เดอะเบสท์ แนะแนวเรียนต่อต่างประเทศครบวงจร

เรียนปริญญาตรีแคนาดา | เริ่มต้นอย่างไรดี มีอะไรให้เรียนบ้าง ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ เลือกเรียนที่ไหนดี การสมัครเรียน โอกาสขอวีซ่าทำงานหลังเรียนจบ บทความนี้มีคำตอบ

สารบัญบทความ

Last updated มกราคม 27, 2025 ago by Thebestedu

แคนาดากลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับนักศึกษาต่างชาติที่กำลังมองหาการศึกษาระดับปริญญาตรีระดับโลก ด้วยสังคมที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ระบบการศึกษาที่มีคุณภาพสูง และสภาพแวดล้อมที่เหมาะแก่การศึกษา แคนาดามีโอกาสมากมายสำหรับนักศึกษาจากทั่วโลก ในปี พ.ศ. 2566 แคนาดาเป็นประเทศที่นักเรียนต่างชาติกว่า 1 ล้านคนเลือกมาศึกษาต่อ ทำให้เป็นหนึ่งในประเทศที่เหมาะสำหรับการศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา กลุ่มนักเรียนที่ใหญ่ที่สุดมาจากอินเดีย จีน ฟิลิปปินส์ และไนจีเรีย โดยจังหวัดของแคนาดาที่มีนักเรียนต่างชาติมากที่สุด ได้แก่ ออนแทริโอ บริติชโคลัมเบีย และควิเบก โดยมีนักเรียนมากกว่าครึ่งหนึ่งอยู่ในออนแทริโอเพียงแห่งเดียว  โดยบทความนี้ทางเดอะเบสท์จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุผลว่าทำไมการเรียนในแคนาดาเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับนักศึกษา

เหตุผลทำไมควรเรียนปริญญาตรีที่แคนาดา


  • การศึกษาชั้นนำระดับโลก: มหาวิทยาลัย และวิทยาลัยแคนาดาได้รับการยอมรับทั่วโลกในด้านวิชาการ การวิจัยที่ล้ำสมัย และนวัตกรรม สถาบันชั้นนำเช่น University of Toronto, McGill University และ University of British Columbia ติดอันดับท็อปของโลกอย่างสม่ำเสมอ และยังมีทุนการศึกษาให้กับศึกษาอีกด้วย
  • สภาพแวดล้อมที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม: แคนาดามีผู้คนจากหลากหลายเชื้อชาติ วัฒนธรรม และภาษา สำหรับนักเรียนต่างชาติ ถือเป็นโอกาสที่จะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมอันหลากหลายในขณะที่ศึกษาอยู่
  • โอกาสหลังสำเร็จการศึกษา: ใบอนุญาตทำงานหลังสำเร็จการศึกษา (PGWP) อนุญาตให้ผู้สำเร็จการศึกษาทำงานในแคนาดาได้นานถึงสามปี
  • สังคมที่ปลอดภัยและครอบคลุม: แคนาดาได้รับการจัดอันดับว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลก
  • ทุนการศึกษาและความช่วยเหลือทางการเงินสำหรับนักเรียนต่างชาติ: มหาวิทยาลัยแคนาดาหลายแห่งมีทุนการศึกษาตามผลการเรียนโดยเฉพาะสำหรับนักเรียนต่างชาตินอกจากนี้ วิทยาลัยบางแห่งยังให้ความช่วยเหลือทางการเงินและทุนการศึกษา
  • โปรแกรมร่วมงานและฝึกงาน (Co-Op Program): หนึ่งในจุดเด่นของการศึกษาในแคนาดาที่มีโปรแกรมร่วมงานและฝึกงาน ซึ่งมอบทำให้มีประสบการณ์การทำงานแบบลงมือทำในขณะที่กำลังศึกษาอยู่ สถาบันที่เปิดสอนโปรแกรม Co-Op Program เช่น University of Waterloo, Simon Fraser University และ Humber College อนุญาตให้นักเรียนสลับระหว่างการศึกษาทางวิชาการกับการทำงานภาคปฏิบัติแบบได้ค่าตอบเเทน การเรียนรู้แบบ Co-Op Program ช่วยให้นักเรียนได้รับประสบการณ์เชิงปฏิบัติ และยังเพิ่มความสามารถในการทำงานหลังสำเร็จการศึกษาได้อีกด้วย
  • ความสมดุลระหว่างการเรียนและการทำงาน: แคนาดาอนุญาตให้นักเรียนต่างชาติทำงานนอกเวลาในระหว่างการศึกษาหรือทำงานพาร์ทไทม์ได้ ซึ่งช่วยให้สามารถหารายได้ระหว่างเรียนซึ่งจะได้รับประสบการณ์การทำงานจริงด้วย

ประเภทหลักสูตรในเเคนาดา

ปริญญาตรี

แคนาดามีหลักสูตรปริญญาตรี ที่หลากหลายเปิดสอนในสถาบันการศึกษาต่างๆ ผู้เรียนสามารถเลือก ปรับให้เหมาะตามความสนใจและเป้าหมาย

1.Bachelor of Arts (BA) - ปริญญาตรีสาขาอักษรศาสตร์ (BA)

  • สาขาวิชา: มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์
  • ระยะเวลา: โดยทั่วไป 3-4 ปี
  • สาขาวิชาที่นิยม: ภาษาอังกฤษ จิตวิทยา ประวัติศาสตร์ สังคมวิทยา วิทยาศาสตร์การเมือง ปรัชญา เศรษฐศาสตร์ สัมพันธการต่างประเทศ การสื่อสาร
  • จุดเด่นของหลักสูตร: เน้นการคิดวิเคราะห์ การสื่อสาร ทักษะการวิเคราะห์ ด้านมนุษยศาสตร์ และมีการสอนแบบสหวิทยาการ
  • มหาวิทยาลัยที่เปิดสอน BA: University of Toronto, University of British Columbia, McGill University, University of Alberta, Queen’s University

2. Bachelor of Science (BSc) - ปริญญาตรีสาขาวิทยาศาสตร์ (BSc)

  • สาขาวิชา: วิทยาศาสตร์ธรรมชาติและวิทยาศาสตร์ประยุกต์
  • ระยะเวลา: โดยทั่วไป 3-4 ปี
  • สาขาวิชาที่นิยม: ชีววิทยา เคมี ฟิสิกส์ วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม คณิตศาสตร์ วิทยาการคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีชีวภาพ
  • จุดเด่นของหลักสูตร: ปริญญา BSc เน้นการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ การทำงานในห้องปฏิบัติการ และความรู้ทางเทคนิคในสาขาเฉพาะ
  • มหาวิทยาลัยที่เปิดสอน BSc: University of British Columbia, McGill University, Simon Fraser University, University of Waterloo, University of Manitoba

3. Bachelor of Engineering (BEng or BASc) - ปริญญาตรีสาขาวิศวกรรม (BEng หรือ BASc)

  • สาขาวิชา: สาขาวิศวกรรม
  • ระยะเวลา: โดยทั่วไป 4-5 ปี
  • สาขาวิชาที่นิยม: วิศวกรรมเครื่องกล วิศวกรรมโยธา วิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมเคมี วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ วิศวกรรมซอฟต์แวร์
  • จุดเด่นของหลักสูตร: หลักสูตรเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการศึกษาอย่างเข้มข้นในทฤษฎีวิศวกรรม การแก้ปัญหาทางเทคนิค และโครงการภาคปฏิบัติ หลักสูตรที่ได้รับการรับรองมักเตรียมผู้เรียนให้พร้อมสำหรับการรับใบอนุญาตเป็นวิศวกรมืออาชีพ (P.Eng)
  • มหาวิทยาลัยที่เปิดสอน BEng/BASc: University of Toronto, University of Waterloo, McMaster University, University of Alberta, Queen’s University

4. Bachelor of Commerce (BCom) or Bachelor of Business Administration (BBA) - ปริญญาตรีสาขาการค้า (BCom) หรือปริญญาตรีสาขาบริหารธุรกิจ (BBA)

  • สาขาวิชา: ธุรกิจและการจัดการ
  • ระยะเวลา: โดยทั่วไป 4 ปี
  • สาขาวิชาที่นิยม: การบัญชี การเงิน การตลาด การจัดการทรัพยากรบุคคล ธุรกิจระหว่างประเทศ การจัดการการดำเนินงาน การประกอบธุรกิจ
  • จุดเด่นของหลักสูตร: หลักสูตรเหล่านี้ครอบคลุมหลักการและแนวปฏิบัติทางธุรกิจที่สำคัญ มักเสนอโอกาสฝึกงานหรือร่วมงาน
  • มหาวิทยาลัยที่เปิดสอน BCom/BBA: University of British Columbia (Sauder School of Business), York University (Schulich School of Business), McGill University (Desautels Faculty of Management), Western University (Ivey School of Business)

