สารบัญบทความ

Last updated ธันวาคม 8, 2022 ago by Thebestedu

Trinity College


Trinity College สถาบันเตรียมความพร้อมสำหรับนักเรียนต่างชาติเพื่อเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น เปิดสอนหลักสูตรปรับพื้นฐาน TCFS (Trinity College Foundation Studies) เป็นแนวทางสำหรับนักศึกษาต่างชาติที่ต้องการศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น The University of Melbourne โดยตรง โดยหลักสูตรได้รับการพัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น อาจารย์ผู้สอนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทขึ้นไป มีประสบการณ์และคุ้นเคยกับการสอนนักศึกษาต่างชาติอย่างดี

การเรียนการสอนที่ Trinity College ได้รับการออกแบบร่วมกับมหาวิทยาลัยเมลเบิร์นและอยู่ภายใต้การดูแลของคณะกรรมการวิชาการของมหาวิทยาลัย มุ่งเน้นให้นักศึกษาต่างชาติได้เรียนภาษาอังกฤษ ควบคู่กับหลักสูตรปรับพื้นฐาน รวมถึงการปรับตัวและการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย เมื่อสำเร็จการศึกษา ก็จะได้รับพิจารณาศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ที่มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น

ทำไมถึงเลือกเรียนที่ Trinity College

  • Trinity College เป็นสถาบันสอน Foundation เพื่อปรับพื้นฐานเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น The University of Melbourne โดยตรง 
  • เป็นที่ยอมรับของมหาวิทยาลัยชั้นนำในออสเตรเลีย และนักศึกษามากกว่า 90% ได้รับข้อเสนอเข้าเรียนต่อจากมหาวิทยาลัย Gourp of Eight
  • อาจารย์ผู้สอนที่มีประสบการณ์สูง สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโทและปริญญาเอก หลายท่านสอนที่มหาวิทยาลัยเมลเบิร์นด้วย จึงมีความเข้าใจการสอนนักศึกษาต่างชาติเป็นอย่างดี สอนได้ลึกซึ้งและตรงประเด็น ลดการประหม่า เสริมความกล้าแสดงออก และได้รู้จักเพื่อนใหม่จากทั่วโลก
  • สถาบัน Trinity College ตั้งอยู่กับมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น The University of Melbourne บรรยากาศเหมือนอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย ซึ่งผู้เรียนได้มีโอกาสได้ทำความคุ้นเคยกับมหาวิทยาลัยมากขึ้นด้วย
  • มีกิจกรรมนอกหลักสูตรมากมาย และทางสถาบันก็ได้มีการสนับสนุนให้ผู้เรียนได้มีการทำกิจกรรมนอกห้องเรียน เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์และช่วยผ่อนคลายหลังเลิกเรียนด้วย
  • Trinity College มอบทุนการศึกษาสูงสุด 50% สำหรับหลักสูตร Foundation Studies
  • ทางเลือกการรับเข้าเรียนที่หลากหลาย หลักสูตรที่ยืดหยุ่น และความช่วยเหลือส่วนบุคคลในการเลือกวิชา จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าสามารถปรับพื้นฐานการเรียนได้ตรงตามคณะหรือหลักสูตรที่อยากเรียนมากที่สุด
  • สามารถใช้สิ่งอำนวยความสะดวกภายในมหาวิทยาลัยเมลเบิร์นได้ด้วย เช่น Baillieu Library ซึ่งเป็นห้องสมุดหลักของมหาวิทยาลัย

Trinity College ผสมผสานสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยเข้ากับอาคารเก่าแก่ที่สวยงาม

วิทยาเขตหลักของ Trinity College ตั้งอยู่ที่ Parkville เมืองเมลเบิร์น เป็นอาคารเก่าแก่ที่สวยงามแต่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย นอกจากนี้ ยังอยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น The University of Melbourne เพียง 1.5 กิโลเมตร


หลักสูตร Foundation ได้เรียนอะไรบ้าง?

Trinity College เป็นหนึ่งในสถาบันชั้นนำของออสเตรเลียที่เปิดสอนหลักสูตร Foundation โดยออกแบบมาเพื่อช่วยให้นักศึกษาต่างชาติได้ปรับพื้นฐานทางวิชาการ เพิ่มความมั่นใจและบรรลุเป้าหมายในการ Pathway เข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น The University of Melbourne โดยโครงสร้างหลักสูตรจะประกอบด้วยวิชาหลัก 2 วิชา และวิชาเลือก 3 วิชา จาก 11 วิชาที่มีให้ เมื่อสำเร็จการศึกษาพื้นฐานวิทยาลัยทรินิตี้ จะมีความเชี่ยวชาญในหัวข้อดังนี้

