Last updated สิงหาคม 22, 2023 ago by Thebestedu

ทำไมต้องมาเรียนต่อที่แคนาดา?


ในปี 2022 รัฐบาลแคนาดาตั้งเป้าเปิดรับผู้ย้ายถิ่นฐานในจำนวนที่สูงขึ้น โดนในปี 2021 รัฐบาลแคนาดาได้อนุมัติวีซ่าถาวรให้กับผู้ย้ายถิ่นฐานกว่า 405,000 คน เป็นตัวเลขมากที่สุดในรอบหนึ่งปี คิดเป็น 100% ของความต้องการแรงงานทั้งหมด (เปรียบเทียบปี 2019 มีประชากรถาวรใหม่ 341,000 คน) ซึ่งแคนาดามีตำแหน่งงานว่างเกือบ 1,000,000 ตำแหน่ง สำนักงานสถิติแคนาดา (Statistics Canada) เปิดเผยว่าในปี 2030 จะมีชาวแคนาดาเกษียณอายุออกไปจากภาคแรงงานกว่า 5,000,000 คน การเปิดรับรับผู้ย้ายถิ่นฐานเป็นจำนวนมากขึ้นเพื่อรองรับตลาดแรงงานของประเทศ เป็นวาระสำคัญที่รัฐบาลแคนาดาต้องการประชากรจากการย้ายถิ่นฐาน อีกหนึ่งวิธีสำหรับผู้ที่ต้องการจะเป็นพลเมืองชาวแคนาดา การศึกษาต่อในสถาบันแคนาดาเป็นอีกหนึ่งวิธีที่เป็นเส้นทางนำไปสู่การอนุมัติวีซ่าถาวรและพำนักในแคนาดาได้

ประเทศแคนาดามีชื่อเสียงไปทั่วโลกในด้านระบบการศึกษาเป็นอึกหนึ่งประเทศที่มีนักศึกษาต่างประเทศเข้ามาศึกษาอยู่ตลอดทุกปีและยินดีต้อนรับนักศึกษาต่างชาติหลายแสนคนจากทั่วโลกแคนาดา วุฒิการศึกษาในแคนาดาสามารถต่อยอดและนำไปสู่โอกาสระดับนานาชาติได้ ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา จำนวนนักเรียนต่างชาติของแคนาดาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นักเรียนต่างชาติจำนวนมากที่แสวงหาการศึกษาที่มีคุณภาพและอนาคตที่สดใสกว่ากำลังเลือกแคนาดาเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการศึกษา ไม่เพียงแต่เป็นโรงเรียนในแคนาดาที่อยู่ในอันดับต้น ๆ ของโลกเท่านั้น แต่แคนาดายังเป็นประเทศที่ปลอดภัยและเปิดรับความหลากหลายของทุกคนที่มาเรียนต่อในแคนาดา สำหรับบทความนี้จะมาเล่าถึง 10 เหตุผลว่าประเทศแคนาดาเหมาะแก่การศึกษาต่อหรือไม่ ตามไปดูในบทความนี้กันได้เลย


1. เป็นประเทศที่มีคุณภาพชีวิตอยู่ในระดับสูง

ผู้เรียนจะพบกับมาตรฐานการดำรงชีพในระดับสูงที่แคนาดา นักศึกษาต่างชาติได้รับประโยชน์จากสิทธิและเสรีภาพแบบเดียวกันกับนักเรียนในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการเคารพสิทธิมนุษยชน ความเท่าเทียม ความหลากหลาย และสังคมที่มั่นคงและสงบสุข และตามรายงานของ U.S. News & World Report ประจำปี 2022 ประเทศแคนาดาถูกจัดอันดับให้เป็นลำดับที่สามของโลกสำหรับประเทศที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด


2. ตัวเลือกหลักสูตรที่มีคุณภาพสูงและมีความยืดหยุ่น

ตั้งแต่การศึกษาระดับประถมศึกษาจนถึงระดับปริญญา แคนาดามีชื่อเสียงในด้านโอกาสทางการศึกษาและการวิจัยคุณภาพสูง ผู้เรียนยังสามารถสร้างความยืดหยุ่นในการโอนย้ายระหว่างสาขาวิชาและระดับการศึกษาโดยไม่ต้องเจอกับกฏเกณฑ์ที่วุ่นวาย ภายในแคนาดา เราจะสามารถเลือกเรียนจากวิทยาลัยได้มากกว่า 8,000 แห่งและหลักสูตรมหาวิทยาลัยกว่า 16,000 แห่ง รวมทั้งมหาวิทยาลัยในแคนาดา 7 แห่งติดอันดับหนึ่งใน 200 อันดับแรกของโลก จากรายงานของ Times Higher Education ประจำปี 2023

หลังจากจบจากระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย มีสถาบันอีกมากมายที่รองรับการเรียนต่อในแคนาดา หากต้องการเรียนที่วิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยในแคนาดา คุณต้องมีวุฒิอย่างน้อยในระดับจบการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย และยังสามารถรับวุฒิเทียบเท่าระดับมัธยมศึกษาตอนปลายได้ด้วยการสอบ GED หรือ General Educational Development

มหาวิทยาลัย

แคนาดาเป็นผู้นำด้านการวิจัยระหว่างประเทศและมีมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกหลายแห่ง คุณสามารถค้นหาปริญญาประเภทต่างๆ ได้ที่มหาวิทยาลัยในแคนาดา การศึกษาในระดับชั้นต่าง ๆ ภายในมหาวิทยาลัย ควรจบการศึกษาขั้นต่ำอย่างน้อยดังนี้

ระดับการศึกษา วุฒิการศึกษาที่ต้องมีอย่างน้อย
ปริญญาตรี (3-4 ปี) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
ปริญญาโท (1-2 ปี) ระดับปริญญาตรี
ปริญญาเอก (3-5 ปี) ระดับปริญญาโท
หลักสูตรประกาศนียบัตร (1-2 ปี) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย + ข้อกำหนดเพิ่มเติมตามแต่ละหลักสูตร
หลักสูตร Professional degree (3-4 ปี) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย + ข้อกำหนดเพิ่มเติมตามแต่ละหลักสูตร

วิทยาลัยและสถาบันวิชาชีพ

หากกำลังมองหาการฝึกภาคปฏิบัติที่สามารถนำไปสู่การได้งานโดยตรง สถาบันในรูปแบบวิทยาลัยยังเสนอโอกาสในการวิจัยประยุกต์ พร้อมทั้งการฝึกปฏิบัติจริง เพื่อเข้าสู่สายงานโดยเฉพาะ ซึ่งควรจบการศึกษาดังนี้

ระดับการศึกษา วุฒิการศึกษาที่ต้องมีอย่างน้อย
อนุปริญญา (2-3 ปี) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
ใบรับรอง (1-2 ปี) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย + ข้อกำหนดเพิ่มเติมตามแต่ละหลักสูตร
หลักสูตร Professional degree (3 ปี) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย + ข้อกำหนดเพิ่มเติมตามแต่ละหลักสูตร
หลักสูตร Applied bachelor’s degrees  (3-4 ปี) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย + ข้อกำหนดเพิ่มเติมตามแต่ละหลักสูตร

และคำศัพท์ต่อไปนี้สามารถสื่อถึงวิทยาลัยในแคนาดาได้เช่นเดียวกัน

  • Colleges of applied arts and technology (วิทยาลัยศิลปะประยุกต์และเทคโนโลยี)
  • Community colleges (วิทยาลัยชุมชน)
  • Institutes of technology  (สถาบันเทคโนโลยี)
  • Polytechnics (สารพัดช่าง)

โรงเรียนสอนภาษา

นักเรียนหลายคนเลือกที่จะพัฒนาทักษะทางภาษา ก่อนที่จะสมัครเรียนในวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยในแคนาดา ซึ่งสามารถเรียนเป็นภาษาอังกฤษหรือฝรั่งเศสได้ที่โรงเรียนสอนภาษาที่ยอดเยี่ยมแห่งใดแห่งหนึ่งของแคนาดา ทักษะทางภาษาที่แข็งแกร่งสามารถช่วยให้คุณศึกษาต่อในระดับที่สูงกว่าหรือแข่งขันในตลาดงานระหว่างประเทศได้

สมัครเรียน สมัครสอบออนไลน์ สอบถามข้อมูลการบริการเพิ่มเติมติดต่อ
โทร : 090-327 3558088-269 5099
Email : contact@thebest-edu.com
Line : @thebestedu หรือคลิกเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ

เพิ่มเพื่อน


3. สภาพแวดล้อมเปิดรับความหลากหลาย

แคนาดาเป็นสังคมที่เปิดกว้าง ปลอดภัย และมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม คุณจะรู้สึกเหมือนอยู่บ้านทั้งในชุมชนและในห้องเรียน กฎหมายเกี่ยวกับสิทธิและเสรีภาพของแคนาดาได้บัญญัติตามรัฐธรรมนูญมาตราที่ 15 ไว้ว่า “บุคคลทุกคนมีความเท่าเทียมกันทั้งก่อนและภายใต้กฎหมาย และมีสิทธิได้รับความคุ้มครองและผลประโยชน์เท่าเทียมกันของกฎหมาย โดยปราศจากการเลือกปฏิบัติ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง โดยปราศจากการเลือกปฏิบัติอันเนื่องมาจากเชื้อชาติ ชาติหรือชาติพันธุ์ สีผิว ศาสนา เพศ อายุ หรือความพิการทางจิตหรือทางร่างกาย”

ความหลากหลายทางวัฒนธรรมเป็นสิ่งที่มีคุณค่าในแคนาดา คุณจะได้ดื่มด่ำกับสภาพแวดล้อมที่หลากหลายทางวัฒนธรรมทั้งในห้องเรียนและในสังคม เนื่องจากประชากรมากกว่าครึ่งหนึ่งเป็นชาวต่างชาติ และมีนักเรียนต่างชาติมากกว่า 120,000 คนเข้าเรียนในสถาบันการศึกษาของตนทุกปี เกือบทุกประเทศในโลกจะถูกนำเสนอจากประเทศที่คุณพบและโต้ตอบด้วย มันเป็นลานตาของวัฒนธรรมจริงๆ 

นักศึกษาต่างชาติสามารถเข้าถึงทางเลือกในการจ้างงานและได้รับอนุญาตให้ทำงานนอกเวลาขณะเข้าเรียนเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาบางส่วน หลังจากสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยหรือวิทยาลัยในแคนาดา โครงการแรงงานของรัฐบาลจะสนับสนุนให้นักศึกษาต่างชาติอาศัยและทำงานในแคนาดาต่อไป

เป็นที่รู้กันว่าวิทยาลัยในแคนาดาให้การสนับสนุนนักศึกษาจากส่วนต่างๆ ของโลก และรับประกันว่านักศึกษาจะได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพเหมาะสมและมีตัวเลือกมากมายให้เลือกในสาขาวิชาที่ตนสนใจ แคนาดามีเมืองที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์มากที่สุด โดยมีกลุ่มต่างๆ มากกว่า 60 กลุ่ม แต่ละแห่งมอบข้อได้เปรียบให้กับนักศึกษาในการเชื่อมโยงกับบริษัทชั้นนำในสาขานี้ และมีความเชี่ยวชาญพิเศษทางวิชาการและความน่าดึงดูดเป็นของตัวเอง

ประเทศห้าอันดับแรกที่มีนักเรียนต่างชาติในแคนาดา ได้แก่ อินเดีย จีน เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส และเวียดนาม นักเรียนจากห้าประเทศนี้คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของนักเรียนต่างชาติทั้งหมดในแคนาดา ซึ่งกระจายตัวอยู่ทั่วแคนาดา โดยออนแทรีโอและบริติชโคลัมเบียเป็นรัฐที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการศึกษา ตามมาด้วยควิเบก อัลเบอร์ตา และโนวาสโกเทีย ผลกระทบทางเศรษฐกิจของนักศึกษาต่างชาติในแคนาดามีความสำคัญมาก ในปี 2018 พวกเขาบริจาคเงินให้กับเศรษฐกิจแคนาดามากกว่า 21 พันล้านดอลลาร์แคนาดา และสนับสนุนการจ้างงานมากกว่า 170,000 ตำแหน่ง


4. ค่าใช้จ่ายที่สมเหตุสมผล

ในแคนาดาคุณสามารถเข้าถึงทุนการศึกษาและโอกาสการทำงานระหว่างเรียนเพื่อช่วยจ่ายค่าเล่าเรียนได้ หลายหลักสูตรเสนอตำแหน่งงานหรือการฝึกงานแบบร่วมมือเพื่อรับประสบการณ์จริงในขณะที่กำลังเรียน นักศึกษาต่างชาติส่วนใหญ่มีสิทธิ์ทำงานระหว่างเรียนและสามารถขอใบอนุญาตทำงานหลังจบการศึกษาได้หลังจากเรียนจบ นอกจากนี้ ค่าเล่าเรียนของโดยทั่วไปของการศึกษาในแคนาดาจะถูกกว่าวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยในออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา

โรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษา

นักเรียนต่างชาติต้องจ่ายค่าเล่าเรียนรายปีที่โรงเรียนประถมและมัธยมในแคนาดา มีค่าธรรมเนียมแตกต่างกันไปตามประเภทของโรงเรียน ดังนี้

ประเภทโรงเรียน ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ
โรงเรียนรัฐบาล

CA$9,500-17,000 / ปี

(ประมาณ 252,100-451,100 บาท)

โรงเรียนเอกชน

CA$15,000-30,000 / ปี

(ประมาณ 398,000-796,000 บาท)

โรงเรียนประจำ

CA$63,000-83,000 / ปี

(ประมาณ 1,671,700-2,202,500 บาท)

โรงเรียนอาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเล็กน้อยสำหรับกิจกรรมต่อไปนี้

  • ทีมกีฬา
  • สโมสร
  • ทัศนศึกษา

โดยนักเรียนส่วนใหญ่นำอาหารกลางวันมาโรงเรียนเอง และโรงเรียนบางแห่งอาจจะมีโรงอาหารหรือโครงการอาหารกลางวันซึ่งนักเรียนสามารถซื้ออาหารทานได้

โรงเรียนสอนภาษา

หลักสูตรของโรงเรียนสอนภาษามักขึ้นอยู่กับจำนวนสัปดาห์ที่กำหนด ค่าเล่าเรียนจะแตกต่างกันไปตามแต่ละโรงเรียน

โดยปกติค่าเล่าเรียนจะอยู่ระหว่าง CA$340-425 ต่อสัปดาห์ (ประมาณ 9,000-11,300 บาท) 

วิทยาลัยและสถาบันวิชาชีพ

ค่าเล่าเรียนสำหรับวิทยาลัยและโรงเรียนอาชีวศึกษาจะแตกต่างกันไปตามหลักสูตรและโรงเรียนที่คุณเลือก หลักสูตรของวิทยาลัยมีระยะเวลาเรียนแตกต่างกันไป บางหลักสูตรอาจใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือนหรือไม่กี่ปี โดยปกติค่าเล่าเรียนจะอยู่ในช่วงประมาณ CA$7,000-22,000 ต่อปี (ประมาณ 185,700-583,800 บาท) 

หลักสูตรของวิทยาลัยบางแห่งอาจจะมีการจัดหางานหรือการฝึกงาน ดังนั้นนักศึกษาอาจมีรายได้ระหว่างเรียนเพิ่มเติม

โดยเฉลี่ยแล้ว ค่าครองชีพของนักศึกษาวิทยาลัยอยู่ที่ประมาณ CA$15,000 ต่อปี (ประมาณ 398,000 บาท) 

มหาวิทยาลัย

ค่าเล่าเรียนสำหรับมหาวิทยาลัยจะแตกต่างกันไปตามหลักสูตรและมหาวิทยาลัยที่เลือก โดยเฉลี่ยแล้วในแคนาดาค่าเล่าเรียนของมหาวิทยาลัย สามารถแสดงออกได้ดังนี้

ประเภทหลักสูตร ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ
ปริญญาตรี 

CA$36,100 / ปี

(ประมาณ 957,900 บาท)

ปริญญาโท

CA$21,100 / ปี

(ประมาณ 560,000 บาท)

โดยเฉลี่ยแล้ว ค่าครองชีพของนักศึกษาวิทยาลัยอยู่ที่ประมาณ CA$15,000 ต่อปี (ประมาณ 398,000 บาท)


5. ได้รับผลประโยชน์หลังจากเรียนจบในแคนาดา

เราสามารถใช้วุฒิการศึกษาของแคนาดาที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากลเพื่อสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพของ ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจอยู่ที่แคนาดาหรือกลับประเทศบ้านเกิด การศึกษาและในแคนาดาจะช่วยเตรียมพร้อมสำหรับการทำงานในอนาคต เมื่อเร็ว ๆ นี้แสดงให้เห็นว่า 60% ของนักศึกษาต่างชาติซึ่งได้งานทำในช่วงระยะเวลากำลังศึกษาหรือหลังสำเร็จการศึกษากลายเป็นผู้มีได้รับอนุญาติในอยู่อาศัยในแคนาดาภายใน 10 ปีหลังจากได้รับใบอนุญาตการศึกษาครั้งแรก

