สารบัญบทความ
Last updated พฤษภาคม 29, 2023 ago by Thebestedu
ปัจจุบัน ประเทศเยอรมนีกลายเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจดีเป็นอันดับ 4 ของโลก รองจากญี่ปุ่น บริษัทในเยอรมันที่มีธุรกิจไปทั่วโลก อย่างเช่น Mercedes Benz, BMW, Porsche, Volkswagen, Audi, Siemens เป็นต้น มีตลาดหลักทรัพย์ในประเทศ 8 แห่ง โดยตลาดหลักทรัพย์แฟรงค์เฟิร์ต เป็นตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมนี และเป็นหนึ่งในตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
เป็นที่ทราบดีอยู่แล้วว่า ระบบการศึกษาของประเทศเยอรมนีอยู่ในอันดับ TOP 5 ประเทศที่มีระบบการศึกษาดีที่สุดในโลก มหาวิทยาลัยทุกแห่งทั้งรัฐบาล และเอกชนล้วนมีคุณภาพในระดับนานาชาติ หลักสูตรทุกหลักสูตรโดยเฉพาะด้านวิศวกรรม และการแพทย์มีคุณภาพสูง เปิดสอนทั้งหลักสูตรที่สอนเป็นภาษาเยอรมัน หลักสูตรที่สอนเป็นภาษาอังกฤษ และหลักสูตรสองภาษา มีสถาบันวิจัยหลายแห่ง ที่วิจัยและพัฒนานวัตกรรมที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน สิ่งประดิษฐ์หลายสิ่ง เช่น ยานยนต์ ก็ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกที่ประเทศเยอรมนี นอกจากนี้ การเรียนต่อในระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยรัฐบาล ประเทศเยอรมนี ไม่มีค่าธรรมเนียมการศึกษา หรืออาจมีค่าธรรมเนียมการลงทะเบียนเพียงเล็กน้อย ประมาณ 350 ยูโรต่อปีการศึกษา จึงทำให้นักศึกษาต่างชาติหลายคน เลือกมาเรียนต่อที่ประเทศเยอรมนี
สำหรับ วุฒิการศึกษาของไทย ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 นักเรียนระดับชั้น ปวช. ปวศ. ไม่ได้เทียบเท่าวุฒิการศึกษาระดับมัธยมศึกษาของประเทศเยอรมนี (Abitur) ดังนั้น จึงไม่สามารถเข้าเรียนตรงกับทางมหาวิทยาลัยได้ทันที ดังนั้น นักศึกษาต่างชาติ จะต้องเรียนหลักสูตร Studienkolleg ซึ่งเป็นหลักสูตรที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างวุฒิการศึกษามัธยมปลายประเทศไทย ให้เทียบเท่าวุฒิการศึกษามัธยมปลายประเทศเยอรมนี โดยทางสถาบัน Freshman Institute ได้เปิดสอนหลักสูตรนี้ภายใต้ชื่อหลักสูตร Freshman Program มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับพื้นฐานวุฒิการศึกษา ให้เทียบเท่าวุฒิการศึกษาระดับมัธยมศึกษาของประเทศเยอรมนี เช่นเดียวกับหลักสูตร Studienkolleg แต่หลักสูตร Freshman Program จะมีทางเลือกให้ผู้เรียนมากกว่า
สำหรับการเข้าเรียนหลักสูตร Freshman Program (หรือ Studienkolleg) จะต้องสอบเข้าเรียนก่อน โดยสามารถสอบได้ทั้งผ่านระบบออนไลน์ หรือสอบที่สถาบัน Gothe ที่กรุงเทพฯ โดยในบทความนี้ ศูนย์ฯ เดอะเบสท์ จะพาไปรู้จักหลักสูตร Freshman Program มีความโดดเด่นอย่างไร สามารถเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยไหนบ้าง ขั้นตอนการสอบเป็นอย่างไร สามารถศึกษาต่อได้ในบทความนี้เลยค่ะ
เพื่อทำความเข้าใจระบบการศึกษาของประเทศเยอรมนี ทางศูนย์ฯ เดอะเบสท์ ขอแนะนำให้ศึกษาบทความดังต่อไปนี้
ทำความรู้จักกับ Freshman Institute
Freshman Institute เริ่มเปิดทำการในปี 1998 เป็นส่วนหนึ่งของ FH Aachen – University of Applied Sciences ซึ่งเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์ประยุกต์ขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่งของประเทศเยอรมนี สถาบันมุ่งเน้นหลักสูตรด้านวิศวกรรม บริหารธุรกิจ การแพทย์ มนุษย์ศาสตร์ ตลอดจนถึงศิลปศาสตร์และการออกแบบ โดยผู้ที่เข้าศึกษาต่อที่ Freshman Institute จะได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับเส้นทางการเรียน และอาชีพหลังเรียนจบจากอาจารย์ผู้สอนที่มีประสบการณ์ยาวนาน และเชี่ยวชาญเฉพาะทางในสาขาที่เรียน เพื่อเป็นสะพานเชื่อมเข้าสู่การเรียนในระดับปริญญาตรี ที่ประเทศเยอรมนี
จุดเด่นของสถาบัน Freshman Institute
- มหาวิทยาลัยอันดับหนึ่ง ในสาขาวิศวกรรมเครื่องกลและไฟฟ้าในบรรดามหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์ประยุกต์ของเยอรมัน
- สภาพแวดล้อม และสิ่งอำนวยความสะดวกภายในสถาบัน Freshman Institute เอื้ออำนวยต่อการเรียน มีห้องปฏิบัติการ และห้องเรียนที่ทันสมัย อุปกรณ์ครบครัน มีศูนย์วิจัย Jülich Research Center ที่มีชื่อเสียงระดับโลก
- ในแต่ละปี มีนักศึกษาต่างชาติทั่วโลกกว่า 400 คน เลือกเข้าร่วมหลักสูตร Freshman Program และประสบความสำเร็จในการเข้าเรียนต่อในในประเทศเยอรมนี หรือสามารถเลือกเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัย FH Aachen ได้
- มีห้องพักเตียงคู่ ตกแต่งอย่างสวยงาม พร้อมเฟอร์นิเจอร์ และชุดเครื่องนอนครบครัน มีเตียง โต๊ะ เก้าอี้ ตู้เสื้อผ้า พร้อมห้องครัว และห้องนั่งเล่นส่วนกลาง โดยนักเรียนจะได้พักกับเพื่อนร่วมชั้นเรียนเดียวกัน เพศเดียวกัน
