สารบัญบทความ
Last updated มิถุนายน 9, 2022 ago by Thebestedu
ออสเตรเลีย เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับการเลือกเรียนต่อต่างประเทศ เนื่องจากประเทสออสเตรเลีย เป็นประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาราชการ มีความปลอดภัยสูง การศึกษามีคุณภาพระดับนานาชาติ วุฒิการศึกษา ได้รับการยอมรับ นอกจากนี้ ประเทศออสเตรเลียยังเป็นประเทศที่มีค่าตอบแทนสูงอันดับ 1 ของโลก และโอกาสในการทำงานหลังเรียนจบที่เปิดกว้าง จึงทำให้นักเรียน นักศึกษาต่างชาติทั่วโลก สนใจเรียนต่อออสเตรเลีย
การลงทุนเรียนต่อต่างประเทศ แน่นอนว่าจะต้องมีค่าใช้จ่ายที่สูง และประเทสออสเตรเลียก็เป็นประเทศที่มีค่าครองชีพที่สูงเทียบเท่ากับอังกฤษ สหรัฐอเมริกา ถึงแม้รัฐบาลจะอนุญาตให้ผู้ที่ถือวีซ่านักเรียน สามารถทำงานพาร์ทไทม์ได้ แต่ก็อาจจะไม่เพียพอ หรือครอบคลุมเฉพาะในส่วนของค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเท่านั้น หลายๆ คนจึงมองหาทุนการศึกษา ทั้งทุนจากมหาวิทยาลัย และทุนจากรัฐบาลออสเตรเลีย
ออสเตรเลียมีทุนการศึกษาทั้งแบบเต็มจำนวนและทุนการศึกษาบางส่วนสนับสนุนค่าใช้จ่ายระหว่างเรียน ทั้งทุนของรัฐบาลออสเตรเลีย สถาบันการศึกษา และองค์กรภาครัฐและเอกชน หลากหลายประเภท เช่น Australia Award, Australian Government Research Training Program (RTP), Australia APEC Women in Research Fellowship และ Destination Australia Scholarship โดยในบทความนี้ ศูนย์ฯ เดอะเบสท์ จะแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับทุน Destination Australia Scholarship
ทำความรู้จักทุน Destination Australia Scholarship
Destination Australia Scholarship คือทุนรัฐบาลออสเตรเลียที่สนับสนุนให้นักศึกษาชาวออสเตรเลีย และนักศึกษาต่างชาติ ที่เลือกเรียนในสถาบันที่ตั้งอยู่ในส่วนภูมิภาคของออสเตรเลีย (Regional) เพื่อเป็นส่วนช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และส่งเสริมให้เป็นผู้อยู่อาศัยในออสเตรเลีย เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “Planning for Future Population of Australia” โดยในปีการศึกษา 2021 รัฐบาลออสเตรเลียได้จัดสรรทุนการศึกษากว่า 17 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ให้กับทางมหาวิทยาลัยในออสเตรเลียในเขตภูมิภาคกว่า 35 แห่ง เพื่อจัดสรรมอบทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาที่กำลังลงทะเบียนในปีการศึกษา 2021 ที่จะถึงนี้
- Destination Australia Scholarships มีมูลค่าสูงถึง $15,000 ต่อปี ซึ่งเป็นหนึ่งในทุนการศึกษาที่มีมูลค่าสูงและเป็นที่ต้องการมากที่สุด ในบรรดาทุนการศึกษาทั้งหมด
- ทุนการศึกษา Destination Australia ได้รับการออกแบบมาสำหรับนักเรียนที่มีผลการเรียนดี หรือมีความสามารถพิเศษที่โดดเด่นในสาขาที่สมัครเรียน ต้องการได้รับความช่วยเหลือทางการเงิน เพื่อใช้ชีวิตและศึกษาในภูมิภาคออสเตรเลีย (Regional)
- ทุน Destination Australia เป็นทุนรัฐบาลของออสเตรเลีย Australian Government, Dept. of Education, Skill and Employment
- สามารถสมัครได้ตั้งแต่ระดับวิชาชีพ จนถึงปริญญาเอก (Certificate IV, Diploma, Advanced Diploma, Graduate Diploma, Bachelor Degree, Master Degree และ Ph.D.)
