Last updated มกราคม 27, 2025 ago by Thebestedu
แคนาดากลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับนักศึกษาต่างชาติที่กำลังมองหาการศึกษาระดับปริญญาตรีระดับโลก ด้วยสังคมที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ระบบการศึกษาที่มีคุณภาพสูง และสภาพแวดล้อมที่เหมาะแก่การศึกษา แคนาดามีโอกาสมากมายสำหรับนักศึกษาจากทั่วโลก ในปี พ.ศ. 2566 แคนาดาเป็นประเทศที่นักเรียนต่างชาติกว่า 1 ล้านคนเลือกมาศึกษาต่อ ทำให้เป็นหนึ่งในประเทศที่เหมาะสำหรับการศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา กลุ่มนักเรียนที่ใหญ่ที่สุดมาจากอินเดีย จีน ฟิลิปปินส์ และไนจีเรีย โดยจังหวัดของแคนาดาที่มีนักเรียนต่างชาติมากที่สุด ได้แก่ ออนแทริโอ บริติชโคลัมเบีย และควิเบก โดยมีนักเรียนมากกว่าครึ่งหนึ่งอยู่ในออนแทริโอเพียงแห่งเดียว โดยบทความนี้ทางเดอะเบสท์จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุผลว่าทำไมการเรียนในแคนาดาเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับนักศึกษา
เหตุผลทำไมควรเรียนปริญญาตรีที่แคนาดา
- การศึกษาชั้นนำระดับโลก: มหาวิทยาลัย และวิทยาลัยแคนาดาได้รับการยอมรับทั่วโลกในด้านวิชาการ การวิจัยที่ล้ำสมัย และนวัตกรรม สถาบันชั้นนำเช่น University of Toronto, McGill University และ University of British Columbia ติดอันดับท็อปของโลกอย่างสม่ำเสมอ และยังมีทุนการศึกษาให้กับศึกษาอีกด้วย
- สภาพแวดล้อมที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม: แคนาดามีผู้คนจากหลากหลายเชื้อชาติ วัฒนธรรม และภาษา สำหรับนักเรียนต่างชาติ ถือเป็นโอกาสที่จะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมอันหลากหลายในขณะที่ศึกษาอยู่
- โอกาสหลังสำเร็จการศึกษา: ใบอนุญาตทำงานหลังสำเร็จการศึกษา (PGWP) อนุญาตให้ผู้สำเร็จการศึกษาทำงานในแคนาดาได้นานถึงสามปี
- สังคมที่ปลอดภัยและครอบคลุม: แคนาดาได้รับการจัดอันดับว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลก
- ทุนการศึกษาและความช่วยเหลือทางการเงินสำหรับนักเรียนต่างชาติ: มหาวิทยาลัยแคนาดาหลายแห่งมีทุนการศึกษาตามผลการเรียนโดยเฉพาะสำหรับนักเรียนต่างชาตินอกจากนี้ วิทยาลัยบางแห่งยังให้ความช่วยเหลือทางการเงินและทุนการศึกษา
- โปรแกรมร่วมงานและฝึกงาน (Co-Op Program): หนึ่งในจุดเด่นของการศึกษาในแคนาดาที่มีโปรแกรมร่วมงานและฝึกงาน ซึ่งมอบทำให้มีประสบการณ์การทำงานแบบลงมือทำในขณะที่กำลังศึกษาอยู่ สถาบันที่เปิดสอนโปรแกรม Co-Op Program เช่น University of Waterloo, Simon Fraser University และ Humber College อนุญาตให้นักเรียนสลับระหว่างการศึกษาทางวิชาการกับการทำงานภาคปฏิบัติแบบได้ค่าตอบเเทน การเรียนรู้แบบ Co-Op Program ช่วยให้นักเรียนได้รับประสบการณ์เชิงปฏิบัติ และยังเพิ่มความสามารถในการทำงานหลังสำเร็จการศึกษาได้อีกด้วย
- ความสมดุลระหว่างการเรียนและการทำงาน: แคนาดาอนุญาตให้นักเรียนต่างชาติทำงานนอกเวลาในระหว่างการศึกษาหรือทำงานพาร์ทไทม์ได้ ซึ่งช่วยให้สามารถหารายได้ระหว่างเรียนซึ่งจะได้รับประสบการณ์การทำงานจริงด้วย

ประเภทหลักสูตรในเเคนาดา
ปริญญาตรี
แคนาดามีหลักสูตรปริญญาตรี ที่หลากหลายเปิดสอนในสถาบันการศึกษาต่างๆ ผู้เรียนสามารถเลือก ปรับให้เหมาะตามความสนใจและเป้าหมาย
หลักสูตรประกาศนียบัตรต่อด้วยหลักสูตรปริญญาตรี
หลักสูตรประกาศนียบัตรที่สามารถนำไปสู่ปริญญาตรีได้ เส้นทางนี้เป็นเรื่องปกติในวิทยาลัยและโรงเรียนเทคนิคที่นักเรียนอาจเริ่มด้วยโปรแกรมที่สั้นกว่า เช่น เรียนหลักสูตรวิชาชีพแล้วจึงโอนหน่วยกิตไปยังมหาวิทยาลัยเพื่อสำเร็จปริญญาตรี
ข้อดีของเส้นทางประกาศนียบัตร/ประกาศนียบัตรไปสู่ปริญญาตรี
