Last updated มิถุนายน 9, 2022 ago by Thebestedu
คำแนะนำเกี่ยวกับรูปถ่ายดิจิทัล สำหรับใช้ยื่นวีซ่า ประเทศสหรัฐอเมริกา
ในขั้นตอนการยื่นคำร้องขอวีซ่าชั่วคราว ผู้สมัครต้องแนบไฟล์รูปถ่ายดิจิตอลที่ได้ถ่ายไว้ภายในระยะเวลาไม่เกินหกเดือนในขั้นตอนการกรอกและยื่นแบบฟอร์ม DS-160 โดยท่านจะต้องนำรูปถ่ายตัวจริงติดตัวไปในวันสัมภาษณ์วีซ่าด้วย และจะต้องผ่านการบันทึกลายนิ้วมือเมื่อมาถึงสถานทูตหรือสถานกงสุลอเมริกา ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2559 ผู้สมัครต้องไม่สวมแว่นตาในรูปถ่าย
รูปถ่ายที่ท่านใช้ในการยื่นคำร้องขอวีซ่าจะต้องมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ทุกประการทั้งขนาดและสิ่งที่ปรากฏในรูป การยื่นรูปถ่ายที่ขาดคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้อาจมีผลให้กระบวนการยื่นคำร้องขอวีซ่าของท่านล่าช้า รูปถ่ายที่แนบมากับแบบฟอร์ม DS-160 จะต้องเป็นรูปที่ถ่ายไว้ไม่เกินหกเดือน หากท่านกำลังยื่นคำร้องขอวีซ่าแทนวีซ่าที่หมดอายุไปแล้ว ท่านต้องถ่ายรูปใหม่ ห้ามใช้รูปถ่ายเดิมที่ปรากฎบนวีซ่าเก่า หากท่านยื่นรูปถ่ายที่ขาดคุณสมบัติ ท่านต้องยื่นรูปถ่ายใหม่ก่อนที่สถานทูตหรือสถานกงสุลจะทำการพิจารณคำร้องขอวีซ่าของท่าน แม้ว่าท่านจะได้อัพโหลดออนไลน์ไปแล้วก็ตาม
ข้อกำหนดเกี่ยวกับรูปถ่ายดิจิตอล
- ต้องเป็นรูปถ่ายสี
- รูปถ่ายต้องมีอายุไม่เกิน 6 เดือน
- พื้นหลังรูปถ่ายต้องเป็นสีขาว หรือสีเทา
- รูปถ่ายต้องหันศีรษะเต็มหน้า
- สีดวงตาต้องเป็นสีธรรมชาติ และลืมตาทั้งสองข้าง
- ไม่สวมหมวกหรือผ้าคลุมศีรษะที่บดบังใบหน้าและเส้นผม ยกเว้นเพื่อจุดประสงค์ทางศาสนา โดยจะต้องมองเห็นใบหน้าชัดเจน และผ้าคลุมศีรษะต้องไม่ทำให้เกิดเงาบนในหน้า
- ไม่สวมใส่อุปกรณ์หูฟังทุกชนิด รวมถึงอุปกรณ์ที่คล้ายกับอุปกรณ์หูฟัง
- ไม่อนุญาตให้สวมแว่นตาในการถ่ายภาพ ยกเว้นในบางกรณีที่ไม่สามารถถอดแว่นตาได้ด้วยเหตุผลทางการแพทย์ เช่น ได้รับการผ่าตัดดวงตา และจำเป็นต้องใส่แว่นเพื่อป้องกันดวงตา โดยจะต้องมีคำชี้แจงที่ลงนามโดยแพทย์ โดยมีข้อกำหนดเพิ่มเติมดังนี้
- กรอบแว่นต้องไม่บังสายตา
- ต้องไม่มีแสงสะท้อนบนแว่นตา
- ต้องไม่มีเงาหรือการหักเหจากแว่นที่บดบังดวงตา
- หากปกติคุณสวมเครื่องช่วยฟังหรือสิ่งของที่คล้ายกันอุปกรณ์เหล่านี้อาจสวมใส่ในรูปถ่ายของคุณได้
- ไม่ยอมรับรูปถ่ายที่ถ่ายหรือสแกนแบบดิจิทัลจากใบขับขี่หรือเอกสารทางราชการอื่นๆ
- ไม่อนุญาตให้ใช้สแนปชอตรูปถ่ายนิตยสารตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติคุณภาพต่ำหรือรูปถ่ายจากโทรศัพท์มือถือ
ตัวอย่างรูปถ่ายดิจิตอล
ขนาดศีรษะ
ความสูงของศีรษะ เมื่อวัดจากด้านบนสุดของศีรษะซึ่งรวมผมด้วยจนถึงใต้คางจะต้องอยู่ระหว่าง 50% ถึง 70% ของความสูงของรูปถ่ายทั้งหมด ระดับดวงตาที่วัดจากด้านล่างสุดของรูปถ่ายจนถึงระดับดวงตาควรอยู่ระหว่าง 55% ถึง 70% – หรือประมาณ 2/3 ของความสูงของรูปถ่าย
ขนาดของรูปถ่าย
รูปถ่ายของท่านต้องเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาด 2 นิ้ว ซึ่งหมายความว่าความสูงและความกว้างของรูปจะต้องเท่ากัน รูปถ่ายต้องมีขนาดไม่ต่ำกว่า 600 พิกเซล x 600 พิกเซล (สูง x กว้าง) และมีขนาดไม่เกิน 1200 พิกเซล x 1200 พิกเซล (สูง x กว้าง)
ทิศทางของศีรษะ
ทิศทางของศีรษะเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับรูปถ่ายที่ใช้ในการสมัครขอวีซ่า ผู้สมัครจะต้องใช้รูปถ่ายที่สามารถมองเห็นใบหน้าเต็มได้ภายในกรอบของรูป มองกล้องตรงๆ และอย่าหลับตา
จัดองค์ประกอบให้ดี
รูปถ่ายของท่านจะต้องแสดงทั้งศีรษะตั้งแต่ด้านบนสุดของผมจนถึงบริเวณใต้คาง ในภาพที่ถูกต้องความสูงของศีรษะจะอยู่ที่ 1-1-3/8 นิ้ว (25 ถึง 35 มม.) หรือคิดเป็น 50% – 70% ของรูปถ่าย ดังตัวอย่าง:
อยู่ตรงกลางของรูป
จัดศีรษะของท่านให้อยู่ตรงกลางระหว่างกรอบรูปทั้งสองด้านอย่างพอดี
ลืมตา
ห้ามใส่แว่นตา ท่านจะต้องลืมตา ดวงตาของท่านควรอยู่ในระดับ 2/3 เมื่อวัดจากด้านล่างของรูปถ่ายขึ้นไปด้านบน หรือ 1-1/8 นิ้ว ถึง 1-3/8 นิ้ว (28 มม. ถึง 35 มม.) หรือประมาณ 60% จากด้านล่างของรูปถ่าย ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2016 ไม่อนุญาตให้ผู้สมัครใส่แว่นตาถ่ายรูปประกอบใบสมัครวีซ่า คลิก เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม
พื้นหลัง
พื้นที่ด้านหลังรูปถ่ายควรเป็นสีขาวและไม่ควรมีสิ่งใดระเกะระกะ นั่งถ่ายรูปโดยใช้ฉากหลังที่เป็นสีขาวจะช่วยให้ได้รูปที่ดีที่สุด
อย่าให้ภาพมีเงา
ควรนั่งลงเพื่อให้ใบหน้าดูสว่างและจะช่วยให้ไม่เกิดเงาบนใบหน้าหรือพื้นหลัง
ทำตัวตามสบายและให้ดูเป็นธรรมชาติ
ท่านควรแสดงสีหน้าอย่างเป็นธรรมชาติเมื่อถ่ายรูป อย่าสวมหมวกหรือสิ่งคลุมศีรษะที่เป็นการปกปิดผมหรือแนวผมยกเว้นในกรณีที่ผู้สมัครสวมใส่ทุกวันภายใต้ข้อกำหนดทางศาสนา ในรูปถ่ายจะต้องมองเห็นทั้งใบหน้าเต็มและสิ่งปิดคลุมศีรษะจะต้องไม่ทำให้เกิดเงาบนใบหน้า ห้ามใส่แว่นตา ตัวอย่าง
คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวข้อกำหนดรูปถ่ายดิจิทัล สำหรับยื่นวีซ่า ประเทศสหรัฐอเมริกา
ข้อมูลจากเว็บไซต์ของ กรมการกงสุลสหรัฐฯ และ เว็บไซต์ของสถานกงสุล
บทความแนะนำเกี่ยวกับเรียนต่ออเมริกาที่ทางศูนย์ฯ เดอะเบสท์ ได้สรุปเรียบร้อยแล้ว วางแผนเรียนต่ออเมริกา แนะนำให้อ่าน
คำแนะนำเกี่ยวกับการสัมภาษณ์วีซ่านักเรียนอเมริกา
เมื่อผู้สมัครวีซ่า F กรอกเอกสารทั้งหมดสำหรับการยื่นวีซ่าเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปในการพิจารณาคุณสมบัติคือ “การสัมภาษณ์วีซ่านักเรียน” ในการสัมภาษณ์วีซ่านักเรียนแต่ละครั้ง ผู้สมัครจะมีเวลาเข้าสัมภาษณ์เพียงแค่ 3 – 5 นาที โดยเนื้อหาสัมภาษณ์จะเกี่ยวข้องกับคุณสมบัติของผู้สมัครวีซ่า (บางกรณีไม่จำเป็นต้องสัมภาษณ์หากนักเรียนอายุต่ำกว่า 13 ปี หรืออายุมากกว่า 80 ปี) โดยทางศูนย์ฯ เดอะเบสท์ ได้สรุปการเตรียมตัวสัมภาษณ์วีซ่านักเรียนอเมริกา คลิก เพื่อศึกษาคำแนะนำเกี่ยวกับการสัมภาษณ์วีซ่านักเรียนอเมริกา
เรียนปริญญาตรีที่อเมริกา ไม่แพงอย่างที่คิด ทำความรู้จักกับระบบ 2+2 UNIVERSITY TRANSFER SYSTEM
หลักสูตร 2 + 2 University Transfer System คือโปรแกรมการเรียนที่เกิดจากความร่วมมือของ Community College กับ University ในสหรัฐอเมริกา โดยที่นักเรียนใช้เวลา 2 ปีแรกเรียนที่ Community College และรับวุฒิ Associate’s Degree จากนั้นโอนหน่วยกิตมาเรียนต่อปีที่ 3 และ 4 ในมหาวิทยาลัยที่อเมริกาและรับวุฒิ Bachelor’s Degree ซึ่งโปรแกรมเรียนนี้จะมีค่าใช้จ่ายถูกกว่าการเรียน 4 ปีเต็มที่มหาวิทยาลัย เนื่องจากค่าธรรมเนียมการศึกษาใน Community College จะไม่สูง สมัครเรียนเข้าง่ายกว่า มีโปรแกรมที่ช่วยเหลือนักเรียนด้านทักษะภาษาอังกฤษ มีห้องเรียนที่มีจำนวนผู้เรียนน้อยกว่า และมีการดูแลนักเรียนที่เข้มข้นจริงจัง เพิ่มเกรดเฉลี่ยก่อนเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยได้ คลิก เพื่อศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับหลักสูตร 2+2 University Transfer System
มหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกามีกี่ประเภท
ประเทศสหรัฐอเมริกามีหลักสูตรเปิดสอนมากมาย ทั้งวิชาชีพ อนุปริญญา ปริญญา และเปิดสอนในสถาบันหลายประเภท ทั้งวิทยาลัย วิทยาลัยศิลปศาสตร์ วิทยาลัยศิลปะ วิทยาลัยชุมชน มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยวิจัย มหาวิทยาลัยเฉพาะทาง วิทยาลัย 2 ปีหรือ 4 ปี รวมถึงมีทั้งสถาบันการศึกษาที่เป็นของเอกชนและรัฐบาล คลิก เพื่อศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับประเภทของมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา
สรุปข้อมูล วีซ่านักเรียนอเมริกา F-1 ทำงานระหว่างเรียนได้หรือไม่
นักเรียนต่างชาติส่วนใหญ่ในอเมริกาที่ถือวีซ่า F-1 อนุญาตให้ทำงานในอเมริกาได้ อย่างไรก็ตาม วัตถุประสงค์ของวีซ่านักเรียน F-1 คือ อนุญาตให้ผู้ที่ถือวีซ่า มาเรียนและอาศัยอยู่ในอเมริกาได้ช่วงระยะเวลาหนึ่ง การทำงานระหว่างเรียน เป็นเพียงสิทธิ์ที่ผู้ถือวีซ่านักเรียน F-1 สามารถขอได้ และต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฏหมายอย่างเคร่งครัด คลิก เพื่อศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียนสำหรับวีซ่านักเรียนอเมริกา F-1 ทำงานระหว่างเรียนได้หรือไม่ เงื่อนไขเป็นอย่างไร ทำอะไรได้บ้าง เรียนภาษาที่อเมริกาทำงานได้ไหม พร้อมโอกาสการทำงานหลังเรียนจบ | บทความนี้มีคำตอบ
ขยายโอกาสทางการศึกษา และโอกาสการทำงานหลังเรียนจบด้วยหลักสูตร STEM
ในสหรัฐอเมริกา วิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับสาขา STEM ถือว่ามีความสำคัญสูงมาก เนื่องจากหลายๆ ปัจจัยที่ทำให้ประเทศพัฒนา เกี่ยวข้องกับหลักสูตร STEM ทั้งทางตรงและทางอ้อม นอกจากนี้ ประเทศสหรัฐอเมริกาได้รับการยกย่องให้เป็นผู้นำระดับโลก ในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ นอกจากนี้ ยังมีเหตุผลอื่นๆ ที่ควรมาเรียนหลักสูตร STEM ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา คลิก เพื่อศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับหลักสูตร STEM คืออะไร เรียนต่อสาขาอะไรดี อาชีพไหนรายได้ดี วางแผนเรียนต่อต้องไม่พลาด
แนะนำทางลัดเรียนจบป.ตรี ก่อนอายุ 20 กับโครงการ INTERNATIONAL HIGH SCHOOL COMPLETION
โครงการที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้เรียนต่อในระดับอุดมศึกษาในอเมริการวดเร็วขึ้น โดยระบบการศึกษาในรัฐวอชิงตัน นักเรียนมัธยมปลายที่มีคุณสมบัติ และมีความรับผิดชอบ สามารถข้ามการเรียนในระดับมัธยมปลาย 2 ปีสุดท้ายใน Grade 10 – 11 (หรือนักเรียนไทยต้องเรียนจบ ม.3 ขึ้นไป) เมื่อเข้าเรียนโปรแกรมนี้ ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้เรียนต่อในวุฒิอนุปริญญา หรือที่เรียกว่า Associate Degree (หรือหลักสูตร 2+2 Transfer Program) ในสาขาที่ตนเองต้องการเรียนต่อ โดยในขณะที่เรียนวิชาของ Associate Degree ก็จะได้รับหน่วยกิตของหลักสูตรมัธยมปลายของรัฐวอชิงตันด้วย หรือทำความเข้าใจง่ายๆ คือ เรียน 1 วิชา แต่ได้รับเครดิต 2 วิชา ทำให้เมื่อสำเร็จการศึกษา ผู้เรียนจะได้รับวุฒิการศึกษา 2 วุฒิการศึกษา คือ อนุปริญญา (Associate Degree) ควบคู่ไปกับหลักสูตรมัธยมปลาย (High School Program) ที่ออกให้โดยออกให้โดยรัฐ Washington State ประเทศสหรัฐอเมริกา และสามารถโอนหน่วยกิตเพื่อเรียนต่อสมัครเรียนต่อปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยในอเมริกาอีกแค่ 2 ปี ในปีที่ 3 – 4 ปี ซึ่งจะช่วยให้เรียนจบปริญญาตรีได้ในอายุ 20 ปี คลิก เพื่อศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับหลักสูตร International High School Completion วางแผนเรียนต่อต่างประเทศ อยากประหยัดเวลา ค่าใช้จ่าย เรียนจบเร็ว พร้อมทำงาน ต้องไม่พลาดโครงการนี้
ติดต่อเดอะเบสท์เพื่อสอบถามข้อมูลการเรียนต่อต่างประเทศเพิ่มเติม
เดอะเบสท์ เป็นศูนย์บริการให้คำปรึกษาเรียนต่อต่างประเทศครบวงจร เราเป็นตัวแทนที่ให้บริการแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และ ประเทศอื่นๆ อีก 25 ประเทศทั่วโลก เรายินดีให้ความช่วยเหลือตั้งแต่เริ่มสมัครเรียน จนสำเร็จการศึกษา รวมถึงดูแลนักเรียนระหว่างเรียนจนนักเรียนเรียนจบด้วยทีมผู้เชียวชาญในด้านการเรียนต่อต่างประเทศ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ขั้นตอนเหล่านี้เราดำเนินการให้ฟรี และเราพร้อมที่จะทำตามคุณภาพ และมาตรฐานดังสโลแกนที่ว่า “We are Quality”
บริการของเรามีอะไรบ้าง ?
- ฟรี!! บริการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเรียนต่อต่างประเทศทุกระดับชั้นทั่วโลก ตั้งแต่ โรงเรียนประถม โรงเรียนมัธยม สถาบันวิชาชีพ และสถาบันในระดับอุดมศึกษา รวมถึงหลักสูตรภาษาต่างประเทศ และเลือกสถาบันที่ดีที่สุดให้กับผู้เรียน
- เราให้ความช่วยเหลือตั้งแต่การประสานงานโรงเรียน เลือกโรงเรียนให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียน เตรียมเอกสารสมัครเรียน และดำเนินเรื่องสมัครเรียนให้ฟรี
- บริการเตรียมเอกสารยื่นวีซ่าครบวงจร และบริการยื่นวีซ่ากว่า 25 ประเทศทั่วโลก พร้อมวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าอย่างตรงจุด และแนะนำวิธีการเตรียมตัวในการสัมภาษณ์วีซ่า
- บริการแปลเอกสาร ภาษาไทย – ภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาอังกฤษ – ภาษาไทย รวมถึงภาษาที่ 3 เริ่มต้นเพียงแผ่นละ 200 บาท
- เดอะเบสท์ เป็นตัวแทนรับสมัครสอบ IELTS IDP อย่างเป็นทางการ พร้อมให้คำแนะนำ และนัดวันสอบให้โดยน้องๆ ไม่ต้องเสียเวลาสมัครเอง สมัครสอบได้ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
- บริการซื้อประกันภัยการเดินทางและประกันสุขภาพนักเรียนต่างชาติ จากบริษัทประกันชั้นนำ MSIG, NIB, Allianz, Orbit และอื่นๆ
- บริการจองตั๋วเครื่องบิน ทุกสายการบิน และประสานงานกับสถาบันเกี่ยวกับรถรับ – ส่ง สนามบิน
- บริการจัดหาที่พักทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นโฮมสเตย์ อพาร์ทเม้น หรือหอพักนักศึกษา จัดหาให้ตามความต้องการส่วนบุคคล
“เรายินดีที่จะดูแลนักเรียนทุกคน ตั้งแต่เริ่มต้นจนนักเรียนสำเร็จการศึกษา และทำให้การเรียนต่อของคุณเป็นเรื่องง่าย ” สอบถามข้อมูลการบริการเพิ่มเติมติดต่อ
โทร : 090-327 3558, 088-269 5099
Email :contact@thebest-edu.com
Line : @thebestedu หรือคลิกเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.