- ทุน Destination Australia Scholarship สามารถขอต่อได้ทุกปี ซึ่งจะพิจารณาตามผลการศึกษาย้อนหลัง
- ทุน Destination Australia Scholarship เป็นทุนให้เปล่า ไม่ต้องใช้ทุนหลังสำเร็จการศึกษา
- ทุน Destination Australia Scholarship มีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขในทุกปีๆ ขึ้นอยู่กับทางสถาบันการศึกษา หรือมหาวิทยาลัย ดังนั้น จะต้องเช็ครายละเอียด เงื่อนไข โดยตรงจากทางมหาวิทยาลัย หากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถปรึกษา ศูนย์ฯ เดอะเบสท์ ได้ ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
หากได้รับทุนการศึกษา ค่าเสียค่าใช้จ่ายอื่นๆ เท่าไหร่
ทุน Destination Australia Scholarship เป็นทุนที่ทางรัฐบาลออสเตรเลียให้มากที่สุด และมีผู้ยื่นสมัครมากที่สุด แต่ ทุน Destination Australia Scholarship ไม่ใช่ทุนเต็มจำนวน ดังนั้น ผู้สมัครจะต้องมีทุนส่วนตัว เพื่อจ่ายค่าเทอมส่วนต่างของทุนด้วย นอกจากนี้ ทุน Destination Australia Scholarship ยังไม่รวมค่าครองชีพ ค่าที่พัก ค่าอาหารในชีวิตประจำวัน ในขณะที่ศึกษาอยู่ที่ออสเตรเลียด้วย
ทำอย่างไรถึงจะได้ทุน Destination Australia scholarship?
ทุน Destination Australia Scholarship ทางรัฐบาลออสเตรเลีย จะมอบทุนให้กับทางมหาวิทยาลัยได้จัดสรรให้แก่นักศึกษาด้วยตนเอง ดังนั้น เกณฑ์คุณสมบัติจะถูกกำหนดโดยมหาวิทยาลัยในแต่ละมหาวิทยาลัย ซึ่งผู้สมัครจะต้องสมัครกับทางมหาวิทยาลัย (หรือสมัครกับทางศูนย์ฯ เดอะเบสท์ ที่ให้บริการสมัครเรียนและให้คำแนะนำในการสมัครทุน Destination Australia) โดยแต่ละมหาวิทยาลัยมีเงื่อนไขแตกต่างกัน แต่โดยส่วนมากแล้ว จะรับสมัครผู้ที่มีคุณสมบัติดังนี้
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้สมัคร มีคุณสมบัติพร้อมทั้ง วิชาการ และ ภาษาอังกฤษ
ทุน Destination Australia Scholarship เป็นทุนสำหรับนักศึกษาที่มีคุณสมบัติทางวิชาการ และผลคะแนนภาษาอังกฤษที่พร้อมเรียนแล้วเท่านั้น หรือมีความสามารถโดดเด่นในสาขาที่สนใจ ดังนั้น จะต้องเตรียมความพร้อมให้ดี และตรวจสอบคุณสมบัติของตนเอง ว่าเพียงพอหรือไม่ แนะนำให้ตรวจสอบกับทางมหาวิทยาลัยเป็นหลัก เนื่องจาก มหาวิทยาลัยจะคัดเลือกผู้รับทุน Destination Australia โดยพิจารณาแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละมหาวิทยาลัย หากยังไม่พร้อม สามารถเตรียมตัวเพื่อสมัครทุนในปีถัดไปได้ เนื่องจาก ทุน Destination Scholarship เปิดรับสมัครทุกปี ศูนย์ฯ เดอะเบสท์ ขอยกตัวอย่างคุณสมบัติเบื้องต้น ที่ผู้สมัครจะได้รับการคัดเลือกดังนี้
คุณสมบัติด้านวิชาการ Academic Requirement
- คุณวุฒิการศึกษาตรงตามข้อกำหนด
- หลักสูตรปริญญาตรี Bachelor Degree จะต้องสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 (Certificate of Secondary Education) หรือเทียบเท่า
- หลักสูตรปริญญาโท Master Degree จะต้องสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี Bachelor Degree
- มีผลการศึกษาขั้นต่ำในระดับที่ 75% (GPA 3.0) ของระดับการศึกษาก่อนหน้า
- ผู้สมัครจะต้องลงเรียนหลักสูตรแบบเต็มเวลา Full-Time เท่านั้น
- บางมหาวิทยาลัยอาจมีการสัมภาษณ์ด้วย
คุณสมบัติด้านภาษาอังกฤษ English Requirement อย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้
- IELTS Academic
- วิชาชีพ Certificate or Diploma: 5.5 (with no individual band score of less than 5.0)
- ปริญญาตรี หรือ ปริญญาโท (Coursework): 6.0 (โดยทุกแบนด์ไม่ต่ำกว่า 5.5).