5. Bachelor of Fine Arts (BFA) - ปริญญาตรีสาขาศิลปกรรม (BFA)

  • สาขาวิชา: ศิลปะภาพ, ศิลปะการแสดง, และสาขาสร้างสรรค์
  • ระยะเวลา: โดยทั่วไป 4 ปี
  • สาขาวิชาที่นิยม: ศิลปกรรม, ละคร, การเต้น, ภาพยนตร์, การออกแบบกราฟิก, แอนิเมชัน, การถ่ายภาพ
  • จุดเด่นของหลักสูตร: หลักสูตรเหล่านี้รวมการฝึกอบรมภาคปฏิบัติในสาขาศิลปะกับการศึกษาทางวิชาการด้านประวัติศาสตร์ศิลปะ ทฤษฎี และการวิจารณ์
  • มหาวิทยาลัยที่เปิดสอน BFA: OCAD University, Emily Carr University of Art + Design, York University, University of British Columbia, NSCAD University

6. Bachelor of Education (BEd) - ปริญญาตรีสาขาการศึกษา (BEd)

  • สาขาวิชา: การศึกษาครู
  • ระยะเวลา: โดยทั่วไป 4-5 ปี (มักต้องการปริญญาตรีล่วงหน้าในบางจังหวัด)
  • จุดเด่นของหลักสูตร: เตรียมผู้เรียนสำหรับอาชีพการสอนในระดับประถมศึกษาหรือมัธยมศึกษา เกี่ยวข้องกับหลักสูตรการสอน การออกแบบหลักสูตร และจิตวิทยาการศึกษา รวมถึงประสบการณ์การสอนในห้องเรียน
  • มหาวิทยาลัยที่เปิดสอน BEd: University of British Columbia, University of Toronto (OISE), University of Alberta, McGill University

7. Bachelor of Nursing (BN or BScN) - ปริญญาตรีสาขาการพยาบาล (BN หรือ BScN)

  • สาขาวิชา: การพยาบาลและการดูแลสุขภาพ
  • ระยะเวลา: โดยทั่วไป 4 ปี
  • จุดเด่นของหลักสูตร: หลักสูตรนี้เตรียมผู้เรียนให้พร้อมสำหรับการเป็นพยาบาลจดทะเบียน (RN) ผ่านหลักสูตรวิทยาศาสตร์สุขภาพ การดูแลผู้ป่วย และการฝึกปฏิบัติทางคลินิก
  • มหาวิทยาลัยที่เปิดสอน BN/BScN: University of Toronto, University of British Columbia, University of Alberta, McMaster University

8. Bachelor of Laws (LLB) or Juris Doctor (JD) ปริญญาตรีสาขานิติศาสตร์ (LLB) หรือ Juris Doctor (JD)

  • สาขาวิชา: กฎหมาย
  • ระยะเวลา: โดยทั่วไป 3-4 ปี
  • จุดเด่นของหลักสูตร: นี่คือปริญญาอาชีพสำหรับผู้เรียนที่สนใจประกอบอาชีพด้านกฎหมาย ครอบคลุมหลักการทางกฎหมาย กรณีศาล และจริยธรรม
  • มหาวิทยาลัยที่เปิดสอน JD: University of Toronto, University of British Columbia, McGill University, Osgoode Hall Law School (York University), University of Ottawa

9. Bachelor of Health Sciences (BHSc) - ปริญญาตรีสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ (BHSc)

  • สาขาวิชา: กฎหมาย
  • ระยะเวลา: โดยทั่วไป 3-4 ปี
  • จุดเด่นของหลักสูตร: นี่คือปริญญาอาชีพสำหรับผู้เรียนที่สนใจประกอบอาชีพด้านกฎหมาย ครอบคลุมหลักการทางกฎหมาย กรณีศาล และจริยธรรม
  • มหาวิทยาลัยที่เปิดสอน JD: University of Toronto, University of British Columbia, McGill University, Osgoode Hall Law School (York University), University of Ottawa

10. Bachelor of Social Work (BSW) - ปริญญาตรีสาขาการทำงานสังคม (BSW)

  • สาขาวิชา: การทำงานสังคมและการบริการชุมชน
  • ระยะเวลา: โดยทั่วไป 4 ปี
  • จุดเด่นของหลักสูตร: เตรียมผู้เรียนสำหรับอาชีพด้านการทำงานสังคม โดยให้การฝึกอบรมด้านการปรึกษา การเข้าถึงชุมชน และความยุติธรรมทางสังคม
  • มหาวิทยาลัยที่เปิดสอน BSW: University of British Columbia, Dalhousie University, University of Manitoba, University of Toronto

11. Bachelor of Applied Science (BASc) - ปริญญาตรีสาขาวิทยาศาสตร์ประยุกต์ (BASc)

  • สาขาวิชา: สาขาเฉพาะของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
  • ระยะเวลา: โดยทั่วไป 4 ปี
  • สาขาวิชาที่นิยม: วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม วิทยาศาสตร์การเกษตร วิทยาศาสตร์อาหาร เทคโนโลยีประยุกต์
  • จุดเด่นของหลักสูตร: ผสมผสานความรู้ทางทฤษฎีกับการประยุกต์ใช้จริงในสาขาวิทยาศาสตร์เฉพาะ
  • มหาวิทยาลัยที่เปิดสอน BASc: University of Guelph, University of Alberta, Simon Fraser University

12. Bachelor of Music (BMus) - ปริญญาตรีสาขาดนตรี (BMus)

  • สาขาวิชา: การแสดงดนตรี การประพันธ์ และทฤษฎีดนตรี
  • ระยะเวลา: โดยทั่วไป 4 ปี
  • จุดเด่นของหลักสูตร: มอบการฝึกอบรมด้านการแสดงดนตรี การประพันธ์ ประวัติศาสตร์ และทฤษฎีดนตรี
  • มหาวิทยาลัยที่เปิดสอน BMus: University of Toronto, University of British Columbia, McGill University, Dalhousie University

หลักสูตรประกาศนียบัตรต่อด้วยหลักสูตรปริญญาตรี

หลักสูตรประกาศนียบัตรที่สามารถนำไปสู่ปริญญาตรีได้ เส้นทางนี้เป็นเรื่องปกติในวิทยาลัยและโรงเรียนเทคนิคที่นักเรียนอาจเริ่มด้วยโปรแกรมที่สั้นกว่า เช่น เรียนหลักสูตรวิชาชีพแล้วจึงโอนหน่วยกิตไปยังมหาวิทยาลัยเพื่อสำเร็จปริญญาตรี

ข้อดีของเส้นทางประกาศนียบัตร/ประกาศนียบัตรไปสู่ปริญญาตรี

  1. ประหยัดค่าใช้จ่าย: การเริ่มต้นด้วยหลักสูตรประกาศนียบัตรที่วิทยาลัยประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าการเรียนโดยตรงในหลักสูตรปริญญาสี่ปีของมหาวิทยาลัย
  2. ความยืดหยุ่น: สามารถเริ่มทำงานได้เร็วขึ้น และยังสามารถเรียนต่อในระดับปริญญาตรีได้ในภายหลัง
  3. ขนาดห้องเรียนที่เล็กกว่า: วิทยาลัย โรงเรียนวิชาชีพ จะมีขนาดห้องเรียนที่เล็กกว่า ทำให้อาจารย์และผู้เรียนโต้ตอบกันได้มายิ่งขึ้น
  4. การเรียนรู้แบบลงมือทำ: หลักสูตรวิชาชีพจะเน้นการปฏิบัติ ทำให้สามารถหางานได้ง่ายขึ้นก่อนสำเร็จการศึกษา
  5. การเตรียมความพร้อมสำหรับอาชีพ: หลักสูตรนี้นักศึกษาจะได้เรียนรู้ทั้งเชิงปฏิบัติ และทางวิชาการ อย่างเข้มข้น

1. Certificate Programs - หลักสูตรประกาศนียบัตร

  • ระยะเวลา: โดยทั่วไป 6 เดือนถึง 1 ปี
  • จุดเด่น: ออกแบบเพื่อให้ความรู้เฉพาะทางในสาขาใดสาขาหนึ่ง ในระยะเวลาสั้น และเน้นทักษะเฉพาะงาน
  • สาขาวิชาที่นิยม: ธุรกิจ การดูแลสุขภาพ เทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดการโครงการ การตลาด การค้า
  • เส้นทางสู่ปริญญาตรี: บางหลักสูตรสามารถโอนหน่วยกิตเพื่อเข้าศึกษาต่อหลักสูตรประกาศนียบัตรที่สูงขึ้น หรือปริญญาตรี โดยเฉพาะในสาขาเดียวกันหรือสาขาที่เกี่ยวข้อง