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
ที่ตั้งของสถาบัน Freshman Institute
Freshman Institute ตั้งอยู่ในเมือง Geilenkirchen ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ที่เงียบสงบมีผู้คนประมาณ 20,000 คนที่มีสภาพแวดล้อมสีเขียว เมืองนี้ล้อมรอบด้วยภูมิประเทศที่สวยงาม สิ่งอำนวยความสะดวกครับครัน เช่น แหล่งช้อปปิ้ง ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้าปลีก เสื้อผ้า และร้านขายยา อยู่ในระยะที่สามารถเดินไปถึงได้ นอกจากนี้นักศึกษาที่มาเรียนสถาบัน Freshman Institute ยังสามารถเดินทางไปยังเมืองใหญ่หลายแห่งได้ เช่น Cologne, Düsseldorf หรือ Aachen ผ่านระบบขนส่งสาธารณะที่ทันสมัย โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
Location: Pater-Briers-Weg 85, 52511 Geilenkirchen, Germany
แนะนำหลักสูตร Freshman Program หลักสูตรเพื่อเรียนต่อปริญญาตรี ประเทศเยอรมัน
หลักสูตร Freshman Program (หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Studienkolleg) เปิดสอนที่ Freshman Institute ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัย FH Aachen เป็นหลักสูตรที่วางรากฐานสำหรับนักศึกษาต่างชาติ (รวมถึงนักเรียนไทย) ที่ไม่ได้เรียนในโรงเรียนมัธยมปลาย หรือไม่ได้เรียนในระบบการศึกษาของเยอรมัน เนื่องจาก หลักสูตรมัธยมศึกษาของประเทศไทย ไม่เทียบเท่าประเทศเยอรมนี (Abitur) ดังนั้น หลักสูตร Freshman Program จึงเป็นสะพานเชื่อมระหว่างวุฒิการศึกษามัธยมปลายประเทศไทย ให้เทียบเท่ากับวุฒิการศึกษามัยมปลายประเทศเยอรมนี และมีคุณสมบัติสำหรับการเรียนต่อในระดับปริญญาตรี (University Qualification Exam)
วัตถุประสงค์ของหลักสูตร Freshman Program
- เพื่อปรับหลักสูตรมัธยมศึกษาของประเทศไทย ให้เทียบเท่าประเทศเยอรมนี และมีคุณสมบัติสำหรับเรียนต่อในระดับปริญญาตรีที่ประเทศเยอรมนี
- พัฒนาทักษะทางด้านภาษา และวิชาการสำหรับการเรียนในระดับอุดมศึกษา และเตรียมความพร้อมในการสอบ Feststellungsprüfung (FSP)
- นักศึกษาที่เข้าร่วมหลักสูตร Freshman Program จะต้องมีวัตถุประสงค์เพื่อเรียนต่อในระดับปริญญาตรีเท่านั้น
- เพื่อพัฒนาให้มีความมั่นใจในการเรียนรู้ตามวัฒนธรรมการเรียนการสอนในประเทศเยอรมนี ลดความ Culture Shock เมื่อเจอวัฒนธรรมการเรียนที่แตกต่าง
- เมื่อเข้าร่วมหลักสูตร Freshman Program สามารถเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยรัฐบาลของเยอรมนี ซึ่งไม่มีค่าธรรมเนียมการศึกษา
หลักสูตร Freshman Program แบ่งออกเป็น 3 Track ด้วยกันคือ
- German Track คือหลักสูตรที่มีการเรียนการสอนเป็นภาษาเยอรมันทั้งหมด
- English Track คือหลักสูตรที่มีการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด
- English to German Track คือหลักสูตรที่เรียนเป็นภาษาอังกฤษก่อน และสำเร็จการศึกษาเป็นภาษาเยอรมัน
1. German Track เรียนเป็นหลักสูตรภาษาเยอรมันทั้งหมด
Freshman Program | German Track เป็นหลักสูตรการเรียนการสอนเป็นภาษาเยอรมันทั้งหมดดังนั้น ผู้เรียนจะต้องมีพื้นฐานภาษาเยอรมันมาก่อน หลังจากสำเร็จหลักสูตร Freshman Program แล้วจะสามารถสมัครเรียนที่มหาวิทยาลัยใดก็ได้ในเยอรมัน อย่างไรก็ตาม หลักสูตร Freshman Institute ไม่ได้รับประกันได้ว่าจะได้เข้าเรียนในปริญญาตรีทุกคน ผู้เข้าร่วมหลักสูตร จะต้องสอบ FSP ให้ผ่านก่อน หลังจากนั้นถึงจะสามารถสมัครเรียนกับมหาวิทยาลัยได้
รายละเอียดหลักสูตร
- ระยะเวลาหลักสูตร: 1 ปีการศึกษา (2 เทอม)
- วันเริ่มเรียน: เดือนตุลาคม
- ภาษาที่เรียน: ภาษาเยอรมันทั้งหมด
หัวข้อที่สามารถเลือกเรียน
- T-Course เรียนเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และเทคโนโลยี สำหรับเรียนต่อในหลักสูตรดังนี้
-
- Informatics
- Engineering
- Mathematics
- Natural Sciences
- W-Course เรียนเกี่ยวกับบริหารธุรกิจ เศรษฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ และกฏหมาย สำหรับเรียนต่อในหลักสูตรดังนี้
- Business
- Economics
- Social Sciences
- Law
- M-Course เรียนเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์การแพทย์ สำหรับเรียนต่อในหลักสูตรดังนี้
- Medicine
- Pharmacy
- Psychology
- Veterinary Medicine
- Dentistry
- Biology
- Sports
- Nutrition
คุณสมบัติในการเรียนหลักสูตร Freshman Program | German Track
- สำเร็จการศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 (หรือเทียบเท่า เช่น มีวุฒิการศึกษา IB-Diploma, IGCSE, A-Level หรือ GED)
- สอบผ่าน Freshman Entrance Exam (สอบโดยระบบออนไลน์ หรือสอบที่สถาบัน Gothe กรุงเทพฯ)