- ปริญญาโทวิจัย: 6.5 (โดยทุกแบนด์ไม่ต่ำกว่า 6.0)
- TOEFL Internet-based
- วิชาชีพ Certificate or Diploma: Overall 65 ทุกพาร์ทไม่ต่ำกว่า 15.
- ปริญญาตรี หรือ ปริญญาโท (Coursework): Overall 75 ทุกพาร์ทไม่ต่ำกว่า 17
- ปริญญาโทวิจัย: Overall 79 ทุกพาร์ทไม่ต่ำกว่า 21
- หากคุณสำเร็จการศึกษาหลักสูตรนานาชาติ ในมหาวิทยาลัย หรือโรงเรียนมัธยม หรือมีวุฒิการศึกษาที่ตรงตามข้อกำหนดความสามารถด้านภาษาอังกฤษอย่างใดอย่างหนึ่งด้านล่าง ไม่ต้องมีคะแนนภาษาอังกฤษ
- International Second Language Proficiency Rating (ISLPR® (IIAA accredited))
- Cambridge English: Advanced (CAE) / Cambridge English: Proficiency (CPE) / Cambridge English: First (FCE)
- International Baccalaureate Diploma/Certificate
- GCSE or IGCSE
- GCE A Level studies
- สำเร็จ Year 12 ในโรงเรียน High School ออสเตรเลีย
หมายเหตุ:
- คุณสมบัติข้างต้น เป็นเพียงคุณสมบัติเบื้องต้นที่ผู้สมัครควรพร้อม ก่อนที่จะสมัครทุน
- บางมหาวิทยาลัย หรือบางสาขาวิชา อาจกำหนดคุณสมบัติขั้นต่ำที่สูงกว่าข้างต้น เช่น หลักสูตรพยาบาลใช้คะแนน IELTS Academic ขั้นต่ำ 7.0 ทุกแบนด์
- หากต้องการทราบคุณสมบัติแต่ละหลักสูตร แต่ละมหาวิทยาลัยอย่างละเอียด แนะนำให้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับทาง ศูนย์ฯ เดอะเบสท์ จะดีที่สุด
- บางหลักสูตร ผู้สมัครจะต้องเขียนจดหมาย Essay ประมาณ 500 – 1,000 คำ โดยมหาวิทยาลัยจะมีหัวข้อให้ ยกตัวอย่าง เช่น “How Destination Australia Scholarship will assist you in reaching your career goals and how it will help you make tomorrow better.”
- หลักสูตรมหาวิทยาลัยบางหลักสูตร อาจต้องมีประสบการณ์การทำงานด้วย ดังนั้น ควรตรวจสอบเงื่อนไขกับทางมหาวิทยาลัยให้ชัดเจน
ขั้นตอนการสมัครทุน Destination Australia Scholarship
ขั้นตอนการสมัครเรียน และสมัครทุน Destination Australia Scholarship จะต้องเตรียมเอกสารให้พร้อมมากที่สุด และจะต้องส่งเอกสารภายในวันสุดท้าย ที่ทางมหาวิทยาลัยกำหนดเท่านั้น และการสมัครทุน ควรเผื่อเวลาล่วงหน้าก่อนวันสุดท้ายของการรับสมัคร 2 สัปดาห์ขึ้นไป ดังนั้น ศูนย์ฯ เดอะเบสท์ แนะนำให้เตรียมตัวล่วงหน้า และติดต่อ ศูนย์ฯ เดอะเบสท์ก่อน อย่างน้อย 3 – 6 เดือน ก่อนวันเริ่มเรียน เนื่องจาก จะต้องเผื่อระยะเวลาการยื่นวีซ่า และรอผลวีซ่า โดย ผู้สมัคร สามารถวางแผนการสมัครของตัวเองเบื้องต้น ดังนี้
ภูมิภาคออสเตรเลีย Regional คืออะไร?
