สารบัญบทความ
Last updated มิถุนายน 8, 2022 ago by Thebestedu
Studienkolleg Düsseldorf
Studienkolleg Düsseldorf เป็นสถาบันเตรียมความพร้อมสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นการศึกษาในระดับอุดมศึกษาหรือมหาวิทยาลัยในประเทศเยอรมนี เปิดสอนหลักสูตร Studienkolleg ทางด้านวิชาการที่ครอบคลุมหลากหลายหลักสูตร เช่น T-Course, M-Course, W-Course และ G-Course และหลักสูตรภาษาเยอรมัน เพื่อปรับพื้นฐานทักษะทางภาษาด้วย นอกจากนี้ ทางสถาบันยังมีหลักสูตรเตรียมสอบภาษาเยอรมันโดยเฉพาะ
ทุกหลักสูตร Studienkolleg ของสถาบัน Studienkolleg Düsseldorf สามารถสมัครเรียนได้เลย ไม่ต้องสอบเข้า แต่จะต้องมีทักษะภาษาเยอรมันระดับ B1 / B2 โดยหลักสูตรจะจัดขึ้นปีละสองครั้ง เริ่มตั้งแต่เดือนกันยายนและกุมภาพันธ์ ซึ่งผู้เรียนสามารถเลือกเทอมเปิดเรียนได้ตามแผนการเรียนที่วางไว้ นอกจากนี้ทางสถาบันยังเป็นศูนย์สอบ telc อีกด้วย
อาจาร์ยผู้สอนมีประสบการณ์การสอนและมีวัตถุประสงค์เดียวคือ เพื่อให้สอบผ่าน “Feststellungsprüfung” (FSP) นอกจากนี้ ยังมีพนักงานที่เป็นมิตรและมีความเป็นมืออาชีพในการให้บริการทุกคนได้ตลอดเวลา สภาพแวดล้อมการเรียนรู้ทางสถาบันมีความสมบูรณ์แบบ มีห้องเรียนที่กว้างขวาง ตั้งอยู่ในใจกลางเมือง Düsseldorf มีเพื่อนนักศึกษาต่างชาติมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก
จุดเด่นของสถาบัน Studienkolleg Düsseldorf
- Studienkolleg Düsseldorf เป็นสถาบันเตรียมอุดมศึกษาคุณภาพสูงที่เปิดสอนหลักสูตร Studienkolleg และ เป็นหนึ่งโรงเรียนสอนภาษาเยอรมันที่ผ่านการรับรองใน Düsseldorf
- หลักสูตร Studienkolleg ที่ Studienkolleg Düsseldorf สามารถเข้าเรียนได้เลย ไม่มีการสอบเข้า เพียงแค่มีทักษะภาษาเยอรมันระดับ B1 / B2 และสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6
- เป็นศูนย์สอบ telc ที่ได้มาตรฐานเปิดให้บริการ และนักเรียนที่มาเรียนกับทางสถาบัน จะได้รับการเตรียมความพร้อมก่อนสอบ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด
- ทุกหลักสูตรผ่านการรับรองจาก TÜV-certified และผ่านพัฒนาต่อยอดอย่างสม่ำเสมอ
- อาจาร์ยผู้สอนมีประสบการณ์การสอน และมีวัตถุประสงค์เดียวคือ เพื่อให้สอบผ่าน “Feststellungsprüfung” (FSP)
- หลักสูตรคุณภาพสูง ในราคาที่สมเหตุสมผล
- ชั้นเรียนขนาดเล็ก การเรียนการสอนเป็นไปอย่างมีคุณภาพด้วยการเรียนเป็นกลุ่มเล็กๆ จะไม่มีใครถูกทอดทิ้งในชั้นเรียน
- ทางสถาบันมีหลักสูตรสำหรับการศึกษาวัฒนธรรมประเทศเยอรมันด้วย หลักสูตรนี้ นักเรียนจะได้เดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่สำคัญต่างๆ ในเยอรมัน รวมถึงเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษ เพื่อเปิดโอกาสให้ได้พบปะเพื่อนใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้น
- ทางสถาบันเป็นทีม DaF ที่มีประสบการณ์ “DaF” หรือ “Deutsch als Fremdsprache” หมายถึง การอธิบายการสอนภาษาเยอรมันสำหรับชาวต่างชาติ
- อาคารที่ทันสมัยเหมาะกับการศึกษา ตั้งอยู่ที่ใจกลางเมือง Düsseldorf โดดเด่นไปด้วยวัฒนธรรมที่หลากหลายอาหารเลิศรส และร้านค้าจากงานฝีมือมากมาย
- ให้บริการอื่นๆ ที่จำเป็นในการใช้ชีวิตในเยอรมันนี เช่น ที่พัก ประกันสุขภาพ บริการรับส่ง และบริการสมัครเข้ามหาวิทยาลัยโดยตรง
ที่ตั้งของสถาบัน Studienkolleg Düsseldorf
Studienkolleg Düsseldorf ตั้งอยู่ใกล้ใจกลางเมืองในย่านสุดทันสมัยของ Flingern-Nord มีร้านกาแฟและร้านอาหารเล็กๆที่สวยงามแปลกตามากมายให้เลือกชม การเดินทางก็เป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็ว สามารถเข้าถึงบริการสาธารณะอย่างง่ายดาย
- ไปยังสถานี Düsseldorf Main Station ประมาณ 5 นาที โดยใช้รถไฟ (S-Bahn)
- ไป Königsallee ประมาณ 8 นาที โดยใช้รถไฟใต้ดิน
- ไป Düsseldorfer Altstadt (ย่านเมืองเก่า) ประมาณ 12 นาทีโดยใช้รถไฟใต้ดิน
- ไปสนามบิน Düsseldorf Airport ประมาณ 20 นาทีโดยใช้รถไฟ (S-Bahn)
- ไป Cologne ประมาณ 30 นาที โดยใช้รถไฟ
เปิดสอนหลักสูตรเตรียมความพร้อมเข้าเรียนต่อ ป.ตรี ที่เยอรมนี Studienkolleg
หลักสูตรเตรียมพร้อม หรือ Studienkolleg เป็นการเรียนเตรียมความพร้อมให้สำหรับการทดสอบ Feststellungsprüfung หรือ FSP เพื่อใช้ยื่นเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยของรัฐบาล ประเทศเยอรมนี เป็นข้อสอบบังคับสำหรับนักเรียนต่างชาติที่ต้องการสมัครเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยประเทศเยอรมนี การทดสอบจะเปิดดำเนินการปีละสองครั้งในเดือนพฤษภาคมและเดือนพฤศจิกายนโดยรัฐบาลเขต Cologne
คลิก เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักสูตร Studienkolleg
Studienkolleg Düsseldorf มีหลักสูตรเตรียมความพร้อมประเภทต่างๆ เช่น T-Course, M-Course, W-Course, G-Course และ M + T-Course หรือหลักสูตรพิเศษอื่นๆ เช่น หลักสูตรเตรียมความพร้อมสำหรับแอปพลิเคชันศิลปะ / ดนตรี และหลักสูตรเตรียมความพร้อมภาษาเยอรมัน B1 / B2
“เรายินดีที่จะดูแลนักเรียนทุกคน ตั้งแต่เริ่มต้นจนนักเรียนสำเร็จการศึกษา และทำให้การเรียนต่อของคุณเป็นเรื่อง่าย”