- มีทักษะภาษาเยอรมันอย่างน้อยระดับ B1 ไม่จำเป็นต้องยื่นใบรับรองผลสอบก็ได้ เพราะว่าทักษะภาษาเยอรมันจะเป็นส่วนหนึ่งในการสอบเข้าเรียน
มีการสอบจบ FSP (Feststellungsprüfung) สอนเป็นภาษาเยอรมัน
หลังจากเรียนจบหลักสูตร Freshman Program ผู้เรียนจะต้องสอบ Feststellungsprüfung (FSP) เมื่อสอบผ่านแล้วใบประกาศของ FSP จะเทียบเท่าวุฒิการศึกษาของ Abitur ที่แสดงถึงคุณสมบัติพร้อมสำหรับการเรียนต่อในระดับปริญญาตรีในประเทศเยอรมนี (University Qualification Exam) ซึ่งใบประกาศ FSP สามารถใช้ยื่นเข้าเรียนมหาวิทยาลัยในเยอรมนีได้ทุกมหาวิทยาลัย ทั้งนี้ การรับเข้าเรียนต่อ ขึ้นอยู่กับผลสอบ FSP ของผู้เรียนด้วย และกฏเกณฑ์การรับเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยที่สมัคร
2. English Track เรียนเป็นหลักสูตรภาษาอังกฤษทั้งหมด
Freshman Program | English Track เป็นหลักสูตรการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดดังนั้น หลังจากสำเร็จหลักสูตร Freshman Program แล้วจะสามารถเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยในรัฐ North Rhine-Westphalia หรือเข้าเรียนมหาวิทยาลัย FH S. Westphalia และ SRH Hamm ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยพาร์ทเนอร์ และการันตีการเข้าเรียนต่อด้วย
รายละเอียดหลักสูตร
- ระยะเวลาหลักสูตร: 1 ปีการศึกษา (2 เทอม)
- วันเริ่มเรียน: เดือนตุลาคม
- ภาษาที่เรียน: ภาษาอังกฤษทั้งหมด
หัวข้อที่สามารถเลือกเรียน
- T-Course เรียนเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และเทคโนโลยี สำหรับเรียนต่อในหลักสูตรดังนี้
-
- Informatics
- Engineering
- Mathematics
- Natural Sciences
- W-Course เรียนเกี่ยวกับบริหารธุรกิจ เศรษฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ และกฏหมาย สำหรับเรียนต่อในหลักสูตรดังนี้
- Business
- Economics
- Social Sciences
- Law
คุณสมบัติในการเรียนหลักสูตร Freshman Program | English Track
- สำเร็จการศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 (หรือเทียบเท่า เช่น มีวุฒิการศึกษา IB-Diploma, IGCSE, A-Level หรือ GED)
- สอบผ่าน Freshman Entrance Exam (สอบโดยระบบออนไลน์ หรือสอบที่สถาบัน Gothe กรุงเทพฯ)
- มีทักษะภาษาอังกฤษอย่างน้อยระดับ B2 หรือเทียบเท่า IELTS 5.5 ไม่จำเป็นต้องยื่นใบรับรองผลสอบก็ได้ เพราะว่าทักษะภาษาอังกฤษจะเป็นส่วนหนึ่งในการสอบเข้าเรียน
มีการสอบจบ FSP (Feststellungsprüfung) สอนเป็นภาษาเยอรมัน
หลังจากเรียนจบหลักสูตร Freshman Program ผู้เรียนจะต้องสอบ Feststellungsprüfung (FSP) เมื่อสอบผ่านแล้วใบประกาศของ FSP จะเทียบเท่าวุฒิการศึกษาของ Abitur ที่แสดงถึงคุณสมบัติพร้อมสำหรับการเรียนต่อในระดับปริญญาตรีในประเทศเยอรมนี (University Qualification Exam) โดยหลักสูตร English Track จะสามารถเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยรัฐบาลในรัฐ North-Rhine Westphalia เท่านั้น ทั้งนี้ การรับเข้าเรียนต่อ ขึ้นอยู่กับผลสอบ FSP ของผู้เรียนด้วย และกฏเกณฑ์การรับเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยที่สมัคร หรือผู้เรียนมีอีกทางเลือกหนึ่งคือ เข้าเรียนในมหาวิทยาลัย FH S. Westphalia หรือ SRH University Hamm ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยพาร์ทเนอร์ และการันตีการเข้าเรียนต่อด้วย
|
FH Südwestfalen – University of Applied Sciences (SW) (คลิก) เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยประยุกต์ที่ใหญ่ที่สุดใน North Rhine Westphalia โดดเด่นในด้านวิศวกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สารสนเทศ บริหารธุรกิจ และเศรษฐศาสตร์ มีพันธมิตรกับธุรกิจ สมาคม และสถาบันต่างๆ โดดเด่นด้านงานวิจัยทางเทคโนโลยีสำหรับอนาคต หลังจากสอบ FSP ผ่านเรียบร้อยแล้ว หากเลือกเรียนต่อที่ FH Südwestfalen ผู้เรียนจะสามารถเรียนในหลักสูตรดังต่อไปนี้ (การันตีเข้าเรียนต่อ) |
|
SRH Hamm (SRH) (คลิก) เป็นมหาวิทยาลัยประยุกต์ใน North Rhine Westphalia หลักสูตรการเรียนการสอนโดดเด่นด้วยการมุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีความพร้อมสำหรับการประกอบอาชีพในอนาคต เน้นทักษะการปฏิบัติ และอาจารย์ผู้สอนมีประสบการณ์ เนื้อหาหลักสูตรมีความสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานยุคปัจจุบัน หลังจากสอบ FSP ผ่านเรียบร้อยแล้ว หากเลือกเรียนต่อที่ SRH Hamm ผู้เรียนจะสามารถเรียนในหลักสูตรดังต่อไปนี้ (การันตีเข้าเรียนต่อ) ∗ หมายเหตุ: SRH Hamm มีค่าเล่าเรียนเพิ่มเติมในการเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้โดยตรงกับทางศูนย์ฯ เดอะเบสท์ |
3. English to German Track เรียนเป็นหลักสูตรภาษาอังกฤษ แล้วเปลี่ยนเป็นหลักสูตรภาษาเยอรมัน
Freshman Program | English to German Track เป็นหลักสูตรปรับพื้นฐาน 2 ภาษา โดยเริ่มต้นที่ภาษาอังกฤษก่อน และสำเร็จการศึกษาด้วยภาษาเยอรมัน โดยผู้เรียนสามารถเลือกหลักสูตร และสาขาที่เรียนในระดับปริญญาตรีได้เลย
รายละเอียดหลักสูตร
- ระยะเวลาหลักสูตร: 1 ปีการศึกษา (2 เทอม)
- วันเริ่มเรียน: เดือนตุลาคม
- ภาษาที่เรียน: ภาษาเยอรมัน + ภาษาอังกฤษ
หัวข้อที่สามารถเลือกเรียน
ผู้สมัครที่เลือกเรียนหลักสูตร English to German Track จะต้องเลือกรูปแบบการเรียนเพิ่มเติมอีก 2 รูปแบบ ดังนี้
1. English to German Track แบบเน้นภาษาเยอรมัน หลักสูตร Freshman Program จะมีบางวิชาที่เรียนเป็นภาษาเยอรมัน และภาษาอังกฤษ ผู้ที่เลือกโปรแกรมนี้ จะสามารถเข้าเรียนได้ 2 มหาวิทยาลัยเท่านั้น คือ FH-Aachen หรือ HBK Essen โดยหลักสูตรในมหาวิทยาลัยจะเป็นหลักสูตรภาษาเยอรมันทั้งหมดตั้งแต่ระดับชั้น ปี 1 – 3 | |
|
FH-Aachen (คลิก) เป็นมหาวิทยาลัยประยุกต์ขนาดใหญ่ใน Aachen เป็นสอนหลักสูตรคุณภาพสูง และสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานยุคปัจจุบัน เน้นการเรียนการสอนที่ทันสมัย โดดเด่นด้วยผลงานวิจัยด้านพลังงาน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตในอนาคต หากเลือกเรียนต่อที่ FH-Aachen ผู้เรียนจะได้เรียนหลักสูตรภาษาเยอรมันเพื่อการเรียนต่อสำหรับหลักสูตร Freshman Program เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงจากการเรียนภาษาอังกฤษ เป็นภาษาเยอรมันสำหรับหลักสูตรระดับปริญญาตรี หลังจากสำเร็จการศึกษาหลักสูตร Freshman Program ผู้เรียนสามารถเข้าเรียนต่อที่ FH-Aachen ได้เลยโดยไม่ต้องสอบ FSP (การันตีเข้าเรียนต่อ) โดยผู้เรียนสามารถเลือกเรียนหลักสูตรดังต่อไปนี้ |
|
HBK Essen (คลิก) มหาวิทยาลัยเอกชนที่โดดเด่นในด้านศิลปะและการออกแบบ ได้รับการยอมรับจากรัฐบาล เปิดสอนหลักสูตรศิลปศาสตร์และการออกแบบคุณภาพสูง เรียนรู้แบบบูรณาการทั้งภาคทฤษฎี และปฏิบัติ มีอุปกรณ์การเรียน และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น สตูดิโอ ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ รวมถึงซอฟต์แวร์ต่างๆ ที่ช่วยให้การเรียนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น หากเลือกเรียนต่อที่ HBK Essen ผู้เรียนจะได้เรียนหลักสูตรภาษาเยอรมันเพื่อการเรียนต่อสำหรับหลักสูตร Freshman Program เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงจากการเรียนภาษาอังกฤษ เป็นภาษาเยอรมันสำหรับหลักสูตรระดับปริญญาตรี หลังจากสำเร็จการศึกษาหลักสูตร Freshman Program ผู้เรียนสามารถเข้าเรียนต่อที่ HBK Essen ได้เลยโดยไม่ต้องสอบ FSP (การันตีเข้าเรียนต่อ) โดยผู้เรียนสามารถเลือกเรียนหลักสูตรดังต่อไปนี้ Fine Arts Design ∗ หมายเหตุ: HBK Essen มีค่าเล่าเรียนเพิ่มเติมในการเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้โดยตรงกับทางศูนย์ฯ เดอะเบสท์ |
2. English to German Track แบบแบ่งครึ่ง ตัวเลือกนี้ พร้อมสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย U. Duisburg Essen โดยหลักสูตร Freshman Program และชั้น ปีที่ 1 จะเรียนเป็นภาษาอังกฤษ ส่วนหลักสูตรในชั้นปี 2 – 3 จะเรียนเป็นภาษาเยอรมัน |
|
|
University of Duisburg-Essen (คลิก) ตั้งอยู่ใจกลางเมือง Ruhr เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมนี เปิดสอนหลักสูตรมากมายตั้งแต่มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ จนถึงวิทยาศาสตร์ วิศวกรรม การแพทย์ ติดอันดับที่ 16 จาก 400 มหาวิทยาลัยทั่วโลกที่มีอายุต่ำกว่า 50 ปี (จากการจัดอันดับ Times Higher Education) โดดเด่นด้วยผลงานวิจัยหลัก 5 สาขา ได้แก่ Nanosciences, Biomedical Sciences, Urban Systems, Transformation of Contemporary Societies และ Water Research ผู้เรียนสามารถเลือกเรียนหลักสูตรดังต่อไปนี้
สำหรับผู้ที่ต้องการเรียนต่อในมหาวิทยาลัย University of Duisburg-Essen จะต้องมีคะแนนวิชาคณิตศาสตร์ขั้นต่ำเฉลี่ยแล้ว เทียบเท่าเกรด B (หรือ 75%) ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 – 6 และจะต้องรักษาเกรดเฉลี่ยในหลักสูตร Freshman Program ด้วย ดังนั้น จึงไม่สามารถรับประกันการเข้าเรียนต่อหลังจากสำเร็จการศึกษาหลักสูตร Freshman Program |
คุณสมบัติในการเรียนหลักสูตร Freshman Program | English to German Track
- สำเร็จการศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 (หรือเทียบเท่า เช่น มีวุฒิการศึกษา IB-Diploma, IGCSE, A-Level หรือ GED)