นอกเหนือจากเมืองใหญ่ๆ เช่น ซิดนีย์ เมลเบิร์น บริสเบน แล้ว ประเทศออสเตรเลียยัง ประกอบด้วยเมืองอื่นๆ ที่เป็นทางเลือกให้กับนักศึกษาได้เรียนต่อ ซึ่งพื้นที่ทั้งหมดอยู่นอกเหนือเขตเมืองหลวงสำคัญๆ เรียกว่า พื้นที่ในเขต Regional ซึ่งพื้นที่ส่วนนี้ เป็นฐานการผลิตของประเทศ และเป็นที่อยู่อาศัยของชาวออสเตเรลียกว่า 9.45 ล้านคน นอกจากนี้ ยังเป็นส่วนสร้างงานให้กับชาวออสเตรเลียได้ถึงหนึ่งในสามอีกด้วย
สำหรับนักเรียน นักศึกษาต่างชาติที่กำลังมองหางานที่ได้รับค่าตอบแทนที่คุ้มค่า และมีโอกาสขอเป็นผู้อยู่อาศัยถาวร PR (Permanent Residence) ในอนาคต การเรียนที่ภูมิภาคออสเตรเลีย Regional เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากที่สุด เนื่องจากรัฐบาลออสเตรเลียเปิดโอกาส สนับสนุนให้นักศึกษาต่างชาติในเขตภูมิภาคมากกว่า ค่าใช้จ่ายน้อยกว่าเมื่อเทียบกับเมืองใหญ่ๆ และเป็นเส้นทางสู่ PR ได้อย่างรวดเร็ว
ข้อดีเมื่อเลือกเรียนในเขต Regional
- ค่าครองชีพต่ำกว่า หากเปรียบเทียบเมืองใหญ่ๆ เช่น ซิดนีย์ เมลเบิร์น หรือบริสเบน โดย ผู้ที่เรียนในวิทยาเขต Regional สามารถใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบาย ในอพาร์ทเม้นที่กว้างขวางโดยจ่ายเพียง $1,000 ต่อเดือน ในขณะเดียวกัน จะต้องจ่ายเงินมากถึง $2,000 – 2,500 ต่อเดือน หากเลือกเรียนในเมืองใหญ่ๆ เช่น ซิดนีย์ เมลเบิร์น หรือ บริสเบน
- การจ้างงานในเขต Regional ค่อนข้างสูงในหลายพื้นที่ และค่าตอบแทนสูง
- โอกาสวีซ่าผ่านที่มากกว่า เนื่องจากพื้นที่ในภูมิภาคมีจำนวนประชากรน้อย แต่ตำแหน่งว่างงานสูงมาก รัฐบาลจึงต้องการผู้ที่มีทักษะ เข้ามาทำงาน และเป็นส่วนพัฒนาพื้นที่ในเขตภูมิภาค
- ได้รับสิทธิพิเศษในการขอ Post Study Work Visa ที่มากกว่า
- หากเลือกเรียนต่อในเมืองที่อยู่ใน Category 2 จะได้วีซ่าทำงานหลังเรียนจบเพิ่มอีก 1 ปี เป็น 3 ปี
- หากเลือกเรียนต่อในเมืองที่อยู่ใน Category 3 จะได้วีซ่าทำงานหลังเรียนจบเพิ่มอีก 2 ปี เป็น 4 ปี
- หากสำเร็จการศึกษาในเมืองเขต Regional จะได้รับสิทธิพิเศษจากรัฐบาลออสเตรเลีย โดยการเพิ่ม Point Test 5 Point สำหรับการขอเป็นผู้อยู่อาศัยถาวร PR ในเขต Regional ดังนั้น หากใครที่วางแผนขอเป็นผู้อยู่อาศัยถาวรหลังเรียนจบ การเรียนที่วิทยาเขต Regional ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม
- ความหนาแน่นของประชากรน้อยกว่า มีตัวเลือกที่พักอาศัยที่มากกว่า กว้างขวางกว่า และค่าใช้จ่ายถูกกว่า ในเมืองใหญ่ๆ
- อาชญากรรมต่ำมาก มีการดูแลความปลอดภัยภายในชุมชนอย่างเข้มงวด และห่างไกลจากความวุ่นวาย
- มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และความบันเทิงมากมายเหมือนในเมืองใหญ่ แต่บรรยากาศอบอุ่น สบายๆ ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่
- คุณภาพชีวิตที่ดีกว่า อากาศที่บริสุทธิ์กว่า เงียบสงบ ผ่อนคลาย และสโลไลฟ์ เน้นการใช้ชีวิต และสัมผัสประสบการณ์ของชาวออสเตรเลียได้อย่างแท้จริง