- ประหยัดค่าใช้จ่าย: การเริ่มต้นด้วยหลักสูตรประกาศนียบัตรที่วิทยาลัยประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าการเรียนโดยตรงในหลักสูตรปริญญาสี่ปีของมหาวิทยาลัย
- ความยืดหยุ่น: สามารถเริ่มทำงานได้เร็วขึ้น และยังสามารถเรียนต่อในระดับปริญญาตรีได้ในภายหลัง
- ขนาดห้องเรียนที่เล็กกว่า: วิทยาลัย โรงเรียนวิชาชีพ จะมีขนาดห้องเรียนที่เล็กกว่า ทำให้อาจารย์และผู้เรียนโต้ตอบกันได้มายิ่งขึ้น
- การเรียนรู้แบบลงมือทำ: หลักสูตรวิชาชีพจะเน้นการปฏิบัติ ทำให้สามารถหางานได้ง่ายขึ้นก่อนสำเร็จการศึกษา
- การเตรียมความพร้อมสำหรับอาชีพ: หลักสูตรนี้นักศึกษาจะได้เรียนรู้ทั้งเชิงปฏิบัติ และทางวิชาการ อย่างเข้มข้น
ประเภทของสถาบันเรียนต่อปริญญาตรีในแคนาดา
แคนาดามีสถาบันการศึกษาหลากหลายประเภท แต่ละประเภท เหมาะสำหรับนักศึกษาและเป้าหมายอาชีพที่แตกต่างกัน ก่อนตัดสินใจในการเรียนต่อปริญญาตรี เดอะเบสท์แนะนำให้ทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างมหาวิทยาลัย วิทยาลัย โรงเรียนเทคนิค/อาชีวศึกษา และวิทยาลัยทางเลือก เพื่อที่จะได้เลือกเส้นทางการเรียนต่อที่ตอบโจทย์กับผู้เรียนทุกคน
University – มหาวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยในแคนาดาโดดเด่นในด้านการศึกษาที่เน้นทั้งทฤษฎีและปฏิบัติจริง โดยเปิดสอนหลักสูตรหลากหลายสาขา ตั้งแต่ระดับปริญญาตรีจนถึงปริญญาเอก ไม่ว่าจะเป็น ศิลปะ ธุรกิจ วิศวกรรม แพทยศาสตร์ กฎหมาย และอีกมากมาย สถาบันการศึกษาเหล่านี้มีชื่อเสียงในด้านการวิจัยที่ล้ำสมัย และความเข้มข้นทางวิชาการ ทำให้บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยแคนาดามีความรู้ความสามารถและพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่ตลาดแรงงานระดับโลก
ความเชี่ยวชาญของมหาวิทยาลัยแคนาดา
มหาวิทยาลัยในแคนาดาไม่เพียงแต่เป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำ แต่ยังเป็นศูนย์กลางแห่งนวัตกรรมและความเป็นเลิศทางวิชาการระดับโลก โดยมีจุดเด่นในหลายสาขาที่น่าสนใจ:
- STEM (วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม คณิตศาสตร์): มหาวิทยาลัยอย่าง University of Toronto, UBC และ McGill เป็นผู้นำในการพัฒนาเทคโนโลยีแห่งอนาคต ไม่ว่าจะเป็นปัญญาประดิษฐ์, หุ่นยนต์, หรือพลังงานสะอาด นักศึกษาที่นี่จะได้ร่วมงานวิจัยกับอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ และมีโอกาสสร้างสรรค์นวัตกรรมที่เปลี่ยนโลก
- การแพทย์และการดูแลสุขภาพ: มหาวิทยาลัย McMaster และ Dalhousie เป็นที่รู้จักในด้านการวิจัยทางการแพทย์ที่ล้ำสมัย โดยมุ่งเน้นการค้นพบวิธีการรักษาโรคใหม่ๆ และพัฒนายาชนิดใหม่ นักศึกษาแพทย์จะได้เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญชั้นนำ และมีโอกาสเข้าร่วมโครงการวิจัยที่น่าสนใจ
- ธุรกิจและเศรษฐศาสตร์: โรงเรียนธุรกิจชั้นนำอย่าง Schulich, Rotman และ Sauder ผลิตบัณฑิตที่พร้อมก้าวเข้าสู่โลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเน้นการสอนทักษะด้านการเป็นผู้นำ การคิดเชิงวิเคราะห์ และความยั่งยืน
- ศิลปะและมนุษยศาสตร์: มหาวิทยาลัย Queen’s และ University of Alberta ส่งเสริมให้นักศึกษาได้ค้นพบความคิดสร้างสรรค์ และพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ ผ่านการเรียนรู้ด้านปรัชญา, ประวัติศาสตร์, ศิลปะ และวรรณกรรม
สอบถามข้อมูลการบริการเพิ่มเติมติดต่อ
โทร:090-327 3558, 088-269 5099
Email:contact@thebest-edu.com
Line:@thebesteduหรือคลิกเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ
การเข้าเรียนปริญญาตรีมหาวิทยาลัยชั้นนำ หรือมหาวิทยาลัยการวิจัยส่งผลต่อค่าเล่าเรียนและสิทธิ์ PR หรือไม่?