หลังจากที่เรียนจบในแคนาดา เราจะสามารถเลือกได้ว่าจะทำงานหรืออาศัยอยู่ต่อที่แคนาดาได้ หากเลือกทำงานต่อ จะต้องมี Work permit ซึ่งจะมี Work permit ชั่วคราวหลังจากที่นักเรียนได้จบการศึกษา ซึ่งจะช่วยให้สามารถหาประสบการณ์และปูทางไปสู่การขอ Permanent Residence ได้


6. เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ

สัมผัสกับวัฒนธรรมแคนาดา ชีวิตทางสังคม การเดินทางผจญภัย และฤดูกาลทั้งสี่ คุณสามารถเลือกจากเขตเมืองและชนบททั่วทั้งประเทศ ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในแคนาดา ก็สามารถสำรวจชุมชนที่มีชีวิตชีวาและภูมิประเทศที่งดงาม ในการมาอาศัยอยู่แคนาดา ผู้เรียนยังมีโอกาสพิเศษในการเรียนภาษาทางการของแคนาดาอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ ภาษาอังกฤษหรือภาษาฝรั่งเศส ตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงระดับบัณฑิตศึกษา


7. หอพักและที่พักอาศัยระหว่างเรียนต่อแคนาดามีหลายรูปแบบ

สำหรับนักเรียนต่างชาติหลาย ๆ คน อีกหนึ่งการตัดสินใจที่ยากที่สุดของการเรียนในแคนาดาคือการหาที่อยู่อาศัย นักศึกษาบางคนเลือกที่จะพักอาศัยในมหาวิทยาลัย ที่อยู่ใกล้กันกับชั้นเรียนและห้องสมุด ในขณะที่บางคน เลือกที่จะอาศัยอยู่นอกวิทยาเขต โดยอาศัยการขนส่งสาธารณะ การเดิน หรือใช้ยานพาหนะเพื่อเดินทางไปและกลับจากสถานศึกษา มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ในแคนาดามีสำนักงานสำหรับช่วยเหลือนักเรียนต่างชาติ ซึ่งนักเรียนต่างชาติสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลเพื่อช่วยหาที่พักทั้งในและนอกมหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษาหลายแห่งมีที่พักหรือหอพักในวิทยาเขตซึ่งนักศึกษาสามารถเช่าที่พักสำหรับบางภาคเรียนหรือตลอดปีการศึกษาในช่วงเวลาเรียน และสถาบันส่วนใหญ่ยังมีแหล่งข้อมูลออนไลน์ที่สามารถโพสต์ที่พักนอกวิทยาเขตได้

หอพักภายในมหาวิทยาลัย

สถาบันการศึกษาในแคนาดามักเสนอทางเลือกให้นักเรียนเช่าที่พักในมหาวิทยาลัยที่โรงเรียนเป็นเจ้าของ ที่พักเหล่านี้เรียกว่าหอพักในมหาวิทยาลัยหรือที่พักอาศัยและมีข้อดีหลายประการ การใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยทำให้นักศึกษาสามารถพักอาศัยใกล้กับชั้นเรียนได้ นักศึกษาหลายคนชอบที่พักในมหาวิทยาลัยเพราะช่วยให้พวกเขาได้อยู่ท่ามกลางเพื่อนร่วมรุ่น สร้างโอกาสในการสร้างเครือข่ายและส่งเสริมมิตรภาพกับเพื่อนใหม่ ที่พักในมหาวิทยาลัยบางครั้งมีการจัดบริการสำหรับอาหารมื้อเย็นให้ ซึ่งช่วยให้นักเรียนสามารถรับประทานอาหารที่โรงอาหารในมหาวิทยาลัยได้ ทำให้ใช้เวลาทำอาหารน้อยลงและมีเวลาจดจ่อกับการเรียนมากขึ้น บางครั้งที่พักในมหาวิทยาลัยก็มาพร้อมกับสิทธิประโยชน์อื่น ๆ เช่น การเข้าใช้ฟิตเนสหรือสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่ดำเนินการโดยโรงเรียน ค่าครองชีพในวิทยาเขตขึ้นอยู่กับโรงเรียน และอาจแพงกว่าหรือถูกกว่าตัวเลือกนอกมหาวิทยาลัย