การแบ่งเขตภูมิภาคของออสเตรเลีย
การแบ่งพื้นที่ภูมิภาคทางออสเตรเลีย ทาง Designated Regional Areas (DRA) ได้แบ่งเขตพื้นที่ออกเป็น 3 ประเภท (3 Category) โดยแบ่งจากรหัสไปรษณีย์ของแต่ละพื้นที่ ดังนี้
- Category 1 Major Cities – เมืองขนาดใหญ่ ที่มีประชากรหนาแน่น เมืองหลวงของบางรัฐ Sydney, Melbourne และ Brisbane เมืองที่อยู่ใน Category 1 ไม่จัดให้เป็น Regional
- Category 2 Cities and Major Regional Centres – เมืองขนาดใหญ่ ที่มีประชากรหนาแน่นน้อยกว่า Category 1 เป็นศูนย์กลางของภูมิภาคที่สำคัญ เช่น Perth, Adelaide, Gold Coast, Sunshine Coast, Canberra, Newcastle/ Lake Macquarie, Wollongong/Illawarra, Geelong and Hobart
- โอกาสวีซ่าผ่านง่ายกว่า
- โอกาสในการทำงานในสายงาน Regional Occupation List มากขึ้น
- หากเลือกเรียนต่อในเมืองที่อยู่ใน Category 2 จะได้วีซ่าทำงานหลังเรียนจบเพิ่มอีก 1 ปี เป็น 3 ปี
- Category 3 Regional Centres and Other Regional Areas
- โอกาสวีซ่าผ่านง่ายกว่า
- โอกาสในการทำงานในสายงาน Regional Occupation List มากขึ้น
- หากเลือกเรียนต่อในเมืองที่อยู่ใน Category 3 จะได้วีซ่าทำงานหลังเรียนจบเพิ่มอีก 2 ปี เป็น 4 ปี
- ได้รับเอกสิทธิ์ในการเจรจาเฉพาะภูมิภาค Designed Area Migration Agreements (DAMAs)
รัฐ | Category 1 Major City | Category 2 Cities and Major Regional Centres | Category 3 Regional Centres and Other Regional Areas |
New South Wales |
|
|
|
Victoria |
|
|
|
Queensland |
|
|
|
Australia Capital Territory | – |
|
– |
Western Australia | – |
|
|
South Australia | – |
|
|
Tasmania | – |
|
|
Northern Territory | – | – |
|
มหาวิทยาลัยในเขต Regional ที่เปิดรับสมัครทุน Destination Australia Scholarship
ช่วงเวลาเปิดรับสมัครเรียน และเปิดรับสมัครทุน อาจไม่ใช่ช่วงเวลาเดียวกัน ดังนั้น จะต้องเช็คกับทางมหาวิทยาลัยให้ดีก่อนที่จะสมัคร หากไม่แน่ใจ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับทางศูนย์ฯ เดอะเบสท์ ได้เลย
รู้หรือไม่? เมื่อเรียนจบปริญญาตรีออสเตรเลีย ผู้เรียนสามารถขอวีซ่าทำงานหลังเรียนจบ สูงสุด 4 ปี
นักศึกษาในระดับปริญญากว่า 80% มีวัตถุประสงค์เพื่อทำงานแบบเต็มเวลา (Full-Time) ในออสเตรเลีย ซึ่งทางรัฐบาลออสเตรเลีย ก็ให้การสนับสนุนแก่นักศึกษาต่างชาติ โดยเปิดโอกาสให้ขอวีซ่า Temporary Graduate Visa (Subclass 485) ซึ่งวีซ่าประเภทนี้ เป็นวีซ่าเพื่อหางานทำหลังเรียนจบ สามารถทำงานได้แบบเต็มเวลา Full-Time หรือสามารถเรียนต่อ เพื่อฝึกประสบการณ์ หรือทักษะอื่นๆ ในออสเตรเลีย โดยจะได้ระยะเวลา 2 – 4 ปีขึ้นอยู่กับว่าคุณเรียนปริญญาตรีอยู่ที่เมืองไหนในออสเตรเลีย นอกจากนี้ สามารถพาแฟน หรือคู่สมรสไปด้วยได้ ซึ่งก็ได้รับสิทธิ์ ทำงานแบบเต็มเวลาได้ด้วยเช่นกัน
วีซ่า TEMPORARY GRADUATE VISA (SUBCLASS 485) แบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้