- มหาวิทยาลัยชั้นนำมักจะมีค่าเล่าเรียนสูงกว่า โดยเฉพาะ วิศวกรรม การแพทย์ และธุรกิจ
- อย่างไรก็ตาม การเข้าเรียนมหาวิทยาลัยชั้นนำไม่จำเป็นสำหรับการได้รับการพำนักถาวร (PR) สิ่งที่สำคัญกว่าสำหรับสิทธิ์ PR คือการสำเร็จการศึกษาในสถาบันการเรียนรู้ที่ได้รับการกำหนด (DLI) และได้รับใบอนุญาตทำงานหลังจบการศึกษา (PGWP) เพื่อได้รับประสบการณ์การทำงานในแคนาดา
- ทั้งมหาวิทยาลัยรัฐและวิทยาลัยโดยทั่วไปอนุญาตให้นักศึกษาสามารถมีสิทธิ์ได้รับ PGWP ซึ่งมีความสำคัญสำหรับการได้รับประสบการณ์การทำงานเพื่อสนับสนุนการสมัคร PR
ตัวอย่างมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง:
- University of Toronto (ออนแทริโอ): เป็นที่รู้จักด้านการวิจัยที่ทันสมัยและโปรแกรมที่หลากหลาย U of T ได้รับการจัดอันดับอย่างสม่ำเสมอในกลุ่มมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก
- McGill University (ควิเบก): เสนอโปรแกรมที่แข็งแกร่งในด้านการแพทย์ กฎหมาย และธุรกิจ McGill ได้รับการยอมรับในระดับโลกสำหรับความเป็นเลิศทางวิจัย
- University of British Columbia (บริติชโคลัมเบีย): เป็นที่รู้จักด้านการมุ่งเน้นความยั่งยืน UBC เสนอโปรแกรมปริญญาตรีที่หลากหลายและมีวิทยาเขตที่สวยงามตั้งอยู่ในแวนคูเวอร์
เงื่อนไขการรับเข้าเรียนของมหาวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยในแคนาดาเป็นที่รู้จักด้านความเข้มงวดทางวิชาการและกระบวนการรับสมัครที่แข่งขันสูง โดยเฉพาะในโปรแกรมยอดนิยม เช่น วิศวกรรม การแพทย์ กฎหมาย และธุรกิจ อย่างไรก็ตาม ความแข่งขันอาจแตกต่างกันไปตามสถาบัน โปรแกรม และมหาวิทยาลัยที่เลือก
ข้อกำหนดการรับสมัครทั่วไป:
- ข้อกำหนดทางวิชาการ: ผลการเรียนในระดับมัธยมปลายในระดับดีมาก (และเทียบเท่ากับประกาศนียบัตรมัธยมปลายของแคนาดา)
- GPA ที่ต้องการแตกต่างกันไปตามสถาบัน แต่โดยทั่วไปอยู่ระหว่าง 75-90% (2.80 – 3.60+) ขึ้นอยู่กับโปรแกรม
- หลักสูตรขั้นสูงในวิชาที่เกี่ยวข้อง (เช่น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์สำหรับวิศวกรรม)
- สำหรับโปรแกรมการแข่งขันสูง เช่น การแพทย์หรือวิศวกรรม คาดว่าจะมีข้อกำหนดที่สูงขึ้น
- ผลสอบภาษาอังกฤษ: ความสามารถทางภาษาอังกฤษ (เช่น TOEFL หรือ IELTS) สำหรับนักเรียนต่างชาติที่ภาษาอังกฤษไม่ได้เป็นภาษาหลัก คะแนนขั้นต่ำมักจะอยู่ระหว่าง:
- TOEFL: 90 – 100 (iBT)
- IELTS: 6.5 – 7.5 โดยรวม (แต่ละ Band ไม่ต่ำกว่า 6.0)
- สถาบันบางแห่งอาจต้องการการสอบเพิ่มเติม เช่น คะแนน SAT หรือ ACT โดยเฉพาะสำหรับผู้สมัครจากสหรัฐอเมริกา
- เอกสารประกอบอื่นๆ :
- Personal statement/essay เรียงความส่วนตัว
- Letters of recommendation จดหมายแนะนำจากครูหรือที่ปรึกษาโรงเรียน
- ในบางกรณี พอร์ตโฟลิโอ (สำหรับโปรแกรมศิลปะหรือการออกแบบเชิงสร้างสรรค์)
- โปรแกรมการแข่งขันสูงบางโปรแกรม (การแพทย์ กฎหมาย) อาจต้องสัมภาษณ์ การทดสอบแบบเขียน หรือการประเมินอื่นๆ
โอกาสในการเข้าเรียน การแข่งขัน และความยากง่าย :
- แข่งขันสูง: สถาบัน เช่น University of Toronto, McGill University และ University of British Columbia มีความยากในการเข้าเรียน โดยเฉพาะโปรแกรมชั้นนำ อัตราการยอมรับอาจต่ำถึง 30-40% โดยมีอัตราการยอมรับที่ต่ำกว่าสำหรับเฉพาะสาขา
- แข่งขันปานกลาง: มหาวิทยาลัยระดับภูมิภาคหรือขนาดเล็ก เช่น Memorial University of Newfoundland หรือ University of Manitoba มักมีมาตรฐานการรับสมัครที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น โดยมีอัตราการยอมรับอยู่ระหว่าง 60-80%
ความยาก/ง่าย:
- ยาก: มหาวิทยาลัยชั้นนำ (University of Toronto, McGill, UBC) ในโปรแกรมเช่น การแพทย์ กฎหมาย หรือวิศวกรรม เป็นเรื่องยากเนื่องจากข้อกำหนดทางวิชาการที่สูงและพื้นที่จำกัด
- ง่าย: มหาวิทยาลัยขนาดเล็ก หรือมหาวิทยาลัยที่การแข่งขันไม่สูงมาก โดยเฉพาะโปรแกรมศิลปะหรือวิทยาศาสตร์ทั่วไปนั้นง่ายกว่า โดยมีข้อกำหนดทางวิชาการที่ต่ำกว่าและการแข่งขันน้อยกว่า
ตัวอย่างค่าเล่าเรียนของมหาวิทยาลัยในแคนาดา
|
มหาวิทยาลัย |
ค่าเล่าเรียนเฉลี่ยสำหรับนักศึกษาต่างชาติ (ต่อปี) |
ค่าเล่าเรียนเฉลี่ยสำหรับนักศึกษาต่างชาติ (ต่อปี) |
|
University of Toronto (UofT) |
CAD 45,000 – 60,000 |
การแพทย์: CAD 90,000 |
|
University of British Columbia (UBC) |
CAD 35,000 – 55,000 |
วิศวกรรม: CAD 53,000 |
|
McGill University |
CAD 22,000 – 48,000 |
กฎหมาย: CAD 35,000 |
|
University of Waterloo |
CAD 35,000 – 50,000 |
วิทยาการคอมพิวเตอร์: CAD 47,000 |
|