2. Diploma Programs - หลักสูตรประกาศนียบัตรระดับอนุปริญญา

  • ระยะเวลา: โดยทั่วไป 2-3 ปี
  • จุดเด่น: การเรียนรู้ที่ครอบคลุมกว่าใน Certificate และเน้นการปฏิบัติ มุ่งสู่การทำงาน เตรียมผู้เรียนให้พร้อมสำหรับการทำงานทันที
  • สาขาวิชาที่นิยม: การพยาบาล เทคโนโลยีวิศวกรรม เทคโนโลยีสารสนเทศ การออกแบบกราฟิก การจัดการโรงแรม วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม
  • เส้นทางสู่ปริญญาตรี: Diploma Programs ได้รับการออกแบบให้สามารถโอนหน่วยกิตเพื่อเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยในปีที่สามของปริญญาตรีสี่ปี เช่น
    • Seneca College to York University: ผู้สำเร็จการศึกษาประกาศนียบัตรจาก Seneca ในสาขาเช่นแอนิเมชันหรือธุรกิจสามารถโอนหน่วยกิตไปศึกษาต่อหลักสูตรปริญญาตรีของ York University
    • George Brown College to Ryerson University (now Toronto Metropolitan University): ประกาศนียบัตรจาก George Brown ในด้านการออกแบบ เทคโนโลยี หรือสุขภาพสามารถโอนไปศึกษาต่อปริญญาตรีที่ Ryerson
    • Vancouver Community College (VCC) to University of British Columbia (UBC): นักเรียนสามารถโอนจากโปรแกรม VCC เช่น ศิลปะการทำอาหารหรือการดูแลสุขภาพไปศึกษาต่อหลักสูตรปริญญาตรีที่เกี่ยวข้องของ UBC

3. Bridge or Transfer Programs – โปรแกรมสะพาน หรือการโอนหน่วยกิต

หลักสูตรโอนย้าย เป็นหลักสูตรที่ออกแบบมาเพื่อให้นักศึกษาที่จบการศึกษาจากสถาบันหนึ่ง สามารถโอนย้ายไปศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น หรือเปลี่ยนแปลงสาขาวิชาในสถาบันอื่นได้อย่างราบรื่น

  • Transfer Credits: หน่วยกิตที่ได้รับจากการเรียนในสถาบันการศึกษาอื่น หรือจากประสบการณ์ทำงาน ซึ่งสามารถนำมาโอนย้ายเข้าเรียนในหลักสูตรปริญญาตรีได้
  • Advanced Standing: นักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาในระดับประกาศนียบัตร หรือมีประสบการณ์ทำงานที่เกี่ยวข้อง สามารถเข้าศึกษาต่อในปีที่สองหรือสามของหลักสูตรปริญญาตรีได้เลย โดยไม่ต้องเริ่มเรียนตั้งแต่ปีหนึ่ง
  • ตัวอย่าง Bridge or Transfer Programs
    • British Columbia: British Columbia Council on Admissions & Transfer (BCCAT) ช่วยให้นักเรียนโอนจากวิทยาลัยไปยังมหาวิทยาลัย เช่น University of British Columbia หรือ Simon Fraser University
    • Ontario: นักเรียนที่มีประกาศนียบัตรจาก Humber College สามารถโอนไปศึกษาต่อปริญญาตรีที่ York University
    • Alberta: SAIT Polytechnic และ NAIT สามารถโอนไปศึกษาต่อหลักสูตรปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัย University of Calgary, University of Alberta

4. Applied Degrees - ปริญญาตรีประยุกต์

ปริญญาประยุกต์ คือหลักสูตรระดับอุดมศึกษาที่มุ่งเน้นการฝึกฝนทักษะ และความรู้ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงในภาคอุตสาหกรรม หรือสายอาชีพต่างๆ โดยเน้นการเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติจริง การแก้ปัญหา และการพัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงาน

ตัวอย่าง: Bachelor of Applied Technology ที่ SAIT Polytechnic หรือ Bachelor of Applied Business ที่ Humber College


ประเภทของสถาบันเรียนต่อปริญญาตรีในแคนาดา

แคนาดามีสถาบันการศึกษาหลากหลายประเภท แต่ละประเภท เหมาะสำหรับนักศึกษาและเป้าหมายอาชีพที่แตกต่างกัน ก่อนตัดสินใจในการเรียนต่อปริญญาตรี เดอะเบสท์แนะนำให้ทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างมหาวิทยาลัย วิทยาลัย โรงเรียนเทคนิค/อาชีวศึกษา และวิทยาลัยทางเลือก เพื่อที่จะได้เลือกเส้นทางการเรียนต่อที่ตอบโจทย์กับผู้เรียนทุกคน

University – มหาวิทยาลัย

มหาวิทยาลัยในแคนาดาโดดเด่นในด้านการศึกษาที่เน้นทั้งทฤษฎีและปฏิบัติจริง โดยเปิดสอนหลักสูตรหลากหลายสาขา ตั้งแต่ระดับปริญญาตรีจนถึงปริญญาเอก ไม่ว่าจะเป็น ศิลปะ ธุรกิจ วิศวกรรม แพทยศาสตร์ กฎหมาย และอีกมากมาย สถาบันการศึกษาเหล่านี้มีชื่อเสียงในด้านการวิจัยที่ล้ำสมัย และความเข้มข้นทางวิชาการ ทำให้บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยแคนาดามีความรู้ความสามารถและพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่ตลาดแรงงานระดับโลก

ความเชี่ยวชาญของมหาวิทยาลัยแคนาดา

มหาวิทยาลัยในแคนาดาไม่เพียงแต่เป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำ แต่ยังเป็นศูนย์กลางแห่งนวัตกรรมและความเป็นเลิศทางวิชาการระดับโลก โดยมีจุดเด่นในหลายสาขาที่น่าสนใจ:

  • STEM (วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม คณิตศาสตร์): มหาวิทยาลัยอย่าง University of Toronto, UBC และ McGill เป็นผู้นำในการพัฒนาเทคโนโลยีแห่งอนาคต ไม่ว่าจะเป็นปัญญาประดิษฐ์, หุ่นยนต์, หรือพลังงานสะอาด นักศึกษาที่นี่จะได้ร่วมงานวิจัยกับอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ และมีโอกาสสร้างสรรค์นวัตกรรมที่เปลี่ยนโลก
  • การแพทย์และการดูแลสุขภาพ: มหาวิทยาลัย McMaster และ Dalhousie เป็นที่รู้จักในด้านการวิจัยทางการแพทย์ที่ล้ำสมัย โดยมุ่งเน้นการค้นพบวิธีการรักษาโรคใหม่ๆ และพัฒนายาชนิดใหม่ นักศึกษาแพทย์จะได้เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญชั้นนำ และมีโอกาสเข้าร่วมโครงการวิจัยที่น่าสนใจ
  • ธุรกิจและเศรษฐศาสตร์: โรงเรียนธุรกิจชั้นนำอย่าง Schulich, Rotman และ Sauder ผลิตบัณฑิตที่พร้อมก้าวเข้าสู่โลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเน้นการสอนทักษะด้านการเป็นผู้นำ การคิดเชิงวิเคราะห์ และความยั่งยืน
  • ศิลปะและมนุษยศาสตร์: มหาวิทยาลัย Queen’s และ University of Alberta ส่งเสริมให้นักศึกษาได้ค้นพบความคิดสร้างสรรค์ และพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ ผ่านการเรียนรู้ด้านปรัชญา, ประวัติศาสตร์, ศิลปะ และวรรณกรรม

สอบถามข้อมูลการบริการเพิ่มเติมติดต่อ
โทร
:090-327 3558088-269 5099

Email:contact@thebest-edu.com
Line:@thebesteduหรือคลิกเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะเพิ่มเพื่อน

การเข้าเรียนปริญญาตรีมหาวิทยาลัยชั้นนำ หรือมหาวิทยาลัยการวิจัยส่งผลต่อค่าเล่าเรียนและสิทธิ์ PR หรือไม่?