  • การพูดในที่สาธารณะ การพรีเซ้นท์งาน
  • การทำงานเป็นทีม
  • การให้เหตุผล
  • มีความคิดสร้างสรรค์ วิเคราะห์ และวิจารณ์

โครงสร้างหลักสูตร

ในฐานะนักศึกษา Trinity College จะได้เรียนห้าวิชาซึ่งประกอบด้วย 2 วิชาหลัก core subjects และ 3 วิชาเลือก elective subjects โดยโครงสร้างนี้ช่วยให้พัฒนาทักษะหลักที่ต้องการสำหรับการศึกษาระดับอุดมศึกษาในอนาคต ในขณะที่สร้างความรู้และความสามารถที่กว้างขวางยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น วิชาเลือกบางวิชา เช่น คณิตศาสตร์ และวิชาวิทยาศาสตร์ เป็นข้อกำหนดเบื้องต้นสำหรับการเข้าสู่หลักสูตรของมหาวิทยาลัยเมลเบิร์นบางหลักสูตร ดังนั้น จะต้องมีความรู้ในวิชานี้ก่อน หากกำลังวางแผนศึกษาต่อในสาขานี้

วิชาหลัก Core Subjects

ในส่วนหนึ่งของหลักสูตร Foundation Studies เชิงลึกที่เปิดสอนโดย Trinity College คุณจะได้เรียนวิชาบังคับสองวิชาหลักคือ

  • ภาษาอังกฤษ (English)
  • ประวัติศาสตร์แห่งแนวคิด (History of Ideas)

วิชาเหล่านี้ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อให้มีประสบการณ์ในการเขียนและการพูดภาษาอังกฤษ ทำให้มีความมั่นใจและความสามารถในการประสบความสำเร็จในการศึกษาต่อในอนาคตที่มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น

คลิก เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิชาหลัก Core Course

วิชาเลือก Elective Subjects

วิชาเลือกได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มความกว้างให้กับโปรแกรมการศึกษาพื้นฐาน โดยสามารถเลือกวิชาเลือกได้ 3 ให้ตรงกับข้อกำหนดหลักสูตรศึกษาของ University of Melbourne ที่ต้องการจะเรียนต่อ โดยมีวิชาเลือกดังนี้

  • บัญชี (Accounting)
  • ชีววิทยา (Biology)
  • เคมี (Chemistry)
  • เศรษฐศาสตร์ (Economics)
  • การพัฒนาและออกแบบสิ่งแวดล้อม (Environment, Development and Design)
  • คณิตศาสตร์ 1 (Mathematics 1)
  • คณิตศาสตร์ 2 (Mathematics 2)
  • สื่อสารมวลชน (Media and Communications)
  • ฟิสิกส์ (Physics)
  • จิตวิทยา (Psychology)
  • ดนตรี (Music Practical)

คลิก เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิชาเลือก Elective Course

แนวทางการเลือกวิชาที่เรียน

ตั้งแต่วันแรกของการปฐมนิเทศ นักศึกษาทุกคนจะได้รับคำแนะนำตั้งแต่การเริ่มหลักสูตรและแนวทางเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น โดยจะได้รับการสนับสนุนแบบตัวต่อตัวจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเลือกวิชาให้เหมาะสมและตรงกับคุณสมบัติการรับเข้าเรียนต่อจากมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น

หลักสูตรที่ต้องการจะเรียนต่อ

การเลือกวิชา

Agriculture 
  • EAP
  • English
  • Mathematics 1
Arts
  • EAP และคะแนนอย่างน้อย 70% สำหรับทั้ง English และ History of Ideas
Biomedicine
  • EAP
  • English
  • Chemistry
  • Mathematics 1
Commerce
  • EAP
  • English
  • Mathematics 1
  • Mathematics 2
  • History of Ideas
Design
  • EAP
  • English
  • Environment, Development and Design เป็นวิชาที่แนะนำสำหรับปริญญาตรีสาขาการออกแบบ

ผู้สมัครที่ตั้งใจจะเรียน Civil Systems, Computing, Construction, Mechanical Systems, Property or Spatial Systems อาจต้องดำเนินการเรื่อง bridging subject in mathematics ในปีแรก

Music
  • EAP
  • English
  • History of Ideas
  • Music และความรู้ด้านทฤษฎีดนตรี Music Theory and Harmony อย่างน้อย AMEB เกรด 5 หรือเทียบเท่า
Oral Health 
  • EAP
  • English
  • Biology หรือ Chemistry (อย่างใดอย่างหนึ่ง)
Science
  • EAP
  • English
  • Mathematics 1
  • Biology, Chemistry หรือ Physics (อย่างใดอย่างหนึ่ง)