McMaster University |
CAD 28,000 – 40,000 |
วิทยาศาสตร์สุขภาพ: CAD 40,000 |
College วิทยาลัย
วิทยาลัยในแคนาดานั้นแตกต่างจากมหาวิทยาลัยตรงที่มุ่งเน้นการเรียนรู้แบบปฏิบัติจริงและเชื่อมโยงกับภาคอุตสาหกรรมมากขึ้น โดยมักเปิดสอนหลักสูตรระยะสั้น เน้นการพัฒนาทักษะเฉพาะทางที่ตลาดแรงงานต้องการ โดยมักจะร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเหมาะสำหรับการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ ในสาขาต่างๆ เช่น วิทยาศาสตร์ประยุกต์ ธุรกิจ สุขภาพ และงานฝีมือ วิทยาศาสตร์ประยุกต์ การบริการ การศึกษา
จุดเด่นของวิทยาลัย:
- เน้นลงมือปฏิบัติจริง: ด้วยห้องปฏิบัติการที่ทันสมัย โครงการฝึกงาน และโอกาสในการทำงานร่วมกับภาคอุตสาหกรรม ทำให้นักศึกษาได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง และพัฒนาทักษะที่ตลาดแรงงานต้องการ
- เชื่อมโยงกับภาคอุตสาหกรรม: วิทยาลัยหลายแห่งมีพันธมิตรกับบริษัทชั้นนำ ทำให้มีโอกาสได้ฝึกงานและทำงานจริงในระหว่างเรียน เพิ่มโอกาสในการได้งานทำหลังจบการศึกษา
- เรียนรู้แบบตัวต่อตัว: ห้องเรียนขนาดเล็กช่วยให้ได้รับความสนใจจากอาจารย์อย่างใกล้ชิด มีโอกาสซักถามข้อสงสัย และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมชั้น
- หลากหลายสาขา: ครอบคลุมทั้งสาขาอาชีพที่กำลังมาแรง เช่น การพยาบาล, การออกแบบกราฟิก, เทคโนโลยีสารสนเทศ, การซ่อมรถยนต์ และการจัดการโรงแรม
- ค่าใช้จ่ายประหยัด: ค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตโดยทั่วไปจะต่ำกว่าการเรียนที่มหาวิทยาลัย
ตัวอย่างวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง:
- Humber College (ออนแทริโอ):
- จุดเด่น: ความสัมพันธ์อันแข็งแกร่งกับภาคอุตสาหกรรม ทำให้นักศึกษาได้สัมผัสประสบการณ์ทำงานจริง และมีโอกาสเข้าถึงเครือข่ายองค์กรชั้นนำ
- สาขาที่โดดเด่น: สื่อ (Media), เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology), การดูแลสุขภาพ (Healthcare), ธุรกิจ (Business)
- สิ่งที่น่าสนใจ: Humber College มีชื่อเสียงในด้านโปรแกรม co-op ซึ่งให้นักศึกษาได้ฝึกงานในบริษัทชั้นนำระหว่างเรียน ทำให้ได้รับประสบการณ์ทำงานจริงและเพิ่มโอกาสในการได้งานทำหลังจบการศึกษา
- Seneca College (ออนแทริโอ):
- จุดเด่น: ผสมผสานการเรียนรู้ทั้งในระดับประกาศนียบัตรและปริญญาตรีอย่างลงตัว เน้นการพัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงานในยุคปัจจุบัน
- สาขาที่โดดเด่น: ธุรกิจ (Business), เทคโนโลยี (Technology), ศิลปะสร้างสรรค์ (Creative Arts), สุขภาพ (Healthcare)
- สิ่งที่น่าสนใจ: Seneca College มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม และมีคอมมูนิตี้ที่แข็งแกร่ง ทำให้นักศึกษาได้พบปะผู้คนจากทั่วโลก
- British Columbia Institute of Technology (BCIT):
- จุดเด่น: ผู้นำด้านการศึกษาเทคนิคและการค้าในแคนาดา มุ่งเน้นการผลิตบัณฑิตที่มีทักษะตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน
- สาขาที่โดดเด่น: วิศวกรรม (Engineering), ธุรกิจ (Business), สุขภาพ (Healthcare)
- สิ่งที่น่าสนใจ: BCIT มีโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย ห้องปฏิบัติการที่พร้อมใช้งาน และมีโอกาสในการทำวิจัยร่วมกับภาคอุตสาหกรรม
เส้นทางสู่การพำนักถาวร (PR) ในแคนาดา ผ่านการศึกษาต่อที่วิทยาลัย:
การศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยในแคนาดา เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการย้ายถิ่นฐานและมีชีวิตอยู่ในแคนาดาอย่างถาวร โดยการศึกษาต่อที่วิทยาลัยจะเปิดโอกาสให้นักศึกษาต่างชาติได้มีโอกาสทำงานในแคนาดาหลังสำเร็จการศึกษา และจากประสบการณ์การทำงานนั้นเอง ก็จะนำไปสู่การยื่นขอวีซ่าพำนักถาวรได้ในอนาคต ประสบการณ์การทำงานนี้สามารถนำไปใช้สำหรับการสมัคร PR ผ่านโปรแกรมต่างๆ เช่น Canadian Experience Class (CEC) หรือ Provincial Nominee Programs (PNPs) อย่างไรก็ตาม แม้ว่าประกาศนียบัตรวิทยาลัยจะสามารถนำไปสู่ PR ได้ แต่ระยะเวลาและระดับของโปรแกรมอาจส่งผลต่อสิทธิ์
เงื่อนไขการรับเข้าเรียนของวิทยาลัย
วิทยาลัยแคนาดามักเน้นการศึกษาแบบลงมือปฏิบัติมากกว่ามหาวิทยาลัย มีกระบวนการรับสมัครที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะสำหรับนักศึกษาต่างชาติ และเสนอโปรแกรมประกาศนียบัตร ใบรับรอง และปริญญาตรี วิทยาลัยโดยทั่วไปมีความแข่งขันน้อยกว่า แต่ก็ยังคงมีมาตรฐานการรับสมัครเฉพาะขึ้นอยู่กับโปรแกรม
ข้อกำหนดการรับสมัครทั่วไป:
- ข้อกำหนดทางวิชาการ: จบการศึกษาชั้นมัธยมปลายหรือมัธยมศึกษา
- ข้อกำหนดเกรดโดยทั่วไปต่ำกว่าของมหาวิทยาลัย โดยทั่วไปต้องมี GPA 60-75% (หรือ GPA 2.40+)
- โปรแกรมเทคนิคหรือเฉพาะทางบางโปรแกรมอาจมีข้อกำหนดเฉพาะวิชา (เช่น คณิตศาสตร์สำหรับธุรกิจหรือโปรแกรม IT)
- การทดสอบมาตรฐาน: การทดสอบความสามารถทางภาษา เช่น IELTS หรือ TOEFL เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนักศึกษาต่างชาติ
- TOEFL: 80 – 90 (iBT)
- IELTS: 6.0 – 6.5 โดยรวม (ไม่มีแถบต่ำกว่า 5.5 หรือ 6.0)
- เอกสารประกอบ:
- คำแถลงส่วนตัว (ไม่จำเป็นเสมอไป)
- จดหมายแนะนำ (บางครั้งจำเป็น แต่ไม่ค่อยพบเท่าในมหาวิทยาลัย)
- โปรแกรมบางโปรแกรม (เช่น การออกแบบ ศิลปะ) อาจต้องการพอร์ตโฟลิโอ
โอกาสในการเข้าเรียน การแข่งขันและความยากง่าย :
- แข่งขันน้อย: การรับสมัครเข้าเรียนโปรแกรมวิทยาลัยส่วนใหญ่ไม่แข่งขันสูง และโดยทั่วไปจะมีที่นั่งเพียงพอที่จะรองรับนักศึกษาได้หลากหลาย อัตราการยอมรับมักจะสูงกว่า 75-80%
- โปรแกรมเฉพาะทางบางโปรแกรม เช่น การพยาบาล อาจมีความแข่งขันมากกว่าขึ้นอยู่กับความต้องการและข้อบังคับของรัฐ
ความยาก/ง่าย:
- ง่ายถึงปานกลาง: การได้รับการยอมรับจากวิทยาลัยโดยทั่วไปง่ายกว่าเมื่อเทียบกับมหาวิทยาลัย สำหรับโปรแกรมเฉพาะทาง เช่น การดูแลสุขภาพ IT หรือการจัดการธุรกิจ อาจมีเกณฑ์การเข้าเรียนที่เข้มงวดขึ้นเล็กน้อยหรือมีที่นั่งจำกัด
ตัวอย่างค่าเล่าเรียนของวิทยาลัย
|
วิทยาลัย |
ค่าเล่าเรียนเฉลี่ยสำหรับนักศึกษาต่างชาติ (ต่อปี) |
ค่าเล่าเรียนเฉพาะทาง สำหรับนักศึกษาต่างชาติ (ต่อปี) |
|
Humber College |
CAD 14,000 – 20,000 |
แอนิเมชัน: CAD 18,500 |
|
Seneca College |
CAD 13,000 – 17,000 |
การบิน: CAD 20,000 |
|
George Brown College |
CAD 15,000 – 22,000 |
ศิลปะการทำอาหาร: CAD 18,000 |
|
Fanshawe College |
CAD 14,000 – 19,000 |
การออกแบบแฟชั่น: CAD 16,000 |
|
Algonquin College |
CAD 16,000 – 21,000 |
การจัดการธุรกิจ: CAD 20,000 |
Technical and Vocational Schools – โรงเรียนเทคนิคและอาชีวศึกษา
โรงเรียนเทคนิคและอาชีวศึกษา ในแคนาดาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าสู่ตลาดแรงงานอย่างรวดเร็ว โดยมุ่งเน้นการฝึกอบรมทักษะเฉพาะทางที่ตรงกับความต้องการของอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การก่อสร้าง การผลิต เทคโนโลยีวิศวกรรม การดูแลสุขภาพ ศิลปะการทำอาหาร และการดูแลสุขภาพ โรงเรียนเทคนิคและอาชีพมีความเข้มข้นในสาขาความเชี่ยวชาญเฉพาะ โปรแกรมมักสั้นกว่า และราคาไม่แพงกว่าปริญญาจากมหาวิทยาลัย
จุดเด่นของโรงเรียนเทคนิค และอาชีวศึกษา:
- เน้นปฏิบัติ: โรงเรียนเทคนิคให้ความสำคัญกับการเรียนรู้แบบปฏิบัติจริง นักเรียนจะได้ฝึกฝนทักษะที่จำเป็นในการทำงานจริงผ่านห้องปฏิบัติการ โรงงานจำลอง และโครงงานต่างๆ
- ระยะเวลาเรียนสั้น: หลักสูตรส่วนใหญ่มีระยะเวลาเรียนที่ค่อนข้างสั้น ทำให้นักเรียนสามารถเข้าสู่ตลาดแรงงานได้เร็วขึ้น
- ค่าใช้จ่ายประหยัด: ค่าเล่าเรียนโดยรวมมักจะต่ำกว่าการศึกษาในระดับปริญญาตรี
- ทักษะตรงกับความต้องการของตลาด: หลักสูตรต่างๆ ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงาน ทำให้นักเรียนจบการศึกษาแล้วมีงานทำได้ง่าย
- ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง: โรงเรียนเทคนิคมุ่งเน้นการฝึกอบรมในสาขาเฉพาะทาง เช่น การก่อสร้าง, การผลิต, เทคโนโลยี, การดูแลสุขภาพ, ศิลปะการทำอาหาร ฯลฯ
ตัวอย่างโรงเรียนเทคนิคและอาชีวศึกษาที่มีชื่อเสียง:
- Southern Alberta Institute of Technology (SAIT): สำหรับคนที่ชอบงานฝีมือ เทคโนโลยี และวิศวกรรม
- Vancouver Film School: มีชื่อเสียงด้านโปรแกรมภาพยนตร์ โทรทัศน์ และการออกแบบเกม เสนอแนวทางการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติให้กับนักศึกษาในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์
- Red River College: เสนอการฝึกอบรมทางเทคนิคในด้านต่างๆ เช่น IT การก่อสร้าง และการดูแลสุขภาพ โดยเน้นความสามารถในการทำงาน
เส้นทางสู่ PR ผ่านโรงเรียนเทคนิคและอาชีพ:
การเข้าเรียนโรงเรียนเทคนิคหรืออาชีพยังสามารถขอ PR ในแคนาดาได้ อาจแตกต่างเล็กน้อยจากมหาวิทยาลัยหรือวิทยาลัย เช่นเดียวกับนักเรียนวิทยาลัย ผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันอาชีพที่ได้รับการยอมรับมีสิทธิ์ได้รับ PGWP ซึ่งอนุญาตให้ได้รับประสบการณ์การทำงาน ประสบการณ์ทำงานนี้สำคัญในการสมัครขอวีซ่า PR โดยในแต่ละจังหวัดที่มีความต้องการแรงงานฝีมือสูง เป็นปัจจัยสำคัญเพราะมีเฉพาะโปรแกรมอาชีพที่มีสิทธิ์ขอ PGWP ได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าหลักสูตรที่เลือกเรียนนั้นได้รับการยอมรับจาก Immigration, Refugees and Citizenship Canada (IRCC)