- Graduate Work Stream เป็นวีซ่าที่อนุญาตให้ทำงานหลังเรียนจบในประเทศออสเตรเลีย สำหรับหลักสูตรต่ำกว่าปริญญา เช่น หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ Certificate หรือ Diploma ระยะเวลาหลักสูตรรวมกันไม่ต่ำกว่า 2 ปี และต้องจบในสาขาวิชาชีพที่ขาดแคลน (Skilled Occupation List) ระยะเวลาวีซ่า สูงสุด 18 เดือน
- Post-Study Work Stream เป็นวีซ่าทำงานหลังเรียนจบสำหรับคนที่เรียนหลักสูตรปริญญาขึ้นไป Degree เช่น ปริญญาตรี, ปริญญาโท, ปริญญาโทวิจัย และ ปริญญาเอก วีซ่าประเภทนี้ จะของ่ายกว่า Graduate Work Stream (สาขาที่วิชาที่เรียนไม่จำเป็นต้องอยู่ใน Skilled Occupation List) และมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนด ก็สามารถขอวีซ่าได้ ระยะเวลาวีซ่า 2 – 4 ปี
หากสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีในเมืองหลัก Category 1 Major Cities จะได้วีซ่าทำงานหลังเรียนจบจาก 2 ปี แต่ถ้าหากเลือกเรียนต่อในเมืองที่อยู่ใน Category 2 จะได้วีซ่าทำงานหลังเรียนจบเพิ่มอีก 1 ปี เป็น 3 ปี หากเลือกเรียนต่อในเมืองที่อยู่ในรายชื่อ Category 3 จะได้วีซ่าทำงานหลังเรียนจบเพิ่มอีก 2 ปี เป็น 4 ปี ทั้งนี้ วีซ่า Temporary Graduate Visa (Subclass 485) เป็นวีซ่าที่สามารถขอได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ดังนั้น ควรเตรียมความพร้อมในด้านการเรียนให้ดี มีหลายครั้ง ที่ผู้สมัครยื่นวีซ่าผิดพลาด ผิดข้อกำหนด หรือแนบเอกสารผิดพลาด และเสียโอกาสในการขอวีซ่า นอกจากนี้ การเลือกสถาบันวิชาชีพ มหาวิทยาลัย หรือสาขาที่เรียนต่อ ก็เป็นเรื่องที่สำคัญมากเช่นกัน ดังนั้น ควรปรึกษากับ ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อได้รับคำแนะนำที่ถูกต้อง เนื่องจาก วีซ่าประเภทนี้ ถ้าผิดพลาด หรือโดนปฏิเสธ จะไม่สามารถยื่นขอใหม่ หรือยื่นอุทธรณ์ได้ในทุกกรณี
คลิก เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวีซ่า Temporary Graduate Visa (Subclass 485)
เรียนต่อออสเตรเลีย สามารถทำงานพาร์ทไทม์ได้ด้วย
อย่างที่ทราบกันว่า วีซ่านักเรียนประเทศออสเตรเลีย ทางสถานทูต อนุญาต ให้ทำงานพาร์ทไทม์ได้ แต่อย่างไรก็ตาม ควรต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า วีซ่าของคุณอนุญาต ให้ทำงานพาร์ททามระหว่างเรียนได้ นอกจากนี้ การทำงานพาร์ทนอกจากจะช่วยเหลือค่าใช้จ่ายบางส่วนในช่วงที่กำลังศึกษาอยู่ที่ออสเตรเลีย ยังช่วยเติมเต็มประสบการณ์ชีวิตในต่างแดนอีกด้วย
สถานทูตออสเตรเลียอนุญาตให้ผู้ที่ถือวีซ่านักเรียน ทำงานพาร์ทไทม์ ได้ 40 ชั่วโมงต่อสองสัปดาห์ (40 Hours / Fortnights) และสามารถทำงานเต็มเวลา ในช่วงปิดภาคการศึกษา
นอกจากนี้ หากเรียนในเขต Regional ไม่ต้องกังวลกับการหางานพาร์ทไทม์เลย เนื่องจาก เขต Regional มีร้านค้า ร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างเหมือนกับในเมือง มีงานพาร์ทไทม์ให้ทำเพียบ และการแข่งขันน้อย ยิ่งไปกว่านั้น หากเป็นนักเรียนทุน และมีความสามารถทางภาษาอังกฤษ จะยิ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการหางานพาร์ทไทม์ได้ง่ายมากขึ้น