หอพักภายนอกมหาวิทยาลัย

ตัวเลือกที่พักนอกมหาวิทยาลัยจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับที่ตั้งของสถาบันการศึกษา สถาบันที่ตั้งอยู่ในเมืองใหญ่ ที่พักมักจะมีราคาแพง เช่น เมืองโตรอนโตและเมืองแวนคูเวอร์ มักจะมีอพาร์ทเมนต์และคอนโดมิเนียมให้เช่าในบริเวณใกล้เคียง สถาบันที่ตั้งอยู่ในเมืองเล็กอาจมีตัวเลือกน้อยกว่า แม้ว่าเป็นเรื่องปกติที่ค่าที่พักจะถูกกว่าในพื้นที่ที่มีประชากรน้อย แต่ไม่ว่าสถาบันจะตั้งอยู่ที่ใด ก็มักจะมีตัวเลือกที่พักนอกมหาวิทยาลัยทั้งเข้าอยู่ในระยะสั้นและระยะยาว

ที่อยู่อาศัยระยะสั้นมักเป็นที่นิยมสำหรับนักศึกษาต่างชาติ ตัวเลือกที่อยู่อาศัยระยะสั้นที่พบมากที่สุดคือ ที่พักในรูปแบบให้เช่า มีไว้สำหรับผู้เข้าพักคนเดียว กลุ่มเพื่อนร่วมห้อง หรือครอบครัว เนื่องจากค่าเช่าอาจมีราคาแพง นักเรียนหลายคนจึงเลือกที่จะอยู่ร่วมกับเพื่อนร่วมห้องเพื่อแบ่งปันค่าใช้จ่าย โปรดทราบว่าสัญญาเช่าหรือสัญญาเช่าเป็นข้อตกลงทางกฎหมายกับบุคคลที่เป็นเจ้าของทรัพย์สิน ซึ่งก็คือเจ้าของบ้าน ข้อตกลงดังกล่าวมีผลผูกพันทางกฎหมายและผู้เช่าจะมีความรับผิดชอบบางอย่าง เช่น จ่ายค่าเช่าตรงเวลาและไม่จงใจทำให้ทรัพย์สินเสียหาย ก่อนลงนามในข้อตกลงการเช่า โปรดอ่านเงื่อนไขอย่างรอบคอบและตรวจสอบกับสำนักงานของนักศึกษาต่างชาติหากมีข้อกังวลใดๆ ตัวเลือกที่พักนอกวิทยาเขตที่เป็นที่นิยมอีกแห่งคือโปรแกรมโฮมสเตย์ บางโรงเรียนจับคู่นักเรียนกับครอบครัวในพื้นที่ที่พวกเขาเรียนอยู่ ซึ่งเรียกว่าโฮมสเตย์ โฮมสเตย์แต่ละแห่งจะแตกต่างกัน แต่นักเรียนมักจะมีห้องพักของตัวเอง แต่ภายในบ้านส่วนอื่นก็อาศัยอยู่กับครอบครัว พร้อมรับประทานอาหารร่วมกันและมีหน้าที่รับผิดชอบร่วมกัน

ประเภทที่พัก ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ
หอพักภายในมหาวิทยาลัย

CA$3,000-7,500 / ปี

(ประมาณ 79,400-198,500 บาท)

หอพักภายนอกมหาวิทยาลัย

CA$9,000-26,000 / ปี

(ประมาณ 238,100-688,000 บาท)