  • มหาวิทยาลัยชั้นนำมักจะมีค่าเล่าเรียนสูงกว่า โดยเฉพาะ วิศวกรรม การแพทย์ และธุรกิจ
  • อย่างไรก็ตาม การเข้าเรียนมหาวิทยาลัยชั้นนำไม่จำเป็นสำหรับการได้รับการพำนักถาวร (PR) สิ่งที่สำคัญกว่าสำหรับสิทธิ์ PR คือการสำเร็จการศึกษาในสถาบันการเรียนรู้ที่ได้รับการกำหนด (DLI) และได้รับใบอนุญาตทำงานหลังจบการศึกษา (PGWP) เพื่อได้รับประสบการณ์การทำงานในแคนาดา
  • ทั้งมหาวิทยาลัยรัฐและวิทยาลัยโดยทั่วไปอนุญาตให้นักศึกษาสามารถมีสิทธิ์ได้รับ PGWP ซึ่งมีความสำคัญสำหรับการได้รับประสบการณ์การทำงานเพื่อสนับสนุนการสมัคร PR

ตัวอย่างมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง:

  • University of Toronto (ออนแทริโอ): เป็นที่รู้จักด้านการวิจัยที่ทันสมัยและโปรแกรมที่หลากหลาย U of T ได้รับการจัดอันดับอย่างสม่ำเสมอในกลุ่มมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก
  • McGill University (ควิเบก): เสนอโปรแกรมที่แข็งแกร่งในด้านการแพทย์ กฎหมาย และธุรกิจ McGill ได้รับการยอมรับในระดับโลกสำหรับความเป็นเลิศทางวิจัย
  • University of British Columbia (บริติชโคลัมเบีย): เป็นที่รู้จักด้านการมุ่งเน้นความยั่งยืน UBC เสนอโปรแกรมปริญญาตรีที่หลากหลายและมีวิทยาเขตที่สวยงามตั้งอยู่ในแวนคูเวอร์

เงื่อนไขการรับเข้าเรียนของมหาวิทยาลัย

มหาวิทยาลัยในแคนาดาเป็นที่รู้จักด้านความเข้มงวดทางวิชาการและกระบวนการรับสมัครที่แข่งขันสูง โดยเฉพาะในโปรแกรมยอดนิยม เช่น วิศวกรรม การแพทย์ กฎหมาย และธุรกิจ อย่างไรก็ตาม ความแข่งขันอาจแตกต่างกันไปตามสถาบัน โปรแกรม และมหาวิทยาลัยที่เลือก

ข้อกำหนดการรับสมัครทั่วไป:

  • ข้อกำหนดทางวิชาการ: ผลการเรียนในระดับมัธยมปลายในระดับดีมาก (และเทียบเท่ากับประกาศนียบัตรมัธยมปลายของแคนาดา)
  • GPA ที่ต้องการแตกต่างกันไปตามสถาบัน แต่โดยทั่วไปอยู่ระหว่าง 75-90% (2.80 – 3.60+) ขึ้นอยู่กับโปรแกรม
  • หลักสูตรขั้นสูงในวิชาที่เกี่ยวข้อง (เช่น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์สำหรับวิศวกรรม)
  • สำหรับโปรแกรมการแข่งขันสูง เช่น การแพทย์หรือวิศวกรรม คาดว่าจะมีข้อกำหนดที่สูงขึ้น
  • ผลสอบภาษาอังกฤษ: ความสามารถทางภาษาอังกฤษ (เช่น TOEFL หรือ IELTS) สำหรับนักเรียนต่างชาติที่ภาษาอังกฤษไม่ได้เป็นภาษาหลัก คะแนนขั้นต่ำมักจะอยู่ระหว่าง:
    • TOEFL: 90 – 100 (iBT)
    • IELTS: 6.5 – 7.5 โดยรวม (แต่ละ Band ไม่ต่ำกว่า 6.0)
  • สถาบันบางแห่งอาจต้องการการสอบเพิ่มเติม เช่น คะแนน SAT หรือ ACT โดยเฉพาะสำหรับผู้สมัครจากสหรัฐอเมริกา
  • เอกสารประกอบอื่นๆ :
    • Personal statement/essay เรียงความส่วนตัว
    • Letters of recommendation จดหมายแนะนำจากครูหรือที่ปรึกษาโรงเรียน
    • ในบางกรณี พอร์ตโฟลิโอ (สำหรับโปรแกรมศิลปะหรือการออกแบบเชิงสร้างสรรค์)
    • โปรแกรมการแข่งขันสูงบางโปรแกรม (การแพทย์ กฎหมาย) อาจต้องสัมภาษณ์ การทดสอบแบบเขียน หรือการประเมินอื่นๆ

โอกาสในการเข้าเรียน การแข่งขัน และความยากง่าย :

  • แข่งขันสูง: สถาบัน เช่น University of Toronto, McGill University และ University of British Columbia มีความยากในการเข้าเรียน โดยเฉพาะโปรแกรมชั้นนำ อัตราการยอมรับอาจต่ำถึง 30-40% โดยมีอัตราการยอมรับที่ต่ำกว่าสำหรับเฉพาะสาขา
  • แข่งขันปานกลาง: มหาวิทยาลัยระดับภูมิภาคหรือขนาดเล็ก เช่น Memorial University of Newfoundland หรือ University of Manitoba มักมีมาตรฐานการรับสมัครที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น โดยมีอัตราการยอมรับอยู่ระหว่าง 60-80%

ความยาก/ง่าย:

  • ยาก: มหาวิทยาลัยชั้นนำ (University of Toronto, McGill, UBC) ในโปรแกรมเช่น การแพทย์ กฎหมาย หรือวิศวกรรม เป็นเรื่องยากเนื่องจากข้อกำหนดทางวิชาการที่สูงและพื้นที่จำกัด
  • ง่าย: มหาวิทยาลัยขนาดเล็ก หรือมหาวิทยาลัยที่การแข่งขันไม่สูงมาก โดยเฉพาะโปรแกรมศิลปะหรือวิทยาศาสตร์ทั่วไปนั้นง่ายกว่า โดยมีข้อกำหนดทางวิชาการที่ต่ำกว่าและการแข่งขันน้อยกว่า

ตัวอย่างค่าเล่าเรียนของมหาวิทยาลัยในแคนาดา

มหาวิทยาลัย

ค่าเล่าเรียนเฉลี่ยสำหรับนักศึกษาต่างชาติ (ต่อปี)

ค่าเล่าเรียนเฉลี่ยสำหรับนักศึกษาต่างชาติ (ต่อปี)

University of Toronto (UofT)

CAD 45,000 – 60,000

การแพทย์: CAD 90,000

University of British Columbia (UBC)

CAD 35,000 – 55,000

วิศวกรรม: CAD 53,000

McGill University

CAD 22,000 – 48,000

กฎหมาย: CAD 35,000

University of Waterloo

CAD 35,000 – 50,000

วิทยาการคอมพิวเตอร์: CAD 47,000

McMaster University

CAD 28,000 – 40,000

วิทยาศาสตร์สุขภาพ: CAD 40,000

ตารางสรุปค่าเล่าเรียนมหาวิทยาลัยอื่นๆ สำหรับนักศึกษาต่างชาติ

มหาวิทยาลัย

ค่าเล่าเรียนเฉลี่ยสำหรับนักศึกษาต่างชาติ (ต่อปี)

University of Toronto (UofT)

CAD 45,000 – 60,000

University of British Columbia (UBC)

CAD 35,000 – 55,000

McGill University

CAD 22,000 – 48,000

University of Waterloo

CAD 35,000 – 50,000

McMaster University

CAD 28,000 – 40,000

Concordia University of Edmonton (Alberta)

CAD 15,000 – 20,000

MacEwan University (Alberta)

CAD 15,000 – 22,000

University of Alberta

CAD 30,000 – 44,000

University of Lethbridge (Alberta)

CAD 17,000 – 21,000

Capilano University (British Columbia)

CAD 17,000 – 25,000

Simon Fraser University (SFU)

CAD 30,000 – 45,000

Thompson Rivers University (British Columbia)

CAD 18,000 – 25,000

University of Victoria (UVic)

CAD 28,000 – 38,000

Vancouver Island University

CAD 18,000 – 24,000

University of Northern British Columbia

CAD 17,000 – 22,000

University of Manitoba

CAD 17,000 – 23,000

University of Winnipeg

CAD 15,000 – 18,000

University of New Brunswick

CAD 15,000 – 22,000

Dalhousie University (Nova Scotia)

CAD 18,000 – 25,000

Saint Francis Xavier University (Nova Scotia)

CAD 18,000 – 23,000

Brock University (Ontario)

CAD 18,000 – 24,000

Carleton University (Ontario)

CAD 27,000 – 38,000

Queen’s University (Ontario)

CAD 27,000 – 48,000

Toronto Metropolitan University (Ryerson University)

CAD 30,000 – 38,000

University of Guelph (Ontario)

CAD 25,000 – 40,000

University of Ottawa (Ontario)

CAD 27,000 – 45,000

University of Windsor (Ontario)

CAD 18,000 – 25,000

Western University (Ontario)

CAD 30,000 – 40,000

York University (Ontario)

CAD 25,000 – 38,000

University of Prince Edward Island

CAD 14,000 – 18,000

Bishop’s University (Quebec)

CAD 16,000 – 20,000

University of Regina (Saskatchewan)

CAD 18,000 – 22,000

University of Saskatchewan

CAD 20,000 – 24,000


College วิทยาลัย

วิทยาลัยในแคนาดานั้นแตกต่างจากมหาวิทยาลัยตรงที่มุ่งเน้นการเรียนรู้แบบปฏิบัติจริงและเชื่อมโยงกับภาคอุตสาหกรรมมากขึ้น โดยมักเปิดสอนหลักสูตรระยะสั้น เน้นการพัฒนาทักษะเฉพาะทางที่ตลาดแรงงานต้องการ โดยมักจะร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเหมาะสำหรับการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ ในสาขาต่างๆ เช่น วิทยาศาสตร์ประยุกต์ ธุรกิจ สุขภาพ และงานฝีมือ วิทยาศาสตร์ประยุกต์ การบริการ การศึกษา