เงื่อนไขการรับเข้าเรียนโรงเรียนเทคนิคและอาชีวศึกษา:
โรงเรียนเทคนิคและอาชีวศึกษาในแคนาดาเน้นการฝึกทักษะสำหรับอาชีพทางด้านงานฝีมือ เทคโนโลยีประยุกต์ และอาชีพภาคปฏิบัติอื่นๆ สถาบันเหล่านี้มักมีข้อกำหนดทางวิชาการขั้นต่ำและเน้นประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องหรือความสนใจในสาขานั้นๆ อย่างมาก
ข้อกำหนดการรับสมัครทั่วไป:
- ข้อกำหนดทางวิชาการ: การจบการศึกษาชั้นมัธยมปลาย หรือเทียบเท่า
- เกรดเฉลี่ย GPA : เกรดขั้นต่ำ GPA ในปีสุดท้ายของมัธยมปลาย 2.00
- การทดสอบมาตรฐาน: การทดสอบความสามารถทางภาษา (IELTS, TOEFL)
- TOEFL: 70 – 80 (iBT)
- IELTS: 5.5 – 6.0 โดยรวม
- เอกสารประกอบ: อาจจะมีจดหมายประกอบเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับเเรงจูงใจ โดยเฉพาะโปรเเกรมที่ต้องใช้ทักษะเฉพาะด้านเช่น ศิลปะการทำอาหาร การออกแบบ หรือการดูแลสุขภาพ
- อาจขอทั้ง พอร์ตโฟลิโอ และสัมภาษณ์
โอกาสในการเข้าเรียน การแข่งขันและความยากง่าย :
- การตอบรับเข้าเรียน: มีอัตราการตอบรับเข้าเรียนที่สูง และเปิดรับนักศึกษาที่หลากหลาย อัตราการยอมรับเกิน 85-90%
ค่าเล่าเรียนของโรงเรียนเทคนิคและอาชีวศึกษา
|
สถาบัน |
ค่าเล่าเรียนเฉลี่ยสำหรับนักศึกษาต่างชาติ (ต่อปี) |
ค่าเล่าเรียนเฉพาะทาง สำหรับนักศึกษาต่างชาติ (ต่อปี) |
|
British Columbia Institute of Technology (BCIT) |
CAD 16,000 – 20,000 |
เทคโนโลยีวิศวกรรม: CAD 18,000/ปี |
|
Southern Alberta Institute of Technology (SAIT) |
CAD 18,000 – 23,000 |
ศิลปะการทำอาหาร: CAD 20,000/ปี |
|
Northern Alberta Institute of Technology (NAIT) |
CAD 17,000 – 22,000 |
เทคโนโลยีสารสนเทศ: CAD 19,000/ปี |
|
Sheridan College (โปรแกรมเทคนิค) |
CAD 18,000 – 25,000 |
แอนิเมชัน: CAD 24,000/ปี |
Pathway Colleges – วิทยาลัยเตรียมความพร้อม หรือ วิทยาลัยทางเลือก
วิทยาลัยทางเลือก ออกแบบมาเพื่อเตรียมนักศึกษาให้พร้อมเข้าสู่ระดับมหาวิทยาลัย วิทยาลัยทางเลือกเปิดสอนโปรแกรมพื้นฐานที่ช่วยให้นักศึกษาพัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับการเข้าเรียนในระดับปริญญาตรีได้ เมื่อสำเร็จการศึกษาหของโปรแกรมทางเลือก นักศึกษาสามารถเข้าไปเรียนยังมหาวิทยาลัยได้ โปรแกรมที่เปิดสอนพื้นฐานได้เเก่ด้านศิลปะ ธุรกิจ วิทยาศาสตร์ และวิศวกรรม
เส้นทางสำหรับนักศึกษาที่มีเกรดต่ำกว่า
สำหรับนักศึกษาที่ไม่ตรงตามข้อกำหนดการเข้าศึกษาโดยตรง แคนาดามีโปรแกรมทางเลือกหรือตัวเลือกการโอนหน่วยกิตจากวิทยาลัยไปยังมหาวิทยาลัยได้ วิทยาลัยมีขนาดชั้นเรียนที่เล็กกว่า มีความใส่ใจเป็นรายบุคคล และโปรแกรมเตรียมความพร้อมที่สามารถช่วยให้นักศึกษาปรับปรุงเกรด และทักษะก่อนที่จะเข้าศึกษาระดับมหาวิทยาลัย
ตัวอย่างวิทยาลัยทางเลือกที่มีชื่อเสียง:
- Fraser International College: Pathway ไปยัง Simon Fraser University สนับสนุนทางวิชาการเพื่อนักศึกษาต่างชาติ
- International College of Manitoba: เตรียมนักศึกษาให้พร้อมสำหรับเข้าเรียน University of Manitoba หลักสูตรพื้นฐานที่ปรับแต่งให้เหมาะกับโปรแกรมปริญญา
ค่าเล่าเรียนสำหรับนักศึกษาต่างชาติ (ต่อปี):
- Fraser International College: CAD $16,000 – $21,000
- International College of Manitoba: CAD $17,000 – $22,000
สรุปการเปรียบเทียบค่าเล่าเรียนสถาบันทั้ง 4 ประเภท (สำหรับนักศึกษาต่างชาติ)
|
ประเภทสถาบัน |
ช่วงค่าเล่าเรียน (CAD ต่อปี) |
|
มหาวิทยาลัย |
$20,000 – $68,000 |
|
วิทยาลัย |
$13,000 – $22,000 |
|
โรงเรียนเทคนิค/อาชีวศึกษา |
$10,000 – $53,000 |
|
วิทยาลัยเตรียมความพร้อม วิทยาลัยทางเลือก |
$16,000 – $22,000 |
สรุปโอกาสในการเข้าเรียน การแข่งขันและความยากง่าย
|
ประเภทสถาบัน |
GPA |
ผลภาษา (IELTS/TOEFL) |
การแข่งขัน |
|
มหาวิทยาลัย |
75-90% |
IELTS: 6.5 – 7.5 TOEFL: 90 – 100 |
แข่งขันระดับสูง |
|
วิทยาลัย |
60-75% |
IELTS: 6.0 – 6.5 TOEFL: 80 – 90 |
แข่งขันปานกลางสำหรับบางโปรแกรม |
|
โรงเรียนเทคนิค/อาชีวศึกษา |
50-60% |
IELTS: 5.5 – 6.0 TOEFL: 70 – 80 |
ไม่แข่งขัน |
|
วิทยาลัยทางเลือก |
50-60% |
IELTS: 5.0 – 6.0 TOEFL: 60 – 80 |
ไม่แข่งขัน การเข้าศึกษาที่ยืดหยุ่น |
เรียนต่อที่ไหนดี มหาวิทยาลัย วิทยาลัย โรงเรียนเทคนิคอาชีพ หรือวิทยาลัยทางเลือกในแคนาดา?
