในไอร์แลนด์ นี่คือโอกาสทองสำหรับการฝึกงาน การสร้างเครือข่าย และการหางานหลังเรียนจบ โดยเฉพาะในสาขาไอที เภสัชกรรม และอุปกรณ์การแพทย์ นอกจากนี้ ไอร์แลนด์ยังเป็นประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม โดยติดอันดับ 7 ของโลกในดัชนีนวัตกรรมโลกปี 2016 และยังครองอันดับ 12 ด้านคุณภาพงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์อีกด้วย
  • ภาษาอังกฤษคือหัวใจในยูโรโซน: ไอร์แลนด์เป็นประเทศเดียวในกลุ่มยูโรโซนที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก การใช้ชีวิตประจำวันและเรียนในสภาพแวดล้อมที่ใช้ภาษาอังกฤษเต็มรูปแบบ จะช่วยพัฒนาทักษะภาษาของคุณได้อย่างรวดเร็วและลึกซึ้ง ซึ่งเป็นทักษะสำคัญที่ตลาดงานทั่วโลกต้องการ
  • สังคมอบอุ่น เป็นมิตร และปลอดภัย: ไอร์แลนด์ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในโลก” โดย Lonely Planet ในปี 2017 และยังเป็นอันดับ 12 ของประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลกจาก Global Peace Index อีกด้วย ประชากรกว่า 13% ในไอร์แลนด์เป็นชาวต่างชาติ และมีคนกว่า 612,000 คน ที่สามารถพูดภาษาต่างประเทศได้อย่างคล่องแคล่ว สิ่งเหล่านี้สร้างบรรยากาศที่เปิดกว้างและเป็นมิตรสำหรับนักเรียนต่างชาติอย่างแท้จริง
  • โอกาสพัฒนาศักยภาพส่วนบุคคล: การเรียนในไอร์แลนด์จะช่วยให้คุณพัฒนาทักษะชีวิตที่จำเป็นในโลกยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม , การสื่อสาร , การแก้ปัญหา , การทำงานเป็นทีม , หรือการเป็นผู้นำ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่นายจ้างต่างมองหา

ทำงานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียนที่ไอร์แลนด์: สร้างรายได้ พร้อมเก็บเกี่ยวประสบการณ์

การทำงานพาร์ทไทม์ในไอร์แลนด์ถือเป็นโอกาสที่ดีเยี่ยมสำหรับนักเรียนต่างชาติ ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมรายได้ แต่ยังได้สัมผัสประสบการณ์การทำงานจริง ซึ่งเป็นสิ่งล้ำค่าในอนาคต กฎหมายไอร์แลนด์อนุญาตให้นักเรียนต่างชาติทำงานได้ภายใต้เงื่อนไขที่ชัดเจน

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการทำงานพาร์ทไทม์ในไอร์แลนด์

  • ชั่วโมงการทำงานที่อนุญาต: หากคุณเป็นนักเรียนต่างชาติ (นอกกลุ่ม EEA) ที่ถือวีซ่านักเรียน (Immigration Permission Stamp 2) คุณสามารถทำงานได้สูงสุด 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ในช่วงเปิดภาคเรียน และสูงสุด 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ในช่วงวันหยุดยาวของมหาวิทยาลัย ซึ่งได้แก่ เดือนมิถุนายนถึงกันยายน และระหว่างวันที่ 15 ธันวาคมถึง 15 มกราคม
  • โอกาสหลังเรียนจบ: ไอร์แลนด์เปิดโอกาสให้นักเรียนที่เรียนจบหลักสูตรอุดมศึกษาสามารถยื่นขอวีซ่าเพื่อหางานต่อได้ (Third Level Graduate Scheme)
  • ตลาดงานที่หลากหลาย: มีตำแหน่งงานมากมายในภาคบริการ การค้าปลีก เทคโนโลยี และเภสัชกรรม
  • ทักษะภาษาอังกฤษคือสิ่งสำคัญ: การมีทักษะภาษาอังกฤษที่ดีเยี่ยมเป็นสิ่งจำเป็น เพราะนายจ้างในไอร์แลนด์คาดหวังว่าคุณจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในสภาพแวดล้อมที่มีความเป็นสากล

เงื่อนไขการทำงานสำหรับนักเรียนไทย (Non-EEA)

หากคุณเป็นนักเรียนไทยที่ถือวีซ่านักเรียน (Stamp 2) และต้องการทำงานอย่างถูกกฎหมายในไอร์แลนด์ คุณต้องมีคุณสมบัติดังนี้:

  • ต้องลงทะเบียนกับ Garda National Immigration Bureau (GNIB)
  • ลงทะเบียนเรียนในหลักสูตรเต็มเวลาที่ได้รับการรับรองจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและทักษะของไอร์แลนด์
  • หลักสูตรต้องมีความยาวอย่างน้อยหนึ่งปี
  • หลักสูตรต้องเป็นการเรียนภาคกลางวันอย่างน้อย 15 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และได้รับค่าเล่าเรียนระหว่าง 8.00 น. ถึง 18.00 น. เป็นเวลาอย่างน้อย 25 สัปดาห์ต่อปี
  • ที่สำคัญที่สุดคือ คุณต้องมี
    Personal Public Service (PPS) Number ซึ่งเป็นหมายเลขประจำตัวที่จำเป็นสำหรับการทำงานและจ่ายภาษีในไอร์แลนด์ โดยปกติแล้ว คุณจะต้องได้รับใบเสนอชื่อเข้าทำงานก่อนจึงจะสามารถยื่นขอ PPS Number ได้

หางานพาร์ทไทม์ในไอร์แลนด์ง่ายไหม?

การหางานสำหรับนักเรียนต่างชาติในไอร์แลนด์นั้นทำได้ แต่ต้องอาศัยความพยายามและการเตรียมตัวที่ดี ตลาดงานมีการแข่งขันสูง แต่ถ้าคุณเตรียมตัวมาดี มีทักษะภาษาอังกฤษที่ดี และมีความกระตือรือร้น โอกาสก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก

  • ช่องทางยอดนิยม: เริ่มต้นจากเว็บไซต์หางานชั้นนำอย่าง Indeed.ie และ gradireland.com อย่าลืมใช้บริการของศูนย์แนะแนวอาชีพของมหาวิทยาลัย เพราะหลายแห่งมีเครือข่ายและข้อมูลตำแหน่งงานว่างสำหรับนักศึกษา นอกจากนี้ การสร้างโปรไฟล์ LinkedIn ที่น่าสนใจและติดตามบริษัทที่คุณสนใจก็เป็นสิ่งสำคัญ
  • งานในบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลาง (SMEs): การมองหางานใน SMEs อาจมีการแข่งขันน้อยกว่าองค์กรขนาดใหญ่ ข้อดีคือคุณมักจะได้รับมอบหมายงานที่หลากหลายและได้เรียนรู้แบบ “ลงมือทำ” ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจและประสบการณ์ได้อย่างรวดเร็ว

เลือกหลักสูตรที่ทำงานได้: เพื่อโอกาสที่ใช่!

สิ่งสำคัญที่นักเรียนไทยหลายคนต้องทำความเข้าใจคือ การมาเรียนในไอร์แลนด์ไม่ได้หมายความว่าคุณจะสามารถทำงานพาร์ทไทม์ได้โดยอัตโนมัติ หลักสูตรที่คุณเลือกเรียนมีผลโดยตรงต่อสิทธิ์ในการทำงานระหว่างศึกษา การจะทำงานพาร์ทไทม์ได้อย่างถูกกฎหมายนั้น หลักสูตรที่คุณลงทะเบียนจะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดที่ระบุไว้ดังนี้:

หลักสูตรที่อนุญาตให้ทำงานพาร์ทไทม์ได้ (ตัวอย่าง):

  • หลักสูตรปริญญาตรี (NFQ Level 7/8): เช่น Bachelor of Science, Bachelor of Arts, Bachelor of Engineering ที่เป็นหลักสูตรเต็มเวลาในมหาวิทยาลัย
  • หลักสูตรปริญญาโท (NFQ Level 9): เช่น Master of Science, Master of Arts, MBA ที่เป็นหลักสูตรเต็มเวลาในมหาวิทยาลัย
  • หลักสูตรปริญญาเอก (NFQ Level 10): เช่น PhD ที่เป็นหลักสูตรเต็มเวลาในมหาวิทยาลัย
  • หลักสูตรประกาศนียบัตร/อนุปริญญาที่ได้รับการรับรอง (Recognised Certificate/Diploma): หลักสูตรที่เทียบเท่าหรือสูงกว่า NFQ Level 7 ซึ่งเป็นหลักสูตรเต็มเวลาและเป็นส่วนหนึ่งของรายการหลักสูตรที่ได้รับอนุญาตให้ทำงานได้ (Interim List of Eligible Programmes – ILEP)
  • หลักสูตรที่มี Work Placement เป็นส่วนหนึ่ง: หลักสูตรที่มีการฝึกงานแบบมีค่าตอบแทน (Paid Internship) ที่เป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมการศึกษา โดยการฝึกงานจะต้องไม่เกิน 50% ของระยะเวลาหลักสูตรทั้งหมด และต้องไม่ใช่การทำงานแบบผู้ประกอบอาชีพอิสระ หลักสูตรเหล่านี้จะช่วยให้คุณได้สั่งสมประสบการณ์จริงในสายงาน

หลักสูตรที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงานพาร์ทไทม์ (โดยทั่วไป):

  • หลักสูตรภาษาอังกฤษระยะสั้น (Short-term English language courses): โดยทั่วไป วีซ่านักเรียนสำหรับหลักสูตรภาษาที่มีระยะเวลาน้อยกว่า 6 เดือน หรือหลักสูตรที่ไม่ได้นำไปสู่การได้รับปริญญา (Degree), Diploma หรือ Certificate ที่ได้รับการรับรองจากมหาวิทยาลัย/สถาบันการศึกษา มักจะไม่มีสิทธิ์ในการขอใบอนุญาตทำงาน หรือไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงาน
  • หลักสูตรระยะสั้นอื่นๆ ที่ไม่เป็นส่วนหนึ่งของปริญญา: หลักสูตรฝึกอบรมวิชาชีพ หรือเวิร์กช็อประยะสั้นที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรปริญญาเต็มเวลา มักจะไม่ให้สิทธิ์ในการทำงาน
  • หลักสูตรจากสถาบันที่ไม่ได้รับการรับรอง: หากสถาบันที่คุณเลือกไม่ได้เป็นสถาบันที่รัฐบาลไอร์แลนด์รับรอง หรือหลักสูตรไม่ได้อยู่ในรายชื่อหลักสูตรที่อนุญาตให้ทำงานได้ คุณก็จะไม่สามารถทำงานได้

ประเภทของงานพาร์ทไทม์ยอดนิยมสำหรับนักเรียนต่างชาติ

งานที่มักเปิดโอกาสให้นักเรียนต่างชาติ ได้แก่ งานในภาคบริการ การค้าปลีก และงานที่เกี่ยวข้องกับทักษะภาษา:

  • งานบริการ (Hospitality Industry): เช่น พนักงานเสิร์ฟในร้านอาหาร/คาเฟ่/บาร์, บาริสต้า หรือพนักงานในครัว เป็นงานที่หาได้ค่อนข้างง่ายในเมืองใหญ่และเมืองท่องเที่ยว
  • งานค้าปลีก (Retail Positions): ทำงานในร้านเสื้อผ้า ร้านขายของชำ หรือซูเปอร์มาร์เก็ต ในตำแหน่งพนักงานขาย หรือแคชเชียร์
  • งาน Call Center/Customer Service: เนื่องจากมีบริษัทข้ามชาติจำนวนมากในไอร์แลนด์ จึงมีความต้องการพนักงานที่สามารถให้บริการลูกค้าเป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่นๆ
  • งานสอนภาษา (Language Tutoring): หากคุณมีทักษะภาษาอังกฤษที่แข็งแกร่ง หรือสามารถสอนภาษาไทยให้กับชาวต่างชาติได้
  • งานในมหาวิทยาลัย (On-Campus Work): บางมหาวิทยาลัยอาจมีตำแหน่งงานพาร์ทไทม์สำหรับนักศึกษา
  • การเป็นอาสาสมัคร (Volunteering): แม้ไม่ได้รับค่าตอบแทน แต่เป็นวิธีที่ดีเยี่ยมในการสร้างความมั่นใจ พัฒนาทักษะที่นายจ้างต้องการ เช่น ความคิดริเริ่ม การทำงานเป็นทีม การสื่อสาร และการปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรม พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายในชุมชนและได้เรียนรู้วัฒนธรรมไอริช

เตรียมตัวก่อนเดินทางไปไอร์แลนด์ เพื่อเพิ่มโอกาสหางานพาร์ทไทม์

การเตรียมตัวที่ดีจะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้งานและทำให้การปรับตัวเข้ากับชีวิตในไอร์แลนด์ง่ายขึ้น:

  • พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ: การสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีจะเพิ่มโอกาสในการหางานได้อย่างมหาศาล ควรฝึกฝนการเขียนให้ชัดเจนและกระชับ , การแสดงพฤติกรรมที่ไม่ใช่คำพูดที่เหมาะสม (เช่น Body language, Eye contact) , รวมถึงการฟังและมีส่วนร่วมในการสนทนาทั้งในที่ทำงานและสังคม การเรียนรู้สแลงท้องถิ่นและทำความเข้าใจวัฒนธรรมการสื่อสารก็เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
  • เตรียมเอกสารที่จำเป็น: จัดเตรียมเรซูเม่ (CV) ที่กระชับ และเน้นประสบการณ์/ทักษะที่เกี่ยวข้อง ควรปรับรูปแบบให้เหมาะกับมาตรฐานของไอร์แลนด์ และแน่ใจว่าไม่มีข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์หรือการสะกด การมีจดหมายแนะนำ (Reference Letters) จากนายจ้างหรืออาจารย์คนก่อนจะเป็นประโยชน์
  • ทำความเข้าใจกฎระเบียบการทำงาน: ศึกษาเรื่องการขอ PPS Number และการเปิดบัญชีธนาคารให้เข้าใจอย่างถ่องแท้
  • วางแผนทางการเงิน: ควรมีเงินทุนสำรองเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายในช่วงเดือนแรกๆ ที่อาจต้องใช้เวลาในการหางานและดำเนินการเรื่องเอกสารต่างๆ

การพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษอย่างต่อเนื่อง (ตามคำแนะนำจาก IUA):

  1. เข้าเรียนหลักสูตร/เวิร์กช็อปสั้นๆ: ที่มหาวิทยาลัยมีเปิดสอน เพื่อพัฒนาการออกเสียงและทักษะการเขียน
  2. ฝึกสนทนาภาษาอังกฤษทุกวัน: ทั้งที่บ้านและกับเพื่อน
  3. ดื่มด่ำกับสื่อภาษาอังกฤษ: อ่านหนังสือ, ฟังวิทยุ/พอดแคสต์/หนังสือเสียง, ดูภาพยนตร์และรายการทีวี
  4. ขยายเครือข่าย: เข้าร่วมชมรมและสมาคมต่างๆ ที่มหาวิทยาลัย เพื่อสร้างความมั่นใจในสถานการณ์ทางสังคม
  5. ทำงานกับคนหลากหลาย: ไม่ว่าจะเป็นงานพาร์ทไทม์หรืองานกลุ่ม จะช่วยฝึกการทำงานร่วมกับผู้อื่นในภาษาอังกฤษ
  6. ทำความเข้าใจสแลงและบรรทัดฐานทางวัฒนธรรมท้องถิ่น: สังเกตวิธีที่นักเรียนคนอื่นๆ สื่อสารกับอาจารย์ เพื่อน หรือในที่สาธารณะ
  7. ** proactive:** หากติดขัดเรื่องการเรียนหรือสงสัยอะไร ให้กล้าที่จะถาม ขอความช่วยเหลือจากอาจารย์ ติวเตอร์ หรือเพื่อน

ทำงานพาร์ทไทม์จะครอบคลุมค่าครองชีพและค่าเล่าเรียนทั้งหมดได้ไหม?

เป็นคำถามที่พบบ่อย และคำตอบคือ การทำงานพาร์ทไทม์ในไอร์แลนด์โดยทั่วไปแล้วจะไม่เพียงพอที่จะครอบคลุมทั้งค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพทั้งหมดได้

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับค่าแรงขั้นต่ำและศักยภาพรายได้

  • ค่าแรงขั้นต่ำ (National Minimum Wage): ณ เดือนกรกฎาคม 2025 (อ้างอิงจากข้อมูลล่าสุดในปี 2024) ค่าแรงขั้นต่ำสำหรับผู้ใหญ่ในไอร์แลนด์คือ €12.70 ต่อชั่วโมง (โปรดตรวจสอบข้อมูลอัปเดตอย่างเป็นทางการสำหรับปี 2025 อีกครั้ง เนื่องจากอาจมีการเปลี่ยนแปลงในช่วงปลายปี 2024 หรือต้นปี 2025)
  • รายได้รายเดือนที่คาดหวัง: หากคุณทำงานสูงสุด 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในช่วงภาคเรียน ที่อัตราค่าแรงขั้นต่ำ คุณอาจมีรายได้ประมาณ €1,016 ต่อเดือน (ก่อนหักภาษี, PRSI และ USC) ซึ่งจะเพิ่มขึ้นในช่วงวันหยุดยาวที่สามารถทำงานได้ถึง 40 ชั่วโมง

ประมาณการค่าครองชีพรายเดือน

ค่าใช้จ่ายจะแตกต่างกันไปในแต่ละเมือง โดยเฉพาะเมืองใหญ่อย่างดับลินจะมีค่าครองชีพสูงกว่าเมืองอื่นๆ โดยเฉลี่ยแล้วคาดว่าจะใช้จ่ายระหว่าง

€7,500 ถึง €12,000 ต่อปี (ประมาณ €625 – €1,000 ต่อเดือน) ขึ้นอยู่กับเมืองและไลฟ์สไตล์ของคุณ

ค่าใช้จ่าย (Expense)

ประมาณการค่าใช้จ่าย (EUR – ดับลิน)

ประมาณการค่าใช้จ่าย (EUR – เมืองอื่นๆ เช่น คอร์ก, กัลเวย์)

ค่าเช่า (แบบแชร์/ห้องพัก)

€600 – €1,200+

€400 – €800+

อาหารและของใช้จำเป็น

€250 – €400

€200 – €350

การเดินทาง

€50 – €100

€30 – €60

โทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต

€30 – €50

€25 – €45

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ

€150 – €300

€100 – €250

รวม (Total)

€1,130 – €2,150+

€795 – €1,585+

ค่าเล่าเรียนในไอร์แลนด์ (ต่อปี สำหรับนักเรียน Non-EU)

ค่าเล่าเรียนจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับหลักสูตรและสถาบัน โดยเฉลี่ย:

  • หลักสูตรปริญญาตรี: ประมาณ €9,750 – €52,000 ต่อปี (เช่น แพทย์และวิทยาศาสตร์สุขภาพอาจสูงถึง €45,000-€52,000, วิศวกรรมศาสตร์ €9,750-€23,000, ธุรกิจ €9,750-€18,000)
  • หลักสูตรปริญญาโท: ประมาณ €4,000 – €45,000+ ต่อปี (ขึ้นอยู่กับสาขาวิชาและความเชี่ยวชาญ)
  • ข้อกำหนดของวีซ่า: คุณต้องแสดงหลักฐานการชำระค่าเล่าเรียนแล้ว และหากค่าเล่าเรียนน้อยกว่า €6,000 ต้องชำระเต็มจำนวน แต่หากมากกว่า €6,000 คุณต้องชำระอย่างน้อย €6,000 ก่อนยื่นขอวีซ่า นอกจากนี้ คุณต้องแสดงหลักฐานว่ามีเงินทุนสำหรับค่าครองชีพอย่างน้อย €7,000 ต่อปี

บทสรุปด้านการเงิน: แม้ว่ารายได้จากการทำงานพาร์ทไทม์จะช่วย ครอบคลุมค่าครองชีพรายวันส่วนใหญ่ได้ แต่ก็ ไม่เพียงพอสำหรับค่าเล่าเรียนทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นหลักสูตรที่มีค่าใช้จ่ายสูง ดังนั้น การวางแผนทางการเงินอย่างรอบคอบเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งก่อนย้ายไปไอร์แลนด์ คุณควรมีเงินทุนสำรองสำหรับค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ในช่วงแรก การสำรวจทุนการศึกษา หรือการสนับสนุนจากครอบครัวเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อลดภาระทางการเงิน

โอกาสทำงานหลังเรียนจบในไอร์แลนด์ (Post-Study Work Opportunity)

ไอร์แลนด์เปิดกว้างมากขึ้นสำหรับนักเรียนต่างชาติที่ต้องการอยู่ต่อและทำงานหลังจากสำเร็จการศึกษา โดยมีทางเลือกหลักๆ ที่น่าสนใจและเป็นไปได้จริง:

1. โครงการสำหรับบัณฑิตศึกษา (Third Level Graduate Scheme – Stamp 1G)

นักเรียนต่างชาติ (Non-European) ที่สำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษาในไอร์แลนด์สามารถพำนักอยู่ต่อได้ 12 เดือน เพื่อหางานเต็มเวลา

  • คุณสมบัติ: คุณต้องสำเร็จการศึกษาจากสถาบันอุดมศึกษาที่ได้รับการรับรองของไอร์แลนด์
  • ระยะเวลา:
    • ปริญญาตรี (NFQ Level 7/8): สามารถพำนักอยู่ต่อได้ 12 เดือน
    • ปริญญาโท (NFQ Level 9) / ปริญญาเอก (NFQ Level 10): สามารถพำนักอยู่ต่อได้ 24 เดือน (ต่ออายุได้ 12+12 เดือน)
  • จุดประสงค์: เพื่อให้นักเรียนมีเวลาที่เพียงพอในการค้นหาและสมัครงานที่เกี่ยวข้องกับสาขาวิชาที่เรียน ในช่วงเวลานี้ คุณสามารถทำงานเต็มเวลาได้ (40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์)
  • ข้อจำกัด: ผู้ที่ได้รับ Stamp 1G โดยทั่วไปไม่ได้รับอนุญาตให้เริ่มต้นธุรกิจหรือเป็นนายตัวเอง โดยต้องได้รับอนุญาตเป็นพิเศษสำหรับกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเป็นผู้ประกอบการ

2. การเปลี่ยนใบอนุญาตพำนักเป็นใบอนุญาตทำงาน (Employment Permit)

หากคุณได้รับข้อเสนอการจ้างงานเต็มเวลาในขณะที่อยู่ภายใต้ Stamp 1G คุณสามารถยื่นขอเปลี่ยนสถานะเป็นใบอนุญาตพำนักและทำงาน (Residence and Work Permit) ได้ โดยมีทางเลือกหลักๆ ดังนี้:

  • Critical Skills Employment Permit: เป็นใบอนุญาตทำงานสำหรับผู้ที่มีทักษะสูงในสาขาที่ไอร์แลนด์ขาดแคลนแรงงาน (เช่น IT, วิศวกรรม, การดูแลสุขภาพ) การได้รับใบอนุญาตนี้มักมีขั้นตอนที่รวดเร็วกว่าและเป็นเส้นทางที่ชัดเจนสู่การพำนักระยะยาว (เช่น Siddhant Mohapatra ที่ได้รับ Critical Skills Permit จาก Wayfair)
  • General Employment Permit: สำหรับตำแหน่งงานทั่วไป นายจ้างอาจจะต้องผ่านการทดสอบความต้องการแรงงาน (Labour Market Needs Test) เพื่อแสดงว่าไม่สามารถหาแรงงานจากไอร์แลนด์หรือ EU/EEA มาแทนได้

3. โอกาสผู้ประกอบการ (Entrepreneurship)

หากคุณมีแนวคิดทางธุรกิจและต้องการสร้างงานของตัวเอง ไอร์แลนด์มีสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมผู้ประกอบการ แม้ว่าผู้ที่ได้รับ Stamp 1G จะมีข้อจำกัดในการเป็นนายตัวเอง คุณสามารถเรียนรู้หลักการของการเป็นผู้ประกอบการและเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ เพื่อพัฒนาทักษะได้ (เช่น Patrick Ogbonna จาก Dublin City University ที่ผันตัวมาเป็นผู้ประกอบการหลังจบการศึกษา)

ตัวอย่างความสำเร็จของบัณฑิตต่างชาติในไอร์แลนด์:

  • Shreyas Angchekar (Maynooth University): จบ MSc Computer Science และได้ทำงานเป็น Cloud Software Engineer ที่ Hewlett Packard โดยบริษัทเป็นผู้สปอนเซอร์ Stamp 1 Visa
  • Jasmine Younes (University College Dublin): จบ MSc Biological & Biomolecular Science และได้รับตำแหน่ง Client Services Manager ที่ Novartis, Ireland โดยได้รับการสนับสนุนอย่างมากจาก UCD Careers Networks ในการเตรียม CV และการสัมภาษณ์
  • Siddhant Mohapatra (National University of Ireland, Galway): จบ MSc Business Analytics และได้ทำงานเป็น Manager, Analytics ที่ Wayfair โดยบริษัทเป็นผู้สปอนเซอร์ Stamp 1 Critical Skills Permit หลังจากใช้ Stamp 1G graduate visa
  • Vanessa Pulgarin Auquilla (University College Cork): จบ MSc International Public Policy and Diplomacy และได้ทำงานเป็น Coordinator ของ Cork Smart Gateway initiative ซึ่งเป็นผลมาจากการฝึกงานและการสร้างเครือข่าย

สิ่งที่คุณต้องรู้และเตรียมพร้อม:

  • กฎหมายมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ: รัฐบาลไอร์แลนด์มีการปรับปรุงกฎหมายคนเข้าเมืองอย่างต่อเนื่องเพื่อดึงดูดผู้มีความสามารถ ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตรวจสอบ ข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์ทางการของ Irish Naturalisation and Immigration Service (INIS) ก่อนดำเนินการ
  • ความสำคัญของภาษาและทักษะ: การมีทักษะภาษาอังกฤษที่ดีเยี่ยม และทักษะเฉพาะทางที่ตรงกับความต้องการของตลาดงาน รวมถึงทักษะที่ถ่ายทอดได้ (Transferable skills) เช่น การสื่อสาร, Digital literacy, การทำงานเป็นทีม, ความเป็นผู้นำ, ความฉลาดทางอารมณ์, ความซื่อสัตย์ในวิชาชีพ, ความคิดสร้างสรรค์, การบริการลูกค้า, การบริหารเวลา, และการบริหารจัดการโครงการ จะเพิ่มโอกาสในการหางานและการประสบความสำเร็จในอาชีพของคุณได้อย่างมหาศาล

สภาพแวดล้อมการทำงานในไอร์แลนด์: มิตรภาพและความเป็นมืออาชีพ

การได้สัมผัสกับวัฒนธรรมการทำงานในไอร์แลนด์เป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ที่น่าสนใจ:

  • ความเป็นกันเองและมิตรภาพ: ชาวไอริชขึ้นชื่อเรื่องความเป็นมิตรและความอบอุ่น ซึ่งสะท้อนมาถึงบรรยากาศในที่ทำงาน หากคุณเป็นพนักงานใหม่ มีโอกาสสูงที่เพื่อนร่วมงานจะชวนคุณไปรับประทานอาหารกลางวันด้วยกัน เพื่อให้คุณรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของทีม
  • สมดุลชีวิตและการทำงานที่ดีเยี่ยม: ไอร์แลนด์ให้ความสำคัญอย่างมากกับสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว ในฐานะพนักงาน คุณจะได้เพลิดเพลินกับวันหยุดพักผ่อนที่ได้รับค่าจ้างอย่างน้อย 30 วันทำการต่อปี นอกเหนือจากวันหยุดราชการ
  • สภาพแวดล้อมที่เอื้อเฟื้อ: ในไอร์แลนด์ ครอบครัว เพื่อน และกิจกรรมยามว่างมักเป็นสิ่งสำคัญลำดับต้นๆ ซึ่งส่งผลให้บรรยากาศการทำงานผ่อนคลายกว่าในหลายประเทศ

ไอร์แลนด์เป็นประเทศที่ดีในการทำงานหรือไม่?