จุดเด่นของวิทยาลัย:

  • เน้นลงมือปฏิบัติจริง: ด้วยห้องปฏิบัติการที่ทันสมัย โครงการฝึกงาน และโอกาสในการทำงานร่วมกับภาคอุตสาหกรรม ทำให้นักศึกษาได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง และพัฒนาทักษะที่ตลาดแรงงานต้องการ
  • เชื่อมโยงกับภาคอุตสาหกรรม: วิทยาลัยหลายแห่งมีพันธมิตรกับบริษัทชั้นนำ ทำให้มีโอกาสได้ฝึกงานและทำงานจริงในระหว่างเรียน เพิ่มโอกาสในการได้งานทำหลังจบการศึกษา
  • เรียนรู้แบบตัวต่อตัว: ห้องเรียนขนาดเล็กช่วยให้ได้รับความสนใจจากอาจารย์อย่างใกล้ชิด มีโอกาสซักถามข้อสงสัย และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมชั้น
  • หลากหลายสาขา: ครอบคลุมทั้งสาขาอาชีพที่กำลังมาแรง เช่น การพยาบาล, การออกแบบกราฟิก, เทคโนโลยีสารสนเทศ, การซ่อมรถยนต์ และการจัดการโรงแรม
  • ค่าใช้จ่ายประหยัด: ค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตโดยทั่วไปจะต่ำกว่าการเรียนที่มหาวิทยาลัย

ตัวอย่างวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง:

  • Humber College (ออนแทริโอ):
    • จุดเด่น: ความสัมพันธ์อันแข็งแกร่งกับภาคอุตสาหกรรม ทำให้นักศึกษาได้สัมผัสประสบการณ์ทำงานจริง และมีโอกาสเข้าถึงเครือข่ายองค์กรชั้นนำ
    • สาขาที่โดดเด่น: สื่อ (Media), เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology), การดูแลสุขภาพ (Healthcare), ธุรกิจ (Business)
    • สิ่งที่น่าสนใจ: Humber College มีชื่อเสียงในด้านโปรแกรม co-op ซึ่งให้นักศึกษาได้ฝึกงานในบริษัทชั้นนำระหว่างเรียน ทำให้ได้รับประสบการณ์ทำงานจริงและเพิ่มโอกาสในการได้งานทำหลังจบการศึกษา
  • Seneca College (ออนแทริโอ):
    • จุดเด่น: ผสมผสานการเรียนรู้ทั้งในระดับประกาศนียบัตรและปริญญาตรีอย่างลงตัว เน้นการพัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงานในยุคปัจจุบัน
    • สาขาที่โดดเด่น: ธุรกิจ (Business), เทคโนโลยี (Technology), ศิลปะสร้างสรรค์ (Creative Arts), สุขภาพ (Healthcare)
    • สิ่งที่น่าสนใจ: Seneca College มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม และมีคอมมูนิตี้ที่แข็งแกร่ง ทำให้นักศึกษาได้พบปะผู้คนจากทั่วโลก
  • British Columbia Institute of Technology (BCIT):
    • จุดเด่น: ผู้นำด้านการศึกษาเทคนิคและการค้าในแคนาดา มุ่งเน้นการผลิตบัณฑิตที่มีทักษะตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน
    • สาขาที่โดดเด่น: วิศวกรรม (Engineering), ธุรกิจ (Business), สุขภาพ (Healthcare)
    • สิ่งที่น่าสนใจ: BCIT มีโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย ห้องปฏิบัติการที่พร้อมใช้งาน และมีโอกาสในการทำวิจัยร่วมกับภาคอุตสาหกรรม

เส้นทางสู่การพำนักถาวร (PR) ในแคนาดา ผ่านการศึกษาต่อที่วิทยาลัย:

การศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยในแคนาดา เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการย้ายถิ่นฐานและมีชีวิตอยู่ในแคนาดาอย่างถาวร โดยการศึกษาต่อที่วิทยาลัยจะเปิดโอกาสให้นักศึกษาต่างชาติได้มีโอกาสทำงานในแคนาดาหลังสำเร็จการศึกษา และจากประสบการณ์การทำงานนั้นเอง ก็จะนำไปสู่การยื่นขอวีซ่าพำนักถาวรได้ในอนาคต ประสบการณ์การทำงานนี้สามารถนำไปใช้สำหรับการสมัคร PR ผ่านโปรแกรมต่างๆ เช่น Canadian Experience Class (CEC) หรือ Provincial Nominee Programs (PNPs) อย่างไรก็ตาม แม้ว่าประกาศนียบัตรวิทยาลัยจะสามารถนำไปสู่ PR ได้ แต่ระยะเวลาและระดับของโปรแกรมอาจส่งผลต่อสิทธิ์

เงื่อนไขการรับเข้าเรียนของวิทยาลัย

วิทยาลัยแคนาดามักเน้นการศึกษาแบบลงมือปฏิบัติมากกว่ามหาวิทยาลัย มีกระบวนการรับสมัครที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะสำหรับนักศึกษาต่างชาติ และเสนอโปรแกรมประกาศนียบัตร ใบรับรอง และปริญญาตรี วิทยาลัยโดยทั่วไปมีความแข่งขันน้อยกว่า แต่ก็ยังคงมีมาตรฐานการรับสมัครเฉพาะขึ้นอยู่กับโปรแกรม

ข้อกำหนดการรับสมัครทั่วไป:

  • ข้อกำหนดทางวิชาการ: จบการศึกษาชั้นมัธยมปลายหรือมัธยมศึกษา
  • ข้อกำหนดเกรดโดยทั่วไปต่ำกว่าของมหาวิทยาลัย โดยทั่วไปต้องมี GPA 60-75% (หรือ GPA 2.40+)
  • โปรแกรมเทคนิคหรือเฉพาะทางบางโปรแกรมอาจมีข้อกำหนดเฉพาะวิชา (เช่น คณิตศาสตร์สำหรับธุรกิจหรือโปรแกรม IT)
  • การทดสอบมาตรฐาน: การทดสอบความสามารถทางภาษา เช่น IELTS หรือ TOEFL เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนักศึกษาต่างชาติ
    • TOEFL: 80 – 90 (iBT)
    • IELTS: 6.0 – 6.5 โดยรวม (ไม่มีแถบต่ำกว่า 5.5 หรือ 6.0)
  • เอกสารประกอบ:
    • คำแถลงส่วนตัว (ไม่จำเป็นเสมอไป)
    • จดหมายแนะนำ (บางครั้งจำเป็น แต่ไม่ค่อยพบเท่าในมหาวิทยาลัย)
    • โปรแกรมบางโปรแกรม (เช่น การออกแบบ ศิลปะ) อาจต้องการพอร์ตโฟลิโอ

โอกาสในการเข้าเรียน การแข่งขันและความยากง่าย :

  • แข่งขันน้อย: การรับสมัครเข้าเรียนโปรแกรมวิทยาลัยส่วนใหญ่ไม่แข่งขันสูง และโดยทั่วไปจะมีที่นั่งเพียงพอที่จะรองรับนักศึกษาได้หลากหลาย อัตราการยอมรับมักจะสูงกว่า 75-80%
  • โปรแกรมเฉพาะทางบางโปรแกรม เช่น การพยาบาล อาจมีความแข่งขันมากกว่าขึ้นอยู่กับความต้องการและข้อบังคับของรัฐ

ความยาก/ง่าย:

  • ง่ายถึงปานกลาง: การได้รับการยอมรับจากวิทยาลัยโดยทั่วไปง่ายกว่าเมื่อเทียบกับมหาวิทยาลัย สำหรับโปรแกรมเฉพาะทาง เช่น การดูแลสุขภาพ IT หรือการจัดการธุรกิจ อาจมีเกณฑ์การเข้าเรียนที่เข้มงวดขึ้นเล็กน้อยหรือมีที่นั่งจำกัด

ตัวอย่างค่าเล่าเรียนของวิทยาลัย

วิทยาลัย

ค่าเล่าเรียนเฉลี่ยสำหรับนักศึกษาต่างชาติ (ต่อปี)

ค่าเล่าเรียนเฉพาะทาง

สำหรับนักศึกษาต่างชาติ (ต่อปี)

Humber College

CAD 14,000 – 20,000

แอนิเมชัน: CAD 18,500

Seneca College

CAD 13,000 – 17,000

การบิน: CAD 20,000

George Brown College

CAD 15,000 – 22,000

ศิลปะการทำอาหาร: CAD 18,000

Fanshawe College

CAD 14,000 – 19,000

การออกแบบแฟชั่น: CAD 16,000

Algonquin College

CAD 16,000 – 21,000

การจัดการธุรกิจ: CAD 20,000

ตารางสรุปค่าเล่าเรียนวิทยาลัยอื่นๆสำหรับนักศึกษาต่างชาติ

จังหวัด

สถาบัน

ค่าเล่าเรียน (ต่อปีใน CAD)

อัลเบอร์ตา

Concordia University of Edmonton

$12,000 – $15,000

 

MacEwan University

$18,000 – $22,000

 

Mount Royal University

$21,000 – $24,000

 

University of Alberta

$30,000 – $40,000

 

University of Lethbridge

$18,000 – $23,000

บริติชโคลัมเบีย

Capilano University

$18,000 – $23,000

 

Fairleigh Dickinson University

$20,000 – $25,000

 

Kwantlen Polytechnic University

$20,000 – $25,000

 

Royal Roads University

$22,000 – $28,000

 

Simon Fraser University

$30,000 – $36,000

 

Thompson Rivers University

$18,000 – $23,000

 

Trinity Western University

$25,000 – $30,000

 

University Canada West

$18,000 – $22,000

 

University of Northern British Columbia

$18,000 – $24,000

 

University of the Fraser Valley

$16,000 – $22,000

 

University of Victoria (UVic)

$28,000 – $34,000

 

Vancouver Island University

$18,000 – $24,000

แมนิโทบา

University of Manitoba

$18,000 – $24,000

 

University of Winnipeg

$16,000 – $20,000

นิวบรันส์วิก

Crandall University

$16,000 – $18,000

 

Mount Allison University

$18,000 – $22,000

 

University of New Brunswick

$17,000 – $23,000

โนวาสโกเชีย

Acadia University

$18,000 – $25,000

 

Cape Breton University

$17,000 – $22,000

 

Dalhousie University

$22,000 – $28,000

 

NSCAD University (Nova Scotia College of Art and Design)

$18,000 – $24,000

 

Saint Francis Xavier University

$20,000 – $25,000

ออนแทริโอ

Brock University

$24,000 – $28,000

 

Carleton University

$25,000 – $32,000

 

King’s University College at Western University

$20,000 – $25,000

 

Lakehead University

$23,000 – $28,000

 

Laurentian University

$23,000 – $26,000

 

Nipissing University

$19,000 – $24,000

 

OCAD University (Ontario College of Art and Design)

$22,000 – $26,000

 

Ontario Tech University

$22,000 – $28,000

 

Queen’s University at Kingston

$35,000 – $45,000

 

Toronto Metropolitan University (Ryerson)

$28,000 – $38,000

 

Trent University

$20,000 – $25,000

 

University of Guelph

$24,000 – $32,000

 

University of Ottawa

$30,000 – $38,000

 

University of Waterloo

$35,000 – $45,000

 

University of Windsor

$22,000 – $28,000

 

Western University

$35,000 – $42,000

 

Wilfrid Laurier University

$25,000 – $30,000

 

York University

$26,000 – $33,000

Prince Edward Island

University of Prince Edward Island

$13,000 – $17,000

ควิเบก

Bishop’s University

$18,000 – $23,000

 

McGill University

$30,000 – $42,000

ซัสแคตเชวัน

University of Regina

$18,000 – $25,000

 

University of Saskatchewan

$20,000 – $26,000


Technical and Vocational Schools – โรงเรียนเทคนิคและอาชีวศึกษา

โรงเรียนเทคนิคและอาชีวศึกษา ในแคนาดาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าสู่ตลาดแรงงานอย่างรวดเร็ว โดยมุ่งเน้นการฝึกอบรมทักษะเฉพาะทางที่ตรงกับความต้องการของอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การก่อสร้าง การผลิต เทคโนโลยีวิศวกรรม การดูแลสุขภาพ ศิลปะการทำอาหาร และการดูแลสุขภาพ โรงเรียนเทคนิคและอาชีพมีความเข้มข้นในสาขาความเชี่ยวชาญเฉพาะ โปรแกรมมักสั้นกว่า และราคาไม่แพงกว่าปริญญาจากมหาวิทยาลัย

จุดเด่นของโรงเรียนเทคนิค และอาชีวศึกษา:

  • เน้นปฏิบัติ: โรงเรียนเทคนิคให้ความสำคัญกับการเรียนรู้แบบปฏิบัติจริง นักเรียนจะได้ฝึกฝนทักษะที่จำเป็นในการทำงานจริงผ่านห้องปฏิบัติการ โรงงานจำลอง และโครงงานต่างๆ
  • ระยะเวลาเรียนสั้น: หลักสูตรส่วนใหญ่มีระยะเวลาเรียนที่ค่อนข้างสั้น ทำให้นักเรียนสามารถเข้าสู่ตลาดแรงงานได้เร็วขึ้น
  • ค่าใช้จ่ายประหยัด: ค่าเล่าเรียนโดยรวมมักจะต่ำกว่าการศึกษาในระดับปริญญาตรี
  • ทักษะตรงกับความต้องการของตลาด: หลักสูตรต่างๆ ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงาน ทำให้นักเรียนจบการศึกษาแล้วมีงานทำได้ง่าย
  • ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง: โรงเรียนเทคนิคมุ่งเน้นการฝึกอบรมในสาขาเฉพาะทาง เช่น การก่อสร้าง, การผลิต, เทคโนโลยี, การดูแลสุขภาพ, ศิลปะการทำอาหาร ฯลฯ

ตัวอย่างโรงเรียนเทคนิคและอาชีวศึกษาที่มีชื่อเสียง:

  • Southern Alberta Institute of Technology (SAIT): สำหรับคนที่ชอบานฝีมือ เทคโนโลยี และวิศวกรรม
  • Vancouver Film School: มีชื่อเสียงด้านโปรแกรมภาพยนตร์ โทรทัศน์ และการออกแบบเกม เสนอแนวทางการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติให้กับนักศึกษาในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์
  • Red River College: เสนอการฝึกอบรมทางเทคนิคในด้านต่างๆ เช่น IT การก่อสร้าง และการดูแลสุขภาพ โดยเน้นความสามารถในการทำงาน

เส้นทางสู่ PR ผ่านโรงเรียนเทคนิคและอาชีพ:

การเข้าเรียนโรงเรียนเทคนิคหรืออาชีพยังสามารถขอ PR ในแคนาดาได้ อาจแตกต่างเล็กน้อยจากมหาวิทยาลัยหรือวิทยาลัย เช่นเดียวกับนักเรียนวิทยาลัย ผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันอาชีพที่ได้รับการยอมรับมีสิทธิ์ได้รับ PGWP ซึ่งอนุญาตให้ได้รับประสบการณ์การทำงาน ประสบการณ์ทำงานนี้สำคัญในการสมัครขอวีซ่า PR โดยในแต่ละจังหวัดที่มีความต้องการแรงงานฝีมือสูง เป็นปัจจัยสำคัญเพราะมีเฉพาะโปรแกรมอาชีพที่มีสิทธิ์ขอ PGWP ได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าหลักสูตรที่เลือกเรียนนั้นได้รับการยอมรับจาก Immigration, Refugees and Citizenship Canada (IRCC)

เงื่อนไขการรับเข้าเรียนโรงเรียนเทคนิคและอาชีวศึกษา:

โรงเรียนเทคนิคและอาชีวศึกษาในแคนาดาเน้นการฝึกทักษะสำหรับอาชีพทางด้านงานฝีมือ เทคโนโลยีประยุกต์ และอาชีพภาคปฏิบัติอื่นๆ สถาบันเหล่านี้มักมีข้อกำหนดทางวิชาการขั้นต่ำและเน้นประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องหรือความสนใจในสาขานั้นๆ อย่างมาก

ข้อกำหนดการรับสมัครทั่วไป:

  • ข้อกำหนดทางวิชาการ: การจบการศึกษาชั้นมัธยมปลาย หรือเทียบเท่า
  • เกรดเฉลี่ย GPA : เกรดขั้นต่ำ GPA ในปีสุดท้ายของมัธยมปลาย  2.00
  • การทดสอบมาตรฐาน: การทดสอบความสามารถทางภาษา (IELTS, TOEFL)
    • TOEFL: 70 – 80 (iBT)
    • IELTS: 5.5 – 6.0 โดยรวม
  • เอกสารประกอบ: อาจจะมีจดหมายประกอบเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับเเรงจูงใจ โดยเฉพาะโปรเเกรมที่ต้องใช้ทักษะเฉพาะด้านเช่น ศิลปะการทำอาหาร การออกแบบ หรือการดูแลสุขภาพ
  • อาจขอทั้ง พอร์ตโฟลิโอ และสัมภาษณ์

โอกาสในการเข้าเรียน การแข่งขันและความยากง่าย :

  • การตอบรับเข้าเรียน: มีอัตราการตอบรับเข้าเรียนที่สูง และเปิดรับนักศึกษาที่หลากหลาย อัตราการยอมรับเกิน 85-90%