สอบถามข้อมูลการบริการเพิ่มเติมติดต่อ
โทร: 090-327 3558, 088-269 5099
Email: contact@thebest-edu.com
Line: @thebestedu หรือคลิกเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ
T-kurs (สาขาวิชาที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และเทคโนโลยี)
หลักสูตรที่เน้นการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนต่อปริญญาตรีในสาขาวิชา เช่น เทคโนโลยีสารสนเทศ วิทยาการคอมพิวเตอร์ หรือวิศวกรรมศาสตร์ วิชาที่สอนใน T-Course จะประกอบด้วย คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี และภาษาเยอรมัน
รายละเอียดหลักสูตร
- ระยะเวลาเรียน: 2 เทอม
- จำนวนบทเรียนต่อสัปดาห์: 5 x 6 บทเรียน / สัปดาห์
- ระยะเวลาหลักสูตร: 38 สัปดาห์
- คุณสมบัติที่สามารถสมัครเรียน:
- สำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
- มีทักษะภาษาเยอรมันระดับ B1/B2
- วิชาสอบข้อเขียน: Deutsch, Mathematik, Physik
- วิชาสอบปากเปล่า: Chemie
M-Kurs (สาขาวิชาที่เกี่ยวกับการแพทย์ หรือชีววิทยา)
หลักสูตรที่เน้นการเรียนการสอนด้านการแพทย์ ชีววิทยา เภสัชศาสตร์ และสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพอื่นๆ วิชาที่สอนในหลักสูตรประกอบด้วยภาษาเยอรมัน ฟิสิกส์ ชีววิทยา และเคมี
รายละเอียดหลักสูตร
- ระยะเวลาเรียน: 2 เทอม
- จำนวนบทเรียนต่อสัปดาห์: 5 x 6 บทเรียน / สัปดาห์
- ระยะเวลาหลักสูตร: 38 สัปดาห์
- คุณสมบัติที่สามารถสมัครเรียน:
- สำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
- มีทักษะภาษาเยอรมันระดับ B1/B2
- วิชาสอบข้อเขียน: Biologie, Deutsch, Physik
- วิชาสอบปากเปล่า: Chemie
W-Kurs (สาขาวิชาที่เกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์ การบริหารธุรกิจ และการจัดการ)
W ย่อมาจาก Wirtschaft หมายถึง “เศรษฐศาสตร์” หรือ “ธุรกิจ” ในภาษาเยอรมัน หลักสูตรเตรียมความพร้อม W-Course จะเตรียมพร้อมสำหรับการเรียนต่อในหลักสูตรด้านเศรษฐศาสตร์ และการบริหารธุรกิจ ในหลักสูตรเตรียมความพร้อม W-Course จะได้เรียนภาษาอังกฤษ เยอรมัน เศรษฐศาสตร์ และคณิตศาสตร์
รายละเอียดหลักสูตร
- ระยะเวลาเรียน: 2 เทอม
- จำนวนบทเรียนต่อสัปดาห์: 5 x 6 บทเรียน / สัปดาห์
- ระยะเวลาหลักสูตร: 38 สัปดาห์
- คุณสมบัติที่สามารถสมัครเรียน:
- สำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
- มีทักษะภาษาเยอรมันระดับ B1/B2
- วิชาสอบข้อเขียน: Deutsch, Mathematik, VWL
- วิชาสอบปากเปล่า: Englisch
G-Kurs (สาขาวิชาที่เกี่ยวกับมนุษยศาสตร์ ศิลปศาสตร์ และสังคมศาสตร์)
G ย่อมาจาก Geisteswissenschaft ซึ่งแปลว่า “มนุษยศาสตร์” ในภาษาเยอรมัน หลักสูตรเตรียมความพร้อม G-Course จะเตรียมความพร้อมสำหรับเรียนต่อด้านศึกษาศาสตร์ ภาษาศาสตร์ ปรัชญา สังคมศึกษา ศิลปะศึกษา และกฏหมาย ในเยอรมนี ในหลักสูตรเตรียมความพร้อม G-Course จะได้เรียนภาษาเยอรมัน ประวัติศาสตร์ และสังคมศาสตร์
รายละเอียดหลักสูตร
- ระยะเวลาเรียน: 2 เทอม
- จำนวนบทเรียนต่อสัปดาห์: 5 x 6 บทเรียน / สัปดาห์
- ระยะเวลาหลักสูตร: 38 สัปดาห์
- คุณสมบัติที่สามารถสมัครเรียน:
- สำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
- มีทักษะภาษาเยอรมันระดับ B1/B2
- วิชาสอบข้อเขียน: Deutsch, Geschichte, Sozialkunde
- วิชาสอบปากเปล่า: Deutsche Literatur
M+T-Kurs (สาขาวิชาที่เกี่ยวกับการแพทย์ วิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และเทคโนโลยี)
M+T คือการเรียน 2 หลักสูตรควบคู่กัน คือ M-Course กับ T-Course เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าต้องการเรียนสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ หรือสายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ในหลักสูตร M+T จะได้เรียนวิชาชีววิทยา ภาษาเยอรมัน คณิตศาสตร์ และฟิสิกส์ หากสอบผ่าน Feststellungsprüfung (FSP) จะมีตัวเลือกมากมายในสาขาด้านการแพทย์ เภสัช วิศวกรรม คณิตศาสตร์ วิทยาการคอมพิวเตอร์ และสาขาอื่นๆ อีกมากมาย
รายละเอียดหลักสูตร
- ระยะเวลาเรียน: 2 เทอม
- จำนวนบทเรียนต่อสัปดาห์: 6 x 6 บทเรียน / สัปดาห์
- ระยะเวลาหลักสูตร: 38 สัปดาห์
- คุณสมบัติที่สามารถสมัครเรียน:
- สำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
- มีทักษะภาษาเยอรมันระดับ B1/B2
- วิชาสอบข้อเขียน: Biologie, Deutsch, Mathematik, Physik
- วิชาสอบปากเปล่า: Chemie
Studiankolleg Düsseldorf เปิดสอนหลักสูตรภาษาเยอรมันด้วย
ทางสถาบัน Studienkolleg Düsseldorf เปิดสอนหลักสูตรภาษาเยอรมันด้วย และมีหลากหลายหลักสูตรตอบรับกับทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตร German Intensive Courses ซึ่งเป็นหลักสูตรพัฒนาทักษะเยอรมันพื้นฐานระดับ A1 – C1 หลักสูตรเตรียมความพร้อมสำหรับการสอบ telc หลักสูตรภาษาเยอรมันเฉพาะทาง เช่น Business German Course หรือหลักสูตรภาษาเยอรมันแบบตัวต่อตัว ที่ผู้เรียนสามารถเลือกช่วงเวลาเรียน และพัฒนาเฉพาะจุดได้
นอกจากนี้ ทางสถาบันยังได้รับการอนุมัติให้เป็นศูนย์สอบ telc อย่างเป็นทางการที่ให้บริการการทดสอบ telc tests Deutsch B1, B2, C1 Hochschule และการสอบอีกมากมาย
Intensive Courses
หลักสูตรภาษาเยอรมันเข้มข้น German Intensive Couse เป็นหลักสูตรที่พัฒนาทักษะภาษาเยอรมันตั้งแต่ A1 – C1 ตามกรอบอ้างอิงทักษะภาษาของยุโรป (CEFR) พัฒนาทักษะภาษาเยอรมันได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ และเหมาะสำหรับผู้ที่วางแผนเรียนต่อมหาวิทยาลัยในเยอรมันได้ง่ายขึ้น โดยในแต่ละระดับ จะใช้ระยะเวลาเรียนประมาณ 2 เดือน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับพัฒนาการของผู้เรียนด้วยเช่นกัน
Pre-Course German B1/B2
สำหรับนักเรียนต่างชาติที่มีทักษะภาษาเยอรมันไม่ถึงระดับ B2 ทางสถาบันมีหลักสูตรเตรียมภาษา Pre-Course German B1/B2 หลักสูตรเตรียมความพร้อมยกระดับความสามารถทางภาษาให้ถึงระดับ B2 ตามเกณฑ์การวัดระดับภาษาของยุโรป (CEFR)
Online German one-to-one
เนื่องจาก Studienkolleg Düsseldorf เป็นโรงเรียนสอนภาษาด้วย จึงคุ้นเคยกับแนวคิดในการสอนภาษาเยอรมันเป็นภาษาต่างประเทศเป็นอย่างดี ด้วยการนำเสนอบทเรียนแบบตัวต่อตัว สามารถเลือกเรียนได้ระหว่า 1 ต่อ 1 หรือ 1 ต่อ 2 หรือหมายความว่า ครู 1 คน นักเรียน 2 คน ซึ่งอาจจะเป็นเพื่อนจับคู่กันเรียน โดยในหลักสูตรนี้ ผู้เรียนจะมีโอกาสในการฝึกพูดสนทนาภาษาเยอรมันกับครูผู้สอนมากขึ้น เนื้อหาการเรียนการสอนจะปรับปรุงตามทักษะ และจุดอ่อนของผู้เรียน มุ่งเน้นไปที่ทักษะที่ต้องฝึกฝน ดังนั้นความสำเร็จในการเรียนรู้จึงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นพิเศษ นอกจากนี้ ตารางเวลาเรียนปรับแต่งได้อย่างอิสระ และสามารถลงเรียนได้ตั้งแต่ระดับ A1 ถึง C1
ข้อดีของการเรียนภาษาเยอรมันแบบตัวต่อตัว
- คอร์สเรียนภาษาเยอรมันที่เข้มข้น เปิดสอนตั้งแต่ระดับ A1-C2
- ตารางเวลาที่สามารถกำหนดได้เอง
- หลักสูตรสามารถปรับเปลี่ยนตามบุคคล เพื่อการพัฒนาที่เต็มขีดจำกัด
- ผู้เรียนมีพัฒนาการอย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้น
ค่าใช้จ่ายการเรียน
ค่าใช้จ่ายเรียนออนไลน์ “1 ต่อ 1” |
ค่าใช้จ่ายเรียนออนไลน์ “1 ต่อ 2” | |
1 unit |
€49 |
€35 / units ต่อคน |
10 units |
€39 / units |
€30 / units ต่อคน |
25 units | ติดต่อ ศูนย์ฯ เดอะเบสท์ เพื่อขอราคาพิเศษ |
€25 / units ต่อคน |
Studienkolleg Düsseldorf เป็นศูนย์สอบ telc Exam ด้วย
Studienkolleg Düsseldorf เป็นศูนย์สอบอย่างเป็นทางการที่ให้บริการการทดสอบ telc tests Deutsch B1, B2, C1 Hochschule และการสอบอีกมากมาย ทางสถาบันจึงมีหลักสูตรเพื่อเตรียมความพร้อมให้นักเรียนที่หลากหลาย
telc ย่อมาจาก “The European Language Certificates” ซึ่งเป็นการทดสอบภาษาที่อิงตาม the Common European Framework of Reference for Languages (CEFR) ของยุโรป ดังนั้นมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ในเยอรมันจะใช้ telc เป็นข้อกำหนดสำหรับวัดผลทางภาษาเยอรมัน ข้อสอบประกอบไปด้วยส่วนปากเปล่าและส่วนที่เป็นลายลักษณ์อักษร
ที่พักสำหรับนักศึกษา
การหาที่พักในเมืองยอดนิยมอย่างเช่น Düsseldorf นั้นไม่ใช่เรื่องยาก ที่พักสามารถหาได้หลากหลายรูปแบบและค่าใช้จ่ายไม่สูง นอกจากนี้ ทางสถาบันได้จัดเตรียมที่พักใกล้กับ Studienkolleg Düsseldorf ให้เลือกหลายรูปแบบอีกด้วย
อพาร์ตเมนต์มาตรฐาน: ห้องเตียงใหญ่
- คำอธิบาย: ห้องรวม ห้องครัวและห้องน้ำรวม
- ระยะทาง: สูงสุด 45 นาที โดยการเดิน / ขนส่งสาธารณะ
- ราคา: 480 € / ต่อเดือน (ราคาพิเศษ 420 € / ต่อเดือน เฉพาะการจองห้องพักระยะยาวมากกว่า 6 เดือน*)
อพาร์ตเมนต์มาตรฐาน: ห้องเดี่ยว
- คำอธิบาย: ห้องเดี่ยว ห้องครัวและห้องน้ำรวม
- ระยะทาง: สูงสุด 45 นาที โดยการเดิน / ขนส่งสาธารณะ
- ราคา: 640 € / ต่อเดือน (ราคาพิเศษ 560 € / ต่อเดือน เฉพาะการจองระยะยาวมากกว่า 6 เดือน*)
คอมฟอร์ทอพาร์ตเมนต์: ห้องเตียงใหญ่
- คำอธิบาย: ห้องรวม ห้องครัวและห้องน้ำรวม
- ระยะทาง: สูงสุด 15 นาที โดยเท้า / ขนส่งสาธารณะ
- ราคา: 600 € / ต่อเดือน (ราคาพิเศษ 520 € / ต่อเดือน เฉพาะการจองระยะยาวมากกว่า 6 เดือน*)
คอมฟอร์ทอพาร์ตเมนต์: ห้องเดี่ยว
- คำอธิบาย: ห้องเดี่ยว ห้องครัวและห้องน้ำรวม
- ระยะทาง: สูงสุด 15 นาที โดยเท้า / ขนส่งสาธารณะ
- ราคา: 760 € / ต่อเดือน (ราคาพิเศษ 660 € / ต่อเดือน เฉพาะการจองระยะยาวมากกว่า 6 เดือน*)
อพาร์ตเมนต์เฉพาะสุภาพสตรี
หากต้องการที่พักสำหรับสตรีเท่านั้น สามารถจองห้องเดี่ยวในอพาร์ทเมนท์สำหรับสตรีเท่านั้นได้ ซึ่งอพาร์ตเมนต์ทั้งหมดประกอบไปด้วย ห้องครัว และพื้นที่ส่วนกลางใช้ร่วมกับเพื่อนร่วมห้องคนอื่นๆ
- คำอธิบาย: ห้องของคุณเอง ห้องครัวและห้องน้ำรวม
- ระยะทาง: สูงสุด 15 นาที โดยเท้า / ขนส่งสาธารณะ
- ราคา: 760 € / ต่อเดือน (ราคาพิเศษ 660 € / ต่อเดือน เฉพาะการจองระยะยาวมากกว่า 6 เดือน*)
หมายเหตุ:
- มีค่าธรรมเนียมแบบครั้งเดียว 59 €ต่อการจอง
- ราคาพิเศษสำหรับผู้ที่จองที่พักเกิน 6 เดือนและชำระค่าเช่าทั้งหมดล่วงหน้าในครั้งเดียวเท่านั้น
วางแผนเรียนต่อเยอรมันที่ Studienkolleg Düsseldorf เริ่มต้นอย่างไร?
หากต้องการเรียนต่อเยอรมันที่สถาบัน Studienkolleg Düsseldorf ขั้นตอนต่อไปคือการวางแผนการเรียน โดยประเทศเยอรมนี เป็นประเทศที่ต้องวางแผนอย่างรอบด้าน และทราบวัตถุประสงค์ของตัวเองอย่างชัดเจน เพราะจะส่งผลในการขอวีซ่าด้วย
1. ตรวจสอบคุณสมบัติในการสมัครเรียน STUDIENKOLLEG
- สำเร็จการศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
- ทักษะภาษาเยอรมันระดับB2 (โดยแสดงเป็นผลสอบ Goethe-Zertifikat B2 , TestDaF [4x TDN 3], telc Deutsch B2 , DSH-1 , DSD 2 หรือ ÖSD )
2. เลือกหลักสูตรที่ต้องการศึกษาต่อ
ผู้สมัครควรเลือกวิทยาเขตที่สอดคล้องกับหลักสูตร หรือเป้าหมายในการเรียนระดับปริญญาตรีในอตาคต เช่น
- หากต้องการเรียนต่อในหลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์ จะต้องเลือกเรียนหลักสูตร Studienkolleg T-Kurs
- หากต้องการเรียนต่อในหลักสูตรเศรษฐศาสตร์ จะต้องเลือกเรียนหลักสูตร Studienkolleg W-Kurs
- หากต้องการเรียนต่อในหลักสูตรแพทย์ศาสตร์ จะต้องเลือกเรียนหลักสูตร Studienkolleg M-Kurs
หากยังไม่แน่ใจว่าอยากเรียนหลักสูตรไหน คลิก เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักสูตร Studienkolleg หรือสามารถติดต่อศูนย์ฯ เดอะเบสท์ เพื่อขอตรวจสอบวันเปิดเรียน และวางแผนการเรียนได้เลย
3. เตรียม BLOCKED ACCOUNT ให้พร้อม
Blocked Account คือการเปิดบัญชีธนาคารในประเทศเยอรมนีสำหรับระยะเวลา 1 ปี เพื่อยืนยันว่านักเรียนมีหลักฐานทางการเงินที่เพียงพอ เป็นหนึ่งในข้อกำหนดสำหรับการยื่นวีซ่านักเรียนประเทศเยอมนนี เพื่อแสดงให้สถานทูตเห็นว่า นักเรียนสามารถอยู่อาศัยในประเทศเยอรมนี ในฐานะนักเรียนได้ในระยะเวลาหนึ่งปี นอกจากนี้ Blocked Account ยังใช้เป็นหลักฐานทางการเงินเพื่อยื่นขอวีซ่านักเรียนในเยอรมนีระยะยาว (National Visa) ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติและข้อบังคับของสถานทูต โดยจำนวนเงินบังคับที่สถานทูตกำหนดให้ต้องฝากเข้าบัญชีธนาคาร Blocked Account คือ €10,236 (ประมาณ 378,732 บาท) เมื่อนักเรียนเริ่มภาคการศึกษาแรกในเยอรมนี จะสามารถถอนได้จำนวน €853 (ประมาณ 31,561 บาท) ต่อเดือน
4. ติดต่อศูนย์ฯ เดอะเบสท์ เพื่อสมัครเรียน และดำเนินการเรื่องวีซ่า
ปรึกษาและวางแผนการเรียนกับทางศูนย์ฯ เดอะเบสท์ เพื่ออำนวยความสะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่าย ได้รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ เพราะอย่างที่กล่าวไปข้างต้น ถ้าหากแผนการเรียนไม่ชัดเจน หรือทำผิดเงื่อนไข ก็ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่วางแผนเรียนภาษาเยอรมัน เพื่อเข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาประเทศเยอรมนี จะต้องวางแผนการเรียนให้รอบครอบและเป็นแบบแผนมากที่สุด แนะนำให้ติดต่อล่วงหน้าอย่างน้อย 4 – 6 เดือน ก่อนเริ่มเริ่มเรียนเพื่อจะได้มีเวลาเตรียมตัว และเตรียมเอกสารให้ครบถ่วน
ข้อดีของการใช้บริการ ศูนย์ฯ เดอะเบสท์
- ให้คำแนะนำสำหรับการเรียนต่อต่างประเทศโดยตรง ศูนย์ฯ เดอะเบสท์ สามารถวางแผนการเรียนตั้งแต่การเลือกประเทศ การเลือกเมือง การเลือกหลักสูตรทั้งระยะสั้น ระยะยาว พร้อมแนะนำโรงเรียนอย่างละเอียด
- ช่วยติดต่อ ประสานงานกับสถาบันการศึกษาในต่างประเทศ แน่นอนว่า การจะติดต่อสอบถาม ค่าใช้จ่าย และอื่นๆ จะต้องสอบถามเป็นภาษาอังกฤษ โดยเอเจ้นท์จะทำการติดต่อทั้งหมด รวมถึงการสมัครเรียนด้วย
- ช่วยเตรียมเอกสารสมัครเรียน เอกสารยื่นวีซ่า ไม่ว่าจะเป็นการกรอกใบสมัคร การเตรียมเอกสารสมัครเรียนและยื่นวีซ่าทั้งหมด ซึ่งแต่ละสถาบัน จะมีเงื่อนไขการรับสมัครที่แตกต่างกัน บางสถาบัน จะต้องเขียนเรียงความ เพื่อสมัครเข้าเรียน ซึ่งเอเจ้นท์ จะมีหน้าที่ดูแล และ Review เอกสาร เพื่อให้เอกสารสมบูรณ์ที่สุด
- ช่วยจัดหาตั๋วเครื่องบิน จัดหาที่พัก บริการรถรับส่งสนามบิน หากเป็นการเรียนต่อต่างประเทศครั้งแรก การใช้บริการเอเจ้นท์ อาจช่วยอำนวยความสะดวกได้อย่างมาก รวมถึงนักเรียนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี เอเจ้นท์จะคอยจัดหาที่พักแบบ โฮมสเตย์ หรือ หอพักโรงเรียน และคอยรายงานผลการเรียนของนักเรียนให้ผู้ปกครองทราบอย่างใกล้ชิด
- ดูแลตั้งแต่เริ่มเรียน จนเรียนจบ หลังจากที่เดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศแล้ว เอเจ้นท์ยังดูแล และให้ความช่วยเหลือเช่นเดิม ตลอดทั้งระยะเวลาการศึกษา นักเรียนสามารถขอคำปรึกษาจากเอเจ้นท์ได้ตลอดเวลา จนนักเรียนเรียนจบ และเป็นประโยชน์อย่างมาก
- ช่วยวางแผนการเรียนต่อ หลังเรียนภาษาเยอรมัน นักเรียนหลายๆ คนอาจมีเป้าหมายในการเรียนต่อ หลังจากเรียนภาษา เช่น เรียนต่อในระดับปริญญาตรี หรือ Studienkolleg ซึ่งมีเงื่อนไข และเกณฑ์การรับเข้าที่ซับซ้อน และหลายขั้นตอน ศูนย์ฯ เดอะเบสท์ จะทำงานร่วมกับสถาบันสอนภาษาที่นักเรียนได้ทำการเรียนอยู่ ช่วยเตรียมตัว ประสานงาน และเตรียมความพร้อม ก่อนเข้าเรียนระดับปริญญาตรีปริญญาตรี หรือ Studienkolleg
“เรายินดีที่จะดูแลนักเรียนทุกคน ตั้งแต่เริ่มต้นจนนักเรียนสำเร็จการศึกษา และทำให้การเรียนต่อของคุณเป็นเรื่อง่าย ” สอบถามข้อมูลการบริการเพิ่มเติมติดต่อ
โทร : 090-327 3558, 088-269 5099
Email : contact@thebest-edu.com
Line : @thebestedu หรือคลิกเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ
ทำไมควรเลือกเรียนต่อปริญญาตรี ที่ประเทศเยอรมนี?
- ประเทศเยอรมนีเรียนฟรี ไม่มีค่าเล่าเรียนตลอดระยะเวลาการศึกษาในระดับอุดมศึกษา นักศึกษาทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาชาวเยอรมนี หรือนักศึกษาชาวต่างชาติ ที่เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยของรัฐบาลในประเทศเยอรมนี ไม่ต้องจ่ายค่าเล่าเรียน เพียงจ่ายแค่ค่าลงทะเบียนเรียนประมาณ €250 ต่อภาคการศึกษา แต่จะได้กลับคืนในรูปแบบตั๋วโดยสารสาธารณะฟรี ตลอด 1 เทอม
- มหาวิทยาลัยทุกแห่ง มีคุณภาพระดับโลก บางมหาวิทยาลัยได้รับการจัดอันดับให้เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกอย่างต่อเนื่อง และหลักสูตรการศึกษาที่มีความโดดเด่น การวิจัยที่เป็นที่ยอมรับ สามารถนำไปใช้ได้จริง
- เยอรมนีเป็นประเทศแห่งอุตสาหกรรม เยอรมนีได้ลงทุนในมหาวิทยาลัยด้านวิศวกรรมเป็นจำนวนมาก และปัจจุบันโปรแกรมวิศวกรรมได้รับการยกย่องเป็นพิเศษในมหาวิทยาลัยในเยอรมัน อย่างไรก็ตามมีโปรแกรมการศึกษามากมายที่เปิดสอนในมหาวิทยาลัยเหล่านี้และในบางแห่งก็เป็นผู้นำระดับโลก เช่น การแพทย์และเภสัชศาสตร์
- หลักสูตรมีคุณภาพสูง การศึกษาของมหาวิทยาลัยในเยอรมนีมีคุณภาพสูงระดับโลก ทั้งด้านโครงสร้าง และเนื้อหาหลักสูตรที่สอน ได้รับการปรับปรุง และพัฒนาให้ทันสมัยที่สุด โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องอย่างมีพลวัต
- วุฒิการศึกษาเป็นที่ยอมรับทั่วโลก นายจ้างทั่วโลกตระหนักถึงคุณภาพการศึกษาของประเทศเยอรมนี ซึ่งจะทำให้ไว้วางใจได้รับผิดชอบงานสเกลใหญ่ๆ ที่มีคุณภาพ และค่าตอบแทนสูง ยิ่งไปกว่านั้น นักศึกษาหลายคนมักจะได้งานทำก่อนเรียนจบ
- ค่าครองชีพที่คุ้มค่า หลายๆ คนอาจจะคิดว่า ประเทศเยอรมนี มีค่าครองชีพสูง แต่นั่นเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของประเทศ เฉพาะในเมืองท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ค่าครองชีพโดยรวมของประเทศเยอรมนี ต่ำกว่าหลายๆ ประเทศในโซนยุโรป ยิ่งหากเลือกเรียนในเมืองที่ไม่ใช่เมืองท่องเที่ยว ค่าครองชีพยิ่งถูกลงอีกเยอะมาก และทุกเมือง มีมหาวิทยาลัยที่มีคุณภาพสูงเช่นเดียวกัน
- สามารถทำงานพาร์ทไทม์ได้ด้วย ประเทศเยอรมนี อนุญาตให้ผู้ที่ถือวีซ่านักเรียนทำงานพาร์ทไทม์ได้ 20 ชั่วโมง/สัปดาห์ หรือ 120 วันตลอดทั้งปี และ 60% ของนักศึกษาต่างชาติ ก็เรียนด้วยทำงานด้วยเช่นเดียวกัน โดยลักษณะงานมีให้เลือกมากมาย (ยิ่งได้ภาษาเยอรมันจะยิ่งมีโอกาสมากกว่าผู้อื่น) ตั้งแต่พนักงานต้อนรับในร้านอาหาร ผู้ช่วยครูเด็กอนุบาล บาริสตา บาร์เทนเดอร์ เจ้าหน้าที่ธุรการ นอกจากจะได้รับค่าตอบแทนแล้ว ประสบการณ์การทำงานในเยอรมนี จะช่วยเพิ่มเครือข่ายและโอกาสการจ้างงานในอนาคตอีกด้วย
- ได้เรียนรู้ และฝึกภาษาเยอรมันด้วย ภาษาเยอรมันเป็นภาษาที่ใช้มากที่สุดในทวีปยุโรป และบริษัทกว่าครึ่งของยุโรป เป็นบริษัทสัญชาติเยอรมัน ดังนั้น การที่สามารถฟัง พูด อ่าน เขียน ภาษาเยอรมันได้ ก็เท่ากับว่าจะได้รับโอกาสในการทำงานมากกว่าคนอื่นๆ
- ประเทศเยอรมนี เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม ปัจจุบัน ประเทศเยอรมนีเป็นที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติมากมาย ดังนั้น จะได้เรียนรู้ และศึกษาวัฒนธรรมที่แตกต่างจากทั่วทุกมุมโลก และเพื่อนร่วมชั้นเรียนอาจมาจากประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ดังนั้น ผู้เรียนมีโอกาสพูดได้มากกว่า 3 ภาษา
- ได้ท่องเที่ยวได้ทั่วยุโรป ผู้ที่เดินทางมาเรียนต่อยุโรป ไม่ว่าจะเป็นเรียนภาษาระยะสั้น หรือเรียนระดับอุดมศึกษา สามารถเดินทาง ท่องเที่ยวได้ทั่วทุกประเทศในเครือเชงเก้น โดยไม่ต้องขอวีซ่าประเทศอื่นเพิ่ม ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีในการท่องเที่ยวประเทศอื่นๆ ระหว่างปิดภาคการศึกษา เช่น ประเทศฝรั่งเศส ประเทศออสเตรีย ประเทศเนเธอร์แลนด์
- ประเทศเยอรมนีมีมรดกโลกที่ได้รับการจดทะเบียนจาก UNESCO ประเทศเยอรมนี เป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และมีความร่ำรวยมาก หากมาเรียนที่เยอรมนี จะได้มีโอกาสได้ท่องเที่ยวเมืองมรดกโลกหลายแห่ง ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม
โอกาสการทำงานหลังเรียนจบ
นักศึกษาต่างชาติ ที่มาจากประเทศที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสหภาพยุโรป Non EU/EEA ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป สามารถอยู่ในเยอรมนีเพื่อหางานทำได้หลังเรียนจบได้ด้วยโดยสามารถยื่นขออยู่ต่อได้สูงสุด 18 เดือน โดยจะต้องขอวีซ่าทำงานชั่วคราวหลังเรียนจบ Aufenthaltserlaubnis (Temporary Residence Permit หรือ Limited Residence Permit) ทันทีหลังสำเร็จการศึกษา โดยแสดงหลักฐานการสำเร็จการศึกษา หลักฐานประกันสุขภาพ และหลักฐานการเงินที่เพียงพอต่อค่าครองชีพ
ทันทีที่ได้งานทำ ก็จะสามารถขอวีซ่าทำงาน หรือ EU-Blue Card ซึ่งเป็นใบอนุญาตทำงานที่รับรองจาก 25 ใน 28 ประเทศของสมาชิกสหภาพยุโรป ที่อนุญาตให้ผู้ถือบัตร EU-Blue Card ทำงานและอาศัยอยู่ในเยอรมนีได้ โดยได้รับเงินเดือนและสวัสดิการทางสังคมเช่นเดียวกันกับคนชาติเยอรมัน
EU-BLUE CARD คืออะไร?