8. สามารถทำงานหลังเรียนจบในแคนาดาได้

ใบอนุญาตทำงานหลังสำเร็จการศึกษา

ผู้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนหลังมัธยมศึกษาบางแห่งจะได้รับประสบการณ์การทำงานในแคนาดาด้วยใบอนุญาตทำงานหลังสำเร็จการศึกษา หรือ Post-graduation work permit (PGWP) โดยจะมีสถานะเป็นใบอนุญาติชั่วคราว ประสบการณ์การทำงานที่คุณได้รับจากการฝึกงานระหว่างเรียน อาจช่วยสนับสนุนการสมัครของคุณเพื่อเป็นผู้อยู่อาศัยถาวรในแคนาดา ระหว่างนี้โดยสามารถต่ออายุใบอนุญาตทำงานหลังจบการศึกษสูงสุด 18 เดือน ตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2023 ผู้สำเร็จการศึกษาจากต่างประเทศที่เพิ่งหมดอายุหรือหมดอายุ PGWP จะมีสิทธิ์ได้รับใบอนุญาตทำงานเพิ่มเติมหรือต่ออายุเพื่อให้อยู่ได้นานขึ้นและได้รับประสบการณ์การทำงานเพิ่มเติมนานถึง 18 เดือน


9. สามารถทำงานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียนต่อที่แคนาดาได้

ในปี 2014 รัฐบาลแคนาดาได้แนะนำการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดของใบอนุญาตการศึกษาของแคนาดา ภายใต้การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ใบอนุญาตการศึกษาส่วนใหญ่ให้สิทธิ์แก่นักเรียนต่างชาติโดยอัตโนมัติในการทำงานขณะศึกษาในแคนาดา ใบอนุญาตการศึกษาของแคนาดาส่วนใหญ่อนุญาตให้นักเรียนต่างชาติทำงานเต็มเวลาได้สูงสุด 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ในช่วงเรียนปกติและรับการจ้างงานเต็มเวลาในช่วงพักที่กำหนด ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2022 ได้มีการออกมาตรการชั่วคราวเพื่อให้นักเรียนทำงานมากกว่า 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ มีผลจนถึงเดือนธันวาคม 2023

หมายเลขประกันสังคม หรือ Social Insurance Number (SIN)

ใครก็ตามที่ทำงานในแคนาดาจะต้องมีหมายเลขประกันสังคม หรือ Social Insurance Number (SIN) ที่ถูกต้อง ซึ่งหมายความว่านักเรียนต่างชาติที่ต้องการทำงานในแคนาดาจะต้องสมัครขอ SIN ก่อน สามารถส่งใบสมัครขอหมายเลขประกันสังคม (SIN) ด้วยตนเองหรือส่งทางไปรษณีย์ไปที่ Service Canada อย่างไรก็ตาม ในการสมัครขอ SIN จะต้องมีข้อมูลบางอย่างระบุไว้ในใบอนุญาตการศึกษาของนักเรียนต่างชาติ ใบอนุญาตการศึกษาต้องระบุเงื่อนไขข้อใดข้อหนึ่งหรือทั้งสองข้อตามรายการด้านล่าง หากเงื่อนไขเหล่านั้นไม่รวมอยู่ในใบอนุญาตการศึกษา นักเรียนเพียงแค่ขอให้เพิ่มเงื่อนไขดังกล่าวตามที่ร้องขอมาเพิ่มเติม

การประกาศเพิ่มชั่วโมงทำงานชั่วคราวสำหรับนักเรียน

IRCC ประกาศว่าตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2022 จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2023 นักศึกษาต่างชาติในแคนาดาที่มีใบอนุญาตทำงานนอกวิทยาเขตในใบอนุญาตการศึกษาจะได้รับอนุญาตให้ทำงานมากกว่า 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในช่วงปิดภาคเรียน ชาวต่างชาติที่ได้ส่งใบสมัครใบอนุญาตการศึกษาแล้วจะสามารถรับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงชั่วคราวนี้ได้หากใบสมัครของพวกเขาได้รับการอนุมัติในช่วงเวลานั้น


10. เมืองในแคนาดาน่าอยู่อาศัยและมีสภาพแวดล้อมเหมาะสมกับการเรียน

เมืองแวนคูเวอร์ (Vancouver) เป็นเมืองที่ประกอบด้วยทิวทัศน์ที่สวยงาม อากาศเย็นสบาย และผู้คนที่เป็นมิตร แวนคูเวอร์จึงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกว่าเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมและเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในการอยู่อาศัย แวนคูเวอร์ยังเป็นหนึ่งในเมืองที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติและภาษามากที่สุดในแคนาดา โดย 52 เปอร์เซ็นต์ของประชากรพูดภาษาแรกนอกเหนือจากภาษาอังกฤษ และแวนคูเวอร์เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมและกิจกรรมระดับนานาชาติมากมาย รวมถึงโอลิมปิกฤดูหนาว 2010 และพาราลิมปิกฤดูหนาว 2010 แวนคูเวอร์เป็นหนึ่งในเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดและมีความหลากหลายทางเชื้อชาติมากที่สุดในแคนาดา รวมทั้งเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดังหลายเรื่อง สภาพแวดล้อมที่มีภูเขาล้อมรอบ และยังมีความเป็นศิลปะ โรงละคร และห้องโถงดนตรีที่ตื่นตาตื่นใจภายในเมือง