เมื่อตัดสินใจว่าจะเข้าเรียน มหาวิทยาลัย วิทยาลัย โรงเรียนเทคนิคและอาชีพ หรือ วิทยาลัยทางเลือก ในแคนาดา สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาเป้าหมายสาขาวิชา และแผนระยะยาว (เช่น การพำนักถาวร PR) แต่ละประเภทของสถาบันมีข้อดีที่แตกต่างกันตามเป้าหมายอาชีพ และความชอบทางวิชาการ โดยทางเดอะเบสท์ขอสรุปดังนี้
มหาวิทยาลัย:
- นักเรียนที่ต้องการศึกษาที่ครอบคลุมพร้อมโอกาสในการศึกษาเรื่องทฤษฎี ทำการวิจัย และพัฒนาพื้นฐานทางวิชาการ
- กำลังมองหาอาชีพที่โดยทั่วไปต้องมีวุฒิการศึกษาที่สูงขึ้น เช่น แพทย์ ศาสตราจารย์ หรือนักวิจัย มหาวิทยาลัยเป็นทางเลือกที่เหมาะสม
- มีสาขาที่กำลังสนใจ เช่น เกษตรกรรมและอาหาร แพทยศาสตร์ กฎหมาย วิทยาการคอมพิวเตอร์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ (STEM) การดูแลสุขภาพ การขนส่ง และมนุษยศาสตร์
- จบจากมหาวิทยาลัยมักมีข้อได้เปรียบเมื่อสมัครขอการพำนักถาวร (PR) เนื่องจากสามารถมีสิทธิ์ขอใบอนุญาตทำงานหลังสำเร็จการศึกษา (PGWP) และงานที่มีความต้องการสูงที่เป็นที่ต้องการ เช่น Express Entry หรือ Provincial Nominee Programs (PNP)
วิทยาลัย:
- หากต้องการการศึกษาที่มุ่งเน้นอาชีพ และปฏิบัติมากขึ้นเช่น ธุรกิจ การดูแลสุขภาพ เทคโนโลยี การค้า
- ต้องการโปรแกรมที่สั้นกว่า (1-3 ปี) เช่น ประกาศนียบัตร ประกาศนียบัตรขั้นสูง หรืออนุปริญญาที่นำไปสู่การทำงานได้โดยตรง
- ต้องการเข้าสู่ตลาดแรงงานอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น สาขาต่างๆ เช่น การพยาบาล IT การออกแบบกราฟิก การตลาด และการบริการ
- วิทยาลัยร่วมมือโดยตรงกับภาคอุตสาหกรรม ทำให้โอกาสการในการฝึกงาน และร่วมงานกับบริษัทชั้นนำ
- เมื่อสำเร็จการศึกษามีสิทธิ์ได้รับ PGWP และสามารถขอ PR ได้
โรงเรียนเทคนิค และอาชีพ:
- ต้องการพัฒนาทักษะเฉพาะทางในด้านต่างๆ เช่น การซ่อมรถยนต์ การประปา การช่างไม้ การเชื่อม การทำอาหาร หรืองานฝีมืออื่นๆ
- ฝึกอบรมระยะสั้นที่เฉพาะทาง และมุ่งเน้นการเข้าสู่อาชีพโดยตรง
- เหมาะสำหรับเน้นทักษะ และลงมือทำมากกว่าการเรียนรู้เชิงทฤษฎี
- อาจมีสิทธิ์ได้รับ PGWP ขึ้นอยู่กับระยะเวลา และประเภทของโปรแกรม จังหวัดหลายแห่งสามารถขอ PR สำหรับผู้ประกอบอาชีพผ่าน Provincial Nominee Programs (PNPs) โดยเฉพาะหากงานฝีมือมีความต้องการสูง (เช่น ช่างไฟฟ้า ช่างเชื่อม)
วิทยาลัยทางเลือก:
- นักเรียนต่างชาติที่มองหาเส้นทางสู่มหาวิทยาลัย
- ต้องการปรับปรุงภาษา หรือเพื่อให้ตรงตามข้อกำหนดการรับสมัครของทางมหาวิทยาลัย
- ต้องการโอนหน่วยกิตไปยังมหาวิทยาลัยในภายหลัง และต้องการการเตรียมตัวเพิ่มเติม โดยเฉพาะในด้าน ภาษาอังกฤษ
- มีหลักสูตร Pathway ที่นักเรียนสำเร็จการศึกษาในวิทยาลัย ก่อนโอนหน่วยกิตไปยังมหาวิทยาลัย
ข้อควรพิจารณาสำหรับการเลือกสถาบันที่เหมาะสม:
- เป้าหมายอาชีพ:
- อาชีพที่เกี่ยวข้องกับงานฝีมือ ให้เลือกโรงเรียนเทคนิค/อาชีพ
- อาชีพที่เฉพาะทางที่เน้นวิชาการ เช่น ในด้านกฎหมาย หรือแพทย์ ให้เลือกมหาวิทยาลัย
- ระยะเวลาของโปรแกรม:
- วิทยาลัย และโรงเรียนอาชีพ จะมีโปรแกรมที่สั้น มุ่งเน้นการทำงานมากกว่า
- มหาวิทยาลัยมีหลักสูตรที่นานขึ้น เน้นการวิจัย
- ค่าใช้จ่าย: วิทยาลัย และโรงเรียนอาชีพ ประหยัดกว่าปริญญาตรี
- PR และการทำงาน: พิจารณาสิทธิ์ PGWP และวิธีที่โปรแกรมอาจช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์การทำงานในแคนาดา ซึ่งมีความสำคัญสำหรับการสมัคร PR หลายรายการ
สรุปขั้นตอนสำหรับนักศึกษาต่างชาติที่วางแผนเรียนต่อปริญญาตรีที่แคนาดา
1. เลือกโปรแกรมและสถาบันที่ต้องการ
- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับมหาวิทยาลัย วิทยาลัย โปรเเกรมที่คุณสนใจ
- พิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น เมือง ค่าเรียน ทุนการศึกษา และโอกาสในการทำงาน
