สารบัญบทความ
Last updated มิถุนายน 9, 2022 ago by Thebestedu
LE CORDON BLEU PARIS
Le Crodon Bleu ก่อตั้งขึ้น ณ กรุงปารีส ในปี ค.ศ. 1895 ได้เปิดอาคารแห่งใหม่บนพื้นที่ 4,000 ตารางเมตร ในเขต 15 ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับเทพีเสรีภาพ ใกล้กับศูนย์การค้าโบเกรอแน็ล (Beaugrenelle) โดยในแต่ละปี อาคารแห่งใหม่นี้สามารถต้อนรับนักเรียนกว่าร้อยสัญชาติได้มากกว่าพันคน พร้อมถ่ายทอดศาสตร์การประกอบอาหาร ความรู้ด้านไวน์ การโรงแรมและการท่องเที่ยว จากระดับพื้นฐานจนถึงระดับปริญญาตรี
Le Cordon Bleu Paris แห่งใหม่นี้ได้รับการออกแบบโดยบริษัทสถาปนิก กาบริแยลลี-ปิแยร์-พริมารด์ (Gabrielli – Pierres – Primard) ใช้อลูมิเนียมและกระจกเป็นวัสดุหลัก เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัยที่เน้นการทำงานด้วยระบบดิจิตอล พร้อมให้ความสำคัญกับการใช้งานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
หนึ่งนวัตกรรมของอาคารแห่งใหม่นี้ คือพื้นที่บริเวณดาดฟ้ากว่า 800 ตารางเมตร ที่ออกแบบให้เป็นสวนผักที่สามารถผลิตพลังงานได้เอง และยังเป็นสถานที่เรียนรู้การปลูกพืชผัก ผลไม้ สมุนไพร รวมถึงดอกไม้ที่รับประทานได้ ในสภาพแวดล้อมที่เป็นเขตเมือง นอกจากนั้น สวนแห่งนี้ยังเป็นแหล่งผลิตวัตถุดิบที่ใช้ในห้องเรียนหลักสูตรการประกอบอาหารคาว และเป็นแหล่งผลิตน้ำผึ้งของสถาบันอีกด้วย
ทำความรู้จักกับ LE CORDON BLEU สถาบันสอนศิลปะทำอาหารและการ โรงแรมระดับโลก
Le Cordon Bleu โรงเรียนสอนการประกอบอาหารชั้นสูง ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1895 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยนักหนังสือพิมพ์ชื่อ Marthe Distel และสำนักพิมพ์ของนิตยสาร La Cuisinière Cordon Bleu ต่อมาในวันที่ 14 มกราคม ค.ศ. 1896 ได้จัดการสาธิตการประกอบอาหารขึ้นที่ เลอ กอร์ดอง เบลอ เพื่อเป็นประชาสัมพันธ์นิตยสารและเปิดโรงเรียนสอนทำอาหาร นับแต่นั้นมา เลอ กอร์ดอง เบลอ มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั่วโลก นอกจากนี้ ยังมีเชฟผู้สอนชั้นนำ นักเรียนจากหลากหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งบุคคลสำคัญ ที่สร้างชื่อเสียงจนเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก
Le Cordon Bleu มุ่งมั่นและตั้งใจพัฒนาความรู้เกี่ยวกับอาหาร การศึกษาด้านศิลปะการประกอบอาหารและขนมอบ และการบริหารจัดการ เพื่อถ่ายทอดความเป็นเลิศด้านอาหารแก่ผู้ที่สนใจและศึกษาด้านศิลปะการทำอาหาร เชฟผู้สอนเป็นผู้มีประสบการณ์ระดับมืออาชีพจากร้านอาหารชั้นนำที่ได้รับดาวมิชลิน (Michelin-Starred restaurants) หรือเชฟยอดฝีมือจากการแข่งขันการทำอาหาร เช่น Meilleur Ouvrir de France ซึ่งจะเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้และเทคนิคการทำอาหารแบบฝรั่งเศสทั้งแบบดั้งเดิม และอาหารฝรั่งประยุกต์ สมัยใหม่ ให้กับผู้เรียน
ด้วยความสำเร็จกว่า 120 ปี ปัจจุบัน Le Cordon Bleu ได้เปิดโรงเรียนสอนการทำอาหารใน 20 ประเทศทั้วโลก รวมทั้งหมดกว่า 35 วิทยาเขต รองรับนักเรียนกว่า 100 สัญชาติมากถึง 20,000 คนต่อปี
ทำไมต้องเรียน Le Cordon Bleu Paris
- ก่อตั้งขึ้นในปี 1895 เป็นวิทยาเขตแรกก่อนที่จะกระจายสาขาไปทั่วโลกกว่า 35 สาขา
- เรียนรู้จากการปฏิบัติจริง โดยเชฟมืออาชีพ ที่มีประสบการณ์ในภัตราคารมิเชลลินสตาร์ และโรงแรมระดับ 5 ดาว
- ทุกหลักสูตร สอนเป็นภาษาฝรั่งเศส หรือ ภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาฝรั่งเศส และมีล่ามแปลเป็นภาษาอังกฤษ
- เปิดสอนหลักสูตรตั้งแต่ประกาศนียบัตร Certificate, Diploma จนถึงหลักสูตรระดับปริญญาตรี Bachelor Degree และหลักสูตรระยะสั้นอื่นๆ อีกมากมาย
- ได้ต้อนรับนักเรียนต่างชาติตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 ในปี 1897
- ตั้งอยู่ถัดจากแม่น้ำแซนใกล้กับหอไอเฟลและเทพีเสรีภาพ
- ห้องเรียนใหม่เอี่ยม นักเรียนจะได้รับประโยชน์จากสิ่งอำนวยความสะดวกและอุปกรณ์ที่ทันสมัยที่สุด พร้อมเทคโนโลยีที่ช่วยเอื้ออำนวยต่อการเรียน
- เครื่องครัวที่ทันสมัย พร้อมสำหรับนักศึกษาทุกคน รองรับกับการประกอบอาหารทุกรูปแบบ มีอุปกรณ์ทุกชนิด ทั้งจาน ชาม แก้ว เทียบเท่าในระดับโรงแรม 5 ดาว
- มีห้องสมุด และห้องครัวกลาง สำหรับฝึกหัดทำอาหาร พร้อมพื้นที่อ่านหนังสือ และห้องคอมพิวเตอร์ ที่สามารถใช้บริการได้
- บริการอินเตอร์เน็ตไร้สายทั่วโรงเรียน
- ปลอดภัย มีกล้องวงจรปิด และอุปกรณ์สัญญาณกันไฟไหม้ทั่วทุกจุดของโรงเรียน
- มีสวนผักของตนเองอยู่บนชั้นดาดฟ้าของโรงเรียน นักเรียนจะมีหลักสูตรเฉพาะในระหว่างการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับสวนผัก
- นักเรียนที่เลือกเรียน Le Cordon Bleu Paris จะสามารถเดินทางท่องเที่ยวในยุโรปได้ถึง 28 โดยไม่ต้องขอวีซ่าเพิ่ม
สอนเทคนิคการประกอบอาหารฝรั่งเศสแบบดั้งเดิม (French Traditional Technique)
เทคนิคการประกอบอาหารแบบฝรั่งเศสดั้งเดิม French Traditional Technique เป็นเทคนิคที่เกิดขึ้นเมื่อ 150 ปีก่อน มีชื่อเสียงทั้งในด้านความประณีตและความเรียบง่าย ด้วยส่วนผสมที่สำคัญและเทคนิคที่ได้รับการยกย่องทั้งประสิทธิภาพและความมีไหวพริบทำให้เกิดเอกลักษณ์ด้านการทำอาหารที่โดดเด่น มีส่วนผสมที่เป็นเอกลักษณ์ที่ใช้กันทั่วประเทศ
เทคนิคการประกอบอาหารแบบฝรั่งเศส เริ่มตั้งแต่การเตรียมห้องครัว เรียนรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์ เครื่องเทศ ส่วนผสม เรียนรู้วิธีการหั่นแบบลูกเต๋า การหั่นแบบเป็นเส้น การหั่นเพื่อการตกแต่ง ตลอดจนถึงการประกอบอาหาร โดยใช้ทักษะที่เรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความละเอียดอ่อน เช่น การผัด การทอด การตุ๋น การลวก การต้ม การย่าง การรมควัน การอบ รวมไปถึงอารถนอมอาหาร ซึ่งทั้งหมดนี้ จะได้เรียนผ่านสถาบัน Le Cordon Bleu Paris
- เรียนรู้แบบสาธิตการประกอบอาหารจริง ในแต่ละชั้นเรียน จะมีการสาธิตการประกอบอาหารโดยเชฟที่ชำนาญ โดยสามารถเรียนรู้ได้ทุกขั้นตอน
- การปฏิบัติในห้องครัวจริง พร้อมอุปกรณ์ระดับมืออาชีพ นักเรียนทุกคนจะได้อุปกรณ์การประกอบอาหารระดับพรีเมียม สามารถใช้ประกอบอาชีพได้จริง และมีครัวพร้อมสำหรับนักเรียนทุกคน โดยจำกัดเพียงชั้นเรียนละ 16 คนเท่านั้น
- เชฟ Le Cordon Bleu เคยทำงานในร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลก หลายคนได้รับรางวัลอันทรงเกียรติเช่นหนึ่งในช่างฝีมือที่ดีที่สุดในฝรั่งเศส (Un des Meilleurs Ouvriers de France MOF) คนอื่น ๆ ได้เป็นประธานคณะกรรมการตัดสินการแข่งขันชั้นนำของฝรั่งเศสและระดับนานาชาติ
Le Cordon Bleu Paris ร่วมงานกับโรงแรมและร้านอาหาร ระดับ 5 ดาวทั่วโลก
ด้วยประสบการณ์การสอนมากกว่า 120 ปี เป็นสิ่งการันตีว่า Le Cordon Bleu เป็นสถาบันสอนทำอาหารและการบริการที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มุ่งเน้นไปที่การฝึกฝนทักษะทางเทคนิคเพื่อให้นักเรียนมีความมั่นใจและความเชี่ยวชาญที่จำเป็นสำหรับอาชีพที่พวกเขาเลือก ประกาศนียบัตร Le Cordon Bleu Paris ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั่วโลกมอบโอกาสในการทำงานมากมายในภาคร้านอาหารการจัดการการต้อนรับ
นอกเหนือจากชั้นเรียนทฤษฎีแล้วการฝึกงานเป็นหนึ่งในหลักสูตร ซึ่งจะรวมอยู่ในโปรแกรมการฝึกอบรมของนักเรียนเพื่อให้พวกเขาได้รับรสชาติของสาขาที่ตนเลือก สถานที่ฝึกงาน เป็นสถานประกอบการที่มีชื่อเสียง เช่น ร้านอาหารที่ได้รับรางวัลมิชลิน โรงแรม รีสอร์ท ขนาดใหญ่ ในปารีส ร้านขนมที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก ฯลฯ
การฝึกงานที่สถาบัน Le Cordon Bleu Paris ใช้เวลาระหว่าง 2 ถึง 6 เดือน ขึ้นอยู่กับโปรแกรม การฝึกงานเหล่านี้แสดงถึงความร่วมมือด้านการเรียนการสอนอย่างแท้จริงกับ บริษัทต่างๆ ที่ต้อนรับนักศึกษา ทีมงานจากโรงเรียนตรวจสอบให้แน่ใจว่าหัวหน้างานมืออาชีพถ่ายทอดค่านิยมของวิชาชีพให้กับนักเรียนแต่ละคนที่ดำเนินการฝึกงาน
ร้านอาหาร และโรงแรมที่รับนักเรียนจาก Le Cordon Bleu Paris เข้าฝึกงาน
สถานที่ตั้งของ LE CORDON BLEU PARIS
Le Cordon Bleu Paris มีพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 4,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแซน แม่น้ำที่ตัดผ่านกลางกรุงปารีส ใกล้กับหอไอเฟลที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงปารีส รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย ท่ามกลางเมืองที่สวยงามและยังคงความโบราณไว้ ต้อนรับนักศึกษามากกว่า 1,000 คนทุกปี
อาคารสร้างขึ้นแบบสไตล์โมเดิร์น ประดับตกแต่งด้วยอลูมิเนียม และกระจกบานใหญ่ หลังคาถูกเปลี่ยนเป็นสวนผักที่มีขนาดมากกว่า 800 ตารางเมตร เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการปลูกผัก สมุนไพร และพืชรับประทานได้ ในสภาพแวดล้อมแบบชุมชนเมือง
จุดเด่นของ Le Cordon Bleu Paris
- ห้องเรียน 18 ห้อง ที่ใช้ดำเนินการเรียนการสอนด้านการประกอบอาหารคาว ขนมอบ ขนมปัง และการจัดการ
- ห้องเก็บไวน์ 1 ห้อง
- ห้องเรียนการประกอบอาหารเอเชีย 1 ห้อง
- ห้องเรียนหลักสูตรระยะสั้น (workshop) สำหรับการเรียนเป็นรายบุคคลหรือกลุ่ม 1 ห้อง
- พื้นที่สำหรับนักเรียน ประกอบด้วยอุปกรณ์สื่อมัลติมีเดีย ห้องสมุดขนาดใหญ่ที่ได้คัดสรรหนังสือและนิตยสารด้านอาหารนานาชาติมาเป็นอย่างดี
- ร้านค้าจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการประกอบอาหาร ของที่ระลึก ซึ่งได้รับการคัดเลือกจากเชฟแห่งสถาบัน เลอ กอร์ดอง เบลอ อย่างพิถีพิถัน รวมถึงอุปกรณ์การประกอบอาหารทั้งคาวและหวานนานาชนิด
- ร้านกาแฟ ซึ่งจะเปิดอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายนนี้
Location: 13-15 Quai André Citroën, 75015 Paris, ฝรั่งเศส
หลักสูตรที่เปิดสอน
กว่าหนึ่งศตวรรษที่เลอกอร์ดองเบลอได้เปิดโอกาสให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำอาหารที่ต้องการเปลี่ยนความทะเยอทะยานให้กลายเป็นความจริง ปัจจุบัน Le Cordon Bleu Paris มีหลักสูตรการประกอบอาหาร และการบริการให้เลือกมากมาย และเปิดโอกาสให้ผู้สนใจทุกคนโดยไม่จำเป็นว่าต้องมีประสบการณ์มาก่อน
Diplôme de Cuisine (หลักสูตรการประกอบอาหารคาว)
Diplôme de Cuisine หลักสูตรประกาศนียบัตรการประกอบอาหารคาว ครอบคลุมการเรียนการสอนตั้งแต่ทักษะการประกอบอาหารขั้นพื้นฐาน การใช้เครื่องมืออุปกรณ์ต่าง ๆ การจัดเตรียมการประกอบอาหาร ไปจนถึงการสร้างสรรค์และออกแบบรายการอาหาร โดยมุ่งเน้นการถ่ายทอดเทคนิคการประกอบอาหารต่าง ๆ ตามแบบฉบับอันเลื่องชื่อของ เลอ กอร์ดอง เบลอ โดยแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ Basic, Intermediate และ Superior
DIPLÔME DE PÂTISSERIE (หลักสูตรการประกอบขนมอบและขนมหวาน)
Diplôme de Pâtisserie หลักสูตรประกาศนียบัตรการประกอบขนมอบ มุ่งเน้นการถ่ายทอดเทคนิคการทำขนมอบตามแบบฉบับของ เลอ กอร์ดอง เบลอ และมุ่งฝึกฝนให้ผู้เรียนมีความเชี่ยวชาญในการใช้เครื่องครัวและอุปกรณ์ต่าง ๆ ผู้เรียนจะได้เรียนรู้การทำขนมเค้ก และขนมอบแบบฝรั่งเศสนานาชนิดทั้งในแบบดั้งเดิมและร่วมสมัย ที่มีวางจำหน่ายในร้านอาหาร ร้านเบเกอรี่ และร้านน้ำชา รวมไปถึงเทคนิคการทำช็อกโกแลต และศิลปะการทำน้ำตาลขั้นสูง โดยแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ Basic, Intermediate และ Superior
Grand Diplôme® (หลักสูตรอาหารคาว + ขนมอบและขนมหวาน)
กร็องด์ ดิโปลม (Grand Diplôme®) ผู้เรียนจะได้เรียนรู้ทั้งในหลักสูตรประกาศนียบัตรการประกอบอาหารคาว (Diplôme de Cuisine) และหลักสูตรประกาศนียบัตรการประกอบขนมอบ (Diplôme de Pâtisserie) โดยนักเรียนสามารถเลือกเรียนหลักสูตรใดหลักสูตรหนึ่งก่อน หรือเรียนทั้งสองหลักสูตรควบคู่กันได้ ในกรณีที่เลือกเรียนทั้งสองหลักสูตรพร้อมกัน นักเรียนจะต้องเรียนในระดับเดียวกันทั้งสองหลักสูตร และเมื่อสำเร็จหลักสูตรประกาศนียบัตรการประกอบอาหารคาว และขนมอบทุกระดับ (ชั้นต้น ชั้นกลาง และชั้นสูง รวมทั้งสิ้น 6 ระดับ) นักเรียนจะได้รับประกาศนียบัตรการประกอบอาหารคาวและขนมอบ (Le Grand Diplôme) ซึ่งเปรียบเสมือนใบเบิกทางสู่การทำงานในธุรกิจและอุตสาหกรรมอาหารในระดับสากล
DIPLÔME DE BOULANGERIE (หลักสูตรขนมปังสไตล์ฝรั่งเศส)
Boulangerie Diploma หลักสูตรขนมปังสไตล์ฝรั่งเศส ได้รับการพัฒนาโดยเชฟผู้เชี่ยวชาญด้านการทำขนมปังสไตล์ฝรั่งเศส รวบรวมเทคนิคการทำขนมปังฝรั่งเศสทุกชนิด เรียนรู้เกี่ยวกับการหมักประเภทต่างๆ และการพัฒนารสชาติของขนมปัง การทำ farine de tradition (แป้งขนมปังแบบดั้งเดิมตามฉบับฝรั่งเศส) การทำขนมพัฟ วิธีการทำบาแกตต์ บริโอเชส ครัวซองต์ บีญองต์ ฯลฯ แบ่งออกเป็น ขั้นพื้นฐาน Basic และขั้นสูง Advanced
DIPLOMA IN CULINARY MANAGEMENT (หลักสูตรการจัดการร้านอาหาร)
Diploma in Culinary Management นี้ช่วยให้นักเรียนได้รับการฝึกอบรมการปฏิบัติงานและทักษะการบริหารจัดการที่จำเป็นในการเริ่มต้นธุรกิจของตนเอง นักเรียนจะได้พัฒนา บริษัท แนวคิดของตนเองเมนูของตนเองสำหรับสถานประกอบการประเภทอาหารที่ต้องการ (ร้านอาหารบริการจัดเลี้ยงนอกสถานที่รถขายอาหาร ฯลฯ ) และจะได้เรียนรู้วิธีการจัดการครัวแบบมืออาชีพ วบรวมองค์ประกอบเหล่านี้ทั้งหมดภายในสามเดือนเพื่อช่วยให้นักเรียนกำหนดเป้าหมายสูตรอาหารจัดการอาหารและต้นทุนการดำเนินงานและเรียนรู้วิธีการใช้ห้องครัวอย่างถูกต้อง
Bachelor of Business in Culinary Arts
Bachelor of Business in Culinary Arts ปริญญาตรีบริหารธุรกิจ สาขาศิลปะการประกอบอาหาร เป็นหลักสูตร 2 ปริญญา Double Degree ร่วมกันระหว่าง Le Cordon Bleu Paris และมหาวิทยาลัย Paris-Dauphine University ระยะเวลาหลักสูตร 3 ปี มีการเรียนควบคู่กับการฝึกงาน การเรียนการสอน เน้นด้านการทำอาหารฝรั่งเศส และการจัดการ การบริหารอุตสาหกรรมร้านอาหาร ผู้สำเร็จการศึกษาจะได้รับการฝึกฝนให้ประกอบอาชีพต่างๆ ในอุตสาหกรรมอาหาร เช่น Culinary Operations, Production Management, Kitchen Administration, Culinary Consultant, Catering, Banquet Management, และ Economat
BACHELOR OF BUSINESS IN INTERNATIONAL HOSPITALITY MANAGEMENT
Bachelor of Business in International Hospitality Management ปริญญาตรีบริหารธุรกิจ สาขาการบริการระหว่างประเทศ เป็นหลักสูตร 2 ปริญญา Double Degree ร่วมกันระหว่าง Le Cordon Bleu Paris และมหาวิทยาลัย Paris-Dauphine University ระยะเวลาหลักสูตร 3 ปี การเรียนการสอน เน้นทักษะในการบริหารกิจการเกี่ยวกับโรงแรม การจัดเลี้ยง และการจัดงานอีเว้น ผู้ลงเรียนหลักสูตรนี้ จะได้เรียนภาษาที่ 3 ด้วย โดยให้เลือกเรียนเป็นภาษาฝรั่งเศส ภาษาสเปน หรือภาษาจีนกลาง เพื่อประโยชน์ต่อการทำงานในอนาคต
WINE AND MANAGEMENT PROGRAMME
หลักสูตร Wine and Management Programme เป็นหนึ่งในหลักสูตรที่โดดเด่นของ Le Cordon Bleu Paris และ การดื่มไวน์ในมื้ออาหารเป็นศิลปะชั้นสูงมาตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน การดื่มไวน์นอกจากจะช่วยเพิ่มอรรถรสของการรับประทานอาหารแล้ว ยังสร้างบรรยากาศให้กับมื้ออาหารได้อย่างน่าอัศจรรย์ หลักสูตรนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเรื่องไวน์ และผู้ที่ดำเนินธุรกิจด้านอาหารที่ต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรม และวิธีการดื่มไวน์และสุนทรียศาสตร์ในการดื่มไวน์คู่กับอาหาร ผู้เรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับไวน์และแหล่งผลิตทั้งในเขตโลกเก่าและโลกใหม่ วิเคราะห์กลิ่นและรสของไวน์ได้อย่างถูกต้อง และเพื่อมีความเชี่ยวชาญในการให้คำแนะนำเกี่ยวกับไวน์และต่อยอดในเชิงธุรกิจได้
หลักสูตรนี้จะได้รับประกาศนียบัตร 2 ใบ ใบแรกเป็นประกาศนียบัตร Wine Management จากจาก Lec Cordon Bleu Paris และใบที่สองเป็นประกาศนียบัตร Wine Culture Heritage and Tourism จาก University of Reims Champagne-Ardenne (URCA)
MBA in International Hospitality and Culinary Leadership
MBA in International Hospitality and Culinary Leadership เป็นโปรแกรมใหม่ มีกำหนดการณ์เปิดเรียนครั้งแรกในวันที่ 13 กันยายน 2564 ได้รับการออกแบบ และพัฒนาหลักสูตรร่วมกับ Paris Dauphine University เพื่อออกแบบหลักสูตร MBA ที่มีความพร้อมในการบริหารกิจการระหว่างประเทศ และเป็นผู้นำด้านโรงแรม เรียนรู้ตั้งแต่การวางโครงสร้างธุรกิจ ออกแบบกลยุทธ์ วางตำแหน่งงาน ออกแบบร้านอาหารตามแนวคิดร้านอาหารที่พระราชวังแวร์ซาย รวมไปถึงการตั้งราคา การทำบัญชี และการจัดการเงิน วิเคราะห์งบประมาณ วิเคราะห์ต้นทุน ให้เหมาะสมกับการลงทุน นอกจากเรียนในชั้นเรียนแบบเข้มข้นแล้ว นักศึกษายังได้มีโอกาสเดินทางไปศึกษาดูงานในร้านอาหาร และโรงแรมชั้นนำในฝรั่งเศสอีกด้วย
เรียนหลักสูตรหลัก + หลักสูตรเสริม ที่เป็นประโยชน์สำหรับนักเรียนที่ต้องการทักษะเฉพาะทาง
ทางสถาบัน Le Cordon Bleu Paris เห็นถึงความสำคัญ และทักษะที่จำเป็นต่อการทำงานในตลาดแรงงานปัจจุบัน เพื่อโอกาสในการก้าวหน้า และทักษะที่เพียบพร้อมกว่าสถาบันอื่นๆ จึงเพิ่มทางเลือก Consectutive Programmes ซึ่งเป็นหลักสูตรจับคู่ ระหว่างหลักสูตรหลัก และหลักสูตรประกาศนียบัตรสาขาการบริหารกิจการร้านอาหาร Diploma in Culinary โดยสามารถเลือกจับคู่เรียนได้ดังนี้
เชฟระดับโลก ที่สำเร็จการศึกษาจาก Le Cordon Bleu Paris
ทุกๆ ปีมีนักเรียนมากกว่า 20,000 คนจาก 100 เชื้อชาติได้รับการฝึกฝนจากสถาบัน Le Cordon Bleu หลักสูตรยอดนิยมมากที่สุดคือ Grand Diplôme® ซึ่งผู่สำเร็จการศึกษาส่วนหลึ่ง เลือกเปิดร้านอาหาร หรือร้านขนมในปารีส เช่น Bogotá, Rio De Janeiro นอกจากนี้ ยังมีคนที่ได้เข้าไปเป็นหัวหน้าเชฟในภัตราคารที่มีชื่อเสียง เช่น Marignan Hotel’s Nubé restaurant, Four Seasons Pudong in Shanghai หรือแม้แต่นักเรียนบางคน ได้กลายเป็นนักวิจารณ์อาหาร หรือเชฟส่วนตัวสำหรับเอกอัครราชทูต
เรียนต่อปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ปารีส เป็นเมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่บนแม่น้ำแซน มีการตั้งถิ่นฐานมากกว่า 2 พันปีมาแล้ว ปัจจุบันกรุงปารีสเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่ล้ำสมัยแห่งหนึ่งของโลก และด้วยอิทธิพลของการเมือง การศึกษา บันเทิง สื่อ แฟชั่น วิทยาศาสตร์และศิลปะ ทำให้กรุงปารีสเป็นหนึ่งในเมืองที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นอกจากนี้ กรุงปารีสยังเป็นสถานที่ทำการของบริษัทยักษ์ใหญ่ 36 บริษัท โดยเฉพาะย่านธุรกิจที่สำคัญแห่งหนึ่งของทวีปยุโรป ลา เดฟองซ์ และยังเป็นที่จัดงานนิทรรศการต่างๆ ซึ่งรวมถึงสหประชาชาติ ฯลฯ ปารีสเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังแห่งหนึ่งในโลก โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่า 30 ล้านคนต่อปี
ทำไมต้องมาเรียนทำอาหารที่ปารีส ฝรั่งเศส
- ปารีสเป็นเมืองหลวงแห่งอาหาร ร้านอาหารชั้นนำระดับโลกตั้งอยู่ที่กรุงปารีส มีร้านอาหารที่ได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ 104 แห่ง รวมถึงร้านขนมหวาน และร้านขนมปังสไตล์ฝรั่งเศสที่ดีที่สุดในโลก เป็นสถานที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารและการเรียนทำอาหาร
- ปารีสเมืองแห่งโอกาสในการทำงาน การเรียนที่ Le Cordon Bleu Paris จะได้รับการฝึกงานเป็นผู้ช่วยเชฟด้วย ซึ่งเมื่อสำเร็จการศึกษาแล้ว มีโอกาสได้ทำงานในโรงแรม หรือภัตราคารระดับ 5 ดาวหลายแห่งในกรุงปารีส นอกจากนี้ สถาบัน Le Cordon Bleu Paris ยังมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับพระราชวังแวร์ซาย พระราชวังที่หรูหราและมีชื่อเสียงไปทั่วโลก
- ปารัสมีเชฟระดับโลกหลายท่าน การเรียนทีปารีสเท่ากับว่าได้มีโอกาสใกล้ชิดกับเชฟระดับโลก แต่ไม่ใช่แค่เพียงได้รู้จัก หรือลิ้มลองรสชาติอาหารเท่านั้น เชฟเหล่านี้เป็นครู้ผู้สอนที่ Le Cordon Bleu รวมถึงให้คำปรึกษาตลอดการใช้ชีวิตที่ปารีสด้วย
- ปารีสเป็นเมืองแห่งมรดกและวัฒนธรรมที่แข็งแกร่ง มีชื่อเสียงจากอนุสรณ์สถาน รวมถึงไปถึงพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมผลงานระดับโลกกว่า 206 แห่ง นอกจากนี้ ปารีสยังเป็นเมืองที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องแบบไม่หยุดนิ่ง ที่ผสมผสานควบคู่ไปกับสถาปัตยกรรมแบบคลาสสิก ร่วมสมัย และสถาปัตยกรรมแบบสมัยใหม่
- ปารีสเป็นเมืองแห่งการศึกษาที่นักศึกษาทั่วโลกเลือกเป็นอันดับ 5 ด้วยระบบการศึกษาที่ยืดหยุ่น ระบบขนส่งสาธารณะที่ทันสมัย สามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยได้ง่ายกว่าเมืองหลวงสมัยใหม่อื่นๆ นอกจากนี้ ปารีสยังมีคุณภาพชีวิตที่ยอดเยี่ยม มีกิจกรรม กีฬา คอนเสิร์ต หลายร้อยกิจกรรมเป็นประจำทุกปี ทำให้กรุงปารีสไม่เคยหลับไหลทั้งกลางวันและยามค่ำคืน
- ปารีสเป็นประตูต้อนรับสู่ประเทศฝรั่งเศส ปฏิเสธไม่ได้ว่าปารีสเป็นเมืองอันดับ 1 หากวางแผนท่องเที่ยวที่ประเทศฝรั่งเศส แต่เมืองอื่นๆ ในฝรั่งเศสอีกหลายเมืองก็มีเอกลักษณ์และวัฒนธรรมการรับประทานอาหารที่แตกต่างกันออกไป เช่น ใน Bordeaux เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อว่ามีไวน์ที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งห่างจากกรุงปารีสเพียง 1 ชั่วโมงครึ่ง
- ปารีสเป็นศูนย์กลางของยุโรป หากวางแผนท่องเที่ยวยุโรป ปารีสอาจเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ เนื่องจาก เป็นศูนย์กลางที่สามารถเดินทางไปยังประเทศอื่นๆ ได้ เช่น ประเทศเยอรมนี ประเทศเบลเยียม ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ประเทศออสเตรีย และอื่นๆ จึงทำให้นักท่องเที่ยวหลายคน เลือกปารีสเป็นจุดหมายแรกของทริปท่องเที่ยวยุโรป
ค่าครองชีพปารีส ประเทศฝรั่งเศส ต่อเดือน มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่?
กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสมีค่าใช้จ่ายที่สูง แต่น้องๆ สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้โดยการเลือกที่พักอาศัยที่ถูกลง เนื่องจาก ค่าที่พักอาศัย เป็นค่าใช้จ่ายก้อนที่ใหญ่ที่สุด โดยที่พักที่อยู่ห่างจากใจกลางกรุงปารีส มีแนวโน้มที่ค่าใช้จ่ายถูกลง เงียบสงบ และปลอดภัยมากกว่า แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องจ่ายค่าบำรุงรักษาและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ด้วย เช่น ค่าทำความสะอาด ค่าบำรุงสถานที่ ยิ่งที่พักหรูหรามากเท่าไหร่ก็จะต้องจ่ายมากขึ้นเท่านั้น และผู้เช่าจะต้องเช็คให้เรียบร้อยว่าค่าบำรุงรักษารวมอยู่ในค่าเช่าเรียบร้อยแล้ว (charges compri)
ค่าอาหารเป็นค่าใช้จ่ายที่จะต้องพิจารณารองลงมาจากที่พัก หลายๆ คนอาจจะเลือกซื้อของจากซูเปอร์มาร์เก็ต แต่ร้านขายของชำส่วนใหญ่จะมีราคาถูกกว่า แต่ไม่ได้มีสินค้าครบวงจรเหมือนซูเปอร์มาร์เก็ต เช่น หากต้องการขนมปัง สามารถซื้อได้จากร้าน Boulangerie หากต้องการเนื้อ สามารถซื้อได้จากร้าน Boucherie
นอกจากนี้ ชาวฝรั่งเศสส่วนใหญ่ จะไม่ซื้อของจากร้านซูเปอร์มาร์เก็ต แต่มักจะเลือกซื้อของจากตลาดสด เนื่องจากเป็นสินค้าที่สดใหม่กว่า และสามารถต่อรองราคาได้ เช่น ตลาด Marché d’Aligre ในเขต 12 ของปารีส เป็นตลาดสดที่มีสินค้าถูกที่สุด และคึกคักมากที่สุดแห่งหนึ่งสำหรับกรุงปารีส
รายการ | ค่าใช้จ่าย/เดือน |
ค่าเช่าที่พัก | €680 – €1,000 |
ค่าไฟฟ้า | €40 |
ค่าใช่อาหาร | €510 |
ค่าอินเทอร์เน็ต | €18 |
ค่ารถโดยสารสาธารณะ | €150 |
ค่าโทรศัพท์มือถือ | €17 |
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ | €200 |
รวมค่าใช้จ่ายต่อเดือน |
€1,615 – €1,935 (ประมาณ 59,000 – 71,000 บาท) |
เรียนต่อฝรั่งเศส ได้รับโอกาสในการทำงานหลังเรียนจบที่มากกว่า
นอกจากนี้ หากสำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษาในประเทศฝรั่งเศส ยังได้สิทธิ์อยู่ต่อเพื่อทำงานได้สูงสุด 18 เดือน เพื่อหางานแบบเต็มเวลา และได้สิทธิ์รับเงินเดือนในอัตราเดียวกันกับคนในยุโรปด้วย หากหางานทำที่ตรงสายได้ภายในระยะเวลาวีซ่า ก็จะสามารถขอ EU Blue Card ซึ่งเป็นใบอนุญาตให้ทำงานที่รับรองจากสหภาพยุโรป
สิทธิ์ผู้ถือ EU-BLUE CARD
- สามารถทำงานและรับเงินเดือนในอัตราเดียวกันกับคนในยุโรป โดยฐานเงินเดือนขั้นต่ำอยู่ที่ €43,056 – €55,200 /ปี (ประมาณ 1,600,000 – 2,000,000 บาท/ปี หรือ เฉลี่ย เดือนละ 133,000 – 166,000 บาท/เดือน)
- ได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ทั้งทางเศรษฐกิจและสวัสดิการสังคม เทียบเท่ากับคนในประเทศฝรั่งเศส
- มีโอกาสขอเป็นผู้อยู่อาศัยถาวร (Permanent Residence) เมื่อทำงานเป็นระยะเวลา 5 ปี
เรียนต่อฝรั่งเศส ได้สิทธิท่องเที่ยวทั่วยุโรป โดยไม่ต้องขอวีซ่าเพิ่ม
สำหรับผู้ที่ถือวีซ่านักเรียนฝรั่งเศส สามารถเดินทางประเทศในเครือกลุ่มของ Schengan ได้เลยทั้ง 26 ประเทศ โดยไม่ต้องขอวีซ่า ได้แก่ ออสเตรีย เบลเยียม สาธารณรัฐเช็ก เดนมาร์ก เอสโตเนีย ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี กรีซ ฮังการี ไอซ์แลนด์ อิตาลี ลัตเวีย ลิกเตนสไตน์ ลิทัวเนีย ลักเซมเบิร์ก มอลตา เนเธอแลนด์ นอร์เวย์ โปแลนด์ โปรตุเกส สาธารณรัฐสโลวัก สโลวีเนีย สเปน สวีเดน และสวิสเซอร์แลนด์
ติดต่อเดอะเบสท์เพื่อสอบถามข้อมูลการเรียนต่อต่างประเทศเพิ่มเติม
เดอะเบสท์ เป็นศูนย์บริการให้คำปรึกษาเรียนต่อต่างประเทศครบวงจร เราเป็นตัวแทนที่ให้บริการแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และ ประเทศอื่นๆ อีก 25 ประเทศทั่วโลก เรายินดีให้ความช่วยเหลือตั้งแต่เริ่มสมัครเรียน จนสำเร็จการศึกษา รวมถึงดูแลนักเรียนระหว่างเรียนจนนักเรียนเรียนจบด้วยทีมผู้เชียวชาญในด้านการเรียนต่อต่างประเทศ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ขั้นตอนเหล่านี้เราดำเนินการให้ฟรี และเราพร้อมที่จะทำตามคุณภาพ และมาตรฐานดังสโลแกนที่ว่า “We are Quality”
บริการของเรามีอะไรบ้าง ?
- ฟรี!! บริการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเรียนต่อต่างประเทศทุกระดับชั้นทั่วโลก ตั้งแต่ โรงเรียนประถม โรงเรียนมัธยม สถาบันวิชาชีพ และสถาบันในระดับอุดมศึกษา รวมถึงหลักสูตรภาษาต่างประเทศ และเลือกสถาบันที่ดีที่สุดให้กับผู้เรียน
- เราให้ความช่วยเหลือตั้งแต่การประสานงานโรงเรียน เลือกโรงเรียนให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียน เตรียมเอกสารสมัครเรียน และดำเนินเรื่องสมัครเรียนให้ฟรี
- บริการเตรียมเอกสารยื่นวีซ่าครบวงจร และบริการยื่นวีซ่ากว่า 25 ประเทศทั่วโลก พร้อมวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าอย่างตรงจุด และแนะนำวิธีการเตรียมตัวในการสัมภาษณ์วีซ่า
- บริการแปลเอกสาร ภาษาไทย – ภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาอังกฤษ – ภาษาไทย รวมถึงภาษาที่ 3 เริ่มต้นเพียงแผ่นละ 200 บาท
- เดอะเบสท์ เป็นตัวแทนรับสมัครสอบ IELTS IDP อย่างเป็นทางการ พร้อมให้คำแนะนำ และนัดวันสอบให้โดยน้องๆ ไม่ต้องเสียเวลาสมัครเอง สมัครสอบได้ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
- บริการซื้อประกันภัยการเดินทางและประกันสุขภาพนักเรียนต่างชาติ จากบริษัทประกันชั้นนำ MSIG, NIB, Allianz, Orbit และอื่นๆ
- บริการจองตั๋วเครื่องบิน ทุกสายการบิน และประสานงานกับสถาบันเกี่ยวกับรถรับ – ส่ง สนามบิน
- บริการจัดหาที่พักทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นโฮมสเตย์ อพาร์ทเม้น หรือหอพักนักศึกษา จัดหาให้ตามความต้องการส่วนบุคคล
“เรายินดีที่จะดูแลนักเรียนทุกคน ตั้งแต่เริ่มต้นจนนักเรียนสำเร็จการศึกษา และทำให้การเรียนต่อของคุณเป็นเรื่องง่าย ” สอบถามข้อมูลการบริการเพิ่มเติมติดต่อ
โทร : 090-327 3558, 088-269 5099
Email :contact@thebest-edu.com
Line : @thebestedu หรือคลิกเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.