สารบัญบทความ

Last updated มิถุนายน 8, 2022 ago by Thebestedu

การเรียนต่อปริญญาตรีที่ประเทศเยอรมนี หลากรูปแบบที่หลากหลาย มีทั้งหลักสูตรเชิงวิชาการซึ่งเหมาะสำหรับการเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น หรือหลักสูตรที่เน้นการปฏิบัติงาน เช่น หลักสูตร Dual Work & Study Programme ของทางมหาวิทยาลัย iba เป็นหลักสูตรคู่ขนาน ที่สามารถเรียนต่อในระดับปริญญาตรี ควบคู่กับการฝึกงานได้ด้วย โดยข้อดีคือ บริษัทที่เป็นพาร์ทเนอร์กับทางมหาวิทยาลัย จะเป็นผู้สนับสนุนค่าเรียนให้กับนักศึกษา นอกจากนี้ ยังได้รับค่าจ้างจากการฝึกงานอีกด้วย ซึ่งมีความน่าสนใจ และกำลังเริ่มเป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับนักศึกษาต่างชาติ โดยในบทความนี้ ศูนย์ฯ เดอะเบสท์จะขอแนะนำหลักสูตร Dual Work & Study Programme กับมหาวิทยาลัย iba สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมในบทความนี้ได้เลย

เรียนพร้อมฝึกงาน Dual Work & Study กับมหาวิทยาลัย IBA


iba University of Cooperative Education เป็นมหาวิทยาลัยสหกิจศึกษาที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมนี เปิดสอนหลักสูตรปริญญาตรีเพื่อสหกิจศึกษา Dual Work-Study Undergraduate Programmes หรือหลักสูตรคู่ขนาน เรียนและทำงานพร้อมๆ กัน โดยหลักสูตรนี้นักศึกษาทุกคนจะได้รับการสนับสนุนค่าเทอมจากบริษัทเอกชน และได้รับโอกาสในการทำงานในบริษัทเอกชนที่มีการแข่งขันสูงในเยอรมนี ซึ่งเป็นหลักสูตรที่เป็นที่นิยมเพิ่มมากขึ้นสำหรับนักศึกษาต่างชาติอย่างมาก เนื่องจากนักศึกษาจะได้รับประสบการร์การทำงานจริง ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมสำหรับการหางานทำในประเทศเยอรมนี ที่มีการแข่งขันสูง นอกจากนี้ iba ยังเปิดสอนหลักสูตร Foundational เพื่อเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัย F+U แมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง และประสบการณ์มากกว่า 40 ปี 

ระบบ Dual Work & Study อยู่ภายใต้นโยบายอาชีวศึกษาของรัฐบาลและกฎหมายเยอรมัน อยู่ภายใต้การดูแลของ GOVET (สำนักงานฝึกอบรมวิชาชีพและการศึกษาของเยอรมัน) มาตรฐานระดับสูงได้รับการสนับสนุนจากหลายองค์กรที่ทำงานร่วมกันรวมทั้งรัฐบาล วิทยาลัยของรัฐ มหาวิทยาลัย รัฐ ( Länder ) สหภาพแรงงาน หอการค้า และตัวบริษัทเอง ได้รับทุนสนับสนุนจากภาครัฐมารวมตัวกันเพื่อจัดการศึกษาระดับอาชีวศึกษาที่ยอดเยี่ยมและเป็นประโยชน์ร่วมกันสำหรับผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ใช้เวลาประมาณสองถึงสามปีหลังจากนั้น นักศึกษามักจะได้รับวุฒิการศึกษาที่เป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรม ซึ่งมอบให้โดยหอการค้าหรือสมาคม

หลักสูตรปริญญาตรี Dual Work & Study Programme คืออะไร?

หลักสูตร Dual Work & Study เป็นหลักสูตรที่เรียนในระดับปริญญาตรีกับมหาวิทยาลัย iba และทำงานกับบริษัทพาร์ทเนอร์ ในเยอรมนีไปพร้อมๆ กัน ซึ่งข้อดีก็คือ ทางบริษัทจะเป็นผู้จ่ายค่าเทอมให้กับผู้เรียน นอกจากนี้ ยังได้รับค่าจ้างด้วยประมาณ 700 – 1,500 ยูโรต่อเดือน ซึ่งมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก โดยนักศึกษาจะได้รับการจ้างงานกับบริษัทที่เป็นพันธมิตรกว่า 2,000 บริษัทตลอดระยะเวลาการศึกษา และงานที่ทำจะเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตร โดยวัตถุประสงค์ของหลักสูตรคือต้องการผสมผสานระหว่างความรู้ทางทฤษฎี ควบคู่ไปกันการปฏิบัติ โดย 86% ของนายจ้างยอมรับผู้ที่สำเร็จการศึกษาจาก iba และมีตำแหน่งงานพร้อมให้ทำหลังเรียนจบทันที

สำหรับนักศึกษาต่างชาติทาง iba ให้การสนับสนุนอย่างเข้มงวด ตั้งแต่การให้คำปรึกษา การรับสมัคร การหาบริษัทพันธมิตร เป็นที่ปรึกษาด้านการศึกษา ตลอดจนประสานงานระหว่างที่กำลังศึกษาและฝึกงาน เมื่อสำเร็จการศึกษา จะเป็นผู้ที่มีความเพียบพร้อมในด้านวิชาการและการปฏิบัติงาน 

Dual Work & Study Programme สามารถเลือกได้ 2 Model ดังนี้

  • The block model โปรแกรมนี้ จะเน้นการบรรยายในมหาวิทยาลัยก่อนตั้งแต่เดือนเมษายน ถึงกรกฎาคม หลังจากนั้น ช่วงเดือนตุลาคม ถึงมีนาคมจะเข้าสู่ระบบการฝึกงานแบบเต็มรูปแบบ
  • The week model โปรแกรมนี้ จะได้เรียน และฝึกงานสลับกันไปในแต่ละสัปดาห์ เช่น
    • เรียน 20 ชั่วโมง/สัปดาห์ กับทาง iba University of Cooperative Education
    • ฝึกงาน 20 ชั่วโมง/สัปดาห์ ในบริษัทพันธมิตร

ทำไมนักศึกษาหลายคนเลือกเรียนต่อหลักสูตร Dual Work & Study?