ค่าเล่าเรียนของโรงเรียนเทคนิคและอาชีวศึกษา

สถาบัน

ค่าเล่าเรียนเฉลี่ยสำหรับนักศึกษาต่างชาติ (ต่อปี)

ค่าเล่าเรียนเฉพาะทาง

สำหรับนักศึกษาต่างชาติ (ต่อปี)

British Columbia Institute of Technology (BCIT)

CAD 16,000 – 20,000

เทคโนโลยีวิศวกรรม: CAD 18,000/ปี

Southern Alberta Institute of Technology (SAIT)

CAD 18,000 – 23,000

ศิลปะการทำอาหาร: CAD 20,000/ปี

Northern Alberta Institute of Technology (NAIT)

CAD 17,000 – 22,000

เทคโนโลยีสารสนเทศ: CAD 19,000/ปี

Sheridan College (โปรแกรมเทคนิค)

CAD 18,000 – 25,000

แอนิเมชัน: CAD 24,000/ปี

ตารางสรุปค่าเล่าเรียนของโรงเรียนเทคนิคและอาชีวศึกษาสำหรับนักศึกษาต่างชาติ

จังหวัด

สถาบัน

ค่าเล่าเรียน (ต่อปีใน CAD)

อัลเบอร์ตา

Southern Alberta Institute of Technology (SAIT)

$18,000 – $22,000

บริติชโคลัมเบีย

Greystone College

$12,000 – $15,000

 

Northern Lights College

$11,000 – $14,000

 

Stenberg College

$14,000 – $17,000

 

Vancouver Film School

$35,000 – $53,000

แมนิโทบา

Manitoba Institute of Trades and Technology (MITT)

$12,000 – $14,000

ออนแทริโอ

Alpha College

$12,000 – $15,000

 

Loyalist College of Applied Arts and Technology

$14,000 – $16,000

 

Northern College

$15,000 – $17,000

 

Sault College

$15,000 – $18,000

ควิเบก

Trebas Institute

$17,000 – $20,000

 

Institut Superieur d’Informatique (ISI)

$15,000 – $18,000

 


Pathway Colleges – วิทยาลัยเตรียมความพร้อม หรือ วิทยาลัยทางเลือก

วิทยาลัยทางเลือก ออกแบบมาเพื่อเตรียมนักศึกษาให้พร้อมเข้าสู่ระดับมหาวิทยาลัย วิทยาลัยทางเลือกเปิดสอนโปรแกรมพื้นฐานที่ช่วยให้นักศึกษาพัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับการเข้าเรียนในระดับปริญญาตรีได้ เมื่อสำเร็จการศึกษาหของโปรแกรมทางเลือก นักศึกษาสามารถเข้าไปเรียนยังมหาวิทยาลัยได้ โปรแกรมที่เปิดสอนพื้นฐานได้เเก่ด้านศิลปะ ธุรกิจ วิทยาศาสตร์ และวิศวกรรม

เส้นทางสำหรับนักศึกษาที่มีเกรดต่ำกว่า

สำหรับนักศึกษาที่ไม่ตรงตามข้อกำหนดการเข้าศึกษาโดยตรง แคนาดามีโปรแกรมทางเลือกหรือตัวเลือกการโอนหน่วยกิตจากวิทยาลัยไปยังมหาวิทยาลัยได้ วิทยาลัยมีขนาดชั้นเรียนที่เล็กกว่า มีความใส่ใจเป็นรายบุคคล และโปรแกรมเตรียมความพร้อมที่สามารถช่วยให้นักศึกษาปรับปรุงเกรด และทักษะก่อนที่จะเข้าศึกษาระดับมหาวิทยาลัย

ตัวอย่างวิทยาลัยทางเลือกที่มีชื่อเสียง:

  • Fraser International College: Pathway ไปยัง Simon Fraser University สนับสนุนทางวิชาการเพื่อนักศึกษาต่างชาติ
  • International College of Manitoba: เตรียมนักศึกษาให้พร้อมสำหรับเข้าเรียน University of Manitoba หลักสูตรพื้นฐานที่ปรับแต่งให้เหมาะกับโปรแกรมปริญญา

ค่าเล่าเรียนสำหรับนักศึกษาต่างชาติ (ต่อปี):

  • Fraser International College: CAD $16,000 – $21,000
  • International College of Manitoba: CAD $17,000 – $22,000

สรุปการเปรียบเทียบค่าเล่าเรียนสถาบันทั้ง 4 ประเภท (สำหรับนักศึกษาต่างชาติ)

ประเภทสถาบัน

ช่วงค่าเล่าเรียน (CAD ต่อปี)

มหาวิทยาลัย

$20,000 – $68,000

วิทยาลัย

$13,000 – $22,000

โรงเรียนเทคนิค/อาชีวศึกษา

$10,000 – $53,000

วิทยาลัยเตรียมความพร้อม

วิทยาลัยทางเลือก

$16,000 – $22,000

สรุปโอกาสในการเข้าเรียน การแข่งขันและความยากง่าย

ประเภทสถาบัน

GPA 

ผลภาษา (IELTS/TOEFL)

การแข่งขัน

มหาวิทยาลัย

75-90%

IELTS: 6.5 – 7.5

TOEFL: 90 – 100

แข่งขันระดับสูง

วิทยาลัย

60-75%

IELTS: 6.0 – 6.5

TOEFL: 80 – 90

แข่งขันปานกลางสำหรับบางโปรแกรม

โรงเรียนเทคนิค/อาชีวศึกษา

50-60%

IELTS: 5.5 – 6.0

TOEFL: 70 – 80

ไม่แข่งขัน

วิทยาลัยทางเลือก

50-60%

IELTS: 5.0 – 6.0

TOEFL: 60 – 80

ไม่แข่งขัน การเข้าศึกษาที่ยืดหยุ่น


 เรียนต่อที่ไหนดี มหาวิทยาลัย วิทยาลัย โรงเรียนเทคนิคอาชีพ หรือวิทยาลัยทางเลือกในแคนาดา?

 เมื่อตัดสินใจว่าจะเข้าเรียน มหาวิทยาลัย วิทยาลัย โรงเรียนเทคนิคและอาชีพ หรือ วิทยาลัยทางเลือก ในแคนาดา สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาเป้าหมายสาขาวิชา และแผนระยะยาว (เช่น การพำนักถาวร PR) แต่ละประเภทของสถาบันมีข้อดีที่แตกต่างกันตามเป้าหมายอาชีพ และความชอบทางวิชาการ โดยทางเดอะเบสท์ขอสรุปดังนี้

มหาวิทยาลัย:

  • นักเรียนที่ต้องการศึกษาที่ครอบคลุมพร้อมโอกาสในการศึกษาเรื่องทฤษฎี ทำการวิจัย และพัฒนาพื้นฐานทางวิชาการ
  • กำลังมองหาอาชีพที่โดยทั่วไปต้องมีวุฒิการศึกษาที่สูงขึ้น เช่น แพทย์ ศาสตราจารย์ หรือนักวิจัย มหาวิทยาลัยเป็นทางเลือกที่เหมาะสม
  • มีสาขาที่กำลังสนใจ เช่น เกษตรกรรมและอาหาร แพทยศาสตร์ กฎหมาย วิทยาการคอมพิวเตอร์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ (STEM) การดูแลสุขภาพ การขนส่ง และมนุษยศาสตร์
  • จบจากมหาวิทยาลัยมักมีข้อได้เปรียบเมื่อสมัครขอการพำนักถาวร (PR) เนื่องจากสามารถมีสิทธิ์ขอใบอนุญาตทำงานหลังสำเร็จการศึกษา (PGWP) และงานที่มีความต้องการสูงที่เป็นที่ต้องการ เช่น Express Entry หรือ Provincial Nominee Programs (PNP)

วิทยาลัย:

  • หากต้องการการศึกษาที่มุ่งเน้นอาชีพ และปฏิบัติมากขึ้นเช่น ธุรกิจ การดูแลสุขภาพ เทคโนโลยี การค้า
  • ต้องการโปรแกรมที่สั้นกว่า (1-3 ปี) เช่น ประกาศนียบัตร ประกาศนียบัตรขั้นสูง หรืออนุปริญญาที่นำไปสู่การทำงานได้โดยตรง
  • ต้องการเข้าสู่ตลาดแรงงานอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น สาขาต่างๆ เช่น การพยาบาล IT การออกแบบกราฟิก การตลาด และการบริการ
  • วิทยาลัยร่วมมือโดยตรงกับภาคอุตสาหกรรม ทำให้โอกาสการในการฝึกงาน และร่วมงานกับบริษัทชั้นนำ
  • เมื่อสำเร็จการศึกษามีสิทธิ์ได้รับ PGWP และสามารถขอ PR ได้

โรงเรียนเทคนิค และอาชีพ:

  • ต้องการพัฒนาทักษะเฉพาะทางในด้านต่างๆ เช่น การซ่อมรถยนต์ การประปา การช่างไม้ การเชื่อม การทำอาหาร หรืองานฝีมืออื่นๆ
  • ฝึกอบรมระยะสั้นที่เฉพาะทาง และมุ่งเน้นการเข้าสู่อาชีพโดยตรง
  • เหมาะสำหรับเน้นทักษะ และลงมือทำมากกว่าการเรียนรู้เชิงทฤษฎี
  • อาจมีสิทธิ์ได้รับ PGWP ขึ้นอยู่กับระยะเวลา และประเภทของโปรแกรม จังหวัดหลายแห่งสามารถขอ PR สำหรับผู้ประกอบอาชีพผ่าน Provincial Nominee Programs (PNPs) โดยเฉพาะหากงานฝีมือมีความต้องการสูง (เช่น ช่างไฟฟ้า ช่างเชื่อม)

เช็คกับทางเดอะเบสท์ คลิกเลย!!