EU Blue Card คือใบอนุญาตทำงานที่ประเทศของสมาชิกสหภาพยุโรป ซึ่งออกให้สำหรับ ผู้ที่มีความสามารถ ผู้ที่มีทักษะสูงที่มาจากนอกสหภาพยุโรป (Non-EU) สามารถเข้ามาทำงาน และใช้ชีวิตอย่างถูกกฏหมายในสหภาพยุโรป รวมถึงได้รับค่าจ้าง และสวัสดิการในอัตราเดียวกันกับคนในยุโรป เพื่อกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจ ให้สหภาพยุโรปกลายเป็นพื้นที่ทางเศรษฐกิจของโลกที่มีการแข่งขัน ขับเคลื่อน เปลี่ยนแปลงอย่างเป็นพลวัต และทันกับโลกยุคสมัยใหม่ รวมถึงมีการพัฒนาคุณภาพชีวิต และสวัสดิการทางสังคมให้ดีขึ้น คณะกรรมาธิการยุโรปจึงได้ตั้งข้อเสนอสองข้อ คือ
- สามารถทำงานและรับเงินเดือนในอัตราเดียวกันกับคนในยุโรป โดยฐานเงินเดือนขั้นต่ำอยู่ที่ €43,056 – €55,200 /ปี (ประมาณ 1,600,000 – 2,000,000 บาท/ปี หรือ เฉลี่ย เดือนละ 133,000 – 166,000 บาท/เดือน)
- ได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ทั้งทางเศรษฐกิจและสวัสดิการสังคม เทียบเท่ากับคนชาติเยอรมัน
- มีโอกาสขอเป็นผู้อยู่อาศัยถาวร (Permanent Residence) เมื่อทำงานเป็นระยะเวลา 5 ปี
เรียนต่อเยอรมันค่าครองชีพแพงไหม ค่าใช้จ่ายต่อเดือนเท่าไหร่?
สำหรับนักศึกษาที่ลงเรียนหลักสูตร Freshman Program ค่าใช้จ่ายข้างต้น ครอบคลุมค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าที่พักเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ ยังรวมค่าเดินทาง ค่าระบบขนส่งสาธารณะ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ซึ่งครอบคลุมค่าใช้จ่ายเกือบทั้งหมด เหลือเพียงแค่ค่าของใช้ส่วนตัว และค่าอาหารประจำวันใน ดังนั้น น้องๆ อาจเตรียมค่าใช้จ่ายเพียง €400 – €500 ต่อเดือน ก็เพียงพอ (ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตส่วนตัว)
คลิก เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับค่าครองชีพประเทศเยอรมนี
เรียนต่อเยอรมัน สามารถทำงานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียนได้หรือไม่?
นักศึกษาที่สำเร็จหลักสูตร Freshman Program และได้เข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี จะได้รับอนุญาตให้ทำงานระหว่างเรียน ในประเทศเยอรมันได้ โดยจะได้รับอนุญาตให้ทำงานระหว่างเรียน 120 วันเต็ม (Full Day) หรือ 240 ครึ่งวัน (Half Day) ต่อปี นอกจากนี้ นักศึกษาที่มีความสามารถในการสื่อสารภาษาเยอรมัน มีโอกาสได้งานและเลือกงานได้มากกว่านักศึกษาที่พูดได้เพียงภาษาอังกฤษ เพราะงานที่ต้องมีการติดต่อสื่อสารกับผู้คน ความรู้ภาษาเยอรมันเป็นสิ่งจำเป็น เช่น งานบริการในร้านอาหาร ในร้านขายของ เลี้ยงเด็ก ผู้ช่วยในสำนักงาน เป็นต้น นักศึกษาที่ยังสื่อสารภาษาเยอรมันได้ไม่คล่องนัก อาจหางานประเภทอื่น ๆ ได้ เช่น ผู้ช่วยในร้านอาหาร เป็นต้น
ค่าแรงขั้นต่ำประเทศเยอรมนีประมาณ €9.35 (ประมาณ 347 บาท) ต่อชั่วโมง
อัพเดท 1 มกราคม 2563
คลิก เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำงานระหว่างเรียน ที่ประเทศเยอรมนี
ทำความรู้จักกับเมือง Düsseldorf
Düsseldorf เป็นเมืองหลวงของ North Rhine-Westphalia ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดของเยอรมนี เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของรัฐ และเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับเจ็ดในเยอรมนี มีประชากรทั้งหมดประมาณ 6917,280 คน
เมือง Düsseldorf ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสองสายที่มาบรรจบกัน คือ แม่น้ำไรน์ และแม่น้ำดีสเซล โดยเมืองส่วนใหญ่ตั้งอยู่ทางฝั่งขวาของแม่น้ำไรน์ จากผลสำรวจคุณภาพชีวิต Mercer’s 2012 Quality of Living พบว่า เมือง Düsseldorf เป็นเมืองที่น่าอยู่อันดับ 6 ของโลก เป็นศูนย์กลางธุรกิจและการเงินระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ยังมีชื่อเสียงด้านแฟชั่นและสินถ้าพื้นบ้าน
สภาพอากาศเมือง Düsseldorf
Düsseldorf มีสภาพอากาศแบบมหาสมุทร สภาพอากาศไม่แปรปรวนเมื่อเทียบกับเยอรมนีตะวันออก ในฤดูหนาวมีหิมะตกเล็กน้อย ในฤดูร้อนอากาศอบอุ่นและค่อนข้างเย็น อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปีคือ 11.6 °C (53 °F) และมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 732 มิลลิเมตร (29 นิ้ว) ทิศทางลมที่พัดมาจากทิศตะวันตกด้วยความเร็วในช่วง 3 ถึง 4 เมตร/วินาที (7–9 ไมล์ต่อชั่วโมง) โดยมีลมกระโชกแรง 3.5 −4.8 เมตร/วินาที (8–10.7 ไมล์ต่อชั่วโมง) ลมสงบ (หมายถึงต่ำกว่า 2 เมตร/วินาทีหรือ 4.5 ไมล์ต่อชั่วโมง) ประมาณ 35% ของเวลา บ่อยขึ้นในเวลากลางคืนและในฤดูหนาว
เศรษฐกิจ และสังคมของเมือง Düsseldorf
Düsseldorf ได้กลายเป็นหนึ่งในศูนย์โทรคมนาคมชั้นนำในเยอรมนี ด้วย 2 ใน 4 ผู้ให้บริการความถี่มือถือรายใหญ่ของเยอรมนี D2 Vodafone และ E-Plus ตั้งอยู่ในเมืองนี้ จึงทำให้กลายเป็นผู้นำด้านโทรคมนาคมในเยอรมนี นอกจากนี้ ยังมีบริษัทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารจากต่างประเทศมากมายก่อตั้งในเมือง Düsseldorf เช่น Huawei, NTT, Ericsson, Oppo, Vivo และ Xiaomi
เมือง Düsseldorf เป็นศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญ ให้บริการด้านการเงินและการประกันภัย มีสถาบันการเงินในประเทศและต่างประเทศประมาณ 170 แห่ง และบริษัทประกันภัยประมาณ 130 แห่ง และหนึ่งใน 8 ตลอดหลักทรัพย์ของเยอรมนี HSBC มีสำนักงานใหญ่ในเมือง Düsseldorf
นอกจากนี้ เมือง Düsseldorf ยังมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับประเทศญี่ปุ่น ธนาคารและบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นหลายแห่งมีสำนักงานใหญ่ที่เมืองนี้ จนทำให้เมือง Düsseldorf มีชุมชนชาวญี่ปุ่นใหญ่เป็นอันดับสามในยุโรป รองจากลอนดอนและปารีส และ ยังเป็นศูนย์กลางทางการเงินของสินเชื่อของญี่ปุ่นอีกด้วยเช่น MUFG Bank, SMBC และ Mizuho
ระบบขนส่งสาธารณะเมือง Düsseldorf
- Airport DUS – Düsseldorf Airport หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าสนามบิน Rhein-Ruhr Airport ตั้งอยู่ห่างจากเมืองไปทางเหนือ 8 กิโลเมตร และสามารถเดินทางได้โดยรถไฟ S-Bahn
- Railway – เมืองนี้เป็นศูนย์กลางที่สำคัญในเครือข่ายรถไฟ Deutsche Bahn (DB) รถไฟมากกว่า 1,000 หยุดใน Düsseldorf ทุกวัน รถรางเบา Düsseldorf Stadtbahn ตลอดจนการจราจรรถประจำทางในท้องถิ่นนั้นดำเนินการโดย Rheinbahn ซึ่งเป็นเจ้าของเมือง ซึ่งดำเนินการภายในระบบขนส่งสาธารณะ VRR ระบบรางเบายังให้บริการในเมืองใกล้เคียงและดำเนินการใต้ดินบางส่วน สถานีกลางและสถานีสนามบิน (Flughafen-Bahnhof) เชื่อมต่อกับระบบความเร็วสูงระดับประเทศและยุโรป (Intercity/Eurocity, IC/EC และ InterCityExpress)
- Taxi – ในเมือง Düsseldorf มีรถแท็กซี่ที่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการ 1,320 คัน ตามระเบียบ รถยนต์จะเป็นสีงาช้างเสมอ
- Autobahn – North Rhine-Westphalia มีเครือข่ายออโต้บาห์นที่หนาแน่นที่สุดในเยอรมนี เป็นระบบทางหลวงที่ควบคุมการเข้าถึงของรัฐบาลกลางในประเทศเยอรมนี และ Düsseldorf สามารถเข้าถึงได้โดยตรงผ่านทาง A3, A44, A46, A52, A57, A59 และ A524
- Cycling – Düsseldorf เชื่อมต่อกับเส้นทางปั่นจักรยานระดับชาติและระดับนานาชาติ รวมถึง EV15 The Rhine Cycle Route เป็นสมาชิกของเขต German North Rhine-Westphalia District ซึ่งได้มอบตำแหน่ง “เมืองเพื่อนนักปั่นจักรยาน” ให้แก่ Düsseldorf ในปี 2550 แม้ว่าเมืองนี้จะมีเพียงไม่กี่แห่งก็ตาม ช่องว่างในเครือข่ายเส้นทางจักรยานในสายตาของประชาชนจำนวนมาก
วัฒนธรรม และสิ่งที่น่าสนใจในเมือง Düsseldorf
เมืองแห่งเบียร์ Altbier
Düsseldorf เป็นที่รู้จักกันดีเบียร์ยี่ห้อ Altbier เบียร์ฮ็อปปี้ซึ่งแปลว่าเบียร์แบบเก่า โรงเบียร์แห่งแรกที่ใช้ชื่อ Alt คือ Schumacher ซึ่งเปิดในปี 1838 ใช้วิธีการกลั่นเบียร์ก่อนเบียร์โดยใช้ยีสต์ที่หมักไว้ด้านบนอย่างอบอุ่น เมื่อเวลาผ่านไป ยีสต์ Alt จะปรับอุณหภูมิให้ต่ำลง และผู้ผลิตเบียร์ Alt จะเก็บหรือหมักเบียร์หลังจากการหมัก ส่งผลให้เบียร์สะอาดกว่าและกรอบกว่า ชื่อ “altbier” ปรากฏขึ้นครั้งแรกในศตวรรษที่ 19 เพื่อสร้างความแตกต่างให้กับเบียร์ของ Düsseldorf จากเบียร์ซีดชนิดใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมในเยอรมนี ถึงแม้ผู้ผลิตเบียร์สมัยใหม่ในเมือง Düsseldorf สมัยใหม่หลายแห่งจะใช้มอลต์สีซีดที่ใช้สำหรับหมักเบียร์ลากเกอร์ แต่ยังคงไว้ซึ่งวิธีการแบบเก่า ผลที่ได้คือเบียร์สีซีดที่มีความแห้งเล็กน้อยของลาเกอร์แต่มีกลิ่นผลไม้ด้วย
เมืองแห่งดนตรีและแสงสีเสียง
นับตั้งแต่ทศวรรษ 1950 เป็นต้นมา “Kom(m)ödchen” เป็นหนึ่งในการแสดงคาบาเร่ต์ทางการเมืองที่โดดเด่นที่สุดของเยอรมนี ลงานที่โด่งดังที่สุดของเมืองในด้านวัฒนธรรมของดนตรีป็อปสมัยใหม่คือวงดนตรีอิเล็กทรอนิกส์แนวหน้าชื่อ Kraftwerk ก่อตั้งขึ้นโดยนักดนตรีที่เกิดในเมือง Düsseldorf เพียงไม่กี่คน เป็นที่รู้จักในระดับสากลว่าเป็นวงดนตรีที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ดนตรีเยอรมันหลังสงครามและเป็นผู้บุกเบิกดนตรีอิเล็กทรอนิกส์
กลุ่มดนตรีที่มีอิทธิพลอื่น ๆ ที่มีต้นกำเนิดจาก Düsseldorf ได้แก่ Neu! ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1971 โดย Klaus Dinger และ Michael Rother หลังจากที่แยกจาก Kraftwerk และ La Düsseldorf ก่อตั้งโดย Dinger ในปี 1976 ไม่นานหลังจาก Neu! ยกเลิก ทั้งสองกลุ่มมีอิทธิพลอย่างมากต่อศิลปินเพลงร็อก โพสต์พังก์ และอิเล็กทรอนิกส์ที่หลากหลาย
เมืองหลวงแห่งแฟชั่นของเยอรมนี
Düsseldorf เป็นเมืองหลวงแห่งแฟชั่นของเยอรมนีมาเป็นเวลาหลายสิบปี (ยังเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมที่สำคัญสำหรับฉากศิลปะและแฟชั่น) เบอร์ลิน ‘เมืองหลวงแฟชั่น’ ของเยอรมนีจนถึงปี 1945 สูญเสียตำแหน่งเนื่องจากตำแหน่งพิเศษภายในเขตยึดครองของสหภาพโซเวียต หลังจากการปฏิรูปการเงินเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 1948
ตลาดคริสมาสที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมนี
ทุกๆ คริสต์มาส เมือง Düsseldorf จะใช้ใจกลางเมืองเป็นเจ้าภาพจัดงานคริสต์มาสที่ใหญ่ที่สุดงานหนึ่งในเยอรมนี เทศกาลคริสต์มาสจัดขึ้นทุกปีตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน ถึง 23 ธันวาคม ของทุกปี เทศกาลคริสต์มาสนี้ทำให้ Düsseldorf เป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับนักท่องเที่ยว เนื่องจากผู้คนจำนวนมากเดินทางมาเพื่อดื่มไวน์และช็อคโกแลตร้อน และชมช่างเป่าแก้วและสร้างสรรค์งานศิลปะ ภายในงานประกอบด้วยซุ้มไม้ขนาดเล็กจำนวนมากที่กระจุกตัวอยู่กลางเมืองเพื่อให้ประชาชนทุกคนได้เพลิดเพลิน งานนี้สำหรับผู้มาเยี่ยมชมจำนวนมากมีความรู้สึกแบบยุโรปเก่า แต่มีชีวิตชีวามาก
เมืองแห่งอาหารเลิศรส
มหานครไรน์เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีความหลากหลายมากที่สุดในแง่ของความหลากหลายในการทำอาหาร อาหารแบบดั้งเดิมในภูมิภาคนี้คือ Rheinischer Sauerbraten เนื้อวัว (บางครั้งใช้เนื้อม้า) หมักด้วยน้ำส้มสายชูและเครื่องเทศเป็นเวลา 2 – 3 วัน เสิร์ฟพร้อมเกรวี่และลูกเกด ในฤดูหนาว คนชอบกิน Muscheln Rheinischer Art (หอยแมลงภู่ Rhenish) และ Reibekuchen (แพนเค้กมันฝรั่งทอดเสิร์ฟกับซอสแอปเปิ้ล)
Düsseldorf เป็นที่รู้จักของ Dijon หรือมัสตาร์ดเข้มข้นเสิร์ฟในหม้อดั้งเดิมที่เรียกว่า “Mostertpöttche” และ อาหารเลิศรสของ Düsseldorf หลายรายการได้รับการยอมรับและเข้าเยี่ยมชมโดยไกด์นำเที่ยวชั้นนำทั่วโลกของ Lonely Planet นอกจากอาหารทางวัฒนธรรมที่หลากหลายแล้ว Düsseldorf ยังเป็นที่ตั้งของร้านอาหารระดับดาวมิชลินหลายแห่งที่มีชื่อเสียงระดับโลกอีกด้วย
ติดต่อเดอะเบสท์เพื่อสอบถามข้อมูลการเรียนต่อต่างประเทศเพิ่มเติม
เดอะเบสท์ เป็นศูนย์บริการให้คำปรึกษาเรียนต่อต่างประเทศครบวงจร เราเป็นตัวแทนที่ให้บริการแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และ ประเทศอื่นๆ อีก 25 ประเทศทั่วโลก เรายินดีให้ความช่วยเหลือตั้งแต่เริ่มสมัครเรียน จนสำเร็จการศึกษา รวมถึงดูแลนักเรียนระหว่างเรียนจนนักเรียนเรียนจบด้วยทีมผู้เชียวชาญในด้านการเรียนต่อต่างประเทศ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ขั้นตอนเหล่านี้เราดำเนินการให้ฟรี และเราพร้อมที่จะทำตามคุณภาพ และมาตรฐานดังสโลแกนที่ว่า “We are Quality”
บริการของเรามีอะไรบ้าง ?
- ฟรี!! บริการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเรียนต่อต่างประเทศทุกระดับชั้นทั่วโลก ตั้งแต่ โรงเรียนประถม โรงเรียนมัธยม สถาบันวิชาชีพ และสถาบันในระดับอุดมศึกษา รวมถึงหลักสูตรภาษาต่างประเทศ และเลือกสถาบันที่ดีที่สุดให้กับผู้เรียน
- เราให้ความช่วยเหลือตั้งแต่การประสานงานโรงเรียน เลือกโรงเรียนให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียน เตรียมเอกสารสมัครเรียน และดำเนินเรื่องสมัครเรียนให้ฟรี
- บริการเตรียมเอกสารยื่นวีซ่าครบวงจร และบริการยื่นวีซ่ากว่า 25 ประเทศทั่วโลก พร้อมวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าอย่างตรงจุด และแนะนำวิธีการเตรียมตัวในการสัมภาษณ์วีซ่า
- บริการแปลเอกสาร ภาษาไทย – ภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาอังกฤษ – ภาษาไทย รวมถึงภาษาที่ 3 เริ่มต้นเพียงแผ่นละ 200 บาท
- เดอะเบสท์ เป็นตัวแทนรับสมัครสอบ IELTS IDP อย่างเป็นทางการ พร้อมให้คำแนะนำ และนัดวันสอบให้โดยน้องๆ ไม่ต้องเสียเวลาสมัครเอง สมัครสอบได้ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
- บริการซื้อประกันภัยการเดินทางและประกันสุขภาพนักเรียนต่างชาติ จากบริษัทประกันชั้นนำ MSIG, NIB, Allianz, Orbit และอื่นๆ
- บริการจองตั๋วเครื่องบิน ทุกสายการบิน และประสานงานกับสถาบันเกี่ยวกับรถรับ – ส่ง สนามบิน
- บริการจัดหาที่พักทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นโฮมสเตย์ อพาร์ทเม้น หรือหอพักนักศึกษา จัดหาให้ตามความต้องการส่วนบุคคล
“เรายินดีที่จะดูแลนักเรียนทุกคน ตั้งแต่เริ่มต้นจนนักเรียนสำเร็จการศึกษา และทำให้การเรียนต่อของคุณเป็นเรื่องง่าย ” สอบถามข้อมูลการบริการเพิ่มเติมติดต่อ
โทร : 090-327 3558, 088-269 5099
Email :contact@thebest-edu.com
Line : @thebestedu หรือคลิกเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.