- สอบผ่าน Freshman Entrance Exam (สอบโดยระบบออนไลน์ หรือสอบที่สถาบัน Gothe กรุงเทพฯ)
- มีทักษะภาษาอังกฤษอย่างน้อยระดับ B2 หรือเทียบเท่าIELTS 5.5 ซึ่งทักษะภาษาอังกฤษจะเป็นส่วนหนึ่งในการสอบเข้าเรียน และไม่จำเป็นต้องมีใบรับรอง
การสมัครเรียนหลักสูตร Freshman Program
สำหรับน้องๆ ที่สนใจเรียนหลักสูตร Freshman Program จะต้องเข้ารับการทดสอบ Freshman Entrance Exam ผ่านทางระบบออนไลน์หรือสอบที่สถาบัน Gothe ที่กรุงเทพฯ ซึ่งหากเลือกสอบที่สถาบัน Gothe จะสามารถขอสอบได้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย และต้องต้องเลือก Track ที่ต้องการจะสอบเพื่อเรียนต่อ
1. เลือก Track ที่ต้องการจะเรียนต่อ
หลักสูตร Freshman Program มี 3 Track โดยแต่ละ Track มีความแตกต่างกันตามที่อธิบายไว้ข้างต้น ให้ผู้สมัครเลือกเรียนตามความต้องการของผู้เรียน ดังนี้
- German Track คือหลักสูตรที่มีการเรียนการสอนเป็นภาษาเยอรมันทั้งหมด
- English Track คือหลักสูตรที่มีการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด
- English to German Track คือหลักสูตรที่เรียนเป็นภาษาอังกฤษก่อน และสำเร็จการศึกษาเป็นภาษาเยอรมัน
2. ติดต่อศูนย์ฯ เดอะเบสท์ เพื่อทำการสมัครสอบออนไลน์
เมื่อเลือก Track เรียบร้อยแล้ว แจ้งข้อมูลกับทางศูนย์ฯ เดอะเบสท์ เพื่อทำการสมัครเรียน และสมัครสอบ พร้อมรับคำแนะนำเรื่องการเรียนจากผู้เชี่ยวชาญฟรี
สมัครเรียน สมัครสอบออนไลน์ สอบถามข้อมูลการบริการเพิ่มเติมติดต่อ
โทร : 090-327 3558, 088-269 5099
Email :contact@thebest-edu.com
Line : @thebesteduหรือคลิกเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ
3. เอกสารที่ต้องเตรียมเพื่อสมัครเรียน
- หนังสือเดินทาง (Passport)
- บัตรประจำตัวประชาชน (ID card)
- รูปถ่าย (Photo)
- ใบรับรองการสำเร็จการศึกษา School Certificate (หรือใบคาดว่าจะจบ Interim Certificate)
- ทรานสคริปผลการเรียน 2 ปีสุดท้าย (Transcript)
เอกสารอื่นๆ (ถ้ามี)
- ใบรับรองทักษะภาษาเยอรมัน German language certificate
- ใบรับรองทักษะภาษาอังกฤษ English language certificate
- ผลสอบ TestAS
- ใบรับรองอื่นๆ ที่คาดว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้สมัคร
การสอบเข้าเรียน Freshman Entrance Exam
นักศึกษาทุกคนที่สมัครเรียนหลักสูตร Freshman Program จะต้องเข้ารับการทดสอบ Freshman Entrance Exam ซึ่งจะมีสอบทั้งระบบออนไลน์ (มีค่าใช้จ่าย) และสอบแบบกระดาษ (สอบฟรีที่สถาบัน Gothe กรุงเทพฯ) โดยมีรายละเอียดดังนี้
การสอบที่สถาบัน Gothe กรุงเทพฯ
การสอบที่สถาบัน Gothe กรุงเทพฯ สามารถสมัครสอบกับทางศูนย์ฯ เดอะเบสท์ ได้เลย สอบฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย! และเมื่อไปถึงสนามสอบ จะมีเจ้าหน้าที่จากสถาบัน Freshman Institute คอยให้ทำแนะนำให้ด้วย สำหรับวัน และเวลาสมัครสอบ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับทางศูนย์ฯ เดอะเบสท์ได้เลย
การสอบออนไลน์
การสอบเข้าออนไลน์มีค่าใช้จ่าย 45 USD (ประมาณ 1,400 บาท) โดยจะถูกเรียกเก็บเงินโดยตรงจาก ExamRoom.ai แนะนำสำหรับน้องๆ ที่อยู่ต่างจังหวัด และไม่อยากเดินทางไปสอบที่สถาบัน Gothe กรุงเทพฯ
คอมพิวเตอร์/อินเทอร์เน็ต
- การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วขั้นต่ำ 10Mbps
- ต้องใช้คอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อปในการสอบ (ไม่สามารถทำข้อสอบบนโทรศัพท์มือถือได้)
- หากใช้ Mac โปรดตรวจสอบว่าอนุญาตให้ใช้สิทธิ์การบันทึกหน้าจอเพื่อให้เบราว์เซอร์ Chrome ได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในระหว่างการสอบ
- ต้องใช้ชุดหูฟังพร้อมไมโครโฟนในการสอบ
- คุณไม่ได้รับอนุญาตให้ทดสอบในรถยนต์ รถประจำทาง หรือยานพาหนะอื่นๆ หรือในร้านอินเทอร์เน็ต และไม่สามารถทำข้อสอบโดยใช้ VPN (Virtual Private Network)
- ต้องอยู่คนเดียวในห้องระหว่างการสอบ
กำหนดการณ์สอบ Freshman Entrance Exam
วันที่สอบ |
วันสมัครสอบวันสุดท้าย |
ภาษาที่ใช้สอบ |
30 พฤษภาคม 2566 | 9 พฤษภาคม 2566 |
English or German |
28 มิถุนายน 2566 |
3 มิถุนายน 2566 |
English or German |
เตรียมความพร้อมสำหรับการสอบ Freshman Entrance Exam
หัวข้อการสอบ Freshman Entrance Exam จะสอบวัดระดับทักษะภาษาเยอรมัน หรือภาษาอังกฤษ ตามที่ผู้สมัครได้เลือก และความรู้ทางคณิตศาสตร์ โดยมีหัวข้อในการสอบดังนี้
หัวข้อการสอบความรู้ทางคณิตศาสตร์ (ไม่อนุญาตให้ใช้เครื่องคิดเลข)
- Elementarey Calculus: Sets and Numbers
- Working with Sets
- Working with Fractions
- Powers and Percentage
- Working with Powers, Roots und Percentage
- Equations/Inequalities in one Variable