วิทยาลัยทางเลือก:

  • นักเรียนต่างชาติที่มองหาเส้นทางสู่มหาวิทยาลัย
  • ต้องการปรับปรุงภาษา หรือเพื่อให้ตรงตามข้อกำหนดการรับสมัครของทางมหาวิทยาลัย
  • ต้องการโอนหน่วยกิตไปยังมหาวิทยาลัยในภายหลัง และต้องการการเตรียมตัวเพิ่มเติม โดยเฉพาะในด้าน ภาษาอังกฤษ
  • มีหลักสูตร Pathway ที่นักเรียนสำเร็จการศึกษาในวิทยาลัย ก่อนโอนหน่วยกิตไปยังมหาวิทยาลัย

ข้อควรพิจารณาสำหรับการเลือกสถาบันที่เหมาะสม:

  • เป้าหมายอาชีพ:
    • อาชีพที่เกี่ยวข้องกับงานฝีมือ ให้เลือกโรงเรียนเทคนิค/อาชีพ
    • อาชีพที่เฉพาะทางที่เน้นวิชาการ เช่น ในด้านกฎหมาย หรือแพทย์ ให้เลือกมหาวิทยาลัย
  • ระยะเวลาของโปรแกรม:
    • วิทยาลัย และโรงเรียนอาชีพ จะมีโปรแกรมที่สั้น มุ่งเน้นการทำงานมากกว่า
    • มหาวิทยาลัยมีหลักสูตรที่นานขึ้น เน้นการวิจัย
  • ค่าใช้จ่าย: วิทยาลัย และโรงเรียนอาชีพ ประหยัดกว่าปริญญาตรี
  • PR และการทำงาน: พิจารณาสิทธิ์ PGWP และวิธีที่โปรแกรมอาจช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์การทำงานในแคนาดา ซึ่งมีความสำคัญสำหรับการสมัคร PR หลายรายการ

สรุปขั้นตอนสำหรับนักศึกษาต่างชาติที่วางแผนเรียนต่อปริญญาตรีที่แคนาดา

1. เลือกโปรแกรมและสถาบันที่ต้องการ

  • ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับมหาวิทยาลัย วิทยาลัย โปรเเกรมที่คุณสนใจ
  • พิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น เมือง ค่าเรียน ทุนการศึกษา และโอกาสในการทำงาน

คลิก!! ปรึกษาเดอะเบสท์ได้เลย

2. ตรวจสอบข้อกำหนดการรับสมัคร

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าตรงตามข้อกำหนดทางวิชาการและความสามารถทางภาษาของสถาบันหรือไม่
  • อาจต้องสอบ IELTS หรือ TOEFL

คลิก!! สมัครสอบ IELTS กับทางเดอะเบสท์ได้เลย

3. ขั้นตอนการเตรียมเอกสารใบสมัคร

  • รวบรวมผลการเรียนในระดับมัธยมปลาย คะแนนสอบ และเอกสารที่จำเป็นทั้งหมด (เช่น จดหมายแนะนำ)

คลิก!! ปรึกษาวางแผนเตรียมเอกสารการสมัคร

4. สมัครขอใบอนุญาตศึกษา

  • หลังจากได้รับจดหมายตอบรับ ให้สมัครขอใบอนุญาตศึกษาผ่านเว็บไซต์ของรัฐบาลแคนาดา

5. หาที่พัก

  • เลือกที่พัก ไม่ว่าจะเป็นหอพักในมหาวิทยาลัย ที่พักนอกมหาวิทยาลัย หรือโฮมสเตย์
  • เตรียมงบประมาณสำหรับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เช่น ค่าเช่า อาหาร การขนส่ง และประกันสุขภาพ

คลิก!! จองที่พัก สอบถามที่พักเเคนาดา

6. เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทาง

  • ก่อนบินไปแคนาดา ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีหนังสือเดินทาง ใบอนุญาตศึกษา วีซ่า และประกันสุขภาพที่ถูกต้อง
  • ศึกษาวัฒนธรรม สภาพอากาศของแคนาดา และเรื่องอื่นๆ สำหรับการเรียนต่อที่เเคนาดา

เรียนต่อเเคนาดา แอดไลน์ปรึกษาเดอะเบสท์ได้เลย


ติดต่อเดอะเบสท์เพื่อสอบถามข้อมูลการเรียนต่อต่างประเทศเพิ่มเติม

เดอะเบสท์ เป็นศูนย์บริการให้คำปรึกษาเรียนต่อต่างประเทศครบวงจร เราเป็นตัวแทนที่ให้บริการแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ เช่น แคนาดา ออสเตรเลีย อังกฤษ สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และ ประเทศอื่นๆ ทั่วโลก เรายินดีให้ความช่วยเหลือตั้งแต่เริ่มสมัครเรียน จนสำเร็จการศึกษา รวมถึงดูแลนักเรียนระหว่างเรียนจนนักเรียนเรียนจบด้วยทีมที่เชียวชาญในด้านการเรียนต่อต่างประเทศ มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ขั้นตอนเหล่านี้เราดำเนินการให้ฟรี และเราพร้อมที่จะทำตามคุณภาพ และมาตรฐานดังสโลแกนที่ว่า “We are Quality”

 

บริการของเรามีอะไรบ้าง ?

  • ฟรี!! บริการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเรียนต่อต่างประเทศทุกระดับชั้นทั่วโลก ตั้งแต่ โรงเรียนประถม โรงเรียนมัธยม สถาบันวิชาชีพ และสถาบันในระดับอุดมศึกษา รวมถึงหลักสูตรภาษาต่างประเทศ และเลือกสถาบันที่ดีที่สุดให้กับผู้เรียน
  • เราให้ความช่วยเหลือตั้งแต่การประสานงานโรงเรียน เลือกโรงเรียนให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียน เตรียมเอกสารสมัครเรียน และดำเนินเรื่องสมัครเรียนให้ฟรี
  • บริการเตรียมเอกสารยื่นวีซ่าครบวงจร และบริการยื่นวีซ่ากว่า 25 ประเทศทั่วโลก พร้อมวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าอย่างตรงจุด และแนะนำวิธีการเตรียมตัวในการสัมภาษณ์วีซ่า 
  • บริการแปลเอกสาร ภาษาไทย – ภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาอังกฤษ – ภาษาไทย รวมถึงภาษาที่ 3 เริ่มต้นเพียงแผ่นละ 200 บาท
  • เดอะเบสท์ เป็นตัวแทนรับสมัครสอบ IELTS IDP อย่างเป็นทางการ พร้อมให้คำแนะนำ และนัดวันสอบให้โดยน้องๆ ไม่ต้องเสียเวลาสมัครเอง สมัครสอบได้ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
  • บริการซื้อประกันภัยการเดินทางและประกันสุขภาพนักเรียนต่างชาติ จากบริษัทประกันชั้นนำ MSIG, NIB, Allianz, Orbit และอื่นๆ
  • บริการจองตั๋วเครื่องบิน ทุกสายการบิน และประสานงานกับสถาบันเกี่ยวกับรถรับ – ส่ง สนามบิน
  • บริการจัดหาที่พักทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นโฮมสเตย์ อพาร์ทเม้น หรือหอพักนักศึกษา จัดหาให้ตามความต้องการส่วนบุคคล

 

“เรายินดีที่จะดูแลนักเรียนทุกคน ตั้งแต่เริ่มต้นจนนักเรียนสำเร็จการศึกษา และทำให้การเรียนต่อของคุณเป็นเรื่องง่าย ” สอบถามข้อมูลการบริการเพิ่มเติมติดต่อ
โทร : 090-327 3558088-269 5099

Email :contact@thebest-edu.com
Line : @thebestedu หรือคลิกเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ

เพิ่มเพื่อน

Scroll to Top

Discover more from เดอะเบสท์ แนะแนวเรียนต่อต่างประเทศครบวงจร

Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

Continue reading