สารบัญบทความ
Tokyo International University
Tokyo International University (TIU) มหาวิทยาลัยนานาชาติโตเกียว ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1965 เป็นมหาวิทยาลัยที่ประกอบด้วย 5 คณะ 4 สาขาวิจัย ในจำนวนนักศึกษา 6,200 คน มีนักศึกษาชาวต่างชาติกว่า 650 คน จาก 60 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ มหาวิทยาลัย Tokyo International University ได้เปิดหลักสูตรนานาชาติ หรือ E – Track Program ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ใช้ภาษาอังกฤษในการเรียนการสอน และเป็นหลักสูตรที่นิยมอย่างมาก ของนักศึกษาต่างชาติ
จุดเด่นของมหาวิทยาลัย TIU
- เป็นมหาวิทยาลัยที่อยู่ในอั
นดับที่ 9 ของมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดใ นญี่ปุ่น (จากนิตยาสาร Times Higher Education JP 2018) - ห้องเรียนทันสมัย เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เอื้ออำนวยต่อการเรียน
- สภาพแวดล้อมมีความหลากหลาย มีการผสมผสานความเป็นสากลเข้ากับวัฒนธรรมญี่ปุ่นได้อย่
างลงตัว - ชั้นเรียนขนาดเล็ก อาจารย์ผู้สอนสามารถให้คำปรึกษาได้แบบตัว
ต่อตัว - ได้เรียนภาษาญี่ปุ่นด้วย เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำงานใ
นอนาคต - วุฒิการศึกษานานาชาติ ได้รับการยอมรับทั่วโลก
- เดินทางสะดวกสบาย ด้วยระบบขนส่งอัจฉริยะ ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคในญี
่ปุ่น
วิทยาเขตของ TIU
Tokyo International University ตั้งอยู่ในเขต Kawagoe เขตชานเมืองของโตเกียว บรรยากาศเงียบสงบ ปลอดภัย เหมาะสำหรับการศึกษา และทำเลสามารถเดินทางสะดวกสบายจากใจกลางเมืองได้โดยรถไฟฟ้าเพียง 35 นาที
- Campus 1 1-13-1 Matoba-Kita, Kawagoe-shi, Saitama, 350-1197
- Campus 2 2509 Matoba, Kawagoe-shi, Saitama, 350-1198
- Sakado Campus 81-1 Yokkaichiba, Sakado City, Saitama, 350-0245
- Tokyo International University of America (TIUA) 1300 Mill Street S.E., Salem, OR 97301, U.S.A
[New!!] TIU Ikebukuro Campus
มหาวิทยาลัย TIU ได้ทำการขยายวิทยาเขตใหม่ในเมือง Ikebukuro ซึ่งเป็นวิทยาเขต ที่อยู่ติดกับกรุงโตเกียวเลย เดินทางอย่างง่ายโดยรถไฟ JR จากสถานีรถไฟนิปโปริ เพียง 13 นาที เดินทางเข้าย่านชินจูกุ หรือย่านธุรกิจและท่องเที่ยวขนาดใหญ่ของกรุงโตเกียวเพียง 26 นาที เรียกได้ว่า TIU วิทยาเขตที่อยู่ติดกับย่านท่องเที่ยว และย่านธุรกิจมากที่สุด โดย TIU วิทยาเขต Ikebukuro จะเปิดทำการภายในเดือนกันยายน 2023 สามารถดู ตัวอย่างภาพวิทยาเขตแบบ 3D ได้ที่ VDO ดังนี้
ทำไมต้องไปเรียนต่อปริญญาตรีที่ญี่ปุ่น ?
ประเทศญี่ปุ่นได้ชื่อว่าประเทศแห่งนวัตกรรมใหม่ๆ มีสิ่งประดิษฐ์ที่มีชื่อเสียง มีหุ่นยนต์สมองกล รวมถึงยังเป็นอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกซ์ นอกจากนี้ ยังเป็นประเทศที่ผลิตยานยนต์ และส่งออกมากเป็นอันดับ 3 ของโลก ที่ผ่านมา ประเทศญี่ปุ่นมีผู้ได้รับรางวัลโนเบลมากที่สุดในเอเชียอีกด้วย
นอกจากนี้ ประเทศญี่ปุ่น ยังมีประวัติศาสตร์มากมายที่ชวนให้ศึกษา ทั้งสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ วัฒนธรรม อาหาร ที่เป็นที่นิยมทั่วโลก ทำให้ประเทศญี่ปุ่น เป็นจุดหมายปลายทางแก่นักเรียน/นักศึกษา นักท่องเที่ยว และนักลงทุนต่างชาติจำนวนมาก
ค่าครองชีพประเทศญี่ปุ่นแพงไหม ?
ประเทศญี่ปุ่น ติด 1 ใน 10 ประเทศที่ค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก เนื่องจากเป็นประเทศที่มีลักษณะเป็นเกาะ จึงทำให้การนำเข้า – ส่งออกสินค้า มีราคาแพง แต่ถึงแม้ค่าครองชีพที่ประเทศญี่ปุ่นจะค่อนข้างแพง แต่ระบบเศรษฐกิจก็ดีมากเช่นกัน โดยประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก รองจาก สหรัฐอเมริกา และประเทศจีน มีบริษัท IT ชั้นนำ เข้ามาลงทุนในประเทศญี่ปุ่นจำนวนมาก ปัจจุบัน ประเทศญี่ปุ่นได้ผลิตยานยนต์มากเป็นอันดับ 3 ของโลก และยังมีอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดของโลกอีกด้วย ซึ่งเป็นข้อดี สำหรับผู้ที่สำเร็จการศึกษา เนื่องจากจะได้ก้าวเข้าสู่ตลาดแรงงานระดับโลก
ค่าครองชีพในกรุงโตเกียว มีความหลากหลาย ถ้าหากนักศึกษาเลือกพักโซนในเมือง จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ ¥95,000 – ¥140,000 ต่อเดือน หรือ (ประมาณ 27,000 บาท – 39,900 บาท) แต่เนื่องจากมหาวิทยาลัย TIU อยู่ในเขต จังหวัดไซตามะ ซึ่งจะอยู่ห่างจากกรุงโตเกียวออกไปประมาณ 30 กิโลเมตร ถ้าหากนักศึกษาเลือกที่พักในจังหวัดนี้ จะมีค่าใช้จ่ายถูกลง ประมาณ 15,000 บาท – 25,000 บาทต่อเดือน หรือถูกกว่าพักโซนในเมืองประมาณ 30% ที่สำคัญ อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัย TIU และสามารถเดินได้โดยการเดิน
ประมาณการค่าครองชีพในญี่ปุ่น
การเลือกที่พักขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ส่วนตัวของนักศึกษา แน่นอนว่าที่พักในกลางกรุงโตเกียว มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แต่อาจจะแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่แพง และการเดินทางที่ไกล แต่ถ้าหากอยากประหยัดค่าใช้จ่าย นักศึกษาอาจจะเลือกที่พักใกล้กับมหาวิทยาลัย และเดินทางมาท่องเที่ยวในใจกลางกรุงโตเกียวช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ได้ เพราะการเดินทางในญี่ปุ่นสะดวกสบาย รถไฟฟ้าความเร็วสูงครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคในประเทศญี่ปุ่น
เรียนต่อญี่ปุ่นสามารถทำงานพาร์ททามได้ 28 ชั่วโมง ต่อสัปดาห์
ส่วนมากแล้ว นักศึกษาต่างชาติ จะทำงานพิเศษระหว่างเรียน งานที่นิยมมากที่สุดคืองานคืองานในร้านอาหาร งานขายสินค้า งานผู้ช่วยสอน/
ค่าแรงรายชั่วโมงจะแตกต่างกันไปตามภูมิภาคและประเภทของ
ทั้งนี้การทำงานพิเศษนั้นจะ
- เป็นการทำงานที่ไม่เป็นอุปส
รรคต่อกิจกรรมการเรียน เพราะถ้าหากขาดเรียนเพื่อมา ทำงานพิเศษ จะมีผลต่อการต่อวีซ่าในครั้ งต่อไปด้วย - เป็นการทำงานพิเศษเพื่อจุดป
ระสงค์ในการหารายได้มาช่วยเ สริมค่าใช้จ่ายทางการศึกษา หรือค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอื่ น ๆ ในระหว่างศึกษาอยู่ในญี่ปุ่ น - งานที่ทำต้องไม่เป็นงานที่ผิดกฎหมายหรือศีลธรรม ประเพณีที่ดีงาม
- จำนวนชั่วโมงที่สามารถทำได้
จะถูกกำหนดไว้แล้วคือ ไม่เกิน 28 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
ผู้ที่เข้าประเทศญี่ปุ่นใหม
ทั้งนี้ การขอวีซ่าจะต้องดำเนินการม
การออกใบอนุญาตทำงาน: http://japan.mol.go.th/
licensing_work
ทำความรู้จักกับหลักสูตรปริญญาตรีอินเตอร์ E-Track Program มหาวิทยาลัย TIU
หลักสูตร E-Track Program เป็นหลักสูตรที่สอนเป็นภาษาอังกฤษ โดยอาจารย์ที่มากประสบการณ์จากทั่วโลก ดังนั้น ผู้เรียนไม่จำเป็นต้องมีทักษะภาษาญี่ปุ่น ระยะเวลาหลักสูตร 4 ปี โดยค่าใช้จ่ายที่ไม่สูง นอกจากนี้ ทางมหาวิทยาลัย TIU ยังมอบทุนการศึกษา ให้ทุกภาคการศึกษา มูลค่า 30% – 100% โดยมอบทุนการศึกษาให้ทุกปี ตลอดจนจบการศึกษา
จุดเด่นของหลักสูตร E-Track ของมหาวิทยาลัย TIU
- ใช้ภาษาอังกฤษ ในการเรียนการสอน ดังนั้น นักศึกษาทุกคน ไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่น
- คุณสมบัติไม่สูง ใช้คะแนน IELTS 5.5 หรือ TOEIC 700 คะแนนขึ้นไป
- ค่าใช้จ่ายในการเรียนไม่สูง โดยค่าใช้จ่ายต่อปีในการเรียนหลักสูตร E-Track ของมหาวิทยาลัย TIU ประมาณ 260,000 บาท
- นอกจากนี้ยังมอบทุนการศึกษาให้สูงสุด 100% เพียงเขียนเรียงความ 500 คำ นอกจากนี้ ยังสามารถขอทุนการศึกษาจากรัฐบาลญี่ปุ่น Jasso ได้อีกด้วย
- ได้เรียนภาษาญี่ปุ่นด้วย ซึ่งคุณจะได้เปรียบ และได้โอกาสมากกว่าคนอื่น สำหรับการหางานทำในอนาคต
หลักสูตร E-Track Program ของมหาวิทยาลัย TIU เรียนอะไรบ้าง ?
วิชาพื้นฐานที่จะต้องเรียนทุกคน
หลักสูตร E-Track Program ของมหาวิทยาลัย TIU จะมุ่งเน้นการพัฒนาความรู้ขั้นพื้นฐาน ทางด้านวิชาการ แล้วพัฒนาเป็นความรู้เฉพาะด้าน โดย ทุกคน จะต้องเข้าเรียนหลักสูตรปรับพื้นฐานในปีแรก ซึ่งหลักสูตรเหล่านี้ จะช่วยส่งเสริมทักษะการเรียนในระดับที่สูงขึ้น โดย นักศึกษาจะต้องเลือกลงเรียนหลักสูตรปรับพื้นฐานให้สอดคล้องกับสาขาวิชาหลักที่เลือกเรียน ตามจำนวนหน่วยกิตที่กำหนดไว้
Academic Literacy
เป็นบทเรียนที่ช่วยพัฒนาทักษะการเขียน และการใช้ภาษา การหยิบยกแนวคิดมาเขียนรายงานทางวิชาการ วิทยานิพนธ์ ต่างๆ รวมถึง การอ่าน และการคิดเชิงตรรกะ โดยจะประกอบด้วย 4 วิชา ดังนี้
- Academic Composition I
- Academic Composition II
- Analytical Reading and Thinking
- Public Speaking
Liberal Arts
หรือวิชาศิลปศาสตร์ บทเรียนนี้ จะเป็นบทเรียนที่รวมแขนงวิชาศิลปศาสตร์ ในหลากหลายสาขา รวมถึง มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และ วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ โดยมีสาขาวิชาดังต่อไปนี้ ให้เลือกเรียนตามโครงสร้างหลักสูตร
- Fundamentals of Mathematics
- Introduction to Anthropology
- Introduction to Art
- Introduction to Environmental Studies
- Introduction to Exercise Science
- Introduction to International Relations
- Introduction to Philosophy
- Introduction to Psychology
- Introduction to Social Psychology
- Introduction to Sociology
- IT Literacy
- Principles of Economics
- Principles of Management
- Principles of Political Science
- Statistics I
- Sustainable Society
- World Economy
- Topics in Liberal Arts