2. ตรวจสอบข้อกำหนดการรับสมัคร
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าตรงตามข้อกำหนดทางวิชาการและความสามารถทางภาษาของสถาบันหรือไม่
- อาจต้องสอบ IELTS หรือ TOEFL
3. ขั้นตอนการเตรียมเอกสารใบสมัคร
- รวบรวมผลการเรียนในระดับมัธยมปลาย คะแนนสอบ และเอกสารที่จำเป็นทั้งหมด (เช่น จดหมายแนะนำ)
4. สมัครขอใบอนุญาตศึกษา
- หลังจากได้รับจดหมายตอบรับ ให้สมัครขอใบอนุญาตศึกษาผ่านเว็บไซต์ของรัฐบาลแคนาดา
5. หาที่พัก
- เลือกที่พัก ไม่ว่าจะเป็นหอพักในมหาวิทยาลัย ที่พักนอกมหาวิทยาลัย หรือโฮมสเตย์
- เตรียมงบประมาณสำหรับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เช่น ค่าเช่า อาหาร การขนส่ง และประกันสุขภาพ
6. เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทาง
- ก่อนบินไปแคนาดา ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีหนังสือเดินทาง ใบอนุญาตศึกษา วีซ่า และประกันสุขภาพที่ถูกต้อง
- ศึกษาวัฒนธรรม สภาพอากาศของแคนาดา และเรื่องอื่นๆ สำหรับการเรียนต่อที่เเคนาดา
เรียนต่อเเคนาดา แอดไลน์ปรึกษาเดอะเบสท์ได้เลย

ติดต่อเดอะเบสท์เพื่อสอบถามข้อมูลการเรียนต่อต่างประเทศเพิ่มเติม
เดอะเบสท์ เป็นศูนย์บริการให้คำปรึกษาเรียนต่อต่างประเทศครบวงจร เราเป็นตัวแทนที่ให้บริการแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ เช่น แคนาดา ออสเตรเลีย อังกฤษ สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และ ประเทศอื่นๆ ทั่วโลก เรายินดีให้ความช่วยเหลือตั้งแต่เริ่มสมัครเรียน จนสำเร็จการศึกษา รวมถึงดูแลนักเรียนระหว่างเรียนจนนักเรียนเรียนจบด้วยทีมที่เชียวชาญในด้านการเรียนต่อต่างประเทศ มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ขั้นตอนเหล่านี้เราดำเนินการให้ฟรี และเราพร้อมที่จะทำตามคุณภาพ และมาตรฐานดังสโลแกนที่ว่า “We are Quality”
บริการของเรามีอะไรบ้าง ?
- ฟรี!! บริการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเรียนต่อต่างประเทศทุกระดับชั้นทั่วโลก ตั้งแต่ โรงเรียนประถม โรงเรียนมัธยม สถาบันวิชาชีพ และสถาบันในระดับอุดมศึกษา รวมถึงหลักสูตรภาษาต่างประเทศ และเลือกสถาบันที่ดีที่สุดให้กับผู้เรียน
- เราให้ความช่วยเหลือตั้งแต่การประสานงานโรงเรียน เลือกโรงเรียนให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียน เตรียมเอกสารสมัครเรียน และดำเนินเรื่องสมัครเรียนให้ฟรี
- บริการเตรียมเอกสารยื่นวีซ่าครบวงจร และบริการยื่นวีซ่ากว่า 25 ประเทศทั่วโลก พร้อมวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าอย่างตรงจุด และแนะนำวิธีการเตรียมตัวในการสัมภาษณ์วีซ่า
- บริการแปลเอกสาร ภาษาไทย – ภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาอังกฤษ – ภาษาไทย รวมถึงภาษาที่ 3 เริ่มต้นเพียงแผ่นละ 200 บาท
- เดอะเบสท์ เป็นตัวแทนรับสมัครสอบ IELTS IDP อย่างเป็นทางการ พร้อมให้คำแนะนำ และนัดวันสอบให้โดยน้องๆ ไม่ต้องเสียเวลาสมัครเอง สมัครสอบได้ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
- บริการซื้อประกันภัยการเดินทางและประกันสุขภาพนักเรียนต่างชาติ จากบริษัทประกันชั้นนำ MSIG, NIB, Allianz, Orbit และอื่นๆ
- บริการจองตั๋วเครื่องบิน ทุกสายการบิน และประสานงานกับสถาบันเกี่ยวกับรถรับ – ส่ง สนามบิน
- บริการจัดหาที่พักทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นโฮมสเตย์ อพาร์ทเม้น หรือหอพักนักศึกษา จัดหาให้ตามความต้องการส่วนบุคคล
“เรายินดีที่จะดูแลนักเรียนทุกคน ตั้งแต่เริ่มต้นจนนักเรียนสำเร็จการศึกษา และทำให้การเรียนต่อของคุณเป็นเรื่องง่าย ” สอบถามข้อมูลการบริการเพิ่มเติมติดต่อ
โทร : 090-327 3558, 088-269 5099
Email :contact@thebest-edu.com
Line : @thebestedu หรือคลิกเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ
