Last updated มิถุนายน 9, 2022 ago by Thebestedu
หากกำลังวางแผนที่จะเรียน และใช้ชีวิตในเยอรมนี สิ่งแรกที่จะต้องพิจารณาก่อนคือ ค่าครองชีพ ค่าครองชีพในเยอรมนีค่อนข้างสมเหตุสมผลเมื่อเทียบกับประเทศในยุโรปอื่น ๆ โดยเฉลี่ยแล้วจะต้องใช้เงินประมาณ 853 ยูโรต่อเดือน (ประมาณ 31,700 บาท) สำหรับการใช้ชีวิตที่ประเทศเยอรมนี โดยบทความนี้ จะครอบคลุมรายละเอียดเกี่ยวกับค่าครองชีพทั้งหมด ที่จำเป็นต้องรู้ ศึกษาเพิ่มเติมได้เลยค่ะ
Cost of Living in Germany
สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีหรือเรียกสั้นๆ ว่าเยอรมัน หรือเยอรมนี ตั้งอยู่ใจกลางทวีปยุโรป ล้อมรอบด้วยประเทศเพื่อนบ้านถึง 9 ประเทศ คือ เดนมาร์กอยู่ทางเหนือ เนเธอร์แลนด์ เบลเยี่ยม ลักเซมเบิร์ก และฝรั่งเศสอยู่ทางตะวันตก สวิตเซอร์แลนด์และออสเตรียอยู่ทางใต้ สาธาณรัฐเช็ก และโปแลนด์อยู่ทางตะวันออก นับเป็นประเทศในยุโรปที่มีจำนวน เพื่อนบ้านมากที่สุด
เยอรมนีเป็นชาติอุตสาหกรรมและมีความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ โดยมีการผลิตรวมเป็นอันดับสามของโลก และมีการค้าขายกับชาติมากเป็นอันดับหนึ่ง มีระบบเศรษฐกิจและตลาดการค้าแบบเสรีนิยม เป็นถิ่นกำเนิดของบริษัทมากมาย ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก เช่น Daimler BMW Siemens Bayer BASF และ ThyssenKrupp อุตสาหกรรมที่สำคัญก็คือ เคมีภัณฑ์ เครื่องจักร เครื่องยนต์และยานยนต์
ถึงแม้ว่าประเทศเยอรมนี เป็นหนึ่งในประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก แต่ค่าครองชีพในเยอรมนี ก็ไม่ได้สูงเกินความคาดหมาย เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในสหภาพยุโรป ประเทศเยอรมนีมีค่าครองชีพอยู่ในอันดับที่ 15 ต่ำกว่าประเทศอิตาลี เดนมาร์ก นอร์เวย์ ฝรั่งเศส สวิสเซอร์แลนด์ และเนเธอร์แลนด์
ค่าธรรมเนียมการศึกษา (Tuition Fee)
ค่าธรรมเนียมการศึกษา มักจะเป็นสิ่งแรก ที่จะต้องพิจารณา เมื่อวางแผนเรียนต่อต่างประเทศ แต่สำหรับในประเทศเยอรมนี ไม่มีค่าธรรมเนียมการศึกษาตลอดระยะเวลาการศึกษาในระดับอุดมศึกษา ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาชาวเยอรมัน หรือนักศึกษาชาวต่างชาติ ที่เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยของรัฐบาลในประเทศยอรมนี ไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการศึกษา
แม้จะไม่มีค่าธรรมเนียมการศึกษา แต่มหาวิทยาลัยจะเรียกเก็บค่าลงทะเบียนเรียนเล็กน้อย ประมาณ €300 เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับสวัสดิการนักศึกษา ทั้งภายใน และภายนอกโรงเรียน เช่น การใช้บริการห้องสมุด การใช้บริการโดยสารสาธารณะ ตลอดทั้งเทอม
รู้หรือไม่? ประเทศเยอรมนีเรียนฟรี อยากเรียนฟรีที่เยอรมนีต้องทำอย่างไร คลิกเพื่อหาคำตอบ
จริงที่มหาวิทยาลัยรัฐบาลในเยอรมนี ไม่มีค่าธรรมเนียมการศึกษา แต่มหาวิทยาลัยเอกชนยังคงมีค่าธรรมเนียมการศึกษาอยู่เช่นเดียวกันกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก นอกจากนี้ นักศึกษาต่างชาติ ยังเลือกเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเอกชนเป็นอัตราส่วนมากกว่ามหาวิทยาลัยของรัฐบาลอีกด้วย
ตัวอย่างค่าธรรมเนียมการศึกษา ของมหาวิทยาลัยเอกชนในเยอรมนี มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่?
ค่าธรรมเนียมแตกต่างกันไปตามแต่ละมหาวิทยาลัยที่เลือก โดย ค่าธรรมเนียมการศึกษา มหาวิทยาลัยเอกชนในเยอรมนี สูงสุดอยู่ที่ประมาณ €30,000 แต่มหาวิทยาลัยเอกชนหลายแห่ง มีทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาที่มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ที่กำหนดด้วย
- GISMA Business School มีค่าใช้จ่ายประมาณ €12,000 – €21,450 ต่อปี (MBA €31,450)
- University of Applied Sciences Europe มีค่าใช้จ่ายประมาณ €10,380 – €11,340 ต่อปี
- EU Business School มีค่าใช้จ่ายประมาณ €12,900 – €20,850 ต่อปี (MBA €22,500)
ค่าที่พักในเยอรมนี
สิ่งถัดมาที่จะต้องพิจารณาคือ ค่าที่พัก ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ที่สุดในการเรียนเยอรมนี แน่นอนว่า การเลือกเรียนเมืองใหญ่ เช่น มิวนิก ฮัมบูร์ก โคโลญ และแฟรงก์เฟิร์ต ส่วนใหญ่ที่พักมีราคาแพงกว่าเมืองอื่นๆ นอกจากนี้ ที่พักย่านใจกลางเมืองมักจะมีค่าเช่าที่พักจะสูงกว่าเขตชานเมือง
ตารางแสดงค่าเช่าอพาร์ทเม้นแบบ 1 ห้องนอน รายเดือนโดยเฉลี่ยของแต่ละเดือนในเยอรมนี
เมือง | ค่าที่พักเฉลี่ย | เมือง | ค่าที่พักเฉลี่ย |
Aachen | €534 | Dusseldorf | €672 |
Augsburg | €613 | Frankfurt | €868 |
Berlin | €795 | Hamburg | €838 |
Bochum | €406 | Hannover | €591 |
Bonn | €653 | Ingolstadt | €708 |
Bremen | €560 | Leipzig | €490 |
Cologne | €727 | Mainz | €668 |
Dortmund | €460 | Munich | €1,094 |
Dresden | €533 | Paderborn | €512 |
Essen | €451 | Stuttgart | €846 |
ค่าใช้จ่ายในด้านอุปโภค
นอกจากค่าเช่าที่อยู่อาศัยแล้วคุณจะต้องครอบคลุมค่าอุปโภคด้วย เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าเก็บขยะรายเดือน ปัจจุบันในเยอรมนีคุณจะต้องจ่าย €0.29 ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง (CT/kWh) โดยเฉลี่ยแล้วสำหรับอพาร์ทเมนต์ 42 ตร.ม. ค่าใช้จ่ายประมาณ €107 ต่อเดือน
ค่าอาหารและเครื่องดื่ม
ร้านอาหารราคาอาหารอาจแตกต่างกันระหว่าง 8 ถึง 14 ยูโร ตามด้วยของหวานหรือเครื่องดื่มใดๆ ราคาก็จะสูงขึ้นอย่างแน่นอน การเลือกรับประทานอาหารนอกบ้านเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ไม่ถนัดเข้าครัว แต่ควรเริ่มเรียนรู้วิธีการทำอาหารด้วยตัวเองดีกว่า เพราะการรับประทานอาหารที่ร้านอาหารเยอรมันจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด หากวางแผนที่จะประหยัดเงิน การทำอาหารรับประทานเอง อาจจะประหยัดค่าใช้จ่ายถึง €45 ต่อเดือน
นอกจากนี้ โดยปกติแล้วมหาวิทยาลัยจะมีโรงอาหารและร้านสะดวกซื้อรวมอยู่ในมหาวิทยาลัยด้วย ซึ่งมีอาหารรสเลิศมากมายในราคาประหยัด
- เบียร์ 1 ขวด – 3.50 ยูโร
- กาแฟคาปูชิ 1 แก้ว – 2.64 ยูโร
- น้ำดื่มขวด 0.33 ลิตร – 1.77 ยูโร
- ขนมปังครึ่งกิโลกรัม – 1.24 €
- นม 1 ลิตร – 0.71 €
- ไข่ไก่ 1 แผง – 1.64 €
- ข้าวสาร 1 กิโลกรัม – 2.03 €
- มันฝรั่ง 1 กิโลกรัม – 1.06 €
- ไก่ 1 กิโลกรัม – 7.53 €
- เนื้อ 1 กิโลกรัม – 11.65 €
- แอปเปิ้ล 1 กิโลกรัม – 2.22 €
- กล้วย 1 กิโลกรัม – 1.58 €
- ส้ม 1 กิโลกรัม – 2.29 €
ค่าเดินทาง และค่าโดยสารสาธารณะในเยอรมนี
การเดินทางเป็นสิ่งที่ต้องใช้เป็นประจำทุกวัน ดังนั้น ควรเลือกประเภทของขนส่งสาธารณะที่ตอบโจทย์กับการใช้งานให้มากที่สุด ซึ่ง ประเทศเยอรมนี เป็นประเทศที่มีระบบขนส่งสาธาณะยอดเยี่ยม และครอบคลุมทุกเส้นทาง ทั้งในเมือง และนอกเมือง ปัจจุบัน มีตั๋วเที่ยวเดียวสำหรับการเดินทางสาธารณะเฉลี่ย €2 ต่อเที่ยว นอกจากนี้ มีตั๋วเดินทางแบบรายเดือนซึ่งจะมีราคา €70 ซึ่งสามารถใช้บริการขนส่งสาธารณะครอบคลุมทุกรูปแบบในเมืองนั้น เช่น รถราง รถบัส และรถไฟ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ค่าใช้จ่ายระบบขนส่งสาธารณะ ครอบคลุมกับค่าลงทะเบียนเรียนเรียบร้อยแล้ว แต่จะครอบคลุมมากขนาดไหน ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละมหาวิทยาลัยที่ลงทะเบียนเรียน อย่างน้อยที่สุด จะครอบคลุมตั๋วรถบัสท้องถิ่น ของเมืองที่อาศัยอยู่
ค่าแท็กซี่เริ่มต้นโดยเฉลี่ยอยู่ที่ €3.50 แต่วิธีที่ดีที่สุดในการเดินทาง คือการใช้จักรยาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองที่มีผู้คนหนาแน่นในช่วงเวลาเร่งด่วน จักรยาน เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ในบรรดาตัวเลือกการเดินทางอื่นๆ เนื่องจาก สะดวก รวดเร็ว ไม่เสียค่าใช้จ่าย ที่สำคัญคือ มีเลนสำหรับปั่นจักรยานด้วย ปลอดภัย และสามารถกำหนดเวลาการเดินทางได้
ค่าบริการสุขภาพ และประกันสุขภาพ
สิ่งหนึ่งที่ต้องมีคือ ประกันสุขภาพ ตั้งแต่วันแรกที่เข้าประเทศ ซึ่งเป็นข้อบังคับสำหรับทุกคนในเยอรมนีจะเรียกเก็บค่าเบี้ยประกันที่ต่ำกว่า อัตราการจ่ายเงินที่คุณต้องจ่ายสำหรับแผนประกันสุขภาพของคุณ (GKV) ได้รับการควบคุมโดยรัฐบาล ปัจจุบันอัตราเบี้ยประกันภัยรายเดือนสำหรับแผนนี้อยู่ระหว่าง €70 ถึง €80 ต่อเดือน
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ
นอกเหนือจากความต้องการขั้นพื้นฐานที่กล่าวไปแล้วยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ต้องจ่ายในขณะเรียนและอาศัยอยู่ในเยอรมนี ตัวอย่างเช่น รองเท้าคู่ใหม่ หรือซื้อเสื้อผ้าใหม่ เพื่อปรับให้เข้ากับฤดูกาลใหม่ เนื่องจาก ชาวเยอรมัน ชื่นชอบแฟชั่นและการแต่งตัวไม่แพ้ฝรั่งเศส และอิตาลี่ การเปลี่ยนเสื้อผ้าคอลเลกชั่นใหม่ทุกฤดู เป็นเรื่องปกติของชาวเยอรมัน แต่อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับไลฟสไตล์ส่วนบุคคล
- กางเกงยีนส์ 1 ตัว – €77.26
- เสื้อผ้า 1 ชุด – €34.75
- รองเท้าผ้าใบ 1 คู่ – 81.17 €
- กระเป๋าหนัง หรือ รองเท้าหนังผู้ชาย 1 คู่ – 106.80 €
- ฟิตเนส รายเดือน – €29.93
- ค่าตั๋วชมภาพยนตร์ สำหรับ 1 ที่ – €12.00
ตัวอย่างประมาณการณ์ค่าครองชีพต่อเดือน ในประเทศเยอรมนี
รายการ |
ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเดือน |
ค่าที่พัก และค่าสาธารณูปโภค |
€450 – €650 |
ค่าอาหาร |
€220 – €316 |
ค่าโทรศัพท์ และอินเทอร์เน็ต | €30 – €55 |
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ส่วนตัว | €80 – €120 |
ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับขนส่งสาธารณะ |
€70 – €94 |
รวมค่าใช้จ่าย |
€850 – €1,235 |
|
|
หมายเหตุ:
- คำนวณอัตราแลกเปลี่ยน €1 มีค่าประมาณ 36 บาท
- ค่าใช้จ่ายข้างต้น เป็นการประมาณโดยค่าใช้จ่ายเฉลี่ยเท่านั้น น้องๆ อาจประหยัดค่าใช้จ่ายโดยการเลือกที่พักที่ราคาถูกกว่า หรือประหยัดค่าอาหารหากทำอาหารรับประทานเอง
ประเทศเยอรมนีเมืองไหน มีค่าครองชีพแพงที่สุด?
โดยทั่วไปทางตอนใต้ของเยอรมนีเป็นพื้นที่ที่แพงที่สุดในการอาศัยอยู่ในเยอรมนี เมืองที่ใหญ่ที่สุดสองแห่งในทางตอนใต้ของประเทศคือ มิวนิก และชตุทท์การ์ท เป็นเมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในเยอรมนี การเช่าอพาร์ทเมนต์แบบหนึ่งห้องนอนในสตุ๊ตการ์ท มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย €846 ในขณะที่อพาร์ทเมนต์ที่คล้ายกันในเมืองเบรเมนทางตอนเหนือของเยอรมันมีราคา €560 ต่อเดือน
แต่เมืองหลวงเบอร์ลิน ค่าครองชีพไม่แพงนักเมื่อเทียบกับเมืองหลวงในยุโรปส่วนใหญ่หรือเมืองใหญ่ที่สุดในเยอรมัน ค่าเช่าที่อยู่อาศัย อพาร์ทเมนต์แบบ 1 ห้องนอน ในเบอร์ลิน เฉลี่ยอยู่ที่ €795 ต่อเดือน นอกจากนี้เมืองอื่นๆ รอบเบอร์ลินทางตะวันออกของเยอรมนีส่วนใหญ่ถูกกว่าเมืองทางตอนใต้
ตัวอย่างค่าครองชีพของแต่ละเมืองสำคัญ
รายการ | มิวนิก | เบอร์ลิน | ฮัมบรูก | แฟรงค์เฟิร์ต |
ค่าเช่า | €1,094.30 | €795.90 | €838.94 | €868.91 |
ค่าขนมปัง 1 กิโลกรัม | €1.43 | €1.27 | €1.27 | €1.29€ |
ค่าอาหาร 1 มื้อ | €12.25 | €8.00 | €10 | €12 |
นม 1 ลิตร | €0.84 | €0.79 | €0.71 | €0.77 |
ไข่ไก่ 1 แผง | €1.71 | €1.77 | €1.78 | €1.61 |
ข้าว 1 กิโลกรัม | €2.14 | €1.79 | €2.15 | €1.97 |
มะเขือเทศ 1 กิโลกรัม | €2.82 | €2.62 | €2.61 | €2.64 |
มันฝรั่ง 1 กิโลกรัม | €1.00 | €1.32 | €1.04 | €1.29 |
เบียร 1 ขวด | €3.80 | €3.50 | €4.00 | €4.00 |
ค่าแท็กซี่ 1 กิโลเมตร | €1.90 | €2.00 | €2.00 | €2.00 |
จากตาราง ทางตอนใต้ของเยอรมนีเป็นพื้นที่ที่แพงที่สุดในการอาศัยอยู่ในเยอรมนี ในขณะที่ทางตะวันออกเป็นพื้นที่ที่ถูกที่สุดในประเทศ การเรียงลำดับจากราคาแพงที่สุดไปยังรายการที่ถูกที่สุดจะมีลักษณะดังนี้:
- เยอรมนีใต้
- เยอรมนีตะวันตก
- เยอรมนีเหนือ
- เยอรมนีตะวันออก
เรียนต่อเยอรมัน 1 ปี จะต้องแสดงหลักฐานทางการเงินขั้นต่ำเท่าไหร่?
การแสดงเอกสารทางการเงิน สำหรัขอวีซ่าเพื่อเรียนต่อประเทศเยอรมนีระยะยาว (National Visa) แตกต่างจากประเทศอื่นๆ เนื่องจาก จะต้องเปิดบัญชีธนาคาร Blocked Account ทันทีที่คุณได้รับจดหมายตอบรับเข้ามหาวิทยาลัย เพื่อเป็นที่จะสามารถพิสูจน์ได้ว่าคุณมีหลักฐานทางการเงินเพียงพออย่างน้อยในช่วงปีแรกของการศึกษาในเยอรมนี โดยจำนวนเงินบังคับที่สถานทูตกำหนดให้ต้องฝากเข้าบัญชีธนาคาร Blocked Account คือ €10,236 (ประมาณ 378,732 บาท) เมื่อนักเรียนเริ่มภาคการศึกษาแรกในเยอรมนี จะสามารถถอนได้จำนวน €853 (ประมาณ 31,561 บาท) ต่อเดือน ซึ่งถือว่าแสดงหลักฐานทางการเงินน้อยกว่าประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกา และแคนาดาอย่างมาก
คลิก เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัญชี Blocked Account
เรียนต่อเยอรมัน สามารถทำงานพาร์ทไทม์ได้หรือไม่?
นักศึกษาต่างชาตินอกประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป Non-EU Nationals ได้รับอนุญาตให้ทำงานระหว่างเรียน 120 วันเต็ม (Full Day) หรือ 240 ครึ่งวัน (Half Day) ต่อปี การหางานพิเศษ อาจหาได้จากป้ายประกาศในมหาวิทยาลัยหรือตามที่ต่างๆ ที่เรียกว่า Schwarzes Brett หรือในประกาศหางานในเวบไซต์ ในเมืองใหญ่ อาจมีการแข่งขันในการหางานสูงกว่าเมืองเล็ก ค่าจ้างงานมักจะขึ้นอยู่กับหน้าที่ในการทำงานและค่าครองชีพของแต่ละเมือง
นอกจากนี้ นักศึกษาที่มีความสามารถในการสื่อสารภาษาเยอรมัน มีโอกาสได้งานและเลือกงานได้มากกว่านักศึกษาที่พูดได้เพียงภาษาอังกฤษ เพราะงานที่ต้องมีการติดต่อสื่อสารกับผู้คน ความรู้ภาษาเยอรมันเป็นสิ่งจำเป็น เช่น งานบริการในร้านอาหาร ในร้านขายของ เลี้ยงเด็ก ผู้ช่วยในสำนักงาน เป็นต้น นักศึกษาที่ยังสื่อสารภาษาเยอรมันได้ไม่คล่องนัก อาจหางานประเภทอื่น ๆ ได้ เช่น ผู้ช่วยในร้านอาหาร เป็นต้น
ค่าแรงขั้นต่ำประเทศเยอรมนีประมาณ €9.35 (ประมาณ 347 บาท) ต่อชั่วโมง
อัพเดท 1 มกราคม 2563
คลิก เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำงานระหว่างเรียน ที่ประเทศเยอรมนี
สามารถอยู่ทำงานหลังเรียนจบที่เยอรมนีได้ไหม?
ผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สามารถอยู่ในเยอรมนีเพื่อหางานทำได้หลังเรียนจบ โดยสามารถยื่นขออยู่ต่อได้สูงสุด 18 เดือน หลังสำเร็จการศึกษา ด้วยวีซ่าทำงานหลังเรียนจบ Post-Study Work Visa และหากได้งานทำที่ตรงสายภายในระยะเวลา 18 เดือน ก้จะสามารถขอวีซ่าทำงาน หรือ EU-Blue Card ซึ่งเป็นใบอนุญาตทำงานที่รับรองจาก 25 ใน 28 ประเทศของสมาชิกสหภาพยุโรป โดยจะ
- สามารถทำงานและรับเงินเดือนในอัตราเดียวกันกับคนในยุโรป
- ได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ทั้งทางเศรษฐกิจและสวัสดิการสังคม
- มีโอกาสขอเป็นผู้อยู่อาศัยถาวร (Permanent Residence) เมื่อทำงานเป็นระยะเวลา 5 ปี
เป็นอย่างไรบ้างคะ กับค่าครองชีพที่เยอรมนี อาจจะดูเหมือนค่าครองชีพสูง แต่อย่าลืมนะคะ ว่า เรียนปริญญาตรีในระดับอุดมศึกษา ไม่มีค่าใช้จ่าย เรียนฟรี ทั้งปริญญาตรี และปริญญาโท สนใจอยากเรียนต่อเยอรมนี เรียนภาษา เรียนปริญญาตรี เรียนปริญญาโท ที่เยอรมนี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับทางเดอะเบสท์ได้เลยค่ะ
ติดต่อเดอะเบสท์เพื่อสอบถามข้อมูลการเรียนต่อต่างประเทศเพิ่มเติม
เดอะเบสท์ เป็นศูนย์บริการให้คำปรึกษาเรียนต่อต่างประเทศครบวงจร เราเป็นตัวแทนที่ให้บริการแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และ ประเทศอื่นๆ อีก 25 ประเทศทั่วโลก เรายินดีให้ความช่วยเหลือตั้งแต่เริ่มสมัครเรียน จนสำเร็จการศึกษา รวมถึงดูแลนักเรียนระหว่างเรียนจนนักเรียนเรียนจบด้วยทีมผู้เชียวชาญในด้านการเรียนต่อต่างประเทศ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ขั้นตอนเหล่านี้เราดำเนินการให้ฟรี และเราพร้อมที่จะทำตามคุณภาพ และมาตรฐานดังสโลแกนที่ว่า “We are Quality”
บริการของเรามีอะไรบ้าง ?
- ฟรี!! บริการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเรียนต่อต่างประเทศทุกระดับชั้นทั่วโลก ตั้งแต่ โรงเรียนประถม โรงเรียนมัธยม สถาบันวิชาชีพ และสถาบันในระดับอุดมศึกษา รวมถึงหลักสูตรภาษาต่างประเทศ และเลือกสถาบันที่ดีที่สุดให้กับผู้เรียน
- เราให้ความช่วยเหลือตั้งแต่การประสานงานโรงเรียน เลือกโรงเรียนให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียน เตรียมเอกสารสมัครเรียน และดำเนินเรื่องสมัครเรียนให้ฟรี
- บริการเตรียมเอกสารยื่นวีซ่าครบวงจร และบริการยื่นวีซ่ากว่า 25 ประเทศทั่วโลก พร้อมวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าอย่างตรงจุด และแนะนำวิธีการเตรียมตัวในการสัมภาษณ์วีซ่า
- บริการแปลเอกสาร ภาษาไทย – ภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาอังกฤษ – ภาษาไทย รวมถึงภาษาที่ 3 เริ่มต้นเพียงแผ่นละ 200 บาท
- เดอะเบสท์ เป็นตัวแทนรับสมัครสอบ IELTS IDP อย่างเป็นทางการ พร้อมให้คำแนะนำ และนัดวันสอบให้โดยน้องๆ ไม่ต้องเสียเวลาสมัครเอง สมัครสอบได้ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
- บริการซื้อประกันภัยการเดินทางและประกันสุขภาพนักเรียนต่างชาติ จากบริษัทประกันชั้นนำ MSIG, NIB, Allianz, Orbit และอื่นๆ
- บริการจองตั๋วเครื่องบิน ทุกสายการบิน และประสานงานกับสถาบันเกี่ยวกับรถรับ – ส่ง สนามบิน
- บริการจัดหาที่พักทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นโฮมสเตย์ อพาร์ทเม้น หรือหอพักนักศึกษา จัดหาให้ตามความต้องการส่วนบุคคล
“เรายินดีที่จะดูแลนักเรียนทุกคน ตั้งแต่เริ่มต้นจนนักเรียนสำเร็จการศึกษา และทำให้การเรียนต่อของคุณเป็นเรื่องง่าย ” สอบถามข้อมูลการบริการเพิ่มเติมติดต่อ
โทร : 090-327 3558, 088-269 5099
Email :contact@thebest-edu.com
Line : @thebestedu หรือคลิกเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ
2 ความเห็น
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.