หรือ

  • EAP
  • English
  • Mathematics 1
  • Mathematics 2

เกณฑ์การเข้าเรียนมหาวิทยาลัยอื่นๆ

แม้ว่าเป้าหมายของนักศึกษาส่วนใหญ่ที่เข้าเรียนหลักสูตร Foundation Studies ของ Trinity College  คือการเข้าศึกษาระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น The University of Melbourne แต่ผู้สำเร็จการศึกษายังได้รับการยอมรับจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับ Top ของออสเตเรลียอื่นๆ ด้วย ดังนี้

  • Australian National University
  • Monash University
  • University of Adelaide
  • University of New South Wales
  • University of Queensland
  • University of Sydney
  • University of Western Australia

นักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาหลักสูตร Foundation จาก Trinity College ยังมีประสบการเข้าเรียนต่อมหาวิทยายลัยต่างประเทศหลายแห่ง เช่น

  • Boston University (US)
  • Leicester University (UK)
  • Liverpool University (UK)
  • London College of Fashion (UK)
  • Manchester University (UK)
  • Massachusetts Institute of Technology (US)
  • McGill University (Canada)
  • The University of Nottingham (UK)

ค่าใช้จ่ายในการเรียน

ค่าใช้จ่ายในการเรียนที่ Trinity College มีความยืดหยุ่น ผู้เรียนสามารถเลือก Package ตามความเหมาะสมส่วนตัว ดังนี้

Comprehensive

Comprehensive Plus

Standard

Fast Track

AU$46,010
(1,127,245 บาท)

AU$52,430
(1,284,535 บาท)

AU$37,056
(907,872 บาท)

AU$37,056
(907,872 บาท)

หมายเหตุ:

  • ค่าสมัคร AU$310 ทุก Package
  • ค่าเทอมสามารถแบ่งชำระได้

Trinity College มอบทุนการศึกษาสูงสุด 50% สำหรับหลักสูตร Foundation Studies

Trinity College มอบทุนการศึกษาส่วนลดค่าเรียน 25% – 50% สำหรับนักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียนหลักสูตร Foundation Studies Program โดยทุนการศึกษาจะพิจารณาจากผลการเรียน โดยผู้สมัครจะต้องมีผลการเรียนที่ดีเยี่ยมในระดับ ม.ปลาย ไม่ได้อาศัยในออสเตรเลียฐานะผู้อยู่อาศัยถาวร โดยทุนการศึกษาจะได้รับการพิจารณาจากใบสมัครที่กรอกข้อมูลครบถ้วน และจะประกาศให้ทราบทางอีเมลภายในสองสัปดาห์ของรอบคัดเลือก

TCFS Intake วันเปิดเรียน

วันสุดท้ายของการรับสมัครทุน

January Comprehensive & Comprehensive Plus

January 2023

October 2022

February Standard February 2023

November 2022

June Fast Track  June 2023

March 2023

July Comprehensive & Comprehensive Plus

July 2023

April 2023

August Standard August 2023

May 2023

September Fast Track September 2023

June 2023


คุณสมบัติการเข้าเรียนต่อ Foundation สถาบัน Trinity College

  Standard Comprehensive/Plus

Fast-Track

คุณสมบัติทางวิชาการ สำเร็จการศึกษาในระดับ ม.5 ด้วยเกรดเฉลี่ย GPA 3.5 สำเร็จการศึกษาในระดับ ม.5 ด้วยเกรดเฉลี่ย GPA 3.0

สำเร็จการศึกษาในระดับ ม.6 ด้วยเกรดเฉลี่ย GPA 3.5

คุณสมบัติทางภาษาอังกฤษ คะแนน IELTS 6.0 (ทุกแบนด์ไม่ต่ำกว่า 5.5) หรือเทียบเท่า คะแนน IELTS 5.5 (ทุกแบนด์ไม่ต่ำกว่า 5.0) หรือเทียบเท่า

คะแนน IELTS 6.0 (ทุกแบนด์ไม่ต่ำกว่า 6.0) หรือเทียบเท่า


Trinity College เปิดสอนหลักสูตรภาษาอังกฤษด้วย

หลักสูตรภาษาอังกฤษเชิงวิชาการของ Trinity College (TCAEP) ช่วยเหลือนักเรียนที่ต้องการพัฒนาระดับภาษาอังกฤษก่อนที่จะเริ่มเรียนหลักสูตร Comprehensive Plus หรือ Standard ของโปรแกรม Trinity College Foundation Studies (TCFS)

นอกจากการสอนภาษาอังกฤษแล้ว ยังให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับทักษะทางวิชาการที่จำเป็นต่อการประสบความสำเร็จในการศึกษาพื้นฐานและหลักสูตรระดับปริญญาตรี หลักสูตรนี้ครอบคลุมการอ่าน การเขียน การฟัง และการพูด และยังมีกิจกรรมภาษาอังกฤษที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม และการแก้ปัญหา