ไอร์แลนด์เป็นสถานที่ที่ดีเยี่ยมในการศึกษาต่อ และในด้านการทำงานก็มีศักยภาพสูง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโต (เทคโนโลยี, เภสัชกรรม) อัตราการว่างงานต่ำ และประเทศมีคุณภาพชีวิตที่ดีเยี่ยม ในปี 2020 ไอร์แลนด์ยังเป็นเศรษฐกิจที่มีการแข่งขันสูงเป็นอันดับ 6 ใน EU และอันดับ 12 ของโลกอีกด้วย

สิทธิ์ของพนักงานในไอร์แลนด์: การคุ้มครองที่แข็งแกร่ง

รัฐบาลไอร์แลนด์บังคับใช้กฎหมายแรงงานที่เข้มแข็ง เพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานทุกคนได้รับการปฏิบัติและคุ้มครองอย่างเป็นธรรม ซึ่งรวมถึงนักเรียนต่างชาติด้วย

  • สัญญาจ้างงาน: พนักงานทุกคนในไอร์แลนด์ต้องมีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรที่ระบุเงื่อนไขการจ้างงานอย่างชัดเจน
  • ชั่วโมงการทำงาน: สัปดาห์การทำงานมาตรฐานคือ 40 ชั่วโมง โดยมีจำนวนชั่วโมงทำงานสูงสุดที่กำหนด
  • ค่าแรงขั้นต่ำ: มีการกำหนดค่าแรงขั้นต่ำที่ชัดเจน
  • วันลาที่ได้รับค่าจ้าง: พนักงานทุกคนมีสิทธิ์ได้รับวันหยุดที่ได้รับค่าจ้าง 30 วันตามปฏิทินต่อปี
  • การลาป่วยและการลาเพื่อเลี้ยงดูบุตร: มีการคุ้มครองตามกฎหมาย
  • การคุ้มครองจากการเลือกปฏิบัติ: กฎหมายไอร์แลนด์ห้ามการเลือกปฏิบัติและการคุกคามในสถานที่ทำงานอย่างเด็ดขาด โดยครอบคลุมหลายด้าน เช่น เพศ สถานภาพ อายุ เชื้อชาติ และศาสนา

หางานพาร์ทไทม์ในไอร์แลนด์: เมืองไหนดีที่สุด?

การหางานพาร์ทไทม์ในไอร์แลนด์สำหรับนักเรียนต่างชาติ อาจง่ายขึ้นในเมืองใหญ่ที่มีเศรษฐกิจคึกคักและมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก:

  • ดับลิน (Dublin): ในฐานะเมืองหลวงและศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของไอร์แลนด์ ดับลินมีความหลากหลายของงานในภาคบริการ การค้าปลีก และการท่องเที่ยวมากที่สุด รวมถึงงานที่ใช้ภาษาอังกฤษในบริษัทข้ามชาติ อย่างไรก็ตาม ค่าครองชีพก็สูงที่สุดเช่นกัน
  • คอร์ก (Cork): เมืองใหญ่อันดับสอง มีอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและเภสัชกรรม ค่าครองชีพสมเหตุสมผลกว่าดับลิน
  • กัลเวย์ (Galway): เมืองมหาวิทยาลัยที่มีชีวิตชีวา เป็นศูนย์กลางการแพทย์และเทคโนโลยี มีบรรยากาศนานาชาติ
  • ลิเมอริก (Limerick): เมืองใหญ่ทางตะวันตกเฉียงใต้ มีโอกาสงานในด้านเทคโนโลยีและธุรกิจ
  • เมืองอื่นๆ ที่มีมหาวิทยาลัย: เช่น Maynooth, Waterford, Sligo อาจมีโอกาสงานในวิทยาเขตหรือเมืองใกล้เคียง การขยายการค้นหางานไปยังเมืองและภูมิภาคอื่นๆ ในไอร์แลนด์ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง

อ่านบทความนี้แล้วอยากเรียนต่อไอร์แลนด์? ปรึกษา The Best Education ได้เลย!