  • มาตรฐานระดับสูง ได้รับการสนับสนุนจากหลายองค์กรที่ทำงานร่วมกัน รวมทั้งรัฐบาล วิทยาลัยของรัฐ มหาวิทยาลัย รัฐ (Länder) สหภาพแรงงาน หอการค้า และตัวบริษัทเอง
  • ได้รับมาตรฐานทั่วทั้งเยอรมนี เพื่อให้เยาวชนที่สำเร็จการศึกษาในรัฐหนึ่งสามารถมั่นใจได้ว่าวุฒิการศึกษาจะได้รับการยอมรับในอีกรัฐหนึ่ง
  • มีมากกว่า 330 อาชีพในภาษาเยอรมันที่ต้องมีการฝึกอบรมอย่างเป็นทางการ และด้วยการฝึกอบรมที่ได้มาตรฐานและคุณสมบัติ ระบบนี้ช่วยให้นักเรียนจำนวนมากได้รับการฝึกอบรมที่ถูกต้องก่อนที่จะเริ่มดำเนินการในอาชีพที่เลือก
  • มีมากกว่า 400,000 บริษัท เยอรมันที่มีตำแหน่งการฝึกอบรมวิชาชีพ ในบรรดาบริษัทเหล่านั้น ประมาณสองในสามมีแนวโน้มที่จะเสนอสัญญาจ้างงานให้กับนักศึกษาเมื่อสิ้นสุดการฝึกงาน นักเรียนบางคนเลือกที่จะหางานทำที่อื่น และมีเพียงไม่กี่คนที่หางานไม่ได้
  • ปัจจุบันมีคนหนุ่มสาวมากกว่า 100,000 คน กำลังศึกษาอยู่ในโปรแกรมการศึกษาแบบ Dual Work & Study (BIBB: AusbildungPlus. Duales Studium ใน Zahlen 2019)
  • นอกจากได้วุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีแล้ว ยังได้ใบประกอบวิชาชีพ ในสาขาวิชานั้นๆ ที่ได้รับการฝึกงานอีกด้วย นั่นหมายความว่า ผู้เรียนประสบความสำเร็จได้เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า จากการศึกษาภาคปกติ
  • ได้รู้จักบริษัทอย่างครอบคลุมและจะถูกรวมเข้ากับโครงสร้างการปฏิบัติงาน วิธีการทำงาน และขั้นตอนของโครงการอย่างเหมาะสมที่สุด
  • สามารถใช้ความรู้เชิงทฤษฎีจากห้องเรียนได้โดยตรงในทางปฏิบัติ ดังนั้นจึงได้ประโยชน์จากผลการเรียนรู้ที่สูงขึ้น
  • สามารถเลือกบริษัทคู่ค้ามากกว่า 100 แห่ง ตั้งแต่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไปจนถึงบริษัทระดับโลก
  • ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา การศึกษาแบบ Dual Work & Study ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นในจำนวนบริษัทที่เข้าร่วมที่เพิ่มขึ้น

หลักสูตร Dual Work & Study เหมาะกับใคร?

เหมาะกับ

  • ผู้ที่วางแผนเข้าสู่ตลาดแรงงานเยอรมันหลังเรียนจบ หลักสูตร Dual Work & Study เน้นการปฏิบัติจริง เมื่อสำเร็จการศึกษา ผู้เรียนจะมีความเพียบพร้อมด้านทักษะทางวิชาการและการปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานในประเทศเยอรมนี
  • ผู้ที่วางแผนชัดเจนเกี่ยวกับการทำงานหลังเรียนจบ มีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าต้องการทำงานในตำแหน่งอะไร เช่น ต้องการเป็นวิศวะกรในบริษัทยานยนต์
  • ผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การทำงานอย่างแท้จริง ที่ไม่สามารถหาได้ในห้องเรียน หลักสูตรปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยทั่วไป จะเน้นหลักสูตรทางวิชาการ แต่สำหรับหลักสูตรปริญญาตรีแบบ Dual Work & Study จะเน้นทักษะการปฏิบัติงานเป็นหลัก เพราะฉะนั้น ผู้เรียนจะได้ประสบการณ์การทำงานที่มากกว่า
  • ผู้ที่ต้องการได้รับรายได้ระหว่างเรียนประมาณ 700 – 1,500 ยูโรต่อเดือน 

ไม่เหมาะกับ

  • ผู้ที่วางแผนเรียนต่อสาขาที่เน้นวิชาการโดยตรง เช่น วิทยาศาตร์ คณิตศาสตร์ วรรณกรรม กฏหมาย ประวัติศาสตร์ เนื่องจากสาขาที่เน้นวิชาการส่วนใหญ่แล้วมักจะเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น เช่น ปริญญาโท หรือนักวิชาการ ดังนั้น อาจไม่เหมาะกับหลักสูตร Dual Work & Study เพราะเนื่องจากเนื้อหาหลักสูตรจะเน้นวิชาชีพเพื่อการทำงานหลังเรียนจบมากกว่า
  • ผู้ที่คาดหวังว่าจะได้รับค่าตอบแทนครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด ค่าตอบแทนที่ได้รับจากการฝึกงาน อาจไม่สามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้ และมีบางช่วงเวลาที่ต้องมีการจ่ายค่าเรียนตามปกติ ดังนั้น ผู้สมัครควรมีเงินสำรองเพียงพอในการใช้ชีวิตที่เยอรมนีด้วย
  • ผู้ที่ไม่สามารถเรียนด้วยทำงานด้วยไปพร้อมๆ กันได้ ซึ่งหลายๆ คนอาจมองว่า การเรียนด้วยทำงานด้วย หรือเรียน สลับกับทำงาน อาจเป็นภาระอย่างหนึ่ง ที่ทำให้ผลการเรียนลดลงได้

ทำไมต้องเรียนต่อ iba?

  • iba เป็นมหาวิทยาลัยสหกิจศึกษา ที่ให้บริการเฉพาะหลักสูตรสหกิจศึกษา iba เป็นมหาวิทยาลัยที่เชี่ยวชาญด้านหลักสูตร Work & Study programmes
  • หลักสูตรปริญญาตรี Bachelor’s Degree ได้รับทุนเต็มจำนวนจากบริษัทชั้นนำในเยอรมนี ไม่ต้องเสียค่าเล่าเรียนให้กับ iba โดยบริษัทที่ฝึกงานจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้รับรายได้ขณะที่กำลังเรียนอยู่ด้วย
  • มีวิทยาเขตให้เลือกเรียนกว่า 17 แห่ง ซึ่งแต่ละแห่ง ตั้งอยู่ในทำเลใจกลางเมืองใหญ่ทั่วประเทศเยอรมนี
  • รับประสบการณ์การทำงานแบบมืออาชีพระหว่างการศึกษา และสำเร็จการศึกษาด้วยทักษะที่เพียบพร้อมและเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน
  • 85% ของผู้สำเร็จการศึกษา ได้งานประจำโดยบริษัทชั้นนำในเยอรมนี
  • โปรแกรมการศึกษาที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานการศึกษาชั้นนำเยอรมนี รับประกันคุณภาพระดับนานาชาติ

บริษัทที่เป็นพาร์ทเนอร์ร่วมกันกับ iba

นักศึกษาที่เรียนหลักสูตร Dual Study – Work Programme จะได้รับการจ้างงานจากบริษัทพันธมิตรตลอดระยะเวลาการศึกษา โดยจะได้ทำงานจริงในบริษัทเพื่อฝึกประสบการณ์การทำงานซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตร โดย iba มีบริษัทที่เป็นพันธมิตรมากกว่า 2,000 บริษัท ซึ่งที่ปรึกษาด้านการสึกษาจะช่วยค้นหาบริษัทที่เหมาะสมให้กับนักศึกษารายบุคคล รวมถึงให้คำปรึกาาในระหว่างขั้นตอนการสมัครด้วย


หลักสูตรของ iba ได้รับการรับรองจากหน่วยงานการศึกษามากมาย

หลักสูตรปริญญาของ iba ทั้งหมดได้รับการรับรองและได้รับการยอมรับจากรัฐบาล รางวัลของมหาวิทยาลัยมีสถานะเหมือนกับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยในเยอรมนีและมหาวิทยาลัยด้านวิทยาศาสตร์ประยุกต์ เหมาะสำหรับผู้ที่วางแผนทำงานหลังเรียนจบปริญญาตรี หรือวางแผนเรียนต่อปริญญาโทในอนาคต