- Lineare Equations/Inequalities
- Quadratic Equations/Inequalities
- Radical Equations
- Absolute Value Equations
- Equations/Inequalities with Fractions
- Geometry
- Area of Polygons and Circles
- Angles in Triangles
- Volumes of Cylinders, Cones and Spheres
- Elementary Functions
- Power Functions
- Properties/Roots of linear, quadratic and cubic polynomials
- Logarithmic Functions
- Exponential Functions
- Trigometric Functions
หัวข้อการสอบทักษะความรู้ภาษาเยอรมัน
- German – written and oral
- Mathematics – written
หัวข้อการสอบทักษะความรู้ภาษาอังกฤษ
- English – written and oral
- Mathematics – written
คลิกหัวข้อด้านล่าง เพื่อดูตัวอย่างหัวข้อสอบสำหรับเข้าเรียนหลักสูตร Freshman Program
ค่าใช้จ่ายในการเรียนหลักสูตร Freshman Program
ระดับชั้น |
ค่าใช้จ่าย |
Freshman Program Year 1 |
€19,500 (ประมาณ 712,544 บาท) |
หมายเหตุ: สำหรับการเข้าร่วมโครงการ Freshman Program หากชำระค่าธรรมเนียมโครงการแล้ว “ไม่จำเป็นต้องเปิด Blocked Account” เนื่องจาก ค่าใช้จ่ายทุกอย่างได้ชำระล่วงหน้า |
|
รวมค่าใช้จ่ายดังต่อไปนี้ |
|
ค่าวีซ่า
|
ค่าประกันสุขภาพ
|
ค่าเรียน
หมายเหตุ: เฉพาะหลักสูตร English to German Track ที่เลือกเรียนสาขาวิศวกรรมศาสตร์ในระดับปริญญาตรีเท่านั้น |
ค่าที่พัก
หมายเหตุ: ที่พักไม่รวมอาหาร ผู้เรียนจะต้องเตรียมอาหารด้วยตัวเอง |
ค่าบริการช่วยเหลือเพิ่มเติม
|
ค่าสิ่งอำนวยความสะดวก
|
ค่าบัตรนักศึกษา Student ID
|
ค่ากิจกรรม สันทนาการ
|
ที่พักสำหรับนักศึกษาหลักสูตร Freshman Program
ที่พักสำหรับนักศึกษาหลักสูตร Freshman Program ทางสถาบันจะจัดหาให้โดยค่าใช้จ่าย รวมในค่าใช้จ่ายข้างต้นเรียบร้อยแล้ว ระยะเวลาการพัก 1 ปีการศึกษา และไม่สามารถขอคืนเงินส่วนของค่าที่พัก โดยที่พักนักศึกษา มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพียบพร้อม และเจ้าหน้าที่พร้อมต้อนสู่ประเทศเยอรมนี
- ห้องพัก จะเป็นห้องแชร์กับเพื่อนในระดับชั้นเดียวกัน เพศเดียวกัน โดยจะแบ่งเป็นอะพาร์ทเม้น 1 อพาร์ทเม้นจะมีนักศึกษา 4 – 6 คน
- ขนาดห้องนอนประมาณ 10-16 ตร.ม. มีพื้นที่ส่วนกลางให้นักศึกษาได้สนทนา พบปะ สังสรรค์ร่วมกัน
- มีอุปกรณ์และเครื่องนอนครบครัน เช่น ผ้าปูที่นอน หมอน ผ่าห่ม โต๊ะโคมไฟ เก้าอี้ และตู้เสื้อผ้า
- มีห้องครัวส่วนกลาง พร้อมเตาอบสำหรับประกอบอาหาร และตู้เย็น โดยนักศึกษาในอพาร์ทเม้นทั้งหมด จะต้องรับผิดชอบเรื่องความสะอาด และความปลอดภัยขณะประกอบอาหาร
- การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านสายเคเบิล (LAN) ให้บริการฟรีในแต่ละห้อง – ไม่มีอินเทอร์เน็ตไร้สาย
- มีห้องอ่านหนังสือและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านกีฬาเช่นปิงปองและแบดมินตันให้บริการฟรีในมหาวิทยาลัย
- มีเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญและเครื่องอบผ้า และชุดอุปกรณ์ทำความสะอาด ภายในอาณาบริเวณที่พัก
- มีโรงอาหารภายในวิทยาเขตคอยบริการวัน จ. – ศ. เวลา 10:00 – 17:00 น.
ทำไมควรเลือกเรียนต่อปริญญาตรี ที่ประเทศเยอรมนี?
- ประเทศเยอรมนีเรียนฟรี ไม่มีค่าเล่าเรียนตลอดระยะเวลาการศึกษาในระดับอุดมศึกษานักศึกษาทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาชาวเยอรมนี หรือนักศึกษาชาวต่างชาติ ที่เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยของรัฐบาลในประเทศเยอรมนี ไม่ต้องจ่ายค่าเล่าเรียน เพียงจ่ายแค่ค่าลงทะเบียนเรียนประมาณ €250 ต่อภาคการศึกษา แต่จะได้กลับคืนในรูปแบบตั๋วโดยสารสาธารณะฟรี ตลอด 1 เทอม
- มหาวิทยาลัยทุกแห่ง มีคุณภาพระดับโลกบางมหาวิทยาลัยได้รับการจัดอันดับให้เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกอย่างต่อเนื่อง และหลักสูตรการศึกษาที่มีความโดดเด่น การวิจัยที่เป็นที่ยอมรับ สามารถนำไปใช้ได้จริง
- เยอรมนีเป็นประเทศแห่งอุตสาหกรรมเยอรมนีได้ลงทุนในมหาวิทยาลัยด้านวิศวกรรมเป็นจำนวนมาก และปัจจุบันโปรแกรมวิศวกรรมได้รับการยกย่องเป็นพิเศษในมหาวิทยาลัยในเยอรมัน อย่างไรก็ตามมีโปรแกรมการศึกษามากมายที่เปิดสอนในมหาวิทยาลัยเหล่านี้และในบางแห่งก็เป็นผู้นำระดับโลก เช่น การแพทย์และเภสัชศาสตร์
- หลักสูตรมีคุณภาพสูง การศึกษาของมหาวิทยาลัยในเยอรมนีมีคุณภาพสูงระดับโลก ทั้งด้านโครงสร้าง และเนื้อหาหลักสูตรที่สอน ได้รับการปรับปรุง และพัฒนาให้ทันสมัยที่สุด โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องอย่างมีพลวัต
- วุฒิการศึกษาเป็นที่ยอมรับทั่วโลก นายจ้างทั่วโลกตระหนักถึงคุณภาพการศึกษาของประเทศเยอรมนี ซึ่งจะทำให้ไว้วางใจได้รับผิดชอบงานสเกลใหญ่ๆ ที่มีคุณภาพ และค่าตอบแทนสูง ยิ่งไปกว่านั้น นักศึกษาหลายคนมักจะได้งานทำก่อนเรียนจบ