คลิก เพื่อศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานพาร์ทไทม์ ประเทศออสเตรเลีย
ติดต่อเดอะเบสท์เพื่อสอบถามข้อมูลการเรียนต่อต่างประเทศเพิ่มเติม
เดอะเบสท์ เป็นศูนย์บริการให้คำปรึกษาเรียนต่อต่างประเทศครบวงจร เราเป็นตัวแทนที่ให้บริการแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และ ประเทศอื่นๆ อีก 25 ประเทศทั่วโลก เรายินดีให้ความช่วยเหลือตั้งแต่เริ่มสมัครเรียน จนสำเร็จการศึกษา รวมถึงดูแลนักเรียนระหว่างเรียนจนนักเรียนเรียนจบด้วยทีมผู้เชียวชาญในด้านการเรียนต่อต่างประเทศ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ขั้นตอนเหล่านี้เราดำเนินการให้ฟรี และเราพร้อมที่จะทำตามคุณภาพ และมาตรฐานดังสโลแกนที่ว่า “We are Quality”
บริการของเรามีอะไรบ้าง ?
- ฟรี!! บริการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเรียนต่อต่างประเทศทุกระดับชั้นทั่วโลก ตั้งแต่ โรงเรียนประถม โรงเรียนมัธยม สถาบันวิชาชีพ และสถาบันในระดับอุดมศึกษา รวมถึงหลักสูตรภาษาต่างประเทศ และเลือกสถาบันที่ดีที่สุดให้กับผู้เรียน
- เราให้ความช่วยเหลือตั้งแต่การประสานงานโรงเรียน เลือกโรงเรียนให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียน เตรียมเอกสารสมัครเรียน และดำเนินเรื่องสมัครเรียนให้ฟรี
- บริการเตรียมเอกสารยื่นวีซ่าครบวงจร และบริการยื่นวีซ่ากว่า 25 ประเทศทั่วโลก พร้อมวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าอย่างตรงจุด และแนะนำวิธีการเตรียมตัวในการสัมภาษณ์วีซ่า
- บริการแปลเอกสาร ภาษาไทย – ภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาอังกฤษ – ภาษาไทย รวมถึงภาษาที่ 3 เริ่มต้นเพียงแผ่นละ 200 บาท
- เดอะเบสท์ เป็นตัวแทนรับสมัครสอบ IELTS IDP อย่างเป็นทางการ พร้อมให้คำแนะนำ และนัดวันสอบให้โดยน้องๆ ไม่ต้องเสียเวลาสมัครเอง สมัครสอบได้ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
- บริการซื้อประกันภัยการเดินทางและประกันสุขภาพนักเรียนต่างชาติ จากบริษัทประกันชั้นนำ MSIG, NIB, Allianz, Orbit และอื่นๆ
- บริการจองตั๋วเครื่องบิน ทุกสายการบิน และประสานงานกับสถาบันเกี่ยวกับรถรับ – ส่ง สนามบิน
- บริการจัดหาที่พักทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นโฮมสเตย์ อพาร์ทเม้น หรือหอพักนักศึกษา จัดหาให้ตามความต้องการส่วนบุคคล
“เรายินดีที่จะดูแลนักเรียนทุกคน ตั้งแต่เริ่มต้นจนนักเรียนสำเร็จการศึกษา และทำให้การเรียนต่อของคุณเป็นเรื่องง่าย ” สอบถามข้อมูลการบริการเพิ่มเติมติดต่อ
โทร : 090-327 3558, 088-269 5099
Email :contact@thebest-edu.com
Line : @thebestedu หรือคลิกเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ
3 ความเห็น
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.