สามารถเลือกเรียนได้ถึง 17 วิทยาเขตทั่วเยอรมนี

Berlin
VDO แนะนำ (คลิก)

Baden-Baden
[วิทยาเขตใหม่]

Bochum
[วิทยาเขตใหม่]

Darmstadt
VDO แนะนำ (คลิก)

Erfurt
VDO แนะนำ (คลิก)

Freiburg
[วิทยาเขตใหม่]

Hamburg
VDO แนะนำ (คลิก)

Heidelberg
VDO แนะนำ (คลิก)

Kassel
VDO แนะนำ (คลิก)

Köln
VDO แนะนำ (คลิก)

Leipzig
VDO แนะนำ (คลิก)

München
VDO แนะนำ (คลิก)

Münster
[วิทยาเขตใหม่]

Nürnberg
[วิทยาเขตใหม่]

Saarbrücke
[วิทยาเขตใหม่]

Schwerin
[วิทยาเขตใหม่]

Stuttgart
[วิทยาเขตใหม่]

 


หลักสูตรปริญญาตรีแบบ Dual Work & Study เปิดสอนหลักสูตรอะไรบ้าง?

หลักสูตรที่เปิดสอนสำหรับโครงการนี้ จะเน้นหลักสูตรเกี่ยวกับทางด้านการบริหารธุรกิจ Business Administration และหลักสูตรทางดานวิศวกรรม โดยทุกหลักสูตรจัดการเรียนการสอนเป็นภาษาเยอรมัน ดังนั้น ผู้เรียนจะต้องมีคุณสมบัติทางด้านภาษาเยอรมันระดับ C1 หมายความว่าจะต้องมีความเชี่ยวชาญด้านการใช้ภาษาเยอรมันอย่างคล่องแคล่ว

หลักสูตรบริหารธุรกิจ Business Administration

หลักสูตรการจัดการ สาขาบริหารธุรกิจแบบ Dual-Study Work เป็นหลักสูตรบูรณาการที่รวมทั้งแนวคิดและทฤษฎีนำมาใช้ในการทำงาน ผู้เรียนจะได้รับความรู้เชิงลึก และความเข้าใจที่สำคัญเกี่ยวกับหลักการจัดการธุรกิจสมัยใหม่ ควบคู่ไปกับความทักษะการปฏิบัติงานจริง เมื่อสำเร็จการศึกษา จะได้รับโอกาสในการทำงานในสายงานด้านบริหารธุรกิจและการจัดการในบริษัทที่เป็นพาร์ทเนอร์

สาขาวิชาเอก สามารถเลือกได้ 1 ความเชี่ยวชาญ

  • Hotel and Tourism Management
  • Food, Beverage and Culinary Management
  • Event, Trade Fair and Congress Management
  • Marketing & Digital Media
  • Sports Management
  • Supply Chain Management
  • Financial Services
  • Human Resources
  • Taxation and Auditing
  • Health Care Management
  • Real Estate Management
  • Digital Solutions Management
  • Sales Management
โครงสร้างหลักสูตร

Bachelor of Arts (B.A.) + IHK (German Chamber of Industry and Commerce)

หลักสูตร
Degree

Business Administration Business Administration for international students

ระยะเวลาหลักสูตร
Length of programme

6 เทอม 7 เทอม

จำนวนเครดิต (ECTS)
Credit Points (ECTS)

180 หน่วยกิต 210 หน่วยกิต

ทักษะภาษาเยอรมันที่ต้องการ
German language requirements

C1 level of the CEFR C1 level of the CEFR

วันเริ่มเรียน
Starting date

1 ตุลาคม 1 เมษายน

วิทยาเขตที่เปิดสอน
Study centres

BerlinBochumCologneDarmstadtErfurt, HamburgHeidelbergKasselLeipzigMunichNuremberg

ภาคเรียนที่ 1 + 2 เรียนที่วิทยาเขต Heidelburg ตั้งแต่ภาคเรียนที่ 3 เป็นต้นไป สามารถเรียนที่วิทยาเขตของ iba ทุกแห่ง

หลักสูตรสังคมศึกษา Social Sector

ในโปรแกรม Social Pedagogy, Management & Business Coaching นักศึกษาจะได้รับการฝึกฝนเพิ่มเติมเพื่อทำงานเป็น Business Coaches ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษา การให้คำปรึกษา และการจัดการการเปลี่ยนแปลง นักศึกษาทำงานในบริษัทพันธมิตร เช่น บริการสังคมและสถาบันในด้านสังคมต่างๆ (การดูแลเด็ก บริการสวัสดิการเยาวชน การให้คำปรึกษาทางสังคม การดูแลด้านจิตใจ และอื่นๆ อีกมากมาย)

  • Additional qualification: professional qualification as state-approved Social Pedagogue/Social Worker
  • Additional qualification for students of the programme Social Pedagogy, Management & Business Coaching: ‘Junior Coach’, recognized by the German Federal Association of Executive Coaching (DBVC e.V.)
โครงสร้างหลักสูตร

Bachelor of Arts (B.A.)

หลักสูตร
Degree

Social Pedagogy & Management Social Pedagogy, Management & Business Coaching

ระยะเวลาหลักสูตร
Length of programme

7 เทอม 8 เทอม

จำนวนเครดิต (ECTS)
Credit Points (ECTS)

210 หน่วยกิต 240 หน่วยกิต

ทักษะภาษาเยอรมันที่ต้องการ
German language requirements

C1 level of the CEFR C1 level of the CEFR

วันเริ่มเรียน
Starting date

1 ตุลาคม 1 เมษายน

วิทยาเขตที่เปิดสอน
Study centres

BerlinBochumCologneDarmstadtErfurt, HamburgHeidelbergKasselLeipzigMunichNuremberg

BerlinBochumCologneDarmstadt,  HamburgHeidelbergLeipzig

หลักสูตรการบำบัด Therapy

Physiotherapy

นักกายภาพบำบัดเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกำลังกาย สุขภาพ และการฟื้นฟูสมรรถภาพ และช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีปัญหาทางร่างกายหลายประเภทเพื่อปรับปรุงสุขภาพและคุณภาพชีวิตของพวกเขา ผู้สำเร็จการศึกษาจากโครงการนี้สามารถทำงานในด้านต่างๆ ของระบบการดูแลสุขภาพ เช่น โรงพยาบาล คลินิก สถานพยาบาล สถานพยาบาล ฯลฯ นอกจากนี้ยังสามารถทำหน้าที่ธุรการหรือการจัดการ หรือไปสอนและวิจัยได้ เนื่องจากโปรแกรมบูรณาการพื้นฐานทางธุรกิจและการจัดการ ผู้สำเร็จการศึกษาอยู่ในตำแหน่งที่ดีในการกำหนดแนวทางปฏิบัติด้านกายภาพบำบัดของตนเอง

Applied Therapeutic Studies – Occupational Therapy

หลักสูตรเกี่ยวกับการบำบัด มุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมสุขภาพ ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ผู้สำเร็จการศึกษาจากโครงการนี้สามารถทำงานในด้านต่างๆ ของระบบการดูแลสุขภาพ เช่น โรงพยาบาล คลินิก ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพ สถานพยาบาล และสถานบริการสุขภาพอื่นๆ นอกจากนี้ ยังสามารถรับหน้าที่ด้านการบริหารหรือการจัดการ หรือการสอน 

โครงสร้างหลักสูตร

Bachelor of Science (B.Sc.)
พร้อมคุณวุฒิวิชาชีพนักกายภาพบำบัดที่รัฐยอมรับจาก F+U School

หลักสูตร
Degree

Bachelor of Science (B.Sc.) + professional qualification as a state-recognized physiotherapist from F+U School for Physiotherapy

Bachelor of Science (B.Sc.) + professional qualification as state-recognized Occupational Therapist from F+U School for Occupational Therapy

ระยะเวลาหลักสูตร
Length of programme

8 เทอม (4 ปี) 8 เทอม (4 ปี)

จำนวนเครดิต (ECTS)
Credit Points (ECTS)

240 หน่วยกิต 240 หน่วยกิต

ทักษะภาษาเยอรมันที่ต้องการ
German language requirements

C1 level of the CEFR C1 level of the CEFR

วันเริ่มเรียน
Starting date

1 ตุลาคม 1 ตุลาคม

วิทยาเขตที่เปิดสอน
Study centres

Darmstadt, Heidelberg
(Semester 7 + 8 in Darmstadt)

Darmstadt

Engineering and Management

ความซับซ้อนที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจต้องการผู้มีอำนาจตัดสินใจและผู้จัดการที่นอกเหนือจากการทำงานเฉพาะทางแล้ว ยังมีบทบาทในการบูรณาการและให้ทั้งบริษัทอยู่ในมุมมองเมื่อทำการตัดสินใจทางธุรกิจ ฟังก์ชันอินเทอร์เฟซนี้ต้องการความเข้าใจในกระบวนการขององค์กรทั้งทางเทคนิคและเชิงพาณิชย์ หลักสูตรปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมศาสตร์และการจัดการรวมเนื้อหาจากสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าและเครื่องกล วิทยาศาสตร์ธรรมชาติและการบริหารธุรกิจ ด้วยภูมิหลังแบบสหวิทยาการนี้ วิศวกรอุตสาหการสามารถระบุวิธีแก้ปัญหาเชิงกลยุทธ์สำหรับปัญหาด้านวิศวกรรม และรวมสิ่งเหล่านี้เข้ากับการตัดสินใจทางธุรกิจที่ดี วิศวกรสามารถทำงานที่ส่วนติดต่อของเทคโนโลยีและธุรกิจได้ทุกที่ที่ต้องการความรู้ด้านเทคนิคและการค้าที่มีคุณสมบัติเหมาะสม

สามารถเลือกความเชี่ยวชาญพิเศษได้ 2 ความเชี่ยวชาญ ดังนี้

  • Mechatronics (Systems Engineering)
  • Process Management
โครงสร้างหลักสูตร

Bachelor of Engineering (B. Eng.)

หลักสูตร
Degree

Bachelor of Engineering (B. Eng.)

ระยะเวลาหลักสูตร
Length of programme

6 เทอม (3 ปี)

จำนวนเครดิต (ECTS)
Credit Points (ECTS)

180 หน่วยกิต

ทักษะภาษาเยอรมันที่ต้องการ
German language requirements

C1 level of the CEFR

วันเริ่มเรียน
Starting date

1 ตุลาคม

วิทยาเขตที่เปิดสอน
Study centres

Kassel


เรียนต่อ ป.ตรี หลักสูตร Dual Study – Work Programmes กับ iba ได้รับการสนับสนุนค่าเทอมจากทางบริษัทเอกชน (ไม่ต้องเสียค่าเทอม)

หลักสูตร Dual Study-Work Programmes ของ iba ทางบริษัทที่ฝึกงานจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ มีบางหลักสูตรที่ผู้เรียนจะต้องออกค่าใช้จ่ายเอกบ้างเล็กน้อย ดังนี้

Study Programme

ค่าใช้จ่ายสำหรับผู้เรียน

ค่าใช้จ่ายสำหรับบริษัทพันธมิตร
Business Administration (6 sem.)

€0

€620 ต่อเดือน
Business Administration – International Management (7 sem.)

€0

€620 ต่อเดือน
Engineering & Management

€0

€620 ต่อเดือน
Social Work & Management

€0

€590 ต่อเดือน
Social Work, Management & Business Coaching

€0

€620 ต่อเดือน
Physiotherapy / Occupational Therapy

เทอม 1 -6: €230 ต่อเดือน

เทอม 7-8: €595 ต่อเดือน

หมายเหตุ:

  • โดยปกตินักเรียนจะได้รับเงินเดือนเดือนละประมาณ €200 – €700 ต่อเดือน ขึ้นอยู่กับข้อตกลงการจ้างงานของบริษัทพันธมิตร
  • สำหรับนักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียนวิชากายภาพบำบัด Physiotherapy / Occupational Therapy และการศึกษาประยุกต์โดยทั่วไปจะต้องชำระค่าเล่าเรียนของเทอมที่ 1 ถึง 6 ด้วยตนเอง และค่าเล่าเรียนเทอม 7 – 8 จะจ่ายโดยบริษัทพันธมิตร
  • ไม่มีค่าธรรมเนียมการสอบ
  • นักเรียนต่างชาติจ่ายค่าลงทะเบียน €200

คุณสมบัติการสมัครเรียน

คุณสมบัติสำหรับการเข้าเรียนต่อหลักสูตร Dual Work & Study Programme มีหลากหลายช่อทาง ซึ่งโดยปกติแล้ว จะรับนักศึกษาต่างชาติ ที่มีคุณสมบัติดังนี้

  • สำเร็จการศึกษาจากสถาบันการศึกษาเทียบเท่า Abitur (Recognised Higher Education Entrance Qualification)
  • มีทักษะภาษายอรมันระดับ C1 German Level
  • มีทักษะภาษาอังกฤษระดับ B1/B2 Enghlish Level

หากคุณสมบัติไม่ถึงเกณฑ์ สามารถเข้าเรียนหลักสูตร Fast-Track Foundation Programme ก่อนได้

นักศึกษาต่างชาติ (นักศึกษาไทย) หากไม่ได้สำเร็จการศึกษาในเยอรมนี เช่น นักเรียนไทย ที่มีวุฒิ ม.6 จะยังไม่สามารถเข้าเรียนต่อในระดับปริญญาตรีได้ ทาง iba จึงมีหลักสูตร Foundation Programme เพื่อเป็นสะภาพเชื่อมระหว่างวุฒิ ม.6 ของประเทศไทย ให้เทียบเท่ากับของประเทศเยอรมนี หรือตามที่หลายๆ คนรู้จักในชื่อ Studienkolleg แต่หลักสูตรของ iba มีความพิเศษกว่านั้นคือ เป็นหลักสูตรแบบ Fast-Track สามารถสำเร็จการศึกษาได้ภายใน 6 เดือน (จากหลักสูตรปกติ 1 ปี) เมื่อสำเร็จการศึกษา จะมีคุณสมบัติในการเข้าเรียนหลักสูตร Dual Work-Study Programme กับทาง iba ได้

ข้อดีของการเรียนหลักสูตร Fast-Track Foundation Program

  • สำเร็จการศึกษาภายใน 6 เดือน (เรียนแทนหลักสูตร Studienkolleg)
  • หลักสูตรจะพัฒนาทักษะภาษาเยอรมันตั้งแต่ระดับ A2 – C1 ควบคู่กับรายวิชาเรียนในระดับ Nanodegree และได้รับเครดิตทางวิชาการด้วย
  • ในระหว่างเรียนมีหลักสูตรเตรียมความพร้อมสำหรับการปฏิบัติงานด้วย และมีการพบปะกับบริษัทที่เป็นพาร์ทเนอร์ในนิทรรศการจัดหางาน
  • เมื่อสำเร็จการศึกษา Foundation Program รับประกันการเข้าศึกษาหลักสูตร Dual Work & Study Programme ที่ iba / isba
  • คุณสมบัติการสมัครเรียนยืดหยุ่น
    • ใช้เพียงวุฒิการศึกษามัธยมปลาย (ม.6)
    • ทักษะภาษาอังกฤษระดับกลาง B1 (Intermediate เทียบเท่า IELTS 4.0 5.5)
    • ทักษะภาษาเยอรมันระดับ A2 (หากยังไม่มีทักษะภาษาเยอรมัน สามารถเรียนปรับพื้นฐานกับทางสถาบัน F+U Academy ที่วิทยาเขต Heidelberg ก่อนได้)

ใครบ้างที่จะต้องเรียนหลักสูตร Fast-Track Foundation Programme

นักศึกษาต่างชาติที่วุฒิการศึกษาเทียบเท่า Abitur แต่มีทักษะภาษาเยอรมันไม่ถึง C1

  • สำเร็จการศึกษาจากสถาบันการศึกษาเทียบเท่า Abitur
  • มีทักษะภาษายอรมันระดับ A2
  • มีทักษะภาษาอังกฤษระดับ B1/B2
  • จะต้องเรียนหลักสูตร Foundation Programme Work & Study Germany ก่อน 1 เทอม (6 เดือน)
  • ค่าใช้จ่ายในการเรียนเพียง €495 ต่อเดือน (ประมาณ 18,800 บาท) จากปกติ €635 ต่อเดือน

นักศึกษาต่างชาติที่วุฒิการศึกษาไม่เทียบเท่า Abitur และมีทักษะภาษาเยอรมันไม่ถึง C1

  • สำเร็จการศึกษาจากสถาบันการศึกษาในไทย
  • มีทักษะภาษาเยอรมันระดับ A2
  • มีทักษะภาษาอังกฤษระดับ B1/B2
  • จะต้องเรียนหลักสูตร Foundation Programme Work & Study Germany ก่อน 1 เทอม (6 เดือน)
  • ค่าใช้จ่ายในการเรียนเพียง €495 ต่อเดือน (ประมาณ 18,800 บาท) จากปกติ €635 ต่อเดือน


หากไม่มีทักษะภาษาเยอรมัน สามารถเรียนภาษาเยอรมันกับทางสถาบัน F+U Academy ก่อนได้

หากมีช่วงเวลาเพียงพอก่อนเริ่มเรียนภาคการศึกษาแรก อยากเรียนหลักสูตรภาษาเยอรมันเพิ่มเติม ทาง iba มีหลักสูตรพิเศษ Nanodegree ซึ่งเป็นหลักสูตรสอนภาษาเยอรมันที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล จัดสอนผ่านระบบออนไลน์โดย 100% โดยสามารถเข้าเรียนได้ตามระดับภาษาเยอรมันปัจจุบันของผู้เรียน ดังนี้

  • เรียนภาษาระดับ Total Beginner (A0) – Elementary Level (A2) เริ่มเรียน:
    • Winter Semester: เดือนพฤศจิกายน – เดือนมีนาคม (ปีถัดไป)
    • Summer Semester: เดือนพฤษภาคม – เดือนกันยายน
  • เรียนภาษาระดับ Beginner Level (A1) – Elementary Level (A2) เริ่มเรียน:
    • Winter Semester: เดือนมกราคม – เดือนมีนาคม
    • Summer Semester: เดือนกรกฎาคม – เดือนกันยายน

ไทม์ไลน์การเรียนภาษาเยอรมันจนถึงเข้าเรียนต่อหลักสูตร Dual Work-Study Programme


อยากเรียนหลักสูตร ป.ตรี แบบ Dual Work & Study Programme เริ่มต้นอย่างไร?

หากต้องการเข้าร่วมหลักสูตร Dual Work & Study Programme จาก iba ขั้นตอนต่อไปคือการวางแผนการเรียน โดยประเทศเยอรมนี เป็นประเทศที่ต้องวางแผนอย่างรอบด้าน และทราบวัตถุประสงค์ของตัวเองอย่างชัดเจน เพราะจะส่งผลในการขอวีซ่าด้วย

1. ตรวจสอบคุณสมบัติในการสมัครเรียน

ตรวจสอบคุณสมบัติข้างต้นว่าจะต้องลงทะเบียนเรียนหลักสูตร Fast-Track Foundation Programme หรือไม่ หากต้องลงเรียน จะต้องวางแผนว่าอยากเรียน Block ไหน โดยแบ่งออกเป็น 2 Block ดังนี้

  • Block 1: เริ่มต้นเดือนมีนาคม สิ้นสุดเดือนกันยายน ปีถัดไป
  • Block 2: เริ่มต้นเดือนกันยายน สิ้นสุดเดือนมีนาคม ปีถัดไป

นอกจากนี้ จะต้องตรวจสอบด้วยว่าจะต้องเรียนภาษาเยอรมันกับทางสถาบัน F+U Academy เพิ่มเติมหรือไม่ โดยสามารถเลือกวันเปิดเรียนตามระดับภาษาเยอรมันดังนี้

  • เรียนภาษาระดับ Total Beginner (A0) – Elementary Level (A2) เริ่มเรียน:
    • Winter Semester: เดือนพฤศจิกายน – เดือนมีนาคม (ปีถัดไป)
    • Summer Semester: เดือนพฤษภาคม – เดือนกันยายน
  • เรียนภาษาระดับ Beginner Level (A1) – Elementary Level (A2) เริ่มเรียน:
    • Winter Semester: เดือนมกราคม – เดือนมีนาคม
    • Summer Semester: เดือนกรกฎาคม – เดือนกันยายน

2. เลือกสาขาที่ต้องการศึกษา

จากที่ได้อธิบายข้างต้น หลักสูตร Dual Work-Study Programme เปิดสอนในสาขาดังต่อไปนี้

  • MANAGEMENT
    • Business Administration
    • Business Administration | International Management
  • SOCIAL SECTOR
    • Social Pedagogy & Management
    • Social Pedagogy, Management & Business Coaching
  • THERAPY
    • Physiotherapy
    • Applied Therapeutic Studies (Occupational therapy)
  • ENGINEERING
    • Engineering & Management

3. ติดต่อศูนย์ฯ เดอะเบสท์ เพื่อทำเรื่องสมัครเรียน และดำเนินการเรื่องวีซ่า

ปรึกษาและวางแผนการเรียนกับทางศูนย์ฯ เดอะเบสท์ เพื่ออำนวยความสะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่าย ได้รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ เพราะอย่างที่กล่าวไปข้างต้น ถ้าหากแผนการเรียนไม่ชัดเจน หรือทำผิดเงื่อนไข ก็ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่วางแผนเรียนภาษาเยอรมัน เพื่อเข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาประเทศเยอรมนี จะต้องวางแผนการเรียนให้รอบครอบและเป็นแบบแผนมากที่สุด แนะนำให้ติดต่อล่วงหน้าอย่างน้อย 4 – 6 เดือน ก่อนเริ่มเริ่มเรียนเพื่อจะได้มีเวลาเตรียมตัว และเตรียมเอกสารให้ครบถ่วน

ข้อดีของการใช้บริการ ศูนย์ฯ เดอะเบสท์

  • ให้คำแนะนำสำหรับการเรียนต่อต่างประเทศโดยตรง ศูนย์ฯ เดอะเบสท์ สามารถวางแผนการเรียนตั้งแต่การเลือกประเทศ การเลือกเมือง การเลือกหลักสูตรทั้งระยะสั้น ระยะยาว พร้อมแนะนำโรงเรียนอย่างละเอียด
  • ช่วยติดต่อ ประสานงานกับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ แน่นอนว่า การจะติดต่อสอบถาม ค่าใช้จ่าย และอื่นๆ จะต้องสอบถามเป็นภาษาอังกฤษ โดยเอเจ้นท์จะทำการติดต่อทั้งหมด รวมถึงการสมัครเรียนด้วย
  • ช่วยเตรียมเอกสารสมัครเรียน เอกสารยื่นวีซ่า ไม่ว่าจะเป็นการกรอกใบสมัคร การเตรียมเอกสารสมัครเรียนและยื่นวีซ่าทั้งหมด ซึ่งแต่ละมหาวิทยาลัย จะมีเงื่อนไขการรับสมัครที่แตกต่างกัน บางสถาบัน จะต้องเขียนเรียงความ เพื่อสมัครเข้าเรียน ซึ่งเอเจ้นท์ จะมีหน้าที่ดูแล และ Review เอกสาร เพื่อให้เอกสารสมบูรณ์ที่สุด
  • ช่วยจัดหาตั๋วเครื่องบิน จัดหาที่พัก บริการรถรับส่งสนามบิน หากเป็นการเรียนต่อต่างประเทศครั้งแรก การใช้บริการเอเจ้นท์ อาจช่วยอำนวยความสะดวกได้อย่างมาก รวมถึงนักเรียนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี เอเจ้นท์จะคอยจัดหาที่พักแบบ โฮมสเตย์ หรือ หอพักโรงเรียน และคอยรายงานผลการเรียนของนักเรียนให้ผู้ปกครองทราบอย่างใกล้ชิด
  • ดูแลตั้งแต่เริ่มเรียน จนเรียนจบ หลังจากที่เดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศแล้ว เอเจ้นท์ยังดูแล และให้ความช่วยเหลือเช่นเดิม ตลอดทั้งระยะเวลาการศึกษา นักเรียนสามารถขอคำปรึกษาจากเอเจ้นท์ได้ตลอดเวลา จนนักเรียนเรียนจบ และเป็นประโยชน์อย่างมาก
  • ช่วยวางแผนการเรียนต่อ หลังเรียนภาษาเยอรมัน นักเรียนหลายๆ คนอาจมีเป้าหมายในการเรียนต่อ หลังจากเรียนภาษา เช่น เรียนต่อในระดับปริญญาตรี หรือ Studienkolleg ซึ่งมีเงื่อนไข และเกณฑ์การรับเข้าที่ซับซ้อน และหลายขั้นตอน ศูนย์ฯ เดอะเบสท์ จะทำงานร่วมกับสถาบันสอนภาษาที่นักเรียนได้ทำการเรียนอยู่ ช่วยเตรียมตัว ประสานงาน และเตรียมความพร้อม ก่อนเข้าเรียนระดับปริญญาตรีปริญญาตรี หรือ Studienkolleg

“เรายินดีที่จะดูแลนักเรียนทุกคน ตั้งแต่เริ่มต้นจนนักเรียนสำเร็จการศึกษา และทำให้การเรียนต่อของคุณเป็นเรื่อง่าย ” สอบถามข้อมูลการบริการเพิ่มเติมติดต่อ
โทร: 
090-327 3558088-269 5099
Email: contact@thebest-edu.com
Line: @thebestedu หรือคลิกเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ

เพิ่มเพื่อน


หลังจากสำเร็จการศึกษา ทางมหาวิทยาลัยมีการเตรียมตัวสำหรับการหางานในเยอรมนีด้วย

ช่วยให้ผู้สำเร็จการศึกษาพร้อมทำงานผ่านเวิร์กช็อปและกิจกรรมต่างๆ มอบประสบการณ์และสร้างความเข้าใจชีวิตธุรกิจในเยอรมนี มีทักษะที่พร้อมสำหรับการทำงาน และเป็นที่ต้องการสำหรับนายจ้าง โดยก่อนที่จะสำเร็จการศึกษา ทางมหาวิทยาลัยจะมีการจัดกิจกรรม Job Fair เพื่อให้นักศึกษา และบริษัทที่เป็นพันธมิตรได้พบปะ พูดคุยกัน ซึ่งหมายความว่านักศึกษาสามารถเริ่มงานได้ทันทีหากบริษัทตอบรับเข้าทำงาน

  • มีการจัดเวิร์คช็อป เพื่อค้นหาตำแหน่งงานที่เหมาะสมกับผู้สมัคร
  • มีการการฝึกอาชีพ เรียนรู้วิธีสมัครอย่างประสบความสำเร็จกับบริษัทเยอรมัน
  • Virtual Job Fair พบปะนายจ้างผ่านนิทรรศการจัดหางานแบบ Virtual
  • การเรียนรู้จากการทำงานที่บริษัทเยอรมัน รับประสบการณ์ภาคปฏิบัติ 4 สัปดาห์ (ไม่บังคับ)
  • เปิดสอนหลักสูตร “ภาษาเยอรมันเพื่อวิชาชีพ” เพื่อติวภาษาเยอรมันสำหรับการทำงานในประเทศเยอรมนีโดยเฉพาะ (ไม่บังคับ มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม)

ทำไมควรเลือกเรียนต่อปริญญาตรี ที่ประเทศเยอรมนี?

  • ประเทศเยอรมนีเรียนฟรี ไม่มีค่าเล่าเรียนตลอดระยะเวลาการศึกษาในระดับอุดมศึกษา นักศึกษาทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาชาวเยอรมนี หรือนักศึกษาชาวต่างชาติ ที่เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยของรัฐบาลในประเทศเยอรมนี ไม่ต้องจ่ายค่าเล่าเรียน เพียงจ่ายแค่ค่าลงทะเบียนเรียนประมาณ €250 ต่อภาคการศึกษา แต่จะได้กลับคืนในรูปแบบตั๋วโดยสารสาธารณะฟรี ตลอด 1 เทอม 
  • มหาวิทยาลัยทุกแห่ง มีคุณภาพระดับโลก บางมหาวิทยาลัยได้รับการจัดอันดับให้เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกอย่างต่อเนื่อง และหลักสูตรการศึกษาที่มีความโดดเด่น การวิจัยที่เป็นที่ยอมรับ สามารถนำไปใช้ได้จริง 
  • เยอรมนีเป็นประเทศแห่งอุตสาหกรรม เยอรมนีได้ลงทุนในมหาวิทยาลัยด้านวิศวกรรมเป็นจำนวนมาก และปัจจุบันโปรแกรมวิศวกรรมได้รับการยกย่องเป็นพิเศษในมหาวิทยาลัยในเยอรมัน อย่างไรก็ตามมีโปรแกรมการศึกษามากมายที่เปิดสอนในมหาวิทยาลัยเหล่านี้และในบางแห่งก็เป็นผู้นำระดับโลก เช่น การแพทย์และเภสัชศาสตร์
  • หลักสูตรมีคุณภาพสูง การศึกษาของมหาวิทยาลัยในเยอรมนีมีคุณภาพสูงระดับโลก ทั้งด้านโครงสร้าง และเนื้อหาหลักสูตรที่สอน ได้รับการปรับปรุง และพัฒนาให้ทันสมัยที่สุด โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องอย่างมีพลวัต
  • วุฒิการศึกษาเป็นที่ยอมรับทั่วโลก นายจ้างทั่วโลกตระหนักถึงคุณภาพการศึกษาของประเทศเยอรมนี ซึ่งจะทำให้ไว้วางใจได้รับผิดชอบงานสเกลใหญ่ๆ ที่มีคุณภาพ และค่าตอบแทนสูง ยิ่งไปกว่านั้น นักศึกษาหลายคนมักจะได้งานทำก่อนเรียนจบ 
  • ค่าครองชีพที่คุ้มค่า หลายๆ คนอาจจะคิดว่า ประเทศเยอรมนี มีค่าครองชีพสูง แต่นั่นเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของประเทศ เฉพาะในเมืองท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ค่าครองชีพโดยรวมของประเทศเยอรมนี ต่ำกว่าหลายๆ ประเทศในโซนยุโรป ยิ่งหากเลือกเรียนในเมืองที่ไม่ใช่เมืองท่องเที่ยว ค่าครองชีพยิ่งถูกลงอีกเยอะมาก และทุกเมือง มีมหาวิทยาลัยที่มีคุณภาพสูงเช่นเดียวกัน
  • สามารถทำงานพาร์ทไทม์ได้ด้วย ประเทศเยอรมนี อนุญาตให้ผู้ที่ถือวีซ่านักเรียนทำงานพาร์ทไทม์ได้ 20 ชั่วโมง/สัปดาห์ หรือ 120 วันตลอดทั้งปี และ 60% ของนักศึกษาต่างชาติ ก็เรียนด้วยทำงานด้วยเช่นเดียวกัน โดยลักษณะงานมีให้เลือกมากมาย (ยิ่งได้ภาษาเยอรมันจะยิ่งมีโอกาสมากกว่าผู้อื่น) ตั้งแต่พนักงานต้อนรับในร้านอาหาร ผู้ช่วยครูเด็กอนุบาล บาริสตา บาร์เทนเดอร์ เจ้าหน้าที่ธุรการ นอกจากจะได้รับค่าตอบแทนแล้ว ประสบการณ์การทำงานในเยอรมนี จะช่วยเพิ่มเครือข่ายและโอกาสการจ้างงานในอนาคตอีกด้วย
  • ได้เรียนรู้ และฝึกภาษาเยอรมันด้วย ภาษาเยอรมันเป็นภาษาที่ใช้มากที่สุดในทวีปยุโรป และบริษัทกว่าครึ่งของยุโรป เป็นบริษัทสัญชาติเยอรมัน ดังนั้น การที่สามารถฟัง พูด อ่าน เขียน ภาษาเยอรมันได้ ก็เท่ากับว่าจะได้รับโอกาสในการทำงานมากกว่าคนอื่นๆ
  • ประเทศเยอรมนี เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม ปัจจุบัน ประเทศเยอรมนีเป็นที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติมากมาย ดังนั้น จะได้เรียนรู้ และศึกษาวัฒนธรรมที่แตกต่างจากทั่วทุกมุมโลก และเพื่อนร่วมชั้นเรียนอาจมาจากประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ดังนั้น ผู้เรียนมีโอกาสพูดได้มากกว่า 3 ภาษา
  • ได้ท่องเที่ยวได้ทั่วยุโรป ผู้ที่เดินทางมาเรียนต่อยุโรป ไม่ว่าจะเป็นเรียนภาษาระยะสั้น หรือเรียนระดับอุดมศึกษา สามารถเดินทาง ท่องเที่ยวได้ทั่วทุกประเทศในเครือเชงเก้น โดยไม่ต้องขอวีซ่าประเทศอื่นเพิ่ม ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีในการท่องเที่ยวประเทศอื่นๆ ระหว่างปิดภาคการศึกษา เช่น ประเทศฝรั่งเศส ประเทศออสเตรีย ประเทศเนเธอร์แลนด์
  • ประเทศเยอรมนีมีมรดกโลกที่ได้รับการจดทะเบียนจาก UNESCO ประเทศเยอรมนี เป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และมีความร่ำรวยมาก หากมาเรียนที่เยอรมนี จะได้มีโอกาสได้ท่องเที่ยวเมืองมรดกโลกหลายแห่ง ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม

โอกาสการทำงานหลังเรียนจบ

นักศึกษาต่างชาติ ที่มาจากประเทศที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสหภาพยุโรป Non EU/EEA ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป สามารถอยู่ในเยอรมนีเพื่อหางานทำได้หลังเรียนจบได้ด้วยโดยสามารถยื่นขออยู่ต่อได้สูงสุด 18 เดือน โดยจะต้องขอวีซ่าทำงานชั่วคราวหลังเรียนจบ Aufenthaltserlaubnis (Temporary Residence Permit หรือ Limited Residence Permit) ทันทีหลังสำเร็จการศึกษา โดยแสดงหลักฐานการสำเร็จการศึกษา หลักฐานประกันสุขภาพ และหลักฐานการเงินที่เพียงพอต่อค่าครองชีพ

ทันทีที่ได้งานทำ ก็จะสามารถขอวีซ่าทำงาน หรือ EU-Blue Card ซึ่งเป็นใบอนุญาตทำงานที่รับรองจาก 25 ใน 28 ประเทศของสมาชิกสหภาพยุโรป ที่อนุญาตให้ผู้ถือบัตร EU-Blue Card ทำงานและอาศัยอยู่ในเยอรมนีได้ โดยได้รับเงินเดือนและสวัสดิการทางสังคมเช่นเดียวกันกับคนชาติเยอรมัน

EU-BLUE CARD คืออะไร?

EU Blue Card คือใบอนุญาตทำงานที่ประเทศของสมาชิกสหภาพยุโรป ซึ่งออกให้สำหรับ ผู้ที่มีความสามารถ ผู้ที่มีทักษะสูงที่มาจากนอกสหภาพยุโรป (Non-EU) สามารถเข้ามาทำงาน และใช้ชีวิตอย่างถูกกฏหมายในสหภาพยุโรปรวมถึงได้รับค่าจ้าง และสวัสดิการในอัตราเดียวกันกับคนในยุโรป เพื่อกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจ ให้สหภาพยุโรปกลายเป็นพื้นที่ทางเศรษฐกิจของโลกที่มีการแข่งขัน ขับเคลื่อน เปลี่ยนแปลงอย่างเป็นพลวัต และทันกับโลกยุคสมัยใหม่ รวมถึงมีการพัฒนาคุณภาพชีวิต และสวัสดิการทางสังคมให้ดีขึ้น คณะกรรมาธิการยุโรปจึงได้ตั้งข้อเสนอสองข้อ คือ

  • สามารถทำงานและรับเงินเดือนในอัตราเดียวกันกับคนในยุโรป โดยฐานเงินเดือนขั้นต่ำอยู่ที่ €43,056 – €55,200 /ปี (ประมาณ 1,600,000 – 2,000,000 บาท/ปี หรือ เฉลี่ย เดือนละ 133,000 – 166,000 บาท/เดือน)
  • ได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ทั้งทางเศรษฐกิจและสวัสดิการสังคม เทียบเท่ากับคนชาติเยอรมัน
  • มีโอกาสขอเป็นผู้อยู่อาศัยถาวร (Permanent Residence) เมื่อทำงานเป็นระยะเวลา 5 ปี

คลิก เพื่อศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ EU Blue Card


เรียนต่อเยอรมันค่าครองชีพแพงไหม ค่าใช้จ่ายต่อเดือนเท่าไหร่?

สำหรับนักศึกษาที่ลงเรียนหลักสูตร Freshman Program ค่าใช้จ่ายข้างต้น ครอบคลุมค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าที่พักเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ ยังรวมค่าเดินทาง ค่าระบบขนส่งสาธารณะ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ซึ่งครอบคลุมค่าใช้จ่ายเกือบทั้งหมด เหลือเพียงแค่ค่าของใช้ส่วนตัว และค่าอาหารประจำวันใน ดังนั้น น้องๆ อาจเตรียมค่าใช้จ่ายเพียง €400 – €500 ต่อเดือน ก็เพียงพอ (ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตส่วนตัว)

คลิก เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับค่าครองชีพประเทศเยอรมนี


เรียนต่อเยอรมัน สามารถทำงานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียนได้หรือไม่?

นักศึกษาที่สำเร็จหลักสูตร Freshman Program และได้เข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี จะได้รับอนุญาตให้ทำงานระหว่างเรียน ในประเทศเยอรมันได้ โดยจะได้รับอนุญาตให้ทำงานระหว่างเรียน 120 วันเต็ม (Full Day) หรือ 240 ครึ่งวัน (Half Day) ต่อปี นอกจากนี้ นักศึกษาที่มีความสามารถในการสื่อสารภาษาเยอรมัน มีโอกาสได้งานและเลือกงานได้มากกว่านักศึกษาที่พูดได้เพียงภาษาอังกฤษ เพราะงานที่ต้องมีการติดต่อสื่อสารกับผู้คน ความรู้ภาษาเยอรมันเป็นสิ่งจำเป็น เช่น งานบริการในร้านอาหาร ในร้านขายของ เลี้ยงเด็ก ผู้ช่วยในสำนักงาน เป็นต้น นักศึกษาที่ยังสื่อสารภาษาเยอรมันได้ไม่คล่องนัก อาจหางานประเภทอื่น ๆ ได้ เช่น ผู้ช่วยในร้านอาหาร เป็นต้น

ค่าแรงขั้นต่ำประเทศเยอรมนีประมาณ  €9.35 (ประมาณ 347 บาท) ต่อชั่วโมง
อัพเดท 1 มกราคม 2563

คลิก เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำงานระหว่างเรียน ที่ประเทศเยอรมนี


ติดต่อเดอะเบสท์เพื่อสอบถามข้อมูลการเรียนต่อต่างประเทศเพิ่มเติม

เดอะเบสท์ เป็นศูนย์บริการให้คำปรึกษาเรียนต่อต่างประเทศครบวงจร เราเป็นตัวแทนที่ให้บริการแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และ ประเทศอื่นๆ อีก 25 ประเทศทั่วโลก เรายินดีให้ความช่วยเหลือตั้งแต่เริ่มสมัครเรียน จนสำเร็จการศึกษา รวมถึงดูแลนักเรียนระหว่างเรียนจนนักเรียนเรียนจบด้วยทีมผู้เชียวชาญในด้านการเรียนต่อต่างประเทศ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ขั้นตอนเหล่านี้เราดำเนินการให้ฟรี และเราพร้อมที่จะทำตามคุณภาพ และมาตรฐานดังสโลแกนที่ว่า “We are Quality”

บริการของเรามีอะไรบ้าง ?

  • ฟรี!! บริการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเรียนต่อต่างประเทศทุกระดับชั้นทั่วโลก ตั้งแต่ โรงเรียนประถม โรงเรียนมัธยม สถาบันวิชาชีพ และสถาบันในระดับอุดมศึกษา รวมถึงหลักสูตรภาษาต่างประเทศ และเลือกสถาบันที่ดีที่สุดให้กับผู้เรียน
  • เราให้ความช่วยเหลือตั้งแต่การประสานงานโรงเรียน เลือกโรงเรียนให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียน เตรียมเอกสารสมัครเรียน และดำเนินเรื่องสมัครเรียนให้ฟรี
  • บริการเตรียมเอกสารยื่นวีซ่าครบวงจร และบริการยื่นวีซ่ากว่า 25 ประเทศทั่วโลก พร้อมวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าอย่างตรงจุด และแนะนำวิธีการเตรียมตัวในการสัมภาษณ์วีซ่า 
  • บริการแปลเอกสาร ภาษาไทย – ภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาอังกฤษ – ภาษาไทย รวมถึงภาษาที่ 3 เริ่มต้นเพียงแผ่นละ 200 บาท
  • เดอะเบสท์ เป็นตัวแทนรับสมัครสอบ IELTS IDP อย่างเป็นทางการ พร้อมให้คำแนะนำ และนัดวันสอบให้โดยน้องๆ ไม่ต้องเสียเวลาสมัครเอง สมัครสอบได้ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
  • บริการซื้อประกันภัยการเดินทางและประกันสุขภาพนักเรียนต่างชาติ จากบริษัทประกันชั้นนำ MSIG, NIB, Allianz, Orbit และอื่นๆ
  • บริการจองตั๋วเครื่องบิน ทุกสายการบิน และประสานงานกับสถาบันเกี่ยวกับรถรับ – ส่ง สนามบิน
  • บริการจัดหาที่พักทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นโฮมสเตย์ อพาร์ทเม้น หรือหอพักนักศึกษา จัดหาให้ตามความต้องการส่วนบุคคล

 

 

“เรายินดีที่จะดูแลนักเรียนทุกคน ตั้งแต่เริ่มต้นจนนักเรียนสำเร็จการศึกษา และทำให้การเรียนต่อของคุณเป็นเรื่องง่าย ” สอบถามข้อมูลการบริการเพิ่มเติมติดต่อ
โทร : 090-327 3558088-269 5099
Email :contact@thebest-edu.com
Line : @thebestedu หรือคลิกเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ

เพิ่มเพื่อน

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.