หากไม่มีคะแนนสอบ IETLS หรือคะแนนไม่ถึงเกณฑ์ที่คาดหวัง หลักสูตร TCAEP ช่วยให้ผู้สมัครมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดรับเข้าเรียนของหลักสูตร Foundation โดยที่ไม่ต้องสอบภาษาเลย และนักศึกษาหลักสูตรภาษาอังกฤษ (TCAEP) ก็สามารถใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ได้เช่นเดียวกับนักศึกษาคนอื่นๆ เลย

ระดับของ TCAEP แบ่งออกเป็น 2 ระดับ ดังนี้

  • Level 1 สำหรับผู้สมัครที่ได้คะแนน IELTS 5.0 (หรือเทียบเท่า) และเพื่อที่จะพิชิตคะแนน IELTS ให้ได้ 5.5
  • Level 2 สำหรับผู้สมัครที่ได้คะแนน IELTS 5.5 (หรือเทียบเท่า) และเพื่อที่จะพิชิตคะแนน IELTS ให้ได้ 6.0

แต่ละระดับประกอบด้วยโมดูลห้าสัปดาห์สองโมดูลและทุกคนจะต้องทำการทดสอบทุกๆ ห้าสัปดาห์ เมื่อสิ้นสุด TCAEP นักศึกษาจะต้องผ่านการทดสอบ Trinity College เพื่อเข้าสู่ TCFS

หลักสูตร TCAEP ค่าใช้จ่าย
20 สัปดาห์
Levels 1+2
$12,200
10 สัปดาห์
Level 1
$6,100
10 สัปดาห์
Level 2
$6,100

วางแผนเรียนต่อออสเตรเลีย เตรียมตัวอย่างไรดี? 

  • เราสามารถยื่นใบสมัครเรียนล่วงหน้าได้เลย เลือกช่วงเวลาเปิดเรียนตามที่ต้องการ และส่งเอกสารให้กับทางศูนย์ฯ เดอะเบสท์ เพื่อดำเนินการสมัครเรียนได้เลย
  • การเตรียมเอกสารยื่นวีซ่าใช้เวลาประมาณ 2 – 4 สัปดาห์แล้วแต่ความพร้อมของเอกสาร
  • เมื่อยื่นวีซ่าแล้วระยะเวลาในการพิจารณาวีซ่า ปกติประมาณ 30 วันทำการ นับถัดจากวันที่ยื่น เร็วสุดที่ 10-20 วันทำการขึ้นอยู่กับสถานทูต
  • เราสามารถยื่นวีซ่าก่อนวันเริ่มเรียนได้ 3 เดือนเมื่อวีซ่าผ่านแล้วสามารถเดินทางได้เลย
  • ศูนย์ฯ เดอะเบสท์ แนะนำให้ติดต่อล่วงหน้าประมาณ 3 – 4 เดือนก่อน วันที่อยากเริ่มเรียน จะดีที่สุด

หากต้องการคำแนะนำอย่างละเอียด เกี่ยวกับกิจกรรมเสริม ที่พัก และการเดินทาง กรุณาสอบถามข้อมูลกับศูนย์ฯ เดอะเบสท์ เพิ่มเติม เรายินดีให้คำปรึกษาฟรี ไม่มีค่าบริการ สอบถามข้อมูลการบริการเพิ่มเติมติดต่อ
โทร
: 090-327 3558088-269 5099

Email: contact@thebest-edu.com
Line: @thebestedu หรือคลิกเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะเพิ่มเพื่อน


สิ่งอำนวยความสะดวกและที่พักของ Trinity College

  • สิ่งอำนวยความสะดวกด้านกีฬาTrinity College มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายโดยเฉพาะด้านกีฬาและสุขภาพ โดยภายในวิทยาเขตมีทั้งสนามเทนนิส สนามสควอช สนามฟุตบอล ลู่กรีฬา ห้องบิลเลียด สระว่ายน้ำในร่วม โรงยิม และคลาสออกกำลังกายมากมาย นอกจากนี้ สำหรับนักศึกษาที่มีความสามารถทางด้านกีฬา ยังสามารถเข้าร่วมกิจกรรมแข่งขันทัวร์นาเมนต์กับวิทยาลัยอื่นๆ ได้อีกด้วย ซึ่งสร้างความสนุกสนาน และสร้างชุมชนที่แข็งแกร่งอีกด้วย
  • ร้านอาหารที่คุณค่าทางโภชนาการสูง – อาหารที่ Trinity College นอกจากจะมีคุณค่าทางโภชนาการสูงแล้ว ยังเป็นอาหารที่รสชาติดีมากๆ ด้วย ทางสถาบันเสิร์ฟอาหาร 3 มื้อต่อวัน 7 วันต่อสัปดาห์ พร้อมของว่าง ดังนั้น จึงสามารถตอบสนองทุกความต้องการด้านอาหาร รวมทั้งอาหารมังสวิรัติ อาหารฮาลาล อาหารปราศจากกลูเตน หากหิวระหว่างวัน สามารถหยิบผลไม้ได้ฟรีตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ หากไม่สะดวกรับประทานอาหารตามเวลาที่กำหนด สามารถแจ้งเหตุผลให้ทราบ และทางสถาบันจะจัดเตรียมอาหารแบบสั่งกลับไปรับประทานตามอัธยาศัย
  • ห้องซ้อมดนตรี ห้องซ้อมร้องเพลง – ดนตรี เป็นส่วนสำคัญสถาบัน เป็นสิ่งที่สถาบันมีความภาคภูมิใจอย่างมาก และมีชื่อเสียงระดับโลก มีการจัดการแสดงเป็นประสำเพื่อเป็นเวทีสำหรับนักเรียนที่มีพรสวรรค์ทางดนตรี
  • หอพักนักศึกษาที่ทันสมัย สะดวกสบาย ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน – มีเตียงขนาดคิงไซส์ พร้อมฟูกและผ้ารองกันเปื้อนที่นอน เฟอร์นิเจอร์ครบครัน โต๊ะ เก้าอี้ และโคมไฟ ชั้นวางหนังสือ ตู้เสื้อผ้า เครื่องปรับอากาศและฮีตเตอร์
  • ห้องสมุด Leeper ตั้งอยู่ในวิทยาเขตหลักของ Trinity ที่ Parkville ที่นี่สามารถศึกษา เรียกดูแหล่งข้อมูล และเรียนรู้ได้อย่างสะดวกสบาย บรรณารักษ์ได้รับการฝึกอบรมเพื่อช่วยค้นหาแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุดสำหรับการศึกษา สามารถสอนวิธีอ้างอิงงาน และสามารถแนะนำหนังสือ รวมถึง eBook และหนังสือเสียง


เรียนต่อออสเตรเลีย สามารถทำงานพาร์ทไทม์ได้ด้วย

อย่างที่ทราบกันว่า วีซ่านักเรียนประเทศออสเตรเลีย ทางสถานทูต อนุญาต ให้ทำงานพาร์ทไทม์ได้ แต่อย่างไรก็ตาม ควรต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า วีซ่าของคุณอนุญาต ให้ทำงานพาร์ททามระหว่างเรียนได้ นอกจากนี้ การทำงานพาร์ทนอกจากจะช่วยเหลือค่าใช้จ่ายบางส่วนในช่วงที่กำลังศึกษาอยู่ที่ออสเตรเลีย ยังช่วยเติมเต็มประสบการณ์ชีวิตในต่างแดนอีกด้วย

สถานทูตออสเตรเลียอนุญาตให้ผู้ที่ถือวีซ่านักเรียน ทำงานพาร์ทไทม์ ได้ 40 ชั่วโมงต่อสองสัปดาห์ (40 Hours / Fortnights) และสามารถทำงานเต็มเวลา ในช่วงปิดภาคการศึกษา คลิก เพื่อศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานพาร์ทไทม์ ประเทศออสเตเรลีย


ทำความรู้จักเมืองเมลเบิร์น Melbourne, Australia

เมลเบิร์น Melbourne (จำนวนประชากร: 5.07 ล้านคน) เป็นเมืองที่ได้รับเลือกให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก 7 ปีซ้อน (จากการจัดอันดับของ The Economist Intelligence Unit ตั้งแต่ปี 2011 – 2017 และในปี 2018 – 2019 อยู่ในอันดับ 2 รองจากกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย) เป็นเมืองหลวงของรัฐวิกตอเรีย และเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศออสเตรเลีย รองจากซิดนีย์ ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ

เมลเบิร์นเป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม เรียกได้ว่า เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมของออสเตรเลีย ในอดีต เมืองเมลเบิร์นเคยเป็นเมืองหลวงของออสเตรเลีย ประชากรเป็นมิตร ให้การต้อนรับชาวต่างชาติอย่างดี นอกจากนี้ เมืองเมลเบิร์น ยังเป็นแหล่งรวมแฟชั่นชั้นนำจากทั่วโลกอีกด้วย

ทำไมควรเลือกเรียนต่อเมลเบิร์น

  • เมลเบิร์นเป็นหนึ่งในเมืองที่มีระบบการดูแลสุขภาพที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก มีทั้งระบบของรัฐและเอกชนที่มีคุณภาพสูง ได้รับการสนับสนุนโดยสถาบันวิจัยและพัฒนาระดับโลก
  • เมลเบิร์นมีสถาบันการศึกษาคุณภาพสูงให้เลือกหลากหลาย ที่เชื่อมโยงกับอุตสาหกรรม ตัวอย่างสำคัญคือมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น The University of Melbourne ซึ่งได้รับการยอมรับทั่วโลกว่าเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำอันดับหนึ่ง ของออสเตรเลียและเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยชั้นนำแนวหน้าของโลก
  • เมลเบิร์นมีระบบขนส่งสาธารณะที่ล้ำสมัยที่สุดในออสเตรเลีย ทั้งรถไฟ รงราง ที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ และใช้งานง่าย เอื้อต่อคุณภาพชีวิตของผู้คน
  • ความปลอดภัยสูง อัตราการเกิดอาชญากรรมต่ำมาก ทุกพื้นที่ในเมลเบิร์นและรัฐวิคตอเรีย มีความปลอดภัยสูงติดอันดับโลก
  • มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น University of Melbourne เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของออสเตรเลีย อยู่ในอันดับ 3 ในเอเชียแปซิฟิก และอยู่อันดับที่ 38 ของโลก (จากการจัดอันดับของ QS Global World Ranking 2020)
  • เมลเบิร์น เป็นหนึ่งในศูนย์การศึกษาและการวิจัยชั้นนำระดับโลก ให้การศึกษา การวิจัย และการฝึกอบรมที่หลากหลาย รวมถึงสร้างพื้นฐานการวิจัยที่ล้ำสมัย ด้วยระบบเทคโนโลยี และนวัตกรรมชั้นสูง จึงทำให้ผลงานวิจัยอยู่ในอันดับที่สูงกว่ามาตรฐานโลกในหลายๆ ด้าน
  • เมลเบิร์นเป็นศูนย์กลางการวิจัยและพัฒนาระดับโลก สำหรับการทดลองทางเทคโนโลยีชีวภาพ และการวิจัยทางการแพทย์ เป็นหนึ่งในกลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพชั้นนำของโลก ที่ผลิตงานวิจัยชั้นนำระดับโลก
  • เมลเบิร์น รวมถึงเมืองในรัฐวิคตอเรีย ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในเมืองที่มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมากที่สุดในออสเตรเลีย มีกลุ่มวิจัยและพัฒนาด้าน ICT ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของซีกโลกใต้ ผลิตงานวิจัยชั้นนำระดับโลก และเป็นเมืองหลวงของเทคโนโลยี มีบริษัท ICT กว่า 8,000 บริษัท ตั้งอยู่ในเมืองเมลเบิร์นและรัฐวิคตอเรีย
  • เมลเบิร์น ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งวัยรุ่น อินดี้ มีวัฒนธรรมการดื่มชา กาแฟ มีร้านอาหารที่เลิศรส และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย มีดนตรีตลาด งานเทศกาล หรือนิทรรศการให้เข้าร่วมเสมอ และหลายกิจกรรมฟรี ด้วยความบันเทิงที่มีให้ทั้งหมดจึงไม่แปลกใจที่เมลเบิร์นจะได้รับการโหวตให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก


ประมาณค่าใช้จ่าย เฉลี่ยต่อเดือน สำหรับการอยู่อาศัยในเมืองเมลเบิร์น

รายการ

ประมาณการค่าใช้จ่ายต่อสัปดาห์ ประมาณการค่าใช้จ่ายต่อเดือน
ค่าที่พัก 243 AUD 972 AUD
ค่าโดยสารสาธารณะ 38 AUD 184 AUD
ค่าอาหาร 182 AUD 728 AUD
ค่าอำนวยความสะดวกอื่นๆ 18 AUD 70 AUD

รวมค่าใช้จ่าย

481 AUD
(ประมาณ 11,060 บาท)

1,954 AUD
(ประมาณ 44,940 บาท)

เมลเบิร์น จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับ 2 ของออสเตรเลีย

เมลเบิร์น ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งวัยรุ่น อินดี้ และสายฮิปปี้ มีวัฒนธรรมการดื่มชา กาแฟ มีร้านอาหารที่เลิศรส และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย ถ้าคุณชอบดนตรีตลาดงานเทศกาลหรือนิทรรศการมีกิจกรรมให้คุณไปเสมอ หลายแห่งมีต้นทุนต่ำหรือฟรี ด้วยความบันเทิงที่มีให้ทั้งหมดจึงไม่แปลกใจที่เมลเบิร์นจะได้รับการโหวตให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก

สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม

เมลเบิร์นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ทั้งจุดหมายปลายทางยิดนิยม สถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม พิพิธภัณฑ์ล้ำสสมัย สวนสาธารณะ สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ แหล่งมรดกทางวัฒนธรรม และอื่นๆ อีกมากมาย เดอะเบสท์ขอยกตัวอย่างดังนี้

  • The Ian Potter Centre: NGV Australia –  หหอศิลป์แห่งชาติของรัฐวิกตอเรียในออสเตรเลีย ตั้งอยู่ที่จัตุรัส Federation ในเมลเบิร์นรัฐวิกตอเรีย
  • City laneways – ย่านธุรกิจของเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย เป็นถนนเส้นเก่าแก่ตั้งแต่สมัยวิคตอเรียและเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมยอดนิยม รวมถึงเป็นที่ตั้งของร้านกาแฟชั้นเยี่ยมของเมลเบิร์นด้วย
  • Royal Botanic Gardens Victoria – เป็นสวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่ของเมลเบิร์น เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ และออกกำลังกาย
  • Werribee Open Range Zoo – สวนสัตว์เปิดแนวแอฟริกันใน Werribee ห่างจากเมลเบิร์นวิกตอเรียประมาณ 32 กิโลเมตรทางตะวันตกเฉียงใต้ เป็นส่วนหนึ่งของ Zoological Parks and Gardens Board หรือ ‘Zoos Victoria’ ซึ่งรวมถึงสวนสัตว์เมลเบิร์นและ Healesville
  • Federation Square – จุดนัดพบของชาวเมือง อยู่ตรงข้ามกับสถานีรถไฟ Flinders street และมหาวิหารเซนต์พอล สามารถนั่งพักเพื่อชมกิจกรรมต่างๆ หรือเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ในอาคารโดยรอบ
  • Koorie Heritage Trust –  เป็นองค์กรทางวัฒนธรรมตั้งอยู่ในเมลเบิร์น เพื่อความมุ่งมั่นในการปกป้องรักษาและส่งเสริมวัฒนธรรมที่มีชีวิตของชนพื้นเมืองดั้งเดิมของออสเตรเลียตะวันออกเฉียงใต้ มีคอลเล็กชันภาพเขียน สิ่งประดิษฐ์ หนังสือ ภาพถ่าย และ วิดีโอ กว่า 60,000 ชนิด
  • Australian Sports Museum – พิพิธภัณฑ์กีฬาออสเตรเลีย มีการจัดการแข่งขันกีฬา เช่น คริกเก็ต ฟุตบอล เทนนิส รักบี้ บาสเก็ตบอล มวย และเน็ตบอล รวมถึงเป็นสถานที่จัดโอลิมปิกด้วย
  • Scienceworks – พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ในเมลเบิร์นประเทศออสเตรเลีย ตั้งอยู่ในย่านชานเมือง Spotswood
  • Luna Park Melbourne – สวนสนุกเก่าแก่ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ตั้งอยู่ริมฝั่งอ่าวพอร์ตฟิลิปในเซนต์คิลดาเมลเบิร์นรัฐวิกตอเรีย เปิดทำการมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม 1912
  • Queen Victoria Market – ตลาดที่มีพื้นที่ประมาณ 7 เฮกตาร์ เป็นตลาดกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในซีกโลกใต้
  • Immigration Museum – พิพิธภัณฑ์ที่แสดงประวัติการก่อตั้งประเทศออสเตรเลีย ตั้งอยู่บนถนน Flinders ในเมลเบิร์น รัฐวิกตอเรีย ในอาคาร Old Customs House ที่สร้างขึ้นในปี 1835 โดย John Pascoe Fawkner หนึ่งในผู้ก่อตั้งของเมลเบิร์น
  • Melbourne Museum – พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติและวัฒนธรรมที่ตั้งอยู่ใน Carlton Gardens ในเมลเบิร์นประเทศออสเตรเลีย ตั้งอยู่ติดกับ Royal Exhibition Building เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในซีกโลกใต้
  • Eureka Skydeck 88 – ตึกระฟ้าที่มีความสูง 297.3 เมตร ตั้งอยู่ในเขต Southbank ของเมืองเมลเบิร์น รัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย
  • Brighton Bathing Boxes – กระท่อมขนาดเล็กบนชายหาด มีสีสันสดใสทอดยาวไปบนชายหาด Brighton
  • St Kilda Pier – ชายหาดที่ตั้งอยู่ใน St Kilda, Port Phillip, Victoria, Australia ห่างจากใจกลางเมืองเมลเบิร์นไปทางใต้ 6 กิโลเมตร เป็นหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมลเบิร์น
  • Melbourne Zoo – สวนสัตว์ในเมลเบิร์นประเทศออสเตรเลีย ตั้งอยู่ภายใน Royal Park อยู่ห่างจากใจกลางเมลเบิร์นประมาณ 4 กิโลเมตร มีสัตว์มากกว่า 320 ชนิด จากออสเตรเลียและทั่วโลก
  • Old Melbourne Gaol – คุกสมัยอดีตที้ใช้ในปี  1842 และปี 1929 บนถนน Russell Street ในเมลเบิร์น รัฐวิกตอเรีย ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์
  • Shrine of Remembrance – ศาลระลึกถึงเป็นอนุสรณ์สถานสงครามในเมลเบิร์นรัฐวิกตอเรียประเทศออสเตรเลียตั้งอยู่ที่ Kings Domain บนถนนเซนต์กิลดา มันถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารที่ทำหน้าที่ในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ปัจจุบันเป็นอนุสรณ์แก่ชาวออสเตรเลียทุกคนที่ได้ทำหน้าที่ในสงครามใดๆ และเป็นสถานที่จัดงาน ANZAC Day ด้วย
  • State Library Victoria – ห้องสมุดกลางของรัฐวิกตอเรียออสเตรเลียตั้งอยู่ในเมลเบิร์น ก่อตั้งขึ้นในปี 1854 เป็นห้องสมุดสาธารณะเมลเบิร์นทำให้เป็นห้องสมุดสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดของออสเตรเลีย

ติดต่อเดอะเบสท์เพื่อสอบถามข้อมูลการเรียนต่อต่างประเทศเพิ่มเติม

เดอะเบสท์ เป็นศูนย์บริการให้คำปรึกษาเรียนต่อต่างประเทศครบวงจร เราเป็นตัวแทนที่ให้บริการแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และ ประเทศอื่นๆ อีก 25 ประเทศทั่วโลก เรายินดีให้ความช่วยเหลือตั้งแต่เริ่มสมัครเรียน จนสำเร็จการศึกษา รวมถึงดูแลนักเรียนระหว่างเรียนจนนักเรียนเรียนจบด้วยทีมผู้เชียวชาญในด้านการเรียนต่อต่างประเทศ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ขั้นตอนเหล่านี้เราดำเนินการให้ฟรี และเราพร้อมที่จะทำตามคุณภาพ และมาตรฐานดังสโลแกนที่ว่า “We are Quality”

บริการของเรามีอะไรบ้าง ?

  • ฟรี!! บริการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเรียนต่อต่างประเทศทุกระดับชั้นทั่วโลก ตั้งแต่ โรงเรียนประถม โรงเรียนมัธยม สถาบันวิชาชีพ และสถาบันในระดับอุดมศึกษา รวมถึงหลักสูตรภาษาต่างประเทศ และเลือกสถาบันที่ดีที่สุดให้กับผู้เรียน
  • เราให้ความช่วยเหลือตั้งแต่การประสานงานโรงเรียน เลือกโรงเรียนให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียน เตรียมเอกสารสมัครเรียน และดำเนินเรื่องสมัครเรียนให้ฟรี
  • บริการเตรียมเอกสารยื่นวีซ่าครบวงจร และบริการยื่นวีซ่ากว่า 25 ประเทศทั่วโลก พร้อมวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าอย่างตรงจุด และแนะนำวิธีการเตรียมตัวในการสัมภาษณ์วีซ่า
  • บริการแปลเอกสาร ภาษาไทย – ภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาอังกฤษ – ภาษาไทย รวมถึงภาษาที่ 3 เริ่มต้นเพียงแผ่นละ 200 บาท
  • เดอะเบสท์ เป็นตัวแทนรับสมัครสอบ IELTS IDP อย่างเป็นทางการ พร้อมให้คำแนะนำ และนัดวันสอบให้โดยน้องๆ ไม่ต้องเสียเวลาสมัครเอง สมัครสอบได้ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
  • บริการซื้อประกันภัยการเดินทางและประกันสุขภาพนักเรียนต่างชาติ จากบริษัทประกันชั้นนำ MSIG, NIB, Allianz, Orbit และอื่นๆ
  • บริการจองตั๋วเครื่องบิน ทุกสายการบิน และประสานงานกับสถาบันเกี่ยวกับรถรับ – ส่ง สนามบิน
  • บริการจัดหาที่พักทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นโฮมสเตย์ อพาร์ทเม้น หรือหอพักนักศึกษา จัดหาให้ตามความต้องการส่วนบุคคล

 

“เรายินดีที่จะดูแลนักเรียนทุกคน ตั้งแต่เริ่มต้นจนนักเรียนสำเร็จการศึกษา และทำให้การเรียนต่อของคุณเป็นเรื่องง่าย ” สอบถามข้อมูลการบริการเพิ่มเติมติดต่อ
โทร : 090-327 3558088-269 5099
Email :contact@thebest-edu.com
Line : @thebestedu หรือคลิกเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ

เพิ่มเพื่อน

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.