คลิกเพื่อทำความรู้จักกับเมืองแวนคูเวอร์ จุดหมายปลายทางด้านการศึกษาอันดับ 1 ประเทศแคนาดา


ติดต่อเดอะเบสท์เพื่อสอบถามข้อมูลการเรียนต่อต่างประเทศเพิ่มเติม

เดอะเบสท์ เป็นศูนย์บริการให้คำปรึกษาเรียนต่อต่างประเทศครบวงจร เราเป็นตัวแทนที่ให้บริการแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และ ประเทศอื่นๆ อีก 25 ประเทศทั่วโลก เรายินดีให้ความช่วยเหลือตั้งแต่เริ่มสมัครเรียน จนสำเร็จการศึกษา รวมถึงดูแลนักเรียนระหว่างเรียนจนนักเรียนเรียนจบด้วยทีมผู้เชียวชาญในด้านการเรียนต่อต่างประเทศ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ขั้นตอนเหล่านี้เราดำเนินการให้ฟรี และเราพร้อมที่จะทำตามคุณภาพ และมาตรฐานดังสโลแกนที่ว่า “We are Quality”

บริการของเรามีอะไรบ้าง ?

  • ฟรี!! บริการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเรียนต่อต่างประเทศทุกระดับชั้นทั่วโลก ตั้งแต่ โรงเรียนประถม โรงเรียนมัธยม สถาบันวิชาชีพ และสถาบันในระดับอุดมศึกษา รวมถึงหลักสูตรภาษาต่างประเทศ และเลือกสถาบันที่ดีที่สุดให้กับผู้เรียน
  • เราให้ความช่วยเหลือตั้งแต่การประสานงานโรงเรียน เลือกโรงเรียนให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียน เตรียมเอกสารสมัครเรียน และดำเนินเรื่องสมัครเรียนให้ฟรี
  • บริการเตรียมเอกสารยื่นวีซ่าครบวงจร และบริการยื่นวีซ่ากว่า 25 ประเทศทั่วโลก พร้อมวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าอย่างตรงจุด และแนะนำวิธีการเตรียมตัวในการสัมภาษณ์วีซ่า 
  • บริการแปลเอกสาร ภาษาไทย – ภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาอังกฤษ – ภาษาไทย รวมถึงภาษาที่ 3 เริ่มต้นเพียงแผ่นละ 200 บาท
  • เดอะเบสท์ เป็นตัวแทนรับสมัครสอบ IELTS IDP อย่างเป็นทางการ พร้อมให้คำแนะนำ และนัดวันสอบให้โดยน้องๆ ไม่ต้องเสียเวลาสมัครเอง สมัครสอบได้ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
  • บริการซื้อประกันภัยการเดินทางและประกันสุขภาพนักเรียนต่างชาติ จากบริษัทประกันชั้นนำ MSIG, NIB, Allianz, Orbit และอื่นๆ
  • บริการจองตั๋วเครื่องบิน ทุกสายการบิน และประสานงานกับสถาบันเกี่ยวกับรถรับ – ส่ง สนามบิน
  • บริการจัดหาที่พักทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นโฮมสเตย์ อพาร์ทเม้น หรือหอพักนักศึกษา จัดหาให้ตามความต้องการส่วนบุคคล

 

 

“เรายินดีที่จะดูแลนักเรียนทุกคน ตั้งแต่เริ่มต้นจนนักเรียนสำเร็จการศึกษา และทำให้การเรียนต่อของคุณเป็นเรื่องง่าย ” สอบถามข้อมูลการบริการเพิ่มเติมติดต่อ
โทร: 090-327 3558088-269 5099
Email: contact@thebest-edu.com
Line: @thebestedu หรือคลิกเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ

เพิ่มเพื่อน

 

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.