- ค่าครองชีพที่คุ้มค่าหลายๆ คนอาจจะคิดว่า ประเทศเยอรมนี มีค่าครองชีพสูง แต่นั่นเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของประเทศ เฉพาะในเมืองท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ค่าครองชีพโดยรวมของประเทศเยอรมนี ต่ำกว่าหลายๆ ประเทศในโซนยุโรป ยิ่งหากเลือกเรียนในเมืองที่ไม่ใช่เมืองท่องเที่ยว ค่าครองชีพยิ่งถูกลงอีกเยอะมาก และทุกเมือง มีมหาวิทยาลัยที่มีคุณภาพสูงเช่นเดียวกัน
- สามารถทำงานพาร์ทไทม์ได้ด้วยประเทศเยอรมนี อนุญาตให้ผู้ที่ถือวีซ่านักเรียนทำงานพาร์ทไทม์ได้ 20 ชั่วโมง/สัปดาห์ หรือ 120 วันตลอดทั้งปี และ 60% ของนักศึกษาต่างชาติ ก็เรียนด้วยทำงานด้วยเช่นเดียวกัน โดยลักษณะงานมีให้เลือกมากมาย (ยิ่งได้ภาษาเยอรมันจะยิ่งมีโอกาสมากกว่าผู้อื่น) ตั้งแต่พนักงานต้อนรับในร้านอาหาร ผู้ช่วยครูเด็กอนุบาล บาริสตา บาร์เทนเดอร์ เจ้าหน้าที่ธุรการ นอกจากจะได้รับค่าตอบแทนแล้ว ประสบการณ์การทำงานในเยอรมนี จะช่วยเพิ่มเครือข่ายและโอกาสการจ้างงานในอนาคตอีกด้วย
- ได้เรียนรู้ และฝึกภาษาเยอรมันด้วย ภาษาเยอรมันเป็นภาษาที่ใช้มากที่สุดในทวีปยุโรป และบริษัทกว่าครึ่งของยุโรป เป็นบริษัทสัญชาติเยอรมัน ดังนั้น การที่สามารถฟัง พูด อ่าน เขียน ภาษาเยอรมันได้ ก็เท่ากับว่าจะได้รับโอกาสในการทำงานมากกว่าคนอื่นๆ
- ประเทศเยอรมนี เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม ปัจจุบัน ประเทศเยอรมนีเป็นที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติมากมาย ดังนั้น จะได้เรียนรู้ และศึกษาวัฒนธรรมที่แตกต่างจากทั่วทุกมุมโลก และเพื่อนร่วมชั้นเรียนอาจมาจากประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ดังนั้น ผู้เรียนมีโอกาสพูดได้มากกว่า 3 ภาษา
- ได้ท่องเที่ยวได้ทั่วยุโรปผู้ที่เดินทางมาเรียนต่อยุโรป ไม่ว่าจะเป็นเรียนภาษาระยะสั้น หรือเรียนระดับอุดมศึกษา สามารถเดินทาง ท่องเที่ยวได้ทั่วทุกประเทศในเครือเชงเก้น โดยไม่ต้องขอวีซ่าประเทศอื่นเพิ่ม ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีในการท่องเที่ยวประเทศอื่นๆ ระหว่างปิดภาคการศึกษา เช่น ประเทศฝรั่งเศส ประเทศออสเตรีย ประเทศเนเธอร์แลนด์
- ประเทศเยอรมนีมีมรดกโลกที่ได้รับการจดทะเบียนจาก UNESCOประเทศเยอรมนี เป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และมีความร่ำรวยมาก หากมาเรียนที่เยอรมนี จะได้มีโอกาสได้ท่องเที่ยวเมืองมรดกโลกหลายแห่ง ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม
โอกาสการทำงานหลังเรียนจบ
นักศึกษาต่างชาติ ที่มาจากประเทศที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสหภาพยุโรป Non EU/EEA ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป สามารถอยู่ในเยอรมนีเพื่อหางานทำได้หลังเรียนจบได้ด้วยโดยสามารถยื่นขออยู่ต่อได้สูงสุด 18 เดือน โดยจะต้องขอวีซ่าทำงานชั่วคราวหลังเรียนจบ Aufenthaltserlaubnis (Temporary Residence Permit หรือ Limited Residence Permit) ทันทีหลังสำเร็จการศึกษา โดยแสดงหลักฐานการสำเร็จการศึกษา หลักฐานประกันสุขภาพ และหลักฐานการเงินที่เพียงพอต่อค่าครองชีพ
ทันทีที่ได้งานทำ ก็จะสามารถขอวีซ่าทำงาน หรือ EU-Blue Card ซึ่งเป็นใบอนุญาตทำงานที่รับรองจาก 25 ใน 28 ประเทศของสมาชิกสหภาพยุโรป ที่อนุญาตให้ผู้ถือบัตร EU-Blue Card ทำงานและอาศัยอยู่ในเยอรมนีได้ โดยได้รับเงินเดือนและสวัสดิการทางสังคมเช่นเดียวกันกับคนชาติเยอรมัน
EU-BLUE CARD คืออะไร?
EU Blue Card คือใบอนุญาตทำงานที่ประเทศของสมาชิกสหภาพยุโรป ซึ่งออกให้สำหรับ ผู้ที่มีความสามารถ ผู้ที่มีทักษะสูงที่มาจากนอกสหภาพยุโรป (Non-EU) สามารถเข้ามาทำงาน และใช้ชีวิตอย่างถูกกฏหมายในสหภาพยุโรปรวมถึงได้รับค่าจ้าง และสวัสดิการในอัตราเดียวกันกับคนในยุโรป เพื่อกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจ ให้สหภาพยุโรปกลายเป็นพื้นที่ทางเศรษฐกิจของโลกที่มีการแข่งขัน ขับเคลื่อน เปลี่ยนแปลงอย่างเป็นพลวัต และทันกับโลกยุคสมัยใหม่ รวมถึงมีการพัฒนาคุณภาพชีวิต และสวัสดิการทางสังคมให้ดีขึ้น คณะกรรมาธิการยุโรปจึงได้ตั้งข้อเสนอสองข้อ คือ
- สามารถทำงานและรับเงินเดือนในอัตราเดียวกันกับคนในยุโรป โดยฐานเงินเดือนขั้นต่ำอยู่ที่ €43,056 – €55,200 /ปี (ประมาณ 1,600,000 – 2,000,000 บาท/ปี หรือ เฉลี่ย เดือนละ 133,000 – 166,000 บาท/เดือน)
- ได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ทั้งทางเศรษฐกิจและสวัสดิการสังคม เทียบเท่ากับคนชาติเยอรมัน
- มีโอกาสขอเป็นผู้อยู่อาศัยถาวร (Permanent Residence) เมื่อทำงานเป็นระยะเวลา 5 ปี
เรียนต่อเยอรมันค่าครองชีพแพงไหม ค่าใช้จ่ายต่อเดือนเท่าไหร่?
สำหรับนักศึกษาที่ลงเรียนหลักสูตร Freshman Program ค่าใช้จ่ายข้างต้น ครอบคลุมค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าที่พักเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ ยังรวมค่าเดินทาง ค่าระบบขนส่งสาธารณะ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ซึ่งครอบคลุมค่าใช้จ่ายเกือบทั้งหมด เหลือเพียงแค่ค่าของใช้ส่วนตัว และค่าอาหารประจำวันใน ดังนั้น น้องๆ อาจเตรียมค่าใช้จ่ายเพียง €400 – €500 ต่อเดือน ก็เพียงพอ (ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตส่วนตัว)
คลิก เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับค่าครองชีพประเทศเยอรมนี
เรียนต่อเยอรมัน สามารถทำงานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียนได้หรือไม่?
นักศึกษาที่สำเร็จหลักสูตร Freshman Program และได้เข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี จะได้รับอนุญาตให้ทำงานระหว่างเรียน ในประเทศเยอรมันได้ โดยจะได้รับอนุญาตให้ทำงานระหว่างเรียน 120 วันเต็ม (Full Day) หรือ 240 ครึ่งวัน (Half Day) ต่อปี นอกจากนี้ นักศึกษาที่มีความสามารถในการสื่อสารภาษาเยอรมัน มีโอกาสได้งานและเลือกงานได้มากกว่านักศึกษาที่พูดได้เพียงภาษาอังกฤษ เพราะงานที่ต้องมีการติดต่อสื่อสารกับผู้คน ความรู้ภาษาเยอรมันเป็นสิ่งจำเป็น เช่น งานบริการในร้านอาหาร ในร้านขายของ เลี้ยงเด็ก ผู้ช่วยในสำนักงาน เป็นต้น นักศึกษาที่ยังสื่อสารภาษาเยอรมันได้ไม่คล่องนัก อาจหางานประเภทอื่น ๆ ได้ เช่น ผู้ช่วยในร้านอาหาร เป็นต้น
ค่าแรงขั้นต่ำประเทศเยอรมนีประมาณ €9.35 (ประมาณ 347 บาท) ต่อชั่วโมง
อัพเดท 1 มกราคม 2563
คลิก เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำงานระหว่างเรียน ที่ประเทศเยอรมนี
ติดต่อเดอะเบสท์เพื่อสอบถามข้อมูลการเรียนต่อต่างประเทศเพิ่มเติม
เดอะเบสท์ เป็นศูนย์บริการให้คำปรึกษาเรียนต่อต่างประเทศครบวงจร เราเป็นตัวแทนที่ให้บริการแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และ ประเทศอื่นๆ อีก 25 ประเทศทั่วโลก เรายินดีให้ความช่วยเหลือตั้งแต่เริ่มสมัครเรียน จนสำเร็จการศึกษา รวมถึงดูแลนักเรียนระหว่างเรียนจนนักเรียนเรียนจบด้วยทีมผู้เชียวชาญในด้านการเรียนต่อต่างประเทศ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ขั้นตอนเหล่านี้เราดำเนินการให้ฟรี และเราพร้อมที่จะทำตามคุณภาพ และมาตรฐานดังสโลแกนที่ว่า “We are Quality”
บริการของเรามีอะไรบ้าง ?
- ฟรี!! บริการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเรียนต่อต่างประเทศทุกระดับชั้นทั่วโลก ตั้งแต่ โรงเรียนประถม โรงเรียนมัธยม สถาบันวิชาชีพ และสถาบันในระดับอุดมศึกษา รวมถึงหลักสูตรภาษาต่างประเทศ และเลือกสถาบันที่ดีที่สุดให้กับผู้เรียน
- เราให้ความช่วยเหลือตั้งแต่การประสานงานโรงเรียน เลือกโรงเรียนให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียน เตรียมเอกสารสมัครเรียน และดำเนินเรื่องสมัครเรียนให้ฟรี
- บริการเตรียมเอกสารยื่นวีซ่าครบวงจร และบริการยื่นวีซ่ากว่า 25 ประเทศทั่วโลก พร้อมวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าอย่างตรงจุด และแนะนำวิธีการเตรียมตัวในการสัมภาษณ์วีซ่า
- บริการแปลเอกสาร ภาษาไทย – ภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาอังกฤษ – ภาษาไทย รวมถึงภาษาที่ 3 เริ่มต้นเพียงแผ่นละ 200 บาท
- เดอะเบสท์ เป็นตัวแทนรับสมัครสอบ IELTS IDP อย่างเป็นทางการ พร้อมให้คำแนะนำ และนัดวันสอบให้โดยน้องๆ ไม่ต้องเสียเวลาสมัครเอง สมัครสอบได้ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
- บริการซื้อประกันภัยการเดินทางและประกันสุขภาพนักเรียนต่างชาติ จากบริษัทประกันชั้นนำ MSIG, NIB, Allianz, Orbit และอื่นๆ
- บริการจองตั๋วเครื่องบิน ทุกสายการบิน และประสานงานกับสถาบันเกี่ยวกับรถรับ – ส่ง สนามบิน
- บริการจัดหาที่พักทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นโฮมสเตย์ อพาร์ทเม้น หรือหอพักนักศึกษา จัดหาให้ตามความต้องการส่วนบุคคล
“เรายินดีที่จะดูแลนักเรียนทุกคน ตั้งแต่เริ่มต้นจนนักเรียนสำเร็จการศึกษา และทำให้การเรียนต่อของคุณเป็นเรื่องง่าย ” สอบถามข้อมูลการบริการเพิ่มเติมติดต่อ
โทร : 090-327 3558, 088-269 5099
Email :contact@thebest-edu.com
Line : @thebestedu หรือคลิกเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ
2 ความเห็น
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.