การตัดสินใจเรียนต่อต่างประเทศเป็นการเดินทางที่ยิ่งใหญ่ การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาจะช่วยให้คุณวางแผนได้อย่างมั่นใจและราบรื่น The Best Education พร้อมดูแลคุณในทุกขั้นตอน:

  • ให้คำปรึกษาฟรี: เราพร้อมให้คำปรึกษาเบื้องต้นเกี่ยวกับการเลือกหลักสูตร มหาวิทยาลัย และเมืองที่เหมาะสมกับความสนใจ งบประมาณ และเป้าหมายของคุณ
  • ช่วยเตรียมเอกสาร: ทีมงานของเราจะช่วยแนะนำและตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารที่จำเป็นสำหรับการสมัครและเทียบวุฒิการศึกษา
  • ประสานงานกับมหาวิทยาลัย: เราจะช่วยอำนวยความสะดวกในการติดต่อและยื่นใบสมัครไปยังมหาวิทยาลัยที่คุณสนใจ
  • บริการด้านวีซ่า: เราให้การสนับสนุนด้านการเตรียมเอกสารและขั้นตอนการขอวีซ่านักเรียนไอร์แลนด์ เพื่อให้คุณมั่นใจว่าทุกอย่างถูกต้องและราบรื่น
  • ที่พัก: เรายังสามารถให้คำแนะนำและช่วยเหลือในการหาที่พักที่เหมาะสมกับงบประมาณและความต้องการของคุณในไอร์แลนด์

ติดต่อเดอะเบสท์เพื่อสอบถามข้อมูลการเรียนต่อต่างประเทศเพิ่มเติม

เดอะเบสท์ เป็นศูนย์บริการให้คำปรึกษาเรียนต่อต่างประเทศครบวงจร เราเป็นตัวแทนที่ให้บริการแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และ ประเทศอื่นๆ อีก 25 ประเทศทั่วโลก เรายินดีให้ความช่วยเหลือตั้งแต่เริ่มสมัครเรียน จนสำเร็จการศึกษา รวมถึงดูแลนักเรียนระหว่างเรียนจนนักเรียนเรียนจบด้วยทีมผู้เชียวชาญในด้านการเรียนต่อต่างประเทศ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ขั้นตอนเหล่านี้เราดำเนินการให้ฟรี และเราพร้อมที่จะทำตามคุณภาพ และมาตรฐานดังสโลแกนที่ว่า “We are Quality”

 

บริการของเรามีอะไรบ้าง ?

  • ฟรี!! บริการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเรียนต่อต่างประเทศทุกระดับชั้นทั่วโลก ตั้งแต่ โรงเรียนประถม โรงเรียนมัธยม สถาบันวิชาชีพ และสถาบันในระดับอุดมศึกษา รวมถึงหลักสูตรภาษาต่างประเทศ และเลือกสถาบันที่ดีที่สุดให้กับผู้เรียน
  • เราให้ความช่วยเหลือตั้งแต่การประสานงานโรงเรียน เลือกโรงเรียนให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียน เตรียมเอกสารสมัครเรียน และดำเนินเรื่องสมัครเรียนให้ฟรี
  • บริการเตรียมเอกสารยื่นวีซ่าครบวงจร และบริการยื่นวีซ่ากว่า 25 ประเทศทั่วโลก พร้อมวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าอย่างตรงจุด และแนะนำวิธีการเตรียมตัวในการสัมภาษณ์วีซ่า 
  • บริการแปลเอกสาร ภาษาไทย – ภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาอังกฤษ – ภาษาไทย รวมถึงภาษาที่ 3 เริ่มต้นเพียงแผ่นละ 200 บาท
  • เดอะเบสท์ เป็นตัวแทนรับสมัครสอบ IELTS IDP อย่างเป็นทางการ พร้อมให้คำแนะนำ และนัดวันสอบให้โดยน้องๆ ไม่ต้องเสียเวลาสมัครเอง สมัครสอบได้ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ 
    [คลิกเพื่อสมัครสอบ IELTS]
  • บริการซื้อประกันภัยการเดินทางและประกันสุขภาพนักเรียนต่างชาติ จากบริษัทประกันชั้นนำ MSIG, Allianz, Bupa, NIB, Orbit และอื่นๆ  [คลิกเพื่อซื้อประกัน]
  • บริการจองตั๋วเครื่องบิน ทุกสายการบิน และประสานงานกับสถาบันเกี่ยวกับรถรับ – ส่ง สนามบิน
  • บริการจัดหาที่พักทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นโฮมสเตย์ อพาร์ทเม้น หรือหอพักนักศึกษา จัดหาให้ตามความต้องการส่วนบุคคล

 

“เรายินดีที่จะดูแลนักเรียนทุกคน ตั้งแต่เริ่มต้นจนนักเรียนสำเร็จการศึกษา และทำให้การเรียนต่อของคุณเป็นเรื่องง่าย ” สอบถามข้อมูลการบริการเพิ่มเติมติดต่อ
โทร : 090-327 3558088-269 5099
Email :contact@thebest-edu.com
Line : @thebestedu หรือคลิกเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ

 

Scroll to Top

Discover more from เดอะเบสท์ แนะแนวเรียนต่อต่างประเทศครบวงจร

Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

Continue reading